ความคิดเห็นที่ 1 ....       ถ้าจะลงทุนขนาดนั้น ไปซื้อน้ำมันปลา Fish Oil (ไม่ใช่น้ำมันตับปลานะ) 1000 mg มาทานเลยดีกว่าครับ กระปุกหนึ่งมี 100 เม็ด กินวันละ 1 เม็ดพร้อม อาหาร ขวดหนึ่งตกประมาณ 500 บาท     ส่วนถ้ากินมากมีผลไหม มีผลก็คือ เลือดแข็งตัวอยากครับ และกินร่วมกับ ยาตะกูลแอสไพรินไม่ได้ เพราะเป็นยาต่อต้านการแข็งตัวของเลือดอยู่แล้ว    แต่ข้อดีมากมายครับ เช่นลดการอักเสบทั้งจากแผลหรือตามข้อต่างๆ ลองหา อ่านดูครับ ที่บ้านกินมาตั้งแต่เด็กครับ เวลาเป็นหวัดไม่เคยเจ็บคอ พอเป็นหวัดก็เพิ่ม เป็นวันละสามเม็ดพร้อมอาหาร ก่อนไปบริจาคเลือดสักอาทิตย์หนึ่งก็กินวันละสองเม็ด ครับ เลือดไหลคล่องดี ถ้าปรกติก็วันละเม็ด     นอกเหนือจากนี้ก็มี เลซิติน, สังกะสี, บีรวม ครับ ส่วนน้ำมันที่ใช้ทำอาหารก็เป็น น้ำมันเมล็ดองุ่นกับน้ำมันโอลีฟ(เอ๊กซตร้า) ครับ                                                                                                            ++ จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 16:04:21

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าจะเน้นทานน้ำมันปลา แนะนำปลาสวาย ปลาน้ำจืดไทยราคาถูกที่มีน้ำมันปลาสูงไม่น้อยหน้าปลาแซลมอน แต่ราคาต่างกันหลายเท่าตัวครับ ลองหาข้อมูลในกูเกิ้ลดูได้ครับ จากคุณ : phahurat เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 16:36:12

ความคิดเห็นที่ 3 ไขมันจากปลาเป็นไขมันไม่อิ่มตัว มีประโยชน์ต่อร่างกายครับ รับประทานได้ตามสะดวก แต่ที่ว่า "เหมือนเคยอ่านเจอว่าถ้าเป็นปลาเลี้ยงแทนที่จะให้ประโยชน์ แต่กลับจะเป็นโทษซะมากกว่า" นั้นก็จริงครับ เพราะปลาเลี้ยงถูกเลี้ยงในพื้นที่จำกัด ซึ่งแตกต่างจากปลาตามธรรมชาติทั่วไป เพราะเนื่องจากธรรมชาติของปลานั้น เมื่อตัวมันไม่สบายเป็นโรค หรือมี parasite มันจะเครียด และปล่อยเมือกออกมา โดยเมือกจะเป็นสารประกอบโปรตีน หากอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติก็มักจะถูกเจือจางโดยมวลน้ำที่ไหลเวียน แต่หากอยู่ในพื้นที่จำกัดเมือกนั้นจะกลายเป็นของเสีย อีกทั้งในการเลี้ยงนั้นมักจะมีการใช้สารเคมีในการเลี้ยง ทั้งเป็นยารักษาโรค ยาบำรุง อาหารต่างๆ จึงทำให้ปลาซึมซับสารพวกนี้ไว้บางส่วน แต่ใช่ว่าปลาธรรมชาติจะดีกว่าปลาเลี้ยงเสมอไปเพราะปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมมากมาย ทำให้ปลาในแหล่งน้ำตามธรรมชาติมักจะมีการปนเปื้อนสารเคมีด้วยเช่นกัน แต่ทว่า หากมองรอบๆ ตัวเรามันก็ไม่มีอาหารใดปลอยภัยไปทั้งหมดหรอกครับ ทางที่ดีรับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุก และไม่รับประทานอาหารชนิดเดิมซ้ำๆ เป็นเวลานานๆ เพื่อป้องกันการสะสมสารใดสารหนึ่งในร่างกายมากเกินไป จากคุณ : botia เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 17:36:10

ความคิดเห็นที่ 4 ...เพิ่มเติมครับ    สาเหตุทีใช้น้ำมันสองชนิดคือ น้ำมันเมล็ดองุ่น (Grape Seed Oil ) กับ น้ำมันโอลีฟ ( Extra Virgin Olive Oil ) ก็เพราะว่า น้ำมันเมล็ดองุ่นนั้น ทอดได้ไม่ดีครับ ถ้าใช้ ทอดจะกระเด็นมาก จึงเอาไว้ผัด ส่วน โอลีฟนั้น เอาไว้ใส่สลัดก็ได้ครับ ทอดก็ได้ แต่ถ้าเอามาผัด มันจะเหนียวๆครับ เช่นเอามาผัดข้าว ข้าวก็จะดูมันวาวและติดกันเป็น ก้อนไม่กระจายครับ ถ่ายรูปมาให้ดูครับ ซ้ายมือเป็น Olive Oil ครับ ส่วน ขวามือเป็น Grape Seed Oil จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 20:26:10

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณข้อมูลจากทุกท่านมากครับ จากคุณ : Nova 4 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 22:42:01