ความคิดเห็นที่ 1 ผมมาถึงที่ TCDC ประมาณเที่ยงกว่า ตอนแรกก็ลังเลว่าจะกินข้าวก่อนไหม แต่ก็ตัดสินใจเข้าไปชมเลยดีกว่า ด้วยความคิดที่ว่าคงไม่เสียเวลามากหรอก เขาอาจจะแค่เอาตู้เกมมาตั้งโชว์ให้ดูเฉยๆก็ได้ แต่ปรากฎว่า ในที่สุด ผมจะอยู่ในนั้นอีกถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว... แค่เข้ามาด่านแรก ก็เอาแล้วครับ แหม ท้าทายกันเลยทีเดียวว่าคุณเป็นพวกไหน "มีคนแค่ 1 0 กลุ่มบนโลก คนที่เข้าใจระบบเลขฐานสอง และคนที่ไม่เข้าใจ" ชิชิ...ฉันเข้าใจเลขฐานสองย่ะ ถึงจะตกแคลคูลัส แต่ก็ไม่โง่ขนาดไม่รู้เลขฐานสองเป็นอะไรนะ เอาล่ะๆ ท้ากันขนาดนี้ ก็เข้าไปชมกันเลยดีกว่า ว่าประวัติศาสตร์เกมเป็นอย่างไรกันบ้าง จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:39:28

ความคิดเห็นที่ 2 เซ็คชั่นแรกของนิทรรศการเป็นการโชว์เครื่องเกมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทั้งหมด ก็เรียกกันว่าดักแก่กันเลยทีเดียว ก็ดูกันซิว่าใครจะเป็นปู่เห็นตั้งแต่เครื่องเล่นเกมแรกกันบ้าง ประวัติศาสตร์เกมนี่ต้องย้อนไปถึงปี 1947 กันเลยทีเดียว ตอนนั้นก็ยังพัฒนาเครื่องกันอยู่เลย ซึ่งหลังจากพัฒนาป๋องแป๋งกันไปมา เกมแรกๆก็ถือกำเนิดขึ้น และเกมนี้ก็เป็นเกมแรกๆของโลกเรา เกม O-X ที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:40:50

ความคิดเห็นที่ 3 วิธีการเล่นก็ไม่มีอะไรมาก ให้กด Start ตามหน้าจอ แล้วเกมก็จะเริ่ม ถ้าเกมยังไม่เริ่มก็กด Reset ได้เดี๋ยวมันก็จะเริ่มเอง จากนั้นก็ให้หมุนแผงหน้าปัดโทรศัพท์ที่มุมล่างขวา ตามช่องที่เราจะกาลงไป ซึ่งมีทั้งหมด 9 ช่อง ช่องมุมซ้ายล่างสุดคือเลข 1 แล้วนับขึ้นไป มุมขวาบนสุดคือ 9 เกมจริงๆเขาไม่ได้ใช้เม้าส์เล่น แต่เพื่อให้คนยุคนี้เล่นสบายๆหน่อย เขาเลยเซ็ตระบบใส่เม้าส์มาให้ เพราะที่ผมอ่านตรงวิธีเล่นกดคีย์บอร์ดเอานี่ก็งงเป็นไก่ตาแตกเหมือนกัน ก็ยืนเล่นอยู่นานทีเดียว ^^ ส่วนภาพข้างล่างนี้เป็นเกมเทนนิสเกมแรกของโลกครับ คุ้นตากันไหมเอ่ย (แก่ๆ อิอิ) จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:41:54

