ความคิดเห็นที่ 1 ชิดขวา เปิดทู้ จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 22:56:51

ความคิดเห็นที่ 2 สำหรับผม แยกเรื่องที่เป็นผลดีกับเราเท่านั้น ไม่มีผลประโยชน์อื่น จึงจะเรียกว่ามีบุญคุณครับ เช่นมีคนบอกว่า พ่อแม่เป็นคนให้กำเนิด ถือเป็นบุญคุณ อันนี้ผมว่าไม่จริง แต่ถ้าหลังจากที่เราเกิด แล้วเลี้ยงดูเราให้เติบโต แบบดีๆนะครับ ไม่ใช่ทิ้งๆขว้างๆ ถึงจะถือว่าเป็นบุญคุณ ถ้าทำให้เราเกิดมาแล้ว มาต้องมาทนทุกข์ทรมาน ผมถือว่าไม่ใช่ หรือการที่บรรพบุรุษ สู้รบกันแล้วบอกว่าเป็นบุญคุณ ผมถือว่าไม่ใช่ เพราะเขาทำเพื่อตัวเอง จากคุณ : psybuster เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 23:10:21

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องนี้คงได้คำตอบที่เป็นเหตุเป็นผลยากมากครับ เพราะมันเป็นสิ่งที่ *ปลูกฝัง* กันมา ส่วนตัวผมยังคิดอยู่เลยว่า ผู้ให้กำเนิดนี่มีบุญคุณจริงหรือ อย่างพ่อเด็กญี่ปุ่นคนนึง มาหลอกฟันสาวไทยเพื่อความอะไรก็แล้วแต่ แล้วก็กลับประเทศไป เค้ามีบุญคุณขนาดนั้นเลยเหรอ? จากคุณ : outsider_from_within เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 23:11:04

ความคิดเห็นที่ 4 เม้นต์ไม่ถูกเลยทีเดียว ขอเสนอสองคำค่ะ "สำนึกบุญคุณ"  กับ  "รู้สึกขอบคุณ" แบบไหนเหมาะกับคำไหนดีคะ จากคุณ : Beautiful girl I will surrive เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 23:11:09

ความคิดเห็นที่ 5 ผมมอง การกตัญญูกตเวที เป็น Action ครั้งใหม่ ครับ  แทนทีจะมองเป็น Reaction คืนแก่สิ่งต่างๆอะไรให้เรา ถ้าเรา action ดีๆ ครั้งใหม่   เราก็(สมควร)ทีจะได้ Reaction ดีๆ กลับคืนมา : ) ป.ล. ดี แย่  มันก็ขึ้นอยู่กลับมุมมองอีก  มันเป็นนามธรรม จากคุณ : The_Death_oF_Superman เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 23:16:06

ความคิดเห็นที่ 6 มีมากมายเลยครับ การกราบไหว้ สำนึกบุญคุณ การรู้ประวัติความเป็นมา ความเกี่ยวข้องกับการมีชีวิต การให้ความเคารพ การดูแลรักษา สิ่งต่างๆเหล่านี้มีเราไม่จำเป็นต้องงมงายหรอกครับ ขอแค่เรารู้แค่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวข้องกัน พระแม่คงคา พระแม่โพสพ พระแม่ธรณี พระราหู พระที่วัดใกล้บ้าน พะโล้ที่แม่ทำให้กิน บางสิ่งก็เป็นสิ่งใกล้ตัวของคนบางคน ถ้าเข้าใจ เราก็คงรู้อยู่แล้วว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร จากคุณ : GOP เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 23:17:24 A:203.114.120.101 X: TicketID:288503

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ psybuster คิดคล้ายๆผมเลยครับ สำหรับผม สิ่งที่เราควรสำนึกในบุญคุณ คือสิ่งที่มี "เจตนา" จะทำดีเพื่อเรา และมีผลกับเราโดยตรง ได้แก่ พ่อแม่ (สำหรับกรณีของผม) และครู อาจารย์ สิ่งอื่นนอกจากนี้ อยู่เกินขอบเขตของคำว่า ควรสำนึกในบุญคุณแล้ว เพราะมันไม่ได้มี เจตนา ที่จะทำเพื่อเราอย่างแท้จริง มันทำไปตามธรรมชาติหรือบทบาทที่ถูกกำหนดมา เพียงแต่มันอาจจะมีผลกระทบเป็นทอดๆต่อกันจนมาถึงชีวิตของเรา ในเมื่อมันไม่ได้มีเจตนากับเราแต่แรก เราก็ไม่จำเป้นต้องไปนับถืออะไรมัน พอคิดได้แบบนี้รู้สึกสบายใจกว่า ต้องนับถือไปซะทุกอย่าง หรือ ไม่นับถืออะไรสักอย่าง เลยครับ ยิ่งเรียนรู้มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมยิ่งรู้ว่า มนุษย์เราช่างกระจ้อยร่อย เมื่อเทียบกับสรรพสิ่งทั้งหลาย แต่สิ่งที่อวยกันเองในหมู่มนุษย์มันมีมากมาย บางสิ่งในประเทศถูกยกย่องขึ้นมาเปรียบปานเทพ ทั้งที่ไม่ได้มีคุณค่าไปกว่าอุกาบาตลูกนึง สุดท้ายแล้ว ถ้าหากเราอยากรู้อะไรมากขึ้น สิ่งที่จะยึดถือได้ก็คงมีแต่ตัวเอง จากคุณ : Firion เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 23:24:13

