ความคิดเห็นที่ 1 มันขึ้นอยู่ที่ "ค่านิยม" ในสังคมนั้น ๆ ณ ขณะนั้น เป็นหลัก อะครับ มันต้องคอย ให้ความรู้ ,ปรับทัศนคติ ,ป้องกัน ,บังคับ ฯลฯ รวม ๆกันให้เหมาะสมซึ่งมันไม่ง่ายเลยสำหรับสังคมหนึ่ง ๆนะครับ เพิ่มนิด หลายท่านในห้องนี้ก็ทราบกันดีเรื่อง ฮอร์โมน ความพุ่งพล่านทางเพศของวัยรุ่น ฯลฯ แต่จะมีสักกี่ท่านที่จะพาลูกผู้หญิง ไปคุมกำเนิด เมื่อเริ่มมีประจำเดือนกันล่ะครับ ซึ่งถ้า การคุมกำเนิด มันง่ายและไม่มีผลข้างเคียงแบบการให้วัคซีน โปลิโอ แล้วล่ะก็ ปัญหาท้องโดยไม่ตั้งใจมันคงหมดไปอะเน้อ ป.ล. อย่าง อเมริกา ยังมีหนังเรื่อง จูโน หรือ เรื่อง ทีธ (ฟันหลายซี่) ซึ่งมันตบหน้าระบบเพศศึกษาบ้านเขาที่ถือว่าดีเลยอะเน้อ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 02:22:22 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 02:20:38 จากคุณ : Ethan_Ko เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 02:01:23

ความคิดเห็นที่ 2 วัยรุ่นเมืองนอก มีวุฒิภาวะทางสูง ควบคุมอารมณ์ได้ คนไทยเราไม่เหมือนประเทศอื่นครับ ทีขอเงินพ่อแม่จนเรียนจบ ป.ตรี ทำงานอยู่ยังขอเงินพ่อแม่เลย น้อยคนมากๆที่จะทำงานส่งตัวเองจนจบ เมืองนอกพอเด็กโตขึ้นมาหน่อยก็ทำงานหาเงินเองแล้ว สัมผัสความลำบากมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น แต่คนไทยมีพ่อแม่ประคบประหงม  ส่งให้ทุกอย่างแต่เด็กชอบเรียกร้องเอานู่นเอานี่แบบชาวต่างชาติที่เขาหาเงินด้วยตัวเอง ดังนั้นมาตรการพวกนี้ ทำออกมาป้องกันไม่ให้เด็กเสียคนก่อนเวลาอันควร เนื่องด้วยสภาพสังคมประเทศไทยเราต่างจากที่อื่น จากคุณ : Firion เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 02:13:15

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับคนชั้นกลาง รากของมันที่จริงคือเพื่อป้องกันปัญหาปากท้องครับ มีลูกเรียนไม่จบ ไม่มีงานดีๆทำ ไม่มีเงินก็ต้องมาขอพ่อแม่ เดือดร้อนกันทำให้สะดุดไปหมด สำหรับคนไฮโซ กับคนรายได้น้อย เรื่องนี้ไม่เเป็นปัญหา คนไฮโซ - มีเงินซะอย่างกี่คนก็เลี้ยงได้ คนรายได้น้อย - ดีสิมีลูกมาช่วยทำงาน หรือไม่ก็คงกลุ้มจนเลิกกลุ้ม มีแต่คนชั้นกลาง มนุษย์เงินเดือนเท่านั้นแหละ ที่กระทบ กลุ้มไม่เลิก.. ไหนจะผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตร แล้วยังต้องมาจ่ายค่าเลี้ยงหลานอีกขโยงนึง ไม่เวิร์คๆ ที่จริงก็เนี่ยแหละครับ - เงินไม่พอใช้ เรื่องอื่นที่ จขกท. ยกมา ทั้งสุขภาพ ประเพณี ฯลฯ มันจิ๊บๆ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 02:23:26

ความคิดเห็นที่ 4 เพราะวัยรุ่นบ้านเรายังขอให้พ่อแม่สงเสียจนกว่าจะเรียนจบครับ นั้นก็หมายความว่ากว่าจะรับผิดชอบหาเลี้ยงตัวเองได้ก็มักจะอายุเกินยี่สิบแล้วทั้งนั้น ซึ่งตอนนั้นก็มักจะเรียนจบกันแล้วและอยุ่ในวัยทำงานสามารถที่จะหาเลี้ยงปากท้องตัวเองได้แล้ว แต่วัยรุ่นที่อยากจะมีอะไรเนี่ยมั้นเริ่มตั้งแต่อายุ 10 กว่าขวบขึ้นไปแล้วทั้งนั้นเขาเลยห้ามสำหรับวัยรุ่นไทย อีกอย่างการมีเพศสัมพันธ์มักจะตามมาคือการมีบุตรและเมื่อสังคมไทยเด็กไทยมักจะไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ หากมีลูกแล้วคิดว่าใครจะต้องคอยเลี้ยงละครับ หรือบางรายก็ไปทำแท้งตามความคิดเด็กๆไป ถ้าคุณสามารถให้คำตอบได้ว่า ทำยังไงให้วัยรุ่นไทยรับผิดชอบชีวิตได้เหมือนเด็กฝรั่ง พอจบม.ปลายก็ไม่ต้องให้ใครส่งเสียได้แล้ว และหากมีครรภ์ก็ไม่คิดแต่จะทำแท้ง ถ้าคุณแก้ปัญหานี้ได้ละก็คำถามของคุณก็จะหมดไปครับ แต่ถ้าวัยรุ่นคนไหนสู้ชีวิตหาเลี้ยงตัวเองได้ตั้งแต่ยังเด็ก สามารถที่จะเลี้ยงลูกทีเกิดขึ้นมาได้ หากจะมีอะไรกับใครก็มีไปครับไม่มีใครไปห้ามแล้วครับ สรุปคือวัยรุ่นไทยยังไม่มีความสามารถพอที่จะรับผิดชอบชีวิตใหม่ที่เกิดขึ้นมาได้คัรบ เพราะตัวเองยังเกาะพ่อแม่กินอยู่เลย จากคุณ : Waiyakon เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 02:55:59

