ความคิดเห็นที่ 1 สร้างสรรค์ความคิดร่วมกัน เพื่อสักวันหนึ่งคนที่ได้อ่่านจะทำประโยชน์ได้มากกว่าเรา จากคุณ : Axiom of Choice เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 17:03:17

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วองค์ความรู้ของบรรบุรุษเรามันไม่ใช่วิทย์เหรอครับ? จากคุณ : เกียงอุยศิษย์มังกรหลับ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 17:16:13

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าย่ำอยู่กับที่ เค้าเรียกว่าล้าหลังนะคับ จากคุณ : birdInwsad เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 17:18:08 A:124.121.207.148 X: TicketID:308232

ความคิดเห็นที่ 4 เทคโนโลยีการเกษตร ไม่ใช่เทคโนโลยีเหรอครับ ทุกวันนี้การเกษตรของบ้านเราค่อนข้างล้าหลัง ทำนาไม่ได้ต่างไปจากเมื่อ สมัยกรุงอโยธยาศรีรามเทพนครเลย ยังต้องพึ่งธรรมชาติมาก พึ่งเทวดาฟ้าดิน เอาแน่เอานแนอะไรไม่ได้ ใช้สารเคมีจำนวน มาก แถมปุ๋ยก็ไม่มีการผลิตเอง ต้องซื้อเขาใช้ ต้นทุนบานเบอะ โรงงานปุ๋ยแห่งชาติทำไมไม่ทำ นำเข้าปุ๋ยกินค่าหัวคิวดีกว่า ใช่ไหม ? การชลประทานก็ห่วย ราคาก็ต่ำ ความรู้เกษตรกรมีน้อย ญี่ปุ่น เกาหลี หรือจีนก็ทำการเกษตรเหมือนบ้านเราแต่ เขาใช้เทคโนโลยีสูงกว่ามาก ได้ผลผลิตต่อไร่สูงกว่า มันไม่ได้เกี่ยวกับทิ้งภูมิปัญญาบรรพบุรุษเลย บรรพบุรุษมีปัญญาปลูก ข้าวแบบจีน ญี่ปุ่น เกาหลีเขาทำกันไหม เทคโนโลยีรูปแบบอื่นก็ต้องพัฒนา ภาคการเกษตรก็ส่วนภาคการเกษตร อย่าเอา มาปนกันมั่ว ไม่ได้เกี่ยวกันเลย อเมริกาก็ทำการเกษตร ทำไมเกษตรกรเขารวยเอาๆ จากคุณ : tomorrow night เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 17:21:49

ความคิดเห็นที่ 5 คุณจะทำให้ผลผลิตต่อไร่มันเพิ่มได้ยังไง ถ้าใช้วิธีและภูมิปัญญาแบบเก่าน่ะครับ จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 17:24:07 A:58.64.76.149 X: TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 6 ทางสายกลางครับ จากคุณ : @==ไข่ดำ==@ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 17:32:22

ความคิดเห็นที่ 7 ก็ไม่เห็นจะยาก เอาทั้งสองแบบมาเปรียบเทียบกัน แล้วดูเรื่องประสิทธิภาพ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม/ ชุมชน อันไหนดีกว่าก็ใช้แบบนั้น จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 17:35:01

