ความคิดเห็นที่ 1 ทั้งนี้ สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อเปลือกโลก น้ำหนัก หรือแรงดึง หรือจะส่งผลกระทบต่อกระแสของแมกม่า มันก็อาจส่งผลทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ ทั้งในทางที่มากขึ้นและน้อยลง จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 08:28:18

ความคิดเห็นที่ 2 แผ่นดินไหวจากดวงอาทิตย์: 2012 แผ่นดินไหวจากนิวตริโน ในหนังเรื่อง 2012 มีการอ้างเรื่องนิวตริโนทำให้อัตราการเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ในแกนโลกเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนิวตริโนเป็นอนุภาคที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ในดวงอาทิตย์ นิวตริโนนั้นเป็นอนุภาคที่ไม่ทำปฏิกิริยาใดๆ ซึ่งการมีอยู่ของนิวตริโนนั้น ในตอนแรก นักวิทยาศาสตร์พบว่าการสลายตัวของนิวตรอนให้โปรตอนและอิเลคตรอนออกมา แต่มีพลังงานสูญหายไปส่วนหนึ่ง เลยสมมุติใส่นิวตริโนเข้าไปให้สมการมันสมดุลออกมาได้ [2] นิวตริโนถูกตรวจพบโดยการใช้โปรตอนเป็นตัวรับ ซึ่งมันจะให้โปสิตรอนกับนิวตรอนออกมา ซึ่งกว่าจะยืนยันเป็นผลแน่นอนก็อีกหลายสิบปีให้หลัง ผลกระทบของนิวตริโนนั้น แม้โดยทั่วไป มันจะผ่านโลกไปโดยไม่ทำปฏิกิริยาใดๆ แต่ก็มีกรณีการศึกษาของ Prof. Ephraim Fischbach ที่พบว่าคาบการสลายตัวของตัวอย่าง Cesium ในห้องทดลองมีการสลายตัวที่มีการเบี่ยงเบนจากคาบการสลายตัวตามปรกติเล็กน้อย นำไปสู่การต่อยอดและตั้งข้อสังเกตว่าการสลายตัวของกัมมันตรังสีจะน้อยลงเมื่อได้รับอนุภาคนิวตริโนจากดวงอาทิตย์มากขึ้น การสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสีจะลดลงในช่วงการเกิด Solar Flare [3] ข้อสังเกตนี้ยังอาจเรียกว่าห่างไกลจากข้อเท็จจริงว่ามันเป็นผลจากนิวตริโน มันอาจเป็นผลจากอนุภาคอื่นๆที่ไม่รู้จากดวงอาทิตย์ก็ได้ แต่ประเด็นก็คือมันเป็นไปในทิศทางตรงข้ามกับหนังเรื่อง 2012 นิวตริโน ถ้ามันจะมีผลกับปฏิกิริยานิวเคลียร์ มันก็น่าจะมีผลในแง่การลดอุณหภูมิของแกนโลกเสียมากกว่า แถมมีเรื่องน่าสนใจอีกอย่างนะครับ Solar Neutrino จะมีค่า Peak ในเดือน กรกฎาคม 2556 (May 2013) ไม่ใช่ในปี 2012 อย่างในหนังแต่อย่างใด [4] จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 08:28:44

ความคิดเห็นที่ 3 ภาวะโลกร้อน สร้างแผ่นดินไหว: ความเชื่อเรื่องเปลือกโลกละลาย ภาวะโลกร้อนส่งผลเป็นรูปธรรม 2 อย่าง คืออุณหภูมิเฉลี่ยโลกสูงขึ้น และอัตรา Precipitate ของฝนเพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนของพื้นที่การเกิดพายุ น้ำท่วม หรือแล้ง เพราะสมดุลพลังงานของโลกเปลี่ยนไป ตัวอัตราฝนที่เพิ่มขึ้นนี้ ไม่มีผลต่อเปลือกโลก ส่วนการเกิดพายุ ก็ไม่อาจสร้างความเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรมต่อเปลือกโลกได้ เพราะแรงเสียดทานที่อากาศสามารถกระทำต่อพื้นผิวโลก อย่างเก่งก็คือพาหน้าดินหายไปสักเล็กน้อยเทียบกับการเคลื่อนของกระแสลาวา ประเด็นที่เหลือคือความหนาของเปลือกโลกที่อาจเปลี่ยนจากสมดุลพลังงาน ซึ่งผมได้อาศัยโมเดล Heat transfer ในการจำลองความหนาของเปลือกโลกที่จะลดลงถ้าอุณหภูมิพื้นผิวสูงขึ้น ในหลักการก็คือ Heat flux (q) จากในโลกด้วยปฏิกิริยานิวเคลียร์ในแกนโลกมีอยู่ที่ 0.087 W/m2 และอัตราการถ่ายเทความร้อนจากเปลือกโลกจะเป็นไปตามสมการ conduction heat transfer ดังนี้ q = (k/x).dT ค่า k คือการนำความร้อนของดินและชั้นหินมีค่าประมาณ 1.83 W/m.K ความหนาของเปลือกโลก x มีค่าประมาณ  27 กิโลเมตร ส่วน DT คือส่วนต่างอุณหภูมิของแมกม่า (1300 oC) กับอุณหภูมิผิวโลกซึ่งอยู่ที่ประมาณ 17 oC ถ้าเราจะให้เปลือกโลกบางลงสัก 20 เมตร เราต้องให้อุณหภูมิผิวโลกสูงขึ้น 1 องศา และถ้าความหนาจะหายไปสัก 1 กิโลเมตร อุณหภูมิผิวโลกก็ควรอยู่ที่ 65 องศาโดยประมาณ เรียกว่าผลกระทบของอุณหภูมิพื้นผิวต่อสมดุลความหนาเปลือกโลกนี้มีน้อยมาก โดยมนุษย์น่าจะเดี้ยงไปหมดก่อนที่ความหนาของเปลือกโลกจะได้รับผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรม ค่าเริ่มต้นคำนวณ ผมอ้างตามกระทู้เก่าของผมที่ http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2010/04/X9132979/X9132979.html จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 08:29:27

