ความคิดเห็นที่ 1 ยามาโมโต (Yamamoto) เป็นชื่อจอมพลเรือของญีปุ่น ผู้วางแผนโจมตีเพิร์ล ฮาร์เบอร์ เรือประจัญบานยามาโต ได้เป็นเรือธงของท่านด้วย เมื่อครั้งจอมพลยามาโมโต ไปบัญชาการรบในยุทธนาวีที่มิดเวย์ จะเห็นว่าสองชื่อนี้ (ยามาโต และ ยามาโมโต) คล้ายกันมาก ทำให้เกิดความสับสนในการเรียกและการจำ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:47:36

ความคิดเห็นที่ 2 USS Iowa (BB-61) จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:48:52

ความคิดเห็นที่ 3 ที่ท่าเรือคูเระทางตอนใต้ของญี่ปุ่น อู่ต่อเรือ ณ วันนี้คือสถานที่ผลิตเรือบรรทุกสินค้าที่ทันสมัยที่สุดในโลก แต่ราว 60 ปีที่แล้วมันคือสถานที่ก่อกำเนิดอาวุธทางทะเลที่น่าเกรงขามที่สุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ยามาโตคือเรือรบที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างขึ้นมา มันถูกออกแบบขึ้นอย่างเป็นความลับสุดยอด ไม่มีแม้กระทั่งภาพวาดและแบบแปลนฉบับสมบูรณ์ นอกจากภาพวาดลายเส้นไม่กี่ชิ้นกับภาพถ่ายอีกหยิบมือเดียวที่เหลืออยู่ และข่าวลือที่ว่ายามาโตมีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของคู่ต่อกรจากอเมริกา ป้อมปืนที่มีอยู่สามป้อมนั้น แต่ละป้อมหนัก กว่าเรือพิฆาตของอเมริกา *USS Missouri (BB-63) ("Mighty Mo" or "Big Mo") จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:50:13

ความคิดเห็นที่ 4 ปืนกระบอกหลักๆ ถูกออกแบบให้โจมตีได้ในระยะ 25 ไมล์ ซึ่งไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน โดยในระยะไกลขนาดนั้นจำเป็นต้องอาศัยเครื่องบินระบุตำแหน่งช่วยบินนำวิถีกระสุนอยู่เหนือเส้นขอบฟ้า ยามาโตก็เหมือนกับเรือขนาดใหญ่ที่มีการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่ามันจะไม่มีทางจม แต่แล้วเรือเหล่านั้นก็มักจะมีเหตุต้องจมลงจนทำให้เป็นที่มาของประวัติศาสตร์และตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา *ป้อมปืนขนาด 18 นิ้ว จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:50:55

ความคิดเห็นที่ 5 เรือประจัญบานยามาโตเข้าร่วมกองเรือประจัญบานในเดือนธันวาคม 1941 โดยหน่วยข่าวกรองของอเมริกาก็รับรู้ถึงการประจำการนี้ ทว่าไม่มีใครรู้ถึงอานุภาพอันร้ายแรงของมัน นักวิเคราะห์จากกองทัพเรือสหรัฐเชื่อว่ายามาโตมีขนาดใหญ่พอๆ กับเรือประจัญบานลำใหม่ๆ ของอเมริกา แต่ที่จริงแล้วมันใหญ่กว่าเรือเหล่านั้นถึงสองเท่า จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:51:55

ความคิดเห็นที่ 6 เพราะต้องออกแบบเพื่อรองรับปืนประจำเรือที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการติดตั้งบนเรือประจัญบาน การยิงปืนขนาด 18 นิ้วด้วยความเร็วเหนือเสียง โดยที่กระสุนแต่ละนัดหนักพอๆ กับรถยนต์หนึ่งคัน ทำให้คาดการณ์ได้ว่าปืนของยามาโตน่าจะสามารถเจาะเกราะที่หนาเกือบสองฟุตได้ สาเหตุที่ญี่ปุ่นสามารถสร้างเรือใหญ่ขนาดนั้นมาลอยลำอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกได้ ขณะที่อเมริกาคู่ต่อสู้ทำไม่ได้ทั้งๆ ที่มีศักยภาพไม่ด้อยไปกว่ากัน ก็เพราะเรือของญี่ปุ่นไม่ต้องกังวลเรื่องการผ่านเข้าออกทางคลองปานามาที่มีล็อกยกระดับขนาด 110 ฟุตเป็นตัวกำหนด จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:52:54