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องคุณธรรม จริยธรรม เป็นเรื่องระหว่างมนุษย์ในสังคม ดังนั้นแล้วแต่ศรัทธาส่วนบุคคลครับ จากคุณ : oryze เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 23:26:27

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่สำนึกบุญคุณ Big Bang ครับ เพราะไม่ได้ติดตามผลงาน ____ ^^" ไม่ใช่ละ เอาจริงๆนะ Big Bang นั้นไม่ได้เลือกปฏิบัติ ไม่มีเจตจำนงค์เสรี ต่างจากบุพการีครับ และการที่เราเป็นเราในทุกวันนี้ก็ด้วยพระคุณบิดามารดานั่นล่ะครับ จะบอกว่าสเกลเล็กกว่า จับต้องได้ ก็ได้มั้งครับ จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 23:27:10

ความคิดเห็นที่ 10 ผมก็สงสัยเหมือนกัน ถ้าพ่อผมเป็นอาชกรข่มขืนผู้หญิง ทำให้แม่ผมท้องตั้งแต่อายุ 13 และต้องลำบากเลี้ยงดูจนโตทั้งที่ฐานะยากจน แบบนี้ต้องสำนึกบุญคุณพ่อหรือเปล่า แล้วถ้าผมเป็นอาชญากรฉุดคร่าข่มขืนมั่ง เท่ากับผมทำความดีเหรอ เพราะถ้าผมไม่ทำสิ่งที่เป็นความดีคงไม่มีใครมาสำนึกบุญคุณ จากคุณ : ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 23:35:57

ความคิดเห็นที่ 11 การแสดงความกตัญญูเป็นพฤติกรรมตามหลักความยึดถือนึกคิดอย่างหนึ่งของมนุษย์ และเหตุผลที่หลายคนไม่ได้แสดงความกตัญญูต่อ Big Bang , Super Nova ฯลฯ ก็เพราะผู้นั้นไม่ได้ยึดถือที่จะแสดงออกความกตัญญูต่อสิ่งดังกล่าว นั่นเอง ทั้งนี้เมื่อมนุษย์มีจิตใจยึดมั่นยึดถือก็จะปรากฏพฤติกรรมตามหลักความยึดถือตามมา เช่น ยึดถือค่านิยมต่างๆ ยึดถือความเหมือนกันในสังคม ยึดถือความแตกต่างโดดเด่น ยึดถือความกล้าต่อสิ่งนั้น ยึดถืออายต่อสิ่งนี้ ยึดถือการแหวกแนว ยึดถือทำสิ่งดีต่อกัน ยึดถือก่อการร้ายต่อกัน ยึดถือบูชาสิ่งของบางอย่าง บูชาคนบางคน บูชาบางสถานที่ ยึดถือการสำนึกบุญคุณหรือตัญญูต่อสิ่งของ,ต่อสัตว์,ต่อบุคคล  ยึดถือที่จะเนรคุณ ยึดถือฐานันดร ยึดถือสถาบัน ยึดถือกฎ ยึดถือแหกกฎ ฯลฯ พฤติกรรมความยึดถือใดๆย่อมเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลาและแตกต่างหลากหลายไปตามสถานที่ได้ จากคุณ : ผู้ศึกษา เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 23:52:20

ความคิดเห็นที่ 12 บุญคุณแผ่นดินเป็นเรื่องทีู่พูดไม่ได้เพราะมาตรา 112 ห้ามผมพูด จากคุณ : hexa เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 00:10:49 A:124.120.106.93 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 13 ยังไม่ได้อ่านทั้งหมดที่คุณบ่นมา แต่ก็พอสรุปใจความได้ หากจะสำนึกบุญคุณของ BigBang แล้วมีความสุขก็ทำไปเถิดครับ แต่หากคิดว่าทำแล้วทุกข์ก็อย่าทำ สมัยก่อน คนจะบูชากราบไหว้ต้นไม้ใหญ่ เนื่องด้วยกลัวว่ามีเทพารักษ์อาศัยอยู่ แม้จะงมงาย แต่ก็เป็นเพราะเกรงกลัวให้ความเคารพในความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่เขาไม่อาจเข้าใจ ไม้ใหญ่จึงยังคงอยู่ ปัจจุบันสำนึกนี้หายไป พระเจ้าแห่งเงินตราเข้ามาแทนที่ เทพารักษ์เลยไร้ที่สถิต หากเรามองทุกสิ่งด้วยความขอบคุณ เราจะใช้ชีวิตด้วยความนอบน้อม เห็นคุณค่าในทุกสรรพสิ่ง ไม่จำเป็นต้องบูชากราบไหว้ แค่มองอย่างเข้าใจและนอบน้อม ให้เกียรติในธรรมชาติ ผมคิดว่าแค่นี้ก็น่าจะพอให้โลกนี้มีความสุขได้แล้วนะครับ จากคุณ : นาย X-MAN เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 00:16:28

