ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าตอบตามสิ่งที่นักจักรวาลวิทยาส่วนใหญ่เชื่อถือกันว่า ก็คือ เอกภพเกิดจากความว่างเปล่า !! จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 19:17:04

ความคิดเห็นที่ 2 ฮ่าๆ  #1  ตอบได้แบบกำปั้นทุบดินมากครับ นักจักรวาลวิทยาเค้าคิดแบบนั้นจริงๆเหรอครับ  กรำ จากคุณ : MadtheW DwighT ShadowS เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 19:23:45

ความคิดเห็นที่ 3 ตอบแล้วบางข้อ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X10555027/X10555027.html 1.เป็นอจินไตย 2.มิติอื่น ถ้าเป็นภพอื่นมี 3-5 ต้องใช้เวลานานกว่านั้น โลกตอนนี้ยังอยู่อีกเป็นล้านปี จนถึงในสูริยสูตร 6.เป็นไปได้ 7.เกี่ยวกันเป็นกระแส สายธารเดียวกัน เป็นปฏิจจสมุปบาท http://www.oknation.net/blog/drpichai/2009/06/12/entry-1 http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97 8.สร้างไม่ได้ อย่างมากแค่ย้อนดูภาพอดีต จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 19:32:50

ความคิดเห็นที่ 4 1.เกิดอีกสิบชาติแล้วศึกษาพระธรรม 2.มนุษย์ต่างดาวอยู่ห่างจากเรา 50ปีแสง 3.ไม่มี จะมีก็มีแต่มนุษย์พันธุ์นี้ล่มสลาย(ไม่ใกล้ไม่ไกล) แล้วมนุษย์ต่างดาวจะมาจัดการอีกครั้งนึง เกิดมนุษย์สายพันธุ์ใหม่เจ๋งกว่าเดิม 4.เราจะเร็วกว่าแสงได้ 5.ดูข้อ 3 6.อนาคตอันไกลโพ้น เราจะย้ายไปดาวอื่น 7.สามารถพิสูจน์ได้ 8.ไทม์แมชีนที่สร้างจากวิทยาศาสตร์มันมีลิมิต ไม่สามารถเดินทางได้ตามใจนึก จากคุณ : หัวโตนะ เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 19:35:02

ความคิดเห็นที่ 5 ไหนๆก็ไหนแล้ว เรื่องนรกสวรรค์ ผมสงสัยอยู่ ถ้านรกสวรรค์มีจริง ทุกคนต้องเป็นไปตามกฏคือตกนรกขึ้นสวรรค์ทุกคนมั้ย คนที่ไม่ได้นับถือศาสนานั้นๆก็ต้อง เป็นไปตามกฏโดยไม่รู้เรื่องก่อนเลยหรือครับ หรือถ้าแบ่งแยกเป็นศาสนาๆไป ถ้าเปลี่ยนศาสนาก่อนตายล่ะครับ ก็เหมือนลดโทษฟรีๆเลยสิครับ คหสต.นะครับ <<<<แก้ไขครับ ไม่ได้ลบหลู่อะไรนะครับ แค่สงสัยจึงเกิดคำถาม แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 54 20:05:12 จากคุณ : ตื่นแล้วจะกินอะไร เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 19:58:01

ความคิดเห็นที่ 6 อ้าว..พูดจริงนะเนี่ย ไม่ได้พูดเล่น เขาเชื่อกันว่า การบิดเบี้ยวของมิติของจักรวาล ก่อให้เกิดพลังงาน ซึ่งกำเนิดมาจากความว่างเปล่า แล้วต่อมา พลังงานรวมตัวกัน ก่อให้เกิด สสาร (matter) และ ปฏิสสาร (anti-matter) โดยมวลสารเกิดขึ้นในมิติของเรา ส่วนปฏิสสาร ไปอยู่ในอีกมิตินึง ซึ่งมี่การเชื่อกันว่า หากเราค้นพบ ปฏิสสาร เราจะพบขุมพลังงานชนิดที่ว่าใช้กันไม่รู้จักหมดสิ้น เพราะลองดูจากสมการ E=mc^2 นั้น หากมวลเพียง 1 กรับ เจอกับปฏิสสาร 1 กรัม ก็เกิดพลังงานมหาศาลแล้ว จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 19:59:56

