ความคิดเห็นที่ 1 หมายถึง ทุกห้องทั้งบ้านติดแอร์แล้วมีคอมเพรสเซอร์ตัวเดียวเปล่าอะครับ แล้วมีท่อน้ำยาที่เดินไปทุกจุดที่ติด fan coil unit  แต่ละห้องก็ปรับอุณหภูมิได้อิสระ จากคุณ : หัวโตนะ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 11:28:50

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าจะให้เดา คืออินเวอเตอร์มันคือ DC to AC converter (Inverter) ซึ่งก็หมายถึงการแปลงไฟบ้านกระแสสลับ ให้เป็นไฟฟ้ากระแสตรงเหมือนที่มาจากแบตเตอรี่ พวกนั้นโวลล์น้อยกว่าไฟบ้าน แต่ได้แอมป์มากกว่าครับ จากคุณ : โก๋ชานเมือง เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 12:59:42

ความคิดเห็นที่ 3 เครื่องปรับอากาศแบบอินเวอเตอร์ คือคอมเพรสเซอร์ที่ทำงานแบบปรับความเร็วได้ ไม่ใช่แบบหมุนเร็วเต็มที่เมื่อความเย็นได้ที่แล้วหยุดทำงานเหมือนเครื่องปรับอากาศทั่วไป ใช้วิธีการปรับความถี่ไฟฟ้าที่จ่ายให้คอมเพรสเซอร์ รายละเอียดเอาไว้รอแตงโมมายำ จากคุณ : ชมรมคนรักหมา เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 13:16:47