ความคิดเห็นที่ 14 เดี๋ยวก็โดนไล่ออกนอกประเทศหรอกครับ จากคุณ : fdX3S เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 00:48:34

ความคิดเห็นที่ 15 กตัญญูกตเวที เป็นสองคำ แต่มักจะใช้ด้วยกันเพราะเนื่องกันอยู่ กตัญญู ความหมาย [กะ ตัน-] น. (ผู้) รู้อุปการะที่ท่านทําให้, (ผู้) รู้คุณท่าน, เป็นคําคู่กันกับ กตเวที. [ป. กต ว่า (อุปการคุณ) ที่ท่านทําแล้ว + ญู ว่า ผู้รู้]. กตเวที ความหมาย [กะ ตะ-] ว. (ผู้) ประกาศคุณท่าน, (ผู้) สนองคุณท่าน, เป็นคําคู่กันกับ กตัญญู. [ป. กต ว่า (อุปการคุณ) ที่ท่านทําแล้ว + เวที ว่า ผู้ให้รู้, ผู้ประกาศ]. ตามความหมายแล้วคือ เรื่องของ คน กับ คน จริงๆแล้ว เรื่องอย่างนี้เป็นธรรมชาติ สามัญสำนึกปกติ .. ใครทำอะไรให้ก็ย่อมรู้สึกดีต่อเขา เมื่อรู้สึกที่ดีต่อกันแล้ว ความต้องการที่จะทำอะไรให้เขาบ้างก็มาเองได้อยู่แล้ว ไม่ต้องให้ใครมาบอก ที่มักเอามาใช้กับอย่างอื่น ที่ไม่ใช่คน .. ก็ว่ากันเข้าไป .. แต่ถ้าทำให้รู้สึกดีต่ออย่างอื่นด้วย ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายไม่ใช่หรือ ส่วนจะถึงขนาดจะต้องทดแทน ตอบแทนกันอย่างไร ก็ตามภูมิปัญญาผู้นั้นเถิด .. จากคุณ : จัดไป เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 00:50:27 A:183.89.165.211 X: TicketID:282430

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่า ไม่มีอะไรสำคัญเท่า การลงมือทำ แค่พูด แค่คิด มันไม่มีประโยชน์อะไรใดๆ เลย จากคุณ : Spirited Away เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 00:58:01

ความคิดเห็นที่ 17 ไปสำนึกบุญคุณสิ่งที่โต้ตอบไม่ได้  แล้วสิ่งนั้นจะรู้สึกยินดีหรอ ทำไปก็เสียปล่าว จากคุณ : Himawari_Chang เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 01:01:53

ความคิดเห็นที่ 18 รู้คุณโดยไม่ต้องกราบไหว้ก็ได้ ไม่อย่างนั้น คนแขนด้วนก็ต้องกลายเป็นคนอกตัญญูสิ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 54 01:02:44 จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 01:02:35

ความคิดเห็นที่ 19 ทุกวันนี้ยังมีเทศกาลไหว้รอยเท้านีล อาร์สตรอง (ไหว้พระจันทร์) เลย จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 01:03:57

ความคิดเห็นที่ 20 ความคิดเห็นที่ 10     ผมก็สงสัยเหมือนกัน ถ้าพ่อผมเป็นอาชกรข่มขืนผู้หญิง ทำให้แม่ผมท้องตั้งแต่อายุ 13 และต้องลำบากเลี้ยงดูจนโตทั้งที่ฐานะยากจน แบบนี้ต้องสำนึกบุญคุณพ่อหรือเปล่า -------------------------------- ต้องสำนึกซิ  ก็เค้าเลี้ยงคุณมาด้วยความยากลำบาก ควรตอบแทนเค้าด้วยการห้ามไม่ให้เค้าไปทำกรรมเลว ต้องแยกเป็น 2 เรื่องนะ จากคุณ : Himawari_Chang เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 01:04:22

ความคิดเห็นที่ 21 #20 ผมว่าเค้าหมายถึง ทำให้แม่ต้องเลี้ยงเค้าคนเดียวอย่างลำบากมากกว่านะ จากคุณ : hexa เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 01:08:31 A:124.120.106.93 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 22 อืม ... เป็นปรัชญาดี ... จากคุณ : เศียรนาคา ... เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 01:11:14 A:125.24.73.164 X: TicketID:255126

