ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนที่จะตอบคำถามดังกล่าว ผมขอทบทวนความรู้เชิงสรีรวิทยาของระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภาวะหมดประจำเดือนครับ หากเห็นว่าเป็นเนื้อหาวิชาการยืดเยื้อน่าหน่ายก็ข้ามๆไปได้ครับ อวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิงคือรังไข่ (ovary) ภายในรังไข่ประกอบด้วยเซลล์ไข่ (oocyte) หรือเซลล์สืบพันธุ์ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยฟอลลิเคิล (follicle) ในจำนวนที่จำกัด โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 2 ล้านฟอลลิเคิล (oogonia) เมื่อแรกคลอดและไม่เพิ่มจำนวนอีกเลยตลอดชีวิต ฟอลลิเคิลจะเสื่อมสลายไปอีกจนเหลือประมาณ 400,000 ฟอลลิเคิลเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นสาว นอกจากนี้บางฟอลลิเคิลก็ไม่เจริญต่อไปอีกเลย การสืบพันธุ์ของเพศหญิงเกิดเป็นวงจร ในแต่ละวงจรจะมีการเจริญของฟอลลิเคิลเพียงกลุ่มหนึ่ง และมีเพียงหนึ่งฟอลลิเคิลเท่านั้นที่เกิดการตกไข่ (ovulation) กล่าวโดยสรุป ตลอดช่วงชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งจะมีฟอลลิเคิลประมาณ 400-500 ฟอลลิเคิลเท่านั้นที่เกิดการเจริญเปลี่ยนแปลงจนมีไข่ตก ฟอลลิเคิลนอกจากเป็นที่อยู่ของเซลล์สืบพันธุ์แล้วยังมีเซลล์อื่นๆประกอบซึ่งทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนที่จำเป็นต่อระบบสืบพันธุ์ ภาวะหมดประจำเดือนคือความเสื่อมของรังไข่ ฟอลลิเคิลจะสลายไปเกือบหมด ที่ยังเหลืออยู่ก็ไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมนเพศอีกต่อไป เมื่อไม่มีฟอลลิเคิลที่ทำงานได้ ฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนเพศหญิงก็จะลดลงอย่างมาก ทำให้ไม่เกิดการตกไข่ นอกจากนี้เยื่อบุโพรงมดลูกก็จะบางลง น้ำหลั่งและมูกในช่องคลอดน้อยลง เต้านมมีขนาดเล็ก และผลต่อระบบอื่นๆในร่างกาย โดยสรุปแล้วภาวะหมดประจำเดือนทำให้การสืบพันธุ์ของเพศหญิงสิ้นสุดลง เป็นไปไม่ได้ และไม่เหมาะแม้แต่กระทั่งความพยายามที่จะให้เกิดเช่น เยื่อบุโพรงมดลูกที่บางลงไม่เหมาะสมให้เกิดการฝังตัวของไข่ที่ถูกปฏิสนธิ สภาวะช่องคลอดที่เปลี่ยนแปลงไม่เหมาะต่อการร่วมเพศและการเดินทางของอสุจิ เต้านมที่เล็กลงไม่เหมาะสำหรับการเลี้ยงดูบุตร แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 54 20:14:46 แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 54 20:11:25 จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 22:28:23

ความคิดเห็นที่ 2 เหตุใดธรรมชาติจึงสรรสร้างภาวะหมดประจำเดือนมาเป็นของขวัญ (?) แด่มนุษย์ นักชีววิทยาหลายคนตั้งคำถาม แต่บางคนเลือกที่จะเพิกเฉยโดยให้ทัศนะว่าเป็นกระบวนเสื่อมสลายตามวัยโดยทั่วไปของร่างกาย เช่นเดียวกับการเสื่อมของกระจกตา การทำงานของไตที่ลดลง ระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ความเสื่อมเป็นสัจธรรมของสิ่งมีชีวิต ระบบการทำงานของร่างกายถดถอยตามอายุที่มากขึ้น ภาวะหมดประจำเดือนอาจเป็นความเสื่อมปกติที่มนุษย์ต้องเผชิญ แต่เป็นปัญหาโดดเด่นขึ้นเมื่ออายุขัยเรายืนยาวกว่าในอดีต แต่คำอธิบายดังกล่าวไม่สมบูรณ์ทันที เมื่อเราเทียบกับระบบสืบพันธุ์ของเพศชาย เพศชายสามารถสืบพันธุ์ได้เรื่อยๆจนหมดอายุขัย เราคงเคยได้ยินกรณีของบิดาที่มีอายุมากกว่า 60 ปีบ่อยๆ และคุณพ่ออายุมากกว่า 70 ปีก็มีบันทึกไว้ในสถิติโลก แน่นอนว่าจำนวนอสุจิในเพศชายนั้นลดลงเมื่ออายุมากขึ้น แต่ความสามารถในการสืบพันธุ์นั้นไม่ได้สูญเสีย และไม่หมดไปอย่างสิ้นเชิงเมื่ออายุถึงจุดๆหนึ่งอย่างเช่นในเพศหญิง นอกจากนี้ภาวะดังกล่าวก็แทบไม่พบในสัตว์สปีชี่ส์อื่น มีการรายงานถึงภาวะเป็นหมันในสัตว์อายุมากที่อาศัยในป่า หรือสัตว์ที่มีอายุขัยยืนยาวกว่าปกติที่อาศัยในสวนสัตว์ แต่จำนวนหลักฐานก็ไม่มากพอที่จะกำหนดข้อสรุปหรือนิยามของภาวะแบบเดียวกับการหมดประจำเดือนในมนุษย์ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 22:29:10

ความคิดเห็นที่ 3 สัตว์สองชนิดที่อาจมีภาวะใกล้เคียงกับการหมดประจำเดือนในมนุษย์มากที่สุดคือหนูออสเตรเลียที่มีถุงหน้าท้อง (Australian marsupial mouse) ซึ่งตัวผู้มีรูปแบบการสืบพันธุ์แบบบิ๊กแบง (big bang reproduction) คือหลังจากสืบพันธุ์กับตัวเมีย ราวสิงหาคมตัวผู้ทั้งหมดจะกลายเป็นหมันจากนั้นก็ตายในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ทิ้งประชากรเพศเมียจำนวนมากที่อยู่ในสภาวะตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม ภาวะดังกล่าวก็ไม่สามารถเทียบเคียงการหมดประจำเดือนได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากไม่มีช่วงหลังหมดประจำเดือน (ที่ยังดำรงชีวิตต่อไปได้) อย่างในมนุษย์ สัตว์อีกชนิดหนึ่งที่มีภาวะใกล้เคียงกับการหมดประจำเดือนกว่าคือปลาวาฬเพชฌฆาต (killer whale) ซึ่งตัวเมียจะมีการเสื่อมของรังไข่เมื่ออายุราว 30-40 ปีและดำรงชีวิตต่อไปได้อีกราว 14 ปีหลังจากนั้น รูปประกอบ Australian marsupial mouse จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 22:30:14

