ความคิดเห็นที่ 1 ทะเลทรายซาฮาร่า มีอาณาเขต ทิศตะวันออกจดทะเลแดง ทิศตะวันตกจดมหาสมุทรแอตแลนติก ทิศเหนือจดภูเขาแอตลาส Atlas และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และ ทิศใต้จดเส้นละติจูด 15 องศาเหนือ โดยมีประเทศ ตูนีเซีย Tunisia,ชาด Chad ลิเบีย Libya, อัลจีเรีย Algeria, ซูดานSudan,ไนเจอร์ Niger และอียิปต์ Egypt ตั้งอยู่รายรอบ อุณหภูมิของอากาศทะเลทรายในเดือนกรกฎาคม โดยเฉลี่ยแล้วสูงประมาณ 32 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิในเดือนมกราคมโดยเฉลี่ย สูงประมาณ 20 องศาเซลเซียส สถิติอุณหภูมิสูงสุดในเวลากลางวันเท่ากับ 57 องศาเซลเซียส (จากแผนที่พื้นที่สีน้ำตาลคือทะเลทรายซาฮาร่า) จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:00:52

ความคิดเห็นที่ 2 ทะเลทรายซาฮาร่าเคยเป็นพื้นที่สีเขียว? เมื่อราว9000 ปีที่ผ่านมาทะเลทรายซาฮาร่า ไม่ได้เป็นทะเลทรายอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้แต่เป็นพื้นที่สีเขียวที่อุดมไปด้วยป่าและต้นไม้  และเป็นพื้นที่ ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศเที่เปียกมากๆ เวลาตอนนั้นเป็นช่วงยุคสมัยหินใหม่ Subpluvial period  เวลายาวนานหลายพันปีที่แล้วนั้น พื้นที่สีเขียวของซาฮาร่า( Green Sahara )เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าและป่าไม้  มีสัตว์ต่างๆและมนุษย์อาศัยอยู่    ซึ่งเป็นเรื่องที่คิดดูแล้วเชื่อได้ยากอยู่  อะไรที่ป็นหลักฐานยืนยันเช่นนั้น (ภาพประกอบจากอินเตอร์เนตให้เข้ากับเนื้อหา) จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:10:30

ความคิดเห็นที่ 3 จากการสำรวจของ พอล เซ เรโน่ (Paul Sereno ) นักบรรพชีวินวิทยา ( paleontologist)  คือ ผู้ที่ศึกษาค้นคว้าสำรวจเกี่ยว ลักษณะรูปร่าง ลักษณะความเป็นอยู่ และประวัติการวิวัฒนการของสิ่งมีชีวิต ได้แก่สัตว์ในยุคต่างๆของโลก ซึ่งเขาได้ไปสำรวจที่ทะเลทรายซาอาร่า ในเขตประเทศไนเจอร์ Niger ในทวีปอัฟริกาเพื่อค้นหาซากไดโนเสาร์สมัยดึกดำบรรพ์ dinosaur fossils ที่นี่เองได้พบซากโครงกระดูกมนุษย์มากมายจาก 2 ยุควัฒนธรรมที่แตกต่างกัน(ใช้ช่วงเวลาในการแบ่ง) คือ ยุควัฒนธรรมคิฟเฟี่ยน Kiffian(มีอายุระหว่าง 10000-8000ปี ที่แล้ว) และ ยุควัฒนธรรมเทนเรี่ยนTenerian 5000-3000 ปีที่แล้ว.  ทั้งสองยุคนี้พบในเขตทะเลทรายซาฮาร่า  ถูกแบ่งยุคโดยนักโบราณคดี( Archaeologist) จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:16:12

ความคิดเห็นที่ 4 "jayaus" ชื่อนี้การันตีความงาม จากคุณ : เจ้ากระจิ๊ดริ๊ด เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:16:54

ความคิดเห็นที่ 5 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 11:17:41 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:16:57

ความคิดเห็นที่ 6 ชอบดูรูปอย่างเดียว  กระทู้ดี มีความงามพร้อม ชอบอ่ะ จากคุณ : BAMICUP เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:19:32

ความคิดเห็นที่ 7 มาลงชื่อ รออ่านครับ จากคุณ : MoonGlade เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:23:06

ความคิดเห็นที่ 8 บริเวณที่ค้นพบซากโครงกระดูกเป็นเขตทะเลทรายแห้งแล้งอันโดดเดี่ยว นอกจากนั้นยังพบเครื่องมือที่ใช้ในการล่าสัตว์บางชิ้น พบเครื่องปั้นดินเผา และยังพบซากกระดูกของสัตว์ขนาดใหญ่และปลา อีกด้วย (ภาพทะเลทรายซาฮาร่าจากอินเตอร์เนต) จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:23:29

ความคิดเห็นที่ 9 ^__^ จากคุณ : เซ็งอูฐ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:28:59

ความคิดเห็นที่ 10 รู้สึกว่าแถวนี้คือที่ มนุษย์ต่างดาว ยิงนิวเคลียร์กันรึเปล่าไม่แน่ใจนะ เห็นบอกซัดไป 4 ลูก กลายเป็นฝุ่นเลย จากคุณ : F:A:B:R:E เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:31:18

ความคิดเห็นที่ 11 ในพื้นที่ โกเบโร Gobero Area เขตทะเลทรายซาฮาร่า ในประเทศไนเจอร์     โครงกระดูกมี่มีอายุราว 6000ปี ถูกค้นพบ เป็นชิ้นส่วนของนิ้วกลางของผู้ชายไส่ไว้ในปาก ซึ่งไม่ทราบเสาเหตุทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ทะเลทรายแถบนี้มีอุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงกลางวัน 49องศา C, (120F degrees) ซึ่งแห้งแตกต่างไปจากพื้นที่ซาฮาร่าสีเขียวเมื่อ 9000ปีที่แล้วมาก จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:34:16

ความคิดเห็นที่ 12 เมืองโกเบโรในเขตทะเลทรายซาฮาร่าของประเทศไนเจอร์ (Niger)ทวีปอัฟริกา แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 13:32:57 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:41:24

