ความคิดเห็นที่ 1 กา "ไม่ออกคะแนน" จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 11:46:48

ความคิดเห็นที่ 2 เลือกพรรคใหญ่สักพรรค พรรคกลาง-เล็ก เอาเข้าไปทำไม? จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 11:54:02

ความคิดเห็นที่ 3 เลือกพรรค ขนาดกลาง เพือให้เป็นปัจจัยทางการเมืองตัวใหม่ อุปสงค์ กับอุปทาน อาจเปลี่ยนแปลงได้ จากคุณ : labor_pu เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 11:57:33

ความคิดเห็นที่ 4 เลือกคนที่คิดว่า"ดีที่สุด"(-1ก็ยังดีกว่า -5 ล่ะวะ)ที่อยู่ในเขตเลือกตั้งของเรา ไม่ว่าจะมาจากพรรคไหน เพราะคนคนนั้นจะเป็นสส.ที่จะต้องเข้ามาดูแลพื้นที่ของเรา ระดับมหาภาคมันเละเทะพึ่งไม่ได้ไปหมดแล้ว เลือกแบบจุลภาคเนี่ยแหละ ถ้าทุกพื้นที่ยกระดับดีขึ้นนิดนึง ภาพรวมของประเทศมันก็ดีขึ้นอีกนิดนึง ส่วนเรื่องใหญ่ๆ แบบยกระดับทั่วประเทศอะไรแบบนั้น มันคงไม่ได้มีผลมาจากการเลือกตั้งซักเท่าไรหรอก เพราะมันต้องพึ่งบุคคลอีกมากทั้งที่อยู่ในระบบรัฐสภา ภาครัฐและ ภาคเอกชน สส.เวลายกมือมันเป็นเกม เอาใครไปนั่งมันก็ยกไปตามเกม ดังนั้นในระดับมหาภาคผมว่า สส. แทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย เลือกแบบที่ตอบโจทย์พื้นที่ดีกว่า นี่เป็นทัศนของผมนะ ผมทำของผมแบบนี้มาตลอด จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 11:59:40

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าทุกพรรคดีเท่ากันให้เลือกพรรคใหญ่ ถ้าทุกคนเลือกพรรคใหญ่จนมีคะแนนเสียงมากๆๆ จะทำให้คุมสภาได้ และมีความมั่นคงของรัฐบาล ทำให้นโยบายต่อเนื่อง การเลือกพรรคเล็กหรือพรรคกลาง ทำให้ไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ดังนั้นไม่ควรเลือก การ vote no หรือไม่ไปเลือกตั้ง จะทำให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ แต่ผู้สมัครคนเดิม ก็ไม่ได้อะไรนอกจากเป็นการวนลูปเฉยๆ ว่าแต่ว่าไม่ได้ใช้ game theory - -' จากคุณ : ต้นป้องก้า เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 12:00:19

ความคิดเห็นที่ 6 อยากเลือก ปธน. มั่ง มีคนสองคนออกมาโม้ มาโต้คารม ให้ฟังก่อนวันเลือกตั้งบ่อยด้วย อิอิ : ) จากคุณ : SuicideJumper เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 12:07:36

ความคิดเห็นที่ 7 กาช่องไม่ลงคะแนน แล้วขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวดีฟร่า จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 12:07:46

ความคิดเห็นที่ 8 คิดเหมือนคห.5 เปี๊ยบ จากคุณ : jengchai เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 12:16:31

ความคิดเห็นที่ 9 ฉีกบัตรเลือกตั้งทิ้งแล้วเดินเข้าคุก จากคุณ : โจโฉผู้ปลอมราชโองการฮ่องเต้ เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 12:19:04 A:58.8.67.59 X: TicketID:065895

ความคิดเห็นที่ 10 #6 ผมเห็นด้วยนะ ที่จะให้แคนดิเดทนายกมาเถียงวาทีเอ้ย โต้วาทีก่อนจะเลือกตั้ง จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 12:19:36

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่มาม่านะครับ ในททางเศรษฐศาสตร์ ยิ่งธุรกิจมีคู่แข่งมาก ยิ่งเกิดการแข่งขัน ผู้บริโภคก็จะได้ผลประโยชน์ แต่ในทางการเมืองเป็นเรื่องตรงกันข้ามครับ ยิ่งมีพรรคเล็กพรรคน้อยมาก ยิ่งไม่เกิดการแข่งขันเชิงนโยบาย เพราะมัวแต่จัดการเรื่องมุ้ง  แต่ถ้าเป็นการเมือง ระบบสองพรรคหลัก จึงจะเกิดการแข่งขันเชิงนโยบายครับ ประเทศที่เจริญแล้วส่วนใหญ่จึงนิยมระบบสองพรรคหลัก(และอาจมีพรรครองบ้าง)ครับ ดังนั้นเลือกพรรคใหญ่ที่เลวน้อยที่สุดครับ จากคุณ : todtoh เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 12:28:21

ความคิดเห็นที่ 12 ยังไม่เป็น ทฤษฏีเกม ครับ เพราะถ้าตั้งสมมติฐานว่านักการเมืองแต่ละพรรคแย่พอกัน มันจะคล้ายกับตลาดเสรี ที่เลือกพรรคไหนก็ไม่ต่างกันแบบนี้ คนก็จะไม่มีแรงจูงใจในการเลือกตั้ง ส่งผลให้คนมาเลือกตั้งน้อยลง แต่ความจริงมันไม่ใช่ครับมันมีความแตกต่าง สิ่งที่จะทำให้พรรคเข้าสู่เกมคือ นโยบาย ความน่าเชื่อถือ ภาพลักษณ์ และฐานคะแนน และสุดท้ายจะเหลือเพียงพรรคใหญ่ๆ ไม่กี่พรรคครับ บ้านเราก็สองพรรค (ประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็ 2 พรรคครับ) ดังนั้นการแข่งขันจุดุเดือดสุดก็คงดูที่นโยบายครับว่านโยบายพรรคใหน ทำให้คนส่วนใหญ่มีความพอใจมากขึ้นหากทำได้จริง ก็อาจจะมีคะแนนเสียงมากขึ้น ผมก็เลือกตาม #11 เลือกพรรคใหญ่ โดยใช้ปัจจัยต่างที่ผมกล่าวไป แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 54 12:59:24 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 54 12:59:21 จากคุณ : poobas เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 12:58:55

ความคิดเห็นที่ 13 ต้องเลือกพรรคใหญ่ ยังไง มันก็มีแค่สองฝั่ง เลือกไปเลยฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ถึงมันไม่น่าเลือกทั้งคู่ แต่คิดดูนะ ถ้าเราไม่เลือก คนอื่นเค้าก็เลือกให้เราอยู่ดี อย่างน้อยเสียงหนึ่งของเรา อาจจะเป็นแรงจูงใจให้คนรอบข้างบ้างไรบ้าง มีส่วนร่วมหน่อย ยังดีกว่าเป็นคนบ่นอย่างเดียวนะ คิดว่า จากคุณ : Black-White&Gray เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 13:09:27

ความคิดเห็นที่ 14 อยากเลือกประธานาธิปดีครับ จากคุณ : tomorrow night เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 13:10:06

ความคิดเห็นที่ 15 ชอบกระทู้นี้นะครับ มันทำให้ได้แนวคิดอะไรกลับมาบ้างเหมือนกัน ของผมก็คงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดนั่นแหละครับ ถ้าไม่มีดีก็คงเลือกสิ่งที่แย่น้อยที่สุด จากคุณ : paween_a เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 13:25:08

ความคิดเห็นที่ 16 เลือกฝั่งที่ชอบที่ชอบ แล้วทำใจยอมรับผลการเลือกตั้ง น่าจะดีที่สุด เลือกตั้งไม่ยาก แต่ยอมรับผลการเลือกตั้งยากกว่า จากคุณ : ari เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 13:34:06 A:125.24.98.14 X: TicketID:313880

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่เลือกพรรคที่ไม่รับใช้ทหาร รับใช้สิ่งที่อยู่นอกระบบ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 54 13:40:44 จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 13:38:53

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนนี้อยากเป็นเมืองขึ้นอาณานิคมครับ จะได้มีโอกาสเรียนรู้พฤติกรรม จากคุณ : 666 เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 13:41:43 A:183.89.123.226 X: TicketID:295253

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นตาม คห.5 จากคุณ : nopex เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 14:07:30

ความคิดเห็นที่ 20 คิดอีกครั้ง ถ้าสมัยก่อนฝรั่งเอาไทยเป็นเมืองขึ้น ตอนนี้เมืองไทยอาจจะพัฒนาไปมากกว่าตอนนี้ก็ได้ ++++++++ หลาย ๆ อย่างคงไม่เป็นกงกรรมกงเกวียน หมุนไปหมุนมาอย่างนี้ อาณาเขตประเทศไทยคงแยอะกว่านี้ เคยมีคนบอกว่าหลังประเทศตะวันตกให้เอกราช ประเทศแถวนี้ มีคนบอกว่าทำไมไม่ท้วงดินแดนที่่ตะวันตกเอาของไทยไป มีคนบอกว่าถ้าขอคืน ตอนนั้นอาจจะคืนก็ได้ (แต่ก็นั่นแหละ ที่ฝรั่งใ้ห้เอกราช ก็เพราะในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปสัญญาว่าถ้าช่วยรบ จบสงครามแล้วจะให้เอกราช) หลาย ๆ คนบอกว่า เราควรภูมิใจในเอกราชของเรา แต่ผมว่าในยุคนี้ หรือก่อนหน้านี้ ตอนนี้ เมืองไทยไม่ต่างจากเมืองขึ้นของฝรั่้งบางชาติ ความวุ่นวายทุกวันนี้ไม่แน่ อาจเป็นฝีมือของ ชาติที่ว่านี้ก็ได้ จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 14:11:45

