 |
ชำแหละตอม่ออัปยศ..."โฮปเวลล์" ฝันสลายของคนไทยทั้งชาติ...!!!
หนังสือพิมพ์แนวหน้า- 23/08/2007 - 04:43 --------------------------------------------------------------------------------
"โครงการรถไฟลอยฟ้าโฮปเวลล์" เป็นปัญหาที่"ยืดเยื้อ"มานานกว่า 20 ปี หลายรัฐบาลพยายามหาทาง"แก้ไข" แต่"ไม่ประสบความสำเร็จ" เพราะต้องพบกับปัญหามากมาย อาทิ เรื่อง ปัญหาการเรื่องการไล่ที่ผู้บุกรุกที่มาตั้งที่อยู่อาศัย ปัญหาเรื่องการหาแหล่งเงินทุน ปัญหาการอ้างสิทธิการเป็นเจ้าสัมปทานโครงการของบริษัทโฮปเวลล์ ฯลฯ ล่าสุดรัฐบาลขิงแก่ใจถึงจะแก้ปัญหาโครงการนี้...!!!
"โฮปเวลล์" เริ่มขึ้นสมัยของรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี นายมนตรี พงษ์พานิช สมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม วันที่ 9 พ.ย. 2533 มีการลงนามตกลงให้บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จากฮ่องกง มีนายกอร์ดอน วู เป็นผู้ลงทุนในรูปของการให้สัมปทาน ที่มีกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นคู่สัญญา ซึ่งโฮปเวลล์เสนอผลตอบแทนพิเศษแก่รัฐบาล เมื่อลงนามสัญญาจะให้ค่าธรรมเนียมพิเศษแก่ ร.ฟ.ท. 300 ล้านบาท และให้ผลตอบแทนรายปี ปีที่ 1-30 รวม 53,810 ล้านบาท โดยที่รัฐบาลไทยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และบริษัทโฮปเวลล์จะได้อะไร... ได้สิทธิสร้างถนนยกระดับขนานกับทางรถไฟยกระดับ สามารถเรียกเก็บค่าผ่านทางได้ และยังได้รับสัมปทานเดินรถบนทางรถไฟยกระดับและสามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ใต้ทางรถไฟยกระดับ
แต่เมื่อเวลาผ่านไป 7 ปี ความคืบหน้าในการก่อสร้างมีเพียง 13.77% ขณะที่แผนงานกำหนดว่าควรจะมีผลคืบหน้า 89.75%...ต่อมารัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกฯ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รมว.คมนาคม 30 ก.ย. 2540 เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้บอกยกเลิกสัญญาสัมปทานกับบริษัทโฮปเวลล์ เพราะโครงการล่าช้ากว่าสัญญา แต่เรื่องก็เงียบไป หลังจากนั้นรัฐบาลนายชวน หลีกภัย สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐตรี และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ สมัยดำรงตำแหน่งรมช.คมนาคม ที่กำกับดูแลโครงการโฮปเวลล์ เสนอ ครม.เพื่อยืนยันมติการบอกเลิกสัญญาอีกครั้ง ด้วยเหตุผลโครงการล่าช้ากว่ากำหนดถึง 2 ปี และการก่อสร้างคืบหน้าไม่ถึง 23% เหลือเพียงตอม่อเป็นอนุสาวรีย์แห่งความล้มเหลวที่เกิดจากความไม่พร้อมในทุกด้าน สร้างแผลใจให้กับประชาชนคนไทย