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่เพียงอานุภาพของอาวุธที่ร้ายแรง แต่การออกแบบยามาโตนั้นพิถีพิถันแทบจะทุกขั้นตอน เพราะแม้แต่หัวเรือก็มีการออกแบบให้ลดแรงเสียดทาน ความกว้างของยามาโตทำให้ความลู่น้ำมีความจำเป็นยิ่ง เพราะเมื่อมันแล่นผ่านน้ำหัวเรือก็จะก่อให้เกิดคลื่นอย่างต่อเนื่อง โหนกที่ท้องเรือยามาโตจะก่อให้เกิดคลื่นนำหน้าหัวเรือไปสองสามฟุต ซึ่งจะขจัดคลื่นที่เกิดจากตัวเรือเอง และเมื่อมีคลื่นปะทะน้อยลงแรงเหนี่ยวของน้ำก็ลดลง *ยามาโตออกแบบมาอย่างดี โดยโหนกลำตัวเรือสามารถลู่ไปกับกระแสน้ำ ทำให้แล่นเรือได้เร็วขึ้น จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:53:34

ความคิดเห็นที่ 8 ในเดือนมิถุนายน 1942 ที่สมรภูมิมิดเวย์ กองทัพเรือสหรัฐได้ล่อญี่ปุ่นเข้ามาติดกับ และส่งเครื่องบินรบหลายร้อยลำเข้าโจมตีกองเรือของญี่ปุ่นภายในไม่กี่ชั่วโมง ญี่ปุ่นสูญเสียเรือบรรทุกเครื่องบินไปสี่ลำและเครื่องบินกว่า 330 ลำ เป็นความพ่ายแพ้ซึ่งทำให้กองทัพเรือของพระจักรพรรดิไม่สามารถฟื้นตัวได้อีกเลย *ภาพถ่ายเรือยามาโตะโดนถล่ม จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:54:18

ความคิดเห็นที่ 9 การสูญเสียกำลังคุ้มกันทางอากาศทำให้จุดด้อยของยามาโตมีเพิ่มมากขึ้น เพราะเมื่อมันกลับเข้าสู่น่านน้ำของมหาสมุทรแปซิฟิกอีกครั้ง หลังจากจอดรออยู่ในที่ปลอดภัยนานนับปี ช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 1945 ขณะที่กำลังเสียท่าให้กับอเมริกา ญี่ปุ่นส่งอาสาสมัครนักบินกามิกาเซ่ไปพุ่งชนเรือของฝ่ายสัมพันธมิตรไป 300 ลำ คร่าชีวิตลูกเรืออเมริกันไปหลายพันคน แต่การยอมตายเพื่อศักดิ์ศรีของญี่ปุ่นก็ยังไม่จบสิ้นลง เพราะยามาโตคือคำสั่งลับสำหรับแผนการที่สิ้นหวังลำดับต่อไป จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:56:07

ความคิดเห็นที่ 10 ยามาโตแล่นตรงไปสู่กองเรือของอเมริกา 1,500 ลำ โดยปราศจากการคุ้มกันทางอากาศ เมื่อเครื่องบินลำแรกโจมตียามาโตขณะที่มันอยู่ห่างจาก เรือรบอเมริกาถึงสองร้อยไมล์ ปืนขนาด 18 นิ้วที่มีอยู่ จึงไร้ความหมาย เพราะมันไม่สามารถยิงเครื่องบินที่ เข้ามาใกล้ในระยะ 10 ไมล์ได้สะดวกท่ามกลางเมฆที่ ลอยต่ำ ทันทีที่เครื่องบินทิ้งระเบิดลำแรกสามารถทะลุรัศมีป้องกัน 10 ไมล์เข้ามาได้ ปืนต่อสู้อากาศยานนับร้อยกระบอกของยามาโตก็ถูกยิงขึ้น แต่เครื่องบินเกือบทุกลำก็สามารถบินเข้าสู่ระยะ 20,000 ฟุตเหนือเรือลำนี้พอดิบพอดี ระเบิดหนัก 500 ปอนด์ลูกแรกโดนดาดฟ้าเรือ แต่สิ่งที่ทำให้เรือประจัญบานลำนี้ถึงจุดจบก็คือตอร์ปิโดนับสิบๆ ลูกที่ถูกทิ้งจากอากาศและเจาะทะลุ ยามาโตจากใต้ระดับน้ำใกล้กับหัวเรือและท้ายเรือซึ่งเป็นจุดที่เปราะบางที่สุด เป็นเวลาหลายสัปดาห์ที่กองทัพเรือญี่ปุ่นไม่ยอมรับว่ายามาโตได้จมลงพร้อมกับลูกเรือ 3,000 คน ผู้รอดชีวิตถูกนำตัวไปยังอาคารท่าเรือที่เคยถูกระเบิด ที่ซึ่งพวกเขาถูกซ่อนไว้ หนึ่งเดือนหลังจากเรือจมผู้รอดชีวิตเหล่านั้นจึงได้รับอนุญาตให้กลับไปหาครอบครัว เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือบรรทุกเครื่องบินเข้ามาแทนที่เรือประจัญบาน ในฐานะสัญลักษณ์แห่งอำนาจของชาติบนพื้นน้ำ ในระยะเวลาหกสิบปีหลังจากยามาโตจมลง ไม่มีชาติใดในโลกตัดสินใจสร้างเรือประจัญบานอีกเลย *ยิงต่อสู้สุดชีวิต จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:57:14