ความคิดเห็นที่ 4 ดังนั้น ภาวะหมดประจำเดือนก็ไม่ได้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในมนุษย์เสียทีเดียว เรายังมีญาติอีกหนึ่งสายพันธุ์คือปลาวาฬเพชฌฆาต แต่ก็ใช่ว่าเราจะสืบทอดภาวะหมดประจำเดือนจากปลาวาฬเพชฌฆาต เพราะเรามีบรรพบุรุษร่วมกับปลาวาฬเพชฌฆาตเมื่อราวห้าสิบล้านปีที่แล้ว ในขณะที่มีบรรพบุรุษร่วมกับไพรเมตใกล้ชิดอย่างกอริลล่าหรือชิมแพนซีเมื่อราวเจ็ดล้านปีก่อน แต่ทั้งกอริลล่าและชิมแพนซีต่างไม่มีภาวะหมดประจำเดือนเหมือนกับเราและปลาวาฬเพชฌฆาต ดังนั้นเป็นไปได้ว่าทั้งเราและปลาวาฬเพชฌฆาตต่างวิวัฒน์ภาวะหมดประจำเดือนขึ้นมาอย่างเป็นเอกเทศ นั่นทำให้ภาวะหมดประจำเดือนเป็นคุณลักษณะที่น่าจะมีความหมายสำคัญมากขึ้น รูปประกอบ killer whale จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 22:31:40

ความคิดเห็นที่ 5 เพื่อตอบคำถามว่าทำไมมนุษย์เพศหญิงถึงมีภาวะหมดประจำเดือน เราลองมาพิจารณาพฤติกรรมและรูปแบบการสืบพันธุ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์กันครับ มนุษย์มีพฤติกรรมการสืบพันธุ์ตลอดทั้งปี ตั้งครรภ์เฉลี่ยยาวนาน 9 เดือน มีบุตรโดยเฉลี่ยครั้งละ 1 คน เมื่อคลอดบุตรแล้วเพศหญิงจะเป็นหมันไประยะหนึ่งตลอดช่วงให้นมบุตร (lactational amenorrhea) และเด็กต้องพึ่งพาพ่อแม่ไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นระยะเวลาอันยาวนานหลายปีกว่าที่จะช่วยเหลือตนเองได้สมบูรณ์ จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่าการสืบพันธุ์ของมนุษย์เป็นการลงทุนที่สูงมาก สิ้นเปลืองพลังงานและค่าใช้จ่าย (ในรูปแบบของแคลอรี่และเวลา) มากกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นในอาณาจักรสัตว์ เมื่อเปรียบกับการลงทุนที่ต่ำกว่าในสัตว์อื่นๆ หนูตะเภาตั้งครรภ์ราว 4 สัปดาห์มีลูกครั้งละ 12 ตัว หย่านมราว 1 เดือนและหาอาหารเองได้ทันทีหลังจากนั้น บางคนอาจบอกว่ามันดูไม่ยุติธรรมเมื่อเทียบกับหนูตะเภาที่มีอายุขัยสั้นมาก กระบวนการทุกอย่างจึงรวดเร็วได้เปรียบกว่า แต่หากตัดประเด็นเรื่องระยะเวลาที่ใช้ก็ยังมีประเด็นของจำนวนที่เหนือกว่ามนุษย์ หรือลองเปลี่ยนมาพิจารณาญาติใกล้ชิดอย่างกอริลล่าและลิงชิมแพนซี กอริลล่ามีระยะเวลาตั้งครรภ์ใกล้เคียงกับมนุษย์มากคือเฉลี่ย 8 เดือนครึ่ง ส่วนลิงชิมแพนซีใช้เวลาเพียง 6 เดือน จำนวนบุตรที่คลอดนั้นเท่าเทียมกันคือเฉลี่ยครั้งละ 1 คน (แฝดเกิดขึ้นได้แต่โอกาสน้อยมาก) แต่ทั้งกอริลล่าและลิงชิมแพนซีมีการลงทุนในการสืบพันธุ์ต่ำกว่ามนุษย์ในประเด็นของการพึ่งพิงพ่อแม่ ลูกลิงสามารถหาอาหารด้วยตนเอง ช่วยเหลือตนเองได้หลังจากหย่านมแม่ทั้งสองสายพันธุ์ รูปประกอบ chimpanzee จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 22:32:52

ความคิดเห็นที่ 6 หากยังคงเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ จะพบว่าการลงทุนด้านการสืบพันธุ์ของมนุษย์ยังครองตำแหน่งที่สูงด้วยปัจจัยที่ควรเน้นเป็นพิเศษคือการพึ่งพิงพ่อแม่ของลูก มนุษย์มีรูปแบบสังคมที่พิเศษกว่าสัตว์อื่นมาก เด็กต้องพึ่งพิงพ่อแม่เป็นระยะเวลานานเกือบสิบปีเพื่อที่จะเรียนรู้การใช้เครื่องมือ การประกอบอาหาร ภาษา ทักษะทางสังคมและทักษะการอยู่รอดอื่นๆจากพ่อแม่ และยาวนานขึ้นไปอีกถึงวัยเจริญพันธุ์ในยุคปัจจุบันเมื่อมีปัจจัยทางเศรษฐกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นหน้าที่ของแม่จึงไม่ได้หมดแค่การคลอดและให้นมลูก หากแต่ยังต้องดูแลจนกว่าลูกจะช่วยเหลือตนเองได้ อีกประเด็นสำคัญที่สมควรเน้นคือ ในการลงทุนดังกล่าว แม่ต้องลงทุนมากกว่าพ่อ แม้ว่าส่วนแบ่งทางพันธุกรรมจะเท่าเทียมกันเนื่องจากลูกได้รับยีนจากพ่อและแม่อย่างละครึ่ง (ส่วนแบ่งในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าพ่อแม่จะแสวงหาผลประโยชน์จากพันธุกรรมของลูก แต่เรากำลังพูดในมุมมองเชิงชีววิทยา ซึ่งสิ่งมีชีวิตมีเป้าหมายในการถ่ายทอดพันธุกรรมหรือยีนของตนเองของตนเองให้ได้มากที่สุดครับ) แต่การเจริญของไข่ที่ถูกปฏิสนธิเกิดขึ้นในครรภ์ของผู้หญิง แม่จึงต้องลงทุนมากกว่าพ่อโดยปริยาย เนื่องจาก 1) ผู้หญิงต้องสูญเสียพลังงานในการหล่อเลี้ยงครรภ์ 2) ผู้หญิงต้องสูญเสียโอกาสในการสืบพันธุ์ระหว่างตั้งครรภ์ขณะที่ผู้ชายไม่ 3) ผู้หญิงมีความมั่นใจในทายาทมากกว่าผู้ชาย (เนื่องจากทารกอยู่ในครรภ์ของตนเอง) การลงทุนที่ไม่เท่าเทียมกันนี้เกี่ยวข้องอะไรกับคำถามที่เราสงสัย ผมจะเฉลยในตอนท้ายครับ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 22:34:19