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนตัวผมว่า เรื่องนี้มันเป็นปัญหาเชิงซ้อนในสังคมอะครับ ผมลองยกตัวอย่างแค่แบบหนึ่งนะ เช่น - สังคมกดดันให้ พ่อแม่ต้องดูแลลูกให้ดีนะ อย่าให้ก่อปัญหา ไม่มีปัญญาก็อย่ามีลูกสิ - แต่สังคมก็กดดันว่า  ลูกโตแล้วนะ อย่าไปสั่งให้เด็กทำตามใจคนเลี้ยงดิ ไปจำกัดสิทธิ์โน่นนี่ไม่ไ้ด้นะ   ลองดูปัญหานี้เป็นตัวอย่างนะครับ  ถามว่าเราจะแก้ยังดีอะครับ เพิ่มอีก ป.ล. ถึงแม้จะควบคุมเรื่อง ท้องโดยไม่ตั้งใจได้แล้ว แต่อย่าลืมปัญหาที่ใหญ่พอกันมันคือ "โรคติดต่อทางเพศสัมพันธํ" แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 04:22:48 จากคุณ : Ethan_Ko เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 03:15:53

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าผมเป็นผู้รณรงค์ผมจะยกประเด็น รักนวลสงวนตัวมาเป็นอันดับแรก เพราะถ้ารักนวลสงวนตัวแล้วปัญหาตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร และโรคติดต่อ จะลดลงอย่างมาก ถ้าทุกคนให้ความร่วมมือแล้วหากเกิดปัญหาตั้งครรภ์ ก็น่าจะมาจากความไม่สมัครใจ แต่มันเป็นไปได้ยากเพราะทุกวันนี้ คนเรามีมุมมองกับเรื่องนี้เปลี่ยนไป เรื่องเพศผมยังสนับสนุนให้ทุกคน มีความรู้ที่ถูกต้อง แต่อยากให้รักนวลสงวนตัวครับ ใครจะว่าผมหัวโบราณ ผมก็ไม่เถียงครับ -------------------------------------------------------------------------- ลองคิดในมุมกลับ สมมุติว่า ให้เด็กไทยฝังยาคุมทันทีที่มีประจำเดือน 90%+ จะคิดว่ายังไงๆ ก็ไม่ท้องแน่นอน แล้วการมีเพศสัมพันธ์ของเด็ก จะมีอายุเฉลี่ยน้อยลงไปอีก และเพิ่มจำนวนมากขึ้น จากคุณ : GOLFGTC เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 04:11:13

ความคิดเห็นที่ 7 กระทู้รวมคนนอนดึก ... จากคุณ : ส่วนผมนอนไม่หลับ (tomorrow night) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 04:20:21

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเป็นพ่อแม่แล้ว ที่ห้ามก็เพื่อตัดปัญหาที่จะตามมาครับ เพราะสังคมมองว่าผู้หญิงเป็นฝ่ายเสียหาย  ถ้าได้เสียกับใครไปแล้วกลัวฝ่ายชายไม่จริงใจ แล้วนำไปพูดทำให้เกิดความอับอายขายหน้า อาจเสียโอกาสกับผู้ชายใหม่ (บางคน) ครับ ส่วนการรณรงค์นั้น อาจเป็นเพราะ 1.ผู้ใหญ่บางคนไม่เคยได้เสียมาก่อน  คิดว่าตัวเองยังทนจนถึงวันแต่งได้ คนอื่นก็น่าจะทนได้ 2.ผู้ใหญ่บางคนเคยได้เสียมาแล้ว แต่ปกปิดความจริง  ทำเป็นมือถือสากปากถือศิล 3.บางคนก็อิจฉาปนเขม่น  สมัยฉันมันไม่โจ่งครึ่มอย่างนี้ ยังรู้จักแอบซ่อน แต่นี่อะไร เปิดเผยมากๆเลย จากคุณ : บุญถิ่น เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 05:05:20

ความคิดเห็นที่ 9 เพื่อตัดปัญหาเรื่องท้อง เพราะการคุมกำเนิด ยังไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องท้อง การรณรงค์คงน้อยกว่านี้เยอะ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 06:24:40

ความคิดเห็นที่ 10 ผู้ใหญ่คงมองว่าวัยรุ่นไม่ค่อยมีความรับผิดชอบมั้ง ถ้าพลาดท่าท้องมาก็ไม่พ้นปู่ย่าตายายต้องมานั่งเลี้ยงหลานอีก แต่การสอนคงใช้การห้ามมากเกินไป ตามหลักควรสอนการคุมกำเนิด และ ป้องกัน มากกว่า จากคุณ : ด้านมืดในใจคุณ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 06:51:00

ความคิดเห็นที่ 11 เพื่อความสบายใจของผู้ใหญ่ครับ เพราะถ้ารู้ว่าเด็กมันเอากัน จะรู้สึกว่าเด็กมันไม่ได้น่ารักน่ากอดเหมือนเดิม เรื่องพลาดท้องนั้น ไม่เกี่ยว เป็นแค่ข้ออ้าง เพราะถ้ากลัวเด็กจะท้อง ก็คุมกำเนิดให้เด็กเสียมันก็ตัดปัญหาเรื่องท้อง ไปได้แล้ว แต่มันก็แก้ปัญหาของผู้ใหญ่ไม่ได้อยู่ดี แถมยังเกิดปัญหาใหม่ขึ้นมาเพราะการที่เด็กคุมกำเนิดมันทำลาย ความรู้สึกว่าเด็กมันไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ผู้ใหญ่ไม่ชอบเห็นเด็กเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ ไม่รู้ทำไม จากคุณ : ปลาแสนกวน เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 06:57:19 A:223.207.58.61 X: TicketID:312088

ความคิดเห็นที่ 12 เหมือนถามว่าทำไมคนบ้าถึงทำอะไรบ้าๆ ถามหาเหตุผลจากวัฒนธรรมไทยและค่านิยมไทย...ไม่ค่อยเจอหรอกครับ จากคุณ : Zeichnung (Zeichnung) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 08:02:38

ความคิดเห็นที่ 13 . . วุฒิภาวะของเด็ก ค่านิยม ประเพณี เราต่างกันค่ะ.. แม้แต่ทัศนคติที่มีต่อความบริสุทธิ์ของผู้หญิง ก็ยังต่างกันค่อนข้างมากด้วย... ผู้ใดเกิดเป็นสตรีอันมีศักดิ์ บำรุงรักกายไว้ให้เป็นผล สงวนงามตามระบอบให้ชอบกล จึงจะพ้นภัยพาลการนินทา เป็นสาวแซ่แร่รวยสวยสะอาด ก็หมายมาดเหมือนมณีอันมีค่า แม้นแตกร้าวรานร่อยถอยราคา จะพลอยพาหอมหายจากกายนาง --- จากสุภาษิตสอนหญิง สุนทรภู่---- แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 08:26:00 จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 08:25:26

ความคิดเห็นที่ 14 ป้องกันดีกว่าแก้ไขครับ ทำดีกว่าไม่ทำ จากคุณ : NeoTokyo เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 08:29:50