ความคิดเห็นที่ 11 *ภาพเหตุการณ์จำลองขณะโดนฝูงบินถล่ม จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:57:49

ความคิดเห็นที่ 12 *ลูกระเบิดโดนเข้าที่ห้องเก็บอาวุธอย่างจัง จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:58:19

ความคิดเห็นที่ 13 ข้อมูลคร่าวๆของเรือยามาโต เรือประจัญบานยามาโต และน้องสาว คือ เรือ มูซาชิ วางกระดูกงูเรือ ในช่วงปี ค.ศ. 1937-38 และสร้างเสร็จประมาณปี 1941-42 นับเป็นเรือประจัญบานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยระวางขับน้ำ 65,000 ตัน, ความเร็วเรือสูงสุด 27 นอต, มีปืนเรือขนาดใหญ่ที่สุด คือ 18.1 นิ้ว, ความยาวตลอดลำเรือ 862 ฟุต, ความกว้าง (บีมเรือ) 121 ฟุต, ดาดฟ้าเรือติดเกราะหนา 9.1 นิ้ว ซึ่งสามารถรับแรงระเบิดขนาด 2,000 lb ซึ่งถูกยิงมาจากระยะไกล 15,000 ฟุตได้ เรือยามาโต สร้างเสร็จในปี 1941 ตามมาด้วยเรือมูซาชิ ในปี 1942 อาวุธประจำเรือชั้นยามาโต 1. ปืนเรือ ขนาด 18.1"/45 เก้ากระบอก 2. ปืนเรือ ขนาด 6.1"/60 สิบสองกระบอก ภายหลังลดเหลือหกกระบอก 3. ปืน DP ขนาดลำกล้อง 5"/40 สิบสองกระบอก ต่อมาเพิ่มเป็นยี่สิบสี่กระบอก (DP เป็นปืนต่อสู้อากาศยานหนักแบบมาตรฐานของญีปุ่นในช่วงนั้น 4. ปืนต่อสู้อากาศยาน ขนาดลำกล้อง 25 ม.ม. มากกว่า 150 กระบอก 5. ปืนต่อสู้อากาศยาน ขนาด 13 ม.ม. สี่กระบอก จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:59:34

ความคิดเห็นที่ 14 ภาพสุดท้ายของเรือยามาโต้ ที่โดนโจมตีจากเครื่องบินทิ้งระเบิด และ ตอปิโด จากเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐ บริเวณทางเหนือของเกาะโอกินาวาเมื่อวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1945 *ระเบิดที่ห้องเก็บอาวุธทำให้เรือจมลง แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 14:02:06 จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:00:07

ความคิดเห็นที่ 15 อ่านเพลินมากครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : GuKobe เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:03:18

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณข้อมูลจาก  imruksa.bloggang.com *ย้อนอดีตกันนีสนึง ครับ ส่วน  เรือรบที่ดีที่สุดในโลก Discovery Channel ได้จัดอันดับเรือรบของโลก ที่เคยใช้ในสงครามโลกและใช้ป้องกันประเทศ ในปัจจุบันด้วย มาดูกันว่า มีอะไรกันบ้าง.. อันดับ 10 10. Hood Class - Battle Cruiser; Great Britain ะวางขับน้ำ 42500 ตัน อาวุธ ปืนหลัก 15 นิ้ว 8 กระบอก เรือที่เป็นที่ความภาคภูมิใจของกองทัพเรืออังกฤษมันสร้างความกลัวให้แก่ข้าศึกในปี 1930-1940 แต่พอสงครามโลกครั้งที่ 2 ระเบิดขึ้นมันได้ลง สู่สนามรบครั้งแรกกับเรือ BISMARCK ของนาซีจากการยิงจากBISMARCK เพียง 5 ตับก็ทำให้เรือ HOOD จมลงในเวลาประมาณ 8 นาที แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 14:08:45 จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:08:06