ความคิดเห็นที่ 8 จริงๆในประเทศไทย คนไม่ใช่น้อยเลยนะครับ 64ล้านคนแล้วครับ ถ้าจะให้ถูกต้อง คนเราต้องเข้าใจว่า ทุกคนจะทำในอย่างเดียวกันทั้งหมด คงเป้นไปได้ยากมาก ถึงเป้นไปไม่ได้เลยครับ จะให้มีแต่นักวิทยาศาสตร์ทั้งประเทศ ไม่มีทาง จะให้มีแต่เกษตรกรทั้งประเทศ ไม่มีทาง ทุกอาชีพสำคัญครับ และถ้าคนเข้าไปจับต้องให้ถูกสัดส่วน และสอดเสริมกันอย่างลงตัว ผมคิดว่าประเทศนี้ เจริญแน่นอนครับ(ต่อให้ยังมีนักการเมืองแบบนี้ด้วยก็ตามครับ) แต่ความคิดของคนส่วนใหญ่ยังมองถึงตัวเองมากกว่าสังคมโดยรวม มองว่าตัวเองต้องไปอยู่ในจุดที่ดี แล้วจากนั้นการช่วยเหลือเจือจุนผู้อื่นถึงจะมีมา ไม่มีใครคิดว่า การที่เรามุ่งมั่นที่จะไปทำอาชีพ ที่มีความยากลำบากมากกว่าในการจะทำเงินได้ เป็นการละทิ้งโอกาสดีในชีวิต ผมไม่มองไปที่ใครหรอกครับ ตัวผมเองก้คิดแบบนี้ ก็ขำตัวเองนะครับ บ้านเมืองเรามันถึงพัฒนาได้ไม่สุดครับ ก็ได้แต่หวังว่าคนรุ่นใหม่จะเข้าใจว่า อาชีพทุกอาชีพทำเงินได้ อาชีพทุกอาชีพช่วยเหลือเติมเต็มกันได้ อาชีพทุกอาชีพไม่ต้องการคนเกินความต้องการ สังคมจะดี ถ้าคนเรารู้จักหน้าที่ รู้จักวางตัวในที่ที่เหมาะสม และการที่วางตัวในจุดที่ต่างจากคนอื่น ไม่ได้ทำให้ตัวเองอ่อนด้อยกว่าคนอื่น ปล.ที่ต้องฝากความหวังไว้กับคนรุ่นต่อไป ไม่ใช่ว่าจะเป้นการผลักภาระ แต่แค่คิดว่า ถ้ามีผู้ใหญ่ที่เข้าใจ และสอนให้เด็กเข้าใจในสิ่งที่ถูก เด็กก็จะได้มุ่งไปในทางที่ถูก มากกว่าที่จะเริ่มคิดได้เอง เมื่อถึงจุดหนึ่ง ซึ่งหลายคนอาจกลับตัวได้ยากแล้ว ปล.2 ขออภัยครับ ออกทะเลไปครับ จากคุณ : I_AM_Y (I_am_y) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 17:36:09

ความคิดเห็นที่ 9 มันจำเป็นต้องเลือกเหรอคับ? จากคุณ : กาลครั้งหนึ่งบนดวงดาวสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 17:39:21

ความคิดเห็นที่ 10 อ๋อ ...ผมนึกออกแล้ว คุณ จขกท ไปจำรูปแบบมาจากโฆษณาชวนเชื่อทางโทรทัศน์ของหน่วยงานราชการใช่ไหม ที่ชอบโจมตี ระบบทุนนิยม ว่าเป็นระบบชั่วช้าสามานย์ ระบบแห่งความเสื่อม ระบบที่ทำลายรากเหง้าของประเทศ ระบบที่ทำลายคุณงาม ความดีต่างๆ ทำลายสังคมไทย แล้วเชิดชูระบบทำไร่ทำนา ปลูกข้าวเลี้ยงปลา เอาควายไถนาเลิกใช้เครื่องจักร ผู้คนตื่นเช้า ไปไร่ไปสวน ทำบุญใส่บาตร ยิ้มแย้มแจ่มใส เด็กไว้ผมแกละวิ่งเล่นตามท้องทุ่งตกปลา แล้วทำภาพสังคมเมืองให้เป็นสังคม ที่วิปริต ผิดธรรมชาติ เป็นปีศาจร้าย สร้างภาพการใช้โทรศัพท์มือถือราคาแพงให้เป็นเรื่องชั่วต่ำ การใช้เทคโนโลยีแบบฝรั่ง เป็นเรื่องโสมม วิถีชีวิตแบบคนเมืองเป็นอบายมุข ผมเห็นโฆษณาชวนเชื่อแบบนี้จากทางราชการหลายครั้งแล้ว ผมรู้แล้วว่าทำไม ถึงชอบให้ระบบทุนนิยมเป็นเรื่องสามานย์กันนัก มีอยู่วันหนึ่งผมไปเติมน้ำมัน เด็กปั๊มคราวแม่เดินเข้ามา ยกมือไหว้สวัสดีผมซึ่งเป็นลูกค้า ภาพเดียวก็อธิบายได้หมดแล้วว่าทำไมระบบทุนนิยมถึงเป็นเรื่องที่ควรกำจัดและตีตราเป็น สิ่งชั่วร้ายในสังคมนี้ เพราะระบบทุนนิยม เป็นระบบที่เอื้อให้คนมีความสามารถได้ลืมตาอ้าปาก เป็นระบบที่ทำให้เกิดการ- แข่งขันอย่างเสรี และวัดกันด้วยคุณภาพจริงๆ ไม่ใช่ระบบเส้นสาย ระบบอุปถัมภ์ ระบบเครือญาติ คนที่มีความสามารถจริงๆ แม้ว่าจะไม่มีเส้นสาย ไม่เครือญาติ ไม่มีอิทธิพลก็สามารถลุกขึ้นมาสู้ได้ด้วยคุณภาพ ประสิทธิภาพ และได้รับโอกาสเท่ากัน ทั้งหมด ต่างจากระบบถ่วงความเจริญที่หยั่งรากลึกลงในประเทศไทย ที่เป็นระบบเส้นสาย ระบบเครือญาติ ทำให้คนแม้จะมีความ สามารถก็แพ้ระบบชั่วๆ เช่นนี้ อีกทั้งระบบทุนนิยมเอื้อให้คนใฝ่หาความรู้มากกว่าเพื่อนำมาพัฒนาตนเองและองค์กรเพื่อต่อ สู้กับองค์กรอยู่ ต่างจากระบบเดิมที่ทำให้คนที่อยู่ชั้นล่างโง่เหมือนเดิม เพื่อจะกดเอาไว้ด้วยอิทธิพลที่เหนือกว่า ราชการถึงชอบทำภาพสังคมแบบเก่าๆ นั้นดี เป็นเรื่องที่ควรเอาเยี่ยงอย่าง เพราะกดให้โง่งมเหมือนเดิมน่ะดีแล้วอย่ามารู้ทัน รู้โลก รู้จักรวาลกับเขาเลย [แก้คำผิด] แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 54 23:31:01 จากคุณ : tomorrow night เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 17:41:03