ความคิดเห็นที่ 4 เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ (INVERTER) articleระบบอินเวอร์เตอร์     คือ ระบบที่นำเอาความรู้ทางด้านอิเลคทรอนิกส์ ที่ควบคุมการทำงานด้วยคำสั่งจาก ไมโครคอมพิวเตอร์ ที่สั่งงานโดยตรงจากรีโมทคอนโทรน และนำคำสั่งดังกล่าวมาใช้ ควบคุมการทำงานของระบบเครื่องปรับอากาศ ให้ทำงาน ปรับอุณหภูมิ ควบคุมความชื้น ควบคุมความเย็น ให้ทำงานได้โดยอัตโนมัติ โดยใช้คำสั่งจากโมโครคอมพิวเตอร์ ระบบอินเวอร์เตอร์ทำงานอย่างไร      ในการทำงานของระบบ หลังจากที่เดินระบบให้แอร์คอนดิชั่นเนอร์ทำงานแล้ว ไมโครคอมพิวเตอร์ก็จะทำการตรวจสอบอุณหภูมิโดนทันที แล้วเลือกการทำงานเองว่าจะทำงานอย่างไร โดยการประมวลผลคำสั่งจากที่เราสั่ง การทำงานให้แอร์คอนจากรีโมทคอนโทรน ทำการตรวจสอบ และเลือกการทำงานเองว่าจะทำอย่างไร จะทำความเย็น จะไล่ระบบความชื้นในห้อง หรือ ฯลฯ ได้โดยอัตโนมัติ โดยขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละยี่ห้อนั้นๆว่า มีเซนเซอร์ใช้ตรวจสอบการทำงานอะไรบ้าง ประหยัดไฟได้อย่างไร      เพราะว่าผลจากการทำงานของระบบอินเวอร์เตอร์ มีผลต่อการควบคุมอุณหภูมิโดยตรงภายในห้องต่อมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ ทำให้ไมโครคอมสั่งการเปลี่ยนความถี่ของไฟฟ้าที่ป้อนให้กับมอเตอร์ คอมเพรสเซอร์อยู่ตลอดเวลา มีผลทำให้ความเร็วรอบของมอเตอร์ลดลง ส่งผลให้ปริมาตรการดูดน้ำยาลดลง การกินไฟของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ก็จะลดลงตามไปด้วย ทำให้เราสามารถประหยัดไฟฟ้าได้ แม่ว่ามอเตอร์จะทำงานอยู่ก็ตามแต่ก็เป็นการทำงานตามคำสั่งของไมโคร คอมพิวเตอร์ที่ควบคุมความถี่ของไฟฟ้าเท่านั้น ต่างกับระบบเดิมตรงไหน      นอกจากการทำงานจะสามารถทำให้เราประหยัดไฟฟ้าได้แล้ว ดังที่กล่าวข้างต้น แม้ว่าการทำงานของคอมเพรสเซอร์จะทำงานอยู่ตลอดเวลา ด้วยความเร็วรอบที่ช้าลง อันเป็นผลจากการควบคุมความถี่ไฟฟ้าจากการทำงานโดยวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ชึ่งเป็นผลจากการประมวลผลของไมโครคอมพิวเตอร์ และก็ธรรมดาที่อุปกรณ์ภายในตัวคอมเพรสเซอร์ชนิดนี้ ย่อมแตกต่างจากคอมแบบเดิม ไปบ้างด้วยหลักการดังกล่าว       โดยที่ระบบเดิมใช้การควบคุมการทำงานโดยการควบคุมแบบเทอร์โมสตั๊ด ควบคุมการทำงานของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ และทำงานด้วยความถี่ไฟฟ้าเดียวตลอด ทำให้การกินกระแสไฟฟ้ามากตามไปด้วย       ซึ่งแตกต่างจากระบบอินเวอร์เตอร์ที่มีการกินของกระแสไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงตาม ความถี่ของไฟฟ้า โดยการควบคุมการทำงานของไมโครคอมพิวส์เตอร์ ที่ใช้ในการควบคุมความถี่ไฟฟ้า และสามารถทำให้เราประหยัดไฟฟ้าได้ ด้วยหลักการทำงานดังกล่าว หลักการทำงานของระบบอินเวอร์เตอร์       เมื่อเราเปิดสวิทต์ไฟฟ้า และ สั่งงานด้วยรีโมทคอนโทรนแล้ว ไฟฟ้า AC 220 โวลต์ จะส่งออกไปให้เพาเวอร์ REG แปลงให้เป็น DC โวลต์ ประมาณ 200-300 โวลต์เสียก่อน      เพื่อป้อนให้กับเพาเวอร์ทรานซิสเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์แบบต่างๆเช่น จำพวกไดแอ็ก ฯลฯเป็นต้น อีกทางหนึ่งส่งผ่าน หม้อแปลงไฟฟ้าแปลงไฟเป็น DC 5-12Voltส่งให้ขา Vcc ของ ไมโครคอมพิวเตอร์(อาจจะเป็นแบบอื่นแล้วแต่ผู้ผลิต แต่หลักการเหมือนกัน) ซึ่งเป็นตัวผลิตไฟ AC 3 Plase มีความถี่อยู่ในช่วง 30-90 เฮิรตช์      โดยมีไมโครคอมรับคำสั่งสั่งงานให้อุปกรณ์เหล่านี้ทำงาน โดยรับสัญญาณมาจาก รีโมท และ สัญญาณจากเทอร์มิสเตอร์เซนเซอร์ ซึ่งเป็นตัวควบคุมอุณหภูมิอากาศภายในห้อง ผลที่ได้จากการประมวลผลของไมโครคอมพิวเตอร์ ก็จะสั่งการให้อุปกรณ์เหล่านั้นผลิตไฟ AC 3 เฟส ขึ้นมาที่ความถี่ต่างๆกันเพื่อส่งให้มอเตอร์คอมเพรสเซอร์อีกทีหนึ่ง       โดยที่มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ของเครื่องระบบปรับอากาศอินเวอร์เตอร์เป็น มอร์เตอร์ 3 เฟส ทำงานโดยรับความถี่ที่ผลิตขึ้นประมาณ 30 – 90 เฮิรตช์       ขึ้นอยู่กับการสั่งการของไมโครคอมพิวเตอร์สั่งการให้ทำงานตามโปรแกรมที่เรา ตั้งไว้ด้วยการทำงานที่ความถี่ที่แตกต่างกันนี่เอง อันเป็นผลจากการประมวลผล ของไมโครคอมพิวเตอร์ทำให้เราสามารถประหยัดไฟฟ้าได้10-30%เลยทีเดียว เครดิต: http://www.topcoolair.com --------------------------------------------------------------------------------------------- กล่าวโดยสรุปแล้ว เราใช้การจ่ายไฟฟ้าตลอดเวลา เพียงแต่เปลี่ยนความถี่ เพื่อควบคุมอุณหภูมิ ไม่ใช่การตรวจจับ และตัดการทำงานเมื่อถึงกำหนด และเริ่มการทำงานอีกครั้ง เมื่อตรวจจับว่ายังไม่ถึงกำหนดที่ตั้งไว้ จะเห้นว่า ประหยัดพลังงานที่การสตาร์ท และการรันที่ใช้งานพลังมากเกินความจำเป็นครับ จากคุณ : I_AM_Y (I_am_y) เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 13:21:45