ความคิดเห็นที่ 23 กตัญญูกตเวที  เป็นเครื่องมือ ที่ทำให้เรามีความสุข  ที่บอกให้ทำหนะ ก็เพื่อตัวเราเอง ไม่ใช่เพื่อใครที่ไหน  อยากกราบไว้ Bigbang ก็ได้ อยากน้อยๆ ก็ฝึกฝนจิตใจให้รู้จัก กตัญญกตเวที ไม่มีใครห้าม ถ้าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็เหมือน เราไหว้โรงเรียนก่อนเข้านั่นหละ จากคุณ : Axiom of Choice เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 01:25:00

ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อย่อยลงไปแล้วความกตัญญูมันเป็นแค่สัญชาติญาณในการดำรงเผ่าพันธุ์ไม่ให้สูญพันธุ์เพราะพฤติกรรมที่เรียกว่ากตัญญูนั้นก็สามารถพบได้ในสัตว์ชนิดอื่น เปลือกที่หุ้มๆอยู่มันมาจากการเสริมสร้างตบแต่งตามสติปัญญาของมนุษย์ที่มันเยอะกว่าเท่านั้นเอง จากคุณ : VeryBadman เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 01:26:09 A:131.89.129.236 X: TicketID:310253

ความคิดเห็นที่ 25 #2 .....พ่อแม่เป็นคนให้กำเนิด ถือเป็นบุญคุณ อันนี้ผมว่าไม่จริง..... >แค่ให้เกิดมา ก็เป็นบุญคุณที่ให้โอกาสคุณ'จบวงจร'ของคุณแล้วครับ (ลองเทียบกับNeoในเรื่องMatrix ที่ต้องมีตัวขึ้นมาเพราะresidueของสมการละกันครับ ถ้าไม่มีช่องให้เกิดก็ไม่มีทางกำจัดเศษนี้ทิ้ง) .....ถ้าทำให้เราเกิดมาแล้ว มาต้องมาทนทุกข์ทรมาน ผมถือว่าไม่ใช่....... >ถ้าตาดีๆมอง'ผ่าน'ทุกข์ไปให้ได้ คุณก็จะเห็นสุขเองล่ะ ลองไปอ่านหนังสือท่านว.วชิรเมธีละกัน(จำไม่ได้ว่าเล่มไหน) #7 สิ่งที่เราควรสำนึกในบุญคุณ คือสิ่งที่มี "เจตนา" จะทำดีเพื่อเรา และมีผลกับเราโดยตรง >ส่วนตัวผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องเจตนา แค่เรา'ได้รับ'ก็พอ คุณติดอยู่ในป่าที่มืดสนิทจนเดินไม่ได้ vs มีคนอื่นถือตะเกียงเดินอยู่ไกลๆ ไม่เคยรู้ว่ามีคุณอยู่ แต่คุณก็ได้ปลายๆแสงของเขานั่นแหละ ทำให้พอกระดืบออกมาจากป่าได้ ควรนึกขอบคุณเขาไหมครับ หรือจะคิดว่า 'อะฮ่า เราเก่งเอง รู้จักหาตัวช่วย' มนุษย์เราช่างกระจ้อยร่อย เมื่อเทียบกับสรรพสิ่งทั้งหลาย แต่สิ่งที่อวยกันเองในหมู่มนุษย์มันมีมากมาย >จุดตัดว่าควรสำนึกไหม ก็มองที่คำว่าอวยกันเองนั่นแหละครับ #17 ผลของการสำนึก อยู่ที่เราเองครับ #10,#21 เขาบาปกับแม่คุณแน่ครับ แต่คุณก็ได้มีโอกาสรับความรักจากแม่ครับ(ไม่งั้นแม่คงเอาขี้เถ้ายัดปากนานแล้วล่ะ) ส่วนประโยค '.......แล้วถ้าผมเป็นอาชญากรฉุดคร่าข่มขืนมั่ง เท่ากับผมทำความดีเหรอ.......' >คุณคงเข้าใจอยู่แล้วมังครับ แต่แค่พิมพ์ให้ดูสุดโต่งเฉยๆ ขออภัยทุกท่าน หากความเห็นตื้นเขิน/ล่วงเกิน ครับ จากคุณ : temp003184 เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 02:47:37

