ความคิดเห็นที่ 1 เป็นคำถามที่เป็น วิทยาศาสตร์ มากนะครับ เพราะว่า คำถาม ถามถึง ไความรู้" จากเท่าที่เรารับได้ เท่ากับ ถามถึงรากฐานวิทยาศาสตร์ เลยทีเดียว ลองดู คลิปนี้นะครับ อาจจะเข้าใจอะไรได้มากขึ้น //คลิป มาจากเวป ศาสนาวิทยาศาสตร์ จากคุณ : แล้วแต่ทางท่านจะเรียกแล้วกันนะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 14:49:54

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่มีทางเจอ เพราะมิติที่ 3 ที่เพิ่มมาจาก 2 มิติที่อยู่ จะไม่มีประสาทสัมผัสให้รับรู้ เหมือนกับที่นักวิทยาศาสตร์สานฟิสิกส์บอกว่าโลกเรามีได้ถึง 11 มิติ แต่ยังไงเราก็มองเห็นได้แค่ 3 มิติ เพราะประสาทสัมผัสของเรารับรู้ได้แค่รี้ จากคุณ : นายขนมหวาน เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 15:47:39

ความคิดเห็นที่ 3 ภาพประกอบอีกแบบหนึ่งครับ ... จากคุณ : Tiggy-ข้าวหอม เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 15:51:25

ความคิดเห็นที่ 4 ตามจินตนาการ แผ่นกระดาษเปรียบเสมือนโลก 2 มิติ ตัวการ์ตูนบนกระดาษก็เปรียบเสมือนคนที่อยู่ในโลก 2 มิติ และสิ่งที่คนนั้นจะรับรู้ได้จะต้องอยู่บนแผ่นกระดาษด้วยซึ่งสิ่งเหล่านั้นอาจเป็นเงาหรือภาพฉายของวัตถุ 3 มิติ หรือภาคตัดขวางของวัตถุ 3 มิติด้วยระนาบกระดาษ อีกนัยหนึ่งคือคนในโลก 2 มิติจะไม่มีทางรับรู้ถึงสิ่งที่ลอยอยู่เหนือแผ่นกระดาษเลย ดังนั้นเหตุการณ์บางอย่างอาจเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติของคนในโลก 2 มิติ เช่น ถ้าเรายกลูกบาศก์ซึ่งวางทับอยู่บนกระดาษขึ้น แล้ววางลงที่เดิม ผู้สังเกตในโลก 2 มิติก็จะเห็นปรากฏการณ์ที่รูปสี่เหลี่ยมที่อยู่ๆ ก็หายวับไปเฉยๆ และสักพักก็โผล่กลับมาใหม่ แต่เราซึ่งอยู่ในโลก 3 มิติย่อมเข้าใจเหตุผลของสิ่งที่เกิดขึ้น ทีนี้ลองอุปมาอุปไมยเปรียบเทียบระหว่างโลก 3 มิติกับโลก 4 มิติบ้าง ซึ่งเราก็คงประหลาดใจเช่นกันถ้าอยู่ๆ เราเห็นรถยนต์คันหนึ่งหายวับไปกับตา แล้วอยู่ๆ ก็โผล่กลับมา ไม่ทราบว่าคุณ Tiggy-ข้าวหอม เจ้าของกระทู้เคยศึกษาเรื่องลูกบาศก์ 4 มิติ (Tesseract) มั้ยครับ ถ้ายังลอง คลิก ภาพเคลื่อนไหวคือภาพฉายของลูกบาศก์ 4 มิติที่กำลังหมุนรอบแกนมิติที่ 4 ที่คนในโลก 3 มิติสังเกตเห็น ซึ่งเราไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เห็นนี้ได้ด้วยกฎ หรือทฤษฎีที่มีอยู่ใช่ไหมครับ ดังนั้นตอนนี้ผมคิดว่าเราอาจทำได้แค่เพียงจินตนาการในทำนองนี้ หรือใช้คณิตศาสตร์อธิบายมิติที่สูงกว่า 3 ไปก่อนครับ จากคุณ : TIYH (lachrymal) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 16:34:31

