ความคิดเห็นที่ 1 แสงเคลื่อนที่ในน้ำช้าลงไง จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 00:58:46 A:180.183.111.70 X: TicketID:208572

ความคิดเห็นที่ 2 สัมพัทธภาพกล่าวถึง "ความเร็วแสงในสูญญากาศ" ครับ แต่ความเร็วของแสงในตัวกลางโปร่งลดลงตามค่าดรรชนีหักเห ดังนั้นเป็นไปได้ที่ความเร็วของอนุภาคจะเร็วกว่าความเร็วของแสงในตัวกลางที่ไม่ใช่สูญญากาศได้ ทั้งนี้ไม่ว่าจะในตัวกลางใดๆก็ตาม อนุภาคมีมวลจะไม่เคลื่อนที่เร็วกว่า "ความเร็วแสงในสูญญากาศ" แน่นอนครับ จากคุณ : ECOS (thelegendofm) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 01:02:52

ความคิดเห็นที่ 3 ...       อนุภาคไม่จำเป็นต้องมีมวลครับ แต่ต้องมีพลังงาน และ โมเมนตัม ตัวอย่างของอนุภาคที่ไม่มีมวลก็คือ กลูออน เป็นอนุภาคที่นำแรงนิวเคลียร์อย่าง เข้มซึ่งเป็นแรงที่ดึงดูดควาร์กไว้ด้วยกันเป็นต้น     ตามทฤษฎีสัมพัทธ์ภาพพลังงานกับมวลถือว่าเป็นสิ่งเดียวกัน แรงโน้มถ่วงกระทำกับ พลังงานเช่นเดียวกับที่มันกระทำต่อมวล                                                                                                             ++ จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 07:02:25

ความคิดเห็นที่ 4 พูดถึงรังสี Cerenkov หรือเปล่าครับ จากคุณ : Firion เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 07:40:35

ความคิดเห็นที่ 5 ใช่ครับ ความเร็วแสงคือที่สุดในสุญญากาศ หากวันใดเราเกิดพบอะไรทีมันวิ่งได้เร็วกว่าแสงในสุญญากาศ ยังนึกไม่ออกเลยว่าโลกนี้จะทำยังไง จากคุณ : Always Red เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 07:51:34

ความคิดเห็นที่ 6 อนุภาคมีมวลครับ จากคุณ : หัวโตนะ เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 08:14:08

ความคิดเห็นที่ 7 จะมีตัวกลางไหนดักแสงได้ไม๊ครับ คือหยุดการเคลื่อนที่ของแสง จะได้เอาไปสร้างที่ดวงจันทร์แล้วดักแสงเอาไว้ดูอดีต อิอิ        แล้วเป็นไปได้ไม๊ว่าหลุมดำเนี่ย จะเป็นตัวกลางที่ดักแสงให้ติดแหงกอยู่ในนั้นทำให้แสงวิ่งเข้าหาลูกกะตาเราไม่ได้ จากคุณ : apadechi เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 09:40:23

ความคิดเห็นที่ 8 ทฤษฎีสัมพันธภาพนั้น ใช้ได้กับเฉพาะอนุภาคทั่วไปที่ช้ากว่าแสง แล้วพยายามเร่งความเร็วให้เท่ากับแสงเท่านั้น แต่ "ใช้ไม่ได้กับอนุภาคที่เร็วกว่าแสงมาตั้งแต่ต้น" ก่อนอื่นให้ทำความเข้าใจก่อนว่าไอ้ 300,000 กม./วินาที เนี่ย ไม่เชิงเป็น "ความเร็ว" แต่เป็น "ลักษณะทางกายภาพ" ของแสง คือ แสงไม่ได้เร่งความเร็วจากศูนย์ขึ้นไปที่สามแสน แต่ทันทีที่มันเกิดมาก็อยู่ที่สามแสนแล้ว เช่นเดียวกับเตคิออน หากมีอยู่จริง ก็คือ ลักษณะทางกายภาพของมัน เร็วกว่าแสงมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่เราตรวจมันไม่เจอมาก่อน เพราะขอบเขตการรับรู้ของมนุษย์อยู่ภายใต้ความเร็วแสง แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 54 10:39:41 แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 54 10:37:53 จากคุณ : Hyper Takuto เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 10:37:01

ความคิดเห็นที่ 9 ผมสงสัยว่า   ไม่มีอะไรที่เร็วกว่าแสงเลยจริงๆ หรือขอบเขตการรับรู้ของมนุษย์จำกัดที่ความเร็วแสง เราถึงไม่สามารถพบอะไรที่เร็วกว่าแสงได้ ถ้าสมมุติมีวัตถุที่ไวกว่าแสงจริง เราจะสามารถตรวจสอบการมีอยู่ของมันได้หรือไม่ อย่างเช่นเตคีออน ถ้าคำนวณหามวลของมัน จะได้มวลของเตคีออนติดลบ เราจะถือว่าวัตถุที่ไวกว่าแสงอยู่คนละมิติกับเราหรือเปล่า และเราไม่สามารถที่จะเข้าถึงมันได้ ถ้าการที่มันอยู่คนละมิติกับเรา เราจะบอกว่าสิ่งที่ไวกว่าแสงไม่มี ก็อาจถูกตามกฏทางฟิสิกส์ จากคุณ : 3N เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 11:23:53