ความคิดเห็นที่ 17 อันดับ 9 9. DEUTSCHLAND CLASS - POCKET Battleship ระวางขับน้ำ 16200 ตัน อาวุธ ปืนหลัก 11 นิ้ว 6 กระบอก เมื่อเยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ฝ่ายเยอรมันถูกจำกัดไม่ให้สร้างเรือรบที่มีระวางขับน้ำไม่เกิน 10000 ตันแต่ฝ่ายเยอรมันกลับสร้างเรือ ชิ้นนี้ขึ้นซึ่งเรือลำนี้วางกระดูกงูก่อนฮิตเลอร์ขึ้นอำนาจซะอีกโดยต่อ ขึ้นมา 3 ลำคือ1.Deutschland 2. Admiral Scheer 3. Admiral Graf Spee เรือชั้นนี้มีขนาดเล็กมีความเร็วสูงและมีปืนที่ดีเรือถูกเรียกว่า PANZER SHIP จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:09:41

ความคิดเห็นที่ 18 อันดับ 8 ESSEX CLASS - AIRCRAFT CARRIER ระวางขับน้ำ 34480 ตัน อาวุธ ปืนหลัก 5 นิ้ว 12 กระบอก AA-GUN 20 mm.และ 40 mm. ประมาณ 68 กระบอก เครื่องบิน 100 เครื่อง(F4U CORSAIR)เรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพเรือสหรัฐที่ใช้ถล่มเกาะต่างที่ญี่ปุนยึดเป็นฐานบินลอยน้ำที่มีความสำคัญ ต่อกองทัพเรือมากจึงเป็นเป้าของเครื่องบินกามิกกาเซ่ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:10:38

ความคิดเห็นที่ 19 อันดับ 7 BISMARCK CLASS - BATTLESHIP ระวางขับน้ำ 50153 ตัน อาวุธ ปืนหลัก 15 นิ้ว 8 กระบอก สุดยอดเรือรบของนาซีเป็นเรือที่ฮิตเลอร์ชอบมากโดยเรือชั้นนี้ต่อมา 2 ลำคือ1.BISMARCK 2. TIRPITZ มันได้ชื่อเสียงจากการที่ BISMARCK จมเรือ HOOD ของอังกฤษแต่พอข่าวการจมเรือ HOOD ไปถึงกองทัพเรืออังกฤษทำให้อังกฤษส่งกองเรือออกตามล่าและในอีก 3 วันเรือ BISMARCK ก็ถูกกองเรืออังกฤษรุมยำและจมลงเมือ BISMARCK จม อังกฤษก็หันไปล่าเรือTIRPITZ และมันก็ถูกจมหลังจากที่ไปแอบอยู่แถวๆนอร์เวย์ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:11:19

ความคิดเห็นที่ 20 อันดับ 6 NORTH CAROLINA CLASS BATTLESHIP ระวางขับน้ำ 44800 ตัน อาวุธ ปืนหลัก 16 นิ้ว 9 กระบอก เรือรบที่ทำหน้าที่คุ้มกันกองเรือของสหรัฐในแปซิฟิกมีขนาดใหญ่และมีปืนที่มีอำนาจทำลายสูง จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:12:19

ความคิดเห็นที่ 21 อันดับ 5 Fletcher Class - Destroyer; United States ระวางขับน้ำ 2900 ตัน อาวุธ ปืนหลัก 5 นิ้ว 5 กระบอก เรือประจัญบานขนาดเล็กของกองทัพเรือสหรัฐหน้าที่คือการคุ้มกันเรือสินค้า มันมีขนาดเล็กและความเร็วสูงและยังติดตั้งระเบิดน้ำลึกที่ใช้ ทำลายเรือดำน้ำด้วย จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:13:24

