 |
ผมก็ศึกษาเรื่องรองเท้าวิ่งจากเวปหมอเจนี่แหละครับ ตอนแรกๆก็ลองผิดลองถูกกับรองเท้าเหมือนกัน จนหลังๆเริ่มมีอาการบาดเจ็บหลายๆจุดทั้งเท้าเข่าและขา จึงศึกษาเพิ่มขึ้นพบว่านอกจากปัจจัยด้านรองเท้าแล้วปัจจัยเรื่องท่าทางการวิ่งและวิธีการฝึกซ้อมก็ให้ผลที่ต่างกันด้วยครับ
รองเท้าวิ่งดีๆราคามักแพงแต่เทคโนโลยีเขาออกแบบมาเพื่อรองรับเท้าและแรงกระแทก โดยฉะเพาะที่ส้นรองเท้า มีทั้งแบบแอร์แบบเจลแบบสปริงแบบของเหลว แต่น้ำหนักที่ลงที่ส้นรองเท้าขณะวิ่งจะมีมากถึง 4 เท่าของน้ำหนักตัว
ฉะนั้นการเลือกรองเท้าวิ่งควรคำนึงถึงน้ำหนักตัวของผู้วิ่งด้วย รองเท้าสำหรับคนน้ำหนักมากกับคนน้ำหนักน้อยนั้นมีพื้นที่มีลักษณะต่างกันครับ รวมถึงความเร็วในการวิ่ง และระยะทางหรือระยะเวลาในการซ้อมแต่ะวันด้วย รองเท้าก็ต่างกันไปด้วย(หมอเจถึงมีรองเท้าหลายร้อยคู่เพราะท่านซ้อมวิ่งหลายๆแบบครับ อิอิ)
แต่สิ่งที่เรามักจะมองข้ามกันคือท่าทางการวิ่งครับ โดยฉะเพาะท่าทางการลงเท้าและบริเวณเท้าที่สัมผัสพื้นถนนหรือลู่วิ่ง เพราะพวกเราทุกคนมักคิดกันว่าคนเราทุกคนเกิดมาเดินเป็นและวิ่งเป้นกันทุกคน ซึงไม่จริงทั้งหมดเราวิ่งเป็นนั้นถูกต้องแต่อาจจะวิ่งแบบใช้แรงงานแบบไม่คุ้มค่า เกิดการเบรคขณะวิ่งณ.เวลาที่เท้าสัมผัสพื้น จังหวะการยกเท้าและเหวี่ยงเท้าก็เช่นกันยกเท้าช้ายกเท้าเร็วก็มีผลต่อระสิทธิภาพของการวิ่งเช่นกันเราเป็นนักวิทยาศาสตร์อาจต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพและแรงที่จ่ายไปให้คุ้มค่าต่อความเร็วที่ได้คือนมาครับ อิอิ
แนะนำให้ศึกษาจากตำราการวิ่งครับเดี๋ยวนี้มีวีดีโอคลิปสอนวิ่งดีๆมากมาย ลองเข้าไปดูในยูทูปก็ได้ตามลิ๊งนี้ไปเลยมีอีกเยอะ ลองศึกษาเทคนิคต่างๆแล้วเอามาปรับใช้ดูครับ การวิ่งจะสนุกขึ้นอีกเยอะหากเราศึกษาเทคนิคอย่างถูกต้อง
เดี๋ยวนี้มีทั้ง Pose Running, Chi Running, Evolution Running ในยูทูปมีเพียบเลยครับลองดู
ผมเองก็เริ่มจากวิ่งเพื่อลดความอ้วนและเริ่มศึกษาจากเวปหมอเจครับ พอลดความอ้วนสำเร็จแล้วก็ไปต่อด้วยการวิ่งเพื่อความสนุกสนาน ทั้งวิ่งมินิฯ10.5กม. ฮาฟฯ21กม. จนถึงมาราธอน42.195กม.(ใช้เวลาสองปีในการฝึกซ้อมและเตรียมตัว) จึงพอสรุปจากการทดลองด้วยตัวเองได้ว่าปัจจัยที่มีผลต่อการวิ่งมีดังนี้
1 ความพร้อมของผู้วิ่งทั้งการวอร์มอัพก่อนการวิ่ง และความพร้อมทางด้านความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น รวมถึงความแข็งแรงของเท้า 2 การเลือกรองเท้าให้เหมาะกับการวิ่งในรูปแบบต่างๆ โดยฉะเพราะรูปแบบการวิ่งและน้ำหนักของผู้วิ่ง 3 ท่าทางการวิ่ง ตั้งแต่การยกส้นเท้า การแกว่งขาการใช้กล่ามเนื้อส่วนต่างๆให้ถูกต้องและสัมพันธ์กัน 4 ตำแหน่งการลงสู่พื้นของเท้าขณะรองรับน้ำหนักตัวที่กดลงมาด้วยแรงมหาศาล และตำแหน่งของเท้าที่ลงสัมผัสพื้นไม่ว่าจะเป็นลงที่ส้นเท้าลงที่กลางเท้าลงที่ส่วนด้านหน้าเท้าหรือที่เขาเรียกว่า BOF Ball Of Foot
ทุกอย่างที่ว่ามาคือผู้วิ่งต้องปรับให้มีความสัมพันธ์กันให้มากที่สุดเพื่อประสิมธิภาพการวิ่ง โดยฉะเพาะเพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้รวมถึงการแก้ไขไม่ให้มีการบาดเจ็บซ้อที่เดิม ขอให้สนุกกับการวิ่งครับ
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 54 13:17:34
| จากคุณ |
:
mang+por
|
| เขียนเมื่อ |
:
6 ก.ค. 54 13:08:16
|
|
|
|
 |