ความคิดเห็นที่ 7 การตายระหว่างคลอดมีสาเหตุหลักประการหนึ่งคือน้ำหนักตัวของทารกในครรภ์ ผู้หญิงหนัก 45 กิโลกรัมสามารถคลอดลูกที่มีน้ำหนักราว 2.7 กิโลกรัม หรือ 6% ของน้ำหนักตัว ในขณะที่ลิงกอริลล่าหนักสองเท่า (90 กิโลกรัม) คลอดลูกหนักเพียง 1.3 กิโลกรัม น้ำหนักตัวที่มากและการพัฒนาของกะโหลกศีรษะที่ใหญ่เป็นพิเศษในมนุษย์ทำให้การคลอดเป็นภาระอันหนักหน่วงและทรมานมากในผู้หญิง ผู้หญิงมีความเสี่ยงสูงที่จะตายระหว่างคลอดในภาวะที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือทางการแพทย์ และหากแม่ตายระหว่างคลอดลูกในขณะที่ลูกคนก่อนหน้ายังไม่พ้นวัยที่ช่วยเหลือตนเองได้ อัตราการอยู่รอดของลูกคนก่อนหน้าก็จะลดลงไปด้วย อัตราการตายระหว่างคลอดจะเพิ่มขึ้นตามอายุของแม่ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยอื่นที่ตามมาในผู้หญิงมีลูกขณะอายุมากเช่น การแท้ง ทารกน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ ความผิดปกติทางพันธุกรรมเช่น โรคดาวน์ซินโดรม (1 ใน 1,000 กรณีมีบุตรช่วงอายุก่อน 30 ปี, 1 ใน 300 กรณีมีบุตรช่วงอายุ 35-39 ปีและ 1 ใน 50 กรณีมีบุตรช่วงอายุ 40-45 ปี) ดังนั้นการมีลูกเมื่ออายุมากจึงไม่เป็นผลดีเลยในมนุษย์ และร้ายแรงถึงขั้นกระทบต่อความอยู่รอดของยีนที่ส่งต่อไปแล้ว (ลูกคนก่อนหน้า) ธรรมชาติจึงคัดเลือกมนุษย์เพศหญิงที่หยุดความสามารถในการสืบพันธุ์ไปเลยเมื่ออายุถึงจุดสมควรให้อยู่รอดต่อไป มีโอกาสส่งต่อยีนไปยังลูกหลานมากกว่า ความอยู่รอดของผู้หญิงไม่ได้ส่งผลแค่การอยู่รอดของลูก (ส่วนแบ่งทางพันธุกรรม 50%) แต่ยังส่งผลถึงการอยู่รอดของหลาน (ส่วนแบ่งทางพันธุกรรม 25%) อีกด้วย เนื่องจากสังคมมนุษย์มีความพิเศษอีกประการหนึ่งคือการอยู่ร่วมเป็นวงศาคณาญาติ หญิงที่แก่ชราจะมีส่วนร่วมในการแบ่งเบาภาระของมารดาโดยการช่วยเลี้ยงดูบุตรหลาน เพิ่มโอกาสอยู่รอดของเด็ก จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 22:35:46

ความคิดเห็นที่ 8 และเหตุที่เพศชายไม่มีภาวะที่เทียบเคียงกับการหมดประจำเดือนก็เนื่องจากการลงทุนที่น้อยกว่าดังที่ผมกล่าวมาข้างต้น ร่วมกับข้อเท็จจริงอันเลือดเย็นที่ว่า ผู้ชายไม่ต้องคลอดจึงไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงที่จะตายระหว่างคลอด และผู้ชายก็ไม่มีความเสี่ยง (หรือมีน้อยมาก) ที่จะตายระหว่างร่วมเพศ ดังนั้นกิจกรรมทางเพศของผู้ชายจึงดูจะให้ผลกำไรมากกว่าผู้หญิง ถึงแม้ผู้หญิงคู่ครองตายระหว่างคลอด ผู้ชายก็สามารถหาคู่สืบพันธุ์ใหม่ได้เรื่อยๆ ด้วยเหตุนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่ผู้ชายจะต้องหยุดความสามารถในการสืบพันธุ์เมื่ออายุมากขึ้นแต่อย่างใด (อะไรนะครับ ได้ยินเสียงบ่นแว่วๆว่าผู้ชายทำไมดูเห็นแก่ตัวจัง - -") แน่นอนว่าคำอธิบายทั้งหมดนี่เป็นการตอบคำถามในมุมมองของชีววิทยาเชิงวิวัฒนาการ (evolutionary biology) ที่อาจมีส่วนถูกหรือผิดก็ได้ ไม่สามารถสรุปฟันธงได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากข้อจำกัดในการศึกษา เราไม่สามารถทดลองตรวจสอบผลได้ หรือถ้าทำได้ก็คงยากมากที่จะอยู่รอสังเกตผลที่เกิดขึ้นในสเกลหลักแสนหลักล้านปีครับ ในอนาคตข้างหน้าเราอาจพบหลักฐาน หรือการศึกษาในสายพันธุ์เทียบเคียงอย่างปลาวาฬเพชฌฆาต ที่ช่วยให้เราเข้าใจระบบสรีรวิทยาอันพิศวงของการสืบพันธุ์ก็ได้ครับ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 22:37:08

ความคิดเห็นที่ 9 แนะนำหนังสืออ่านเพิ่มเติม สำหรับข้อมูลที่ใช้เขียนบทความนี้ เรียบเรียงจากบท Making more by making less ในหนังสือชื่อ Why Is Sex Fun?: The Evolution of Human Sexuality ของ Jared Diamond ครับ เป็นหนังสือที่อ่านสนุกมากเนื่องจากผู้เขียนมีความเชี่ยวชาญและอธิบายเรื่องยากๆให้เข้าใจโดยละเอียด เนื้อหาอื่นๆที่น่าสนใจในหนังสือเล่มนี้เช่น ทำไมมนุษย์จึงวิวัฒน์ระบบผัวเดียวเมียเดียว (monogamy) (ไม่อยากเขียนบทความเรื่องนี้เพราะเดี๋ยวจะสะกิดต่อมศีลธรรมแล้วเกิดดราม่า!! ) ทำไมเพศชายจึงไม่วิวัฒน์การให้นมบุตร เพศสัมพันธ์เพื่อความสนุกเกิดขึ้นได้อย่างไร เป็นต้น อีกเล่มหนึ่งที่น่าสนใจคือ The Selfish Gene ของ Richard Dawkins ที่อธิบายพฤติกรรมสัตว์โลกด้วยทฤษฎียีนที่เห็นแก่ตัว ซึ่งไม่ได้หมายความว่ายีนนั้นมีจิตสำนึกและมีความเห็นแก่ตัวจริงๆ แต่เป็นคำอุปมา เนื่องจากพฤติกรรมต่างๆที่สัตว์โลกแสดง สะท้อนให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัวของยีนที่ต้องการถ่ายทอดก็อปปี้ของตนเองให้มากที่สุดโดยใช้ร่างกายสัตว์เป็นเครื่องมือ หนังสือเล่มนี้จะอธิบายผลประโยชน์ การลงทุน ความขัดแย้งต่างๆระหว่างสัตว์ต่างสายพันธุ์ ระหว่างเพศผู้และเพศเมีย และระหว่างพ่อแม่ลูก เป็นต้น อ่านสนุกเช่นกันครับ แต่เนื้อหายากหน่อย ควรมีความรู้ทางชีววิทยา จบแล้วครับ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 22:39:16

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับ จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 22:54:53

ความคิดเห็นที่ 11 นี้จึงเป็นที่มาของบทเรียนอย่างหนึ่ง ของผู้ชาย ที่ควรรู้ เวลาที่จะเรียกผู้หญิง ไม่ว่าอายุผู้หญิงจะแก่กว่าหรือไม่  ให้ผู้ชายเรียก  "ชี" ว่า "น้อง" เสมอ เพราะผู้หญิงมักจะหงุดงิดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ หากผู้ชายไปเรียก "หล่อน"  ว่า "พี่" จากคุณ : chuk007 เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 23:01:28

