ความคิดเห็นที่ 1 คิดว่าแล้วแต่บุคคลนั้นๆ ครับ..... งานวิจัย และ ความรู้ มันต้องไปด้วยกัน ยิ่งทำวิจัยมาก ยิ่งศึกษามาก ยิ่งอ่านมาก ผลงานยิ่งโดดเด่น ผลดีก็ตกกับเราๆ ท่านๆ ได้อ่านงานวิจัยและตำราที่มีคุณภาพ มีข้อมูลในเชิงลึก...... จากคุณ : lermylene (lermylene) เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 15:13:26

ความคิดเห็นที่ 2 การเป็น ศ. หรือ ดร. ไม่ใช่ปัจจัยที่จะชี้ขาดว่าใครเก่งกว่ากันครับ และการเป็น ดร. หรือ ศ. ของแต่ละคนมันก็ไม่ได้เหมือนเป็นมาตรฐานเดียวกัน แต่ถ้าจะถามว่า ใครจะมีแนวโน้มได้รับการยอมรับมากกว่ากัน คำตอบมันก็น่าจะอยู่ในคำถามแล้วครับ ปล. อาจารย์ที่สอนผมบางคนไม่มีฐานะทางวิชาการแต่ดูเขาเก่งมากกว่า ดร. หลายๆ คนเสียอีก จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 15:13:37

ความคิดเห็นที่ 3 อาจารย์บางคน ใช้ นศ. ป.โท แปลหนังสือ เขียนหนังสือให้ แล้วก็เอาไปยื่นขอ ศ. ยังมีเลยครับ (ผมเจอมากับตัว) เจริญจริงๆ ไทยแลนด์ จากคุณ : lunaticmachine เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 15:18:14

ความคิดเห็นที่ 4 เดี๋ยวนี้ ป. เอกจบง่ายมาก ขอให้มีตังค์ค่าเทอม มีเวลา สายวิทย์บางสายก็จบง่ายโคตร แต่บางคนก็จบยากมาก การเรียนบัณฑิตนั้นอาจารย์ที่ปรึกษาสำคัญที่สุด  ส่วนการเป็น ศ. ธรรมดา ๆ ทั่ว ๆ ไป ไม่ใช่ ศ. พิเศษ ศ. เกียรติคุณ ก็ขึ้นอยู่กะการนำเสนอผลงานของตัวเองว่าจะผ่านเกณฑ์การเป็น ศ. ไหม ถ้าคุณโคตรเก่ง แต่ไม่ดิ้นรนด้วยตัวเองส่งงานให้พิจารณาก็ไม่ได้เป็น ศ. หรอก เพราะไม่มีใครจะให้ตำแหน่ง ศ. แก่คุณ มันไม่เหมือนปริญญากิตติมศักดิ์ ที่คนเก่ง ๆ ในสาขาวิชาชีพที่มหาวิทยาลัยเห็นคุณค่าว่าสมควรแก่ปริญญาของมหาวิทยาลัย ดังนั้น ศ. ไม่ได้เก่งที่สุด และ ศ. ดร. ก็ไม่ได้เก่งกว่า ศ. ไม่มี ดร. หรือ ศ. ไม่มี ดร. ก็ไม่ได้เก่งกว่า ศ. มี ดร. และที่สำคัญ ตำแหน่ง ศ. เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ส่วน ดร. เป็นแค่คำบอกวุฒิการศึกษา ไม่ได้มีเกียรติอะไร ใครใส่ ดร. นำหน้า เราหล่ะขำ มองว่าเขาช่างเอาอะไรมาโปะพะรุงพะรัง เช่น พระมหา ดร. xxxx  เป็นต้น ลองดูของมหาลัยอื่น ๆ เขาจะใช้แค่ Professor พอจะเทียบได้กะ ศ. แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 54 15:27:21 จากคุณ : ช่างต่อเรือฯ เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 15:25:47

ความคิดเห็นที่ 5 ลองไปเสิร์ชในเวบต่างประเทศ ตัวอย่างของมหาวิทยาลัยเยล สาขาชีววิทยาของเซลล์  เขาก็ไม่นิยมใส่ ดร. ตามตำแหน่งเลย เช่น Hashimoto, Carl, Professor of Cell Biology ถ้าประเทศไทยต้องใส่ว่า ศ. ดร.Carl Hashimoto (http://www.cellbiology.yale.edu/people/index.aspx) แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 54 15:41:52 จากคุณ : ช่างต่อเรือฯ เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 15:41:27

