 |
เราอาจจะแบ่งช่วงยุคของโซเวียตออกเป็นยุคย่อยๆประมาณนี้ครับ
ปี 1917-1922 เป็นยุคที่เปลี่ยนถ่ายจาก จักรวรรดิ มาเป็นสาธารณรัฐ และจากสาธารณรัฐมาเป็นสาธารณรัฐสังคมนิยม ก่อนจะพัฒนาเป็นสหภาพโซเวียต (ในปี 1922)ช่วงนี้เศรษฐกิจของรัสเซีย-โซเวียตย่ำแย่ครับ เพราะอุตสาหกรรมพินาศไปมากจากสงครามโลกครั้งแรก รัสเซียสูญเสียเงินทองและทรัพยากรไปมากในสงครามโลก และมาถูกซ้ำเติมด้วยภัยพิบัติในช่วงปี 1920-1921 ที่ทำให้หลายพื้นที่อดอยากอย่างรุนแรง มีคนอดตายเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในยูเครนและแถบทะเลดำ
ปี 1922-1927 เป็นยุคที่โซเวียตกำลังพยายามกู้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจครับ เมื่อเลนินถึงแก่อสัญกรรมในปี 1924 ท่านก็ทิ้งรัฐสังคมนิยมแห่งแรกนี้ไว้ให้กับผู้สืบทอดสามคนหลักๆ คือ สตาลิน, ทรอสสกี้ และก็ ซินอเวียฟ ก่อนที่อีก 2 รายจะโดนสตาลินเขี่ยออกจากเส้นทางปฏิวัติไป
ปี 1928-1940 คือยุคสมัยของสตาลิน ที่โซเวียตเดินหน้าสร้างสังคมนิยมอย่างเต็มตัวครับ การปฏิรูป การต่อสู้ทางชนชั้น การพัฒนาทางเกษตรกรรมและอุคสาหกรรมก็เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในยุคนี้แล พร้อมกับการเริ่มส่งออกการปฏิวัติของโซเวียตไปยังชาติต่างๆครับ (อันที่จริงก็ส่งออกมาแต่ปี 1919-20 แล้ว แต่ตอนนั้นรัสเซียยังไม่เข้มแข็งพอจะสนับสนุนพวกปฏิวัติในยุโรปได้เท่าใดนัก และพวกเขาก็ล้มลงไปหมดพร้อมๆกับการเฟื่องฟูของลัทธิฟาสซิสต์แทน)
ปี 1940-1945 คือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งโซเวียตต้องเข้าสู้รบกับเยอรมัน
ปี 1945-1953 คือยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่โซเวียตและสตาลินได้เป็นผู้นำการปฏิวัติของโลกคอมมิวนิสต์สากล โซเวียตกลายเป็นอภิมหาอำนาจคู่กับสหรัฐและทำสงครามเย็นกัน ก่อนที่สตาลินจะถึงแก่อสัญกรรมในปี 1953
ปี 1953-1964 เป็นยุคที่สงครามเย็นถือว่าคุกกรุ่นมากครับ ครุสชอฟยึดอำนาจในพรรคมาได้จากมาเลนคอฟและสหายปฏิวัติในสายของสตาลินนิสต์ และก็ครองอำนาจเรื่อยมาจนถึงปี 1964 ภายหลังวิกฤตการณ์คิวบาที่ทำให้พรรครู้สึกว่าครุสชอฟไปยอมจำนนต่อสหรัฐ พวกเขาเลยรวมหัวกันปลดครุสชอฟ และให้เบรฟเนฟขึ้นครองอำนาจแทน
ปี 1964-1982 เป็นยุคเรืองอำนาจอันยาวนานของเบรฟเนฟครับ และเศรษฐกิจกับพลวัตรในการผลิตของโซเวียตก็เริ่มตกต่ำลงในยุคนี้แล แต่ทว่ากองทัพกลับเฟื่องฟูด้วยการขยายแสนยานุภาพอย่างสุดกู่ การปะทะกับจีนอย่างรุนแรงในเรื่องพรมแดน และสงครามตัวแทนมากมาย รวมไปถึงการส่งกองทัพเข้าไปในอัฟกานิสถาน
ปี 1982-1985 เป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายอำนาจไปสู่คนรุ่นใหม่ครับ พอเบรฟเนฟถึงแก่กรรมในปี 1982 พรรคก็มอบอำนาจแก่แอนโดรปอฟ มือขวาของเบรฟเนฟแทน
แอนโดรปอฟเองก็อายุมากแล้ว ครองอำนาจได้แค่ 2 ปีก็ถึงแก่กรรมครับ อำนาจโดนโอนไปให้กับ เชอร์เน็นโก แทน แต่เชอร์เน็นโกก็ป่วยตายในปี 1985 อีกเหมือนกัน งานนี้ประเทศเลยตกไปถึงมือคนรุ่นใหม่จริงๆอย่าง กอร์บอร์ชอฟครับ
ปี 1985-1992 คือยุคการปฏิรูปของกอร์บอร์ชอฟ ที่พยายามจะเปิดกว้างทางการเมืองและข่าวสาร รวมไปถึงความโปร่งใสในการบริหารพรรค ครับ แต่ก็นำมาซึ่งความขัดแย้งอย่างรุนแรงในพรรคและสังคม จนพวกจักรวรรดินิยมโหมโจมตี และทำให้โซเวียตกับยุโรปตะวันออกล่มลงทั้งหมด
จากคุณ |
:
อุ้ย (digimontamer)
|
เขียนเมื่อ |
:
1 ก.ค. 54 12:45:17
|
|
|
|
 |