ความคิดเห็นที่ 15 มิตินึงที่ผมมองเกี่ยวกับการรักนวลสงวนตัวคือการที่สังคมมองผู้หญิงเป็น "ของ" ของผู้ชายครับ พรหมจรรย์เป็นสิ่งมีค่า ต้องเก็บไว้ให้ "สามี" ในมุมมองของผม ยิ่งรณรงค์ให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัวเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มความสามารถของสังคมในการกดขี่ผู้หญิงเท่านั้น มุมมองผมอาจจะแปลกไปหน่อยนะครับ ^^" จากคุณ : outsider_from_within เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 08:32:41

ความคิดเห็นที่ 16 คิดว่าควรจะสอนเด็กให้รู้รายละเอียดต่าง ข้อดีข้อเสีย ที่เราคิด แต่เค้าจะคิดเหมือนเราหรือไม่ ก็ให้คิดเอาเอง ว่าเป็นยังไง ให้ใช้สมอง สติ ไม่ใช่ฮอร์โมน แต่ถ้าวันนึงเกิดท้อง ให้ออกจากบ้านไปทำมาหากินเลี้ยงตัวเอง และลูกได้เลย เพราะก่อนจะท้อง มันผ่านขบวนการมาเยอะแล้ว แสดงว่าคิดแล้ว ใช้สมองแล้ว ไตร่ตรองมาแล้ว เพราะฉะนั้น ควรจะต้องรับผลของการตัดสิน และ การกระทำของตัวเอง เด็กที่ท้อง ไม่ใช่เด็กแล้ว ผู้ใหญ่ชอบคิดเอาเองว่า ยังเด็ก จากคุณ : เหอ...เหอ... เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 08:34:03

ความคิดเห็นที่ 17 มันก็เหมือนเหตุผลเดียวกับที่เราไม่ให้เด็ก 15-16 มาขับเครื่องบิืนให้นั่นแหละครับ จากคุณ : Silent-Viper เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 08:40:01

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าควรไปคุมเข้มวัยรุ่นชายดีกว่าครับ เพราะส่วนตัวคิดว่าวัยรุ่นหญิงต่อให้แรดยังไงก็ไม่อยากมีเซ็กต์ก่อนเวลาอันควรหรอกครับ(อาจมีส่วนน้อยที่อยาก) ด้วยว่าปัญหาเยอะซึ่งเราๆท่านๆก็รู้กันอยู่ ส่วนวัยรุ่นชายนะมันหื่นอยากมีเซ็กต์ตลอดเวลา พอมีเซ็กต์เกิดหญิงท้องก็หาข้ออ้างว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง ลูกใครก็ไม่รู้ ไม่รับผิดชอบ บอกให้ฝ่ายหญิงไปทำแท้ง(กรณีนี้ฝ่ายหญิงที่ยังไม่พร้อมจะมีลูกก็คงทำ) ผลักภาระให้ฝ่ายหญิงเพียงฝ่ายเดียวส่วนตัวเองก็เดินตัวปลิวสบายๆ จากคุณ : DEVIL PHOENIX HELLSING เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 08:52:55

ความคิดเห็นที่ 19 ตปท ก็ไม่ใช่ว่าพ่อแม่จะเห็นดีเห็นงามที่ลูกๆ ไปร่วมเพศกับเด็กคนอื่นๆนะครับ เพียงแต่มันควบคุมลูกๆได้ยากมากกว่า ลองคิดว่าเป็นลูกชายหรือลูกสาวคุณดูสิครับ อายุสัก 13-14 คุณชอบที่เห็นลูกคุณไปมีเพศสัมพันธ์กับเด็กอายุ 13-14 เท่าๆกันหรือครับ จากคุณ : kuzibimun เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 08:53:57

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่า เค้ารณรงค์ไม่ให้ "ตั้งครรภ์" ก่อนวัยอันควรมากกว่านะครับ อันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่เรื่องมีเพศสัมพันธ์ หรืออยู่ด้วยกันก่อนแต่ง สมัยนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องธรรมดานะ ลองเทียบดูสิ สมัยรุ่นพ่อแม่เรา อายุยี่สิบต้น ๆ ก็ได้แต่งงานกันแล้ว ยิ่งคนบ้านนอก แต่งงกันตั้งแต่อายุ 17-18 แต่รุ่นเรา โดยเฉพาะคนชั้นกลาง กว่าจะได้แต่ สามสิบกว่า บางคนซัดเข้าไปเกือบสี่สิบ ด้วยอายุดังกล่าว หลายๆ คนคงเริ่ม "เสื่อมสภาพ" ก่อนมีเพศสัมพันธ์กันไปแล้วครับ ปล. เด็กวัยรุ่นเมืองนอก มันก็ไวไฟพอ ๆ กับของบ้านเรานะครับ จากคุณ : เตยทะเล เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 09:05:26

ความคิดเห็นที่ 21 ผมโทษระบบของเมืองไทยด้วย ที่ทำไห้เด็กทำงานหางานได้ลำบาก เพราะเราไม่ส่งเสริมเรื่องนี้เลย มัวแต่คิดว่าเด็กไม่ควรทำงาน แค่เรียนเรื่องไร้สาระที่ไม่ได้เอาใช้จริงก็มากพอแล้ว บลาๆๆ ผลก็คือเด็กทำงานเองไม่ได้ จริงๆเรื่องพวกนี้ควรจะปลูกฝังตั้งแต่เด็กๆเลย ไห้รับผิดชอบทำงานอะไรเล็กน้อยบ้าง คห.18 จะโทษเพศเดียวกันหรือจะตอบทำเท่ย์ก็เกินเหตุไปน่ะ ทุกวันนี้ครอบครัวเด็กผู้หญิงเยอะที่ไม่สนใจเลี้ยงดูลูกหลาน สุดท้ายก็ตามผู้ชายใจแตก จากคุณ : AEOU เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 09:22:38 A:223.206.129.60 X: TicketID:165031