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณที่ให้ความรู้นะคะ คห.8 ที่ให้กิ๊ฟเพราะว่าหูเจ้าของกระทู้ดีมาก คิดว่าบ่นอยู่เงียบๆคนเดียวยังอุตส่าห์มีคนได้ยินอีก จากคุณ : เจ้ากระจิ๊ดริ๊ด เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 23:09:12

ความคิดเห็นที่ 13 เกิดเป็นผู้ชายสบายตัว จากคุณ : tomorrow night เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 23:48:37

ความคิดเห็นที่ 14 แหมคุณ Cryptomnesia ลงบทความเรื่อง  ทำไมมนุษย์จึงวิวัฒน์ระบบผัวเดียวเมียเดียว (monogamy) มาหน่อยก็ได้นะคะ แหะๆ แบบว่าอยากรู้นะคะ มันจะถึงขั้นมาม่าเชียวหรือ ^^ ขอบคุณ คุณCryptomnesia ที่พิมพ์บทความยาวๆที่มีสาระมาให้อ่าน ชอบค่ะ แต่ให้กิ๊ฟมิได้ = = สรุปว่าเกิดมาเป็นผู้หญิงนี่โชคดีมั้ยเนี่ย แหะๆ แถมคุณ Cryptomnesia ยังหูดี๊ดีได้ยินเสียงบ่นจากเราด้วย ฮ่าๆๆ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 54 03:55:27 แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 54 03:54:25 จากคุณ : ปลาทองคับป๋ม เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 03:53:58

ความคิดเห็นที่ 15 เริ่มแก่ละ  555   เห็นด้วยค่ะว่าการมีลูกมันเป็นต้นทุนที่สูงมาก จากคุณ : june_ju เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 05:12:46

ความคิดเห็นที่ 16 ผมมองว่ามันเป็นการป้องกันความเสี่ยงตามธรรมชาติด้วยนะ เพราะเมื่อเพศหญิงแก่ตัวลง ด้วยสภาพร่างกายแบบนั้นจึงเป็นการยากต่อการมีบุตรดังที่พี่ Cryptomnesia กล่าวไป ด้วยความเสียงของการเลี้ยงดูบุตร และความเสียงต่อสภาพร่างกายในการคลอดบุตร ที่มีโอกาสจะไม่สมบูรณ์อยู่สูง ธรรมชาติจึงตัดปัญหาในเรื่องนี้โดยการระงับสภาวะการตั้งครรค์ในเพศหญิงให้ยุติอยู่เพียงเท่านั้น จากคุณ : hideto b1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 08:11:13

ความคิดเห็นที่ 17 เพราะนมใกล้หมดอายุ ไม่ดีต่อสุขภาพเด็กทารกครับ ล้อเล่นนะ :P จากคุณ : ไปมันทุกห้อง เพราะเราเป็น..... (คนทุกห้อง) เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 09:10:39

ความคิดเห็นที่ 18 การมีประจำเดือน คือ ความล้มเหลวของการตั้งครรภ์ ถ้ามีประจำเดือนไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีลูก ก็เท่ากับเสียเลือดไปฟรีๆ ทุกเดือน จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 10:03:07

ความคิดเห็นที่ 19 เยี่ยมมากคะคุณCryptomnesia ขอบคุณที่อุส่าพิมพ์มาให้อ่านยาวๆ เฮ้ยยย รู้สึกว่าเกิดเป็นผู้ชายเนี่ยสบายจริงๆเลยนะ ชิ #14 ให้กิฟแทนให้นะค่ะ จากคุณ : Manta Ray กระเบนราหู เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 10:25:40

ความคิดเห็นที่ 20 นานๆจะได้เห็นกระทู้ของคุณขลิบตุ้มสักที กระทู้สาระอีกแล้ว โหวตครับ จากคุณ : Singster เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 11:13:53

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นบทความที่น่าอ่านมากๆ ครับ ขออนุญาตสรุปเนื้อหาของคุณตุ้มว่า เหตุใดมนุษย์จึงวิวัฒน์ภาวะหมดประจำเดือน คำตอบก็คือ ธรรมชาติได้คัดเลือกว่า หลานที่ถูกเลี้ยงดูโดยคุณย่าคุณยาย (วัยหมดประจำเดือน) มีโอกาสรอดเพื่อสืบทอดพันธุกรรมต่อได้มากกว่า หลานที่ไม่มีคุณย่า/ยายช่วยเลี้ยง (เนื่องจากคุณย่า/ยายที่ไม่หมดประจำเดือน ตายจากการคลอดไปแล้ว) ประมาณนี้มังครับ.. จากคุณ : เสือต้าน เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 12:25:38

ความคิดเห็นที่ 22 มีสัตว์อะไรบ้าง ที่มีประจำเดือนเหมือนมนุษย์บ้างเปล่าครับ ? จากคุณ : Torrenza เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 13:51:18

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณสำหรับความรู้นะครับ . . . ศึกษามาดีขนาดนี้ สมกับที่ชื่อ คุณ "ขลิบตุ้มนี้เสีย" จริงๆ จากคุณ : Sorry_I can't be perfect เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 14:29:47

ความคิดเห็นที่ 24 เพราะแก่ครับ จากคุณ : spiderman เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 14:32:14 A:124.121.252.129 X: TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 25 เสียเลือดไปฟรีๆ จริงๆเลย จากคุณ : ฉันยังอยู่ได้..คนดี เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 15:18:21

ความคิดเห็นที่ 26 เซ็งอะ ทำไมแก่เร็วจัง จากคุณ : หนึ่ง ต. กับ สามตัว (หนึ่ง ต. กับ สามตัว) เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 16:06:13

ความคิดเห็นที่ 27 ออกความเห็นหน่อยนะครับ ผมว่าวัยทองเป็นผลจากการที่มนุษย์มีอายุขัยยืนยาวขึ้นอันเป็นผลจากพฤติกรรม ในขณะที่จำนวนฟอลลิเคิลในรังไข่ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามเพราะควบคุมด้วยโครโมโซมและการเจริญของตัวอ่อนในครรภ์ ดังนั้น สตรีที่อายุมากกว่าเกณฑ์ของชาติพันธ์จึงมีจำนวนฟอลลิเคิลไม่เพียงพอ ในขณะที่สัตว์อย่างชิมแพนซี ยังมีอายุอยู่ในเกณฑ์ของเผ่าพันธ์ ยกเว้นพวกที่อยู่ในสวนสัตว์ ซึ่งอายุยืนกว่าปกติก็จะมีวัยทองให้เห็น ส่วนเรื่องเพศชาย-หญิงที่แตกต่างกันก็คงมีเรื่องต้นทุนอย่างที่ว่าหนึ่งล่ะ เพราะฝ่ายหญิงต้องลงทุนมากกว่า คือสร้างไข่ทั้งใบ ในขณะที่ฝ่ายชายสร้างแค่สเปิร์มเอาไว้ขนโครโมโซมครึ่งเดียวไปใส่ แต่ประเด็นสำคัญคือ ฝ่ายชายมีการแบ่งเซลล์เพื่อสร้างสเปิร์มได้ตลอด แต่ฝ่ายหญิงหยุดแบ่งเซลล์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์แล้ว ดังนั้นจึงสร้างเพิ่มไม่ได้ครับ จากคุณ : AJ_da_NR เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 16:10:05

ความคิดเห็นที่ 28 โดยเกิดในช่วงอายุประมาณ 40-50 ปี เวงกำแล้วตรู เหลืออีก 8 ปี จากคุณ : Judy Abbott เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 16:14:44