ความคิดเห็นที่ 5 ผมอยู่โรงงานผลิตแอร์ ที่มันกำลังโฆษณานี่ล่ะ พ่อรูปหล่อชาย ชาติโยดม เนี่ยแหละ เอาสั้นๆๆขี้เกียจพิมพ์เยอะ "มันแค่เล่นคำ ให้ดูแตกต่าง" ตัวอินเวอร์เตอร์ขับ คอม ที่เราเรียกอินเวอเตอร์ มันก็คือ DC สปีดคอนโทรเนียแหละ แต่ที่โรงงานเราจะเรียก ตัวไดรเวอร์ มันไม่มีไรต่างจาก ไดกิ้น จาก โตชิบ้า และบลาๆๆๆๆๆๆ หลายคนในวงการผลิตแอร์ ยกให้ ได้กิ้น เป็นที่ 1 แต่ผมอยู่มิตซูนะ อุ๊บบบบบบบ!!!! จากคุณ : TONIO เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 13:24:50 A:119.42.66.237 X: TicketID:262204

ความคิดเห็นที่ 6 แหม .. มีคนจุดธูปเรียก อันว่า มอเตอร์ที่เรานิยมใช้กันส่วนใหญ่ คือ Induction motor ซึ่งเป็น synchronous motor ประเภทหนึ่ง ที่ความเร็วรอบ ค่อนข้างจะสัมพันธ์กับความถี่ของไฟบ้านและจำนวน pole ของขั้วแม่เหล็ก ดังนั้น การจะปรับความเร็วรอบของมอเตอร์ประเภทนี้ได้ ก็ต้องปรับที่ความถี่ไฟฟ้าที่ป้อนให้มอเตอร์ค่ะ อุปกรณ์เช่นว่านั้นเราเรียกว่า Inverter นั่นเอง โดยมันจะรับไฟบ้านมา แปลงให้เป็นไฟ DC จากนั้น ก็มีวงจรสวิทชิ่ง ในการ "สับ" ไฟตรง ให้กลายเป็นไฟ AC ตามความถี่ที่ต้องการ ซึ่งปรับไปมาได้ตามสะดวก เมื่อแอร์ทำความเย็นได้มากพอแล้ว แอร์ทั่วไป จะใช้เทอร์โมสตัทในการตัดไฟฟ้าเข้ามอเตอร์ของคอมเพรสเซอร์ จนกว่าอุณหภูมิสูงถึงจุดหนึ่ง ก็จะต่อไฟฟ้าเข้าคอมเพรสเซอร์ วนเวียนอยู่แบบนี้ ซึ่งการตัดต่อมอเตอร์บ่อยๆ ทำให้ไฟกระชากช่วงมอเตอร์สตาร์ท อีกทั้ง ตัดๆต่อๆ ความเย็นไม่คงที่อีกต่างหาก Inverter ปรับความถี่ที่ป้อนให้มอเตอร์ ตามความต้องการใช้งาน มอเตอร์เดินเบา เดินเร็วได้ตามวงจรควบคุมสั่งการ ไม่มีกระแสกระชากขณะสตาร์ทบ่อยๆ และอุณหภูมิค่อนข้างคงที่ ฉะนี้แล จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:19:08

ความคิดเห็นที่ 7 ผมเดานะครับ คำว่าทั้งระบบ น่าจะหมายถึง พัดลมคอล์ยร้อน คอล์ยเย็น ก็ควบคุมด้วย inverter ด้วยครับ ปกติ แอร์ inverter ในช่วงแรกจะเน้นไปที่ compressor ถูกควบคุมด้วย inverter แต่พัดลมที่ คอล์ยร้อนและคอล์ยเย็น จะใช้ไฟฟ้า AC ธรรมดา แต่เพื่อให้การควบคุมการทำงานทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แอร์บางรุ่นเริ่มที่จะควบคุมความเร็วรอบของพัดลมตัวเล็กๆ เหล่านี้ จากคุณ : วิศวกร เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:34:26 A:124.122.80.70 X: TicketID:191297

ความคิดเห็นที่ 8 อย่างที่คุณ #4 ว่ามา แสดงว่าอินเวอร์เตอร์แท้ต่างกันตรงที่มีไมโครคอมพิวเตอร์เป็นตัวควบคุม อิฉันเข้าใจถูกหรือเปล่าคะ? เหมือนอย่างที่คุณ #6 บอกมาเพิ่มเติม น่าจะอารมณ์เดียวกันหรือเปล่า? ที่ว่า "อุปกรณ์เช่นว่านั้นเราเรียกว่า Inverter นั่นเอง โดยมันจะรับไฟบ้านมา แปลงให้เป็นไฟ DC" ถ้าจุดเด่นอยู่ที่ Inverter แล้ว Inverter ทั่วๆ ไป จะต่างกับ Inverter แท้ทั้งระบบยังไงอะคะ? พวกเธอ จากคุณ : Pranapee Network เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 54 11:04:55