ความคิดเห็นที่ 22 โครงสร้างกฏหมายคุ้มครองเยาวชนของเราตรงนี้เป็นการเก็บเด็กในสภาวะปลอดเชื้อ โดยตลอดที่อยู่ในสภาวะปลอดเชื้อก็ไม่ได้ปูทางให้ได้มีการเรียนรู้ที่จะดูแลตนเอง เด็กจบใหม่มาหลายๆคนยังไม่รู้เรื่องวิธีการรับผิดชอบต่อตนเองด้วยซ้ำละครับ เด็กฝรั่งที่ "มี" วุฒิภาวะมันก็มาจากการที่ต้องรับผิดชอบ จากระดับงานในบ้าน การเก็บตังค์ทำงานพิเศษหาเงินซื้อของที่ตนต้องการ ซึ่งมันค่อยๆมีการปล่อยให้รับผิดชอบมากขึ้นเรื่อย การศึกษาบ้านเราเป็นแบบป้อนเข้าปาก แม้จะพยายามทำให้เกิดเป็น Child Centre แต่ผมว่ามันยังห่างไกล โดยเฉพาะการที่จะเกิด Child Centre ได้ เด็กต้องมีความสงสัย หรือมีการเปิดให้เด็กได้พบประสบการณ์ใหม่ ให้ได้มีการเรียนรู้ที่มาจากนอกห้องเรียน บ้านเราเอะอะอะไรก็ห้ามเอาถ่ายเดียว ต่อคำถาม จขกท คิดว่าทั้งรัฐบวม ฝ่ายแค้น รวมถึงประชาชนผู้เสียภาษีของประเทศเทยเราเชื่อว่า การเก็บเด็กไว้ในเรือนแก้วนานๆ จะทำให้เด็กมีวุฒิภาวะเกิดขึ้นได้เองโดยไม่ต้องอาศัยข้อมูลประสบการณ์จากภายนอกครับ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 09:40:38

ความคิดเห็นที่ 23 ความเห็น 15 ผมไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกันเลย การรักษาไว้มันก็ดีกับทุกเรื่อง ทั้งเรื่องท้อง ติดโรค จะรักนวลสงวนตัวหรือไม่ แต่ถ้าไม่มีกึ๊น คอยแต่จะเกาะผู้ชาย สุดท้ายก็โดนเค้าทำตามใจได้อยู่ดี แต่ถ้าฉลาด รู้จักทำงานบ้าง ผู้ชายก็จะเกรงใจมากขึ้น พวกที่โดนสามีซ้อม ใช่ว่าจะครองพรมจรรย์ก่อนแต่งกันหมดซะที่ไหน มันคนล่ะเรื่องกันเลย จากคุณ : AEOU เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 09:45:14 A:223.206.129.60 X: TicketID:165031

ความคิดเห็นที่ 24 รณรงค์ไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรเพื่อ - ป้องกันผลที่ตามมา ซึ่งพวกเด็กๆยังไม่สามารถรับผิดชอบ/รับมือกับมันได้ แต่แน่นอนว่า เด็กๆย่อมอยากรู้อยากเห็นอยู่แล้ว มันเป็นร่างกายของเขา และเป็นร่างกายของเพศตรงข้ามเขา ควรจะให้ความรู้กับเขาอย่างเปิดเผย ไม่ใช่ว่า วิชาเพศศึกษา อ.ยังทำหน้ากระอักกระอ่วนใจที่จะเล่า จะโชว์ภาพ แล้วเด็กมันจะถามความจริงกับใคร ล่าสุดที่เราเจอเรื่องตลกๆก็คือ - เฮียสรยุทธพูดออกข่าวเกี่ยวกับเรื่อง ผู้หญิงซ่อนยาบ้าไว้ในช่องคลอด แล้วก็คอมเม้นมาว่า "แล้วเวลาปวดฉี่จะทำยังไง" (มันคนละช่องนะเฮีย) = ='' - จากกระทู้ห้องเฉลิมไทยก็เลยมีคนมาแปะกระทู้ว่าด้วยเรื่องเหตุการณ์ใน topicstoc ว่ามีผู้ชายมาตั้งกระทู้ถามว่า "ผู้หญิงกลั้นประจำเดือนไม่ได้หรือคะ" - ยิ่งไปกว่านั้นในกระทู้ที่ว่า แม้แต่ตัวผู้หญิงเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีช่องทางปัสสาวะคนละช่องกับช่องคลอด TvT (นี่มันร่างกายตัวเองนะ???!!) เพศศึกษาประเทศเรามันยังไงๆ แล้วล่ะค่ะ = ='' จากคุณ : SICKHEART เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 10:41:22

ความคิดเห็นที่ 25 วัยรุ่นไทย ส่วนใหญ่ยังเป็นเด็ก ยังเรียนหนังสือ ยังหารายได้เองไม่ได้ หากมีลูกในวัยเรียน อาจจะเป็นภาระให้กับตนเอง  และครอบครัว (พ่อแม่)  ต้องมานั่งเลี้ยงดูบุตรที่เกิดจากความไม่พร้อม คือมันจะมีเรื่องของเศษฐกิจเข้ามา หลายคนทำแท้ง ฆ่าลูกตัวเองในท้อง เพราะความไม่พร้อม บ้านเราสังคมส่วนใหญ่ ยังไม่ยอมรับเรื่องการทำแท้ง เพราะเป็นการทำบาป ผิดศีล ข้อ ปานาติปาตา จึงควรเรียนรู้และมีวิธีที่จะป้องกันที่ถูกต้อง เรื่องอย่างนี้จะเป็นปัญหาให้กับสังคม  เด็กๆวัยรุ่นต้องเรียนรู้ให้มาก  สนุกได้แต่ต้องมีสติ  ผู้ใหญ่ควรชี้แนะให้เห็นโทษ  แต่ไม่ถึงกับห้ามเบ็ตเสร็จเด็ดขาด สอนให้เขาคิดได้เองจะดีกว่า  สื่อยั่วอารมณ์ทางเพศ  ทุกวันนี้เข้าถึงได้ง่ายมาก  ถ้าจะไปปิดกั้นทุกวันนี้ก็ทำได้ยาก จากคุณ : ton T-Square เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 10:54:24

ความคิดเห็นที่ 26 ผู้ใหญ่ โดยเฉพาะพวกแก่กะโหลกกะลาแต่ดันมีอำนาจต้องเข้าใจก่อนนะครับว่า "คนเอากันเป็นเรื่องธรรมชาติ" จากนั้น ความกระแดะจะหายไป ความเข้าใจจะตามมา เราไม่ควรสอนว่าห้ามเอากัน แต่เราควรสอนว่าถ้าจะทำ มีความเสี่ยงอะไรบ้าง และอะไรคือราคาที่คนสองคนจะต้องจ่ายหลังจากเอากัน ตอบ จขกท. - สอนเพื่อให้เก็บเด็กไว้ในสภาพปลอดเชื้อตามคุณ Darth Prin ครับ จากคุณ : สันป่าตอง เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 11:10:27