ความคิดเห็นที่ 22 อันดับ 4 TICONDEROGA CLASS - MISSLE CRUISER ระวางขับน้ำ 9646 ตัน อาวุธ ปืนหลัก 5 นิ้ว 2 กระบอก แท่นปล่อยจรวดแบบ MK 41 2แท่น เรือลาดตระเวนของกองทัพเรือสหรัฐมีหน้าที่หลักๆคือการป้องกันภัยทางอากาศและต่อต้านเรือทั้งผิวน้ำ และดำน้ำมีจรวดแบบ STANDARD SM 2 ตอร์ปิโดMK 32 จรวดHARPOON และสามารถสนับสนุนหน่วยทหารได้ด้วยจรวดTOMAHAWK MISSLE จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:14:18

ความคิดเห็นที่ 23 อันดับ 3 QUEEN ELIZABETH CLASS - BATTLESHIP ระวางขับน้ำ 36450 ตัน อาวุธ ปืนหลัก 15 นิ้ว 8 กระบอก เรือที่ฝ่ายอังกฤษสร้างขึ้นเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 มันมีขนาดใหญ่มากและทำให้ข้าศึกไม่กล้าออกมาสู้ด้วยและได้ปรับปรุงและใช้ ในสงครามโลกครั้งที่2ด้วย จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:14:55

ความคิดเห็นที่ 24 อันดับ 2 NIMITZ CLASS - AIRCRAFT CARRIER ระวางขับน้ำ 97000-100000 ตัน อาวุธ เครื่องบิน 85 เครื่อง (F-14D,F-18C,EA-6,EC-2,S-3B,SH-60,C-2A)เรือบรรทุกเครื่องบินขนาดยักษ์มันมีเครื่องบินถึง 85 ลำและมันไป ถึงทุกที่ในโลกได้ด้วยเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 เตาและมีอาวุธป้องกันตัวคืออาวุธนำวิถีพื้นสู่อากาศแบบ SEA SPARROW 3แท่นๆละ 8 ท่อ ยิง ระบบปืน VALCAN PHALANXขนาด 20 mm. 4 แท่น (นี่ก็ของปัจจุบัน) จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:15:44

ความคิดเห็นที่ 25 อันดับ 1 ได้แก่ Iowa Class - Fast Battleship ระวางขับน้ำ 57450 ตัน อาวุธ ปืนหลัก 16 นิ้ว 9 กระบอก สุดยอดเรือรบของสหรัฐมีขนาดใหญ่มากๆเรือชั้นนี้ถูกสร้างมา6ลำ 1. USS Iowa 2. USS New Jersey 3. USS Missouri 4. USS Wisconsin 5. USS Illinois 6. USS Kentucky เป็นเรือที่อายุการใช้งานยาวนานมากที่สุดในโลกคือสงครามโลกครั้งที่2ไปจนถึงสงครามอ่าวปี 1991 โดยทำการติดตั้งแท่นปล่อยจรวด TOMAHAWK MISSLE จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:16:37

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.clipmass.com/story/2647 และขอบคุณข้อมูลจาก http://zedth.exteen.com/20100509/lcs-21  ,  http://wowboom.blogspot.com/2009/05/biggest-submarine.html แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 54 13:16:41 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 15:18:12 จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:17:19

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับผม ^^ จากคุณ : neo29th เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:18:40

ความคิดเห็นที่ 28 Kirov class battlecruiser ของรัสเซียไม่ติดอันดับ.... เป็นไปได้ไง... ดวลกัน... Kirov ลำเดียว   สู้กับ เรือ 10 ลำอันดับ 1 - 10 รวมกัน ที่ จขกท. ว่ายังไหวเลยนะนั่น จากคุณ : คนสร้างภูเขา เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:35:02

ความคิดเห็นที่ 29 ด้วยเทคโนโลยี USA ที่พัฒนาขึ้น เรือยามาโต้ ช่วงท้ายสงคราม WWII จึงเหลือมีดีแค่ 1. ขนาดใหญ่ เหมาะเป็นที่ซ้อมเป้าอย่างดีของข้าศึก 2. ปืนใหญ่ขนาดใหญ่ เอาไว้ยิงขู่ (แต่ไม่โดนเพราะระบบเล็งยังใช้สายมาอยู่) 3. เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของทหารญี่ปุ่นชั้นผู้น้อย ให้มีกำลังใจรบ ทั้งที่ไม่มีทางชนะเลย ช่วงท้ายสงครามต่อให้อเมริกาไม่เอาเครื่องบินมาลุมยามาโต้  แต่ใช้เรือประจัญบานชั้น Iowa สู้แทนยามาโต้ก็สู้ไม่ได้ครับ   เพราะระบบนำร่องการยิง ยามาโต้ยังเล็งด้วยสายตาต้องรอเรืออเมริกาโพล่มาก่อน(ประมาณ 5 กม.)ถึงจะยิงได้   แต่เรือประจัญบาญของอเมริกามีการลิ้งระบบการเล็งปืนใหญ่เข้ากับเรด้าแล้วครับ    เรด้าจับได้เข้ารับรัศมีปืนไม่ต้องรอเห็นตัวก็ไส่ก่อนได้แล้ว    กว่ายามาโต้จะเร่งมาถึงก็คงโดนไม่หลายแล้วครับ จากคุณ : Mr.Patriot เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:36:21

