ความคิดเห็นที่ 1 ตอบได้บางข้อครับ 2.ไม่แนะนำให้ติดกับวงจรแอร์ครับ ไม่งั้นจะตัดบ่อย หากตั้งที่ mA ต่ำ ๆ เช่น 5mA ครับ ส่วนมากจะแยกวงจรแอร์ออกมาจาก Safetycut ครับ ส่วนอุปกรณ์อื่นก็ผ่าน Safetycut  ได้ครับ 3.ติด ELCB หรือ RCCB  ก็ได้ครับ มันทำหน้าที่เหมือนกัน (แต่ RCCB ได้เบรคเกอร์มาในตัวด้วย หากติด ELCB ต้องผ่านเบรคเกอร์อีกตัว)  หากไฟรั่วถึงกำหนดก็จะตัดเลย แต่ 30mA เวลาโดนเล่นเอาชาเหมือนกันนะ ไม่รู้มีแบบ 15mA มั้ย น่าจะดีกว่าครับ แบบนี้ใช้ติดผ่านวงจรแอร์ได้เลย ที่ คอนโดผมใช้อยู่ คอนโดผมไม่มี saftycut ครับ ใช้ ELCB ผสมกับ เบรคเกอร์ครับ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 10:50:32 จากคุณ : NeoTokyo เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 10:46:05

ความคิดเห็นที่ 2 **เจไดหนุ่มขอตอบคำถามของคุณจขกท.เป็นข้อๆนะครับ** 1. เบรคเกอร์ย่อยที่ใช้คุมไฟปลั๊กกับแอร์ ผมจะใช้ตัว 32 A ส่วนตัวที่คุมวงจรไฟส่องสว่างผมจะใช้ตัว 16A เหมาะสมมั้ยครับ (อุปกรณ์ที่ใช้กับปลํ๊กก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปเช่น ตู้เย็น พัดลม ไมโคเวฟ ทีวี คอมพิวเตอร์ หม้อหุงข้าว เป็นต้น  ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นและปั้มน้ำครับ) (ตอบ) เบรกเกอร์ย่อยนั้นในภาษาช่างเขาจะเรียกกันว่า "ลูกเซอร์กิต" ครับ  โดยในกรณีของคุณจขกท.นั้นเห็นว่าจะเลือกใช้เซอร์กิต 32 A ในการคุมระบบปลั๊กและใช้ 16 A ในการคุมแสงสว่างซึ่งทั้งหมดเหมาะสมดีครับ  แต่ในส่วนของแอร์นั้นเห็นบอกว่าใช้เซอร์กิต1ตัวต่อแอร์1ตัว  ดังนั้นผมขอแนะนำว่าไม่จำ้เป็นต้องเอาเซอร์กิตที่มีแอมป์เยอะมากก็ได้ครับแค่ 10A หรือ 16A ต่อแอร์1ตัวก็เพียงพอแล้วครับ (หลักการเลือกแอมป์สำหรับ "ลูกเซอร์กิต" นั้นให้คะเนจากปริมาณการใช้ไฟฟ้าจากจุดนั้นๆเป็นหลักครับ  เช่นถ้าคิดว่าจุดไหนใช้ไฟหนักๆเช่นห้องนั่งเล่นที่มี ทีวี แอร์ คอมพิวเตอร์ พัดลม เครื่องไฟฟ้า และจุดต่อปลั๊กพ่วงเยอะๆ  ก็อาจจะเลือกแอมป์เผื่อไว้ให้สูงหน่อยก็ดีครับ  เพราะขืนเลือกต่ำไปพอเราไปใช้ไฟมากๆในคราวเดียวเซอรืกิตมันจะตัดบ่อยครับ) 2. ถ้าจะติด Safety cut  ด้วย โดยคุมทุกวงจรไฟฟ้าในบ้านเลย ได้หรือเปล่าครับ เพราะเห็นบางคนบอกว่า safety cut จะตัดบ่อย (เจตนาที่จะติด Safetycut เพื่อกันไฟดูด ไฟช๊อต ครับ) (ตอบ) สามารถทำได้ครับทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า MA ด้วย  เพราะ "เซฟทีคัท" นั้นค่อนข้างจะไวต่อความชื้นเป็นพิเศษ  ถ้าเราตั้งค่าไว้ต่ำๆก็ไม่ควรจะเอาไปพ่วงกับแอร์เพราะมันอาจจะตัดลงมาในเวลาที่เราไม่ต้องการ  แต่ผมไม่แนะนำให้แก้ปัญหาด้วยการไปตั้งค่า MA สูงๆเพราะเดี๋ยวเกิดไฟช็อคขึ้นมาจริงมันอาจจะไม่ตัดเอาซะดื้อๆครับ 3. ถ้าไม่ติด Safety cut ติดเป็นพวก ELCB หรือ RCCB (30 mA) ให้คุมวงจรที่เป็นปลั๊กแทนจะดีมั้ยครับ (ตอบ) ติดได้ครับแต่ส่วนตัวผมว่าติด "เซฟทีคัท" จะง่ายกว่านะครับ 4. เบรคเกอร์ที่ต่อจากไฟเมน ใช้ 50 A หรือ  63A ดีครับ (ตอบ) สำหรับ "เมนเบรกเกอร์" บ้านคุณจขกท.นั้นผมขอนะนำ "63 A" ดีกว่าครับ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 12:19:13 จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 12:16:46