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นความคิดเห็นของคนยุคนี้แล้ว นึกถึงที่ท่าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เขียนไว้ในหนังสือ "คนรักหมา" เลย คนหนุ่มในปัจจุบัน เป็นคนที่เกิดมาในยุคเสรีภาพ และเติบโตขึ้นเป็นคนที่ปราศจากข้อผูกพัน ผลที่เกิดขึ้นทางใจนั้นคือ ความว้าเหว่ปราศจากที่ยึดเหนี่ยว จะรักชาติก็รังเกียจความรู้สึกอันเป็นชาตินิยม จะเข้าวัดก็ขาดศรัทธาเพราะสงสัยในคำสั่งสอนของศาสนา จะกตัญญูต่อบิดามารดาก็เห็นว่าขัดต่อหลักการความรู้ทางชีววิทยา จะยึดถือประเพณีต่างๆ ในสังคมก็เห็นว่าเร่อร่าล้าสมัย... ... เรื่องเสรีภาพทางใจหมดเครื่องยึดเหนี่ยวที่ผมได้กล่าวมาแล้วนั้น ปรากฎว่าพอถึงขีดที่สุดเข้า คนเราก็ต้องกลับหันเข้าหาอะไรยึดเหนี่ยวต่อไป กล่าวคือ เมื่อตัดเครื่องยึดเหนี่ยวเก่าๆ ทิ้งไปเสียด้วยเสรีภาพ ในที่สุดก็เกิดความว้าเหว่ ต้องหาของอื่นมาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจต่อไปใหม่... อ่านแล้วใครจะคิดยังไงก็ไม่รู้ แต่สำหรับตัวเองแล้ว เห็นจริงแท้แน่นอนเลย แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 54 04:24:45 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 54 04:23:31 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 04:22:16

ความคิดเห็นที่ 27 สำนึกบุญคุณ แล้วต้อง "กราบไหว้" ???? ถ้าการสำนึกบุญคุณแล้วต้องมานั่งก้มกราบไหว้ ไม่ต้องห่วงครับ กลุ่มคนที่ชอบกราบไหว้ เค้ากราบไหว้ให้แล้วล่ะ สำนึกบุญคุณ Big Bang ที่สร้างจักรวาลมาให้เราอยู่ ด้วยการกราบไหว้ "พระเจ้า ,พระพรหม, พระผู้สร้าง ในแต่ละศาสนาลัทธิที่มีการกราบไหว้ ไม่เว้นแม้แต่ในอาฟริกา" สำนึกในบุญคุณของ Super Nova ที่ทำให้เกิดธาตุต่างๆบนโลกไหม ทั้งอ๊อกซิเจน ไนโตรเจน คาร์บอน ทอง ยูเรเนียม พลูโตเนียม ด้วยการกราบไหว้ "พระเจ้า ,พระพรหม, พระผู้สร้าง ในแต่ละศาสนาลัทธิที่มีการกราบไหว้ ไม่เว้นแม้แต่ในอาฟริกา" กราบไหว้ ดาวพฤหัส ที่คอยป้องกันดาวเคราะห์น้อยไม่ให้มาชนโลก ด้วยการบูชาพระเคราะห์ดาวพฤหัส หรือแม้แต่ลัทธิอื่นก็มีชื่อเรียกเทพพฤหัส (ฮินดูก็มีชื่อเรียกพระพฤหัส แม้แต่ในกรีก ก็มี jupiter) บูชา ดวงอาทิตย์ ที่เป็นแหล่งพลังงานให้กับระบบสุริยจักรวาลของเรา มีแทบทุกลัทธิเพราะมองเห็นได้ชัดเจนกว่าพระพฤหัส ยกย่อง จุลีนทรีย์ แบคทีเรีย หนอน ที่คอยรักษาสมดุลของระบบนิเวศน์ ก็มีลัทธิไหว้ผี สมัยก่อนไม่มีกล้องจุลทัศน์ มองไม่เห็นสิ่งมีชีวิตหน่วยเล็ก ก็ยกให้เป็นหน้าที่ของผีไป ผีกินศพ กินของเน่า ฯลฯ แต่ละสิ่งที่ว่ามา คนกราบไหว้ เค้าไหว้ซะครบหมดแล้ว เพียงแต่ไหว้ตาม function โดยสมมติสิ่งที่ไหว้ เป็นผู้มีหน้าที่ตาม function ที่ว่ามา ถ้าคนโบราณกราบไหว้ super nova ,big bang, จุลินทรีย์ แบคทีเรีย เพราะเห็นและรู้จักสิ่งเหล่านี้มานานแล้ว ผมก็จะกราบไหว้คนโบราณแทน จากคุณ : j เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 05:30:13 A:183.89.116.35 X: TicketID:268645

ความคิดเห็นที่ 28 คนที่ทำดีกับพ่อแม่  แม้พ่อแม่ไม่เคยดีกับตน ( ทำโดยไม่หวังอะไรตอบแทน อาทิ มรดก ) ทิ้งขว้าง ผมว่า  คนนี้สุดยอดนะ บรรลุความเป็นคนโดยสมบูรณ์ คบเป็นเพื่อน  ชีวิตไม่มีทางตกต่ำ จากคุณ : ชาวบางนา เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 06:15:48

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ผิดแฮะ คำตอบส่วนใหญ่มาจากการ *ปลูกฝัง* จริงๆ (ขั้นต่อไปคนก็จะมาอธิบายว่า ปลูกฝังมันผิดตรงไหน) จากคุณ : outsider_from_within เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 07:19:49