ความคิดเห็นที่ 5 คห2 เราไม่สามารถรับได้แบบตรงๆ แต่ก็ไม่ถึงกับไม่สามารถรับได้เลยนะครับ แต่มันจะมีผลกระทบแบบอ้อมๆหลายอย่างที่ใช้การคำนวนแบบ2มิติอธิบายไม่ได้ (ถ้าเราอยู่ในโลก2มิติ) แต่พอใช้การคำนวนแบบ3มิติกลับสามารถอธิบายได้ หรืออย่างน้อยก็ให้ผลลัพท์ที่สอดคล้องกับการทดลองมากกว่า ถ้าใช้รูปของ คห3 ประกอบ ถ้าวัตถุที่ทำให้เกิดเงาทั้งหมดลอยไปลอยมา+หมุน+เคลื่อนไหว สิ่งที่อยู่บนโลก2มิติที่ได้เห็นเงา (สามารถมองเห็นได้แค่เงา) จะเจอปรากฏการณ์ที่การคำนวนแบบ2มิติไม่สามารถอธิบายได้ แต่ถ้าสังเกตุไปเรื่อยๆ ก็จะพออนุมาณถึงมิติที่3ได้ และพอคำนวน แบบ3มิติจากข้อมูลเพียงเงาที่ปรากฏบนโลก2มิติ ก็พอจะคาดเดาถึงรูปทรงเหล่านั้นใน3มิติได้ (ถึงไม่ถูกก็ใกล้เคียง) ตรวจสอบผลการคำนวนโดยสังเกตุต่อไป และทดลองทำนายล่วงหน้า เช่น ถ้าวัตถุทรงจานบินในรูปหมุนในแนวตั้ง ก็จะมีการทำนายว่าในวินาทีต่อไปเงาจะเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่นักวิทยาศาสตร์ออกมาบอกว่ามี11มิติแหละครับ มีปรากฏการณ์หลายอย่างที่การคำนวนแบบ3มิติอธิบายไม่ได้ แต่พอคำนวนแบบ11มิติกลับให้ผลที่สอดคล้องอธิบายได้ ทำนายผลได้ ซึ่งทฤษฏีนี้อาจจะผิด แต่ก็น่าจะใกล้เคียงมาก จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 16:39:17 A:180.183.123.174 X: TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 6 แปะรูปประกอบจาก คห ที่ 4 ครับ จากคุณ : Tiggy-ข้าวหอม เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 17:03:49