ความคิดเห็นที่ 27 ...ที่เรารณรงค์ไม่ให้คนไทยมีเพศสัมพันธ์ก่อนเวลาอันควรเนี่ย เราทำเพื่ออะไรกันแน่ ? -ป้องกันการตั้งครรภ์ -ป้องกันโรคติดต่อ -สืบสานประเพณีอันดีงาม (รักนวลสงวนตัว?)... v v ค่านิยม ตรงนี้ มีการเคลื่อนไหว โดยในอดีต จะให้ความสำคัญ จาก ล่างขึ้นบน แต่ในปัจจุบ้น จะให้ความสำคัญ จาก บนลงล่าง เนื่องจากสภาพสังคม และ ค่านิยมเรื่องความเท่าเทียม ทำให้ข้อ ล่างสุด ลดน้ำหนักลงไปมาก โดยสองข้อบน จะก่อให้เกิดปัญหาต่อเนื่องได้ เช่น ถ้าติดโรคร้ายแรง เช่น เอดส์   ซึ่งจะทำให้ชีวิตตนเอง และครอบครัว อาจเกิดการหักเห หรือ พังทลาย ไปได้เลย ถ้าเป็นโรค แบบ ทายาหม่องแล้วหาย ก็คง ไม่ใช่ประเด็นอะไร ซึ่งอนาคต หากมียารักษา ได้ง่ายๆ และ ราคาถูก ประเด็นนี้ จะถูกลดน้ำหนักลงไป แบบข้อ ล่างสุด เช่นกัน ส่วน  ข้อบนสุด คือ เป็นเรื่อง ชีวิตและสวัสดิภาพของเด็ก เพราะ การเด็กที่เกิดมา ในสภาวะที่ไม่พร้อม ต่อการเลี้ยงดู ในเงื่อนไขที่เหมาะสม อาจเป็นการ ฆ่าเด็กคนนั้น ทั้งเป็น ตั้งแต่เกิด - - - ดังนั้น โดยความเห็นส่วนตัว ประเด็น ไม่ได้อยู่ที่ว่า ประเด็นของการ รณรงค์ เป็นแบบใด ประเด็นอยู่ที่ว่า แต่ละคนในสังคม แล ะหน่วยย่อย ในระดับครอบครัว (ในแต่ละประเทศ) มีค่านิยม และ ปลูกฝัง กันมาอย่างไร ...ต่างหาก... แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 11:25:01 จากคุณ : The Rounder เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 11:20:37

ความคิดเห็นที่ 28 วัยอันไม่ควร เหมือนวัยที่หัดเดินครั้งแรกแล้วยังไม่เคยล้ม พอล้มครั้งแรกถึงจะรู้ว่าเจ็บ เมื่อรู้ว่ามันเจ็บก็จะระวัง แต่การล้มเรื่องเพศ ถ้าล้มครั้งแรกก็ทุกข์ยาวเลย วัยอันควร คือ วัยที่พร้อมแล้วที่จะระมัดระวัง และพร้อมจะรับผิดชอบกับทุกสิ่งที่ไม่ได้คาดหวัง จากคุณ : ของเล่นใหม่ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 11:24:43

ความคิดเห็นที่ 29 มีหลายประเด็น หลักๆก็ 1.ค่านิยม เรื่องผัวเดียวเมียเดียว เป็นผัวเมียกันแต่เด็ก โอกาสเลิกร้างมีใหม่มีมากกว่า ถ้าค่านิยมนี้หมดไป คนนิยมการสวิงกิ้ง ปัญหานี้ก็หมดไป แต่จะมีปัญหาใหม่นั่นก็คือการมั่ว เพิ่มโอกาสแพร่กระจายของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งปัจจุบันเองก็มีปัญหาอยู่ประปราย 2.การตั้งครรภ์ก่อนวัย ปัญหานี้แก้ได้โดยวิทยาการคุมกำเนิด 3.โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มีโอกาสแพร่กระจายได้ง่ายกว่าเดิม ปัญหานี้แก้ได้ถ้ากาศึกษาและความมีวินัยมีมากพอที่จะป้องกันตัวเองทั้งสองฝ่าย แต่ก็ยากเพราะมักมีคนไม่ชอบการมีกฎเกณฑ์อยู่บ้างเป็นธรรมดา 4.ความนิยมสาวบริสุทธิ์ อาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องคู่ครองภายหลัง ถ้าค่านิยมนี้น้อยลงไป ปัญหาก็หมดไป แต่สาวบริสุทธิ์อาจจะหายากขึ้นและขาดตลาด นำมาซึ่งประเพณีแปลกๆเช่นให้หมอตรวจเพื่อรับใบเซอร์ 5.แนวคิดการมีความสัมพันธ์กันฉันพ่อแม่ลูก เช่น ผัวเมียเป็นของกัน มือที่สามคือชู้เข้ามาแทรกนั่นคือผิด พ่อแม่กับลูกเป็นเจ้าของความสัมพันธ์ฉันพ่อแม่ลูกนี้ มีหน้าที่ความรับผิดชอบต่อกัน เช่นพ่อแม่เลี้ยงดูลูก ลูกเรียนรู้โลกตรากรอบของพ่อแม่ ถ้ามีมือที่สามมาแทรกโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของความสัมพันธ์ก็ผิด แต่ถ้ามาขอกันดีๆ และตกลงกันได้ ความสัมพันธ์ก็ขยายขึ้นเป็นลูกเขยลูกสะไภ้เป็นต้น ถ้าแนวคิดเรื่องความสัมพันธ์กันฉันพ่อแม่ลูกหมดไป ปัญหานี้ก็หมดไป แต่จะมีปัญหาใหม่เช่นเด็กเกิดมาไม่มีใครอยากเลี้ยงเพราะเสียงบประมาณที่ใช้จ่ายเรื่องอื่นๆโดยไม่เห็นมีประโยชน์อะไร คนไม่อยากมีลูกเพราะแค่เอากันก็มันส์พอแล้ว มีลูกเท่ากับมีคนมาแบ่งทรัพยากรไป ถ้าแก้ปัญหาเรื่องการเลี้ยงลูกได้เช่น มีบริการเลี้ยงลูกของรัฐโดยเก็บทรัพยากรจากภาษีส่วนรวม ปัญหานี้อาจจะหมดไป 6.ปัญหาเรื่องร่างกายจิตใจของคนมีการเติบโตและมีความพร้อมแตกต่างกัน ถ้ามีอะไรกันเร็วเกินไป มีโอกาสที่จะมีอะไรกันโดยที่ไม่มีความพร้อม อาจจะทำให้เกิดปัญหาทีหลัง ปัญหาก็ง่ายเกิดจากคนไม่อยากแก้ปัญหา เลยอยากป้องกันไว้ก่อน ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ปัญหาท้องทำแท้งก็ยังมีปรากฎอยู่ ปัญหาหลายอย่างก็มีอยู่โดยที่ไม่ได้แสดงอาการเด่นชัด ผมว่าการฝังยาคุมก็เป็นแนวคิดที่ดี ถ้ามีงบประมาณพอ แต่จะคุ้มมั้ย ไม่สามารถบอกได้ จากคุณ : spiderman เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 11:35:26 A:110.168.121.143 X: TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 30 ตอนมีแฟน :: แม่ไม่ต้องมาห่วงหนูหรอกน่า หนูโตแล้ว รับผิดชอบตัวเองได้แล้ว ตอนพลาดท้องจนมีลูก :: แม่เลี้ยงหลานหน่อยสิ หนูยังเด็กอยู่เลี้ยงไม่ไหวหรอก ความรับผิดชอบยังน้อยเกินไปนั่นเอง จากคุณ : กระป๋องด๋อย เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 11:40:45