ความคิดเห็นที่ 4 หลังจากนั้น ก็เป็นการถือกำเนิดของบริษัทชื่อที่เราน่าจะเคยได้ยินกันคือ อาตาริ ซึ่งอาตารินั้น ประสบความสำเร็จกับการทำเกมตู้อย่าง Pong ซึ่งทำยอดขายได้ถึง 1 หมื่นตู้ในไม่ถึงปี ในขณะเดียวกัน ก็เกิดบริษัท แมกนาวอกซ์ ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่ทำเครื่องเกมเล่นกับโทรทัศน์ แต่ว่าไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าไหร่ เพราะสมัยนั้นโทรทัศน์มีการแสดงผลที่แย่มากนั่นเอง ภาพข้างล่างนี่ก็เป็นเครื่องเกมโทรทัศน์เครื่องแรกของโลก หน้าตาชักจะคุ้นๆแล้วใช่ไหมครับ จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:42:49

ความคิดเห็นที่ 5 แต่เกมตู้ก็ยังเป็นที่นิยมกว่าอยู่ ในยุค 80 นั้นเป็นยุคทองของเกมตู้เลยก็ว่าได้ ซึ่งสมัยนั้น เด็กอเมริกันก็จะไปสิงสถิตตามร้านเกมตู้ ถ้าใครเคยดู Back To The Future ก็ภาพนั้นเลยล่ะครับ ถ้าเป็นบ้านเรา หลายๆคนคงจะเคยจำชั้นล่างของเซ็นทรัลลาดพร้าวได้ สถิตกันอยู่ทั้งวันทีเดียว ^^ แต่แล้ว เกมก็เริ่มย้ายถิ่นฐานเข้าสู่บ้านเรือนของเราๆท่านๆ แล้วผู้ผลิตก็เริ่มมีมากขึ้นในตลาด ไม่ใช่มีแต่เพียงอาตาริเจ้าเดียวอีกแล้ว เพราะแต่ละเจ้าก็เห็นโอกาสในการแย่งชิงตลาดเกมจากความนิยมที่มีมากขึ้น ก็ลองไล่ดูภาพกันนะครับ ว่าใครคุ้นเคยเครื่องไหนกันบ้าง (ดักแก่กันเห็นๆ ^^) จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:44:28

ความคิดเห็นที่ 6 ใครเคยเล่นเกมเครื่องพวกนี้กันบ้าง เก๋ากึ้กเลยนะเนี่ย จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:45:22

ความคิดเห็นที่ 7 แต่เมื่อมีขึ้นก็ย่อมมีลง ในที่สุดอาตาริก็พบกับความล้มเหลวครั้งใหญ่ เมื่อผลิตเกมที่ไม่มีคุณภาพออกมา ทั้งที่ลงทุนไปมหาศาล ซึ่งเกมที่ว่านั่นก็ดันเป็นเกม อีที ซะด้วย ใช่แล้วครับ มนุษย์ต่างดาวของสปีลเบิร์กนั่นแหละ ซึ่งหลังจากนั้นก็เหมือนจะกลายเป็นอาถรรพ์ เพราะเกมที่ผลิตจากหนังส่วนใหญ่ก็มักจะล้มเหลวมาโดยตลอด ผลความล้มเหลวทำให้ตลาดเกมซบเซา แล้วนั่นเองก็ถึงคราวการบุกของญี่ปุ่นที่เรารู้จักกันดี นินเทนโด กับ เซกา นั่นเอง บริษัทเกมของญี่ปุ่นนั้น นินเทนโดเป็นผู้เริ่มเดินหน้ามาก่อน โดยแรกเริ่มของนินเทนโดนั้น ก็เริ่มมาจากเกมกดมือที่เราคุ้นเคยกันดี (สมัยประถม ไม่ใครก็ต้องเคยต่อคิวเล่นเกมแบบนี้มั่งล่ะ) ซึ่งเกมดังๆที่เรารู้จักกันทุกวันนี้อย่าง "ดองกี้คอง" กับ "ซูเปอร์มาริโอ" ก็เริ่มจากเกมกดนี่แหละ จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:46:30