ความคิดเห็นที่ 9 อืม...ขอข้อมูลด้วยคน ช่วงนี้ร้อน อยากเปลี่ยนแอร์แล้วเหมือนกัน... จากคุณ : HelloEarth เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 54 11:15:19

ความคิดเห็นที่ 10 ค.ห.5 คนอะไรกล้าเผาบ้านตัวเอง เหอๆๆๆ ปล.บัตรผ่านอีกแล้ว น่าเบื่อจริงๆ จากคุณ : ควีนโพธิ์ดำ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 54 11:21:21

ความคิดเห็นที่ 11 ผมก็เคยอยู่โรงงานผลิตแอร์ครับ อยู่ฝ่าย Design & Developt ครับ มีความเห็นแบบเดียวกับ คคห 5 เป๊ะ มันเป็นการเล่นคำครับ จริงๆระบบอินเวอเตอร์ทุกวันนี้แทบจะไม่มีใครใช้ AC Compressor แล้วครับ แต่ไม่ว่าจะเป็น AC Compressor หรือ DC Compressor ต่างก็มีพื้นฐานแนวคิดแบบอินเวอเตอร์ทั้งนั้น ส่วนระบบการควบคุมระบบแวดล้อมอื่นๆนั้นแล้วแต่เทคโนโลยีของแต่ละเจ้า เช่นการควบคุมความเร็วมอเตอร์พัดลมบางเจ้าใช้หลักการอินเวอเตอร์เข้าควบคุมเต็มระบบ บางเจ้าใช้การปรับความเร็วเป็นลำดับขั้น ซึ่งแบบนี้ต้นทุนถูกกว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงและเพียงพอต่อการใช้งาน การซ่อมบำรุงง่ายกว่า แถมจะทนทานกว่าด้วย เพราะชิ้นส่วนควบคุมน้อยลง ดังนั้นเครื่องปรับอากาศที่มีการควบคุมรอบของ Compressor มันก็คืออินเวอเตอร์นั่นแหละครับ ส่วนอุปกรณ์แวดล้อมอื่นๆเป็นตัวช่วยให้การทำงานแม่นยำขึ้น (ยิ่งแม่นยำยิ่งแพงและต้นทุนยิ่งสูง บางทีเกินความต้องการต่อการใช้งานมาก แต่อย่างผมเนี่ยผมชอบแบบเต็มระบบครับ) จากคุณ : Free Bees เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 54 11:39:23

