ความคิดเห็นที่ 1 ตอนแรกๆก็ไม่ซับซ้อนขนาดนี้หรอกครับ พอดูออก พอเข้าใจได้ง่าย แต่มันก็ต่อยอดมาเรื่อยๆจนถึงที่เห็นครับ จากคุณ : JusTBELievE เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 00:18:50

ความคิดเห็นที่ 2 ขอสงสัยด้วยคนค่ะ... ก็เห็นด้วยเช่นกันว่าบอร์ดมันซับซ้อนยิ่ง - -" ลายปริ๊นหยุบหยับไปหมด แถมยังออกบอร์ดรุ่นใหม่ๆมาได้อย่างเร็วโคตรๆ O.O แอบสงสัยว่า อะไรจะออกแบบกันได้เร็วปานนั้นคะ? จากคุณ : แมวเหมียวนอนหงายท้อง ร้องแง๊วๆ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 00:55:52

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ได้สร้างคนสองคนนะครับ - - จากคุณ : Akexorcist เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 01:40:43

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นทีมน่ะ จากคุณ : วิหคน้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 02:11:06

ความคิดเห็นที่ 5 เริ่มจากไม่ซับซ้อนขนาดที่เห็นตอนนี้ครับ สมัยเมื่อ ยี่สิบปีก่อน มีปริษัทในประเทศไทย นี่เอง ร่วมมือกับ เนคเทค ทำเมนบอร์ด 386SX ใช้ ไวร์แรป ทำต้นแบบ ซะด้วย สายยุ่บยับ ไปหมด  ประมาณรูป ครับ จากคุณ : juti เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 05:39:42

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าสายในความเห็นที่ 5 หลุดหายไปเส้นนึง  คงปวดหัวน่าดู ปล. อยากกินฝอยทอง จากคุณ : bermAggie เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 08:00:03

ความคิดเห็นที่ 7 ที่มันออกมาใหม่ๆมันก็แก้เฉพาะส่วนนะครับ คือไม่ได้แก้ทั้งหมดแบบปฏิวัติกันไปเลย ส่วนบางอย่างที่คุม เสียง usb sata II pci express มันก็ยังเดิมๆ จากคุณ : underground1 เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 09:07:54

ความคิดเห็นที่ 8 คือเค้าใช้ระบบ บัส(BUS) นะ การออกแบบแม้จำนวนสายจะมากแต่ก็ไม่ได้ มีจำนวน สัญญาณมาก อีกอย่างก็ไม่ทำด้วยมือ แต่ใช้ คอมพิวเตอร์ทำ ปูลม เดี๋ยวนี้ บัส1ช่องทางก็มีตั้ง 64 สายสัญญาณแล้ว ปูลม 2 ตูจะบอกทำไมเนี้ย ถ้าเรียน คอมพิวเตอร์อาคิเทคมาก็ไม่ถาม ถ้าไม่เรียนมาตอบแบบนี้ก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี >_< จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 09:15:05

ความคิดเห็นที่ 9 แบ่งเป็นทีมครับ แต่ละทีมออกแบบเป็นส่วน ๆ ครับ แต่ทั้งหมดจะถูก ทีมกลางคอยเอาหลาย ๆ ส่วนมาเชื่อมต่อกันอีกทีครับ คนออกแบบพวก shipset ก้เป็นพวก amd intel nvidia (พวกออกแบบ CPU นั้นแหละ) แต่ทั้งหมดก้เป็นแค่โครงและการเชื่อมต่อบนบอร์ด และออกแบบบอร์ดต้นแบบครับ ส่วน บ. ที่ผลิต MB ก็จะเอามาดัดแปลงอีกทีเพิ่มโน้น เพิ่มนี้ ตักโน้น ตัดนี้ หรือหากอยากรีบขายก็ออกแบบตามบอร์ดต้นแบบ เลย จากคุณ : NeoTokyo เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 09:31:48

ความคิดเห็นที่ 10 แบ่งเป็นส่วนๆ แยกกัน ก็เลยง่ายขึ้น จากคุณ : padawan เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 11:06:27

ความคิดเห็นที่ 11 วงจร มันแยกเฉพาะส่วนครับ ซาว แลน ยูเอสบี บลาๆ พวกนี้ มันมาตรฐานเอามาวางได้เลย ส่วนหลัก ก็เซ๊าบริด นอทบริด จะีมี เซอกิต มาจากโรงงานผลิต ก็ลากขาจากวงจรเบื่องต้น ต่อเข้าได้เลย พอมันทำหลายๆส่วนเข้า มันก็เป็นอย่างที่เห็นแหละครับ แต่โดยหลักๆ มันก็มีแค่ อินพุท เอ๊าพุท ซัพพราย โพเทคชั่น เมร์นบอร์ด ราคาถูก กับแพง ถ้าชิพตัวเดียวกัน จะใช้วิธีลด พอทอินเอ๊า ซัพพราย(ซัพซ้อนน้อยกว่า) และก็เกรดอุปกรณ์ (โดยเฉพาะ คาปาซิเตอร์) สังเกตุไหม แอสร๊อค กะ อะซุส เกรดเดียวกัน ของไคร ทนกว่า จากคุณ : ^Ai^ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 12:33:49 A:192.168.1.118 X:110.77.226.242 TicketID:280139

ความคิดเห็นที่ 12 ที่ hardware ไปได้ไกลขนาดนี้ เพราะ ic ครับ ขณะที่ software ยังไปไม่ถึงไหน เพราะยืดหยุ่นเกิน ไม่ชัดเจน ต่อยอดไปได้ไม่ถึงไหน เด๋วจะไม่ถูก เอาเป็นว่า software ไปทางกว้างเยอะ แต่ไม่ค่อยได้ไปทางลึก จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 12:46:12

ความคิดเห็นที่ 13 ใช้คนทำจำนวนมากครับ ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยด้วย จากคุณ : สไปเดอร์แมน เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 14:50:12 A:124.120.171.3 X: TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 14 จะบอกว่าที่เห็นยุบยับหนะ แค่ชั้นหน้าชั้นเดียว รุ่นที่เป็นหัวกระทู้น่าจะมีลายวงจร 6-8 ชั้น+ นะครับ แถมวงจรบางตัวโดนจับไปอยู่ใน IC อีกตะหาก จากคุณ : tineny เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 17:44:43 A:14.207.102.146 X: TicketID:312720

ความคิดเห็นที่ 15 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 07:44:22

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนทำ project ใช้ protel ออกแบบลายวงจร แค่วงจรขับ stepping moter layer เดียวใช้เวลาตั้งหลายนาที อันนี้น่าจะไม่ต่ำกว่า 4 layer คงใช้เวลาหลายวัน 55 จากคุณ : titsom เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 07:41:26