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วในที่สุด นินเทนโดกับเซกาก็บุกตลาดอเมริกา ด้วยเครื่องเล่นเกมที่เรารู้จักกันดี ซึ่งคนไทยเราคงจะรู้จักเครื่องของนินเทนโดมากกว่า นั่นก็คือ เครื่องแฟมิคอม นั่นเอง ซึ่งหน้าตาก็ไม่ได้ต่างจากเครื่องเล่นเกมของอเมริกา แต่มีสิ่งที่กลายเป็นรากฐานในเวลาต่อมา นั่นก็คือ "จอยสติ๊ก" ซึ่งที่จริงก็พัฒนามาจากตัวกดแบบในเครื่องเกมอเมริกานั่นแหละ แต่เราจะเห็นได้ว่า แบบจอยสติ๊กของเครื่องเกมนี้ เป็นพื้นฐานที่จอยปัจจุบันก็ยังใช้อยู่ จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:47:22

ความคิดเห็นที่ 9 แต่แม้จะมีการแข่งกันของสองบริษัท แต่นินเทนโดก็ทำให้ตัวเองเป็นตำนานด้วยเกมที่โด่งดังที่สุด นั่นก็คือ "มาริโอ" ซึ่งแทบทุกคนในโลกนี้ย่อมรู้จักกันดี มาริโอนั้นปรากฎตัวครั้งแรกใน "ดองกี้คอง" แล้วหลังจากนั้นก็มีเกมของตัวเอง และปรากฎในเกมของนินเทนโดมากกว่า 200 กว่าเกม กลายเป็นเกมที่ขายดีที่สุดตลอดกาล และยังกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคสมัยอีกด้วย จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:48:20

ความคิดเห็นที่ 10 แต่เซกาก็มีเกมยอดฮิตของตัวเองเช่นกัน ซึ่งหลายคนก็คงจะรู้จักกันดี นั่นก็คือเจ้าตัวเม่นความเร็วสูงที่ชื่อ "โซนิค" นั่นเอง ซึ่งเซกาก็ตั้งใจเอามาชนกับมาริโอโดยเฉพาะ แต่ก็เป็นมาริโอที่กระโดดดึ๋งๆเก่งกว่าเจ้าโซนิค แต่กระนั้น ทั้งคู่ก็มียอดขายและความนิยมที่น่าพอใจ ซึ่งทั้งสองบริษัทก็แข่งกันพัฒนาเครื่องไปตามยุคสมัย ก็เรียกว่าไม่มีใครยอมใครกัน จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:48:52

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจากนั้น คนก็เริ่มฮิตเกมพกกัน ซึ่งก็เช่นเคย ก็มีแค่สองบริษัทเจ้าเดิมที่แข่งกันก็คือ นินเทนโด กับ เซกา นินเทนโดก็มาพร้อมกับเครื่องเล่นเกมที่ใครก็ฝันอยากจะมีคือ "เกมบอย" (นั่นแน่ ใครแก่มั่ง ^^) ส่วนเซกาก็มาพร้อมกับ "เกมเกียร์" ซึ่งดูหรูหรากว่า ไฮโซกว่า (แล้วก็แพงน่าดู) ซึ่งผลลัพธ์น่ะเหรอ เกมบอยก็ชนะขาดอยู่แล้ว เพราะเดี๋ยวนี้เขาก็ยังมีทำเกมออกมาให้อยู่ จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:49:21

ความคิดเห็นที่ 12 แต่ก็เช่นเคย ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป คนก็ต้องการอะไรที่ตื่นตาตื่นใจกว่าเดิม มากกว่าจะมาจ้องจอเล็กๆ และนั่นก็ทำให้ผู้เล่นรายใหม่เกิดขึ้นคือ โซนี่ ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องเกมในตำนาน Playstation และไมโครซอฟท์ ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องเกม Xbox แต่กระนั้นก็ตาม นินเทนโดก็ไม่ได้หายไปไหน ก็มาพร้อมกับเครื่องเกมอย่าง Wii ซึ่งก็สามารถสร้างปรากฎการณ์อยู่พักหนึ่งเลยทีเดียว จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:49:56