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นไปได้หรือไม่ที่เอกภพ universe อยู่กลางอภิมหาพระยายักษ์หลุมดำชนาดยักษ์ใหญ่เกินจินตนาการ การที่ Universe เอกภพ ขยายตัวอยู่ด้วยอัตราเร่งด้วย dark energy แสดงว่านอกเอกภพนั้นมีวัตถุลึกลับที่ส่งพลังดึงดูดเป็น dark energy ส่งแรงดึงเอกภพให้วิ่งกระจายตัวออกทุกด้านเป็นอัตราเร่ง F=ma ซึ่งแสดงว่ามีแรงกระทำต่อเอกภพทุกด้าน การเกิด Big Bang ที่ Stephen Hawking สงสัยอยู่เสมอว่าทำไม gravity force จึงอ่อนแอนักจึงเกิดระเบิดเป็น Big Bang ได้ก็เพราะ มีอภิมหาพระยายักษ์หลุมดำที่ใหญ่เกินจินตนาการล้อมรอบ Universe อีกที ถามว่าทำไมกลางหลุมดำจึงสงบได้ อันนี้ขอให้นึกถึงตาพายุครับ ตาพายุไซโคลนที่รุนแรงกลับมีลมสงบนึ่งและมองทะลุขึ้นเห็นฟ้าได้ จากคุณ : OMAN เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 20:09:46 A:58.8.114.60 X: TicketID:065895

ความคิดเห็นที่ 8 http://www.sciencedaily.com/releases/2010/04/100406172648.htm จากคุณ : MoMelyz จากคุณ : OMAN เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 20:11:42 A:58.8.114.60 X: TicketID:065895

ความคิดเห็นที่ 9 มดลูก จากคุณ : Ainulindale เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 20:12:50

ความคิดเห็นที่ 10 ได้ศัพท์ใหม่มาหลายคำเลยครับ  บอกตามตรงว่าพึ่งเคยได้ยินอะครับ - อจินไตย - ปฏิจจสมุปบาท - ปฏิสสาร - อภิมหาพระยายักษ์หลุมดำ (คำนี้ ฮามากครับ  5555) จากคุณ : MadtheW DwighT ShadowS เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 20:15:08

ความคิดเห็นที่ 11 #9  มดลูกมาเกี่ยวอะไรด้วยอะครับ  ...  = = จากคุณ : MadtheW DwighT ShadowS เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 20:21:47

ความคิดเห็นที่ 12 บ่ฮู้ครับ จากคุณ : กัมมันตระ เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 20:24:17

ความคิดเห็นที่ 13 เอกภพ และทุกสรรพสิ่ง กำเนิดขึ้นมาจากเหตุครับ เพราะมีเหตุ จึงมีผล เหตุที่ทำให้เอกภพและสรรพสิ่งเกิด ไม่ได้มาจากเหตุเดียว แต่มาจากเหตุจำนวนมากที่นับเป็นอนันต์ครับ โยงใยกันไปกันมา ไขว้กันไปไขว้กันมา เชื่อมต่อกัีนไปมา อ้างอิงถึงกันได้หมด ไม่มีวันจบสิ้น สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นย่อมดับสิ้นไปเป็นธรรมดาเมื่อสิ้นเหตุที่ทำให้สิ่งเหล่านั้นดำรงอยู่ อีกข้อหนึ่งครับ เอกภพและสรรพสิ่งทั้งหลายกำเนิดขึ้นมาจากการยึดถือครับ แน่ใจหรือว่าเอกภพที่เราเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ชิมรส และสัมผัส มันเป็นอย่างที่เราเข้าใจและยึดถือ ทุกอย่างมันเป็นการแปลผล กับประมวลผลจากสมองไม่ใช่หรือครับ อย่างจักรวาล และแกแลคซี่ ที่ถ่ายด้วยย่านความถี่ของแสงต่างประเภทกัน ภาพที่เราเห็นยังออกมาต่างกันเลยครับ เช่นภาพดาราจักร ที่ถ่ายด้วยย่านของแสงขาวปกติ กับย่านความถี่วิทยุ แค่นี้รูปทรงและอาณาเขตของดาราจักรก็ต่างกันมากเลยฮะ จากคุณ : ปริญญาบ้าเกมส์ เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 20:33:45