ความคิดเห็นที่ 29 น๊าน นาน จะได้เห็นคุณคุณคลิปจะเขียนบทความมาให้อ่าน จากคุณ : say a words เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 16:16:46

ความคิดเห็นที่ 30 จากคุณ : กระป๋องด๋อย เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 16:39:02

ความคิดเห็นที่ 31 สนุกจังเลยค่ะ แต่อ่านแล้วปลง - -" ปล อยากอ่านดราม่านะ จากคุณ : wippygal25 เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 19:45:02

ความคิดเห็นที่ 32 เฮียแกกลับมาเขียนเป็นช่วง ๆ  แฮะ จากคุณ : Zew เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 20:18:35

ความคิดเห็นที่ 33 (ไม่อยากเขียนบทความเรื่องนี้เพราะเดี๋ยวจะสะกิดต่อมศีลธรรมแล้วเกิดดราม่า!! )  แต่อยากอ่านนะ  จากคุณ : YanYanMachiko เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 20:18:45

ความคิดเห็นที่ 34 *19 ขอบคุณเรื่องกิฟจ้า *22 ที่เห็นมีก็พวกลิงใหญ่นะคะ เออใช่...สุนัขก็มีค่ะ แต่เค้าจะไม่เรียกว่าปนะจำเดือนเพราะมันไม่ได้มาทุกเดือนค่ะ = ="  6 เดือนมาครั้ง เค้าจะเรียกว่าฮีทค่ะ แต่ไม่รู้ว่ากระบวนการที่ทำให้เกิดประจำเดือนเหมือนคนมั้ย แต่ก็น่าจะเหมือนนะคะ อยากรู้แน่ชัดเหมือนกันข้อนี้ ว่ามีสัตว์ชนิดไหนอีกที่มีประจำเดือนเหมือนกับคนและกระบวนการการทำให้มีประจำเดือนของสัตว์อื่นมันเหมือนกันมั้ย ใครทราบรบกวนไข้ข้อสงสัยด้วยนะคะ คุณ  Cryptomnesia เห็นมั้ยมีแต่คนเรียกร้องอยากอ่านไอที่มันมาม่า = = รบกวนด้วยนะคะถ้าไม่ติดขัดอะไร ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ แหะๆ จากคุณ : ปลาทองคับป๋ม เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 22:32:04

ความคิดเห็นที่ 35 อะฮ้า ที่แท้คุณขลิปก็ซุ่มเขียนทู้อยู่นี่เอง ทู้ดีมากอีกตามเคย ตามมาเชียร์นะฮาฟ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 00:41:31

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ ชอบประโยคนี้จัง ถูกใจ ^^ "อะไรนะครับ ได้ยินเสียงบ่นแว่วๆว่าผู้ชายทำไมดูเห็นแก่ตัวจัง - -" " จากคุณ : เพนกวินร่าเริง เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 01:13:30

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่ได้อ่านบทความ กระทู้ดีๆ มีสาระ แบบนี้มานานแล้ว ขอบคุณนะครับ คุณ "ขลิบตุ้ม" (55555 ฉายาน่ารักจังครับ) จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 07:32:56

ความคิดเห็นที่ 38 ถ้าผู้หญิงบางคนมีความสามารถคลอดตอนแก่ได้ นับยังไง ก็มีโอกาสมีลูกมากกว่าคนที่หมดประจำเดอนเร็วแน่ๆ ถึงบางคนจะเสียชีวิตก็เถอะ ผมก็เลยสงสัยว่า ถ้าคัดเลือกตามธรรมชาติจริงๆแล้ว ผู้หญิงที่ท้องตอนแก่ได้ น่าจะมีลูกหลานอยู่ในโลกมากกว่าหนิครับ ผมคิดว่าน่าจะมีปัจจัยอื่นๆที่สำคัญอีก เช่น ผู้หญิงที่ท้องตอนแก่ได้ อาจมีฮอร์โมนบางอย่างที่ไม่เหมือน หรือรุนแรงกว่าผู้หญิงทั่วๆ ไป ทำให้มีผลต่อจำนวนลูกหลาน เมื่อเทียบกับผู้หญิงทั่วไปที่หมดประจำเดือนไวกว่าหรือเปล่าครับ จากคุณ : wissar เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 09:12:38

ความคิดเห็นที่ 39 จขกท เขียนอย่างนี้ มนุษย์ประเภทแรกน่าจะถูกคัดเลือกโดยธรรมชาติ (natural selection)ให้ดำรงอยู่ต่อไปได้ แต่ในความเป็นจริง มนุษย์ประเภทหลังกลับถูกคัดเลือกให้มีชีวิตรอด และเป็นบรรพบุรุษของพวกเราทุกคนในปัจจุบัน เจตนาอะไรเนี่ยะ แล้วประเภทแรกไม่มีอยู่ในบรรพบุรุษเหรอไง จากคุณ : BananaLeaf เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 12:11:04

ความคิดเห็นที่ 40 #39 ผมหมายถึง the most recent common ancestor ฟังดูแง่ร้ายมากหรือครับ? จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 12:36:44

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านแล้วไม่เข้าใจว่า ค.ห. 39 ต้องการสื่ออะไร จขกท.ก็เขียนถูกอยู่แล้วนี่ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 13:14:45

ความคิดเห็นที่ 42 ในฐานะที่เป็นแม่ลูก 2 นะคะ ตอนท้องแรกเราท้องตอนอายุ 26 ตอนนั้นก็ยังไม่ลำบากมาก ท้อง 2 ตอนอายุราวๆ 30 ท้องนี้แท้งค่ะ ต่อมาอีกไม่กี่เดือนก็ท้องใหม่ เห็นได้ชัดเลยว่า ท้องตอนที่อายุเยอะขึ้น (ราวๆ 30-31) ปัญหาจุกจิกเยอะนะคะ เมื่อเทียบกับตอนอายุน้อยกว่านี้ คือ ความอึดของแม่ลดลง เด็กก็ไม่ค่อยสมบูรณ์ ต้องประคบประหงมแม่มากกว่าแม่ที่อายุน้อยๆน่ะค่ะ ดูจากสภาพร่างกายตัวเองตอนท้อง เอามาเทียบกันแล้วบอกตรงๆว่าไม่ไหวค่ะ ยิ่งอายุมากแม่ยิ่งลำบาก แถมลูกก็อาจจะมีปัญหาด้วย รวมถึงตอนคลอดด้วยนะคะ ที่อายุมาก ก็ยิ่งต้องให้หมอดูแลมากขึ้น ถ้าใครจ้างให้เราท้องแทนตอนนี้ 5 ล้านยังไม่เอาเลยค่ะ ถ้าผู้หญิงแก่ๆยังท้องได้เราว่าทรมานกับตัวแม่เอง ไหนจะทรมานตอนตั้งท้อง ไหนจะทรมานตอนคลอด และต้องมาดูแลเด็กอีกหลายปี ยิ่งแก่ๆ ยิ่งวิ่งตามดูแลเด็กไม่ค่อยไหวหรอกค่ะ มีวัยหมดปจด.ก็ดีค่ะ จากคุณ : ริน-otto เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 14:24:04