ความคิดเห็นที่ 11 มันก็ไม่ดีทั้ง ลอกแบบไม่คิด และคิดแบบไม่ลอกแหละ ต้องก็อบ globalize มา customize แน่นอนว่า การทบทวนตัวเอง เป็นสิ่งที่ต้องทำ ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน แล้วจะไปถึงเป้าได้ไง อีกอย่าง ก่อนจะตั้งเป้าก็ควรจะวิเคราะห์ปัญหาของระบบปัจจุบันก่อน แล้วหาความต้องการที่แท้จริง และเป็นไปได้ จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 17:45:08

ความคิดเห็นที่ 12 ขอตอบว่าทั้ง 2 อย่าง เราเดินหน้าด้านวิทยาศาสตร์ด้วย บนพื้นฐานภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้วย และองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นนั้น จะเป็นองค์ความรู้ที่สืบทอดให้คนรุ่นต่อไป ให้คนรุ่นต่อไปได้เดินหน้าเรื่อยไป เพราะเขาจะเดินหน้าไปบนพื้นฐานที่เราสร้างเช่นกัน จากคุณ : ABP@BDZ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 18:46:46

ความคิดเห็นที่ 13 อยู่อย่างพอเพียง ปลูกผัก ปลูกข้าว เลี้ยงหมูเลี้ยงไก่ จากคุณ : เอก เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 18:47:20 A:58.11.11.229 X: TicketID:308413

ความคิดเห็นที่ 14 วันนี้จะกินก๋วยเตี๋ยวน้ำหรือก๋วยเตี๋ยวแห้ง บะ มันเสือ.. สั่งขลุกขลิกซะงั้น ถ้ามันง่ายแบบสั่งก๋วยเตี๋ยวคงดีนะชีวิต จากคุณ : NMT@STUT เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 18:50:02

ความคิดเห็นที่ 15 แล้วทำไมต้องเลือก ทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไม่ได้เหรอ บูรณาการกันไป จากคุณ : Teerarod เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 19:19:54

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่รู้อะไรดีกว่า ขีปนาวุธ กินไม่ได้ ข้าวกินได้ แต่ถ้ามีขีปนาวุธก็ข่มประเทศที่ไม่มีได้ -_-" จากคุณ : varchar2 เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 19:35:34 A:80.237.226.76 X: TicketID:272004

ความคิดเห็นที่ 17 ทำไมต้องเลือก ถ้าหากสามารถ บูราณาการณ์ได้ จากคุณ : Gin_tonic1989 เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 19:40:38