ความคิดเห็นที่ 13 แต่ความนิยมของเครื่องเล่นเกมพกพาก็ยังคงมีอยู่ แม้จะไม่ฮิตเท่าสมัยก่อน หลายๆที่ที่เราไปก็ยังเห็นคนพกเครื่องเล่นเกมกันอยู่ได้เสมอๆ และผู้เล่นสำคัญก็เป็นนินเทนโด กับ โซนี่ นินเทนโดก็ยังคงมาพร้อมกับเครื่อง Nintendo DS ในปัจจุบันที่มีสองหน้าจอเล่นพร้อมกัน ส่วนโซนี่ก็มาพร้อมกับ PSP หรือ Playstation Portable หน้าตาหรูหราจนหลายคนอยากจะมีติดตัว จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:50:30

ความคิดเห็นที่ 14 นั่นก็เป็นทั้งหมดของเซ็คชั่นแรก ที่ต้องบอกว่า ถูกใจคอเกมทั้งหลายอย่างแน่นอน เพราะ Retro กันชนิดอยากจะกลับไปเป็นเด็กๆอีกครั้ง เครื่องเกมที่เราไม่ได้เห็นมานานก็ได้เห็น เกมที่เราไม่เคยได้เล่นมานานแล้ว เขาก็จัดเอามาให้เล่นด้วยที่นี่ เกม Pong ก็มีให้เล่น เกม O-X บอกไปแล้ว "เกมมาริโอ" นี่ตั้งสเตชั่นไว้ให้เล่นกันเลยทีเดียว เครื่องเกมหลายเครื่อง เห็นแล้วอดใจจะไม่ได้ แทบอยากจะทุบตู้เอากลับบ้านเลย ^^" ประวัติของเครื่องเกมและความเป็นมาก็ทำได้ดีมาก สรุปกระชับและเข้าใจง่าย เรียกว่าเดินในเซ็คชั่นนี้เท่านั้น คุณจะรู้ประวัติศาสตร์เครื่องเล่นเกมทั้งหมดจนยัน Playstation 3 เลยทีเดียว จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:51:08

ความคิดเห็นที่ 15 นี่ยังเป็นแค่เซ็คชั่นแรกนะครับ ยังเหลืออีก แค่นี้ก็ยาวมากแล้ว แล้วเดี๋ยวจะมาเล่าต่อครั้งหน้าครับ ยังมีความสนุกรออีกมาก สมกับเป็นนิทรรศการ DigiPlay จริงๆ ใครที่ยังไม่ได้ไป ต้องรีบไปนะครับ เห็นว่าเขาจะจัดถึงแค่ 11 พฤษภาคมนี้เท่านั้นแล้ว ก่อนจะไปก็ขอฝากคำคมที่โดนมากที่เจอที่นิทรรศการครับ แล้วเจอกันตอนที่สอง (ตอนจบ) ครับผม... . . ก็สามารถเข้าไปชมรีวิวฉบับเต็มได้ที่บล็อกของผมนะครับ เอาลิงก์มาให้กดอีกครั้ง จะมีรูปอะไรให้ชมเต็มอิ่มขึ้น http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=catcakemaru&month=03-05-2011&group=7&gblog=4 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 20:54:23 จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:52:36

ความคิดเห็นที่ 16 ถึง11 หรือ 1 อ่ะครับ เห็นในภาพแรกมันเป็น 25 Mar - 1 May ถ้ายังไม่หมดผมจะหาเวลาไป จากคุณ : TzerC เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 21:31:02

ความคิดเห็นที่ 18 11 พฤษภาคมครับ วันที่ไปตอนแรกเขาจะขยายไปถึง 22 โน่น แต่เห็นข่าวล่าสุด หมดวันที่ 11 พฤษภาคมนี้แล้วครับ ^^ จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 21:49:37