ความคิดเห็นที่ 21 เลือกพรรคใหญ่สักพรรคหนึ่ง การเมืองจะมีเสถียรภาพ เสถียรภาพในที่นี้อาจจะดี หรือเลวก้ได้ แต่อำนาจจะอยู่กับคนใหญ่ๆในพรรค กำหนดทิศทางนโยบายได้ จะเอาไงก้ว่ามา จะได้หาคนด่าได้ถูกตัว(ดูทุกวันนี้สิ พรรคนี้บอกผมไม่เกี่ยว พรรคนั้นบอกผมไม่ได้ทำ อีกพรรคบอกต้องไปถามพรรคนู้น) ถ้าเลือก กระจายพรรคเล็กพรรคน้อย จะมีแต่การต่อรอง แม้ภายในพรรคเดียวกันก็มีการต่อรองของแต่ละกลุ่ม แต่เมื่อเป้นพรรคเดียวกัน มันสะบัดตูดหนีไปอยู่อีกฝั่งลำบากกว่ามาก ในขณะที่ถ้าเป็นคนละพรรค ข้อเสนอไม่พอใจ สามารถย้ายข้างวันพรุ่งนี้ได้เลย ดังนั้น อำนาจการตัดสินใจของรัฐบาลจะเหลวเป๋ว เพราะมีแต่คนใหญ่ คนต่อรองกันเยอะไปหมด ถ้าจะร่วมรัฐนาวาเดียวกัน ก็อยู่พรรคเดียวกันไปเลยก็หมดเรื่อง การตั้งเป็นพรรคเล็กพรรคน้อย แสดงถึงความไม่ใจ พร้อมจะชิ่งกันได้ทุกเมื่อ vote no ก็เป็นการแสดงเจตนารมย์ที่ดีนะ ผมว่า แต่ตามเกมแล้ว ถ้าโหวตโนเยอะกว่าในเขตนั้น จะได้แค่จัดการเลือกตั้งใหม่ ไปเรื่อยๆ ไม่ไปเลือกตั้ง อันนี้นู้บมาก คือทำเป็นอินดี้ ไม่สนใจการเมือง จริงๆคือไม่ใส่ใจ แล้วแบบนี้จะมีหน้าไปด่านักการเมืองได้อย่างไร ในเมื่อเขาให้ไปเลือกก็ไม่ไป แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 54 14:18:18 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 54 14:17:14 จากคุณ : Sial เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 14:12:25

ความคิดเห็นที่ 22 ใช้สิทธิ์ออกไปเลือกตั้งทุกคน ให้คะแนนที่ท่านมีโดยพินิจพิเคราะห์ด้วยผลประโยชน์ส่วนใหญ่ของประเทศ มิใช่ด้วยผลประโยชน์ส่วนตัวของตนเอง กาคะแนนหย่อนบัตรแล้ว กลับบ้านสวดมนต์ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครองประเทศชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ด้วยดี จากคุณ : ลุงเต่า เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 14:30:37

ความคิดเห็นที่ 23 ขอให้เลือกพรรคใหญ่ครับ ผมว่าถ้าใครชนะเด็ดขาดโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาพรรคร่วมอื่นๆ เหตุการณ์น่าจะสงบ ชัดเจนมากขึ้น โดยแบ่งเป็นสองพวก 1.เกลียด/เบื่อ ปชป.-อภิสิทธิ์ ให้ลือก เพื่อไทย 2.เกลียด/กลัว ทักษิณ-เสื้อแดง ให้เลือก ปชป ยังไงเวทน้ำหนักดู ว่าไปทางไหนมากกว่า ออกแนวดิจิตอลไปเลยครับ มีแค่ 0 กับ 1 โดยThresohold = 0 ไม่มีเทาๆ กลางๆ เลือกฟันโช๊ะไปเลยครับ จากคุณ : ลุงเต่า เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 14:37:09

ความคิดเห็นที่ 24 vote NO ไม่ทำให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ครับ เพราะเขาบอกว่ามีเสียงแค่ 20 เปอร์เซนต์ก็ได้เป็น ส.ส. เสียง vote NO ไม่น่าจะมากขนาดนั้น จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 14:38:24

ความคิดเห็นที่ 25 เลือกพรรคที่เราชอบที่สุด (หรือไม่ชอบน้อยที่สุด) ครับ ไม่ต้องไปสนใจขนาดพรรค จากคุณ : ผลึกความคิด เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 15:33:02

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าเลือกพรรคใหญ่ มีโอกาสที่ระบบการเมืองจะมีเสถียรภาพสูง การดำเนินนโยบายใหญ่ๆ จะทำได้สะดวกมากกว่า (ได้เค้กก้อนใหญ่ง่ายกว่า) เทียบตัวอย่างง่ายๆ สมมติโครงการรถไฟฟ้า หรือรถไฟรางคู่ แล้วรัฐบาลมีพรรคใหญ่ 2 พรรค ก็แบ่งกันทำคนละพื้นที่ ใครกินใครล้มไป 1 อีก 1 ก็ยังพออยู่ได้ แต่ถ้ารัฐบาลมีแต่พรรคเล็ก ก็คงต้องแบ่งเค้กให้ย่อยลงไปอีก ทีนี้ การทำงานก็จะไม่เป็นระบบ สมมติ 5 พรรค แบ่งเค้กกันคนละสถานี เกิด พรรคนึงทำสถานีที่ 3 ไม่เป็น ก็เจ๊งทั้งระบบ แต่ถ้าพรรคใหญ่ไม่มีคุณภาพภายในพรรคเอง ตีกันภายในพรรคเอง แบบนี้ก็ไม่น่าเลือกครับ จริงๆเงื่อนไขต่างๆยังมีอยู่อีกเยอะ เช่น พรรคไม่เคยทำตามนโยบายได้ รวมถึงนำเสนอนโยบายแต่ไม่เคยคำนึงถึงต้นทุนการทำนโยบาย อะไรพวกนี้อีก ลองอ่านจากหลายๆความเห็นดูคงมีมุมมองใหม่ๆมากขึ้นล่ะครับ จากคุณ : TheShadow เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 15:58:06

ความคิดเห็นที่ 27 เบื่อการล้ม Majority Government ของประเทศไทย จากคุณ : iamdanai เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 16:10:57

ความคิดเห็นที่ 28 ... ความเห็นที่ 6 และ 14 บอกว่าอยากเลือกประธานาธิบดี ความหมายที่เป็นไปได้ มี 2 อย่าง คือ อยากเปลี่ยนสัญชาติ หรือ อยากเปลี่ยนการปกครอง เป็นประชาธิปไตยที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข ......โปรดระวังความเห็นด้วยครับ จากคุณ : Axiom of Choice เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 16:17:55

ความคิดเห็นที่ 29 ผมว่าต้องใช้หลักอุปสงค์-อุปทานครับ ถ้าพรรคไหนสนองความต้องการของประชาชนได้โดนใจที่สุด พรรคนั้นก็ได้รับเลือกไป เช่นเดียวกัน ถ้าพรรคใดๆสนองต่อความต้องการของ...ได้โดนใจที่สุด ก็จะอยู่ได้นาน จากคุณ : NoungWarit เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 16:46:51

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่รู้ว่า2พรรคเป็นไง แต่2พรรคกว่าๆกลายเป็น พรรคใหญ่ ไม่ได้เป็นรัฐ แต่พรรคกว่าๆ กลับได้เป็นรัฐแน่ๆ ตามเกมที่ผมเล่น  ถ้าพรรคใหญ่ 1 กับ2ไม่จับมือกันแน่ๆ กลายเป็น พรรคที่3จะได้เป็นรัฐแน่ๆ โดยที่อีก2พรรคไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ จริงๆผมว่าน่าจะแบ่งกันบริหาร (หรือหาผลกำไร) ตามสัดส่วนอำนาจที่มี(คะแนนเสียง) ถ้าอยากได้ฝ่ายค้าน ก็ทำเป็นเหมือนคนละแผนก ค้านกันก็ได้ จริงๆผมคิดแบบจำลองที่ไม่ต้องมีรัฐอยู่ 1 ก็จ่ายเองทุกอย่าง ไม่ต้องมีภาษีเข้ากองกลาง หรือ 2 เลือกตั้งประมูลทุกคน ทุกโครงการ(อาจจะมีเลือกตัวแทนได้) กำหนดผลที่ได้ และทรัพย์กลางที่ใช้อย่างชัดเจน รวมถึงระยะเวลาด้วย เข้าเรื่อง ประเดนเรื่องสเถียรภาพเมื่อมีหลายพรรค จะหายไป คือ เมื่ออำนาจและผลประโยชน์ถูกจัดอย่างสมดุลย์ สงครามและการเปลี่ยนแปลง จะลดลง เพราะแรงขัดแย้งมันไม่เพียงพอ ทั้งนี้ก็ยังตั้งอยู่บนทุนนิยม โดยละทางสังคมไว้ก่อน ตอบคำถาม ถึงใหญ่ แต่ถ้าไม่ดี ลองไปเลือกพรรคทางเลือกดู แล้วถ้าพรรคที่คุณเลือก ดีพอ เดี๋ยวเค้าก็หาฝ่ายที่ดีเข้าเอง แต่วิธีเลือกตั้งแบบคนละคะแนน การแบ่งมาเลือกอีกพรรค ต้องระวังเรื่องการแข่งกันเอง แล้วอีกแนวตรงข้ามได้ไปแทน แล้วระบบคนละ1เสียงเท่ากันนี่ ทำไมตอนจ่ายภาษี ต่างกัน การจะเอาภาษีไปใช้ กลับมีสิทธิเท่ากัน อันนี้ น่าจะเป็นส่วนที่เรียกว่า สังคมนิยม (ความหมายตรงศัพท์ แต่อาจจะไม่ได้ตรงตามนิยามที่ใช้ๆกัน) ถ้าจะเป็นทุนนิยมจริงๆ ก็ต้องมีสิทธิตามภาษีที่จ่าย ส่วนประเดนเรื่องการกันการผูกขาดเป็นอีกประเดนนึง คือ พูดตรงๆเลยนะครับ เห็นนโยบายออกมา มอไซด์บ้าง แท็กซี่บ้าง นี่คือ ผู้กำหนดอนาคตของประเทศหรือครับ ตรงนี้ ไม่ใช่อะไร คนส่วนใหญ่สามารถ ใช้จ่ายภาษีของคนส่วนน้อย อย่างไรก็ได้ งั้นหรือ นี่หรือคือสิ่งที่ หลายๆชีวิตต้องสละไปเพื่อให้ได้มา ค้านตัวเองเรื่องทุนนิยมนิดนึง จริงๆจะบอกว่าทรัพย์สินเป็นของคนๆใด คนหนึ่งไปเลย ก็ไม่ถูกต้องนัก เข้าใจว่าสมัยจอมพลป. ที่ใช้ทุนนิยม ก็เริ่มจ่ายเงิน เข้ากับองกรณ์ใหญ่ เป็นหลัก (โดยหวังว่าจะกระจายมาสู่ส่วนเล็กๆ) เพราะฉะนั้น ความเป็นเจ้าของเงินในขั้นแรก ก็ไม่ได้กระจายอย่างยุติธรรม ความเป็นเจ้าของปัจจุบัน ก็อยู่บนพื้นฐานของทุนนิยม มันสัมพัทธ์กับระบบเศรษฐกิจอยู่ ไม่ใช่สัมบูรณ์ สรุป มันไม่ตรงกับเกมปัจจุบัน เด๋วมาต่อ จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 17:30:33