ความคิดเห็นที่ 4 ภาวะโลกร้อน สร้างแผ่นดินไหว: น้ำหนักของน้ำแข็งที่หายไปก่อแผ่นดินไหว แม้ในส่วนสมดุลพลังงาน ภาวะโลกร้อนไม่อาจส่งผลต่อความหนาของเปลือกโลก แต่การละลายของน้ำแข็งขั้วโลกอาจได้รับผล ถ้าหากน้ำแข็งละลายหมด แรงกดของน้ำแข็งบนแผ่นเปลือกโลกจะลดลง และมันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกได้ ซึ่งในอดีตเมื่อประมาณ 10,000 ปีที่แล้วบริเวณ สแกนดิเนเวีย เคยได้รับผลกระทบจากการละลายของน้ำแข็งขั้วโลก [5] และก็ยังมีการจัดทำโมเดลการศึกษาผลกระทบของโหลดน้ำแข็งบนพื้นดินเหนือ Greenland ซึ่งมีการคำนวณออกมาว่า โหลดน้ำหนักนี้มีมากถึง 281 ตันต่อตารางฟุต และส่งผลถึงปริมาณการเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณใกล้เคียงกับ Greenland [6] สำหรับผลกระทบดังกล่าวจะทำให้ปริมาณแผ่นดินไหวทั่วโลกเพิ่มขึ้นหรือไม่ อันนี้กลับไม่แน่ เพราะแผ่นดินไหวมันเป็นการปล่อยพลังงานศักย์ที่สะสมออกมา ถ้ามันมีจุดที่มีการคายพลังงานออก มันก็ไม่จำเป็นต้องไปออกที่อื่น กรณีแผ่นดินไหวจากการสูญเสียน้ำหนักเหนือพื้นที่ขั้วโลกเอง ก็อาจมีลักษณะเหมือนผลกระทบของสภาวะภูมิอากาศโลก คือมีการเปลี่ยนของพื้นที่การเกิด แต่ปริมาณการเกิดโดยคาบเฉลี่ยก็อาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงโดยนัยสำคัญ จุดสำคัญคือ ถึงมีการเคลื่อนไหว แต่ถ้าไม่มีการขัดกันของโครงสร้างแผ่นดิน ไม่มีการสะดุดของการเลื่อนไหล มันก็ไม่มีการพังทลาย ไม่เกิดแผ่นดินไหวอยู่ดี จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 08:30:14

ความคิดเห็นที่ 5 ดาวเรียงตัวก่อแผ่นดินไหว สมมุติฐานดาวเรียงตัวก่อแผ่นดินไหวนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ ความเชื่อเรื่อง Planetary Alignments มีมาก่อนที่ตาก้องภพ อยู่เย็นจะเอามาพล่าม และตาสมิทธิ์เอามาแจม เพื่อให้เป็นหลักฐานไว้ว่าพวกนี้เขาเชื่อและเอามาโพทะนา อาจไปดูในลิงค์ ยูทิวบ์นี้ http://www.youtube.com/watch?v=U3WziA7Dp8I http://www.youtube.com/watch?v=f4jW4zm3y5A ในส่วนการเรียงตัว มีประเด็นสำคัญที่พวกนี้มักกล่าวถึงคือการที่แรงโน้มถ่วงของดาวต่างๆจะก่อให้เกิดแรงดึงจนเปลือกโลกแตก ฯลฯ ซึ่ง ดาวพวกนี้มันก็มีแรงดึงจริงๆน่ะแหละ มีผลกระทบที่ก่อให้เกิดแผ่นดินไหวได้จริงน่ะแหละ เพียงแต่ เพราะว่าดาวต่างๆนั้นอยู่ห่างจากโลกมากมายนัก ผลกระทบที่มาถึงโลกของดาวดวงต่างๆ นับตามระยะห่างวงโคจร รวมๆกันหมดระบบสุริยะก็ได้ 1.7% ของดวงจันทร์เท่านั้น [7] แถมที่เด็ดคือ นี่เป็นระยะห่างวงโคจร หรือระยะห่างที่น้อยที่สุดระหว่างดวงดาว ปรกติแล้วดวงดาวต่างๆมันจะอยู่ห่างจากโลกมากกว่าระยะวงโคจรมากนัก ซึ่ง แนะนำให้ลองเทียบดูตำแหน่งดวงดาวต่างๆกับโลกได้ที่นี่ โดยสรุปคือถ้าจะไปดูการเรียงตัวของดาวดวงอื่นๆ มาสนใจกับคาบโคจรของดวงจันทร์ต่อแผ่นดินไหวยังจะเป็นเนื้อเป็นหนังกว่ามาก สำหรับตำแหน่งของการโคจรของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเรา อาจดูได้จากลิงค์นี้ http://www.fourmilab.ch/cgi-bin/Solar/action?sys=-Sf จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 08:32:24

ความคิดเห็นที่ 6 ปัญหาเรื่องการทำนายแผ่นดินไหวของ ดร ก้องภพ ปัญหาของการทำนายและเทียบเรื่องแผ่นดินไหวที่เคยมีมายาวนานในห้องหว้ากอนั้น มันเกิดจากการตั้งสมมุติฐานการค้นหาที่ผิดพลาด คือจับเอาเวลาที่ดาวเรียงตัวกันแล้วหาแผ่นดินไหว สมมุติถ้าเราจะลองดู List เทียบแผ่นดินไหวกับคำทำนายของตาก้องภพ ถ้าเราพูดคร่าวๆว่า มันมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกับที่ ดร ก้องภพทำนายคือวันที่ 7 กรกฎาคม 3 กันยายน 29 กันยายน และ 13 ตุลาคม ในระดับที่มีนัยสำคัญ อันนี้มันก็ฟังดูแม่นมากทีเดียวใช่ไหมครับ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 08:32:48

ความคิดเห็นที่ 7 แต่ในข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่ ถ้ามองระยะยาว ดูความถี่ที่เกิดขึ้น มันก็กลายเป็นว่า ถ้าไม่ระบุสถานที่ แต่บอกว่าจะมีแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ ผมจะทำนายได้ว่ามันจะเกิดเดือนไหนเกือบ 100% เช่นกัน ซึ่งเมื่อเทียบกับการทำนายของ ดร. ก้องภพ ของปีที่แล้ว ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่า ที่บอกว่าวันเวลาใกล้กัน เมื่อคำนึงถึงความถี่ที่มันเกิด มันแทบจะเรียกว่ามั่วแทงหวยกันเลยทีเดียว[8] จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 08:33:11

ความคิดเห็นที่ 8 แผ่นดินไหวจากดวงอาทิตย์: Solar Flare สร้างแผ่นดินไหว Solar Flare และแผ่นดินไหว ที่มักมีประเด็นกันจะเกิดจากคิดเข้าข้างตัวเอง เลือกแผ่นดินไหว ให้ Match กับ Solar Activity มันก็จะคล้ายๆกับกรณีของความเข้าใจผิดของ ดร ก้องภพ ที่เลือกเอาข้อมูลช่วงแคบ และให้มีค่า Lead และ Lag time ปริมาณมาก ซึ่งโชคดีของผมที่มีคนเอามาพล็อตให้ดูแล้วใน Astroblogger http://astroblogger.blogspot.com/2011/03/solar-activity-vs-earthquakes.html ซึ่งดูจากกราฟแล้ว มันก็คือเกิดขึ้นโดยสุ่ม หรือ ไร้ความสัมพันธ์ใดๆทั้งสิ้น แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 54 15:23:47 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 08:34:14

ความคิดเห็นที่ 9 ขออภัย ลืมรูป จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 08:34:33