ความคิดเห็นที่ 30 แล้วแต่จิตสำนึกของคนค่ะ เพราะเรื่องนี้ไม่มีกฏหมายบังคับเอาไว้โดยตรง แต่ถ้าทายาทผู้ได้รับมรดก กระทำการอันเป็นการเนรคุณต่อผู้ให้ เจ้าของมรดก สามารถเรียกคืนทรัพย์มรดกได้ค่ะ กฏหมายเขียนไว้ จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 07:30:29

ความคิดเห็นที่ 31 ผู้ที่ต่อสู้เพื่ออิสระภาพและปกป้องแผ่นดินของอเมริกาเมื่อ 200 กว่าปีก่อน คือ ลุงแซม หาใช่ ทอมมี่ ซึ่งเป็นลูกของหลานของเหลน ลุงแซม ไม่ ดังนั้น การที่ ทอมมี่ จะมาเรียกร้องให้ ประชาชนชาวอเมริกัน สำนึกในบุญคุณของ ทอมมี่ จึงเป็นเรื่อง Fallency อย่างแท้จริง จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 07:41:13

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่ต้องหาเหตุผลที่จะต้องกตัญญู ขอให้มีสามัญสำนึกก็พอครับ ไอ้บิ๊กแบงค์ ซุปเปอร์โนว่าอะไรนั่นน่ะ มันทำให้คุณเกิดมาและเลี้ยงดูคุณโดยตรงใช่หรือเปล่า? จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 08:12:49

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าบิ๊กแบ๊ง เป็นจุดกำเนิดของมนุษย์จริง ผมไม่สำนึกบุญคุณอะไรหรอกครับ เพราะสร้างความทุกข์มากมายมาให้ ธรรมชาติสร้างชีวิต สร้างความสุข แต่ก็สร้างทุกข์ระทมมากมาย ซึ่งหนักว่า ควรสำนึกบุญคุณ เพื่อนร่วมโลก เพื่อนร่วมทุกข์ที่คอยช่วยเหลือเรา จากความทุกข์ จากคุณ : พิซซ่าหน้าปลาเค็ม เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 08:14:58

ความคิดเห็นที่ 34 หนังสือของ ว.วชิรเมธี  อืมๆ จากคุณ : fdX3S เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 08:56:04

ความคิดเห็นที่ 35 มีลุงคนหนึ่งเคยคุยกับผมถึงบุญคุณของแม่ใหญ่ ผมว่าคุณคงรู้ล่ะแม่ใหญ่คืออะไร นี่ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของคนที่รำลึกถึงบุญคุณของสิ่งไม่ชีวิตจิตใจ แต่ผมก็ไม่ได้ถามเหตุผลว่า ทำไมลุง ถึงชาบูแม่ใหญ่ งมงายงั้นหรือ? ไม่รู้สินะ ผมไม่เข้าใจแกหรอก สำหรับผม ชาบูบร๊ะเจ้าโจ๊ก และองค์ศาสดามาวินเท่านั้น จากคุณ : miryone เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 10:12:43

ความคิดเห็นที่ 36 เรามองว่าการปลูกฝังให้กตัญญูพ่อแม่ เป็นเรื่องที่ดี ดียังไง ดีเพราะว่า มันจะเป็น "ตัวอย่าง" ให้แก่ลูกหลานของคุณในอนาคต เคยได้ยินไหมคะ พ่อแม่เป็นอย่างไร ลูกก็จะเป็นแบบนั้น ไม่ใช่เพราะกรรม ที่เป็น เวรกรรม แต่เป็นกรรม ในส่วนที่ "ทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง" และการที่คุณจะทำให้ลูกรู้สึกขอบคุณคุณ และปฏิบัติกับคุณอย่างดี ให้สมกับที่เราปฏิบัติกับเค้าอย่างดี ให้สมกับที่เราหวังดี และรักเค้ามากๆนั้น คุณจะมา กตัญญูหลอกๆ เอาตอนหลัง เฉพาะต่อหน้าลูก มันคงจะเป็นไปไม่ได้   จึงเป็นเหตุผลว่า ควรจะปลูกฝังเรื่องนี้  "ให้ติดเป็นนิสัย" แต่ถ้าใครไม่แคร์ ที่ลูกจะมาตบ มาตีคุณ หรือพอลูกโตแล้ว ลูกก็หายตัวไปเลยไม่สนใจพ่อแม่ ไม่แม้แต่จะโทรกลับมาสอบถามว่าสบายดีไหม เรื่องกตัญญูที่ถูกปลูกฝังมา ก็คงไม่เป็นไรสำหรับคุณค่ะ... แต่พ่อแม่ของคุณคงจะเสียใจมาก... แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 54 16:41:29 จากคุณ : elin เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 10:48:07

ความคิดเห็นที่ 37 ลบดีก่า อะฮิๆ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 54 12:28:46 จากคุณ : elin เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 10:56:42