"อัศวินม้าขาว"ผู้อาสาแก้ปัญหา"โครงการรถไฟลอยฟ้าโฮปเวลล์"เพื่อรักษาแผลใจให้ประชาชนน่าจะเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่วาดฝันที่จะโครงการเชื่อมต่อระบบคมนาคมทั้งหมดในกรุงเทพฯ เข้าด้วยกันโดยใช้ระบบรถไฟฟ้าและรถไฟด่วนเป็นตัวเชื่อม เพื่อแก้ปัญหาการจราจร และจะนำ"ซากตอม่อจากโครงการโฮปเวลล์" มาใช้ประโยชน์
"ตอม่อโฮปเวลล์"ที่ทิ้งร้างจะถูกนำกลับมาใช้งาน เนื่องจากต้องใช้พื้นที่และต่อม่อโฮปเวลล์บางส่วนมาใช้ในโครงการรถไฟฟ้า จากพญาไท-มักกะสัน-สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ "แอร์พอร์ต เรล ลิ้งค์" และสั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท) ทำการตรวจสอบตอม่อ จากการสุ่มตรวจตอม่อโครงสร้างโฮปเวลล์ ประมาณ 550 ต้น พบว่ามีประมาณ 50 ต้นเท่านั้น ที่มีมาตรฐานตามที่กำหนดไว้ ร.ฟ.ท.จึงทำเรื่องเสนอต่อกระทรวงคมนาคมเพื่อขออนุมัติทุบตอม่อของโครงการโฮปเวลล์ จำนวน 25 โครง 50 เสา
เมื่อทางบริษัท โฮปเวลล์ ประเทศไทย จำกัด ทราบเรื่องดังกล่าว...ได้มีหนังสือแจ้งยื่นเรื่องต่อคณะอนุญาโตตุลาการ และมีประเด็นท้วงติงการดำเนินงานของ ร.ฟ.ท.ที่สั่งรื้อถอนซากโครงสร้างของโฮปเวลล์ โดยบริษัทกล่าวโทษ ร.ฟ.ท. ว่าไม่ปฏิบัติตามสัญญาในการส่งมอบพื้นที่และตรวจแบบก่อสร้างล่าช้า เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โครงสร้างโฮปเวลล์ล่าช้า บริษัทจึงขอเรียกร้องค่าเสียหายจาก ร.ฟ.ท.
ร.ฟ.ท. สวนกลับว่า การยื่นข้อเรียกร้องของ"โฮปเวลล์" ถือว่าเอกชนสามารถทำได้ตามสิทธิของคู่สัญญา แต่ ร.ฟ.ท.จะเดินหน้ารื้อถอนโครงสร้างโฮปเวลล์ต่อ และหากบริษัทโฮปเวลล์ไม่เห็นด้วยก็สามารถฟ้องต่อศาลอีกชั้นหนึ่งได้ แต่สุดท้ายความฝันของประชาชนก็ล้มเหลว เมื่อฮีโร่จำแลงอย่าง "ทักษัณ"ที่ทำท่าทีขึงขังแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถแตะต้องตอม่อโฮปเวลล์ได้ เพราะเจ้าของโครงการขู่จะฟ้อง
ปัจจุบันโครงการ "แอร์พอร์ต เรล ลิ้งค์" ที่รัฐบาลทักษิณ อาสาจะแก้ปัญหาให้ประเทศ กลับกลายเป็นปัญหาให้รัฐบาลของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ตามแก้ตามเช็ดอยู่ในขณะนี้
ฮีโร่รายล่าสุดที่จะกระโดดเข้ามาหวังแก้ปัญหาซากตอม่อโฮปเวลล์ คือ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้พล.ร.อ.ธีระ ห้าวหาญ รมว.คมนาคม คิดที่จะนำโครงการรถไฟสายสีแดง มาปัดฝุ่นเป็นโครงการแรก ด้วยเหตุผลที่ว่าสามารถก่อสร้างได้ง่าย และใช้งบประมาณค่อนข้างน้อย เพราะมีซากตอม่อโฮปเวลล์บางส่วนอยู่แล้ว และเพียงแค่สานต่อให้โครงการให้สำเสร็จ พร้อมกับก่อสร้างสถานีและนำรถไฟที่ใช้งานอยู่ทุกวันนี้วิ่งไปก่อนและในอนาคตก็จะปรับเป็นรถไฟฟ้า...ฮืม
ปัจจุบันโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแด งอยู่ระหว่างจัดซื้อจัดจ้างที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียดเพิ่มเติม จุดเริ่มต้นของโครงการคือ สถานีบางซื่อ ปลายทางที่สถานีรังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร จะมีสถานีทั้งหมด 5 สถานี บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง และรังสิต แต่อาจปรับเพิ่มอีก 5 สถานี จตุจักร วัดเสมียนนารี ทุ่งสองห้อง การเคหะแห่งชาติ และหลักหก
แต่รูปแบบโครงการจะก่อสร้างทั้งยกระดับ และอยู่ในระดับพื้นดิน สำหรับโครงสร้างยกระดับจะเริ่มตั้งแต่สถานีบางซื่อไปจนถึงสถานีหลักหก จากนั้นจะเป็นโครงสร้างระดับดินไปจนถึงจุดสิ้นสุดโครงการที่สถานีรังสิต วงเงินก่อสร้างประมาณ 42,117 ล้านบาท ไม่รวมค่ารถไฟฟ้า
โครงการนี้ ร.ฟ.ท. จะยืนยันว่าไม่มีการเวนคืนที่ดิน เพราะจะใช้พื้นที่ของ ร.ฟ.ท. โดยใช้โครงสร้างตอม่อโฮปเวลล์เดิม แต่ต้องมีการรื้อย้ายชุมชนริมเขตทางบางส่วน
แต่ความเป็นจริงตลอดเส้นทางมีผู้บุกรุกพื้นที่ของ ร.ฟ.ท. รวมทั้งหมด 3,001 ครอบครัว เมื่อเทียบกับผู้บุกรุกพื้นที่ในโครงการแอร์พอร์ต เรล ลิ้งค์ ที่มีเพียง 300 ครอบครัวเท่านั้น ยังทำให้ ร.ฟ.ท. ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาตามกำหนดเวลา เนื่องจากโดนชาวบ้านต่อต้านขัดขวาง จนทำให้โครงการล่าช้าไปกว่า 1 ปี เป็นปัญหาที่ผู้บริหาร ร.ฟ.ท.ต้องคิดหนักเพราะการย้ายผู้บุกรุกที่อยู่อาศัยมาหลายชั่วอายุคนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แม้ ร.ฟ.ท. แม้จะยอมจ่ายค่าชดเชย หรือหาที่อยู่ใหม่ให้ก็ตาม
"ร.ฟ.ท."เลยหาทางออกโดยการผลักภาระให้เอกชนแบกรับแทน โดยให้ผู้ชนะการประมูลไปต่อรองกับชาวบ้านที่บุกรุกที่ดิน ให้ขับไล่ประชาชนบุกรุกที่ของรถไฟเอง ซึ่งเอกชนไม่มีอำนาจในการไปขับไล่ชาวบ้าน ด้วยปัญหาเหล่านี้ทำให้การประกวดที่จะมีขึ้นปลายเดือนสิงหาคม ต้องเลื่อนไปเป็นปลายเดือนกันยายน 2550 แทน
อย่างไรก็ตาม ดูท่ารัฐบาลขิงแก่จะผลักดันโครงการเปลี่ยนตอม่อโฮปเวลล์ให้เป็นรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ให้ได้ ทั้งที่ไม่มีความพร้อม และต้องพบปัญหามากมาย ทั้งที่มีตัวอย่างให้ดูอยู่ในปัจจุบันอย่าง โครงการ"แอร์พอร์ต เรล ลิ้งค์" ในขณะนี้ โครงการโฮปเวลล์ที่ในอดีตทำกันแบบรีบร้อนส่งผลมาถึงปัจจุบัน แต่รัฐบาลยังเดินตามทางในอดีต ไม่กลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอบบางเหรอ...
ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า
จากคุณ |
:
re_der
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเนา 54 19:27:55
|
|
|
|
 |