ความคิดเห็นที่ 10 ดูในสารคดีได้บอกไว้ว่า กาแล็คซี่ต่างๆอาจเคลื่อนที่เร็วกว่าแสง โดยการสังเกตการเคลื่อนที่ของกาแล็คซี่จากเมื่อก่อนที่อยู่ใกล้จะเห็นเปลี่ยนสีน้ำเงิน เมื่อเวลาผ่านไปกลายเป็นสีแดง จากการคำนวณแล้วถ้าเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงไม่น่าจะใช้เวลาสั้นขนาดนั้น จากคุณ : jengchai เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 12:08:10

ความคิดเห็นที่ 11 #8 เราใช้ทฤษฎีสัมพัทธภาพคาดเดาสิ่งที่เร็วกว่าแสงได้ครับ 1. เนื่องด้วยมวลมันเป็นจำนวนจินตภาพ ความเร็วแสงคือความเร็วต่ำสุดของมัน ความเร็วสูงสุดเปนอินฟินิตี้ 2. ตามทฤษฏีสัมพัทธภาพ ยิ่งลดความเร็วลงเท่าไร มวลจะเพิ่มขึ้น ยิ่งลดใกล้ความเร็วแสง มวลมันจะเพิ่มเปนจนอินฟินิตี้ ในทางกลับกันมวลมันจะลดลงเรื่อยๆตามความเร็วที่เพิ่มขึ้นเป็น infinity 3. มันจะสูญเสียพลังงานจากการแผ่รังสี Cerenkov สรุป ทันทีที่มันเกิด มันจะสลายไปในพริบตาก่อนเวลาจะเริ่มเดินซะอีก -_- นั่นคือเหตุผลว่าทำไมถึงไม่มีสิ่งที่เร็วกว่าแสงครับ จากคุณ : Firion เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 16:38:32

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ใช่ขีดจำกัดการรับรู้ของมนุษย์หรอกค่ะ เพราะตัวสมการของทฤษฎีสัมพัทธภาพ ก็บ่งชี้ด้วยตัวสมการเองว่า สิ่งใดที่มีมวล จะไม่สามารถวิ่งเร็วกว่าแสงได้ ถ้าจะมีสิ่งใดที่วิ่งเร็วกว่าแสง มวลของสิ่งนั้นจะต้องเป็นจำนวนจินตภาพ เจ้าค่ะ จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 18:40:46

ความคิดเห็นที่ 13 ^ แต่คำว่าสัมพัทธภาพ ที่ตั้งชื่อนี้ก็เพราะ เป็นการสังเกตจากมุมมองบุคคลที่3 ซึ่งคนเราใช้สายตาในการสังเกต ซึ่งสื่อที่ตาใช้คือแสง เพราะเหตุนั้น ขอบเขตการรับรู้ของบุคคลที่3 คือความเร็วแสง ผมคิดแบบนั้นนะ จากคุณ : 3N เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 22:33:07

ความคิดเห็นที่ 14 ผมกำลังข้องใจ กรณี ทฤษฎี สัมพัทธภาพ เรื่องความเร็วแสง กับผู้สังเกตุการณ์ เนื่องจากทฤษฎีนี้เกี่ยวพันระหว่างความสัมพัทธของสองสิ่ง คือผู้สังเกตุ กับผู้ถูกสังเกตุ ดังนั้นความเร็วแสงที่ว่านั้นคือเท่าไหร่กันแน่ ถ้า.. 1. ผู้สังเกตุเดินทางด้วยความเร็ว 200000 กม. ต่อชม. ในทิศทางเดียวกับแสง นั่นหมายถึงว่าความเร็วของแสงในสายตาผู้สังเกตุก็จะเท่ากับ 100000 กม. ใช่หรือไม่ เมื่อเทียบกับผู้สังเกตุที่อยู่นิ่ง ๆ ณ. จุดปลายแสงอันเดียวกัน หรือ 2. ความเร็วแสงของผู้สังเกตุทั้งสองคนยังคงเห็นความเร็วแสงสัมพัทธ์ กับตนเองที่ 300000 กม. ต่อชม. ถ้าเป็นกรณ๊แรก เราก็น่าจะตรวจจับ นิวตริโน หรือ คว๊ากได้ ถ้าเราจัดตัวสังเกตุให้มีความเร็วเพิ่มขึ้นเพื่อให้ความเร็วสัมพัทธ์ น้อยลง ขณะที่คว๊าก หรือนิวตริโน ความเร็วคงที่ใช่หรือไม่ จากคุณ : T_Romance เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 07:42:49

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นกระทู้ที่ดีครับ keep it up! จากคุณ : Aloner เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:06:53