ความคิดเห็นที่ 38 มิจฉาทิฎฐิกันแท้ๆ จากคุณ : Richelieu เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 11:50:23

ความคิดเห็นที่ 39 #38 ถึงผมจะมองว่ามันคือสัญชาติญาณแต่ผมก็ไม่ได้ทำเท่ห์ว่าผมฝืนสัญชาติญาณได้หรอกนะ ผมก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามสัญชาติญาณของผมที่จะมีความกตัญญูต่อพ่อแม่และผู้มีพระคุณนั่นแหละ แล้วทำไมต้องทำแบบนั้น...ก็มันสบายใจน่ะสิ ซึ่งมันก็เป็นการหล่อหลอมของสัญชาติญาณที่ผ่านการวิวัฒนาการกันมาอย่างยาวนานอยู่ดีว่าเวลาทำอะไรดีๆแล้วมันจะสบายใจ และผมก็ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลอะไรมาทำให้ตัวเองไม่สบายใจจากการทำอะไรชั่วๆ หรือว่าไม่จริงครับ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลแบบไหน จะซาบซึ้งในพระธรรมหรือไม่ แต่ถ้าผลลัพธ์ออกมาเหมือนกันก็ไม่น่าจะต้องใส่ใจรายละเอียดมากนัก จากคุณ : VeryBadman เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 12:54:37 A:76.103.220.80 X: TicketID:310253

ความคิดเห็นที่ 40 แค่ปั้นหินปั้นดินเป็นรูปตัวแทนศาสดา ก็มากราบไหว้บูชากันแล้ว........แต่ก็ไม่ผิด+ ???  อันนี้ ทำให้ผมว่า จขกท  คิดบาง  ไปนิดนึง .. เวลากราบไหว้รูปปั้น รูปภาพ  จะเป็น ศาสดา มหากษัตริย์ เกจิ หรือ บุพการี บรรพบุรุษ เราไหว้... ลึกลงไป ถึง สิ่งดีๆที่ท่านทำให้เรานะครับ "ผม" ไม่ได้ไหว้ปูน หิน หมึก เศษฟาง  ที่เป็นส่วนประกอบ มันลึกลงไปกว่านั้นมากๆๆๆ และจากเหตุผลเดียวกัน  จึงเป็นเหตุผลที่ผมไม่ต้องไปไหว้ ธาตุต่างๆ อันประกอบด้วยคาร์บอน เป็นอาทิ เพราะธาตุเหล่านั้น ไม่ได้ทำอะไรให้ผม  ไม่ได้สั่งสอน ไม่ได้มอบความรัก ไม่ได้เสียสละความสุขของตัวเองมาให้ผม แล้วเราควรจะ ตอบแทนท่านที่มีพระคุณอย่างไร ...  ก็ทำแบบเดียวกับที่ท่านทำกับเราไงครับ ให้ความรัก ความหวังดี สละความสุขของตัวเองเพื่อทำให้ท่านมีความสุข .. ในสิ่งทีเราทำได้ ไม่เกินความสามารถ  และ ไม่ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ศีลธรรม จริยธรรม ครับ จากคุณ : ทุ่มเท เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 14:30:58

ความคิดเห็นที่ 41 #ในช่วงแรกจากการอ่าน ผมคิดว่าคุณ Firion มีความคิดเป็นวิทยาศาสตร์ แต่พอได้อ่านความเห็นที่ #7 ที่แท้ ก็กระทู้แอบแฝงการเมือง ไม่ใช่ว่าผมเคารพนับถือกราบไหว้นะครับ แต่ผมมองเห็นความจริงผ่านตัวอักษรของคุณเอง แล้วแบบนี้หว้ากอจะมี วิทย์แท้ๆ ได้อย่างไร แม้แต่คนที่น่าจะเป็นสายวิทย์ยังแอบแฝงประเด็นการเมือง จากคุณ : WindMaster เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 14:54:30

ความคิดเห็นที่ 42 จขกท.เขาการเมืองปะโยตไหนอ่ะ ช่วยบอกที อยากรู้ ถ้าเป็นประโยคนี้ บางสิ่งในประเทศถูกยกย่องขึ้นมาเปรียบปานเทพ ทั้งที่ไม่ได้มีคุณค่าไปกว่าอุกาบาตลูกนึง เราคิดถึง ไอ้ของบ้าบอมาตกมาจากฟ้า หรือ ผุดมาจากใต้ดินแล้วคนไปกราบไหว้ขอหวยซะอีก หรือเราตีความไม่แตกฉาน-.- จากคุณ : blackbillaz เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 15:12:48