ความคิดเห็นที่ 14 ดวงดาวต่างๆอาจจะเป็นเพียงก้อนฝุ่นลอยเคว้งคว้างในห้องใหญ่ๆ ซักห้องก็ได้ จากคุณ : ด.ช.แม่น เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 20:37:12

ความคิดเห็นที่ 15 #5 ตามคติพุทธเถรวาท ชีวิตทุกผู้ ทุกนามที่เวียนว่ายในวัฏสงสาร ย่อมอยู่ในกฎ "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" เหมือนกัน แต่ผลของความดีที่ได้มา ไม่ได้นำไปสู่การหลุดพ้น ทำให้เรามีความสุขสบาย เปี่ยมอำนาจ แต่สุดท้ายก็ต้องมาเกิดตายซ้ำซาก เพราะสภาวะอัตตา ที่เชื่อว่าเป็นอมตะไม่มี แต่อาจมีอายุยาวนานจนหลงคิดว่ามี เช่น เทวดา หรือพรหม บางตน ทุกอย่างล้วนอยู่ในสภาวะพระไตรลักษณ์ทั้งสิ้น คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คนไม่นับถือพุทธ ไม่มีความผิด ไม่ตกนรก ถ้าเขาไม่ก่อกรรมชั่ว ทางกาย วาจา ใจ ถ้าเขาทำดีทางกาย วาจา ใจเมื่อตายจากย่อมเข้าถึง สุคติที่เขาปรารถนา หรือไปอยู่ภพภูมิเพื่อเสวยบุญที่สร้างไว้ สมัยสูญกัปไม่มีพุทธศาสนา แต่มีพระปัจเจกพุทธเจ้าอุบัติ แค่ได้พบท่านและได้ฟังคำอันเป็นประโยชน์ก็เป็นกุศลยิ่ง มีบางคนติดตามเป็นศิษย์ พระปัจเจกกล่าววิธีการนุ่งห่ม การฉัน การอยู่ ไม่นานผู้ติดตามนั้นย่อมบรรลุธรรมได้ ตามที่เจตจำนงที่เขาบำเพ็ญมาแต่อดีต คติที่ชนทุกศาสนาสามารถนำไปใช้ได้แน่นอน คือคติที่พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย พึงตั้งเป็นปฐมคือ "ไม่คบคนพาล" ไม่ข้องแวะให้คนพาลได้เห็น ได้ยิน เพราะเขาจะนำภัยมาสู่เรา "คบบัณฑิต" คือคนดีทางกาย วาจา ใจ ย่อมช่วยเหลือนำประโยชน์มาให้ และห้ามไม่ให้เราทำชั่ว "ไม่ประมาทในกาลทั้งปวง" สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ท่านเธอทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ตนและผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด บุคคลผู้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ย่อมถึงสุคติ ปราศจากทุคติ เพราะจิตประกอบด้วยสติ นำไปสู่ปัญญา ย่อมล่วงทุกข์ได้ด้วยพิจารณาว่า สิ่งใดเป็นประโยชน์ สิ่งใดเป็นโทษ เหมือนมีดวงประทีปส่องทางในที่มืด จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 21:39:07

