ความคิดเห็นที่ 1 ยากครับที่จะทำให้ลำโพงตัวน้อยๆตอบสนองความถี่ต่ำได้อย่างเมามันส์... จากคุณ : หลานคุณยายจ๋า เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 12:13:41

ความคิดเห็นที่ 2 คงต้องอาศัยนาโนเทคโนโลยีละมั้ง ยังไงก็เป็นไปได้อยู่แล้วเทคโนโลยีมันไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่หรอก เพียงแต่คุณจะมีชีวิตอยู่ถึงตอนนั้นหรือเปล่าเท่านั้นเอง จากคุณ : ผ่านมาบอก เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 12:15:42 A:124.122.252.76 X: TicketID:106043

ความคิดเห็นที่ 3 ผมเข้าใจและ ทำไมหูฟังที่ชอบขาดใน ถึงเสียงเบสไม่ดัง จากคุณ : ตามน้ำ (wipeout) เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 12:22:35

ความคิดเห็นที่ 4 มันต้องสังคายนากันยกใหญ่ เทคนิคที่ทำให้เกิดเสียงแบบปัจจุบันคงทำแบบนั้นไม่ได้ ต้องหาเทคนิคใหม่ๆ ไล่มาตั้งแต่การก่อให้เกิดเสียงว่าทำแบบไหนได้มั่ง นอกจากเอากรวยไปสั่นๆ... จากคุณ : เฮียมี่ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 12:59:21

ความคิดเห็นที่ 5 ตอนนี้ก็มีแล้ว   ถ้าจะทำลำโพงตัวเล็กๆ แต่สามารถอัดเสียงเบสได้ดังๆ ก็ใช้วิธีพัฒนาแม่เหล็กลำโพงให้มีกำลังแรงๆ ทำวอยส์คอยล์ให้ทนกำลังได้สูงๆ จะได้ไม่ขาดเวลาอัดเบสหนักๆ และทำวัสดุขอบลำโพง ให้แข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดี รวมกับกรวยลำโพงที่แข็งแรง ทำให้ครบแบบนี้ ก็จะมีตัวลำโพงขนาดเล็กที่สามารถอัดได้ดังๆ โดยไม่ขาด ไม่แป๊ก แต่อาจจะไม่พริ้วหวาน  ซึ่งพอจะชดเชยส่วนนี้ได้ด้วยการทำลำโพงเป็นแบบ สองทาง เอาทวีตเตอร์มาเพิ่ม ช่วยให้เสียงแหลมพริ้วขึ้น  ถ้าอยากให้เสียงกลางหวานฉ่ำ ก็อาจทำเป็นแบบสามทาง เพิ่มลำโพงมิดเรนจ์ขึ้นมาอีกตัว ที่เหลือก็คือ เทคโนโลยีในการออกแบบและผลิตตู้ลำโพง  ซึ่งใช้หลักฟิสิกส์ทางคลื่เสียง ก็สามารถทำลำโพงตัวเล็กๆ ที่ให้เสียงเบสได้เทียบเท่าลำโพงตัวใหญ่ได้ รูปประกอบนี้ ใช้ลำโพง ขนาด 4.5 นิ้ว จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 13:11:52

ความคิดเห็นที่ 6 อนาคตอาจจะได้ แต่คงต้องสังคยานาวิธีการให้กำเนิดเสียงของลำโพงอย่างที่ท่านด้านบนบอก เพราะว่าเสียงเบส เป็นเสียงความถี่ต่ำ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว วัตถุชิ้นเล็กๆ จะมีการสั่นสะเทือนที่ความถี่สูงกว่าวัตถุชิ้นใหญ่ๆอยู่แล้ว (ลองเคาะแกวน้ำดู 2 ขนาด) การจะให้เสียงสมบูรณ์ที่ความถี่ต่ำลำโพงดอกใหญ่กว่า จะทำได้ดีกว่าอยู่แล้วครับ และเมื่อถึงตอนนั้น ที่มีเบสดีๆดอกเล็กๆแล้ว เบสดอกใหญ่ๆก็คงพัฒนาไปอีกขั้นอยู่ดีครับ ผมว่านะ จากคุณ : GSG-9 เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 13:33:14 A:61.47.18.165 X: TicketID:309862