ความคิดเห็นที่ 13 .จากภาพด่านล่างเป็นการร้องและเต้นรำใน งานเทศกาลกีรีวอล( the Gerewol festival )  ของชนเผ่าวูดาเบ้ (the Wodaabe tribe )ในเมือง อิน-คอล (In- Gall )ประเทศไนเจอร์  ซึ่งเทศกาลกีรีวอล the Gerewol นี้ผู้ชายจะพยายามแต่งตัวให้ดูดีที่สุดเพื่อให้ถูกตาผู้หญิง เพื่อจะได้ถูกผู้หญิงเลือกเป็นคู่ แต่ผู้ชายไม่มีสิทธิ์เลือก   ถ้าผู้ชายคนไหนไม่ถูกเลือกก็ต้องรอปีต่อไป   ซึ่งมีการวิเคราะห์กันว่า กลุ่มชนเผ่า เผ่าวูดาเบ้ที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ โกเบโร Gobero aอาจเกี่ยวข้องกับมนุษย์โบราณที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้เมื่อหลายพันปีมาแล้ว จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:47:22

ความคิดเห็นที่ 14 ลงชื่อตรงกลาง จากคุณ : กระป๋องด๋อย เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:47:22

ความคิดเห็นที่ 15 ภาพทางอากาศ จะเห็นเต็นท์ การขุดค้นทางโบราณคดีในเขตทะเลทรายซาฮาร่าอันเวิ้งว้างไร้ผู้คน  พื้นที่การขุดค้นอยู่ทางด้านซ้ายของภาพ  มองลักษณะภูมิประเทศในวันนี้ มันยากที่จะเชื่อว่านี่คือซาฮาร่าพื้นที่สีเขียว (Green Sahara) เมื่อหลายพันปีที่แล้ว แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 11:50:21 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:49:57

ความคิดเห็นที่ 16 นี้คือโครงหล่อแบบของไดโนเสาร์ Suchomimus(เป็นไดโนเสาร์ที่กินเนื้อไดโนเสาร์ด้วยกัน เป็นไดโนเสาร์ที่มีหัวเหมือนจระเข้  มีชีวิตอยู่เมื่อสมัย110ล้านปีที่แล้ว   โครงนี้ตั้งอยู่ที่เมืองอคาเดซ Agadez, ประเทศไนเจอร์ Niger ซึ่ง นัก บรรพชีวินวิทยา ( paleontologist) พอล เซ เรโน่ Paul Sereno บริจาคให้ประเทศไนเจอร์ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:52:39

ความคิดเห็นที่ 17 ไปด้วย..... จากคุณ : SuperTee (itCrazy) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:53:20

ความคิดเห็นที่ 18 ทหารชาวไนเจอร์ยืนเฝ้ารักษาความปลอดภัยให้กับคณะขุดค้นป้องกันการถูกปล้น  ในเขตโกเบโรcobero  ทะเลทรายซาฮาร่า ซึ่งการขุดค้นนี้เจอโครงกระดูกมากกว่า 250โครง  หม้อ เครื่องประดับ อาวุธ และเครื่องมือมากมาย จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:55:37

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณครับ ปล. อยากทราบข้อมูล แม่น้ำ แหล่งน้ำ ขนาดใหญ่ของ ทะเลทราย ซาฮาร่า ด้วยนะ ไม่มีไม่เป็นไรจ้า จุ๊บๆ จากคุณ : สักวันฉันจะอ้วนกลม เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:55:55

ความคิดเห็นที่ 20 โครงกระดูก2โครงนี้เป็นของแม่และเด็ก เสียชีวิตในเวลาเดียวกันเมื่อหกพันกว่าปีที่แล้ว  มีการจับมือกัน  นักวิทยาศาสตร์ยัังพบว่ามีดอกไม้ถูกวางไว้ด้านบนและล่างของโครงกระดูก และไม่ทราบว่าตายจากสาเหตุอะไร จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:58:27

ความคิดเห็นที่ 21 ค.ห. 19 เดี๋ยวตอนท้ายๆ จะหาข้อมูลมาเสริมให้นะครับ.. จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 11:59:58

ความคิดเห็นที่ 22 พายุทะเลทรายที่พัดกระหน่ำด้วยความเร็ว 30ไมล์ต่อชั่วโมงระหว่างการขุดค้น บางครั้งทำให้โครงกระดูกถูกกลบอย่างรวดเร็ว ต้องใช้เวลาเป็นวันในการขุดค้นใหม่ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:02:26

ความคิดเห็นที่ 23 อันนี้เป็นภาพตัวอย่างความร้ายกาจของพายุทะเลทราย(Sandstorm)ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาครับ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:08:57

ความคิดเห็นที่ 24 ข้าพเจ้า ได้เข้ามาแล้ว จากคุณ : ด.ช.แม่น เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:10:05

ความคิดเห็นที่ 25 หนึ่งในโครงกระดูกคนยุคเทนเรี่ยน ( Tenerian )ที่มีสภาพสมบุรณ์ที่สุดดูราวกับนอนหลับอยู่ในทรายเมื่อ 6000 ปีที่แล้ว จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:12:03

ความคิดเห็นที่ 26 ..ดร. คริส สโตจาโนวาสกี้  จาก มหาวิทยาลัย รัฐอริโซนา ( Dr. Chris Stojanowski of Arizona State University) และทีมงานกำลังตรวจสอบโครงกระดูกของผู้หญิงที่ตายเมื่ออายุ20ปี ในเขตโบราณคดีโกเบโร Gobero จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:15:46

ความคิดเห็นที่ 27 โครงกระดูกของผู้ชาย ยุคเทนเรี่ยน Tenerian ที่ดูสภาพสมบูรณ์ที่สุดหัวของเขาถูกฝังในหม้อ เลยเรียกว่าโครงกระดูก"หัวหม้อ" "Pot Head". ยังพบกระดูกข้อเท้าจระเข้และหมูป่าเขี้ยวยาวที่หลุมศพด้วย จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:18:13

