 |
โครงการแอโรบีสิ้นสุดลงในเที่ยวบินสุดท้ายที่ส่งขึ้นในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2495 โดยมีผู้โดยสารเป็นหนู 2 ตัวคือ มิลเดร็ด กับ อัลเบิร์ต และลิงฟิลิปปินส์อีก 2 ตัว คือ แพทริเชีย กับ ไมค์ พวกมันขึ้นไปที่ระดับ 58 กิโลเมตร และได้รับการเฝ้าดูด้วยกล้องวิดีโอ ที่ติดตั้งอยู่กับจรวด นักวิทยาศาสตร์ของกองทัพได้สังเกตผลของความเร่ง, สภาวะไร้น้ำหนัก และผลของการลดความเร่งผ่านกล้องนี้ และเพื่อศึกษาผลที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของจรวด ด้วยความเร็ว 3,220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แพทริเชีย กับไมค์ ก็ต้องถูกรัดตัวติดกับที่นั่งที่เตรียมไว้ (ในขณะที่มิลเดร็ดกับอัลเบิร์ตลอยเท้งเต้งในที่ของมันเมื่ออยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก) หลังจากจบภารกิจแล้ว ลิงทั้งสองตัวก็ได้รับการเกษียณอายุไปอยู่ที่สวนสัตว์แห่งชาติในกรุงวอชิงตัน และก็อยู่กันอย่างมีความสุขนับแต่นั้นมา(โชคดีไป) ในขณะเดียวกัน สหภาพโซเวียตก็ทำการศึกษาการส่งสุนัขขึ้นสู่วงโคจรรอบโลก การทดลองของ รัสเซียใช้สุนัขถึง 9 ตัวในฐานะเป็น “สุนัขอวกาศ” รวมไปถึงการใช้ชุดอัดอากาศในห้องไร้ความดันด้วย สุนัขของโซเวียตสองตัวที่อยู่ในการทดลองนี้คือ อับบินา และ ทซีแกงกา ซึ่งมันได้ขึ้นไปยัง ขอบบรรยากาศของโลก และสามารถดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัยในขากลับสู่โลก และโซเวียตได้ทำสถิติส่งสัตว์ขึ้นไปได้ที่ระดับความสูงถึง 483 กิโลเมตร ทั้งหมดนี้ก็เพื่อ เตรียมการสำหรับการเขย่าโลกในปี พ.ศ. 2500 ที่จะตามมา นั่นก็คือการส่งดาวเทียมสปุตนิก 1 และ สปุตนิก 2 ขึ้นสู่วงโคจรรอบโลก นับเป็นประวัติศาสตร์อวกาศครั้งแรกของการบุกเบิกอวกาศ” เมื่อถึงปี พ.ศ. 2500 โซเวียตเองก็มีความมั่นใจในเที่ยวบินสู่อวกาศของพวกเขา และก็พร้อมที่จะส่งยานอวกาศที่มีสิ่งมีชีวิตไปยังวงโคจรด้วย หลังจากการส่งดาวเทียมดวงแรก ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2500 แล้ว โซเวียตก็เริ่มส่งสุนัขขึ้นไปกับดาวเทียมสปุตนิก 2 ในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500 สุนัขที่ส่งขึ้นไปนั้นเป็นสุนัขไซบีเรียน ฮัสกีมีชื่อว่า ไลก้า เชื่อหรือไม่ว่า ฮัสกีตัวนี้เป็นสุนัข ที่ถูกจับมาจากข้างถนนในกรุงมอสโก นั่นเอง! สหภาพโซเวียตได้เปิดตัวไลก้าสู่สาธารณะในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2500 ซึ่งไลก้าได้ส่งเสียงเห่าใส่ไมโครโฟนสำหรับการถ่ายทอดวิทยุ นั่นเป็นที่มาของชื่อของมัน เนื่องจากคำว่าไลก้าแปลว่า เห่า ส่วนชื่อของไลก้าที่สื่อมวลชนฝั่งอเมริกาตั้งให้เล่นๆ ก็คือ มุตนิก ในภารกิจนี้ ไลก้าต้องนั่งไปในยานหนัก 509 กิโลกรัมที่มีเครื่องมือวัดทางวิทยาศาสตร์หลายอย่าง มีระบบเกื้อชีวิต ไลก้าเองถูกยึดให้อยู่ในที่ที่ มันขยับได้เพียงแค่ไปให้ถึงอาหารและน้ำเท่านั้น นอกจากนั้นที่ตัวมันก็ยังต้องติดขั้วไฟฟ้าสำหรับวัดความดันเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ และอัตราการหายใจด้วย โซเวียตใช้จรวด SS-6 ในการส่งสปุตนิก 2 ขึ้นสู่อวกาศจากฐานอวกาศในไบคานัว (ปัจจุบันเป็นเขตของประ-เทศคาซัคสถานและยังใช้ในการส่งยานอวกาศอยู่) คราวนี้สปุตนิก 2 ขึ้นไปสูงกว่าสปุตนิก 1 เกือบ 2 เท่านั่นคือขึ้นไปที่ระดับความสูง 1,671 กิโลเมตร ซึ่งไลก้าเองก็ไม่ได้รับอันตรายใดๆ และแม้ว่าจะมีการยึดตัวไลก้าให้อยู่กับที่ไว้ มันก็สามารถกิน ดื่ม เห่า ขยับไปรอบๆ ได้ ในตอนที่มันอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก อย่างไรก็ตาม ยานสปุตนิก 2 ไม่ได้ออกแบบ ให้กลับสู่โลกอย่างสมบูรณ์ เรื่องของไลก้า จึงจบลงด้วยโศกนาฏกรรมที่เราไม่รู้แน่ชัดนัก ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ประเมินว่า ไลก้ามีชีวิตอยู่ได้ ระหว่าง 4-10 วันในวงโคจร(บางข้อมูล 7 วัน) บางคนก็บอกว่า อาหารมื้อท้ายๆ ของเธอ(ไลก้า)มีภาวะเป็นพิษ บางส่วนก็อ้างว่าไลก้าขาดออกซิเจนเมื่อแบตเตอรี่ ของระบบเกื้อชีวิตหมด แต่ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ไหนก็ตาม สปุตนิก 2 อยู่ในวงโคจรนาน 163 วัน โคจรรอบโลกครบรอบในเวลา 1 ชั่วโมง 42 นาที รวม 2,370 รอบ แล้วในท้ายสุด โลงศพของไลก้าก็ตกลงสู่โลกและไหม้สลายหมดไปในอากาศเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2501
จากคุณ |
:
[T]ango[A]lpha
|
เขียนเมื่อ |
:
11 พ.ค. 54 10:27:28
|
|
|
|
 |