ความคิดเห็นที่ 31 จริงๆแล้ว ผมเคยสงสัยตั้งแต่ตอนมีการปฏิรูปรัฐธรรมนูญในปี2540 ว่ามีการแบ่งการเลือกตั้งเป้นแบบเขต และบัญชีรายชื่อ น่าจะหมายความว่า เสียงข้างมากที่มาจากด้านบัญชีรายชื่อ น่าจะได้เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล และส่วนน้อยน่าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในฝ่ายบริหาร หรือไม่ก็ข้ามไปอยู่ฝ่ายนิติบัญญัติเลย แต่กลับกลายเป้นว่า เป็นการนำเสียงทั้งสองแบบมารวมกัน และใช้เสียงข้างมากที่ได้รวมแล้วมาจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งผมมองว่า มันไม่ค่อยแยกแยะ ระหว่างความต้องการของประชาชนที่มุ่งหวัง อยากได้ฝ่ายบริหารในแบบหนึ่ง และอยากได้ฝ่ายนิติบัญญัติในแบบหนึ่ง มันเลยเหมือนกั๊กว่า เลือกฝ่ายบริหารแล้ว ยังต้องได้เลือกฝ่ายนิติบัญญัติข้างมากไปด้วย ซึ่งอาจจะทำให้กลไกการตรวจสอบลดน้อยถอยร่นไป ถ้าเราทำแบบแยกเลือกฝ่ายบริหาร กับฝ่ายนิติบัญญัติได้ ภาพที่ใครต่อใครอยากเลือกแบบการมีประธานาธิบดีมันก็คล้ายๆกันครับ การที่เสียงในสภามีความเป็นอิสระ แม้จะในพรรคเดียวกัน หรือในขั้วเดียวกัน ผมคิดว่ามันจะดีกว่านี้ และทำให้ภาพของการซักฟอก หรืออภิปรายในโอกาสต่างๆของสภาดูมีราศี ดูมีความน่าเชื่อถือ และเป้นประโยชน์มากกว่าครับ เช่นกัน ในการที่เราเลือกแบบบัญชีรายชื่อ น่าจะทำให้มองเห้นภาพฝ่ายบริหารที่อยากให้มี ได้ชัดเจนกว่าที่เป็น อาจไม่ตรงกับหัวข้อของกระทู้ครับ ต้องขออภัยด้วยครับ ไม่ได้อ้างอิงทฤษฎีเกม แต่คิดว่าทฤษฎีเกมไม่น่าจะอธิบายการเลือกตั้งได้ จากคุณ : I_AM_Y (I_am_y) เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 17:43:50

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้ามันห่วยกันทุกคน จะกาไม่ลงคะแนน ก็เท่ากับเรายอมรับเสียงที่เหลือโดยไม่สนใจว่าเค้าจะเลือกใคร เหมือนกับโยนสิทธิ์ของเราให้กับใครก็ได้ ครั้นจะทำบัตรเสียเพื่อกันสิทธิ์ ก็เป็นอีกช่องทางที่อาจทำให้คนที่ดีที่สุดในกลุ่มห่วยที่สุดเข้ามาบริหาร เพราะหนึ่งเสียงก็มีค่า สำหรับผม   เท่าที่ผ่านมา  ถ้าเลือกไม่ได้จริงๆ คงต้องดูจากผลงานที่ผ่านมา ว่าใครให้ประโยชน์กับประเทศมากที่สุด โดยไม่ดูในด้านเสีย   เพราะบางครั้ง คนที่คิดว่าทำอะไรถูกต้อง แต่ก็ไม่ได้ทำให้การพัฒนาเกิดขึ้น จะว่ายังไงก็ช่าง  แนวคิดนี้เอาความพัฒนาของประเทศเป็นหลักในการตัดสินใจ เพราะเท่าที่เห็นตอนนี้ "ห่วยแตก" กันทุกคน   ล้วนแต่เป็นนักการเมืองอาชีพทั้งสิ้น  ไม่มีสักคนที่เรียกว่า ผู้อาสาเข้ามาบริหารบ้านเมือง คนพวกนี้ หากไม่เล่นการเมือง ชีวิตก็จะหยุดเจริญ  "นักการเมืองอาชีพ" จากคุณ : ปืนเถื่อน เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 18:08:51

ความคิดเห็นที่ 33 ประเด็นคือ ถึงเราจะยึด ทฤษฏีเกมส์ หรือเล่นตามเกมส์ แต่ ก้ยังมี กลุ่มที่อยู่นอกเหนือเกมส์อยู่อีกนะครับ (นอกกฏ หรือ นอก รธน. ) ที่คนเล่นอยู่ อาจจะโดน เปลี่ยนกฏกลางสนามได้หน่ะครับ ทฤษฏีเกมส์ เลยไม่น่าจะใช้ได้ กับ การเลือกตั้ง ... หรือต่อให้ เอา กลุ่มนอกเกมส์นั้น มาคิดค่าในเกมส์ได้ ( คล้ายๆ ตัวยูริ ใน RA2 ) ก็อาจจะโดนมายด์คอนโทรลได้ ... จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 18:10:43

ความคิดเห็นที่ 34 เลือกพรรคใหญ่ครับ จากคุณ : macenjoy เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 18:23:00

ความคิดเห็นที่ 35 ห่วยทุกตัวเลือก ทั้งในเกมส์และนอกเกมส์ จากคุณ : tanakeme เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 18:26:11

ความคิดเห็นที่ 36 เป็นบทสรุป ที่ได้จากการสังเกตของผมเอง แม้วพูด = ขายฝัน . . . . . . . . มาร์คพูด = ผายลม จากคุณ : ก็มันเรื่องจริง เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 18:46:02 A:110.169.177.209 X: TicketID:294443

ความคิดเห็นที่ 37 อยากให้มีการเลือกตั้งนายก ไม่อยากให้มีการเลือกตั้งประธานาธิปดี ส่วนเรื่องพรรค คิดว่าเลือกขนาดกลางดีกว่า ถ้ามันไม่ดีเลยทุกพรรค คิดว่าพรรคขนาดกลางความเน่าไม่น่ากินไปลึก ยังพอตัดเนื้อร้ายออกได้ จากคุณ : DevilDoll เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 18:47:25

ความคิดเห็นที่ 38 อืม ผมถือตามหลักพื้นฐานของการเลือกตั้งนะครับ เลือกพรรคที่ดีที่สุด (หรือ แย่น้อยที่สุด) โดยไม่ต้องสนถึงขนาดของพรรค หรือ ผลกระทบว่าจะได้หรือไม่ได้ตามที่เลือก ถ้ามีการเสนอนโยบายที่ดีและถูกต้อง ก็ควรได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ----- สิ่งที่ผิดพลาดของระบบเราคือ เรามุ่งเน้นแต่ "กระบวนการการเข้าสู่อำนาจ" แต่ไม่มี "การกำกับการใช้อำนาจ ให้ตรงกับเจตจำนงแห่งอำนาจ" ซึ่งการเป็นอำนาจรัฐ มีไว้เพื่อ ปกป้องผลประโยชน์แห่งรัฐ ที่เป็นประโยชน์แก่ทุกคนในทางอ้อม ถ้ามีการใช้อำนาจในทางมิชอบ เช่นออกกฏหมายเอื้อประโยชน์ให้ตนเองอย่างเด่นชัด อย่างการออกกฏหมาย ให้ขายหุ้นให้ต่างชาติ เพื่อให้ตัวเองขายหุ้นได้ราคาดี แลกกับ ความมั่นคงของรัฐ รวมทั้ง การขาดทุนของชาติ เมื่อครั้งยังต้องอุ้มชูยามกิจการเพิ่งเริ่มต้น หรือ การออกนโยบายประชานิยม ที่่เหมือนการ "ซื้อเสียงบนโต๊ะ" ทำให้ ประชาชนต้องแตกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายที่ได้ประโยชน์จากประชานิยม และ ฝ่ายที่ขาดทุน(เพราะเอาเงินภาษีตนไปให้แก่คนอีกกลุ่ม) เกิดความวุ่นวายในชาติรัฐ แล้วพอมีการใช้อำนาจที่ไม่ตรงกับเจตจำนงแห่งอำนาจ แต่ พรรคการเมืองกลับพยายามสมองล๊อกประชาชนว่า "เขาเข้าสู่อำนาจอย่างถูกต้อง" กดระบบเหตุผล ให้ประชาชนไม่เฉลียวคิดว่า "เขามิได้ใช้อำนาจ ตามเจตจำนงแห่งอำนาจ" ปัญหาก็เกิด และปัญหานี้จะไม่มีวันแก้ไขได้ ตราบใดที่เรายังเน้นแต่  "กระบวนการการเข้าสู่อำนาจ" แต่ไม่มีเน้น "เจตจำนงแห่งอำนาจ" ว่าในทางรัฐศาสตร์ มนุษย์เราสร้างศูนย์อำนาจมาเพื่ออะไร? เพื่อประโยชน์ของคนที่เข้าไปถึงศูนย์ได้ ก็สามารถกอบโกยอย่างไรก็ได้? หรือ เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม? แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 54 19:50:37 จากคุณ : Hoo เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 19:46:47

ความคิดเห็นที่ 39 คุณ aLITTLEspaceAround7day ที่การเลือกตั้งเค้าให้ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน ไม่ได้ตามภาษีที่จ่าย เพื่อมิให้ผูกขาดสิทธิอำนาจรัฐ แก่นายทุนครับ ทุนนิยม จะมีประสิทธิภาพได้ก็ต่อเมื่อมีการถ่วงดุลอำนาจ ถ้าคนมีอำนาจเศรษฐกิจแล้ว ยังได้อำนาจทางการเมืองไปโดยปริยาย ประเทศนั้นจะกลายรัฐพ่อค้า-นายทุน ถ้าผู้ชนะถือคติว่า "ผู้ชนะคือผู้ออกกฏ" และยิ่ง "ออกกฏให้ตัวเองชนะ" มันจะไปถึงจุด คนเป็นล้านลงคะแนน ก็สู้ นายทุนคนเดียวลงคะแนนไม่ได้ หายนะเชิงเผด็จการนายทุนก็อยู่แค่เอื้อม ครับ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 54 21:53:28 จากคุณ : Hoo เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 20:01:10

ความคิดเห็นที่ 40 เลือกไปก็เท่านั้น เดี๋ยวก็มีม๊อบฝ่ายตรงข้ามมาล้มผลเลือกตั้งอยู่ดี จากคุณ : oryze เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 20:28:04

ความคิดเห็นที่ 41 ครั้งนี้ขอเลือกฝั่งที่ไม่เผาบ้านเผาเมืองละกัน ก็ไม่ได้ถูกใจ 100% หรอกนะ แต่จะให้ไปเลือกคนที่เผาบ้านเมืองตัวเอง มันทำใจไม่ได้.. จริงๆ จากคุณ : Mankaset เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 21:53:20