ความคิดเห็นที่ 43 ถึงแม้ว่าวัยหมดประจำเดือนจะเกิดขึ้นอาจจะถึงอายุสี่สิบปลายๆหรือห้าสิบ แต่เคยอ่านงานวิจัยของ Univeristy of St Andrews และ Edinburgh University เรื่อง "ovarian reserve" พบว่าแค่อายุ 30 รังไข่ก็สูญเสียความสามารถในการทำงานไปถึงร้อยละ 90 เลยค่ะ http://www.plosone.org/article/info%3Adoi%2F10.1371%2Fjournal.pone.0008772 หมายถึงในแง่ของความสามารถในการปฏิสนธิและการมีบุตรที่แข็งแรง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมสตรีที่แตงงานตอนอายุมากถึงมีบุตรยาก By the age of 30 there is only 12 per cent left on average and by the age of 40 just three per cent. สาวๆใครยังโสดก็รีบๆใช้ไข่ให้คุ้มค่านะคะ ธรรมชาติเค้าสร้างมาแล้ว ภาพ "ไข่" จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 17:40:14

ความคิดเห็นที่ 44 มิน่าล่ะ พอใกล้ๆ 30 แล้วสาวๆ ถึงต้องรีบกัน จากคุณ : ชิวตัวเป็นขน เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 18:00:57

ความคิดเห็นที่ 45 กลับมาอธิบายนะครับ พอดีเมื่อกลางวันมี lab เลยยุ่งๆ #38 การคัดเลือกโดยธรรมชาตินั้นแข่งขันกันที่จำนวนครับ สมมติว่าในกลุ่มประชากรมี กลุ่ม A ซึ่งไม่มีภาวะหมดประจำเดือนและกลุ่ม B ที่มีภาวะหมดประจำเดือน กลุ่ม A มีโอกาสสืบทายาทเมื่ออายุมากได้ แต่เสี่ยงเสียชีวิตสูง และเสี่ยงได้บุตรที่ไม่สมบูรณ์ (ซึ่งมีพันธุกรรมที่ด้อยและจะมีโอกาสถูกเลือกให้สืบพันธุ์ต่อน้อย) ขณะที่กลุ่ม B ไม่มีโอกาสสืบพันธุ์เมื่ออายุมาก ช่วงแรก จำนวนลูกหลานน้อยกว่า แต่โอกาสรอดของลูกหลานนั้นมากกว่ากลุ่ม A เมื่อเวลาผ่านไป กลุ่ม A จะมีจำนวนน้อยลง (ตายระหว่างคลอด) ซึ่งส่งผลให้ลูกของกลุ่ม A มีโอกาสรอดชีวิตน้อยลงด้วย และหากลูกของกลุ่ม A ยังมีชีวิตรอดและไม่มีความพิการ ก็จะประสบปัญหาเดียวกันคือเสี่ยงชีวิตระหว่างคลอดเมื่ออายุมาก เมื่อเวลาผ่านกลุ่ม A และลูกหลานก็จะลดน้อยลงเรื่อยๆจนกระทั่งหมดไป เหลือแต่กลุ่ม B #39 ดูรูปประกอบครับ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 18:16:40

ความคิดเห็นที่ 46 ^ ^ พอใกล้ 40 นี่ แทบจะหมดลูกสูบ T_T จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 18:18:31

ความคิดเห็นที่ 47 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 19:13:39

ความคิดเห็นที่ 48 นี้ท่าน Mr.Fusion ถ้าจะพึ่งว่างเหมือนผม ไล่อ่านกันมาตั้งแต่ สินธรแล้ว จากคุณ : นักเรียนหรือกรรมกร (นักเรียนหรือกรรมกร) เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 19:16:05

ความคิดเห็นที่ 49 Mr. Fusion มาแล้ว จากคุณ : ปลาทองคับป๋ม เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 23:07:39

ความคิดเห็นที่ 50 เราคืออีกคนหนึ่งที่เป็นผลิตผลของหญิงวัยใกล้ ๔๐...ครบ ๓๒ สมบูรณ์แข็งแรงมากมาย แสดงว่าพันธุ์นี้ตายยาก เพราะผ่านการคัดสรร และฟันเฟิร์มจากท่านธรรมชาติมาแล้ววววว จากคุณ : เขิน (เขิน) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 07:30:22

ความคิดเห็นที่ 51 มนุษย์หาทางเอาชนะธรรมชาติได้ตลอดแหละ แช่แข็งไข่ ทางเลือกใหม่สำหรับหญิงมีลูกช้า http://women.sanook.com/mom-baby/pregnancy/pregnancy_55548.php จากคุณ : Duck Vador เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 11:42:24

ความคิดเห็นที่ 52 #43 รูปของคุณหมอเหมียวนี่ของจริงใช่มั้ยครับเนี่ย คือผมเพิ่งเคยเห็นเลย = = จากคุณ : kurokatt เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 12:51:18

ความคิดเห็นที่ 53 เข้ามาอ่าน และให้กำลังใจคุณคลิปตุ้มค่ะ อยากอ่านกระทู้ที่อาจจะมีดราม่าเหมือนกัน สู้ๆ นะคะ ^-^ ปล. เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก เหลือเวลาอีกกี่ปีเนี่ยเรา......... แก้ไขเพิ่มเติม : (บ่นเฉยๆ คะ) อ่านกระทู้ผู้หญิงหมดประจำเดือนแล้วรู้สึกว่าโลกไม่ค่อยยุติธรรมเลยเนาะ คิดแต่เพื่อการอยู่รอด เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ไม่คิดถึงจิตใจกันบ้างเลย = = (แล้วมันจะคิดเรอะ !) รู้สึกเหมือนผู้หญิงเกิดมาเพื่อสืบพันธุ์ เพราะช่วงเวลาที่เหมาะต่อการให้กำเนิด เมื่อเทียบกับช่วงชีวิตแล้วก็มีไม่มาก รวมถึงสติปัญญา ความสามารถในการตัดสินใจ ความแข็งแรงของร่างกาย ที่ส่วนใหญ่ด้อยกว่า อีกทั้งเคยอ่านบทความ (จริงหรือไม่?) ที่ผู้หญิงจะหลั่งฮอร์โมน Oxytocin สร้างความรู้สึกผูกพัน (ทางกายโดยธรรมชาติ?) เวลามีเพศสัมพันธ์ คลอดบุตร และให้นมบุตร ในขณะที่ผู้ชายไม่มีฮอร์โมนชนิดนี้ (?) พอแล้วนะคะ อ่านแล้วยอมแพ้ ต่อไปนี้ข้าฯเจ้าเกิดมาเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ พอ จบ = = (แล้วตอนหลังก็ไฟลุกโชน ว้ากกกก ของงี้มันฝึกกันได้เนอะ) แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 15:14:48 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 15:13:51 จากคุณ : จะพาเรากลับบ้าน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 14:17:57

ความคิดเห็นที่ 54 เยอะเกิน เดวกลับมาอ่านเนะ T T อาทิตย์ก่อนไปซาวด์มา เจอไข่ในท้องอะ ติดๆๆกันเป็นเหมือนไข่ปลาคาเวียร์เต็มท้องเลย หมอบอกว่าเราฉีดฮอร์โมนเพื่อรักษาช็อคโกแล็ตซีสนานเกิน ไข่มันตกแต่ไม่มีการลอกตัวของผนังมดลูก แม้จะิิเป็นขาวดำเราก็ดูออกว่ามันจะต้องเป็นแบบในรูป #43 ของคุณหมอหมูเหมียวค่ะ โอว มหัศจรรย์ม๊อกกกก จากคุณ : maikeet เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 14:52:26