ความคิดเห็นที่ 7 บางคนชอบฟังเสียงจากแอมป์หลอด เพราะให้เสียงที่หวานเพราะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แตกต่างจากแอมป์ทรานซิสเตอร์   แต่แอมป์หลอดมีกำลังขับไม่สูง  ก็เลยเอามาใช้ไม่ได้กับลำโพงซับวูฟเอร์ตัวใหญ่ๆ ที่ต้องการแอมป์กำลังขับมาก ลำโพงตัวเล็กๆ กินวัตต์ไม่มาก แต่ให้เสียงเบสได้ดี  จึงเป็นลำโพงในฝันของคนเล่นเครื่องเสียงแอมป์หลอด ทีนี้ ก็มาถึงเรื่องตู้ลำโพง   ทำไมถึงต้องมีตู้ลำโพง ก็เพราะว่า เวลากรวยลำโพงขยับ คลื่นเสียงจะออกมาจากทั้งด้านหน้าและด้านของกรวยลำโพง คลื่นเสียงความถี่ต่ำจากด้านหลังกรวยลำโพง ก็จะเดินทางมาหักล้างกับคลื่นเสียงที่ออกมาจากด้านหน้าลำโพง  ทำให้เสียงเบสหายไป ดังนั้นจากเหตุผลดังกล่าว จึงจำเป็นต้องมีตู้ลำโพง ตู้ลำโพงพื้นฐานแบบแรก ก็คือ แบบ Flat baffle หน้าที่หลักๆ ก็ป้องกันไม่ให้คลื่นเสียงความถี่ต่ำจากด้านหลังลำโพงมาหักล้างกับด้านหน้า   และถ้าออกแบบขนาดและจัดวางตำแหน่งได้ดีพอ เสียงเบสจากด้านหลัง ก็จะเดินทางมาเสริมกับเสียงเบสจากด้านหน้า ช่วยให้ได้เสียงเบสที่ดังขึ้นได้อีก จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 13:49:21

ความคิดเห็นที่ 8 ตู้ลำโพงแบบ Open-back  เจตนาเดียวกันกับตู้ลำโพงแบบแรก  แต่เพื่อทำให้มีขนาดเล็กกว่า จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 13:52:21

ความคิดเห็นที่ 9 ตู้ลำโพงแบบปิด Sealed type  เป็นตู้ลำโพงแบบที่คนนิยมกันมากแบบหนึ่ง ต้องออกแบบปริมาตรตู้ให้เหมาะกับคุณสมบัติของดอกลำโพง และจากคุณสมบัติที่เป็นตู้ปิด  อากาศด้านในตู้จึงเหมือนกับเป็นสปริง ก็จะได้เสียงเบสที่นุ่มกระชับ  แต่ไม่ลึก ไม่ตู้ม เพราะอาศัยคลื่นเสียงจากตัวลำโพงอย่างเดียว การจัดวางตำแหน่งลำโพงก็ทำได้ง่าย  ขนาดของห้อง หรือพื้นที่ด้านหลังลำโพง ไม่ค่อยมีผลกับตู้ลำโพงแบบนี้มากนัก จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 14:03:29

ความคิดเห็นที่ 10 ตู้ลำโพงแบบ Bass reflex  ตู้ลำโพงแบบนี้เป็นที่นิยมกันมาก  เห็นที่ขายกันอยู่ เกือบทั้งหมดจะเป็นตู้ลำโพงแบบนี้ หลักการ ก็คือ ออกแบบให้คลื่นเสียงจากด้านหลังกรวยลำโพง เดินทางออกมาเสริมกับด้านหน้า   เสียงเบสที่ได้จะดังมากกว่าแบบตู้ปิด  ส่วนจะอยากเร่งเสียงที่ความถี่ไหน ก็อยู่ที่ขนาดของท่อ  ท่อยาวขึ้นจะเร่งเสียงเบสความถี่ต่ำลง ท่อกว้างขึ้นจะเร่งเสียงเบสความถี่สูงขึ้น แต่ถ้าทำท่อเล็กไป จะได้เสียงลมพ่นออกมาด้วย ตู้ Bass reflex มักจะทำขนาดตู้ได้เล็ก  ส่วนเรื่องของเสียงเบส ก็อยู่ที่การออกแบบท่อเบส ซึ่งอาจจะหันท่อออกไปทางด้านหลัง หรือด้านล่างก็ได้  แต่ถ้าวางตำแหน่งลำโพงไม่ดี เสียงเบสที่ได้ก็อาจจะไม่ดีนัก เช่น อาจจะน้อยเกินไป หรือมากเกินไป จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 14:15:27