ความคิดเห็นที่ 42 แล้วแต่มุมมองครับ เลือกพรรคใหญ่ คะแนนเสียงเกาะกลุ่มกันดี นโยบายไม่สะดุด การบริหารจะรวดเร็ว แต่จะถูกมองว่าเผด็จการรัฐสภา (ซึ่งส่วนตัวแล้วผมไม่เห็นด้วยกับคำนี้) เลือกพรรคเล็กกระจายกันไป เป็นการคานอำนาจพรรคใหญ่ๆ ทำให้ไม่กล้าทำอะไรมากเพราะกลัวฐานเสียงจะไม่พอ แต่ก็จะเกิดการต่อรองผลประโยชน์กัน ซึ่งจะเป็นการเมืองน้ำเน่าอย่างที่เคยเป็นมาก่อน ทำให้บ้านเมืองไม่ไปไหนเสียที่ กว่าผลประโยชน์จะลงรอยกันได้ ก็ช้าเกินกาลไปแล้ว สรุปว่าผมขอเลือกพรรคใหญ่ดีกว่าครับ เพราะข้อเสียนั้นเป็นจากความคิดกลัวกันไปก่อนซะมากกว่า ความจริงยังไม่เห็นเด่นชัดนัก แต่เลือกพรรคเล็กมาคานอำนาจ ประวัติศาสตร์การเมืองไทยเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มแล้วครับ จะครบร้อยปีแล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้น ดังนั้นผมขอเปลี่ยนแนวทางดีกว่าครับ จากคุณ : นาย X-MAN เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 23:47:23

ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อก่อนประชากรไทยบูมๆ ก็เลือกกันทั้งบ้าน   จนมายุคทักษิณใหม่ๆ ก็ทั้งบ้านเหมือนกัน   หลักๆคือตัวหัวหน้าพรรค ที่โน้มน้าวให้เราตัดสินใจเลือกได้  นโยบายอะไรไม่ได้สนใจหรอก  ความชอบเพียวๆ ปัจจุบันเปลี่ยนฝั่งไปนานแล้ว  เหตุผลคงไม่ต้องบอก ก็ไม่ได้ถูกใจร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนกัน  แต่รับความก้าวร้าวของอีกฝั่งบางคนไม่ได้จริงๆ   โหวตโนคงไม่  ถ้ากาโหวตโนเหมือนเลือกอีกข้างเลยตอนเนี้ย แต่วันเลือกตั้งนี่ลุ้นสนุกนะ  เฝ้าจอทีวีเลย ชอบเวลานักข่าว นักวิชาการมาวิเคราะห์กัน แข่งกันทุกช่อง เพลินดี จากคุณ : โสดสบายตัว เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 00:17:07

ความคิดเห็นที่ 44 คงเลือกพรรคใหญ่ คิดว่าปัญหาที่มีอยู่มันมาจากพรรคกลาง - เล็ก ที่แทรกสอดมาเป็นรัฐบาลร่วม โดยอาศัยผลประโยชน์แลกเปลี่ยน สิ่งนี้เป็นอุปสรรคแน่นอนไม่ว่าพรรคไหนจะได้เป็นรัฐบาล เพราะถ้าเสียงไม่พอ ต้องแลกเปลี่ยนอะไรหลายอย่างกับเสียงของพรรคกลาง - เล็ก โดยสิ่งที่แลกเปลี่ยนไปน่าจะทำให้ประเทศเสียประโยชน์ ผมคิดว่าพรรคใหญ่มาเต็มๆ แล้วที่เหลือเป็นค้านร่วม น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า ช่วยๆกันตรวจสอบการทำงานกันไป จากคุณ : TamanXZG เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 01:50:40

ความคิดเห็นที่ 45 เลือกไปทำไม ประชุมกันไม่เคยครบ จากคุณ : น้ำเต้าหู้กะปาท่องโก๋ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 02:46:31

ความคิดเห็นที่ 46 ลองแบบนี้ไหม เลือกพรรคที่มีความน่าจะเป็นที่จะเป็นเบอร์สองมากที่สุด เพื่อคานอำนาจรัฐ สร้างทางเลือกในการจัดตั้งรัฐบาล เปิดโอกาสในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ข้อเสียคือขาดเสถียรภาพในการบริหารประเทศ จากคุณ : PanJ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 07:31:25

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณทุกท่านที่มาตอบแบบมีเหตุมีผลสมเป็นห้องหว้ากอนะครับ ดีใจจังกระทู้ไม่ถูกลบและ ออกทะเล เชิญอภิปรายต่อครับ จากคุณ : เคยรู้อะไรกะเค้ามั่งมั๊ยเนี่ย เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 08:18:38

ความคิดเห็นที่ 48 ตามทฤษฏี ควรต้องเลือก ...พรรค ที่มีโอกาส เป็นรัฐบาล ...ยาวนานที่สุด เหตุผล ก็คือ ทุกพรรค และ นักการเมือง โดยส่วนใหญ่ จะมีผลประโยชน์ทับซ้อน กับ ผลประโยชน์ของชาติ ทั้งทางตรง และ ทางอ้อม ดังนั้น การมีรัฐบาล อย่างต่อเนื่อง แม้การทุจริตจะเกิด แต่เมื่อมันไม่กลับขั้วไปๆมาๆ ความต่อเนื่องในนโยบาย ของแต่ละโครงการ จะทำได้อย่างเป็นรูปธรรม แต่ถ้า การเมืองกลับขั้วบ่อยๆ การทุจริตจะมีการซ้ำซ้อน และ มีค่าเสียโอกาส แม้เป็นโครงการเดียวกัน และ ดำเนินการ เหมือนเดิมทุกประการ v v ถ้ามองว่า การทุจริต คือ ต้นทุนแฝง ในการพัฒนาประเทศ การเปลี่ยนแปลง ทางการเมือง บ่อยๆ ก็คือ การเพิ่มจำนวนคน และ กลุ่มการเมือง ให้ผลัดกันมา  เพิ่มต้นทุน ตรงนี้  นั่นเอง และ การทุจริต ของคนที่รู้ตัวว่า อาจมีโอกาส อยู่ในอำนาจ แบบ...ช่วงสั้นๆ จะเป็นไปในลักษณะใด...  คงคาดเดากันได้ ไม่ยาก --- (เพิ่มเติม/อ้างอิง ) มีคน เคยพูดกรณีนี้ เทียบกับ มาเลเซีย ลองพิจารณาดู ละกันครับ v v กระทู้ I8889129 ... คนไทยในสายตาของนักธุรกิจมาเลย์(จีน)... บทความ โดยละเอียด คัดจากหนังสือ "คิดเป็น รวยก่อน" หน้า 271-274 โดย กรพจน์ อัศวินวิจิตร . ........." เมื่อ 15 ปี ก่อน ผมไปเจรจาการค้าที่ประเทศมาเลเซีย ผมประเมินด้วยสายตา มาเลเซียล้าหลังกว่าเรา 20 ปี เป็นอย่างน้อย ปัจจุบันนี้ ผมไปมาเลเซียอีกครั้ง ผมตกใจ เขาทำท่าจะแซงหน้าเราซะแล้ว มหาเธร์ใช้เวลา 15 ปี ทำให้มาเลเซียที่ล้าหลังกว่าเราประมาณ 20 ปี กลับมาตีคู่กับเราได้ ต้องยอมรับว่า เก่งมาก ประเด็นสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้มาเลเซียพัฒนาได้เร็วมากก็คือ การเมืองของมาเลเซีย...นิ่ง.. รัฐบาลมีเสถียรภาพมาก มีคะแนนเสียงในสภาสูง มีฝ่ายค้านน้อย ทำให้มีเวลาทำงานเต็มที่ สามารถแก้กฏหมายสำคัญๆ ได้อย่างรวดเร็ว สามารถวางแผนระยะยาวได้ ที่สำคัญคือ มีโอกาสทำงานต่อเนื่องถึง 20 ปี ทำให้ทุกโครงการถูกสานต่อจนเสร็จ และเกิดโครงการใหม่ที่ต่อเนื่อง สอดรับกับโครงการเก่า เสร็จไปแล้วหลายรุ่น ผมได้พูดคุยกับนักธุรกิจชาวมาเลย์ ก็พูดจาชมเชยเขาว่า คนมาเลย์เป็นคนฉลาด คิดเก่ง ถึงสามารถพัฒนาประเทศให้เจริญ ได้อย่างรวดเร็ว เขาบอกว่า ไม่จริง คนไทยฉลาด และคิดเก่งกว่าคนมาเลย์เยอะ ผมก็งง ไม่เข้าใจ คนไทยฉลาดกว่า คิดเก่งกว่า คนมาเลย์ แล้วทำไมประเทศไทยถึงทำท่าจะเจริญช้ากว่ามาเลย์ล่ะ เขาหัวเราะ แล้วอธิบายว่า เขายอมรับว่า คนไทยเป็นคนฉลาด มีความคิดดี ประเทศไทยมีคนคิดโครงการดีๆ เยอะแยะมากมาย แต่ค่อนข้างโชคร้ายที่มีฝ่ายค้านและสื่อมวลชน ที่เก่งเกินไป และขยันเกินไป ผมยังไม่เข้าใจ เขาอธิบายว่า เวลามีโครงการดีๆ เป็นประโยชน์ต่อประเทศมหาศาล ถูกเสนอเข้ามา ฝ่ายค้าน นักวิชาการ NGO ประชาชนนักประท้วง สื่อมวลชน จะร่วมกันคัดค้าน ถกเถียงกันไปมา ทะเลาะเบาะแว้งกัน ไม่มีใครยอมใคร เก่งหมดทุกคน กว่าจะหาข้อสรุปได้ก็ใช้เวลา 20 ปี คนมาเลย์เนี่ยเป็นคนโง่ คิดอะไรไม่ค่อยเป็น แต่เรารู้ตัวว่าเราโง่ เราจึงร่วมมือกันทำงาน ร่วมมือกันวางแผน มีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ที่ประชุมสรุปยังไง เราทำยังงั้น ที่ประชุมสรุปว่า เมื่อเราโง่ เราไม่ต้องคิด เสียเวลา ให้ใช้วิธีคอยชะเง้อมองประเทศไทย ดูว่าไทย กำลังคิดอะไร ใครเสนอความคิดอะไรแปลกๆใหม่ๆ เป็นโครงการที่ดี มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ คนมาเลย์จะเอาโครงการนั้นมาทำทันที มาเลย์ทำจนเสร็จ ใช้งานได้แล้ว ประเทศไทยยังทะเลาะกัน คนไทยในประเทศไทย ยังถกเถียงกันไม่เสร็จเลย นี่คือเหตุผลว่า ทำไมมาเลเซียถึงเจริญเร็วกว่า พูดเสร็จ ก็หัวเราะลั่นห้อง น้ำหูน้ำตาไหล ผมหัวเราะไม่ออก แต่หน้าชา Credit : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=997644 --- ความคิดเห็นที่ 17     มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายก รัฐมนตรี ของมาเลเซีย เป็นนายก ในปี  2524 - 2546 ( 22 ปี ) --- ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันนั้น มาดูรายชื่อ นายกรัฐมนตรี ของไทย ละกันครับ หมายเหตุ : *** คือ มีการปฏิวัติ - รัฐประหาร *** -- พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ ***คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.)*** นายอานันท์ ปันยารชุน พลเอก สุจินดา คราประยูร นายอานันท์ ปันยารชุน นายชวน หลีกภัย นายบรรหาร ศิลปอาชา พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ นายชวน หลีกภัย พันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร โดยนายกฯ มหาเธร์ โมฮัมหมัด ของมาเลเซีย พ้นจากตำแหน่ง ในช่วงนี้ ----------------------------------------- สำหรับประเทศไทย หลังจาก 19 กันยายน 49 ประเทศไทย ก็ยัง สนุกสนาน กับการเปลี่ยนผู้นำ โดยเริ่มต้นจาก ***คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ (คปค.)*** พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ . . . คำถาม : การนำ นโบบาย ที่เป็นวาระแห่งชาติ และ การดำเนินการในระดับ ปฏิบัติการ จะเกิดสัมฤทธิผล และ มีความต่อเนื่อง ได้อย่างไร มามอง ที่สิงคโปร์ บ้างนะครับ 1. ลี กวน ยู เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ถึง 31 ปี และเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศสิงคโปร์ ดำรงตำแหน่ง 3 มิถุนายน พ.ศ. 2502 – 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 2.โก๊ะ จ๊กตง เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ถึง 14 ปี ดำรงตำแหน่ง 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 – 12 สิงหาคม พ.ศ. 2547 3. ลี เซียนลุง  ( 5 ปีครึ่ง นับถึง ปัจจุบัน) ดำรงตำแหน่ง 12 สิงหาคม พ.ศ. 2547 – ปัจจุบัน สรุป : สิงคโปร์ ตั้งแต่ ตั้งประเทศมาประมาณ 51 ปี มีนายกรัฐมนตรี เพียง 3 คน --- ในสมัย ของ ลี กวน ยู เป็น นายก รัฐมนตรี ของสิงคโปร์ 2502 –2533 (31ปี) มาดู รายชื่อ นายกรัฐมนตรี ของไทย ในช่วงเวลา เดียวกันนั้น นะครับ v v จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จอมพลถนอม กิตติขจร ***สภาบริหารแห่งชาติ*** จอมพลถนอม กิตติขจร นายสัญญา ธรรมศักดิ์ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ***คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน*** นายธานินทร์ กรัยวิเชียร พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ --- ดังนั้น โดยความเห็นส่วนตัว ความเจริญ และ การพัฒนาประเทศของ ไทย แตกต่าง จากประเทศมาเลเซีย (และสิงคโปร์) ไม่ได้ เกิดจาก คนไทย ต่างกับ คนมาเลเซีย  (และสิงคโปร์) แต่ เกิดจาก ...ความไม่นิ่ง... ทางการเมือง มากกว่า เหตุผล อื่นใด ครับ จากคุณ : The Rounder   เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X10496933/X10496933.html#96 --- โดยส่วนตัว กาช่อง... ไม่ลงคะแนน มาหลายรอบแล้ว ยอมรับได้ กับ ผลการเลือกของคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ ขออย่างเดียว คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ......ไม่ต้อง...มาเลือกให้ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 54 09:30:49 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 54 09:22:07 จากคุณ : The Rounder เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 09:17:58