ความคิดเห็นที่ 10 ส่งท้าย ในสารพัดเรื่องที่ Review มานี้ หวังว่ามันจะเป็นแนวทางในการเลือกคิด และเลือกเชื่อกับความเชื่อต่างๆที่มีอยู่ในสารบบสังคมวิดกระทาสาร์ทเรา พวกเรามักจะจับประเด็นและโยงความสัมพันธ์กันง่ายเกินไป กรณีการจะกล่าวว่าเหตุการณ์ A ทำให้เกิดเหตุการณ์ B มันต้องใช้มากกว่าการทำกราฟ มันต้องลงไปถึงโมเดลความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ด้วย อย่างกรณีภาวะโลกร้อนต่อแผ่นดินไหว ส่วนใหญ่ก็จะคิดง่ายๆเอาตามความรู้สึก หรืออาจเอาสถิติช่วงสั้นมาเทียบบ้าง ซึ่งมันก็จะทำให้เขวได้ง่าย อย่างน้อย ผลกระทบภาวะโลกร้อนต่อแผ่นดินไหวมันก็มีงานวิจัยที่สนับสนุนอยู่ และถ้าเราเริ่มต้นจากการศึกษาไปในงานวิจัย มันย่อมจะได้ข้อสรุปที่เป็นหลักเป็นฐาน กว่าการดูนักวิดกระยาสาร์ทกำมะลอนั่งทางใน แล้วมาเพ้อเจ้อผ่านฟรีทีวีบ้านเราครับ การให้ความเชื่อนำวิทยาศาสตร์ เหมือนกับการสุ่มนั่งส้วมหลุมกลางความมืดมิด ที่แม้มันจะมีโอกาสที่จะอุจาระลงร่องพอดี แต่โอกาสจะเลอะพื้นหรือเดินตกฐานลงในกองอาจมนั้นก็มากเสียยิ่งกว่ามากครับ อ้างอิง [1] http://en.wikipedia.org/wiki/Earthquake [2] http://en.wikipedia.org/wiki/Neutrino [3] http://news.stanford.edu/news/2010/august/sun-082310.html [4] http://www.scientificamerican.com/blog/post.cfm?id=in-2012-neutrinos-melt-the-earths-c-2009-11-13 [5] http://news.nationalgeographic.com/news/2008/03/080314-warming-quakes.html [6] http://www.climatedebatedaily.org/2009/10/seismic-activity-linked-to-global-warming.html [7] http://www.2012hoax.org/planetary-alignment [8] http://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eqinthenews/2010/ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 08:36:17

ความคิดเห็นที่ 11 ในที่นี้ ก็ขออนุญาตประชาสัมพันธ์บทความในบล็อคไว้สักนิด ซึ่งผมเขียนไว้แต่มันเป็นเรื่องทางศาสนามากกว่าทางวิทยาศาสตร์ แต่จะไปโพสห้องศาสนาก็กระไรอยู่ เพราะคนที่ตามข่าววันที่ 21 พค 2011 ส่วนใหญ่ก็เกาะอยู่กับห้องนี้ ก็เลยเขียนไว้แค่ในบล็อคไม่ได้เอามาลงกระทู้ครับ กรณี ชำแหละที่มา: ตื่นตูมวันโลกแตก 21/5/2011 http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=whatsoevermization&month=05-2011&date=26&group=4&gblog=6 นอกจากนี้ก็มีบทความของคุณโอ้ละหนอมาแอบแจม เกี่ยวกับสัมผัสเหนือมนุษย์ของสัตว์ที่รับรู้แผ่นดินไหวได้ ตรงคห 33 เป็นต้นไปด้วยละครับ (กระทู้นี้ทั้งแจกทั้งแถมจริงๆเลยครัฟเนี่ย) http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X10649007/X10649007.html#30 แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 13:54:39 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 08:42:46

ความคิดเห็นที่ 12 เอาไปหนึ่งโหวตครับ จากคุณ : Peet Reloaded เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 08:52:29

ความคิดเห็นที่ 13 โหวต ค่ะ จากคุณ : pan2551 เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 09:07:37

ความคิดเห็นที่ 14 กระทู้โหวตต จากคุณ : tan237 เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 09:11:09

ความคิดเห็นที่ 15 อ่านในเฟชไม่จบเลยตามมาอ่าน ^ ^ จากคุณ : say a words เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 09:45:25

ความคิดเห็นที่ 16 "กรณีการจะกล่าวว่าเหตุการณ์ A ทำให้เกิดเหตุการณ์ B มันต้องใช้มากกว่าการทำกราฟ" เห็นด้วยครับ การทำกราฟ (หรือการใช้สถิติหาCorrelation) ผมมักนึกถึงเรื่องที่อาจารย์ยกตัวอย่างดังนี้ "สมมติให้ผมมีหมากับลูก แล้วผมชั่งน้ำหนักหมา กับน้ำหนักลูกทุกเดือน ผ่านไป 12 เดือนผมก็จะหาCorrelationระหว่างน้ำหนักหมากับน้ำหนักลูกผมได้ อย่างนี้จะสรุปได้ไหมว่าหมาทำให้ลูกผมโต ?" มันช่วยเตือนสติว่า Causality เป็นเรื่องที่สำคัญ http://en.wikipedia.org/wiki/Causality จากคุณ : KL เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 10:05:48

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาชื่นชม จากคุณ : tomorrow night เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 10:47:49

ความคิดเห็นที่ 18 การเลือกแผ่นดินไหว ให้ Match กับ Solar Activity เหมือนการเอาแกะกับแพะมาfeaturingกันป่ะครับ จากคุณ : wrought เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 10:51:16

ความคิดเห็นที่ 19 คห 18 ไม่เชิงอย่างนั้นครับ ไม่ใช่ว่าพอเหตการณ์เกิดบนดวงอาทิตย์ แล้วแผ่นดินไหวต้องเกิดมากบนโลก แต่เป็นเรื่อง ความร้อนสะสมเสียมากกว่า เพราะ การขยับ ของแผ่นเปลือกโลกนั้นนั้นมีอีกหลายๆตัวแปร ที่มีผลร่วมด้วย คำถามที่เราต้องถามคือ อะไรทำให้เกิด ความร้อน ในแกนโลก และ ชั้นลาวา มากขึ้นหรือลดลง ทำให้ เกิดแรงดันภายในมากขึ้นทำให้เกิดการระบายออกของลาวา เช่น ภูเขาไฟระเบิด ส่งผลต่อการขยับตัวของเปลือกโลกได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะโดนกระทำจากแรงอะไร สิ่งที่เรา อยู่กับโลกที่มี ชีวิต คือโลกที่ มีการเคลื่อนไหวของลาวา โลกที่ยังมีความร้อนในแกนกลาง เปลือกโลกที่ขยับ จากการเคลื่อนตัวของลาวา ภูเขาไฟที่ปะทุ เพราะแรงดันของลาวาจากภายใน แผ่นดินไหว มีตัวแปรมากมาย ยังไม่สามารถบอกได้ว่า อะไรคือปัจจัยที่มีผลโดยตรง แบบ direct effect ครับ หากจะบอกว่า อะไรคือ direct effect ก็คือพวก การทดลอง นิวเคลียร์ โดยเฉพาะใต้ดิน และ แรงสะเทือนจากการพุ่งชน ของอุกกาบาต  ดาวเคราะห์ น้อย หรือดาวหาง ครับ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 11:17:08