ความคิดเห็นที่ 7 มันเป็น สมอง และระดับการรับรู้ของพวกเราค่ะ ^^ ถ้าเราเกิดมาเป็น สิ่งมีชีวิตที่สามารถรับรู้ และเข้าใจ ได้แค่ 3 มิติ เราก็จะมีกฎเกณฑ์ชีวิต และมีการดำเนินชีวิตไปในแบบ 3 มิติ ถามว่า.. เราจะค้นหา มิติที่ 4 ได้ไหม.. ถ้าเราใช้ ตา หู จมูล ลิ้น กาย ในการรับรู้มิติที่มากกว่า 3 .. เราจะได้แค่.. รู้ .. แต่เราจะไม่ได้เห็น ไม่ได้สัมผัส ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เพราะเราไม่ใช่สัตว์ 4 มิติ เราเป็นสิ่งมีชีวิต 3 มิติ เราก็จะมองเห็นสิ่งรอบตัวแค่ในมุมมอง 3 มิติ ในขณะเดียวกัน.. พวกมดตัวเล็กๆ มันก็ไม่มีวันรู้ว่า โลกนี้ ถ้ามองในมุมมอง 3 มิติ มันเป็นทรงกลม.. เพราะมดเป็นสัตว์ 2 มิติ(เกือบๆ 2 ล่ะ) ไม่ว่าจะวันหนึ่ง มดจะมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องโลก 3 มิติ แต่มดก็จะไม่ได้สัมผัส ไม่ได้ดำเนินชีวิตไปในรูปแบบ 3 มิติ อยู่ดี เพราะมดไม่ใช่สัตว์ 3 มิติ ยังไงๆ มดก็จะยังคิดคิดว่า สิ่งรอบๆตัวมัน แบน.. เป็นพื้นราบ.. โลกแบน.. --- สรุปคือ.. ต่อให้เราสามารถศึกษาและเข้าใจได้ว่า จริงๆแล้ว สรรพสิ่งไม่ได้มีเพียง 3 มิติ แต่มีมากกว่านั้นเป็นอนันต์ แต่.. เราก็จะยังคง ใช้ชีวิตในรูปแบบ 3 มิติ และไม่มีวันก้าวข้ามไปยังมิติที่ 4 ได้ด้วยร่างกายเนื้อหนังของเรา เพราะร่างกายเนื้อหนังของเรา มันเป็นสิ่ง 3 มิติ .. แต่ถ้าน้อง จขกท. ต้องการจะศึกษาเกี่ยวกับ มิติอื่นๆ ที่มากกว่า 3 มิติ .. น้องก็จะต้อง ไม่ใช้อวัยวะ 3 มิติ ศึกษา.. คือ ไม่ใช้ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ของร่างกายเราศึกษา.. เพราะ.. น้องจะไม่เข้าใจ.. เพราะพวกเราถูกกำหนดมาให้รับรู้และเข้าใจได้แค่นี้.. ต้องใช้.. ส่วนหนึ่ง ที่.. มันไม่ใช่สิ่ง 3 มิติ.. เพื่อศึกษาสิ่งที่อยู่นอกเหนือ 3 มิติ.. อยากศึกษาสิ่งที่อยู่นอกเหนือโลก 3 มิติ ก็ต้องใช้สิ่งที่ไม่ใช่สิ่ง 3 มิติไปศึกษามัน ไม่งั้น มันก็จะเป็นเหมือนมด คือ.. ศึกษายังไงก็ไม่เข้าใจหรอก ถ้ายังเอาร่างกาย 3 มิติไปศึกษาสิ่งที่มากกว่า 3 มิติ .. แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 54 19:45:36 จากคุณ : mooesha เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 19:44:59

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นได้สิครับ 3 มิติ ก็ประกอบด้วย 2 มิติ จากคุณ : Alnilam เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 19:51:27

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบเฉพาะคำถาม ค้นหาเจอแน่นอนครับ และรู้ถึงการมีอยู่แต่ไม่สามารถสัมผัสได้ อย่างทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์ยอมรับเรื่องมิติของเวลาแล้ว และทฤษฏีอย่าง Tensor ก็ใช้กันอย่างแพร่หลาย เราพิสูจน์ได้ถึงการมีอยู่ของมัน แต่ด้วยขีดจำกัดของร่างกายทำให้เราไม่สามารถสัมผัสมันได้ จากคุณ : Maki Roll เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 19:57:44

ความคิดเห็นที่ 10 ได้ ถ้าสิ่งที่ว่ามี 2 มิติ จริงๆ แล้วเป็นวัตถุสามมิติบางๆ แล้วมีวัตถุ 3D เคลื่อนผ่านมา ไม่ใช่แค่รับรู้ได้ นะครับ ถ้าหาวัตถุสามมิติที่เหมาะสมมาได้ วัตถุ 2D ก็สามารถเคลื่อนที่ใน 3D ได้ ตัวอย่างนะครับ มนุษย์ 2D ซึ่งเคลื่อนที่อยู่ในแผ่นสีเทา ได้พบกับ วัตถุ 3D คือ เสาสีฟ้าและทรงกลมสีเขียว มนุษย์ 2D สร้าง รางสีแดง+วงแหวนสีส้ม ซึ่งเป็นวัตถุ 2D วงแหวนสีส้มเคลื่อนที่ได้ตามแนวแกนสีแดง เมื่อ มนุษย์ 2D ปรับระยะของวงแหวน จะทำให้ราง+วงแหวน เคลื่อนที่ในแนวตั้งตามแนวเสาได้ จากคุณ : ผลึกความคิด เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 20:53:44