ความคิดเห็นที่ 49 เห็นด้วยกับ คะแนนบัญชีรายชื่อมากที่สุด ได้จัดตั้งรธบ. แต่ นายกและคณะ รมต. ต้องมาจากบัญชีรายชื่อ สส.เขต ไม่มีสิทธิ์เป็น รมต. บัญชีรายชื่อ ไม่มีการแบ่งเขต แต่มาจากเสียงประชาชนทั้งประเทศ หารกันตรงๆเลย จากคุณ : arbuzayab เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 09:21:47

ความคิดเห็นที่ 50 คห.48 ครับ หลักการ การเมืองนิ่งไม่สามารถใช้ได้กับประทเศนี้ เพราะทุกครั้งที่มันกำลังจะเกิด มันมีอันเป็นไปทุกครั้งไม่ใช่หรอครับ จากคุณ : arbuzayab เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 09:24:54

ความคิดเห็นที่ 51 ผมเคยคิดทฤษฎี ปัญญาอ่อน ขึ้นมาอันนึง คือเลือกพรรคใดก็ได้ก่อน แล้วเราก็ส่งข้อความให้พรรคที่ได้รู้ว่า ถ้าเค้าทำดีบริหารดีๆเราจะเลือกเค้าสมัยหน้า แต่เราต้องไม่เลือก เราต้องเลือกพรรคใหม่ การที่เราให้ความหวัง พรรคนั้นเค้าจะตั้งใจทำดีๆซื้อใจเรา เพื่อหวังผลให้เราเลือกอีกสมัย ซึ่งถ้าเราเลือกเค้าสมัย 2 เค้าจะกอบโกย เพราะไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว เราจึงต้องเลือกพรรคใหม่ แล้วให้ความหวังพรรคใหม่ แต่ไม่เลือก วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ จากคุณ : +One Side Love+ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 11:28:58

ความคิดเห็นที่ 52 เรื่องพรรคเสียงข้างมากนโยาบายต่อเนื่อง ผมมองว่าดี "ถ้าพรรคนั้นมีนโยบายที่ดี" แต่ถ้าเค้าทำไม่ดี กลายเป็นว่าเราให้อำนาจกับคนไม่ดีมากไป รัฐธรรมนูญจึงสร้างองค์กรต่างๆ มาเพื่อถ่วงดุล ตรวจสอบ แต่องค์กรตรวจสอบก็ถูกครอบงำ ตอนนี้หลายๆคนเลยมองถึงการเลือกตั้งในเชิงรับ มากกว่ามองในเชิงรุก (คล้ายๆกับ กรณีเลือกผู้ว่า เพื่อสกัดไม่ให้อีกขั้วได้ ทั้งๆที่ ลำดับ 3 4 ..อื่นๆหลายๆคน มีคุณสมบัติน่าสนใจมากๆ เผลอๆจะมากกว่า 1-2 ที่กะจะมาเล่นเกมส์การเมืองเน้นๆกันเสียอีก) จากคุณ : +One Side Love+ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 11:32:48

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่เห็นด้วยกับ แนวคิดว่า เลือกพรรคที่ชนะ เพื่อให้ชนะท่วมท้น มีเสถียรภาพสุดๆไปเลย สิ่งต่างๆบนโลก เราตัดสินดี-แย่ล้วน ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย ทั้งสิ้น พรรคดีนโยบายดี + มีเสถียรภาพ => ดี พรรคดีนโยบายดี + ไม่มีเสถียรภาพ => แย่ พรรคแย่นโยบายแย่ + มีเสถียรภาพ => แย่ พรรคแย่นโยบายแย่ + ไม่มีเสถียรภาพ => ดี การล๊อคความคิดว่า "มีเสถียรภาพนั้นดีเสมอ" แล้วตีคลุมว่า ถ้ามีเสถียรภาพ แล้วพรรคที่มีเสถียรภาพนั้น จะเป็นพรรคดี นโยบายจะดี ได้ นั้นไม่สมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง เป็นตรรกวิบัติพอๆกับ "รวยแล้วจะไม่โกง" จากคุณ : Hoo เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 14:58:51

ความคิดเห็นที่ 54 ^ ^ ^ ไม่วิบัตินะครับ ความมีเสถียรภาพ ของรัฐนั้นดีจริงๆ ในแง่การลงทุน ครับ ดี อาจจะไม่ถึงหมายถึง เป็นธรรม หรือทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้าสงบสุขก็ได้ อันนั้นเป้นเรื่องไม่แน่นอน เพราะประเทศเผด็จการเบ็ดเสร็จเยอะแยะ เสถียรภาพสุดๆก็ใช่ว่าจะดี แต่ในแง่การลงทุน การทำกิจการต่างๆ ควม"นิ่ง" ทำให้วางแผนการลงทุนได้ง่าย เช่นถ้าคุณจะไปลงทุนใน พม่า คุณก็จะรู้เลยว่าคุณต้องไปตีซี้กับนายพลคนไหน ต้องจ่ายเท่าไหร่ กฏหมายที่ควบคุมอยู่ จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตลอดกาล ยังไงก็อย่างนั้น แต่ถ้าจะทำกิจการในที่ๆ เดี๋ยววันี้คนนี้ใหญ่ เดี๋ยวปีหน้าคนนั้นใหญ่ เดี๋ยวกฏหมายควบคุมมลพิษออกมาใหม่ เดี๋ยวกฏหมายคุ้มครองผู้บริโภคออกมาใหม่ เดี๋ยวอัตราภาษษีเปลี่ยน เดี๋ยวคนงานสไตรค์ อันนี้ในทางการลงทุนนับว่าไม่ดี เสถียรภาพ อาจจะหมายถึง เสถียรภาพทางกฏหมายก็ได้ ไม่ใช่หมายถึงว่าต้องตีซี้ผู้นำเผด็จการอย่างเดียว เช่น ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกา กฏหมายเป็นใหญ่ ยังไงก็อย่างนั้น จะไปลงทุนก็เปิดกฏหมายดูก็วางแผนได้เลยว่าต้องอะไรยังไง รัฐบาลเปลี่ยนฝ่ายไม่บ่อยเกินไป ไม่ต้องกลัวว่าวันดีคืนดีจะมีรับประหารพลิกประเทศ ดังนั้น คำว่า เสถียรภาพ และ คำว่า "ดี" อาจจะถูก หรือผิดก็ได้ ขึ้นอยู่กับคุณนิยามคำว่า "ดี" แบบไหน อย่าพม่านี่ เป้นตัวอย่างว่าในแง่ความเป็นอยู่ประชาชนนั้นเลวร้าย แต่ในแง่ลงทุน นับว่าดีมาก จากคุณ : Sial เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 16:33:49