ความคิดเห็นที่ 28 น่าสนใจมาก ติดตามค่ะ จากคุณ : ยมทูตลูเคีย เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:21:11

ความคิดเห็นที่ 29 นานๆจะมาทันซักทีนะครับ ขอปาดนิดนึง ฮ่าๆ F5 รัวๆ จากคุณ : MondayCool เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:22:08

ความคิดเห็นที่ 30 ความคิดเห็นที่ 22 ท่าทางเธอจะเ็ป็น Super Girl จากคุณ : SuperTee (itCrazy) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:23:16

ความคิดเห็นที่ 31 ภาพแกะสลักบนก้อนหินเป็นรูปยีราฟนี้มีอายุ 8000  ปี ยุควัฒนธรรมคิฟเฟี่ยน Kiffian(ช่วงอายุระหว่าง 10000-8000ปี ที่แล้ว) พบที่เมือง ดาบูส์ DaBous, ประเทศไนเจอร์  เป็นหนึ่งในภาพแกะสลักที่ดีที่สุดของโลก พบอยู่บนเนินเขาหินแกรนิต จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:26:20

ความคิดเห็นที่ 32 รอ อัพเดทต่อ นะค่ะ กำลัง สนุก จากคุณ : pan2551 เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:30:05

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าเป็นสมัยนี้ คงโดนข้อหาว่า มนุษญ์ตัดไม้ทำลายป่าจนอากาศโลกเปลี่ยนให้ซาฮาร่ากลายเป้นทะเลทรายแหง ๆ จากคุณ : คนพิจิตร เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:30:14

ความคิดเห็นที่ 34 โครงกระดูก 2โครง ยุคทาเรี่ยน Tenerian ที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์  โครงทางด้านซ้ายเอานิ้วกลางซุกไว้ในปาก จากการตรวจสอบพบว่าโครงกระดูกด้านขวาถูกฝังไว้ก่อน จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:30:17

ความคิดเห็นที่ 35 สิ่งที่น่าสนใจ นอกจากนี้จากการขุดค้นยังพบทรายเก่าแก่และมีการส่งไปให้ห้องแลปที่อเมริกาตรวจสอบ พบว่าที่ก้นด้านล่างของทะเลทรายเคยเป็นทะเลสาบเมื่อ 15000ปีที่แล้วซึ่งเป็นช่วงเวลาในยุคน้ำแข็ง( the last ice age) จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:33:18

ความคิดเห็นที่ 36 คนเมื่อยุค 8000 ปีก่อน วาดยีราฟได้เหมือนและแจ่มจริงๆ เลยครับ โดยเฉพาะลวดลายตามลำตัว จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:34:53

ความคิดเห็นที่ 37 ผมว่าบริเวณนี้แหละที่ผู้มาเยือนเหนี่ยวนำอุกกาบาตมวลมหาศาลข้ามมิติเวลามาลง เพื่อกำจัดพวกเราซึ่งเป็นเผ่าพันธ์ที่ผิดพลาดและจะเป็นภัยร้าย แต่ด้วยความสามารถในการปรับตัวขั้นเทพ (แต่แพ้แมงสาบกับหนอนปลอกในปัจจุบันนะ) เลยทำให้พวกเรารอดมาเดินกันพล่านยั้วเยี้ยเต็มโลกได้ จากคุณ : อย่าลืมขอบคุณอาร์คันเฟลด้วยล่ะ (รบชนะ) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:35:08

ความคิดเห็นที่ 38 ..เด็กชายชาวเผ่า วูดาเบ Wodaabe กำลังนำฝูงวัวของครอบครัวจากบ่อน้ำที่อยู่ห่างไป 5ไมล์ เดินทางกลับบ้านทุกคืน  ซึ่งเผ่าวูดาเบเป็นมนุษย์ยุคปัจจุบัน ที่มีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับมนุษย์โบราณที่หลุมขุดค้นในทะเลทรายนี้มากที่สุด จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:35:43

ความคิดเห็นที่ 39 นักขุดค้นซากไดโนเสาร์ที่มีชื่อเสียง พอล เซเรโน่ Paul Sereno ต้องต่อสู้กับพายุทะเลทรายที่พัดด้วยความแรง 80ไมล์ต่อชั่วโมง  ซึ่งทีมขุดค้นเคยเจอที่ทะเลทรายโกบี Gobi Desert.ประเทศมองโกเลีย ในบางครั้งตื่นมา ทรายหนาครึ่งนิ้วกองอยู่บนใบหน้า ท่ามกลางอากาศหนาว 2 องศาC จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:39:46

ความคิดเห็นที่ 40 สองคนของทีมงานขุดค้นกลุ่มของ Meave Leakey กำลังตัดผ้า ใบที่จะแช่ในพลาสเตอร์และห่อรอบ กะโหลกเก่าของฮิปโปที่มีอายุ1.9 ล้านปีไม่ให้เสียหาย จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:42:39

ความคิดเห็นที่ 41 สุสานที่ทำพิธีฝังศพสำหรับโครงกระดูกผู้หญิงคนนี้ มีขนาดกว้างประมาณ 2 สนาม ฟุตบอล และพบโครงกระดูก 250 โครงที่นี่ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:44:50

ความคิดเห็นที่ 42 ขออนุญาตพักเตรียมตัวไปทำงาน..เดี๋ยวค่อยกลับมาใหม่ครับ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:46:05

ความคิดเห็นที่ 43 เข้าอ่านต่อค่ะ ขอบพระคุณอย่างสูงเลยนะคะ จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 12:58:28

ความคิดเห็นที่ 44 สอบถามครับ.. ทะเลทรายพื้นที่กว้างใหญ่ นักขุดค้นไปพบโครงกระดูกได้อย่างไรครับ. จากคุณ : กลิ่นหญ้า เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 13:10:20

ความคิดเห็นที่ 45 กระทู้  จ่ายอด ต้องยกหัวแม่โป้ง ให้ทุกกระทู้จริงๆ สุดยอด สมชื่อ จากคุณ : tzu149 เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 13:23:48

ความคิดเห็นที่ 46 ปาดดดดดดดดดขวา จากคุณ : เด็กวัดสะพานใหม่ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 13:30:10