ความคิดเห็นที่ 16 1 คิดเล่นๆ ว่า เหมือนกับเราจุดประทัด แล้วชลอเวลาให้ช้ามากๆ เศษประทัดก็ค่อยๆ แตกกระจายขยายตัวออกไป ในบริเวณที่มีการระเบิดก็มีเศษเล็กเศษน้อยเต็มไปหมด (นึกภาพแบบ super slow motion เลยนะ) ในเศษเล็กเศษน้อยนั้น ก็มีโลกอยู่ แล้วโลกก็เกิดเป็นสิ่งมีชีวิตขึ้น แล้วก็มีคนสงสัยว่า bigbang เกิดจากอะไร ถ้าเป็นตามที่ผมจินตนาการ bigbang ก็เกิดจากการจุดประทัดของใครก็ไม่รู้ที่ตัวใหญ่กว่าเรามากๆ จนเรามองไม่เห็นเขา เขาอาจแค่อยากจุดประทัดเล่นๆ หรือมีวิตถุประสงค์อื่นใดก็ไม่รู้ได้ 2 คิดว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่อื่นด้วย เพราะคิดว่าทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องปกติธรรมดา มันก็น่าจะมีโอกาสเกิดในดาวดวงอื่น ที่อยู่ที่อื่นได้เช่นกัน 3 คิดว่าเป็นไปได้ 4 คิดว่าไม่ได้ 5 เราก็คล้ายแบคทีเรียที่เจริญอยู่บนอาหารที่มีจำกัด โลกมีทรัพยากรจำกัด มนุษย์เพิ่มขึ้นทุกวัน ของเสียก็ต้องเยอะขึ้น พื้นที่น้อยลง อาหารน้อยลง อีก 1000 ปี ก็น่าจะอยู่ลำบาก เว้นแต่คนรวย ก็อาจจะสบายหน่อย ุ6 ดาวที่ใกล้ที่สุด ที่พอจะมีโอกาสไปอยู่ได้ ก็มีดวงจันทร์ กับดาวอังคาร มันยาก แต่คิดว่าเมื่อเวลามาถึง มนุษย์ก็ต้องลองดูแหละ ึ7 คุณเชื่อว่ามีจริง แต่คุณยังไม่สามารถพิสูจน์ให้คนอื่นดูได้ แล้วจะแน่ใจได้อย่างไร ว่านรก สวรรค์ที่คุณว่านั้น มีอยู่จริงๆ เราต้องรู้ให้ได้ก่อนว่ามันอยู่ตรงไหน จึงจะตอบได้ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลอย่างไร 8 คิดว่าสร้างเครื่องย้อนเวลาไม่ได้ แต่พอจะสร้างเครื่องไปอนาคตได้ เช่นเทคโนโลยีแช่แข็งมนุษย์ไว้ แต่เมื่อคุณถูกละลายออกมายังโลกอนาคตแล้ว คุณก็ไม่สามารถจะกลับมายังช่วงเวลาปัจจุบันของคุณได้อีก 9 ถามเยอะมาก แต่ละคำถามก็ยากๆ ทั้งนี้นเลย ปวดหัวดีมาก จากคุณ : RouteRaideR เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 22:16:21

ความคิดเห็นที่ 17 ตามทฤษฏี ซุปเปอร์สตริง เอกภพเกิดจากการชนกันของ p brane ครับ จากคุณ : เถ้าลอย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 23:31:55

ความคิดเห็นที่ 18 ด้วยความเคราพทุกท่าน เรารู้แค่ "วิทยตำราศาสตร์" เท่านั้นแหละครับ นั่นคือรู้แค่เรื่องในตำรา รู้แค่ในสิ่งที่คิดที่บอกต่อกันมา ตามแต่ใครจะจับเอาข้อมูลหรือเหตุผลใดมาวิเคราะห์ ไม่มีใครบอกได้ในตอนนี้หรอกครับว่าคำตอบจริงๆคืออะไร แต่สิ่งน้อยๆที่เราคิดได้ในวันนี้ จะต่อยอดไปในวันหน้า เพื่อรอคำตอบที่แท้จริงให้ปรากฎขึ้นมา อย่าลืมว่าตอนนี้เราส่งคนไปเหยียบได้แค่ดวงจันทร์เท่านั้น จะไปรู้มากหรือเห็นจริงกันถึงเอกภพเลยเหรอครับ จากคุณ : เฮียโอฬาร เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 00:27:10