ความคิดเห็นที่ 31 ผมจะบอกให้ครับจริงๆแล้วมีอะไรหลังแต่งงานดีที่สุด ของไทยทำไว้ดีอยู่แล้วตั้งแต่ไหนแต่ไร รวมทั้งของจีนด้วย จริงๆก็มีหลายชาติที่ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ทำไม ก็เพราะการมีเพศสัมพันธ์มันเป็นความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่เพียงกาย แต่จิตใจก็เกี่ยวด้วย แต่พวกฝรั่งมันเป็นพวกริเริ่ม ให้ดูเป็นของสนุกเล่นๆได้ อยากมีกับใครก็ได้ มีก่อนแต่งก็ได้ สรุปแล้วฝรั่งก็เลยมีการหย่าร้างกันมากตั้งแต่สมัยก่อน ตอนนี้ผู้หญิงไทยที่เสียตัวไปแล้ว ก็พยายามสร้างค่านิยมว่า ไม่ผิดที่จะมีอะไรก่อนเป็นเรื่องปกติ ธรรมดาไปแล้ว ผู้ชายที่ต้องรับผู้หญิงที่เคยเสียตัวมาแล้วเป็นแฟน ก็ออกมาช่วยด้วย บอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ อย่าหัวโบราณ ถ้าจะหาหญิงบริสุทธิ์ต้องไปจองตั้งแต่อนุบาล บางคนบอกต้องไปรอหน้าห้องคลอด นี่คือองุ่นเปรี้ยวครับ ผมเคยเห็นคนที่มาตั้งกระทู้ว่าแฟนสาว เคยเสียตัวมาแล้ว ก็จะมีกลุ่มพวกนี้อะแหละครับ มาช่วยกันด่า คนที่คิดมากกันใหญ่ แล้วก็มาสร้างค่านิยมกันใหม่บอกเป็นเรื่องปกติแล้วคิดอะไรมาก ถ้ารักก็ไม่ต้องคิดมาก แต่ถ้าถามว่าให้ย้อนไปจะยอมเสียมั้ย กับคนที่จะไม่ได้แต่งงานด้วย ลองคิดดูสิครับ เพราะฉะนั้นคุณผู้หญิง คุณผู้ชายครับ อย่าไปเชื่อครับโดยเฉพาะ ผู้หญิงไทย  คุณเสียเปรียบมากครับ ถ้าไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายก่อนแต่งงาน ผู้ชายไทยสังคมไทย ยังไม่เหมือนกับฝรั่งหรอกครับ  ต้องรออีกนาน แต่มีสิ่งนึงที่ชัวร์ก็คือ ถ้าผู้ชายคนนั้นรักคุณจริงเค้าต้องรอได้ครับ แล้วเราจะไปยอมคนที่ไม่รักจริงทำไมหละครับ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 11:47:57 จากคุณ : ็HMC (HMC) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 11:44:59

ความคิดเห็นที่ 32 คห.15 มุมมองของคุณไม่แปลกไปหรอกครับ ของผมสิแปลกกว่า ไอ้คำพูดที่ว่า ผู้ชายกดขี่มันเป็นคำพูด classic ไปแล้ว น่าเบื่อพอๆกับคำว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นั่นแหละ คำก็กดขี่ 2คำก็กดขี่ ฟังแล้วสลด อย่างค่านิยมถือพรหมจรรย์เนี่ยคน ตจว.เขาไม่ถือกันหรอกครับเพราะมันหนัก ถ้าสังคมเมืองก็มีบางส่วนที่ยังยึดถือกันอยู่แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร ไม่เช่นนั้นคงขึ้นคานเกือบทั้งประเทศเพราะคนที่ยังรักนวลสงวนตัวจริงๆคงมีไม่มาก คนดังในสังคมก็ไม่เห็นเดือดร้อนอะไรมีผัวแล้วก็มีอีกต่อไปได้ เห็นคนแต่งงานใหม่ก็เยอะแยะ ในอดีต นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ก็รณรงค์ให้เด็กรักนวลสงวนตัว จะโทษฝ่ายชาย ฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกนะครับ ผู้หญิงเองก็พร่ำสอนลูกชายมาแบบนี้ พอลูกชายอยากได้หญิงสาวบริสุทธิ์จะไปด่าเขาว่าเห็นแก่ตัวก็ไม่ได้ ก็สังคมสอนมาทิศทางเอง มันช่วยไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 11:51:32 จากคุณ : ด้านมืดในใจคุณ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 11:47:31

ความคิดเห็นที่ 33 ทำเพื่อให้มีอะไรทำ ถ้าไม่ทำ มันก็ไม่มีพื้นที่ในสื่อ คนอยากมีชื่อเสียง ถ้าไม่มีใครสนใจ มันจะคลั่งเอา มันเลยต้องคิดมุขอะไรมา ให้ตัวเองได้พูด ได้วิจารณ์ ทีนี้ เพศสัมพันธ์ มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ชาวบ้านเข้าใจได้ มันก็เลือกเลยดิ เอาละวะเรื่องนี้ กูพูดได้เรื่อยๆ ยังงัยมันต้องมีเด็กเกิดปัญหา เป็นข่าวมาให้กูเล่นได้เรื่อยๆอยู่แล้ว นั่นจึงเป็นที่มาของ การรณรงค์ไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ก่อนเวลาอันควร จากคุณ : คนเรียนน้อย เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 11:54:45 A:58.8.63.71 X: TicketID:319549