ความคิดเห็นที่ 47 55555...ชอบเปลี่ยนชื่อผมกันเรื่อยเลย.....ผมชื่อเจ..นะครับบังเอิญอยู่ออสเตรเลียเลย ใช้ jayaus  อ่านว่า เจ--ออส  jay-aus..ไมได้อ่านว่า จ่าย-อด หรือ  จ่า-ยอด.. ....แต่ใครจะเรียกชื่อไหนก็ได้นะครับตามสะดวก...ผมไม่ซีเรียส แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 54 11:35:07 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 13:31:24

ความคิดเห็นที่ 48 เห็นกระทู้นี้แล้ว นึกถึง นิยายเรื่อง ฟ้าจรดทราย ค่ะ อิอิ ประทับใจสุด ๆ ขอบคุณคุณเจค่ะที่นำความรู้ดี ๆ มาให้ชมให้อ่านอีกแล้ว จากคุณ : บาหลี...ดินแดนในภาพวาด เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 13:40:30

ความคิดเห็นที่ 49 ภาพสลักยีราฟสวยจังเลย เขามีวิธีตรวจสอบยังไงเหรอคะ ถึงรู้ว่าเป็นภาพสลักอายุ 8,000 ปี ต่อให้สลักเมื่อปีก่อน หรือเมื่อพันปีก่อน หินก้อนนั้นก็อายุเท่าเดิมอยู่ดีนี่นา จากคุณ : tarantella เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 13:42:04

ความคิดเห็นที่ 50 สวยงามและชวนค้นหา จากคุณ : unlovely เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 13:54:22

ความคิดเห็นที่ 51 มีแต่ทรายทั้งนั้นเลย จากคุณ : tomorrow night เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 14:08:30

ความคิดเห็นที่ 52 O_o? จากคุณ : filmee39 เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 14:09:29

ความคิดเห็นที่ 53 สนุกดีค่ะ จากคุณ : Matriarch Miaw เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 14:28:25

ความคิดเห็นที่ 54 สุดยอด เลยคร้า ต่ออีกนะ จากคุณ : pan2551 เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 14:48:31

ความคิดเห็นที่ 55 เหมือนเคยดูสารดคีว่า เมื่อก่อน แอฟริกาไม่ได้แห้งแล้ง ต่อมาที่แห้งแล้งเพราะ ภูเขาหิมาลัยมันค่อย ๆ สูงขั้น ๆ (เดิมไม่สูงมาก) จนกระแสลมเปลี่ยน ไม่สามารถหอบเอาความชุ่มชื้นมาให้ แถม ลมที่มายังพัดเอาแต่ฝุ่นทรายมาสะสม จนกลายเป็นทะเลทรายไปในที่สุด สังเกตจากแนวที่เป็นทะเลทรายจะเป็นแนวทะแยงมุมจากอียิปต์ไปทาง ตต-เฉียงใต้ จากคุณ : ดินสอสีเขียว (x-schneider) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 15:22:12

ความคิดเห็นที่ 56 ภาพยีราฟแจ่มจริงๆค่ะ จากคุณ : lovely sweetly shiny เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 15:41:19

ความคิดเห็นที่ 57 ธรรมชาตินี่มันช่างยิ่งใหญ่จริงๆ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 15:42:26

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณสำหรับสาระดีๆ ค่ะ จากคุณ : ถึงอ้วนก็รัก เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 15:45:03

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณครับ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:07:42

ความคิดเห็นที่ 60 -ขอบคุณครับ ว่าแต่ พื้นที่ ที่เคยมีสีเเขียว ทำไมถึงเปลี่ยนไปเป็นทะเลทรายได้ละครับ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:17:20

ความคิดเห็นที่ 61 สวยงามดีแท้ จากคุณ : โย่ _เชียงใหม่ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:40:19

ความคิดเห็นที่ 62 ลงชื่อรออ่านต่อค่ะ จากคุณ : cOokiemOok เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:44:48

ความคิดเห็นที่ 63 กระทู้คุณjayaus ยอดเยี่ยมทุกกระทู้จริงๆ จากคุณ : โรคจิตคอยแอบมองให้เธอมีรอยยิ้ม เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 16:50:29

ความคิดเห็นที่ 64 ติดตามอ่านทุกกระทู้เลย จากคุณ : quadrant#1 เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 17:36:01

ความคิดเห็นที่ 65 ^ ^ ^ 13  แล้วดิฉันจะเลือกใครดีคะนั่น ?? ( เข้ามาฮา " จ่ายอด" ) แล้วก็ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆที่มีมาให้ทุกครั้งคะ จากคุณ : เซียนเวม เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 19:23:05

ความคิดเห็นที่ 66 รอฉันรอเธออยู่ จขกท. กลับมาต่อไวๆนะัค๊าาา จากคุณ : ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 19:32:41

ความคิดเห็นที่ 67 น่าคิดดีจิง อะไรทำให้เป็นทะเลทราย ธรรมดาพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์แบบนี้ต้องมีถ้ำหรืออะไรอยู่ด้วยนะ แล้วหายไปไหนหมด  ดันเหลือแต่ศพ แล้วหัวคนไปอยู่ในหม้อไม่เข้าใจ หมายถึงคน หัวหมอ หรอ จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 19:51:02

ความคิดเห็นที่ 68 เข้ามารอ... จากคุณ : เจ้ากระจิ๊ดริ๊ด เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 19:57:21

ความคิดเห็นที่ 69 ตาม คห.55 แต่หิมาลัยไม่ได้สูงขึ้น ภายในหมื่นปี แต่เป็น แสนๆปี หรือ ล้านๆปี จากคุณ : เคยผมยาว เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 20:11:45

ความคิดเห็นที่ 70 อ้าวจบซะแล้ว จากคุณ : juice&boy เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 20:12:54

ความคิดเห็นที่ 71 อ่านถึงตรงนี้แล้วนะจ้า  *-* จากคุณ : MaxLamphun เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 20:23:49