ความคิดเห็นที่ 6 อย่าลืมนะครับ ว่าบ้านเรามันระบบไหน คนเก่งๆ หลายคนก็ไม่ได้ ศ. นะ กับคนเก่งในการทำวิจัยให้ "ถูกใจ" ก็ได้ ศ. มาอย่างง่ายดาย ว่าแต่ว่า อยากให้มีเว็ป หรือหน่วยงานที่เปิดเผยนะครับ ว่าใครขอ ศ. ด้วยงานวิจัยอะไร หนังสือเล่มไหน คงสนุกดีพิลึก จากคุณ : outsider_from_within เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 15:42:00

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้า ณ ปัจจุับัน ผมก็คงต้องบอกว่า คนที่เป็น ศ. โดยไม่ได้เป็น ดร. (ไม่จบเอก) เก่งกว่าครับ เพราะระบบต่าง ๆ มันเอื้อกับคนที่จบเอก (มีดร. นำหน้าชื่อ) เหลือเกิน คนที่ไม่จบเอก แล้วไต่เต้าขึ้นจาก อ. เป็น ผศ. เป็น รศ. จนกระทั่งเป็น ศ. นี่ต้องสุดยอดจริง ๆ ปล. ลองคิดดู จบเอกใหม่ ๆ เป็น อ. ดร. สามารถคุมวิทยานิพนธ์ได้ทั้งป. โท และ ป. เอก แต่ คนไม่จบเอก เป็น รศ. เฉย ๆ ไม่มีดร. นำหน้า คุมวิทยานิพนธ์ ป. โทได้อย่างเดียว แต่ป. เอก คุมไม่ได้ จากคุณ : star_seeker เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 15:55:52

ความคิดเห็นที่ 9 หลายคนในห้องนี้ก็ช่วยเพื่อนผมจบเอกนะครับ เฮือกสุดท้ายก่อนหมดเวลาเลยละ จากคุณ : บาบูน เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 16:37:37 A:113.53.190.12 X: TicketID:027291

ความคิดเห็นที่ 10 เหนื่อยใจกับบางความเห็นที่ชอบตอบกระทู้ แล้วมาเสียดสีทางการเมือง ปีใหม่แล้ว เลิกเถอะ.... จากคุณ : kunzwut เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 16:53:45

ความคิดเห็นที่ 11 แล้วความเก่งเค้าวัดกันที่ตรงไหนอ่ะ เก่งเรื่องอะไร  แต่ละคน เก่งในบางเรื่อง และไม่เก่งในบางเรื่อง  น่ะครับ จากคุณ : RaK_Dek เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 17:01:20

ความคิดเห็นที่ 12 จบดร. ได้ ไม่มีคำว่าจบง่ายจบยากหรอกครับ ถ้าของเค้าจบง่าย ทำไมไม่ไปเรียนสาขาเค้าล่ะครับ อย่างน้อยก็ต้องเชื่อได้ว่า เค้าค้นพบสิ่งใหม่ๆ แน่ๆ จะเล็กน้อยจะยิ่งใหญ่ ก็ตาม เวลาแค่ 3-4 ปี รวมชั่วโมงเรียนด้วย บางครั้งต้องอาศัยโชคเหมือนกันนะ ถึงจะทำวิจัยจบได้ ศ.ดร. กับ ศ. ถ้าสาขาเดียวกัน ผมคิดว่าไม่แตกต่างกันหรอกครับ จากคุณ : คนมาบแค เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 18:05:53

ความคิดเห็นที่ 13 พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร  ตานี่จบนอกทุน กพ.ไม่ใช่เรอะ ส่วนอีกคนถ้าส่งลูกๆไปเรียนนอกซัก 20-30 ปีจะเป็นพระคุณอย่างสูง จากคุณ : ZXR เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 18:17:42

ความคิดเห็นที่ 14 จะเข้าการเมืองกันเพื่อ....????? จากคุณ : aekerteam เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 18:57:14