ความคิดเห็นที่ 12 เจอคำถามเดียวกันนี้ที่ห้องชายคา เลยขอเอาคำตอบเดียวกันมาแปะที่นี่ด้วยนะครับ ------------------------------------------------------------------------ เห็นด้วยกับบางคห.นะครับแต่ขอเสริมอะไรหน่อยครับ หากดูจากนิยาม "Inverterแท้ทั้งระบบ" ของบริษัทเครื่องปรับอากาศ ที่มีเจ้าบีเว่อร์เป็นสัญลักษณ์แล้วจะพบว่าเค้าให้นิยามมาดังนี้ครับ (เนื้อหาข้างล่างนำมาจากเว็บโฆษณาเครื่องปรับอากาศแห่งหนึ่งนะครับ) 1. แผงวงจรอินเวอร์เตอร์อัจฉริยะ PAM    ควบคุมความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์และมอเตอร์    โดยการปรับเปลี่ยนความถี่ในการทำงาน    เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้พลังงาน 2. คอมเพรสเซอร์กระแสตรง DC    สามารถปรับเปลี่ยนความเร็วรอบในการทำงาน    ให้สัมพันธ์กับอุณหภูมิห้องช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น 3. วาล์ว EEV    ควบคุมอัตราการไหลของสารทำความเย็น    เพื่อให้วงจรปล่อยสารทำความเย็นให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมที่สุด 4. มอเตอร์กระแสตรง    มีความแม่นยำในการควบคุมความเร็วรอบ    เปลี่ยนแปลงความเร็วรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเท่าที่ดูเนื้อหาเผินๆจะพบจากข้อ1-4นั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญของ เครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ที่ออกแบบในปัจจุบันอยู่แล้วครับ แต่หากถามว่าเครื่องปรับอากาศรุ่นอินเวอร์เตอร์ที่มีส่วนประกอบ แตกต่างจาก1-4นั้นมีอยู่มั้ย? ขอตอบว่ามีครับในกรณีที่เป็นเครื่องปรับอากาศรุ่นเก่าหรือ รุ่นเล็กที่ต้องการขายในราคาที่ต่ำ ที่นำAC motorมาใช้ในส่วนของมอเตอร์พัดลมยังมีอยู่บ้าง แน่นอนครับว่าประสิทธิภาพอาจจะถูกลดทอนลงไป แต่จะให้เรียกเครื่องปรับอากาศเหล่านั้นว่า"อินเวอร์เตอร์ไม่แท้" หรือไม่นั้น ผมขอไม่ออกความคิดเห็นแล้วกันนะครับ เพราะผมมองว่ามันก็คืออินเวอร์เตอร์เหมือนกัน คำว่า "แท้ทั้งระบบ" นั้นเป็นเพียงเรื่องของการตลาดเท่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นผมเข้าใจว่าระบบอินเวอร์เตอร์นั้นยากครับที่จะนำจุดเด่น ทางเทคโนโลยีมาอธิบายให้กลุ่มลูกค้าทำความเข้าใจได้จริงๆจังๆ ยกอย่างเช่น คำอธิบายในย่อหน้าถัดไปนะครับ จากคำถามคห.ที่10ที่ว่า "เขามีเทคโนโลยีอะไรที่พิเศษกว่าคนอื่นบ้างอะคะ?" ที่เห็นได้จากข้อมูลอันน้อยนิดนะครับ คือ ข้อ1. ที่มีการนำPAM controlมาใช้ หลายคนอาจจะนึกว่าPAM controlนี้เค้ารู้จักกันมานานแล้ว แต่หากกล่าวต่อให้ละเอียดคือ ชื่อเต็มๆของมันคือDual-voltage vector PAM controlครับ หลักการคร่าวๆคือ ระบบจะทำการปรับแรงดันกระแสตรงที่จ่ายให้ภาคอินเวอร์เตอร์ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะการทำงานของโหลด ณ ขณะนั้นๆ ซึ่งช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของระบบดีขึ้นครับ หากลองสังเกตชื่อ Dual-voltage vector PAM control แล้วจะเห็นว่าผมยังไม่ได้พูดถึงเทคโนโลยี อันเป็นที่มาของคำว่า"Dual-voltage vector PAM"ของมันเลยนะครับ เชื่อว่าหลายท่านที่ศึกษาหรือมีพื้นฐานทางด้านไฟฟ้ามาคงทราบว่า การอธิบายการทำงานวงจรไฟฟ้าที่มีสมการตัวแปรเข้ามาเกี่ยวข้อง ผ่านตัวหนังสือสั้นๆให้ได้ใจความนั้นเป็นเรื่องลำบากครับ ดังนั้นผมขอละไว้ล่ะกันนะครับ (หากใครสนใจผมรบกวนขอให้ไปหาในระบบสืบค้นสิทธิบัตรเองนะครับ) อาจจะมีบางท่านสงสัยว่า "อ้าวแล้วบริษัทอื่นเค้าทำยังไงกันล่ะ?" จริงๆ เรื่องการปรับแรงดันกระแสตรงนั้น เค้ามีใช้กันหลายวิธีครับ ซึ่งเป็นการควบคุมอย่างง่ายๆ ไม่ซับซ้อนโดยอาศัยจำพวก วงจรPFC อย่างง่ายหรือใช้Active filter moduleแบบสำเร็จ ซึ่งการทำงานอาจจะไม่ละเอียดเมื่อเทียบกับDual-voltage vector PAMก็เท่านั้นเองครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นผลิตภัณฑ์จะออกมาเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับนโยบาย การออกแบบของแต่ละบริษัทนั่นแหละครับ จากคุณ : nong_neko เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 54 12:42:16

ความคิดเห็นที่ 13 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 11:18:48

ความคิดเห็นที่ 14 ที่ร้านเน็ตของผมก็ใช้นะครับ inverter แท้ทั้งระบบของ Mitsubishi Heavy Duty ช่วยลดต้นทุนค่าไฟของร้านได้มากเหมือนกันครับ แล้วก็ไม่มีปัญหาจุกจิกอะไรเลย ขนาดเปิดไว้เกือบทั้งวันนะครับ จากคุณ : ความลับสวรรค์ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 13:57:38

ความคิดเห็นที่ 15 ใช้อยู่ครับ Mitsubishi Heavy Duty เทียบค่าไฟกับแอร์ตัวเก่าที่เคยใช้ ผมว่ามันประหยัดกว่าครับ จากคุณ : Nick เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 09:21:35 A:124.121.171.95 X: TicketID:308092

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณทุกรีพลายนะคะ สำหรับคำแนะนำ เห็นจุดเด่นอีกหลายข้อเลยเชียว คิคิคิ จากคุณ : Pranapee Network เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 16:47:54