ความคิดเห็นที่ 72 สวดยอด   จากคุณ : Ja Rule เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 20:28:35

ความคิดเห็นที่ 73 รออ่านต่อครับ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 20:29:58 จากคุณ : OFFBASS เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 20:29:44

ความคิดเห็นที่ 74 ปูเสื่อรอชม จากคุณ : JinHanNa เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 20:31:43

ความคิดเห็นที่ 75 มาลงชื่อๆๆ จากคุณ : ArM-ApA เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 20:39:10

ความคิดเห็นที่ 76 .. สิ่งที่ไม่เคยมีใครรู้เกี่ยวกับ ทะเลทรายซาฮาร่า เดิมแผ่นดินผืนนั้นเป็นที่อยู่ของชนเผ่าที่ชื่อว่า "mais" เป็นชนเผ่าที่ค่อนข้างโง่เขลายิ่งนัก ไม่อยู่กับที่เป็นหลักแหล่ง  เพราะไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาได้ เหมือนอย่างชนเผ่าอื่นๆ  ที่รู้จักเพาะปลูก  เลี้ยงสัตว์  คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ จึงไม่ต้องเร่ร่อนไปไหนต่อไหน ชนเผ่าอื่นในยุคสมัยนั้น  รู้คุณค่าของป่าไม้และสิ่งแวดล้อม จึงรักษาไว้ให้ใช้ได้ชั่วลูกชั่วหลานเก็บกินได้ไม่หมด ป่าให้อาหาร ให้เครื่องนุ่งห่ม ให้แหล่งน้ำ  ให้ทุกๆ สิ่ง ชนเผ่า "mais"  ได้แต่ย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ เมื่อเริ่มเห็นว่าป่าที่เคยอยู่เริ่มเสื่อมโทรม เมื่อถึงยุคเสื่อมอย่างมากของ ชนเผ่า "mais" คนยุคนั้นทำลายป่า  ที่เราเรียกว่า  ซาฮาร่าในปัจจุบัน  อย่างหนัก เรียกได้ว่า เพียงไม่กี่ปี  ป่าถูกเผาราบ  ราบชนิดที่เรียกว่า  ไม่มีต้นไม้เหลือเลย ในเวลา 1 ปี ที่ป่าถูกเผาราบเป็นหน้ากลอง  กว้างขวางกินพื้นที่ครึ่งค่อนโลก บรรยากาศในละแวกนั้น  เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ ฝนหยุดตกทันทีในปีนั้น  และไม่ตกอีกเลยต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 50 ปี เมล็ดพืชพันธุ์ธัญญาหาร  ไม่มีชนิดใดงอกขึ้นได้อีกเลยนับจากนั้นมา ป่าอันอุดมสมบูรณ์  กลายเป็นผืนดินที่แห้งแล้งแตกระแหง เวลาผ่านไปเพียง 100 ปี  ผืนแผ่นดินถูกแดดเผาจนเม็ดดินแตกละเอียด กลายมาเป็นทะเลทราย จวบจนปัจจุบัน ชนเผ่า "mais"  ย้ายที่ไปทางตะวันออกเรื่อยมาถึงอินเดีย   ไปอยู่ทางตอนกลางของจีน แต่ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ใด พฤติกรรมอันโง่เขลา  ในเรื่องการไม่รู้จักประโยชน์ของธรรมชาติป่าไม้ ชนเผ่านี้ จะทำลายป่าไม้ทุกที่ไม่มีเว้น เมื่อได้เผชิญหน้ากับเจ้าของแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ของราชวงศ์จีนโบราณ ที่เริ่มเห็นหายนะเมื่อชนเผ่าอันโง่เขลาย้ายมาอยู่ในดินแดนแถบนั้น จึงใช้กำลังขับไล่ออกจากพื้นที่  ให้ย้ายถิ่นฐานลงมาทางใต้มาโดยตลอด ด้วยความที่เป็นชนเผ่าที่ โง่เขลาเบาปัญญายิ่งนัก ถูกดูแคลนจากนานาประเทศ จึงเปลี่ยนชื่อจาก  "mais"  เพื่อไม่ให้ใครดูถูกได้อีก  ไม่มีใครจดจำได้ว่า ชนเผ่านี้แตกสลายไปอยู่ ณ ที่ใด แม้จะเปลี่ยนชื่อไปอย่างไรก็ตาม "พันธุกรรม"  ก็ไม่ได้ด้อยลงแต่อย่างใด ความโง่เขลา  ยังคงติดตัวเป็นเอกลักษณ์ถ่ายทอดมาถึงรุ่นลูกหลานอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ปัจจุบันกำลังเป็นที่น่าสงสัยอยู่ว่า ชนเผ่า "mais"  มีถิ่นอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งใดบนโลกใบนี้ ซึ่งยังคงเป็นปริศนาที่น่าค้นหาหลักฐานชิ้นสำคัญ จนกระทั่ง  นักประวัติศาสตร์สมัครเล่นคนหนึ่งได้ค้นพบโดยบังเอิญ ว่า แท้ที่จริงแล้ว ชนเผ่า "mais"  นั้น  ก็คือ  "Siam"  เมื่อไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมา และมันก็คือ  "Thailand"  ในปัจจุบัน หลักฐานชิ้นสำคัญที่เชื่อได้ว่า  ชนเผ่า "mais"  ก็คือ "Siam" นั่นก็คือ  การแผ้วถางทำลายป่าอันเป็นทรัพยากรที่เลี้ยงชีวิตพวกเขามาทุกยุคทุกสมัย ที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เห็นได้จากภาพถ่ายทางอากาศของดินแดนของโลกใบนี้ ซึ่งนอกจากเขตทะเลทราย ทุกแห่งของโลกแล้ว ดินแดนอื่นนอกจากนั้น  ยังคงเป็นป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ยกเว้น  พื้นที่ของประเทศไทย  ที่มองเห็นผืนดินที่มีแต่เขาหัวโล้นเพิ่มขึ้นทุกวัน ในขณะที่ดินแดนอื่นๆ  ค่อยๆ ฟื้นตัวจากป่าเสื่อมโทรม มาเป็นป่าที่เขียวขจี ............. จบแล้วครับ .....  ปล. ที่เขียนมา  แค่นิยายเรื่องหนึ่งอ่ะครับ อย่าซีเรียสครับ อย่าซีเรียส .. แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 20:49:59 จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 20:40:40