ความคิดเห็นที่ 20 คห 18 เรื่องการจับแพะชนแกะมันก็มีพลาดกันมาตลอดเป็นปรกติ ผมก็เคย โดยเฉพาะตอนศึกษาเรื่องโลกร้อนแล้วเจอคุณกาลามะชนเอาข้อมูลมาตอกใส่ ผมก็ต้องมาศึกษาใหม่ อันที่จริงมันก็แค่ถ้ารู้ว่าแพะกำลังชนกับแกะ ก็ลองถอยมาแล้วลองแก้ปัญหากันใหม่ การจะต้องกลับมาทบทวนองค์ความรู้เพราะสิ่งที่เชื่อกลายเป็นแพะกับแกะชนกันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรครับ (แต่วัฒนธรรมไทย ดูเหมือนการแก้ไขจะไม่ได้รับความนิยมเท่าการแก้ตัวเนี่ยสิปัญหา) ภาพ Solar Flare ที่โพสตรงนั้นก็มีข้อจำกัดอันตรายอยู่คือเรื่องระยะทางที่แท้จริงระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ ตรงนี้จะทำให้เห็นว่าการเกิด Solar Flare อาจมีอันตรายถึงโลกได้มากเกินความจริงมาก ผลกระทบของ Solar Flare ต่อโลก ณ ปัจจุบันคือเรื่องคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า แต่ไม่ใช่ตัว Solar Flare โดยตรง ขนาดและระยะโดยเปรียบเทียบนั้น ให้ดวงอาทิตย์เป็นลูกฟุตบอล ดาวโลกจะมีขนาดเท่าหัวเข็มหมุด 2มิลกว่าๆ และระยะห่างของมันคือการเตะไซด์โค้งจากมุมสนามเข้าโกล์ มันอยู่ห่างกันมากๆครับ แต่ถ้าดูหนังเรื่อง Knowing มา มันกลายเป็นว่าโลกห่างจากดวงอาทิตย์แค่ติ๊ดเดียว พอคนเห็นมันก็กลัว ทั้งๆที่ภาพเหล่านี้ ที่ทำมาครั้งแรกๆก็เพื่อให้คนสามารถจินตนาการเห็นระบบสุริยะของเราทั้งหมดได้ คห 19 ปัจจัยการเกิดแผ่นดินไหวมันมีได้มากจริงนั่นละ เราก็ต้องศึกษาหาความสัมพันธ์ของมันไปด้วย จริงๆแม้แต่ที่ดร ก้องภพว่า การเคลื่อนไหวของดาวส่งผลถึงแผ่นดินไหว มันก็คงมีผลต่อการเคลื่อนละครับ แต่ในระดับไหน ในระดับที่จะสังเกตเห็นหรือไม่ และยังขึ้นอยู่กับมุมของ Fault ที่จะพอดี โดยไม่มีปัจจัยอื่นที่จะส่ง หรือทำให้ไม่ส่งผล ณ ปัจจุบันมันก็อย่างที่เห็น มันไม่มีนัยสำคัญ โดยส่วนตัว เห็นคุณสนใจเรื่องแผ่นดินไหว ผมแนะนำให้ลองแกะไปในส่วนการเปลี่ยนแปลงตามคาบการละลายและเกิดใหม่ของน้ำแข็งขั้วโลกจะดีกว่า เฉพาะเรื่องนี้ ในหว้ากอยังไม่มีใครแกะเป็นเรื่องเป็นราวเท่าไร แต่มันก็มีการศึกษาเรื่องนี้อยู่มาก และมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บ่งชี้ความเกี่ยวข้องไว้ในอดีตครับ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 12:13:23

ความคิดเห็นที่ 21 ตามมาอ่านนะคะ จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:03:34

ความคิดเห็นที่ 22 ขอแชร์ข้อมูลสักนิดนะคะ เกี่ยวกับประสาทสัมผัสที่ 6 ของสัตว์ สัตว์ทำนายแผ่นดินไหวได้ด้วยประสาทสัมผัสที่ 6 จริงหรือไม่? หลายครั้งที่เราเห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสัตว์ก่อนเกิดแผ่นดินไหว ทำให้เชื่อกันว่าสัตว์มีประสาทสัมผัสที่ 6 ทำให้สามารถทำนายการเกิดแผ่นดินไหวได้ แต่แท้จริงแล้ว สัมผัสที่ 6 อาจเป็นความสามารถในการรับรู้สิ่งแวดล้อมที่เหนือกว่ามนุษย์ ภาพประกอบเป็นพฤติกรรมที่สังเกตได้ก่อนเกิดแผ่นดินไหวค่ะ จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:10:37

ความคิดเห็นที่ 23 ส่วนนี่เป็นพฤติกรรมของนก และสัตว์เลื้อยคลานก่อนเกิดแผ่นไหว แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 13:12:27 จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:11:39

ความคิดเห็นที่ 24 จากการที่สัตว์เปลี่ยนพฤติกรรม จึงคิดว่าสัตว์น่าจะมีประสาทสัมผัสที่ไหวกว่าคน แต่เรายังไม่ทราบกลไกที่แน่นอนว่าสัตว์รับรู้แผ่นดินไหวด้วยอะไร อย่างไร แต่เชื่อกันว่าสัตว์รู้สึกได้ถึงปัจจัยที่มาจากแผ่นดินไหว เช่น 1. คลื่นแผ่นดินไหว (Seismic Waves) ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับคลื่นแผ่นดินไหวสักนิด คลื่นแผ่นดินไหวเป็นพลังงานรูปแบบหนึ่งที่เกิดจากการแตกหรือการเคลื่อนที่อย่างฉับพลันของหินบริเวณรอยเลื่อน หรือจากการระเบิด (Explosions) คลื่นเหล่านี้เดินทางไปยังส่วนต่าง ๆ ของโลกโดยเราสามารถบันทึกไว้ได้ด้วยเครื่องตรวจแผ่นดินไหว (Seismograph) คลื่นแผ่นดินไหวมีหลายชนิด มีรูปแบบการเคลื่อนที่แตกต่างกัน คลื่นแผ่นดินไหวที่สำคัญ คือ คลื่นหลัก (Body Waves) และคลื่นพื้นผิว (Surface Waves)   คลื่นหลัก (Body Waves) แบ่งออกเป็นสองชนิด 1. คลื่นปฐมภูมิ หรือ คลื่นพี (Primary or P-Waves) 2. คลื่นทุติยภูมิ  หรือคลื่นเอส (Secondary or   S-Waves) คลื่นพี เป็นคลื่นที่มีความเร็วที่สุดในบรรดาคลื่นแผ่นดินไหว สามารถเดินทางผ่านตัวกลางได้ทุกสถานะ เมื่อคลื่นพีเดินทางผ่านสิ่งใด ทำให้อนุภาคของตัวกลางนั้นถูกบีบ (Compressions) แล้วคลายออก (Dilatations) คล้ายคลื่นเสียงที่เดินทางผ่านอากาศ บางครั้งคลื่นพีทำให้อากาศสั่นสะเทือนจนเกิดเสียง ทำให้เราได้ยินเสียงแผ่นดินไหวคล้ายเสียงฟ้าร้อง แต่ส่วนใหญ่เรามักรู้สึกสั่นสะเทือนมากกว่าได้ยินเสียงแผ่นดินไหว คลื่นเอส เป็นคลื่นที่มีความเร็วรองจากคลื่นพี เป็นคลื่นที่เราอาจรู้สึกสั่นสะเทือนได้เป็นอันดับสอง คลื่นเอสสามารถเดินทางผ่านตัวกลางที่เป็นของแข็งเท่านั้น เมื่อคลื่นเอสเดินทางผ่านสิ่งใด ทำให้อนุภาคของสิ่งนั้นคดโค้งไปด้านข้าง (เรียกว่า คลื่นเอสแนวระนาบ หรือ Horizontal S-Waves หรือ HS)  หรือโค้งขึ้นลง (เรียกว่า คลื่นเอสแนวดิ่ง หรือ Vertical S-Waves หรือ VS  คลื่นเอสจัดเป็นคลื่นเฉือน หรือ Shear Waves คลื่น P จะแพร่ไปด้วยความเร็ว 8 กิโลเมตร/วินาที ส่วนคลื่น S ซึ่งทำให้เกิดการสั่น จะแพร่ไปด้วยความเร็ว 4 กิโลเมตร/วินาที ด้วยเวลาการเคลื่อนที่เร็วกว่าเชื่อกันว่าสัตว์อาจรับรู้คลื่น Primary ที่มาถึงก่อนคลื่น S จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:19:30