ความคิดเห็นที่ 3 1.  เบรคเกอร์ 32 แอมป์สำหรับปลั๊ก แนะนำแบ่งเป็น 2 วงจร( ใช้เบรคเกอร์ 16 แอมป์       =2 ชุด)เวลามีปัญหาการลัดวงจรก็ยังมีอีก 1วงจรใช้งานได้ และง่ายต่อการ ตรวจเช็ต ส่วนวงจรแสงสว่าง 10 แอมป์ 2  และ3 . ตามความเห็นข้างบน 4  มิเตอร์ไฟฟ้า 15 แอมป์ ( 15/45 )  แนะนำ เบรคเกอร์ที่ต่อจากไฟเมน ใช้ 45 A แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 12:45:01 แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 12:43:59 จากคุณ : ถุงนำโชค เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 12:43:31

ความคิดเห็นที่ 4 คำถามที่อยากให้ช่วยเสนอแนะครับ 1. เบรคเกอร์ย่อยที่ใช้คุมไฟปลั๊ก กับแอร์ ผมจะใช้ตัว 32 A ส่วนตัวที่คุมวงจรไฟส่องสว่างผมจะใข้ตัว 16A เหมาะสมมั้ยครับ (อุปกรณ์ที่ใช้กับปลํ๊กก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปเช่น ตู้เย็น พัดลม ไมโคเวฟ ทีวี คอมพิวเตอร์ หม้อหุงข้าว เป็นต้น ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นและปั้มน้ำครับ) - ปลั๊กกับแอร์ควรใช้แยกกันนะครับ ส่วนพิกัดกระแสก็เหมาะสมครับ 2. ถ้าจะติด Safety cut ด้วย โดยคุมทุกวงจรไฟฟ้าในบ้านเลย ได้หรือเปล่าครับ เพราะเห็นบางคนบอกว่า safety cut จะตัดบ่อย (เจตนาที่จะติด Safetycut เพื่อกันไฟดูด ไฟช๊อต ครับ) - ปัจจุบันจะนิยมใช้ตู้ LC นะครับ จะมีเบคเกอร์ย่อยหลายๆตัว แล้วมีเบรคเกอร์ใหญ่ควบคุมอีกตัว ส่วนที่ตัดบ่อยนั้นผมคิดว่าเขาไม่ได้คำนวนกระแสเผื่อไว้ครับ สมมติช่างมาตั้งเบรคเกอร์ไว้ให้ 30 A วันเวลาผ่านไปเครื่องใช้ไฟฟ้าเรามากขึ้น กระแสไหลเกินพิกัดของมัน มันก็ตัดครับ ถ้าเอามาป้องกันไฟช็อต ใช้แบบหัวข้อบนก็ป้องกันได้ครับ เบรคเกอร์ยอยก็ตัดได้ ส่วนไฟดูดจะมีอีกแบบนึง หรือต่อสายดินก็เป็นอีกทางเลือกนึงครับ 3. ถ้าไม่ติด Safety cut ติดเป็นพวก ELCB หรือ RCCB (30 mA) ให้คุมวงจรที่เป็นปลั๊กแทนจะดีมั้ยครับ 4. เบรคเกอร์ที่ต่อจากไฟเมน ใช้ 50 A หรือ 63A ดีครับ - ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ในบ้านคุณครับ ต้องคำนวนอุปกรณ์ทั้งหมดหามาเป็นกระแส และเผื่อไว้ให้ระบบด้วยมิเช่นนั้นจะเป็นแบบข้อ 2 แต่ถ้าเลือกเลยก็ 63 A ครับใหญ่สุดไว้ดีที่สุด และ พิกัดกระแสของเบรคเกอร์ ควรน้อยกว่าพิกัดกระแสของสายไฟนะครับ ข้อนี้สำคัญ เพราะหากพิกัดกระแสเบรคเกอร์มากเกินพิกัดของสายไฟ เวลากระแสเกินพิกัดสาย เบรคเกอร์จะไม่ตัด แต่สายไฟจะละลายก่อนครับ นำมาสู่การเกิดไฟไหม้ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 13:20:57 แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 54 13:10:42 จากคุณ : อิอิ (Freedert) เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 13:05:31

ความคิดเห็นที่ 5 - วงจรกำลัง ควรใช้ 20A ขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นกับโหลดการใช้งาน วงจรแสงสว่างใช้ได้ตั้งแต่ 10A ขึ้นไปได้ ขึ้นกับโหลด และควรคำนึ้งถึงขนาดสายไฟด้วย ควรให้เบรกเกอร์ย่อยสามารถป้องกันสายย่อยได้ - สามารถติดได้ที่ main ได้เลย Safe-t-cut สามารถปรับค่ากระแสตรวจจับได้หลายระดับ หากตั้งค่าต่ำก็อาจตัดบ่อย หากระบบไฟฟ้าที่บ้านมีความบกพร่องเล็กๆน้อยๆ - จริงๆขอแนะนำให้ติดตั้งอุปกรณ์ประเภทนี้ก็เพียงพอ สำหรับการป้องกันชีวิต - การไฟฟ้า กำหนด เครื่องป้องกันกระแสเกินไว้ที่ 50A จากคุณ : สหายสายธาร เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 54 13:50:29