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องจริงมีอยู่ว่า  .... - มีหน่วยงานรัฐบาลแห่งหนึ่ง มีบุคลากรจบ ดร. (แน่นอนนักเรียนทุนล้วน  ๆ ) ในฝ่ายนี้ประมาณ 14 คน (ฝ่ายนี้วุฒิต่ำสุด ป.โท ที่รอคิวรับทุนไปต่อเอก)   เมื่องานระดับชาติมีปัญหา เขาจึงเชิญอาจารย์มหาวิทยาลัยตำแหน่ง รศ. วุฒิ ป.โท เข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้กับหน่วยงานนี้ อยู่ 2 ปี - เคยสอบถามคนที่เขาจบโท 4 ใบ ว่าทำใมไม่ทำ Phd. สักใบ เขาบอกว่าแค่ได้เรียนได้รู้ เพื่อสนองความอยากรู้ของตัวเองก็พอแล้ว เรื่องอื่นหาใช่สาระไม่ ดังนี้น วุฒิสูงสุด ตำแหน่งทางวิชาการสูงสูด ก็ต้องพิสูจน์ด้วยผลงาน จึงจะเจ๋งสุด ๆ คะ จากคุณ : จินดาหรา เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 19:02:28

ความคิดเห็นที่ 16 เฮ้ยๆ ผมว่า ทักษิณเก่งนะ ถ้าตัดอคติออกไป ผมว่าแกใช้ได้ ส่วนเป็ดเหลืม อันนี้ว่ากันไป จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 19:12:38

ความคิดเห็นที่ 17 จริงๆแล้ว ความเห็นของผมที่่ถามเรื่องนี้หมายถึง อยากทราบว่าจริงๆ แล้วการที่เราเรียน ป.เอก ก็เพื่อหาคนช่วย ชี้แนะในเรื่องที่เราไม่รู้ (หมายถึงอาจารย์ที่ปรึกษา)อย่างเช่น งานวิจัย อะไรพวกนี้ใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้น คนที่เรียน ป.เอกก็จะได้พื้นฐานพวกนี้มา แต่กับคนที่เรียนจบแค่ ป.ตรี หรือ โท หรือ ไม่จบอะไรเลย แต่ถ้าเขาสามารถทำตัวเองให้เป็น ศ. ได้โดยไม่ต้องมีใครชี้นำ แบบนี้หมายถึงเขามีความเก่งกว่า ศ.ดร. ใช่หรือไม่ครับ (ไม่ได้วัดกันว่าสุดท้ายงานวิจัยใครจะเป็นอย่างไร) ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป้นอาจารย์ในสมัยดึกดำบรรพ์ คนที่สามารถเป้นอาจารย์ของผู้อื่นได้โดยที่ไม่มีใครสอน คือเรียนรู้ด้วยตัวเองจะถือว่าเก่ง กว่าลูกศิษย์ ที่มาขอความรู้ ใช่หรือไม่ แม้ในสุดท้ายแล้วลูกศิษย์อาจจะก้าวล้ำหน้ามากกว่าอาจารย์ไปก็ตาม (นั่นก็เพราะส่วนหนึ่งได้คำชี้แนะจากอาจารย์ด้วยนั่นเอง) จากคุณ : โรแมนติคโครตพิศดาร เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 19:15:51

ความคิดเห็นที่ 18 ขาวนาทำงานเก่งกว่า Dr. ในสถาบันการศึกษา ไม่เห็นใครให้ Dr. ไปใช้เลย จากคุณ : 7-Scene เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 19:18:15

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ ^ ชาวนาที่มีคนยกย่องมากกว่า ดร. คุณลุงคำเดื่อง ภาษี จากคุณ : น้องจุ่น เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 19:37:39

ความคิดเห็นที่ 20 ^^^^^ เมื่อพบชาวนาเก่งกว่าดอกเตอร์ ดอกเตอร์จะตามไปให้ปริญญาชาวนา เพื่อให้ชาวนากลายเป็นดอกเตอร์ และทีนี้ ก็ไม่มีใครเก่งกว่าดอกเตอร์อีก ชั่วกาลนาน จากคุณ : ข้าพเจ้า เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 19:58:05 A:192.168.200.189 X:118.173.103.43 TicketID:295916