ความคิดเห็นที่ 77 ชอบกระทู้นี้จังค่ะ ติดตามต่อนะคะ จากคุณ : i'm not superman เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 21:07:34

ความคิดเห็นที่ 78 รออ่านภาคต่องับ จากคุณ : ynwtf เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 21:09:57

ความคิดเห็นที่ 79 นอนรอนะครับ จากคุณ : เคยผมยาว เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 21:11:33

ความคิดเห็นที่ 80 #76 ใจแป้ว เลย จากคุณ : ติ๋ม Around เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 22:16:04

ความคิดเห็นที่ 81 #76 เฮ้อ...... จากคุณ : ไปบอก....นายนู่น (ชิงแมวเกิด) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 22:19:22

ความคิดเห็นที่ 82 ดีครับเหมือนอ่าน national geographic สนุกได้ความรู้ดี ขอบคุณ จขกท. จากคุณ : แต้มขาว เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 22:32:21

ความคิดเห็นที่ 83 เห้ออ 67# เอ้ย #76 ไม่ได้ซีเรียสนะคะ แต่แบบสงสัยว่าเพื่ออะไร ? สู้ๆค่ะจ่ายอด ! รออ่านค่ะ (ชื่อนี้แล่ะ) จากคุณ : St.Kyo เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 23:12:42

ความคิดเห็นที่ 84 คุณjayausคะ  ขอบคุณค่ะที่หาสิ่งดีๆมาแบ่งปันกัน แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 54 23:16:58 จากคุณ : เสื้อเชิ้ต เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 23:16:26

ความคิดเห็นที่ 85 ยังมีต่ออีกไหมคะ ..เข้ามารออ่านคะ ทั้งสนุกและได้ความรู้ชอบจริงๆคะ กระทู้ของคุณ Jayaus จากคุณ : SSANTI BOY เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 23:54:03

ความคิดเห็นที่ 86 แหม... #76 เกือบจะเชื่อแล้วเชียว ถ้าใส่ชื่อนักการเมืองเข้าไปด้วย รับรอง มีต่ออีกหลายภาคแน่นอน จากคุณ : basicguy เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 23:57:33

ความคิดเห็นที่ 87 ถ้าผมบอกว่าดวงจันทร์เคยเป็นป่าที่เขียวชะอุ่ม จะมีใครเชื่อผมไหมเนี่ย ถึงยังไงก็ยังปักใจเชื่อไม่ลงว่า ทะเลทรายเคยเป็นป่าสมบูรณ์มาก่อน คิดว่าฝรั่งแหกตามากกว่า จากคุณ : lastman เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 00:23:32 A:58.9.13.182 X: TicketID:252531

ความคิดเห็นที่ 88 เอ้ยมันเป็นเรื่องจริงครับ ไม่ได้ fake นะมีหลักฐานพิสูจน์หลายอย่าง เป็นธรรมดา แต่ก่อนขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ ก็ไม่ได้เป็นน้ำแข็งเหมือนกันนะ จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 00:40:58

ความคิดเห็นที่ 89 เรื่องหิมาลัยน่าสนใจมากค่ะ เพราะมันยกตัวขึ้นเรื่อยๆจริง ไม่แน่ใจว่าใครเล่าให้เราฟังเมื่อไม่นานมานี้ว่า จากการที่แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น ก็ทำให้หิมาลัยยกตัวขึ้นอีก 5 ซม. ด้วย ไม่รู้จริงเท็จยังไงน่อ เป็นกระทู้น่าสนใจมากเลยค่ะ อยากไปเดินทางกับเขาบ้างจัง ยีราฟอนาโตมี่เป๊ะมาก ลายก็ชัดมากจนสงสัยว่า ยุคนั้นมียีราฟในพื้นที่นี้ด้วยเหรอ - ยุคนั้นยีราฟก็ยังหน้าตาไม่ต่างจากปัจจุบันมาก - ยุคนั้นยีราฟลายก็ไม่ต่างจากเดิมนัก จังหวะนี้ถ้าบอกว่า มนุษย์ต่างดาวก็ปฏิเสธยากเลย 55 มันวาดเหมือนมากจริงๆ จากคุณ : SICKHEART เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 01:01:42