ความคิดเห็นที่ 55 ต้องทำความเข้าใจก่อน ว่าในโลกจริง พรรคเล็กแทบไม่มีโอกาสผลักดันนโยบายอะไรเลย ยกเว้นโครงการและงบแลกเสียงโหวต (ที่เห็นเขาอนุมัติกันหลังช่วยยกมือ) การเลือกพรรคเล็กไป กลับจะเป็นการสนับสนุนให้เกิดการอนุมัติโครงการต่างตอบแทนตรงๆ หรือได้รมต.ห่วยๆที่นับจากเสียงมุ้งต่างๆ ในขณะที่เลือกพรรคใหญ่ ถ้าชนะก็ได้เป็นรบ. ทำตามนโยบายที่ืถือว่าเป็นประชามติกลายๆจากประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ หรือถ้าแพ้เป็นอันดับสอง อย่างน้อยก็ได้พรรคฝ่ายค้านที่เสียงจำนวนมาก พร้อมที่จะคานอำนาจของฝ่ายบริหาร ส่วนการโหวตไม่เลือก เป็นแค่การรักษาสิทธิ์ไม่ให้ผีมาสวมรอย แต่ไม่มีผลทางการเมืองใดๆครับ ขนาดช่วงก่อนรปห. ที่กระแสno vote ดังสุดๆ ผลออกมาก็ยังเป็นแค่เศษเสี้ยวอยู่ดี แต่จากประวัติศาสตร์ของประเทศไทย อำนาจไม่ได้มาจากเงิน แ่ต่มาจากปืนครับ ลองย้อนดูเอาเอง ผู้นำที่มาจากรบ.ทหาร หรือรบ.ทหารสนับสนุน ครองอำนาจยาวนานกว่า ผู้นำที่มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนทั้งนั้นเเลย ถ้าบอกว่าเงินซื้อได้ เราคงไม่มีวันเห็นการรปห.กันทุกสิบปีหรอกครับ ต้องบอกว่า คนถือปืน มีอำนาจที่สุดตะหาก :P ป.ล. ตรรกะวิบัติกว่า คือ "คนที่เขาว่าเป็นคนดี จะไม่โกง" เพราะความเป็นคนดีมันพิสูจน์เชิงประจักษ์ไม่ได้ครับ มีแต่คนที่"เขา"ว่าดี แล้วถามว่า"เขา" คนนั้นคือใคร เราเชื่อถือได้อย่างไร? ไม่เห็นมีใครตอบได้สักคน ที่ตลกที่สุด คือเราด่านักการเมืองที่เราเลือกเองว่าโกง แต่เราไม่กล้าด่าทหารที่ยึดอำนาจ ทั้งๆที่ผลลัพธ์ออกมาเช่น ดัชนีคอรัปชั่น สูงกว่าสมัยรบ.ที่มาจากการเลือกตั้งและเราด่าว่าโกงหลายเท่า สรุึปอีกที ปืนใหญ่สุด แถมคนที่"เขา"ว่าดี มักได้อำนาจจากปืน ไม่ใช่ได้อำนาจจากเสียงประชาชน แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 54 19:55:10 จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 19:53:10

ความคิดเห็นที่ 56 #31 ตอนร่างรธน.ปี 40 เคยมีัคนเสนอให้แยกกันเลือกตั้งระหว่าง ฝ่ายบริหาร กับฝ่ายนิติบัญญัติแล้วครับ แต่โดนขัดขวางอย่างหนัก หาว่าคิดจะล้มล้างฯ เพราะเป็นการเลือกตั้งผู้นำฝ่ายบริหารโดยตรง คล้ายกับระบบปธน. คนเสนอเลยโดนหาว่าคิดล้มฯ ไปซะงั้น ตราบใดที่คนคิดแนวทางใหม่ๆ ยังโดนข้อหาซ้ำซากโจมตี เราก็คงไม่ได้ก้าวไปไหนได้ง่ายๆ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 19:59:41

ความคิดเห็นที่ 57 คนดี จะไม่โกง <- เป็นคำพูดที่ถูกต้องตามตรรกะหรือไม่??? คนที่เขาว่าดี แต่เกิดจากการ "ซื้อสื่อ" นั้นดีจริงหรือ? ความเป็นจริงที่เห็นอยู่คือ สื่อถูกควบคุมโดย "เงินทุน" มากกว่า จาก "รัฐ" บทความ และ การ"ตีความเนื้อข่าว" ในสื่อนั้น จะชี้นำไปในทางที่ "เจ้าของสื่อ" ต้องการ นักเขียนที่ไม่ดำเนินตาม นโยบายของ"นายทุน" จะค่อยๆถูกบีบให้ ลำบาก หรือ ต้องออกจากสื่อนั้นๆ (ทั้ง แป๊ะลิ้ม และ ทักกี้จนถึงเสื้อแดง) แล้วคนเสพสื่อ ก็ว่า "คนนั้นดี" ตามแต่สื่อจะชี้นำต่อไปนั่นแหละ ----- เผด็จการก็คือเผด็จการ ไม่ว่ามันจะมาจากเงินทุนหรือปืน การรังเกียจ เผด็จการทหาร แต่ชื่นชม เผด็จการนายทุน บอกว่า เผด็จการแล้วดีต่อการลงทุนมากกว่านั้น "ลักลั่นย้อนแย้ง" ไม่ได้ มีจิตสำนึกประชาธิปไตย ที่แท้จริง ปากพูด ประชาธิปไตย และ การเลือกตั้ง แต่จิตใจ กลับหวังจะให้ประเทศเป็นเผด็จการ แบบพม่า!!!! เพราะมันดีกว่าในแง่การลงทุน!?! แล้วใครได้ลงทุน??? ใครได้ประโยชน์??? ก็ คนมีอำนาจในประเทศ กับ นายทุนข้ามชาติ เท่านั้น ประชาชนเจ้าของประเทศก็ก้มหน้าก้มตา อยู่ในระบบไป ---- ปล. ผมว่าชักไปไกลจากหัวข้อกระทู้แล้ว แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 54 11:47:56 จากคุณ : Hoo เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 11:45:49

ความคิดเห็นที่ 58 ผมว่าจากที่ผ่านๆมา สื่อโดนควบคุมจาก"ปืน" มากกว่า "เงิน" ครับ สื่ออาจโดนซื้อได้ แต่ก็เขียนข่าวแข่งกันได้ กลับกัน ถ้าไปขัดแข้งปืน โดน RPG ถล่มสำนักงานลูกเดียว ก็จำเป็นต้องเงียบกริบ(จำได้ไหมน้อ เกี่ยวกับข่าว runway ร้าวมั่วๆนี่แหละ) ว่าแต่เผด็จการนายทุน จะมีอำนาจมากกว่าเผด็จการทหารได้อย่างไรล่ะครับ ช่วยอธิบายหน่อย ในเมื่อ เห็นๆอยู่แล้วว่า "เงิน" แพ้อำนาจที่มาจาก"ปืน" นักการเมืองเราด่าได้ เผด็จการนายทุนเราก็ด่าอยู่ทุกวัน มีตรงไหนที่ผมบอกว่าห้ามด่า? แต่เผด็จการทหาร ด่าแล้วคนด่าอาจ"ตาย" ครับ :P การมีเผด็จการนายทุน อย่างน้อยเราก็ยังด่า ยังสาวไส้ ยังเรียกร้อง ยังให้ความรู้แก่ประชาชนคนอื่นๆได้ แล้วเมื่อสังคมยกระดับจิตสำนึกทางการเมืองขึ้นไป เผด็จการนายทุนก็จะไม่ได้ผลอีกต่อไป แต่กลับกัน ถ้าเป็นเผด็จการทหาร ประชาชนทำอะไรไม่ได้เลย เสียงคนหรือจะสู้เสียงปืน เผด็จการพม่า มาจากทหารยึดอำนาจล้วนๆเลยนะครับ อย่าเปรียบเทียบมั่วสิ :P ส่วนประเด็นการเลือกความเสถียรภาพ จริงๆต้องดูที่หลักการคานอำนาจด้วย ของไทยมันปะปนกันมั่ว เลยไม่เห็นผลชัดเจน แล้วก็มัวแต่สร้างภาพมาครอบงำว่า นักการเมืองเลว ซื้อเสียง โกงกิน แต่พระเอกขี่ม้าขาวมายึดอำนาจเป็นคนดี แม้จะโกงกินก็ห้ามทัก(คนทักตาย!) เพราะเป็น"คนดี" มาช่วยชาติแล้วไง ขอโกงกินบ้างจะเป็นไรไป!??!?!?! นี่แหละครับ "คนดี" ที่เขาว่า"ดี"กว่านักการเมือง :P จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 23:38:57

ความคิดเห็นที่ 59 No ผมว่า คุณไม่สามารถรับรู้โลกความเป็นจริงทั้งสองแง่ ได้เลยว่า -เงิน ซื้อ ปืนได้ และ -ปืน ก็เอามาไถ เงินได้ ลองมาไล่ดู เมืองไทย ตลอดมาสิครับ ใครขัดผลประโยชน์นายทุนก็ มีมือปืนรับจ้าง จัดการซะ เคส ประชา เมื่อวานซืน บ่งบอกได้เป็นอย่างดี อย่างชาวบ้านร้องเรียนว่านายทุนรุกล้ำที่ป่าสงวน ก็โดนอุ้มหายไปบ่อยๆ ในขณะเดียวกัน ถ้า บ้านเราเป็น เผด็จการทหาร ห้ามวิจารณ์จริง ฉายา "ขิงแก่" คงไม่เกิด ถ้า บ้านเราเป็น เผด็จการทหาร ตรวจสอบไม่ได้จริง เคส GT-200 และ บอลลูนกิรอฟ(จาก RedAlert) คงไม่ปรากฏ เทียบกับ ตอนทักกี้ แค่ ดร.สมิธ ออกมาเตือน ว่า เมืองไทยอาจเกิด ซึนามิ ก็โดนเก็บเข้ากรุทันที ข้อหา "ทำลายการท่องเที่ยว" ITV ที่เคยตรวจสอบ นักการเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ ทักกี้ก็เข้ามาจัดการจนหมดสภาพ หรืออย่างออกมาโปรโมต กวาดล้างยาเสพติด แล้ว ก็ซัดตายไป 2000 กว่าศพ ซึ่งหลายศพ ก็มีข่าวว่าเป็นการขัดแย้งผลประโยชน์ และมีเงื่อนงำ มากกว่า ใครคุมสื่อ ใครใช้ปืน คนที่ติดตามการเมืองมาตลอด เค้ารู้ดี ไม่ต้องมี พูดซ้ำไปซ้ำมา ด้วยข้อมูลหางอึ่งที่มีเพียงด้านเดียวหรอก แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 54 11:03:21 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 54 11:02:06 จากคุณ : Hoo เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 11:01:46