ความคิดเห็นที่ 19 อ่ะ ขอบคุณมากครับ อาทิตย์นี้จัดชัวร์ ในงานเค้าให้ถ่ายรูปได้มั้ยครับ ถ้าถ่ายได้ใช้แฟลชได้มั้ยอ่าครับ จากคุณ : TzerC เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 21:53:46

ความคิดเห็นที่ 20 **แก้ไขโพสซ้ำ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 21:54:55 จากคุณ : TzerC เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 21:54:13

ความคิดเห็นที่ 21 ก็ถ่ายกระหน่ำเลยล่ะครับ รู้สึกจะไม่ห้ามครับ เพราะเห็นคนก็ถ่ายรูปกันเยอะแยะเหมือนกัน ^^ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 22:01:44 จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 22:00:41

ความคิดเห็นที่ 22 โอ้ว ขอบคุณมากครับ  จัดที่เอ็มโพเรี่ยมด้วย ไม่ใกล้ไม่ไกล ไปดูเว็ปของ TCDC มา เพิ่งรู้ว่ามีนิทรรศการเจ๋งๆเยอะเหมือนกันแฮะ จากคุณ : TzerC เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 22:12:12

ความคิดเห็นที่ 23 SFC แหละ จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 22:33:59

ความคิดเห็นที่ 24 ที่กดไลค์ไปนั้นแปลว่าข้าพเจ้าได้เล่นทุกเครื่อง ps3 Wii ไม่ได้เล่นละ แก่แล้ว จากคุณ : ลมหายใจของดอกไม้ เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 23:28:36

ความคิดเห็นที่ 25 ใครสนใจปู่ของวงการวีดีโอเกม เชิญชมคลิปรีวิว Magnavox Odyssey โดยอีตาเจมส์รอฟท์ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 54 00:21:12 จากคุณ : GrooVe_(t -_-)t เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 00:19:55

ความคิดเห็นที่ 26 แจ่มมากครับรับปัย 3 กิ๊ฟ จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 00:20:10

ความคิดเห็นที่ 27 มาทันเอาตอน #8 นี่แหละ  555  คงไม่แก่เท่าไหร่ จากคุณ : Zew เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 00:28:11

ความคิดเห็นที่ 28 555+ ทันที่ #8 เหมือนกันครับ จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 00:51:33

ความคิดเห็นที่ 29 # 8 คอนท่า     30 ตัวมาเลย  ตึง เฉ่ (พอเริ่มเกมต้องกระโดดยิงก่อนเลย) # 11  จอขาว ดำ  แย่งกะเพื่อนเล่นมาริโอ สมัยประถม # 12 หนี โรงเรียนไปเล่น army men , เกมแข่งรถทามิยา ฯลฯ (ที่ไม่เล่นคือ วินนิ่ง เพราะในร้านคนเล่นเยอะ ไม่กล้าเล่น เพราะกาก เลยเล่นไม่เป็นจนทุกวันนี้) ใหม่กว่านี้ก็ไม่เคยเล่นแล้ว เล่นคอมฯ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 54 13:36:32 จากคุณ : monasa เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 02:45:27

ความคิดเห็นที่ 30 ขึ้นๆ ลงๆ ซ้ายขวา ซ้ายขวา  b a select start จากคุณ : endocrinex เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 11:43:16

ความคิดเห็นที่ 31 ทันตั้งแต่ คห.7 เป็นต้นมาเลยอ่ะ -*- สมัยตู้เกมส์ระบาด หนูไม่ได้สถิตอยู่ชั้นใต้ดินเซ็นทรัลลาดพร้าวนะคะ แต่หนูอยู่ ชั้น 6 มาบุญครอง 555+ จากคุณ : Sith Lord Nindle เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 13:15:44

ความคิดเห็นที่ 32 สถิตกันคนละที่ ของผมเจอเพื่อนลากไปเซ็นทรัลลาดพร้าวตลอดเลยครับ ^^" จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 14:08:19