ความคิดเห็นที่ 19 ในความว่างเปล่า มีอย่างอื่นๆในความว่างเปล่าอีกรึ  งั้นก็ว่างเปล่าไม่จริงน่ะซิ?  ชักจะงง หรือเรานิยามของคำว่าว่างเปล่าผิดไป....ยิ่ง งง จากคุณ : วิหคน้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 00:30:53

ความคิดเห็นที่ 20 ผมคิดว่า 1. จากทฤษฏีในปัจจุบันเท่าที่เป็นไปได้มากที่สุดโดยมีนักดาราศาสตร์เชื่อมากที่สุด เชื่อว่า Big Bang (จาก จุดๆเดียว ขยายตัว) แล้วจะต่อด้วย Big Crunch (การยุบตัวรวมเป็น จุด อีกครั้ง) แล้ว Big Bang , Big Crunch , Big Bang ... ไม่มีวันจบสิ้น (นักดาราศาสตร์ไทย เป็นผู้คำนวนได้คนแรก ทุกวันนี้ยังไม่มีใครคำนวนล้มล้างได้ ได้แต่คิดลอยๆ ไม่มีหลักฐานหนักแน่นเท่า แต่ผมจำไม่ได้ว่าใคร เพราะ นักวิทย์ไทย มักไม่ได้มีการเผยแพร่) สหภพ (Multiverses - เอกภพทั้งหลาย) เหมือนฟองน้ำในน้ำเดือดที่มีมากมาย ที่ขยายตัวหดตัว เป็นวัฏจักรไม่รู้จบ ภายใน นิรวาน (Vacuum - แปลไทย นิรวาน-แดนแห่งการไม่มีสิ้นซึ่งสิ่งใด คำขยายของ นิพพาน) (Theory of physical vacuum - ทฏษฏีนิพพานกายภาพ - Shipov G.I. "Teoriya fizicheskogo vacuuma.", Moscow, 1993) ต่อมา เมื่อมีการถกกัน กำเนิดเอกภพ จะเิท่ากับ Big Bang , Big Crunch สลับกันเรื่อยๆ ไม่รู้จบ ซึ่ง น่าจะมีคำถามว่า Big Bang , Big Crunch อะไรเกิดก่อนกัน มีผู้เสนอว่า Big freeze ก็เป็นอีกทางนึงที่เป็นไปได้ คือ เอกภพเกิดแล้วดับครั้งเดียว ไม่วนลูป มิชิโอะ กากุ(Michio Kaku) ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ที่สุดคนนึง ให้คำตอบว่า ไม่ว่าจะ Big Crunch หรือ Big freeze (การกระจายออกจบสลายหายไปหรือนิ่งไม่เคลื่อนไหว) ล้วนทำให้เกิด Big Bang อีกครั้ง นัยะ คือ ไม่ว่า จะจบอย่างไร ก็จะวนลูปไม่สิ้นสุด เพราะ Big Crunch หรือ Big freeze ก็จะพาให้เอกภพไปสู่ จุดเริ่มต้นของสาเหตุ Big Bang หากเป็นไปตามนี้ เท่ากับว่า Big Bang ไม่มีวันสิ้นสุด เกิดดับๆ ไปเรื่อย ไม่มีจุดกำเนิด บน Vacuum สรรพสิ่งล้วน อนิจจัง วัฏสังขารา - เปลี่ยนแปลงเวียนวนไม่จบสิ้น ปล. อย่าถามว่า Vacuum เกิดมาได้อย่างไร เพราะ Vacuum หมายถึง ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ความไม่มีอะไร(แต่มีสิ่งนี้อยู่) ไม่จำเป็นต้องมีการให้กำเนิดจากอื่นๆ เพราะมัน มีอย่างไม่มี 2. ผมไม่แน่ใจคำว่า "สิ่งมีชีวิต" เท่าไหร่ นิยามที่มนุษย์ใช้กัน อาจไม่ใช่ สิ่งที่ใช้การได้ กับดาวดวงอื่น หรือ มิติอื่นๆ ถ้าหมายถึง สิ่งทรงภูมิ มีสติปัญญา ผมเชื่อว่า ในสหภพ คงมีอย่างมากมาย ไม่ถูกจำกัดด้วย มิติ หรือ พื้นที่ แต่เราจะสื่อสารกับเขาได้ไหมอีกเรื่องนึง 3. เป็นไปได้ 4. เป็นไปได้ 5. เป็นไปได้ทั้ง 2อย่าง คือ อาจจะเต็มไปด้วยมลพิษ หรือ โลกที่สภาพแวดล้อมดีเยี่ยม 6. เป็นไปได้ 7. นรก หรือ สวรรค์ ไม่ว่าอย่างไรก็ยังต้องใช้ "พื้นที่"(Space) ในการตั้งอยู่ของมัน ไม่เช่นนั้น คง มี การเคลื่อนไหวของพลังงานต่างๆ ภายในนั้นไม่ได้ (นรก สวรรค์ มีกิจกรรมของ นรก สวรรค์  กิจกรรมย่อมมีำัพลังงาน) ดังนั้น มีความเป็นไปได้ว่า นรก หรือ สวรรค์ ย่อมอยู่ในที่ไหนสักแห่ง ใน สหภพ (Multiverses) 8. ไม่จำเป็น ต้องนั่งไปเอง นี่ครับ แค่มีการพิสูจน์ก็พอจากอะไรที่เชื่อถือได้ และหลักฐานที่หนักแน่นขึ้น ส่วนตัว แล้ว ไม่คิดว่า ไทม์แมชชีน จะพาไปในที่ๆเราต้องการได้อย่างแม่นยำ เพราะว่า เป็นเรื่องยากที่จะระบุพิกัด เวลา สถานที่ ลองนึกแค่ง่ายๆ นะครับ แค่คุณจะย้อนเวลากลับมาที่ๆห้องคุณหน้าคอมพ์ที่เดิมที่คุณอ่านข้อความนี้อยู่ พิกัดตำแหน่ง ก็เปลี่ยนไป เพราะ เอภพขยายตัว ดวงอาทิตย์โคจรรอบกาแลคซี่ โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ โลกหมุนรอบตัวเอง คุณจะหา พิกัด ของห้องคุณเมื่อวาน ยังไง และต้องใช้พลังงานมากแค่ไหนในการส่งตัวคุณ กลับไปในระยะทางเวลา ที่เปลี่ยนแปลงทางกายภาพมากมายขนาดนั้น นี่คือปัญหาใหญ่ที่สุดของไทม์แมชชีน คือ เราต้องมีสูตรคำนวน ที่สามารถตั้งทฤษฏีได้บนทุกสรรพสิ่ง (theory of everything) ซึ่งปัจจุบันนี้ เรายังค้นคว้ากันอยู่ 9. ถามได้ครับ คำตอบของผม จะ้้เป็น ความเห็นเท่านั้นนะครับ ไม่ใช่ ข้อเท็จจริง ดังนั้น ทุกคำตอบของผม ย่อมมีข้อบกพร่อง แต่ จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ และ แรงบันดาลใจสร้างจินตนาการ ครับผม จากคุณ : แล้วแต่ทางท่านจะเรียกแล้วกันนะ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 04:48:31