ความคิดเห็นที่ 90 ในขณะที่คนสมัยใหม่ยุคปัจจุบัน มองว่าทะเลทรายซาฮารากว้างใหญ่และน่ากลัว  เราลองกลับมาย้อนไปดูประวัติศาสตร์กันคร่าวๆ   ช่วงเวลาราว 10000- 4000ปี BCE (Before the Common Eraหมายถึงก่อนปี ค.ศ 1  )", ทะเลทรายซาฮาร่าเป็นพื้นที่สีเขียวชอุ่ม และอุดมสมบูรณ์ บางครั้งเรียกยุคนั้นของซาฮาร่าว่า ซาฮาร่าสีเขียว “Green Sahara” หรือ  “Green Period.” ซึ่งนักโบราณคดีได้ให้ข้อมูลว่าสภาพภูมิอากาศของซาฮาร่าเปลี่ยนอย่างรุนแรง.ในประวัติศาสตร์ มีการพบร่องรอย ของทะเลสาบและแม่น้ำหลายสายรวมทั้งซากพืชและสัตว์ที่เคยมีชีวิตอยู่ในซาฮาร่า ซึ่งนั่นเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกว่าครั้งหนึ่ง ซาฮาร่าเคยเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเป็นอยู่อาศัยของสัตว์และพืช ในปี  ค.ศ  2000 ทีมนักโบราณคดีซึ่งออกขุดค้นหาซากไดโนเสาร์แต่เจอหลุมฝังศพของมนุษย์สมัยก่อนด้วยในเขตทะเลทรายซาฮาร่าของประเทศไนเจอร์  (ตามเนื้อหาในกระทู้ที่ผมนำเสนอไปตอนต้น) นั่นย่อมเป็นร่องรอยว่านักโบราณคดีได้พบร่องรอยหลักฐานทางอารยธรรมและมีสิ่งมีชีวิตเคยอาศัยอยู่ในพื้นที่ซาฮาร่าสีเขียว  แน่นอนว่าทุกวันนี้ซาฮาร่าคือทะเลทรายและเป็นทะเลทรายมาเป็นระยะเวลานานแล้ว   แต่เมื่อราว10,000BEC  วงโคจรของโลกมีการเปลี่ยนแปลงและเกิดการส่าย ทำให้อากาศเกิดการเปลี่ยนแปลง  พื้นที่บริเวณที่เป็นอากาศเขตมรสุมมีความชื้นสูงของทวีปอัฟริกาตอนใต้กลับยกตัวสูงขึ้น  ทำให้น้ำไหลมาลงพื้นที่ทะเลทรายซาฮาร่า(ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือ) ทำให้เกิดแหล่งน้ำขึ้นในทะเลทรายซาฮาร่า มีพืชเจริญเติบโตขึ้น ด้วยสภาพแวดล้อมตอนนั้นมีความชื้นเหมาะสม ทำให้สัตว์และมนุษย์เข้ามาตั้งถิ่นฐาน และเมื่ออากาศเกิดเปลี่ยนแปลงรูปแบบอีกครั้ง ซาฮาร่าก็กลับมาเป็นทะเลทรายอีกช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะกลับไปเขียวอีก ราว 4000ปี BCE,   ซาฮาร่ากลับมาเป็นทะเลทรายอีกครั้งหนึ่ง  มาจนถึงทุกวันนี้และพื้นที่ทะเลทรายกลับขยายกว้างขึ้นอย่างรวดเร้วด้วยสาเหตุหลายๆปัจจัย สรุปก็คือ ซาฮาร่า เคยเป็นทะเลทรายกลับมาเป็นพื้นที่สีเขียวและกลับมาเป็นทะเลทรายอีกในช่วงระยะเวลาหลายพันปีที่ผ่านมา ผมแปลและเรียบเรียงคร่าวๆให้เข้าใจง่ายจากเวปนี้นะครับ http://www.wisegeek.com/what-was-the-green-sahara.htm ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ลองวิเคราะห์ความเป็นไปได้ดู..เพราะทุกวันนี้โลกเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา.แต่บางอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆจนยากที่จะสังเกตุเห็นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ..แต่ในระยะเวลาหลายพันปี..ความแตกต่างย่อมมีปรากฏให้เห็นได้ชัด..แต่ใครหละจะมีชีวิตอยู่ รอดูได้ในอีกหลายพันปีข้างหน้า แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 01:25:55 แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 01:25:03 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 01:12:38

ความคิดเห็นที่ 91 หัวหน้าชนเผ่าคือ คห.76นั่นแล จากคุณ : Metaphysics เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 01:53:07

ความคิดเห็นที่ 92 มาต่อให้จบครับ ภาพต่อไปนี้เป็นบางส่วนที่เจอจากสุสานหลุมฝังศพในการขุดค้นหาในพื้นที่ โกเบโร Gobero Area เขตทะเลทรายซาฮาร่า ในประเทศไนเจอร์     กะโหลกสีดำด้านซ้าย เป็นของผู้ชาย(ผู้ใหญ่ )เผ่า คิฟเฟี่ยน Kiffian,10,000-8,000 ปีที่แล้ว กะโหลกสีจางด้านขวา เป็นของเด็กหนุ่มอายุ18ปี เผ่าเทนเรี่ยน Tenerian 6,500-4,500 ปีที่แล้ว แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 02:31:56 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 02:08:14

ความคิดเห็นที่ 93 ตะขอตกเบ็ดทำจากกระดูกสัตว์ ของเผ่าคิฟเฟียน (Kiffian Fish Hook ): 10,000-8,000 ปีที่แล้ว ขุดพบที่เขตโกเบโร Gobero Area เขตทะเลทรายซาฮาร่า ในประเทศไนเจอร์ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 02:33:39 แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 02:26:07 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 02:24:23

ความคิดเห็นที่ 94 ส่วนแหล่งน้ำในทะเลทรายซาฮาร่าในปัจุบันนี้ มีแม่น้ำในทะเลทรายซาฮาร่าแต่ทั้งหมดจะแห้ง ในเขตซาฮาร่าตะวันตกจะเรียกแม่น้ำที่แห้งว่า "oueds", ทางซาฮาร่าตะวันออกจะเรียกแม่น้ำที่แห้งว่านี้ ว่า"wadis" ภาพแม่น้ำที่แห้งในทะเลทรายซาฮาร่า จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 03:36:51

ความคิดเห็นที่ 95 นอจากนั้นทะเลทรายซาฮาร่าฝั่งตะวันตกส่วนมากจะมีแม่น้ำใต้ดินซึ่งไหลมาจากเทือกเขาแอตลาส และเทือกเขาอื่นๆเมื่อแม่น้ำเหล่านั้นโผล่มาบนพื้นดินก็จะกลายเป็นเขตโอเอซิส oasis ..(โอเอซิส คือ พื้นที่ที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์กลางทะเลทรายที่แห้งแล้ง) ในภาพเป็นทะเลสาบ ในพื้นที่  โอเอซิส อับอารี่(Ubari oasis )ในเขตทะเลทรายซาฮาร่า    ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศลิเบีย. แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 04:35:26 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 04:28:35

ความคิดเห็นที่ 96 ขอจบนะครับ ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพประกอบจาก กูเกิล,วิกิพีเดีย http://www.newscientist.com/article/dn14536-stone-age-mass-graves-reveal-green-sahara.html http://ngm.nationalgeographic.com/2008/09/green-sahara/gwin-text/2 http://archaeology.about.com/od/africa/ss/gobero.htm http://wiki.answers.com/Q/Is_there_any_rivers_in_the_Sahara_desert#ixzz1K06VbLhQ http://en.wikipedia.org/wiki/Ubari http://anthropology.net/2008/08/14/the-kiffian-tenerean-occupation-of-gobero-niger-perhaps-the-largest-collection-of-early-mid-holocene-people-in-africa/ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 04:40:50