ความคิดเห็นที่ 25 2.แก๊ส กลิ่น ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก สัตว์อาจได้กลิ่นของแก๊ส radon, methane, nitrogen and sulfur oxides, และ hydrogen sulfides กลิ่นของโอโซน หรือกลิ่นจากการเปลี่ยนแปลง air discharge จากการศึกษาพบว่าสัตว์บางชนิดเมื่อสูดดมแก๊สพวกนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงของสารสื่อประสาทซีโรโทนิน (Serotonin)อย่างฉับพลัน เกิดภาวะ Serotonin syndrome มีอาการ เช่น ปวดหัว หัวใจเต้นเร็ว ตัวสั่น ม่านตาขยาย ความดันเลือดสูง อุณหภูมิกายสูง มีลักษณะทางประสาทที่ไวหรือ ตื่นตัวมากๆ  (hypervigilance) รู้สึกปั่นป่วน (agitation) ฯลฯ ภาพประกอบเป็นอาการของคนที่เกิด Serotonin syndrom อย่างรุนแรงค่ะ จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:23:34

ความคิดเห็นที่ 26 3. แสง แผ่นดินไหวที่เกิดในตอนกลางคืน อาจมีการเปลี่ยนแปลงของแสงจากการเปลี่ยนแปลวงประจุไฟฟ้าในบรรยากาศขณะเกิดแผ่นดินไหว 4. การเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็ก (Magnetic field) และ/หรือ รังสีแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic pulses) รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าจะสูงสุด 1 สัปดาห์ก่อนเกิดแผ่นดินไหว และสูงขึ้นอีกครั้งก่อนเกิดแผ่นดินไหว 1 ชั่วโมง สัตว์อาจรับรู้และเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ภาพนี้ได้จากการทดลอง เมื่อคลื่นไฟฟ้า (Electrical field) เกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้รูปแบบฝูงปลา Minnow เปลี่ยนแปลง โดยปรกติฝูงปลา จะเปลี่ยนพฤติกรรม หรือเปลี่ยนรูปแบบฝูงเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงกระแสไฟฟ้าในน้ำที่ 10 V/m คนจะรับรู้ว่ามีกระแสไฟฟ้าในน้ำที่ 10–15 V/m และกล้ามเนื้อกระตุกเมื่อกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นที่ 20 V/m. ------------------------------------------------------ ที่มา http://accessscience.com/content/Earthquake-sensory-perception-in-vertebrates/YB060650#YB060650FG0010 Joseph L. Kirschvin. Earthquake Prediction by Animals: Evolution and Sensory Perception. Bulletin of the Seismological Society of America, 90, 2, pp. 312–323, April 2000 ( http://www.gps.caltech.edu/~jkirschvink/pdfs/earthquakeprediction.pdf  ) http://www.rmutphysics.com/charud/naturemystery/sci3/earthquake/sei2.html http://en.wikipedia.org/wiki/Seismic_wave http://decode-medicine.blogspot.com/2011/02/serotonin-syndrome.html แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 13:30:18 แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 13:29:53 จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:28:24

ความคิดเห็นที่ 27 ผม ทำนายมั่ง มั่นใจว่าถูก 80% วันจันทร์ จะมีแผ่นดินไหว ระดับ 4. 5  ริกเตอร์  แถวๆ เอเซีย วันอังคาร จะมีแผ่นดินไหว ระดับ 5.2  ริกเตอร์  แถวๆ เอเซีย วันพุทธ จะมีแผ่นดินไหว ระดับ 5.4  ริกเตอร์  แถวๆ เอเซีย วันพฤหัสบดี จะมีแผ่นดินไหว ระดับ 5.0  ริกเตอร์  แถวๆ เอเซีย รอวันศุกร์ จะ มาเทียบคำทำนายให้ดู จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:30:58

ความคิดเห็นที่ 28 ปล. ของวันนี้ผมถูกไปแล้ว จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:32:58

ความคิดเห็นที่ 29 นึกว่าแมวโอ้ละหนอจะทำเป็นอีกกระมู้อีกกระมู้นึงนะครับนั่น เพราะใน FB ก็มีคน Request ขอขยายความเยอะนะ อย่างเรื่องการเห็นคลื่นแสงที่เกิดจากแผ่นดินไหวในสัตว์น่ะ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:38:31

ความคิดเห็นที่ 30 ^ ^ ^ #27-28 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:41:16

ความคิดเห็นที่ 31 มันมีไม่กี่คคห.เองอ่ะค่ะ แล้วข้อมูลหายากด้วยล่ะ สรุปที่พอเชื่อได้มีแค่นั้นน่ะค่ะ (หรืออาจมีข้อมูลเยอะกว่านี้ แต่เราไม่ได้อยู่ในแวดวงการศึกษษแผ่นดินไหว เลยไม่ทราบค่ะ) จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:41:46

ความคิดเห็นที่ 32 กระทุ้มีสาระดีครับ ^^ จากคุณ : Houdini เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 15:48:10

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณครับ ได้ความรู้เพิ่มให้สมองกลวงๆดี จากคุณ : สานเขียว เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 16:27:31

ความคิดเห็นที่ 34 พวกทำงานนาซ่าเพี้ยนกันเกือบหมด จากคุณ : ฮ่า ๆ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 16:31:48 A:119.42.119.51 X: TicketID:210955

ความคิดเห็นที่ 35 มาช่วยแจมเรื่อง โลกไม่ได้แผ่นดินไหวบ่อยขึ้นแต่อย่างไร ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ดูจากสถิติจะเห็นได้ชัดว่ามันก็พอๆ กันมาโดยตลอด มีหลายปีที่แล้วๆ มาที่มีแผ่นดินไหวมากกว่าเดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะดูที่แม็กนีจูดสูงๆ ก็ตาม (จะเห็นจุดต่างแค่ตรงจำนวนคนตาย ที่บ้างปีอาจจะมากเป็นพิเศษถ้าเกิดซึนามิเข้าด้วย) (จาก http://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eqarchives/year/eqstats.php) ส่วนเรื่อง ดร.ก้องภพ .... มีคนยุให้ผมเขียนจดหมายไปฟ้องนาซ่าซะเลยว่าทำไมปล่อยเจ้าหน้าที่ตัวเองมาพูดเรื่องที่ขัดกับแถลงการณ์ขององค์กรเช่นนี้ (พายุสุริยะไม่เกี่ยวกับแผ่นดินไหว) ... ผมเลยตอบว่า แค่ผมแตะ ดร. อ.อ. ที่นั่งสมาธิทำนายมั่วกว่าเยอะ ยังเจ็บตัวไปหลายวันเลยครับ ฮะฮะฮะ แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 18:27:32 จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 18:10:11