ความคิดเห็นที่ 34 มันอาจจะกลายเป็นดาบ2คมได้ คือถ้าไปคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งท้องนี่เห็นด้วยครับ แต่ว่าถ้าคุมกำเนิดแล้วคุณก็อาจจะไม่ใส่ใจเรื่องถุงยางอนามัย ซึ่งปัญหาที่ตามมาคือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ผมเคยคิดเล่นๆนะครับว่าถ้าเราคิดค้นยารักษาโรคเอดส์แบบ100% แล้วคนจะไม่เพศสัมพันธ์แบบระมัดระวังมากขึ้นหรือไม่ ผมคิดว่าไม่นะครับ อาจจะหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 12:28:04

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามาดูวิสัยทัศน์ จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 13:18:38

ความคิดเห็นที่ 36 หลักน่าจะเป็นเรื่องการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ เพราะจะมีปัญหาตามมาอีกมาก ทีนี้อาจจะเพราะ - ความรู้เรื่องการป้องกันการตั้งครรภ์ของเด็กไทยยังไม่ดีพอ - มีผู้ใหญ่มือถือสากอีกเยอะ ทำให้การป้องกันการตั้งครรภ์ กลายเป็นเรื่องเดียวกันกับการงดเว้นเพศสัมพันธ์ ผมเห็นด้วยนะ ถ้าจะให้มีการขายถุงยางอนามัยในสถานศึกษา และมีการให้สุขศึกษากันอย่างเปิดเผยมากกว่านี้ จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 14:27:19

ความคิดเห็นที่ 37 ด้วยอายุดังกล่าว หลายๆ คนคงเริ่ม "เสื่อมสภาพ" ก่อนมีเพศสัมพันธ์กันไปแล้วครับ >>> Re: คห.20 ยังครับ ยังนะครับ ไม่มีเสื่อม ยังไหวอยู่ ยังไหวครับ จากคุณ : หนอยแน่ ปรามาส.. ฮ่าๆๆๆ (DigiTaL-KRASH!!!) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 14:50:13

ความคิดเห็นที่ 38 ดูกรนักวิทยาศาสตร์  เจ้าจะต่อต้านไปใย  ในเมื่อเจ้าเข้าใจธรรมชาติ การห้ามเป็นสิ่งที่มนุษย์ตั้งขึ้นมาไม่ใช่ธรรมชาติเป็นคนตั้ง  ฉะนั้นจึงห้ามกันไม่สำเร็จ จากคุณ : Dinsosamsi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 15:05:12

ความคิดเห็นที่ 39 "การรณรงค์ไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ก่อนเวลาอันควร"  มันมีเมื่อไรครับ  ผมไม่เห็นรู้เลย ไม่เอาความเห็นของคน สองคนนะครับ ใคร หน่วยงานไหน เป็นเจ้าภาพรณรงค์  ทำไปเมื่อไร  ทำอะไรไปแล้วบ้าง   ไม่เห็นเลยจริงๆครับ จากคุณ : joeymydear เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 15:31:17

ความคิดเห็นที่ 40 #37 ร้อนตัวเหรอครับ แหม ส่วนตัวผมมองว่าความพร้อมและสภาพสังคมเราไม่เหมือนเขาครับ ไม่ได้มองที่ประเพณี แต่มองที่คนสมัยนี้ (ส่วนที่เห็นได้ชัดเจน) เป็นหลัก จากคุณ : LunaticNeko เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 15:40:01

ความคิดเห็นที่ 41 รณรงค์การมีเพศสัมพันธ์ก่อนเวลา"อันควร" ผมไม่เห้นว่ามันจะผิดตรงใหน เน้นให้ดูตรงคำว่าควรครับ เค้าไม่ได้บอกว่า รณรงค์การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่ง พวกที่บอกว่ารณรงค์อย่างนี้ไร้สาระคุณจะบอกว่าเด็กมันอยากมีก็ให้มันมีงั้นหรือ เวลาอันควร ควรจะเป็นเวลาที่คุณมีวุฒิภาวะ ทำงานได้เองหาเงินได้เอง ถึงตอนนั้น จะแต่งไม่แต่ง จะไป เอากันที่ใหน กับใครที่ใหน กี่คนเรื่องของคุณ แต่ไม่ใช่ยังนั่งแบมือขอตังพ่อแม่ เพศศึกษายังเรียนไม่จะจบ แต่นั่งท่องเอาจะเอาแล้ว คนต่างจากสัตว์ตรงที่มีความสามารถตรึกตรองและยับยั้งช่างใจ ถ้าจะเอาจะเอาอย่างเดียวก็ไม่ต่างจากสัตว์ครับ สุดท้ายคุณจะอ้างว่าการเอากันก่อนแต่งดีไม่ดีอย่างไรเรื่องของคุณแต่ส่วนตัวผมยังเห็นว่าการรักษาความบริสุทธิมันเป็น สิ่งดีงามครับ อย่างน้อยมันก็ได้พิสูจน์ว่าผู้หญิงคนนี้มีสติอยู่เหนือฮอร์โมน เหมาะกับการเป็นแม่ของลูก แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 16:02:02 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 16:01:18 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 16:00:09

ความคิดเห็นที่ 42 สงสัยว่าแล้วการมีเพศสัมพันธุ์ก่อนเวลาอันควรเนี่ยะมันดียังไง ไม่จำเป้นว่าคำว่าเวลาอันควรเนี่ยะจะหมายถึงเฉพาะ อายุนะครับ จากคุณ : polyodon เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 16:08:05

ความคิดเห็นที่ 43 คุณพุดถึง แถบสแกนดิเนเวีย เพื่อนผม คนหนึ่ง อยู่ สวีเดน พออายุเริ่ม 12 ปี เค้าก็ต้องหาเงินเรียนเองแล้วครับ   14 ปี บางครั้งต้องออกไปอยู่คนเดียว หาเลี้ยงตัวเองกันแล้ว คืออายุ 14 ปี พ่อแม่จะไม่ส่งแล้ว ให้ไปหาเงินเอง แถมออกไปอยู่ส่วนตัวด้วย แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 16:54:19 จากคุณ : มังกรจักรวาล เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 16:52:49

ความคิดเห็นที่ 44 ดัดจริต บังหน้า หาโอกาสใส่ตัว แบบปีศาจคาบคัมภีร์ มีทั่วโลก แต่เราไม่มองสังคมในประเทศอื่น ทุกแง่มุม พวกเข้าจีต บางกลุ่มเคร่งกว่าเราอีก เมกามีโทษร้ายแรง ถ้าจับได้ว่าละเมิดเด็ต่ำกว่า15ปี บางประเทศน้องๆประหาร อย่างโซเวียตเก่า แต่จขกท. เล่ามา งงที่ว่าฉีดยาคุม แต่ไม่กลัวติดเชื้อหรือ ไม่สัมพันธ์กัน หรือประเทศที่ว่าปลอดเชื้อ ไม่น่าเป็นไปได้ น่าจะสืบพันธุ์เร็ว แบบข้ามอายุง่ายด้วย น่ากลัวมากกว่าปลอดภัย เสือเฒ่า กับสาวน้อย เป็นของคู่กัน มากกว่าเด็ก-เด็กด้วยซ้ำ แต่กินในที่ลับ ไม่ไขในที่แจ้ง จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 17:03:54