ความคิดเห็นที่ 55 คคห.53 คุณจะพาเรากลับบ้าน เพศชายมี Oxytocin เหมือนกันค่ะ โดยสร้างที่สมองส่วนไฮโปทาลามัสเช่นเดียวกับผู้หญิง และเนื้อเยื่อบางชนิดของระบบสืบพันธุ์ชาย (ตามรูปประกอบ OT=oxytocin) พบว่าระดับจะสูงขึ้นเมื่อมีการหลั่งน้ำเชื้อด้วย นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับพฤตืกรรมความผูกพันแบบ Monogamy (ซึ่งคุณคริปคงจะเขียนเป็นบทความเรื่องต่อไป // :-P )ด้วยค่ะ โดยพบว่าออกซิโทซิน และวาโซเพรสซินเกี่ยวข้องกับพฤติกรรม monogamy และสัตว์ที่มีพฤติกรรมรักเดียวใจเดียวจะมีตัวรับของฮอร์โมนวาโซเพรสซิน (ฮอร์โมนที่มีโครงสร้างคล้ายออกซิโทซิน)มากในสมองบางส่วน เมื่อเทียบกับสัตว์ที่เป็น Polygamy หรือผู้ชายหลายใจ (รายละเอียด http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2010/01/X8723968/X8723968.html ) ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.vivo.colostate.edu/hbooks/pathphys/endocrine/hypopit/oxytocin.html Oxytocin—its role in male reproduction and new potential therapeutic uses http://humupd.oxfordjournals.org/content/12/4/437.full แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 16:10:08 จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 16:08:50

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณคุณโอ้ละหนอค่ะ (กรรม กดให้กิฟท์ผิดค่ะ ติดไว้อีกสองนะคะ) ปล. อ่านจบทั้ง 3 links แล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 17:28:52 จากคุณ : จะพาเรากลับบ้าน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 16:54:42

ความคิดเห็นที่ 57 จขกท. เคยเขียนหนังสือ "เรื่องเล่าจากร่างกาย" หรือเปล่าครับ ผมซื้อมาอ่านแล้วชอบมาก ขอบคุณครับ จากคุณ : หลงลืม เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 17:47:25

ความคิดเห็นที่ 58 เมื่อคลอดบุตรแล้วเพศหญิงจะเป็นหมันไประยะหนึ่งตลอด ช่วงให้นมบุตร (lactational amenorrhea) และเด็กต้องพึ่งพาพ่อแม่ไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นระยะเวลาอันยาวนานหลายปีกว่าที่จะช่วยเหลือตนเองได้สมบูรณ์ ถาม จขกท. ครับ ผมเคยได้ยิน ไม่สิ เห็นอยู่บ่อยๆว่า คนเราสามารถมีลูกหัวปีท้ายปีได้ แบบนี้ แสดงว่ามนุษย์ไม่ได้มีช่วงพัก อย่างที่จขกท.บอกรึเปล่าครับ เพราะว่าในหลายๆครอบครัวโดยเฉพาะครอบครัวสมัยโบราณ พี่เล่นมีลูกติดๆกันแบบถี่ๆเลย ผมเลยสงสัยครับ เข้าใจว่าอาจจะเป็นแค่เพราะอารมณ์ที่รักและห่วงลูกมากกว่าสามีรึเปล่า จึงทำให้ไม่พร้อมที่จะสืบพันธุ์ต่อไป ขอบคุณในคำตอบล่วงหน้าครับ จากคุณ : กระบี่ไร้เลือด เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 18:05:33

ความคิดเห็นที่ 59 ประจำเดือนหลังคลอดบุตร http://www.doctor.or.th/node/2885 ผู้ตอบ น.พ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ โดยปกติแล้วระยะเวลาที่อวัยวะต่างๆ ของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงในระหว่างตั้งครรภ์นั้นจะกลับสู่สภาพเดิมก่อนตั้งครรภ์ใช้เวลาประมาณ ๖ สัปดาห์ หรือ ๔๒ วัน หลังคลอดก็จะเป็นปกติเป็นส่วนใหญ่ แต่ประจำเดือนนั้นต่างออกไป คือ อาจจะมาก่อนหรือหลังก็ได้ โดยเฉพาะมารดาที่ให้นมบุตรอยู่นั้นประจำเดือนระยะหลังคลอดอาจเลื่อนออกไปได้ ทั้งนี้เนื่องจากในขณะที่มารดายงมีน้ำนมอยู่นั้น ฮอร์โมนที่กระตุ้นการสร้างน้ำนมจะทำหน้าที่ไปยับยั้งการตกไข่อันเป็นกระบวนการคุมกำเนิดตามธรรมชาติอย่างหนึ่ง ดังนั้นเมื่อไม่มีการตกไข่จึงยังคงไม่มีประจำเดือน และในการมีประจำเดือนในระยะแรกๆ หลังจากคลอดบุตรนั้นจะไม่ใช่ประจำเดือนจากการมีตกไข่เสมอไป จึงอาจทำให้ลักษณะการมีประจำเดือนในระยะนี้มาบ้างไม่มาบ้าง มีมากขึ้นหรือน้อยลงก็ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อมารดาเลิกให้นมบุตรแล้ว ประจำเดือนจะมาเป็นปกติเอง ดังนั้น มารดาที่ประจำเดือนยังไม่มาหรือยังมาไม่เป็นปกติในระยะ ๒-๖ เดือนหลังคลอดจึงไม่ต้องกังวลใจ แต่ถ้าต้องการคุมกำเนิดให้เริ่มการคุมกำเนิดไปได้เลย โดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อน เพราะในระหว่างที่ไม่มีประจำเดือนอยู่นั้น อาจเกิดมีไข่ตกออกมาแล้วตั้งครรภ์โดยบังเอิญก็ได้ จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 18:20:08

ความคิดเห็นที่ 60 สรุปสั้นๆคือ มันเป็นความบังเอิญหรือครับ บังเอิญว่าไข่ตก ทั้งๆที่ไม่มีประจำเดือน ?? ผมคิดเล่นๆว่า บางทีคนในสมัยนี้ หมายถึงคนที่เริ่มมีสังคมเมือง มีความเครียด มีการแข่งขัน เกิดขึ้น อาจจะทำให้ความสามารถในการสืบพันธุ์ตรงนี้ ถูก suppress ไปก็เป็นได้ เพราะว่า ถ้าเป็นคนยุคก่อน ย้อนไปสัก 50-100 ปี ที่ยังอยู่ในชนบท ผมก็เห็นว่ามีลูกกันที 10-12 คน หัวปี-ท้ายปีกันเยอะแยะไป ... หรือนี่ จะเป็นอีกหนึ่ง sub-evolution ของคนที่ใช้ชีวิตในสังคมเมือง ครับ ย้ำอีกทีครับ ผมคิดเองเล่นๆนะครับ ขอบคุณคุณโอ้ละหนอสำหรับคำตอบครับ จากคุณ : กระบี่ไร้เลือด เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 18:31:56

ความคิดเห็นที่ 61 #57 ไม่ใช่ครับ :) แต่ผมก็ชอบหนังสือเล่มนั้นเช่นกันครับ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 19:54:03