ความคิดเห็นที่ 11 จริงๆ มนูษย์เรามีการรับข้อมูลแค่ 2 มิติครับ มิติที่สาม เราเข้าใจเอาเองครับ จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 00:39:44 A:124.120.227.25 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 12 ^ คห ที่ 11 ... รบกวนยกตัวอย่าง หรือขยายความเพิ่มเติมอีกหน่อย ได้ไหมครับ จากคุณ : Tiggy-ข้าวหอม เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 01:48:29

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณทุกท่านมากครับ ที่เข้ามาช่วยอธิบาย จากคุณ : Tiggy-ข้าวหอม เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 15:03:54

ความคิดเห็นที่ 14 มันก็ต้องถามว่า ในโลกสองมิติ เงา หรือ ภาพสะท้อน ของเรา มันเป็นอิสระจากเรา ที่อยู่ในโลกสามมิติหรือไม่ ถ้าไม่ มันก็ยังอยู่ใน โลกสามมิติ เหมือนเดิม..... เช่นเดียวกับ กาย และ จิต มันก็ยังเชื่อมกันอยู่ เมื่อมันเชื่อมกันอยู่ มันก็คือโลกเดียวกัน และผมคิดว่า ซึ่ง สิ่งสำคัญคือ การเชื่อม เพราะเมื่อ โลกคนละมิติ เชือมกัน มันก็จะหลอมเป็นโลกมิติเดียวกันนั้นเอง.... ซึ่งปัญหาก็คือ การเดินทางข้ามมิติ ไปยังมิติอื่น จะมีขึ้นได้ ก็คือ ต้องทำให้อยู่ในรูปของมิตินั้น ไม่อย่างนั้น ก็เพียงแค่เห็น หรือแค่รู้และคิดว่ามีมิติอื่นอยู่เท่านั้น.... แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 20:13:04 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 20:11:52 จากคุณ : ..... (@Ble) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 20:10:00

ความคิดเห็นที่ 15 คห.12 ก็จริงๆ แล้วตาเราเป็นอวัยวะที่รับภาพได้แค่ทีละสองมิติ คือรับภาพเป็นแค่ภาพแบนราบ ... แต่สมองเราเอาภาพที่ได้ (จะจากสองตา หรือตาเดียว) มาประมวลให้เราคิดว่ามันเป็นสามมิติไงครับ ... ยกตัวอย่าง ... มันจะมี optical illusion แบบนึงที่เรียกว่า Optical Persuit คือการติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหวในภาพแล้วเอา ความเร็วของวัตถุมาประมาณเป็น ตำแหล่งในสามมิติ ... ยกตัวอย่างง่ายๆ คือการหลับตาขับรถ หรือ คนตาบอด - ปิดตาข้างเดียว ตีแบตอะครับ เราก็ยังทำได้และรับรู้ตำแหน่งของวัตถุได้ แม้ว่าเราจะเห็นภาพสองมิติ... ทีนี้ก็เลยแปลว่าที่เรา รู้สึกว่าโลกนั้นมีแค่ สามมิติ มันเป็นเพียงแค่การเรียนรู้ของเรา เพราะจริงๆ โลกอาจจะ (เชื่อว่า) มีมิติมากกว่านี้ แต่เรา ไม่สามารถเข้าใจมันได้ จากคุณ : ฟหก เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 02:20:20 A:124.120.219.103 X: TicketID:250855