ความคิดเห็นที่ 18 เอามารวมกัน แล้วทำให้มันดีขึ้นครับ จากคุณ : ginosty เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 19:51:54

ความคิดเห็นที่ 19 แนะนำว่าให้หยิบธนบัตรฉบับละห้าร้อยบาท พลิกด้านหลัง พยายามอ่านพระราชดำรัสสุดท้ายของล้นเกล้ารัชกาลที่ 3 (เพราะพิมพ์ค่อนข้างตัวเล็กมาก) แล้วปฏิบัติตามนั้นครับ "การงานสิ่งใดของเขาที่ดี ควรจะเรียนร่ำเอาไว้ ก็เอาอย่างเขา แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปเสียทีเดียว" แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 54 20:21:42 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 20:20:56

ความคิดเห็นที่ 20 สิ่งที่บรรพชนให้มา มันก็คือพื้นฐานให้เราคิดต่อนั่นเองครับ จากคุณ : E22QV เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 20:29:12

ความคิดเห็นที่ 21 C.D.C. Model แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 54 21:17:10 จากคุณ : Sylphs เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 21:15:57

ความคิดเห็นที่ 22 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 54 21:17:35 จากคุณ : Sylphs เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 21:16:16

ความคิดเห็นที่ 23 กินข้าวผัดใส่ไข่ดาวมันผิดใหมอะ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 21:30:02

ความคิดเห็นที่ 24 อะไรคือ "วิถีคนไทย" ครับ? ใช่ที่ใครก็ไม่รู้พยายามบอกว่าเราเป็นสังคมเกษตรกรรม ดังนั้น เราจึงควรไปทำแต่เกษตรกรรม สนแต่เกษตรกรรม อย่างนั้นล่ะหรือ? ใช่ที่ใครก็ไม่รู้บอกว่าบ้านคนไทยต้องทรงเรือนไทย ทำจากไม้ (แพงๆ) ตกแต่งประดิษฐ์ประดอยสวยๆ (ช่างฝีมือดีค่าจ้างไม่ถูก) อย่างนั้นล่ะหรือ? ผมไม่เห็นว่าเราได้ทิ้งอะไร "ไทยๆ" ไปเพื่อการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เลย เว้นแต่คุณจะยึดติดแต่ "เปลือก" ที่ใครก็ไม่รู้กำหนดไว้ ว่าของไทยต้องเป็นแบบโน้นแบบนี้ โดยอ้างอิงว่าทุกอย่างต้องเหมือนในพิพิธภัณฑ์ ไถนาด้วยควาย ป่วยกินยาหม้อ สวมงอบใช้เคียวเกี่ยวข้าว พอคิดว่าเป็นของที่ฝรั่งตาน้ำข้าวคิดค้น ก็อนุมานไปแล้วว่ามันต้องเป็นของ alien ที่ไม่เหมาะกับคนที่มียีนคนไทยในสายเลือด (แล้วยีนคนไทยมันเป็นไงหว่า?) มนุษย์เรามีหลายมิติ คนไทยเราก็มีหลายมิติเหมือนกัน เราจำเป็นต้องพัฒนานาโนเทคไหม ผมไม่ทราบ แต่ผมทราบว่าเรามีทั้งคนที่พยายามพัฒนาทั้งด้านนาโนเทค และคนที่พยายามพัฒนาด้านการเพิ่มผลผลิตของข้าวในเวลาเดียวกัน (และผมแอบเชื่อว่าการวิจัยที่มีการวัดผลที่เห็นด้วยตาเปล่าอย่างการเพิ่มผลผลิตการเกษตรจะหาทุนง่ายกว่าด้วยซ้ำ) ไม่แน่นะ นาโนเทคโนโลยีอาจทำให้เราสามารถผลิตปุ๋ยที่ดีกว่าเดิมก็ได้ คนไทยเป็นล้านคน แบ่งกันทำคนละเรื่องสองเรื่องก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เว้นแต่ถ้าการบริหารแบบ "ไทยๆ" หมายถึงมีอะไรก็เฮโลแย่งกันไปทำกันทั้งบาง จากคุณ : oryze เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 21:49:55

ความคิดเห็นที่ 25 คหที่ 3 ... บางทีการอยู่กับที่ ก็ทำให้คนอื่นหาเราเจอนะครับ จากคุณ : Tiggy-ข้าวหอม เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 21:54:56