ความคิดเห็นที่ 60 #59 แค่ตั้งฉายาแซว คงไม่เรียกว่าวิจารณ์อย่างจริงจังหรอกครับ ทำไม ตอนที่มีนสพ.เจ้านึง เขียนแย้งว่า runway สุวรรณภูมิไม่ได้ร้าว ก็เลยโดน RPG เข้าไปลูกนึงกลางดึก หลังจากนั้นก็เลยไม่เขียนข่าวแย้งต่อ :P ทำไมนายก"คนดี" รุกที่ป่าสงวน สวมรอยแอบอ้างสิทธิ์การใช้พื้นที่ในนามเกษตรกรยากไร้ (ที่มีตำแหน่งเป็นอดีต ผบ.ทบ. ผบ.สูงสุด และนายก มีเงินเก็บนับร้อยล้าน) ใช้อำนาจสั่งการนำทรัพยากรของรัฐ(แรงงานและวัสดุ) มาสร้า่งถนนและ resort ส่วนตัวหลังหรู ที่สุดท้ายก็ไม่โดนเอาผิด แค่คืน ก็ไม่ผิดแล้ว (แต่เคสคล้ายๆกันเป็นชาวบ้านโดนคุกสองปีไม่รอลงอาญาฯ) อ้อ ตอนนี้ไม่มีใครตรวจสอบต่อด้วยว่า คืนจริงๆ หรือแค่คืนเป็นพิธีด้วยนา GT200 ตรวจสอบได้ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีการลงโทษใดๆ แค่ัสั่งเลิกใช้เพื่อรักษาหน้าตัวเองเท่านั้น ตอนม๊อบเสื้อแดงยังมีคนเห็นเอามาใช้อีกด้วยซ้ำ :P ยุค ITV ว่าใช้เงินแทรกแซง แล้วการตั้งตลก.พิเศษเพื่อยึด ITV มาตั้งทีวีสาธารณะที่ใช้งบประมาณมากกว่าเิดิม ไม่เรียกว่าโค ตร แทรกแซงหรือครับ? อ้อ ยังไม่นับว่าดัชนีเสรีภาพของสื่อ ลดลงมาเรื่อยๆนะครับ หนักสุดก็ยุคปัจจุบันนี่แหละ โดนเปลี่ยนจาก กึ่งเสรีภาพ เป็น ไม่มีเสรีภาพเลย นี่หรือเสรีภาพทีุ่คุณว่าดีกว่าเดิม? อ้อ ดัชนีคอรัปชั่นพุ่งสูงในรบ.ทหาร และรบ.ที่ทหารรับรองด้วยนะครับ แย่กว่าสมัยที่เขาว่า่เป็นเผด็จการนายทุนเยอะเลย เรื่อง 2500 ศพนั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนสากลเขาก็เรียกร้องให้ตรวจสอบ แต่หลักฐานมันมีน้อยเลยไม่ได้อะไร แต่กลับกัน ไอ้ที่หลักฐานเห็นเต็มตา แบบยิงตายกลางเมืองหลวงแท้ๆ มีภาพวิีดีโอ การยิงกระสุนสงครามใส่คนถือหนังสติ๊กแท้ๆ ยังไม่มีใครโดนเอาผิดเลยสักคน แบบไหนเรียกว่าโหดกว่ากัน รบ.บอกว่าไม่มีใครติดใจ แต่ทูตญีุ่ปุ่นมาถามทุกเดือนเรียกว่าอะไรดีหว่า? ยังไม่นับคณะกรรมการสิืทธิมนุษยชนแห่งเอเชีย และองค์การนิรโทษกรรมสากล และ human right watch ออกแถลงการประนามแทบจะทุกองค์กรทั่วโลก หรือว่าองค์กรทั่วโลกมันโดนซื้อหมดแล้วหว่า? ผมไม่ได้บอกว่า อดีตนายกฯ นั้นไม่เคยทำผิด แต่ผมพูดข้อเท็จจริงตรงๆว่า คนที่ไปไล่เขาว่าเขาเลว นั้น"ทำเลวยิ่งกว่า" ครับ :P และแปลกใจที่หลายคน ยอมรับ"เลวยิ่งกว่า" ได้เพราะช่วยขับไล่คนที่ตัวเอง"คิดว่าเลว" ออกไปให้สะใจตัวเองเท่านั้น จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 14:13:04

ความคิดเห็นที่ 61 เข้าใจละ ถ้าอย่างนั้นผมขอสรุปสั้นๆเลยว่า อดีตนายกนั่นแหละ "เลวยิ่งกว่า" เพราะ นำพาสังคมเข้าสู่สภาพเผด็จการ อย่างเงียบงัน ITV ถ้าคุณได้อ่าน หนังสือของเทพชัยหย่อง จะรู้ว่า ทักกี้ "ใช้เงินกับสื่อ" อย่างไร เงียบงัน แนบเนียน และไม่มีใครรู้ จรวดแค่ทำอย่างมากก็แค่เงียบ แต่เงินทำให้"เชียร์อย่างไม่ลืมหูลืมตาได้" จนอ่อนโลกคิดว่า RPG ร้ายแรงกว่า เงินตรา สุภาษิตจีนมีว่าไว้ "ไฟร้อนแรงแต่มีน้อยรายตายเพราะไฟ แต่น้ำดูไม่มีอันตราย แต่มีคนตายเพราะจมน้ำจำนวนมาก" ที่ดินบนเขา vs 76,000ล้าน อันนึงที่ดินเล็กๆ ตีเป็นราคาไม่กี่แสน แถมเกิดจากลูกน้องทำ โดยเจ้าตัวไม่รู้ กับอีกอันคือ ความมั่งคงของชาติในกิจการโทรคมนาคม ไม่รวมการหนีภาษี และ อีกสารพัดคดีที่รออยู่ สรุป ที่ดินบนเขา ชั่วร้ายกว่า??? ที่กรรมการสิทธิโวยแต่ไม่มีคนสนใจ เพราะทั่วโลกมีหน่วยข่าวกรอง เขารู้ว่าการชุมนุมนั้นไม่ชอบด้วยกฏหมาย ถ้าเกิดแบบนี้ในบ้านเค้า เค้าก็ทำแบบเดียวกันทั่วโลก มันเป็น "มาตราฐาน" ไม่ใช่ "ความผิด" ในมุมมอง รัฐศาสตร์ ----- แล้วเลิกซะเถอะ การเอาภาพทหารใช้ปืน มาเทียบกันคนถือหนังสติ๊ก ให้เกิดผลทางจิตวิทยาว่า "ทหารยิงคนถือหนังสติ๊ก" ทั้งๆที่ข้อเท็จจริงคือ มีชายชุดดำ พกทั้ง M16 M79 ทราโว่ ถล่มทหาร แต่ ไม่เคยพูด ไม่เคยเน้นย้ำ ทำเป็นลืมๆ เพื่อให้สมอง มีแต่ ทหารถือปืน กับ ชายถือหนังสติ๊ก??? เพื่อสรุปว่า รัฐบาลสังหารประชาชนผู้ไม่มีอาวุธ???? นี่คือ ทริกทางจิตวิทยา เรื่อง "การชี้นำโดยข้อมูล" แล้วครับ ตราบใดที่ยัง เสพข้อมูล ที่เขาจัดมาให้อย่างเป็นระบบ คุณก็จะคิดและได้บทสรุป อย่างที่เขาต้องการเท่านั่นแหละ น่าอนาถ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 54 18:31:23 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 54 18:30:51 จากคุณ : Hoo เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 18:20:12

ความคิดเห็นที่ 62 5555 ขำคนที่คิดว่าการใช้ความรุนแรง"เลวน้อยกว่า" การใช้กลอุบาย เข้าใจความคิดอำนาจนิยมของพวกฟาสซิสขึ้นมาหน่อยละ ว่าทำไมถึงยอมเงียบเมื่อเห็นเผด็จการทหารทำผิด เรื่องที่ดิน ใช้ลูกน้องไปซื้อมาแทน แล้วสั่งให้กำลังพลของกองทัพไปสร้างถนน สร้างรีสอร์ท อ้างว่าไม่รู้ เป็นแค่กระท่อม ขำคนเชื่อว่าเป็นกระท่อม ราคาไม่ต่ำกว่าสิบล้านเนี่ยนะกระท่อม ใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวโดยตรง ในมุมมองผม เลวกว่า การใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ทางอ้อมเยอะครับ แถมเลือกปฎิบัติแบบแค่คืน ก็จบ อันนี้เห็นๆเลยว่ากระบวนการยุติธรรมบ้านเราห่วยยังไง เปิดตำรากฎหมายที่ดินฉบับไหนๆก็ผิดเต็มๆครับ อันนี้กล้าพูดเพราะเคยไปยุ่งเกี่ยวกับที่ดินแบบนี้มาก่อน คนอื่นทำต้องหลบๆซ่อนๆกลัวคนร้อง ถ้าโดนร้องก็คุกสองถึงสิบปี แต่นี่ ยืดอกคืนโดยไม่โดนโทษสักแอะแถมยังอ้างว่าเป็นคนดีเลยคืน เหอๆ เรื่องทีวี ถ้าเคยอ่านงานเขียนของสมเกียรติ อ่อนวิมล และสมเกียรติ ตั้งวาณิช จะรู้ว่า เขาเคยวางแผนจะยึด ITV คืนมา ด้วยการรปห.เท่านั้นอยู่แล้ว คิดหรือว่าคนที่คิดจะใช้กำลังทหารยึดสื่อ จะยึดด้วยความตั้งใจดี :P แล้วไม่มองสื่้ออีกด้านบ้างล่ะ อันนี้โกหก สร้างหลักฐานเท็จขึ้นมาเห็นๆ ทำไมคุณไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจบ้างเลย? (อย่างว่าพวกนิยมฟาสซิส ก็มักจะยอมให้พวกเดียวกันทำเลวได้อยู่แล้ว) เรื่องเสื้อแดง ผมก็คิดว่าเขายิงสู้จริง แต่ปริมาณต่างกันระดับ 1:1000 แถมคนที่ตายจริงๆก็ไร้อาวุธทั้งนั้่นเลย(คงไม่บอกว่ามีนินจา หลบกระสุนsniperไปเอาปืนจากศพไปซ่อนได้หมดนะ)  เอาเถอะนะ ทั่วโลกเขามองเราอย่างไร ก็เปิดหูเปิดตาบ้างแล้วกัน ผมอ่านสื่อทุกเจ้าเขาก็เขียนตรงกันหมด ไม่ว่าสื่อตะวันตก ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่สื่อจีน! เรื่องความผิดของอดีตนายกฯ ว่างๆศึกษานิติศาสตร์เบื้องต้นบ้างนะครับ จะได้เข้าใจคำว่า "นิติธรรม"คืออะไร ทำไมถึงเลือกตีความแบบกว้างกับคนเพียงคนเดียว ทั้งๆที่กฎหมายเขียนแบบแคบ น้องผมบอกอาจารย์แทบต้องฉีกตำราทั่วโลกทิ้ง เพราะตลก ชุดนี้ทำระบบกฎหมายมั่วไปหมด เอาเป็นเคสสอนไม่ได้เลย :P ในมุมมองผมอีกที คนที่ทำลายระบบ และโครงสร้างของกฎหมาย เพื่อทำลายคนเพียงคนเดียว นั้นเลวที่สุดครับ เพราะยิ่งกว่าทำลายประเทศลงไปเลยก็ว่าได้ สุดท้ายไม่มีหลักอะไรเหลือให้ยึดถือ นอกจาก"ปืน" จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 11:18:09