ความคิดเห็นที่ 62 ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์   ที่ใดมีมาม่าที่นั่นมีคนอ่าน สิ่งที่ทำให้เพศหญิงแข็งแรง ตั้งครรภ์ได้เองตามธรรมชาติโดยอายุมากกว่า 30 โดยไม่เป็นอันตรายคือ การออกกำลังกายครับ สิ่งที่ทำให้เพศชายแข็งแรง เตะปี๊บกระเด็นโดยไม่ต้องพึ่งไวอะกร้า ก็คือการออกกำลังกายเช่นกัน จากคุณ : Y (yoyolandk) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 22:36:04

ความคิดเห็นที่ 63 นึกว่าจะกล่าวในด้านอารมณ์ของคนวัยหมดประจำเดือนซะอีก จากคุณ : RouteRaideR เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 23:14:16

ความคิดเห็นที่ 64 เพื่อนผม คนพี่เกิดกลาง ๆ 2523 เพื่อนผมเกิดกลาง ๆ 24 2 คนอายุห่างกันไม่ถึง 12 เดือนครับ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 23:19:38

ความคิดเห็นที่ 65 #51 ถึงจะเก็บไข่ที่สมบูรณ์ไว้ได้ แต่มดลูกก็ไม่พร้อมเท่าตอนสาว ๆ ไม่ใช่หรือคะ หรือว่าต้องใช้วิธีอุ้มบุญเอาละเนี่ย จากคุณ : Avanyere เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 02:56:14

ความคิดเห็นที่ 66 #53 รูปนั้นเป็นรูปการตกไข่ในมนุษย์รูปแรกที่ถ่ายได้โดยบังเอิญ เป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลกเลยค่ะ http://news.bbc.co.uk/2/hi/health/7447942.stm รูปนี้ถ่ายโดยคุณหมอ  Jacques Donnez ขณะที่กำลังส่องกล้องผ่าตัดมดลูหให้สตรีวัย 45 ปีคนหนึ่ง และพบภาพการตกไข่โดยบังเอิญ จึงจับภาพไว้ได้ ภาพนี้ตีพิมพ์ในวารสาร New Scientist magazine ในปี 2008 และเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการตกไข่ที่ว่ามันเกิดขึ้นทันทีทันใดไปเลย เพราะจากภาพที่จับได้มันกินเวลาถึง 15 นาที กว่าไข่จะออกมาจากถุงหุ้ม(follicle) ค่ะ จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 07:34:06

ความคิดเห็นที่ 67 คุณหมูเหมียว  ขอถามครับ ถ้าผู้หญิงแค่อายุ 30 รังไข่ก็สูญเสียความสามารถในการทำงานไปถึงร้อยละ 90 เป็นความจริง  แสดงว่าผู้หญิงที่อายุเกิน 30 ยังมีลูกได้ก็คงเป็นผลมาจากความขยันในกิจกรรมสร้างบุตรเท่านั้นเอง จริงอยู่ว่า ผู้ชายแม้ไม่มีอายุที่หมดความสามารถในการสืบพันธ์ แต่ถ้าอายุมากวังชาคงถดถอย  ไม่เป็นโรคความดันก็โรคหัวใจ จากมุมมองนี้ ถือว่า การที่ผู้ชายอายุมากจะมีภรรยาอายุต่ำกว่า 30 เป็นสิ่งที่ถูกต้องทางการแพทย์ใช่ไหมครับ เราไม่ควรจับคู่กับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า 30 ใช่ไหมครับ  ถ้าจุดประสงค์เราคือต้องการมีบุตร ขอคำตอบฟันธงเลยนะครับ จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 12:16:08

ความคิดเห็นที่ 68 จะมีวิธีการอะไรบ้างที่จะยืดภาวะการเจริญพันธุ์ของผู้หญิง http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X10603008/X10603008.html http://women.sanook.com/mom-baby/pregnancy/pregnancy_55548.php ................................ ได้อ่านกระทู้แนะนำหว้ากอ ทำให้รู้สึกอย่างหนึ่งว่า  ผู้หญิงเสียเปรียบมาก เพราะผู้ชาย เกิดน้อยกว่า  ตายมากกว่า  แต่งงานช้ากว่า แถมภาวะเจริญพันยาวนานกว่า (กว่าแบบสุดๆ)  จนถึงขนาดมีคนบอกว่า ในบทความข้างบนบอกว่า ผู้ชายมีลูกได้ตั้งแต่อายุ12 ขวบไปจนถึงสิ้นอายุไข ถ้าไม่ "ขลิบตุ้ม" ทิ้งซะก่อน  แถมลูกที่เกิดมาก็แข็งแรงสมบูรณ์ ทุกประการ ชายอายุน้อย กับชายอายุมาก แตกต่างกันอย่างเดียวคือ ปริมาณน้ำเชื้อ  แต่ "ตัวเชื้อ" ไม่ต่างกัน ขนาดบางคนตายไปแล้วยังสามารถเจาะเอาเสปิร์ม มาแล้วผสมเทียม ก็ยังมีลูกได้อีก แต่ผู้หญิง ก็ตั้งแต่ 9 ขวบ จนถึง 30 จะไม่มีปัญหา พอเลย 30 ก็เริ่มมีปัญหา พอ40ปลายๆ ก็หมดโอกาสเลย เห็นข้อมูลนี้ผู้หญิงอาจคิดว่า ผู้ชายคงชอบสิ   ป่าวเลย  เพราะกลับกลายเป็นว่า ผู้ชายต้องไปแย่งผู้หญิงอายุน้อยๆกัน  มันไม่ใช่เรื่องสนุกนักหรอก แทนที่จะหาคนอายุไล่เลี่ยกัน จะได้ไม่มีปัญหาช่องว่างระหว่างวัย  กลับต้องไปหาคนอายุน้อยๆ เพื่อให้ได้ลูกที่แข็งแรง แย่นะเนี๊ยะ ดังนั้น อยากรู้ว่า จะมีวิธีการใด ที่จะสามารถยืดภาวะการเจริญพันธุ์ของผู้หญิงให้ยาวนาน เอาสัก 50 ปลายๆพอ จากคุณ : ruddy01 เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 13:12:17

ความคิดเห็นที่ 69 อ่านกระทู้นี้แล้วเหมือนกลับไปเรียนพวก Anthropology เลย ที่เรียนก็จำได้ว่ามีหลายทฤษฏีอยู่เหมือนกัน จากคุณ : ZT1260 เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 17:55:53

ความคิดเห็นที่ 70 หัวปี ท้ายปี ผมอธิบายจากตัวผมเองเลยดีกว่า พี่ผมเกิดต้นปี x ผมเกิดปลายปี x + 1 จากคุณ : birdInwsad (ลูกป้าอ้วน) เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 20:39:51

ความคิดเห็นที่ 71 เรากับน้องชายห่างกัน 13 เดือน กับ 10 วันค่ะ ตอนเด็กๆพอรู้ว่าคนเราท้อง 9 เดือน และ 1 ปี มี 12 เดือน เราก็ถามแม่ว่าแม่คลอดเรามา 4 เดือน ก็ท้องอีกแล้วเหรอ ตอนนั้นแม่เขินใหญ่เลย เอ๊ะ หรือเพราะเรากินนมแม่แค่ 6 เดือน เลยตัวเตี้ย เพราะพอแม่รู้ตัวว่าท้องน้องชาย (เดือนที่ 2) เราก็ต้องหย่านม จากคุณ : *~KingFisho~* เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 54 03:54:55