ความคิดเห็นที่ 36 ที่นี่มาประเด็นเรื่องสัตว์สามารถเตือนแผ่นดินไหวได้ โดยรวม ผมอยู่ในกลุ่มที่ "ยัง" ไม่เชื่ออย่างนั้นนะครับ เพราะส่วนใหญ่มันมักจะเป็นเรื่องเล่า ที่คลุมเครือมากกว่า ไม่สามารถทำการทดลองเพื่อศึกษาได้จริงๆ สัตว์ส่วนใหญ่ที่อ้างกันว่าแสดงอาการออกมาก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวนั้น ก็อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นแค่การหิว การขู่ การคึกตามธรรมชาติ ลองอ่านคอมเม้นต์ต่างๆ ที่นี้ครับ สรุปโดยรวม ในวิกิปีเดีย http://en.wikipedia.org/wiki/Earthquake_prediction#Animal_behavior ข้อมูลจากเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก http://news.nationalgeographic.com/news/2003/11/1111_031111_earthquakeanimals.html คำสรุปจาก USGS ว่าไม่อาจปักใจเชื่อได้ http://biology.about.com/od/animalbehavior/a/aa123104a.htm The United States Geological Survey (USGS) officially states: *Changes in animal behavior cannot be used to predict earthquakes. มีแค่กรณีเดียวที่มีผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ คือ การรายงานจากอิตาลีเกี่ยวกับนักชีววิทยาที๋ศึกษาคางคกเป็นประจำ แล้วพบว่าฝูงคางคกที่นั้นอพยพก่อนเกิดแผ่นดินไหว http://news.bbc.co.uk/earth/hi/earth_news/newsid_8593000/8593396.stm แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 18:42:29 แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 18:22:42 แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 18:22:05 จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 18:21:02

ความคิดเห็นที่ 37 คห 35 2000 - 2010 มั้น ทั้ง ปี 2011 นี่แค่ ครึ่งปีเอง... จำนวน 5 ขึ้น 6 ขึ้น 7 ขึ้น ก็พาจะมากกว่าทั้งปีของบางปีไปแล้ว... จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 18:32:24

ความคิดเห็นที่ 38 คห 37 ใจเย็นๆ กามนิตหนุ่ม ... จะดูค่าทางสถิติ ต้องรอดูด้วยช่วงเวลาที่นานๆ หน่อย เอาเป็นว่าถึงมกราหน้า เรามาดูตารางนี้กันอีกทีดีกว่า ว่าเรากำลังจะเข้าสู่ปีหายยะจริงมั้ย จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 18:44:34

ความคิดเห็นที่ 39 ตา think4233 มันมากกว่าบางปีน่ะใช่ และมันก็น้อยกว่าบางปีเช่นกัน ตรงนี้แหละครับที่ทำไมเราต้องดู Trend มากกว่าเลือกข้อมูลที่เราสนใจ และต่อให้เห็นเป็น Trend เราก็ยังต้องศึกษาปัจจัยความสัมพันธ์ไปด้วย กรณีที่ พาสตาฟาเรี่ยน ล้อเลียนเรื่องภาวะโลกร้อนกับโจรสลัด เป็นตัวอย่างของการเอาความสัมพันธ์มาสรุปว่าเป็นเหต และ ผล ของกันและกันครับ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:07:02

ความคิดเห็นที่ 40 สำหรับคนทั่วไปที่อาจไม่รู้ที่มา โมเดลภาวะโลกร้อนในยุคแรก ใช้ Correlation และการเลือกการเก็บตัวอย่างที่ผิดเอามากๆจนสรุปไปว่าโลกจะร้อนจนเดือดได้ ซึ่งในยุคปัจจุบัน กว่าที่จะมาถึงโมเดลภาวะโลกร้อนที่ทำนายได้ใกล้เคียงความเป็นจริง มันก็มีการฟาดฟันกันระหว่างพวกสรุปเร็วเกินไปกับนักวิทยาศาสตร์กันอย่างหนักหนาสาหัสทีเดียวครับ กว่าจะเป็นโมเดลอย่าง IPCC ในปัจจุบัน ที่เน้นไปทางการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ (และโดยส่วนตัวผมยังคิดว่าการตีเป้าของ IPCC ไปที่พลังงานไม่น่าจะถูกต้อง มันน่าจะเป็นสิ่งแวดล้อมทะเลมากกว่า) จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:19:52

ความคิดเห็นที่ 41 คห 38 ผมยังไม่เชื่อ เพียงแต่สิ่งที่ผมพูดคือสิ่งที่ผมเห็น หากจะมีการสรุปยอดทุกๆครึ่งปีก็ไม่แปลกอะไรครับ เป็นการวัดแนวโน้ม ของปีนั้นๆ ยังไงก็ต้องดูจนครบรอบ 1 ปี อยู่ดีครับ แต่สิ่งที่ผมพยายามมาคุยกับคนในนี้ เพื่อให้ได้คำตอบว่าข้อมูลที่เห็นนั้น เป็นข้อเท็จจริง ของเหตการณ์จริง ไม่ใช่ตัวแปรอื่นที่มีคนกล่าวอ้าง ซึ่งมันจะทำให้ผลในตารางนั้นไม่มีคามหมายอะไรในการิเคราะห์แนวโน้มได้เลย ซึ่งก็ถกกันมาหลายๆกระทู้แล้ว ก็อยากได้ความจริงว่าสิ่งที่เห็นนั้นมันไม่ใช่การโดนหลอกด้วยตัวแปร อื่นๆที่เพิ่มเติมเข้ามา เพราะหากไม่พิสูจน์ข้อนั้นก่อน เราก็อาจละเลยสัญญาณที่ธรรมชาติกำลังบอกเตือนเราอยู่ก็ได้ แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 21:41:48 แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 21:41:23 จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 21:36:10

ความคิดเห็นที่ 42 Are Earthquakes Really on the Increase? We continue to be asked by many people throughout the world if earthquakes are on the increase. Although it may seem that we are having more earthquakes, earthquakes of magnitude 7.0 or greater have remained fairly constant. A partial explanation may lie in the fact that in the last twenty years, we have definitely had an increase in the number of earthquakes we have been able to locate each year. This is because of the tremendous increase in the number of seismograph stations in the world and the many improvements in global communications. In 1931, there were about 350 stations operating in the world; today, there are more than 8,000 stations and the data now comes in rapidly from these stations by electronic mail, internet and satellite. This increase in the number of stations and the more timely receipt of data has allowed us and other seismological centers to locate earthquakes more rapidly and to locate many small earthquakes which were undetected in earlier years. The NEIC now locates about 20,000 earthquakes each year or approximately 50 per day. Also, because of the improvements in communications and the increased interest in the environment and natural disasters, the public now learns about more earthquakes. According to long-term records (since about 1900), we expect about 17 major earthquakes (7.0 - 7.9) and one great earthquake (8.0 or above) in any given year. แผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นหรือไม่ เรามิอาจจะปฏิเสธได้ว่าจำนวนซิสโมมิเตอร์ที่เพิ่มมากขึ้นทำให้มีการตรวจจับแผ่นดินไหวเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย จากคุณ : tomorrow night เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 21:51:32