ความคิดเห็นที่ 63 ยอมรับซะเถอะครับว่า การชุมนุมเสื้อแดง แกนนำพร่ำพูดว่า เรามาชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ แต่ถ้ามีการสลายการชุมนุม เราก็เตรียม"โรนิน"เอาไว้แล้ว!?! แถม อาวุธที่โรนิน ใช้ก็อาวุธที่ปล้นจากเจ้าหน้าที่ทั้งนั้น โรนินยิงใคร ก็ป้ายสีว่าเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐ สบายๆ ------ ยอมรับซะเถอะครับว่า วันที่ ทักษิณอยู่ ระบบมันอยู่ในสภาพเผด็จการไปแล้ว ทักษิณต้องการอะไร ถ้ามันผิดกฏหมาย เค้าก็แก้กฏหมายก่อนทำ ระบบมันติดลูป เรียบร้อยแล้ว ทักษิณอยู่ ทักษิณอยากทำอะไรผิดๆ ก็แก้กฏหมายให้มันไม่ผิด แล้วค่อยทำ พอทักษิณไม่ผิดด้วยกฏหมาย ก็บอกว่าทักษิณต้องได้อยู่ต่อไปเรื่อยๆ จะหวังว่าทักษิณจะลงด้วยการเลือกตั้งก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะใช้นโยบายประชานิยมหว่าน จนคลังแทบไม่มีเงินเหลือ (ไปเช็กข่าวดูได้ว่าสุดท้ายของทักษิณ คลังกำลังจะมีปัญหาแม้จ่ายเงินข้าราชการ) นั่นคือถ้าทักษิณจะลงก็ต่อเมื่อประเทศล้มละลายเรียบร้อยแล้ว ตาคุณจะสว่าง ถ้าคุณมีแค่ "สามัญสำนึก" และ "ข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้าน" อย่าให้ใครมาจูงจมูก ----- ผมว่า คุณถกเถียงได้ทุเรศมากๆ ถ้าคนเขาคุยกับคุณแล้วเค้าเลิกเถียงต่อ ไม่ใช่เพราะเหตุผลคุณดีกว่าเขา จนเขาหนีหายไปหรอกนะ แต่เค้าอนาถความทุเรศในการถกเถียงของคุณ จนไม่อยากจะถกเถียงต่อต่างหาก จากคุณ : Hoo เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 23:20:29

ความคิดเห็นที่ 64 เอ่อแล้วนี่ไม่ยิ่งกว่า deadlock หรือครับ เกลียดทักษิณ คุณด่าได้ คุณไม่เลือกเขาได้อย่างน้อยทุกๆสี่ปีมันเผด็จการตรงไหน ถ้าเอาเรื่องเงิน บอกเลยว่ากลุ่มทุนเก่า+ขุนนางรวยกว่าทักษิณนับสิบเท่าได้ คุณเชื่อจริงๆหรือว่าเขาเป็นคนดีไม่ซื้อเสียงแข่ง? แต่ทหารมารปห. เขียนกฎหมายขึ้นเอง สั่งนู่นสั่งนี่ขัดหลักนิติธรรมโดยสิ้นเชิง มีใครแย้งได้ ด่าได้บ้า่ง?  (ไอ้ที่แย้งแล้วโดนยิง โดนอุ้มไป คงไม่เรียกว่าวิจารณ์ได้หรอกนะ :P) จะลงประชามติยังประกาศพรก.ฉุกเฉินฯ ห้ามให้ข้อมูลขัดแย้งเลย อีแบบนี้หรือครับ ที่คุณว่า"ดีกว่า?" ผมงงที่คุณราวกับ disable ข้อเท็จจริงเบื้องหลังที่ตามมา แล้วบอกว่าไล่คนเลวคนเก่าไป โดยไม่เปิดตามองเลยว่า ไอ้คนใหม่มันเลวกว่าเสียอีก? นี่แหละครับ พวกฟาสซิส คิดอะไรสั้นๆแคบๆ ไม่มองถึงผลที่ตามมาเลยสักนิด ส่วนการชุมนุม ผมไม่ได้ไปชุมนุมกับเขาหรอก แต่จากหลักฐานต่างๆจะไปเหมาว่าคนส่วนใหญ่มีอาวุธคงไม่ได้ ภาพข่าวทั่วโลกชัดเจนครับ ฝ่ายทหารใช้กระสุนจริงเข้ามาก่อนตั้งแต่บ่ายวันที่ 10 เห็นชัดเจนทั้งไรเฟิล และลูกซองที่ไม่น่าใช่กระสุนยางอีกแล้ว ส่วนผู้ชุมนุมตอนนั้น มือเปล่ากันล้วนๆ จนมาผิดพลาดอย่างร้ายแรง ที่ทหารบุกเข้าสลายตอนค่ำ ไม่รู้ไปเรียนวิชาปราบจลาจลจากเกาหลีเหนือมาหรือไง จนเกิดการแทรกแซงวุ่นวายไปหมด ชายชุดดำผมก็เห็นผ่านสื่อต่างๆครับ แต่ผมเห็นว่าเขาออกมาหลังจากทหารใช้กระสุนจริงก่อนตั้งหลายชั่วโมง แล้วคนตายส่วนใหญ่ก็มือเปล่าจริงๆ ไม่ใช่ชายชุดดำ หลายศพ ก็พิสูจน์ชัดว่ากระสุนมาจากทางฝั่งจนท. คงไม่บอกว่าชายชุดดำเป็นนินจาแฝงอยู่ในกลุ่มจนท.ได้โดยไม่รู้ตัวอีก (ทูตญี่ปุ่น เขาก็ไม่เชื่อนะครับ เขาถึงมาถามทุกเดือน:P) จนวันถัดๆมาเรื่องชายชุดดำก็เบาบางลงไป แต่ทหารยังใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ชุมนุมมือเปล่าตายอีกเป็นเบือ บางคนแค่ถือกล้องวิดีโอก็โดนส่องหัวแล้ว สงสัยกลัวถ่ายติดนินจาชุดดำที่แฝงตัวอยู่ในฝั่งทหาร :P ภาพข่าวมากมาย ว่าตอนหลังผู้ชุมนุม(ที่ไม่ใช่ชายชุดดำ) ก็หยิบอาวุธขึ้นสู้บ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นพลุ ประทัด มากสุดก็ปืนสั้นห่วยๆ ที่ประสิทธิภาพห่างชั้นกับไรเฟิลสงครามลิบลับ กลับกันชายชุดดำ กลับเป็นยิ่งกว่านินจา ทางทหารไม่สามารถจับกุมได้เลยสักคน ทั้งๆที่ผู้ชุมนุมมือเปล่าตายไปเกือบร้อย จนน่าแปลกใจว่าชายชุดดำมันคนฝั่งไหนกันแน่? จะบอกว่าชายชุดดำยิงผู้ชุมนุมกันเอง ไหงไม่มีหลักฐานอะไรบ้างเลย นอกจากรูปภาพข่าว ที่เห็นฝั่งทหารยิงใส่ผู้ชุมนุมกันจะจะ มากมายเต็มไปหมด? ไม่ได้บอกว่าชายชุดดำทำถูก แต่ต้องเรียงลำดับเหตุการณ์ที่มาที่ไปให้ถูกต้อง บอกตรงๆถ้าทหารใช้กระสุนจริงยิงก่อนอีกครั้ง แล้วคราวนี้ถ้าเสื้อแดงจะจับอาวุธสู้อย่างเต็มตัวอย่างเปิดเผย เชื่อว่าทั่วโลกเขาก็สนับสนุนครับ แล้วมันก็จะกลายเป็นสงครามกลางเมืองแบบลิเบียนั่นไง :P ผมก็ยังขำถึงพวกอำนาจนิยมฟาสซิสไม่หาย ที่บอกว่าเพราะมีชายชุดดำโผล่มาวับๆแวมๆ ทหารเลยมีิสิทธิ์ฆ่าผู้ชุมนุมมือเปล่ากันเกือบร้อยศพ โดยไม่ต้องรับผิดชอบ :P จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 54 15:31:10

ความคิดเห็นที่ 65 จะว่าไปเรื่องซื้อเสียง ก็เป็นวาทกรรมโง่ๆของพวกอำนาจนิยมอีกอย่างหนึ่ง คือไม่เถียงว่ามีการให้เงินซื้อเสียง หรือให้ประโยชน์โดยตรงผ่านหัวคะแนน แต่มันไม่ได้มีผลหรือเป็นปัจจัยสำคัญมากชนิดที่จะพลิกคะแนนเสียงกันได้เลย ตัวส.ส.เองนั่นแหละ ที่มีผลโดยตรงต่อคะแนนเสียงในพื้นที่้ การสั่งสมบุญคุณ การลงพื้นที่ช่้วยเหลือประชาชน เป็นปัจจัยสำคัญต่อการได้รับเลือกตั้งมากที่สุดตะหาก ลองคิดเล่นๆ ถ้าอีกฝ่ายทุ่มเงินไปซื้อเสียง เขตที่สุเทพคุม มันจะชนะได้ไหมล่ะครับ? แต่ที่ยุคใหม่มีเพิ่มขึ้นมาก็คือเรื่องของนโยบายพรรค ที่สมัยก่อนพรรคเก่าแก่ชอบเขียนเรื่องหลักการสวยหรูเพ้อฝัน ไม่มีการประเมินค่าชี้วัดจริง ขายฝันไปวันๆ แต่พอพรรคใหม่มา ขายนโยบายที่จับต้องได้ แล้วทำไ้ด้จริง กลับบอกว่าเป็นการประชานิยมหลอกชาวบ้านซะงั้น สุดท้่ายตัวเองก็เลียนแบบอีกตะหาก ตลกดี แล้วก็มาหลอกกันเอง ว่าคนซื้อเสียง+นโยบายพรรคดีๆ โกงมากกว่า คนที่ซื้อเสียงเก่าๆ ทั้งๆที่ดัชนีชี้วัดคอรัปชั่น ระดับโลก มันก็เห็นๆแล้วว่า ยุึคอดีตนา่ยก ดัชนีนี้ดีกว่า ยุครบ.ทหาร และยุครบ.ที่ทหารแต่งตั้งในค่ายทหารนะครับ? อ้าวไหงบอกว่า ทหารไม่โกง รบ.คนหล่อไม่โกงไง? หรือจะหลอกตัวเองต่ออีกว่า องค์กรพวกนี้โดนซื้อทั่วโลกหมดแล้ว สงสัยทักกี้จะรวยกว่า มีอำนาจมากกว่าปธน.สหรัฐอีกนะ ถึงสั่งองค์กรระดับโลกซ้ายหันขวาหันกันได้ง่ายๆ :P จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 54 15:41:32