ความคิดเห็นที่ 21 เท่าที่รู้จักและทำงานกับ ศ.ดร. ฟิสิกส์ 1 คน วิศวะเครื่องกล 2 คน วิศวะโยธา 1 คน แพทย์ 1 คน พลังงาน 3 คน สถาปัตย์ 1 คน สังคมวิทยา 1 คน สำหรับอิฉนคิดว่า ศ.ดร. เก่งเท่ากัน โดยแต่ละคนเก่งในทางของตนเอง มีลักษณะเฉพาะตัวไม่เหมือนกันเลย แม้ว่าจะเป็นสาขาเดียวกันหรือใกล้เคียงกันตาม สิ่งที่เหมือนกันที่อิฉันคนเล็ก ๆ สัมผัสได้ คือ ทุกคนทำทั้งเรื่องยากให้ง่าย ทำเรื่องลึกซึ้งให้เป็นเรื่องพื้นฐาน และทำให้ทางตรงข้ามได้ คือง่ายทำให้ยาก พื้นฐานทำให้ลึกซึ้งกว้างขวางได้   ส่วน ศ. (ที่ไม่มี ดร.)เคยได้ยินชื่ออยู่ท่านนึง แต่ไม่เคยร่วมงานด้วย แต่บรรดา ศ.ดร. ท่านยอมรับและเชิญมาทำงานอีกกลุ่มอยุ่บ่อยๆ จากคุณ : Suomi เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 20:08:53

ความคิดเห็นที่ 22 มี รศ อยู่คนนึง เป็นอ.ที่ปรึกษา เก่งกว่า ดร หรือ ศ.ดร. อื่นๆ อีก จะดูว่าเจ๋งไหม วัดที่งานวิจัยว่ามีคุณค่า มีคุณภาพระดับไหนดีกว่า พวก ดร ศ.ดร รศ.ดร ใช้ นศ.ป.ท ทำงานก็เยอะ เราก็ว่าทำไม๊ ทำไมตอนเรียนให้เรามาแปล ที่แท้ พวกท่านๆ เอาไปเขียนหนังสือนี่เอง ให้แปลกลุ่มละ 3 บท จากคุณ : Antbadtz เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 21:25:39

ความคิดเห็นที่ 23 ศ. สายแพทย์ โดยเฉพาะอาจารย์หมอชั้นคลีนิก ก็มีจำนวนมาก ที่ไม่ได้เป็น ดร. จากคุณ : ธัมมนันทิ เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 22:22:32

ความคิดเห็นที่ 24 ไปเรียนที่นี่ซิครับ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1264756821 จากคุณ : temp003184 เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 23:11:58

ความคิดเห็นที่ 25 ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ไม่ได้อยู่ที่เป็น ศ. หรือ ศ. ดร. สตีฟ จ็อบ เจ้าพ่อเครือแอปเปิลเรียนไม่จบมัธยม บิล เกต แห่งไมโครซอฟท์ก็ไม่ได้เป็น ศ. หรือ ศ. ดร. ในขณะเดียวกัน ศ. หรือ ศ. ดร. หลายท่านที่มีผลงานพลิกโลกเปลี่ยนโลกได้ และก็มีศ. หรือ ศ. ดร. หลายท่านที่ทำแต่งานกระดาษ ไม่มีประโยชน์ ใครเก่งกว่ากันอยู่ที่ผลงานครับ ดูกันตรงนั้น จากคุณ : ทุกวินาที เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 00:19:21

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณ คุณทุกวินาที ครับบ้านเรามีแต่งานวิจัยแต่ไม่เคยเอางานมาทำในชีวิตประจำวันเลย ไม่ว่าเรื่องการเกษตรหรืออื่น ๆชาวนาทำนามาเป็นสิบ ๆปีก็ยังจน ถูกเอารัดเอาเปรียบเหมือนเดิม นำท่วม ก็ยังท่วมแถมหนักว่าเก่า ตอนนี้อีสานผมเริ่มแล้ง ก็มีการหางบมาแจกนำ หนาวก็แจกผ้าห่ม ครับวนเวียนกันอยู่เช่นนี้ งานวิจัยต่าง ๆมันไปไหนหมด ศ.ทั้งหลายทำแล้วก็เก็บไว้ห้องสมุด ถึงปีก็เอาเงินผมไปทำใหม่ จำได้ว่าสมัยหนึ่ง รัฐตัดงบวิจัยไปกว่า 60 % ถึงได้โกรธกันทุกวันนี้ จากคุณ : ครูเก่า (pongsri) เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 06:18:30

ความคิดเห็นที่ 27 เก่งไม่เก่งไม่เป็นไรค่ะ  แต่หนูขอเป็นสัก  รศ  ก็พอใจแล้วชีวิตนี้ จากคุณ : นู๋นัน เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 07:10:00

ความคิดเห็นที่ 28 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 14:00:00