ความคิดเห็นที่ 45 กำลังนึกว่าค่านิยมและจารีตเหล่านี้ เริ่มต้นตอนไหน? ในเมื่อสักร้อยปีที่แล้ว บ้านเรายังนิยมถวายเด็ก อายุ13-14 ให้เจ้านายหรือขุนนางเอาไว้เป็นนางบำเรอหรือแต่งเป็นอนุฯอยู่เลยนี่นา บางคนบอกเป็นวาสนาเสียอีก จะได้มีหน้ามีตา เดี๋ยวนี้ก็ยังมีนะ แต่ปิดข่าวกันในวงเครือญาติกันเท่านั้่น (ส่วนใหญ่จะอ้างว่าเอามาทำงาน :P) แล้วเราเริ่มจำกัดระบบ ผัวเดียวเมียเดียว และจำกัดอายุในการแต่งงานกันตอนไหนหนอ? เพราะถ้าจะอ้างวัฒนธรรมไทยเก่าๆ ย้อนไปดู มันคนละเรื่องกับสมัยนี้อย่างสิ้นเชิงก็ว่าได้ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 17:39:01

ความคิดเห็นที่ 46 เรื่องการคุมกำเนิด มีทั้งสอนทั้งห้ามมาตั้งแต่ ป.5 ป.6 จนถึง ม.ต้นและ ม.ปลาย แต่ก็ยังไม่วายมีมาตั้งกระทู้ ..... อย่างนี้จะท้องไหม..?? เชิญชมได้ที่ห้องสวนลุม จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 17:52:43

ความคิดเห็นที่ 47 ผมอ่านกระทู้นี้แล้วผมก็นึกถึงดาราสาวคนหนึ่ง พอมีข่าวลือว่า เธอท้อง เธอก็ไปตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะลงข่าว อือ ทำไมไม่ออกมาบอกว่าไม่เคยมีอะไรกับใครนะ แล้วก็จบ งง จริงๆ จากคุณ : NMT@STUT เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 18:27:16

ความคิดเห็นที่ 48 ดาราสาวท่านนั้นก็ทำถูกวัตถุประสงค์แล้วไงคะ คนมาลือว่า "เธอท้อง" เธอก็พิสูจน์แล้วว่าเธอไม่ได้ท้องด้วยการ "ตรวจปัสสาวะ" ส่วนเรื่องเธอจะไปทำอะไรกับใครที่ไหน มันคนละประเด็น อีกอย่าง.. การไปมีอะไรกับใครมันเป็นเรื่องส่วนตัวมาก จำเป็นต้องออกสื่อด้วยเหรอ ? จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 21:11:43

ความคิดเห็นที่ 49 ตกลง การฝังยาคุมที่ท้องแขน ใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไรครับ อยากฝังบ้างถ้ามีลูกสาว แล้วอยู่ได้นานแค่ใหนครับ จากคุณ : LazyEater เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 21:51:33

ความคิดเห็นที่ 50 ^ 49 ไม่ดีนะคะ แบบฝังแบบฉีด ประจำเดือนจะไม่มา แล้วหน้าจะดำ ฝ้าจะมาเยือน ถ้าคุมพฤติกรรมไม่ได้ ก็ให้กินยาคุมไปเลย แบบพ่อแม่รับรู้และคอยเตือนไปเลย ดีกว่าวัวหายล้อมคอก แถมเด็กๆหน่ะยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ ยิ่งห้ามยิ่งอยากทำ หึหึ หลานแฟนหนูอะ เด็กผู้ชาย 6 ขวบ ยืนตากฝนรอพ่อแม่มารับ แล้วคนข้างบ้านเค้ามาชวนให้เข้าไปรอในบ้านเค้าก่อน เดี๋ยวจะไม่สบาย แล้วมันก็ค่ำแล้วด้วย หลานแฟนตอบพี่คนนั้นว่า ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวผัวพี่คิดมาก - -* เอิ่มมมมม จากคุณ : ynwtf เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 23:09:10

ความคิดเห็นที่ 51 คนจนเงินซื้อยาคุมมันยังลำบากเลย จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 23:19:16

ความคิดเห็นที่ 52 ^ แบบถูกๆก็มีค่ะพี่ ขอที่อนามัยก็ได้ เขาก็แจกเหมือนถุงยางนั่นหละ จากคุณ : ynwtf เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 00:32:56

ความคิดเห็นที่ 53 เค้ารณรงค์กันเพื่อป้ิองกันเด็ก แต่ดันมีผู้ใหญ่มาร้อนตัวแทนเด็กซะงั้น ถ้าเด็กเห็นว่าคนในสังคมไม่ยอมรับ เด็กก็จะชั่งใจก่อน มันก็ดีกับทุกฝ่าย ไม่ต้องมีข่าวทำแท้งวันล่ะ20-30คนออกมา วันข้างหน้ามีลูกสาว แล้วลูกสาวอายุ15มาบอกว่า"หนูจะไปเอากับผู้ชายน่ะ" สงสัยคนที่ห้ามรณรงค์ก็คงเฉยๆกัน พร้อมยื่นถุงยางไห้ จากคุณ : AEOU เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 05:25:53 A:223.206.233.67 X: TicketID:165031

ความคิดเห็นที่ 54 ที่จริงเด็กน่ะ อายุ 12 - 13 ก็อาการออกแล้ว.. - -" แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 14:09:53 จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 14:09:09

ความคิดเห็นที่ 55 #47 #48     เค้าโปรโมทสินค้าของบริษัทเค้า  ไม่เห็นรึไง แบคดรอปข้างหลังมโหฬารขนาดนั้น ออกสื่อทุกช่อง จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 14:27:11

ความคิดเห็นที่ 56 ให้อยู่เป็นเด็กไป นานๆ ครับ จากคุณ : Aloner เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 17:21:18

ความคิดเห็นที่ 57 คุณ ARMS STRONG เราไม่ได้ตามข่าวดารา เราแค่ตอบความเห็นก่อนหน้าค่ะ จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 00:56:01

ความคิดเห็นที่ 58 เข้ามาโหวต จากคุณ : ช่างบ้านนอก เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 18:41:47