ความคิดเห็นที่ 11 ตู้ลำโพงแบบ Double bass reflex เป็นตู้ที่ซับซ้อนขึ้น ออกแบบได้ยากขึ้น  ถ้าออกแบบได้ดี ก็จะได้เสียงเบสที่แน่นลึกกว่าเดิม  แต่ถ้าพลาดก็จะได้เสียงเบสที่บวมๆ เบลอๆ จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 14:19:02

ความคิดเห็นที่ 12 ตู้ลำโพงแบบ  Back loaded horn  ใช้หลักการเดียวกับแตร ลองนึกถึงเครื่องดนตรีวงโยธวาทิต ที่มีแตรอันใหญ่ๆ เดินอยู่ด้านหลัง ตัวท่อจะม้วนๆ ไปมา และก็ค่อยๆ บานออก ก็จะให้เสียงเบสที่ต่ำลึกได้ ซึ่งตู้นี้ก็ใช้หลักเดียวกัน โดยเอาคลื่นเสียงจากด้านหลังกรวยลำโพง มาเดินทางในท่อแตรอันนี้ ก็จะให้เสียงเบสที่ดังกระหึ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด  แบบที่ว่าถ้าฟังในห้องหรือในรถ จะต้องเปิดประตูหน้าต่าง ไม่เสียงเบสจะดังบวมๆ อื้ออึง ตู้แบบนี้ ภาษาช่างเครื่องเสียงกลางแจ้ง หรือเครื่องเสียงรถ มักจะเรียกว่าตู้สูตร ส่วนจะฟังเพราะหรือไม่ ก็อีกเรื่องนึง จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 14:29:53

ความคิดเห็นที่ 13 สมองแปรการรับรู้ของหูผ่านการแปรสัญญาณไฟฟ้า ดังนั้นหากสมองเราถูกกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าที่เราควบคุมได้. เราอาจใช้เพียงสายไฟเส้นเดียวต่อตรงเข้าสมองเลยก็ได้ จากคุณ : Night Claw เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 14:41:37

ความคิดเห็นที่ 14 ความฝันของคนตัวใหญ่ๆ จะได้เบสเสียงต่ำๆมั้ยอะ แต่ผมอยากฝันถึงสาวเสียงเล็กๆมากกว่า จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 15:14:48

ความคิดเห็นที่ 15 ผมชอบแบบ Sealed type เพราะ ขนาดตู้กระทัดรัด วางตรงไหนก็ได้ ไม่เกะกะ ให้เบสด้อยกว่าแบบพวก reflex แต่ผมใช้แอมป์กำลังขับสูงๆ ขับมันเข้าไปก็ชดเชยได้เหมือนกัน จะเอาเบสลึกแค่ไหน ปรับที่ LPF ได้เลย พวก reflex ประสิทธิภาพสูงก็จริง แต่ปัจจัยมันเยอะ ต้องออกแบบให้ดี วางให้ถูกที่ ขนาดตู้ก็ใหญ่โต ลำโพงดอกเล็กจริง แต่ตู้บะเริ่มเทิ่ม ก็ไม่ได้ประโยชน์จากความเล็กของดอกลำโพงเลย แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 54 10:57:52 จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 10:57:06

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณทุกความเห็นครับ ข้อมูลแน่นเอียดเลยครับ ได้ความรู้เยอะเลยครับ จากคุณ : Pikabas เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 11:53:38 A:124.121.32.52 X: TicketID:293267