ความคิดเห็นที่ 26 เยี่ยมครับ tomorrow night ผมดูคนไม่ผิดจริงๆ จากคุณ : underX เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 22:39:14

ความคิดเห็นที่ 27 ทางไหนทำให้ได้ประโยชน์มากกว่า โดยใช้ทรัพยากรน้อยกว่า เวลาสั้นกว่า ก็ทางนั้นล่ะครับ จากคุณ : Zeichnung (Zeichnung) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 23:12:46

ความคิดเห็นที่ 28 ต่อยอดครับต่อยอด จากคุณ : outsider_from_within เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 09:30:46

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้ามองจากประเทศที่ก้าวไปก่อนเรา เช่นญี่ปุ่นในปัจจุบัน เค้าจะตอบว่า ให้ทำควบคู่กันไป มองเห็น ยังใส่กิโมโน ทั้งๆที่อีกฟาก เป็นพวกเด็กคอสเพลย์ ไปคิดต่อเอาเอง มันเป็นวิทยาศาสตร์ จากคุณ : เอวีจงอยู่คู่โลก เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 09:58:43 A:192.168.3.13 X:192.168.1.10, 110.169.242.88 TicketID:303162

ความคิดเห็นที่ 30 ผมเชื่อว่า เราต้องการ ทั้งสองแนว แต่เราต้องฉลาดพอที่จะวางแผนให้ได้มาทั้งสองแนวครับ ในด้านที่เราสามารถพัฒนาได้เร็วกว่าชาติอื่นๆ เพราะเรามีต้นทุนความรู้มาจากบรรพบุรุษ หรือเรามีวัศนธรรมและสภาพแวดล้อมที่เอื้อกว่าชาติอื่น เราควรเร่งให้แซงหน้าขึ้นเป็นผู้นำในด้านนั้นๆ เช่น วิทยาการเรื่องข้าว เรื่องการบริการ ในด้านที่เราไม่จำเป็นต้องพัฒนาเอง เราต้องสร้างกลไกให้สามารถดูดซับความรู้มาจากชาติอื่นๆที่เขาพัฒนาไปแล้ว อย่างน้อยให้ได้เท่ากับระดับที่ไม่เสียเปรียบชาติอื่นๆ ในด้านที่เรามีศักยภาพ พอแค่ก็ไม่ได้โดดเด่นจากชาติใกล้เคียงเรามากนัก ต้อง ประสานและแบ่งงานกันไปศึกษา แล้วเอามาแลกกัน ในด้านที่เป็นยุทธศาสตร์ แต่เราไม่มีปัญญาศึกษาเอง เช่น การทหาร  งานอวกาศ ต้องหาทาง เชื่อมสัมพันธ์ และ หาทางหนีทีไล่เอาไว้ ทั้งหมดขึ้นกับ ทิศทางที่ต้องกำหนดเป็นระยะยาวครับ จากคุณ : รวมพล คนธรรมดา เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 12:17:08

ความคิดเห็นที่ 31 ของที่มีเป็นฐานแล้วต่อยอด พวกที่ดูถูกภูมิปัญญาดั้งเดิมนี่ควรอ่านข่าวเยอะๆนะครับ ประเทศที่เจริญแล้วที่ไหนบ้างที่ทิ้งภูมิปัญญาเก่าๆแล้วไปนับ1ใหม่แต่ต้น ความรู้ด้านสมุนไพรเอย ยาเอย การกำจัดศัตรูพืชตามธรรมชาติเอย ของพวกนี้นำมาใช้ได้ทั้งนั้นครับ เอาแค่ญี่ปุ่นเองฟาร์มหรือนาที่ใช้วิถีธรรมชาติในพื้นที่เล็กๆสามารถโขกราคาได้สูงกว่าผลผลิตจำนวนมากจากพื้นที่ใหญ่ๆได้ด้วยซ้ำ แต่ต้องรู้จักเอาวิทยาการสมัยใหม่มาต่อยอด ถ้าเอาแต่ใช้ของเก่าไม่พัฒนาเรียกดักดาน ถ้าทิ้งของมีค่าที่มีอยู่แล้วเรียกไร้วิสัยทัศน์ครับ จากคุณ : YF-01 เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 16:49:40

ความคิดเห็นที่ 32 "พัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ของบรรพบุรุษด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์" จากคุณ : nadashiko เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 18:01:08