ความคิดเห็นที่ 97 ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ชื่อ jayaus การันตีความสุดยอดได้ครับ ความรู้ทั้งนั้นเลย ขอบคุณครับ จากคุณ : pecpws (pecpws) เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 07:08:44

ความคิดเห็นที่ 98 ด้วยความเคารพ ท่าน จขกท มีเขียน Blog ส่วนตัว เรื่องน่าสนใจ ที่ไหนอีกหรือเปล่าครับ ความรู้น่าสนใจเหล่านี้ จะหาอ่านเอง คงไม่เท่า ผู้ที่สนใจศึกษาข้อมูลมารวมรวบสรุปให้เข้าใจง่าย แบบนี้แน่       พอดีสงกรานต์เพิ่งกลับมาจาก Sahara ฝั่ง Morocco มีโอกาสได้นั่งรถเที่ยว จากเขตทะเลทราย ไปยังตอนเหนือ ที่ผ่าน Atlas Mt. ตอนที่นั่งมองฝ่านหน้าต่างรถ ก็ได้แต่เสียดาย สภาพพื้นที่อันแห้งแล้งเหล่านั้น ทั้งๆที่ มันสวยงามเหลือเกินยามที่ได้เห็น เสียดายที่ไม่ได้พบเจอ Oasis อย่างในภาพที่ถ่ายมาจากลิเบียเลย        ขอติดตามผลงานดีๆ ต่อไปครับผม ;) จากคุณ : Light Sleeper เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 07:52:58

ความคิดเห็นที่ 99 กำลังคิดอยู่ว่า ถ้าไม่ลง ที่มา ก็จะทวงซักหน่อย แต่ก็เลื่อนลงมาเจอ ที่มา พอดี เอ้าจ่ายกีบให้งามๆครับ ปล. ถ้าผมทวงสิ่งใด ไม่ใช่ "ต่อว่า" นะครับ แค่อยากให้ "เสริมบทความดีๆที่เขียนให้สมบูรณ์แบบ" จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 07:54:43

ความคิดเห็นที่ 100 แฟนคลับลงชื่อฮ๊าฟ ~ กระทู้รูปสวย สาระแน่น และ กิ๊ฟเยอะะะะ จากคุณ : Choco-Mix เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 09:35:00

ความคิดเห็นที่ 101 ขอบคุณคร้าบ ได้ความรู้เยอะจริงๆ จากคุณ : ไผทพิเชษฐ์ เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 09:45:26

ความคิดเห็นที่ 102 #76 ตลกฝืดของคนแก่ ไม่ได้ขำเลย อยากประชดไปที่อื่น หิวทินเนอร์หรือไงครับ เลยเพ้อเจ้อเรื่อยเปื่อย จากคุณ : กร เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 09:54:39 A:124.121.171.60 X: TicketID:288791

ความคิดเห็นที่ 103 ชอบความรู้ที่เอามาฝากหลายกระทู้แล้ว  ขอบคุณที่แบ่งปัน แต่อยากถามว่าคุณทำงานอะไรที่ออส เผื่อเป็นข้อมูลจะส่งลูกชายไปเรียน แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 10:02:25 จากคุณ : ss (s_thipeye) เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 10:02:06

ความคิดเห็นที่ 104 ขอบคุณค่ะ รอติดตามชมทู้ต่อไป ยก กี๊ฟ ให้ไป ล่ะนะคร้า จากคุณ : pan2551 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 10:23:50

ความคิดเห็นที่ 105 เสียดายจัง ถ้ามันยังเป็นป่าอยู่ก็ดีสิ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 11:04:00

ความคิดเห็นที่ 106 76 เราอุตส่าห์ทำความเข้าใจ ตรงไหนงงกลับไปอ่านใหม่ คุณทำให้เรากลัวการอ่านความคิดเห็นยาวๆไปเลยน่ะ 555 จากคุณ : pinksoft เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 11:48:48

ความคิดเห็นที่ 107 ความคิดเห็นที่ 47     55555...ชอบเปลี่ยนชื่อผมกันเรื่อยเลย.....ผมชื่อเจ..นะครับบังเอิญอยู่ออสเตรเลียเลย ใช้ jayaus  อ่านว่า เจ--ออส  jay-aus..ไมได้อ่านว่า จ่าย-อด หรือ  จ่า-ยอด.. จากคุณ : jayaus   จ่ายแล้วยังอดอีกเหรอคะ งั้นไม่จ่าย อิอิ จากคุณ : คุณอ่อง เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 12:14:04

ความคิดเห็นที่ 108 ความคิดเห็นที่ 107 ความคิดเห็นที่ 47     55555...ชอบเปลี่ยนชื่อผมกันเรื่อยเลย.....ผมชื่อเจ..นะครับบังเอิญอยู่ออสเตรเลียเลย ใช้ jayaus  อ่านว่า เจ--ออส  jay-aus..ไมได้อ่านว่า จ่าย-อด หรือ  จ่า-ยอด.. จากคุณ : jayaus   จ่ายแล้วยังอดอีกเหรอคะ งั้นไม่จ่าย อิอิ **************** ผมอ่านว่า  จา ยา อัส มาโดยตลอด มิน่าแปลกๆ จากคุณ : จอมมารแห่งยุค เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 13:00:24

ความคิดเห็นที่ 109 ขอบคุณครับผม จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 14:25:36

ความคิดเห็นที่ 110 ลงชื่อ ทู้ จ่าย อด ครับ จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 14:27:08

ความคิดเห็นที่ 111 #76 นี่แหละ mais ตัวจริง ทุเรศ! จากคุณ : alan the lamb เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 14:32:30

ความคิดเห็นที่ 112 เป็นคนนึงค่ะที่อ่านชื่อ จขกท ว่า จายาอุส มาตล๊อดดด แป่วว จากคุณ : ^รตี เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 15:56:38