ความคิดเห็นที่ 21 เจอกระทู้แบบนี้เป็น สิบๆ รอบ แต่ก็ชอบอ่านทุกที มัน โค่ดๆ จินตนาการเลย แต่เสร็จแล้ว ก็กลับมาสู่ชีวิตจริง ทำงาน ทำ OTเยอะ จะได้ผ่อนหนี้สินหมดซะที จากคุณ : PeterMc เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 10:39:10

ความคิดเห็นที่ 22 ต้องไปถามคุณพ่อคุณแม่ของเอกกะภพเอาเอง จากคุณ : เอกกะภพ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 11:41:57 A:114.181.194.161 X: TicketID:299625

ความคิดเห็นที่ 23 1. ไม่ทราบครับ 2. คิดว่ามี 3. คิดว่าได้ 4. คิดว่าทำได้ แต่จะไม่ทำแบบนั้น 5. คิดว่าได้ เพราะเทคโนโลยีการบำบัด ก็คงไม่หยุดอยู่นิ่งๆเหมือนกัน 6. คิดว่าได้เราปรับตัวไม่ได้ ก็ให้ธรรมชาติที่นู่นปรับตัวแทน 7. ไม่มีความเห็น 8. ไม่ได้อยากมีอิสระทางการเวลา แต่อยากเป็นอิสระจากมิติ xyz 9. ฮะ จากคุณ : เฮียมี่ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 16:06:38

ความคิดเห็นที่ 24 ปีเตอร์กลับจากทำงานมาที่บ้าน ก็เห็นลูกสาววัย 2 ขวบวาดรูปดวงจันทร์อย่างเมามันบนผนังบ้าน ปีเตอร์โกรธมากเพราะผนังบ้านเลอะจึงถามลูกสาวว่า "วาดรูปในผนังทำไมเนี่ย" ลูกสาวตอบกลับมาด้วยเสียงไร้เดียงสาว่า "ก็มันว่างอ่ะ แดดดี๊...." เด็กมันว่างหรือผนังมันว่างยังเป็นประเด็น ปล. เรื่องที่เล่ามา Support คำตอบของความคิดเห็นที่ 1 แบบเล่าเรื่องมั่ว ๆ จากคุณ : SuperTee (itCrazy) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 23:39:41

ความคิดเห็นที่ 25 มันน่าสงสัยจริงแหละครับ ลึกลับน่าค้นหา 1. ก็ไม่รู้จะว่ายังไง ผมไม่รู้นะ แต่ก็คิดว่า      เรายังมองเอกภพในแบบเดิมอยู่ คือมองเป็นกลุ่มเป็นก้อนเป็นดวงดาวเป็นสถานที่ มี     ระยะห่างเท่านั้นเท่านี้  คล้ายๆกับการมองเก้าอี้ต้นไม้รถยนต์ที่ยังเป็นกลุ่มเป็นก้อน     ยังไม่แยกองค์ประกอบ (ซึ่งอาจเรียกว่ากามภพก็ได้ -พุทธว่ามีสามภพ)  2.อาจจะ  3.เป็นไปได้  4.บางที  5.ไม่แน่  6.เป็นไปได้ + บางที  7.ตามข้อ1. จากคุณ : กัป' เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 22:58:19

ความคิดเห็นที่ 26 ☆☆☆☆☆ จากคุณ : 23 เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 11:59:04 A:118.174.213.245 X: TicketID:281352

ความคิดเห็นที่ 27 เรื่องนี้ ซับซ้อนกว่าที่ คุณตั้งคำถามมานะ.. ถ้าคุณ อยากรู้คำตอบพวกนี้จริงๆ ก็ลองตั้งต้นศึกษาดู(เริ่มจากการ เปิดใจให้กว้าง เอากำแพงในใจออกให้หมด) ถ้าคุณเปลี่ยนคำถามพวกนี้เมื่อไหร่.. เราค่อยมาคุยกัน >< จากคุณ : mooesha เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 08:58:39