ความคิดเห็นที่ 43 #42 สรุปได้ว่า เครื่องตรวจจับเพิ่มขึ้นจริง และมีผลต่อการตรวจจับจริง รวมถึงการสั่นไหวที่มีนัยยะสำคัญคือ 7.0 ริคเตอร์ขึ้นไป โดยจากข้อมูลเชิงสถิติที่เก็บมาตั้งแต่ปี 1900 7.0-7.9 ควรจะมี 17 ครั้งต่อปี ส่วน 8.0 ขึ้นไป ควรจะมีสักหนึ่งครั้ง แต่อยากได้แหล่งอ้างอิงจังเลยท่านว่าข้อความนี้เอามาจากที่ไหน ? จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 22:14:19

ความคิดเห็นที่ 44 คุณโอ้คะ ทำไมในตารางของ Human มี hysteria ด้วยคะ หมายความว่า พอแผ่นดินไหวจะดราม่าเป็นพิเศษเหรอคะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 22:26:29

ความคิดเห็นที่ 45 http://earthquake.usgs.gov/learn/topics/increase_in_earthquakes.php จากคุณ : tomorrow night เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 22:38:37

ความคิดเห็นที่ 46 คห 42 แปลให้ตรงๆ เลย บอก หลายหนแล้ว จำนวนเซ็นเซอร์ที่เพิ่มขึ้น หรือการเพิ่มช่องทางการสื่อสาร ก็ เพื่อระบุพิกัดได้ดียิ่งขึ้น และมีผลแต่แผ่นดินไหวขนาดเล็กๆที่ตรวจจับได้มากขึ้น แต่กับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ๆ เช่น 5 ริกเตอร์ขึ้นไปแล้ว ต่อให้มีกี่เซ็นเซอร์ก็จะ รายงานผลออกมา เพื่อมุ่งหาพิกัดศูนย์กลางของเหต ไม่ใช่บอกว่าเกิดเหต เท่าจำนวนเซ็นเซอร์ที่เพิ่มเข้าไปนะ และ บอกไปแล้วเหมือนกันว่า การเจะเอาสถิติมาลงตารางเดียวกัน จะต้องปรับฐานก่อน ย้ำ ต้องปรับฐานก่อน โดยทำค่าเฉลี่ยกับตัวแปรเรื่องจำนวนเครื่องวัด หรือช่องทางการรับแจ้งที่มากขึ้นก่อน ไม่งั้นเอามาลงตารางเดียวกันตรงๆไม่ได้นะครับ แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 23:49:21 แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 23:48:47 จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 23:48:09

ความคิดเห็นที่ 47 #44 ดังนั้นเราต้องทดลองจับข้อมูลปริมาณดราม่าเวบจ่า พล็อตเข้ากับเหตุการณ์แผ่นดินไหวสินะ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 23:55:50

ความคิดเห็นที่ 48 เรื่องเหตุการโลกอวสานนี่ ถ้านับจากพวกนักพยากรณ์อยากดังหลายท่านป่านนี้เมืองไทยเหลือแต่ด้ามแล้วหล่ะครับ ฟังหูไว้หู ไม่ประมาทกับชิวิตก็พอแล้วผม จากคุณ : ไม่รู้เรื่องเลย เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 00:55:09

ความคิดเห็นที่ 49 หากไม่สงสัย ไม่คิดต่าง ก็จะไม่เกิดทฤษฏีใหม่ หากคิดเหมือนกันโลกก็คงไม่แตกต่าง บางครั้งเราเองก็แน่ใจไม่ได้ ว่าทฤษฏีและการวิัจัยที่มีอยู่แล้วจะถูกต้อง 100% และเกือบทุกครั้งหากเอาตำราเป็นที่ตั้ง คงได้คำตอบเหมือนๆกัน จากคุณ : SolarSun เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 02:50:01

ความคิดเห็นที่ 50 คิดว่าถ้าเราอยู่ไทยคงไม่ต้องกลัวเท่าไหร่ เพราะไม่ได้อยู่ติดๆ กับรอยเเยกของเเผ่นเปลือกโล กเหมือนญี่ปุ่น จากคุณ : kapoong เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 07:37:19

ความคิดเห็นที่ 51 คห 47 Hysteria มันอาการทางจิตที่ทำให้เซ็กส์จัดขึ้นด้วยไม่ใช่เหรอ อย่างนี้ก็ตรงกับทฤษฎี "การแอบมีเพศสัมพันธ์กับชู้ ทำให้แผ่นดินไหวมากขึ้น" ของนักบวชอิหร่านซิ :-)   A SENIOR Iranian cleric has claimed that dolled-up women incite extramarital sex, causing more earthquakes in Iran, a country that straddles several fault lines, newspapers reported today. "Many women who dress inappropriately ... cause youths to go astray, taint their chastity and incite extramarital sex in society, which increases earthquakes," Ayatollah Kazem Sedighi told worshippers at overnight prayers in Tehran. "Calamities are the result of people's deeds," he was quoted as saying by reformist Aftab-e Yazd newspaper. "We have no way but conform to Islam to ward off dangers." (จาก http://www.news.com.au/world/extramarital-sex-fuels-earthquakes-warns-iran-cleric/story-e6frfkyi-1225854907857#ixzz1OY955VrQ) ไม่ได้ว่าศาสนาไหนนะ  แค่อยากจะบอกว่าเวลาจับแพะชนแกะเนี่ย มันไปได้ทุกเรืองจริงๆ    :-P จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 08:36:14

ความคิดเห็นที่ 52 เสริม คห 46 รูปตารางที่มีการอ้างอิงเรื่องเกี่ยวกับปี ที่ทำการแสดงกลุ่มข้อมูล เพื่อให้อยู่ในตารางเดียวกัน จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 08:46:46

ความคิดเห็นที่ 53 คห 51 จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 08:50:02

