 |
#144 Quoting out from context "ตัดข้อความเพียงส่วนหนึ่งมาอภิปราย" ตามหะดิษ (วจนะท่านศาสดา) ที่ถูกระบุไว้นั้น มีอยู่ 2 กรณี คือ 1."ไม่อนุญาตให้หลั่งเลือดมุสลิมนอกจากหนึ่งในสามสาเหตุเท่านั้น นั่นคือ การปฏิเสธศรัทธาหลังจากที่เข้ารับอิสลามแล้ว หรือการผิดประเวณีหลังจากที่ได้แต่งงานแล้ว หรือสังหารผู้อื่นที่ต้องห้าม" (บันทึก อันนะสาอีย์) 2. "ผู้ใดเปลี่ยนศาสนาของเขา (มุรตัด) พวกเจ้าก็จงสังหารเขาเสีย" (บันทึก อัลบุคอรีย์) หะดิษ แรกนั้น ชัดเจนอยู่แล้วว่า กล่าวถึงผู้ที่ปฏิเสธอิสลาม หลังจาก ที่เข้ารับอิสลาม ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายข้างต้น หะดิษที่ 2 นั้น กล่าวถึงกลุ่มชนที่เข้ารับอิสลามแล้วต่อมาเปลี่ยนเป็นศาสนาอื่น เพื่อทำการกบฎต่อรัฐ ...ทั้ง 2 หะดิษนั้น มีที่มาชัดเจนในเรื่องของเหตุผลทางการเมืองในสมัยนั้น เหตุเพราะ สมัยที่รัฐอิสลามเพิ่งตั้งแรก ๆ นั้น มีบุคคลบางกลุ่มเข้ามารับอิสลามเพียงเพื่อ ต้องการหาข่าว (สายลับ) , ต้องการผลประโยชน์ทางการค้า , ต้องการแต่งงานกับหญิงมุสลิม , ต้องการสิทธิประโยชน์ที่รัฐจัดให้ ในฐานะประชากรมุสลิม
ซึ่งหาก ว่า การเปลี่ยนศาสนานั้น เป็นเพราะไม่ได้ศรัทธาในอิสลามแล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีการลงโทษอันใด เช่นกรณี ที่มีอาหรับเบดูอิน คนหนึ่งมาหาท่านศาสดาและขอเข้ารับอิสลาม แต่ต่อมาเขาก็ล้มป่วยและมาขอยกเลิกการเป็นมุสลิม ถึง 3 ครั้ง (คือ เปลี่ยนจากอิสลามไปเป็นอย่างอื่น เพราะเขาคิดว่า การที่เขาเป็นมุสลิมแล้วทำให้เขาล้มป่วย) แต่ทั้ง 3 ครั้งท่านศาสดาก็ปฏิเสธอย่างสุภาพ จนสุดท้ายเขาจึงเดินทางออกไปจากมาดีนะห์ (รัฐอิสลาม) ซึ่งท่านศาสดาก็ไม่ได้กล่าวโทษเอาผิดแต่อย่างใด -------------------------------------------------------------------------------------- สรุปคือเป็นกฏหมายป้องกันสายลับที่แฝงตัวมานับถืออิสลาม ส่วนคนที่เลิกนับถืออิสลามเพราะเลิกศรัทธาก็ไม่ได้มีการลงโทษอะไร (ไม่เกี่ยวกับที่ปัจจุบันบางประเทศก็เอาเรื่องนี้ไปทำร้ายคนที่เลิกนับถืออิสลาม) เข้าใจรึยังว่าเรื่องพวกนี้มีประเด็นละเอียดอ่อนมาก มุมมองพวกนี้ถ้าคุณไม่ศึกษาให้ลึกซึ้ง จะไปประนามนบีได้อย่างไร คือคำสอนเหล่านี้มีรายละเอียดมาก บางอย่างคลุมเครือ แถมปัจจุบันโลกตะวันตกอาจจะมีส่วนในการใส่ไคล้สร้างภาพลักษณ์ที่เลวเพื่อผลประโยชน์อีก เรายิ่งต้องมองให้ลึกก่อนสรุป
จากคุณ |
:
Grunge Agina
|
เขียนเมื่อ |
:
25 เม.ย. 54 09:18:17
A:202.149.29.81 X: TicketID:275557
|
|
|
|
 |