ความคิดเห็นที่ 43 เรื่องในกระทู้นี้ ผมเห็นด้วยกับคุณpsybuster และ จขกท ครับ ผมเชื่อในแนวคิดแบบของผม นั่นคือ การรู้บุญคุณ การกตัญญูกตเวที จะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่ ต้องมาจาก"ผู้รับ" นั่นหมายถึง "ผู้ให้" ไม่มีสิทธิ์ใดๆมาบอกว่าสิ่งของที่ให้ต่อ"ผู้รับ" การกระทำต่างๆเพื่อ"ผู้รับ" นั้น เป็น"บุญคุณ" การให้บางสิ่งบางอย่างต่อคนอื่นนั้น เป็นการพรากบางสิ่งบางอย่างออกไปจากคนผู้นั้นด้วยเสมอ คุณให้อาหารคน คุณก็พรากความหิวออกจากคนผู้นั้น และอาจพราก"ความสามารถในการหาอาหาร"ออกไปจากคนผู้นั้นด้วย ในเมื่อยังพิจารณาไม่ได้ ไม่ว่าจะระยะสั้น ระยะยาว ว่าผลจากการกระทำเป็นคุณ หรือ โทษ โดยสมบูรณ์ ก็ไม่อาจบอกได้ว่าการกระทำนั้นๆเป็นบุญคุณ จากคุณ : s (Zeichnung) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 16:39:59

ความคิดเห็นที่ 44 smartsearch ช่วยท่านได้ จากคุณ : นะจ๊ะ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 17:10:03 A:49.48.73.38 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นด้วยกับ คห 41 พวกการเมืองแอบมาเนียนที่หว้ากอ ก็ถ้าไม่ตั้งกระทู้ออกความเห็นกันสุดโต่งที่ห้องราชดำเนิน คนอื่นๆ เขาก็คงอยากจะแวะเวียนเข้าไปอ่านแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเอง ไม่ต้องออกมาอาละวาดห้องอื่นให้คนเขารำคาญใจอย่างนี้ ออกมาอาละวาดบ่อยๆ อย่างนี้ ไม่ใช่ว่าจะได้ลูกค้าได้แฟนเพิ่มหรอกนะ คนเขาก็จะเบื่อหนีไปที่อื่นกันต่างหาก สุดท้าย น่าจะเป็นบอร์ดพันทิพย์นี่แหล่ะที่จะแย่เอา จากคุณ : โฮลิก เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 17:19:08

ความคิดเห็นที่ 46 #45 ผมไม่เคยโพสอะไรที่ห้อง ราชดำเนิน เลยนะ อย่ามากล่าวหากันสิ - - จากคุณ : Firion เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 18:10:01

ความคิดเห็นที่ 47 อยากให้กิฟท์ คุณทุ่มเทค่ะ เราจห็นด้วยที่สุด จากคุณ : elin เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 22:41:15

ความคิดเห็นที่ 48 #40 อย่างน้อยๆธาตุเหล่านั้นเป็นองค์ประกอบ ของทุกสิ่งๆบนโลก ถ้าไม่มี Super Nova เกิดขึ้น โลกเราก็ไม่มีทางเกิดขึ้น สิ่งของบนโลกทั้งหมดก็จะไม่มีอะไรเลย นอกจากไฮโดรเจน ฮีเลียม รวมกันเป็นดาว ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ บรรพบุรุษคุณก็เกิดขึ้นมาไม่ได้ อย่าว่าแต่บรรพบุรุษเลย ทุกอย่างที่คุณรักเคารพนับถือจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เลย แล้วจะบอกว่า Super Nova มันจะไม่ได้ทำอะไรให้คุณได้อย่างไรครับ ในเมื่อมันมีส่วนในการสร้าง ชีวิต ทุกชีวิต ขึ้นมาบนโลก หรือ จะบอกว่า ดาวพฤหัสไม่ได้ทำอะไรให้คุณ แล้วถ้าหากดาวพฤหัสหายไป โลกทั้งโลก ได้โดนอุกาบาต ดาวเคราะห์น้อยจำนวนมากพุ่งเข้าชนแน่  ซึ่งถ้าหากเป็นจริงขึ้นมา ด้วยเทคโนโลยีของมนุษย์ ณ ตอนนี้ ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ได้แต่รอหายนะ อย่างเดียว พูดง่ายๆคือ ดาวพฤหัสคอยปกป้องโลกมา ตลอด 4,600 ล้านปี เพื่อให้เราได้มีชีวิตอยู่อย่างสบายในทุกวันนี้ คุณไม่สำนึกในบุญคุณของสิ่งเหล่านี้เลยหรือครับ แล้วทำไมคุณถึงไปกลับสำนึกในบุญคุณของสิ่งที่ให้คุณน้อยกว่านี้ แล้วแบบนี้คุณเอาเกณฑ์อะไรมาวัดว่า ทำอะไรให้คุณ ล่ะครับนี่ มันดูเหมือนว่า เราสำนึกบุญคุณ เพราะเราถูกสอนกันมาเท่านั้น ไม่ได้ในสำนึกบุญคุณในสิ่งที่ทำเพื่อเราอย่างแท้จริง แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 54 23:37:01 จากคุณ : Firion เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 23:29:19