ความคิดเห็นที่ 54 #49 ตำราไม่ได้หมายความว่าถูกต้อง 100% แต่ ทฤษฎี และความรู้ใหม่ มันเกิดจากพื้นฐานความรู้เก่า บวกกับแรงส่งของโอกาส การสังเกต จินตนาการ และ ความขยัน ทฤษฏีใหม่ ไม่จำเป็นต้องอิงกับของเก่า แต่มันย่อมสามารถอธิบายถึงปรากฏการณ์ที่อยู่ในทฤษฏีเก่าได้ และขยายในส่วนที่จำกัดของทฤษฏีเดิม ในแง่ของสิทธิ์ที่จะเชื่อ ต้องรู้ว่า นอกจาก สิทธิที่จะเชื่อ มนุษย์ยังมีสิทธิที่จะได้รับรู้ข้อมูลตามความเป็นจริง และเรามีสิทธิ์ที่จะเชื่อตราบที่ไม่ละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น สิ่งที่เกี่ยวพันไปถึงสังคมอย่างเรื่องกรณีแผ่นดินไหว ถ้าเป็นความเชื่อที่ทำให้เกิดความตระหนกโดยไม่มีหลักฐานข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ อันนี้เป็นการละเมิดสิทธิ์ ถ้าเป็นความเชื่อที่มีหลักฐานข้อเท็จจริงรองรับพอ มันก็จะเป็นความตระหนัก อันนี้มีสิทธิ์จะกล่าวจะเตือนกัน คิดต่างไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือการคิด เชื่อ โดยไม่อิงกับหลักฐานข้อเท็จจริง แล้วเอามาใส่สีตีไข่จนใหญ่โต (ซึ่งก็คิดว่ามันไม่ใช่แค่ความผิด ของ พวก ด๊อก อ อ หรือ ด๊อก ก ภ หรือ นาย ส แต่เป็นพวกเราคนไทยที่มีความเข้าใจเรื่องวิธีคิดแบบวิทยาศาสตร์น้อยเกินไปด้วย) #51 เอ อันนี้แปลว่าที่ซึนามิเข้าประเทศยุ่นปี่ ที่แท้ มันเกิดจาก... จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 10:37:55

ความคิดเห็นที่ 55 Hysteria มันไม่ใช่เรื่องอย่างว่าเท่านั้น มันใช้เรียกอาการตื่นตระหนกก็ได้อย่าง Mass Hysteria เป็นต้น (ไม่ใช่ว่าคนจำนวนมากมา xxx กันซะเมื่อไหร่ล่ะ lol) Hysteria หมายถึงอาการตื่นตระหนกก็ว่าได้ http://en.wikipedia.org/wiki/Hysteria จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 11:18:01

ความคิดเห็นที่ 56 ^ อืม ค่อย เป็นกระทู้มีสาระขึ้นมาหน่อย จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 13:29:40

ความคิดเห็นที่ 57 อืม..... จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 16:52:33

ความคิดเห็นที่ 58 ทำนายมั่ง จะมีแผ่นดินไหวเกิดนขึ้นอีกในบริเวณแถบเอเชีย ภายใน 7 วัน จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันใดในนึงนี่แหละ จากคุณ : กระเพราหมูกรอบเครื่องในไข่ดาว เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 23:37:30

ความคิดเห็นที่ 59 เป็นกระทู้ที่ควรอ่านครับ แวะเข้ามากด กิฟท์ :) จากคุณ : granun เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 01:22:15

ความคิดเห็นที่ 60 ไม่ห่วงว่ามันจะเหมือนใน 2012 หรอก แต่กลัวจะเหมือนอย่างใน The Day after tomorrow มากกว่า เหอะ เหอะ จากคุณ : Hyper Takuto เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 01:34:55

ความคิดเห็นที่ 61 The day after tomorrow นี่โมเดล Heat Trasfer ติด F ไปเลยละครับ ตอนฉากอุณหภูมิตกเพราะพายุพาความร้อนออกสู่อวกาศ ทั้งๆที่อยู่ในด้านที่พระอาทิตย์ส่อง กับการเกิดน้ำแข็งไล่ตามบนพื้นเพื่อแทนรูปความเย็น แต่หนังก็สนุกดีนะ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:40:31

ความคิดเห็นที่ 62 รอกระทู้แบบนี้อยู่ครับ ^_______^ รวบรวมข่าวลือเรื่องโลกแตกและแผ่นดินไหว นำมาวิเคราะห์ด้วยหลักการประกอบข้อมูล ให้เห็นชัดๆจะๆแดงแจ๋กันไปเลย จะได้เลิกกังวลเสียที ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแจมข้อมูลด้วยนะครับ ถูกใจให้กิ๊ฟ จากคุณ : G. เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 17:56:59 A:115.87.149.72 X: TicketID:115608

ความคิดเห็นที่ 63 คห 16 มันผิดตั้งแต่ เอาหมามาเทียบกับคน ในส่วนของเรื่องการเพิ่มน้ำหนัก แล้ว การเปรียบเทียบ ความสัมพันธ์ สิ่งนั้น ต้องเป็นเชิงปริมาณที่มีผลต่อกันบ้าง เช่น น้ำหนักเด็กมันเกิดจาก เด็กกินหมารึ ถึงจะเอากราฟน้ำหนักมาหาความสัมพันธ์ ว่าโตขึ้นเพราะหมา เพราะการเพิ่มน้ำหนัก นั่นคือการ input เข้าไป เช่น อาหารนะครับ มันเกิดจากการกินของ เด็ก และ หมา ว่ากินยังไงโตเท่าไหร่ไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ต่างคนต่างกินแล้ว จะสัมพันธ์กันในเชิงที่เป็นเหตของกันและกัน มันบอกได้แต่ความสอดคล้อง ของการเจริญเติบโตตามการกินของคน กับ หมา การยกตัวอย่างเช่นนั้นมา ผมว่า มันเป็นการประชดที่ขาดความถูกต้องตามหลักการอย่างมาก กับเรื่องแผ่นดินไหว เรารู้ ว่าdirect effect มีอะไร บ้าง แต่ อะไรบ้างที่มีผลให้เกิดแผ่นดินไหวนั้น มันมีตัวแปรมากมาย และการจะจับ ว่า มันน่าจะเกิดจากอะไรนั้น จำเป็นต้องหาสัมพันธ์ เชิงเหตการณ์ในคาบยาว ของหลายๆตัวแปร ซึ่งยากมาก เช่น มี ตัวแปร ที่ไม่รู้กี่ตัว ที่มีผลต่อกันและกัน แต่ในโจทย์ มีแค่คำตอบลอยๆว่า แผ่นดินไหว โดยที่โจทย์นั้นให้หาเอาเอง และให้ โจทย์ที่หามาได้นั้นตอบโจทย์ คำว่าแผ่นดินไหวได้ทุกกรณี เป็นต้น แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 18:57:03 แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 14:25:30 แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 13:02:53 จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:57:39

ความคิดเห็นที่ 64 Tks จากคุณ : labor_pu เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 02:43:23

ความคิดเห็นที่ 65 เรือ่งสัตว์นี้ เคยอ่านจากหลายเล่ม จำไม่ได้ว่าเล่มไหนบ้าง สรุปคร่าวๆได้ว่า สัตว์แต่ละชนิดอาจมีสัมผัสต่อแผ่นดินไหวด้วยสัญญาณ(แม่เหล็ก แก๊ส เสียง) ที่ต่างกัน และความไวก็ต่างกันด้วย แต่อาการผิดปกติ มีเกิดขึ้นจริง และถ้ามีอาการผิดปกติ แสดงว่ามีอะไรผิดปกติแล้วแน่ๆ แต่อาจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับแผ่นดินไหวก็ได้ จากคุณ : GreenEyes เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 22:08:06