ความคิดเห็นที่ 30 TICONDEROGA CLASS ลำเดียวก็กวาดเรือที่เหลือได้หมด - - จากคุณ : เดอะฟักทองอินเตอร์ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:40:49

ความคิดเห็นที่ 31 ต่อ... เรือรบแห่งศตวรรษที่  21 ...............LCS ............... ในบรรดาเรือรบสมัยใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตามองของแวดวงนาวีทั่วโลกในขณะนี้นั้น เห็นจะหนีไม่พ้น เรือรบรุ่นใหม่ล่าสุด อย่าง USS Freedom และ USS Independence เรือรบ 2 ลำใหม่ล่าสุดของนาวีสหรัฐฯ ที่ขึ้นระวางประจำการไปแล้วทั้งคู่ และกำลังอยู่ในขั้นตอนของการทดสอบขีดความสามารถอย่างเต็มกำลัง เพื่อนำผลลัพธ์ที่ได้มาใช้ในการสร้างเรือในรุ่นต่อ ๆ ไป ถึงแม้ว่าทั่วโลกจะมีการขึ้นระวางประจำการเรือรบรุ่นใหม่ ๆ อยู่เป็นระยะ ๆ ไม่ว่าจะเป็น เรือคอร์เวตชั้น Visby ของสวีเดน , เรือชั้น La Fayette ของฝรั่งเศส , เรือพิฆาต Type 45 ชั้น Darling ของราชนาวีอังกฤษ ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงอย่างเทคโนโลยีล่องหน หรือ Stealth แต่ก็ดูเหมือนว่า กระแสของเรือใหม่ 2 ลำข้างต้น จะกลบความร้อนแรงของเรือที่กล่าวมาไปได้หมด ภาพ  USS Independence จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:47:42

ความคิดเห็นที่ 32 เหตุเพราะเรือทั้ง 2 ลำนั้น ก่อกำเนิดขึ้นจากแนวความคิดสุดล้ำ และเชื่อกันว่า ถ้ามันสำเร็จ จะเป็นการพลิกโฉมหน้าของการรักษาอธิปไตยทางทะเลของนาวีสหรัฐฯและของโลก จากหน้ามือเป็นหลังมือ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงของเรือที่แปลกตา แต่ให้ผลเป็นเลิศในด้านการลดแรงเสียดทาน และมีคุณสมบัติล่องหน , แนวคิดเรื่อง Mission Package ที่จะทำให้เรือ 1 ลำสามารถปฏิบัติภารกิจได้ทุกภารกิจ , การลดกำลังพลในแนวหน้า (Unman  the Front Lines) โดยการใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติเข้ามาทำงานแทนมนุษย์ รวมไปถึงการใช้ยานไร้คนขับในภารกิจต่าง ๆ , การจัดกำลังพลประจำเรือ 2 ชุด ผลัดเปลี่ยนกันทำให้เรือใช้งานได้ตลอดเวลาที่ยังไม่ครบวงรอบการซ่อมบำรุงระดับโรงงาน และการใช้ระบบอำนวยการรบแบบเครือข่าย (Navy's Battle Management Grid) ภาพ USS Independence จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:49:37

ความคิดเห็นที่ 33 LCS หรือ Littoral Combat Ship เป็นเรือรบที่มีภารกิจหลักในการปฏิบัติการในเขตน้ำตื้นต่อเนื่องจากชายฝั่งถึงทะเลเปิด ซึ่งเรือใหญ่อย่าง Cruiser (เรือลาดตะเวน) หรือ Destroyer (เรือพิฆาต) ไม่สามารถเข้ามาปฏิบัติการได้ โดยมุ่งเน้นในการป้องกันการเข้าถึงชายฝั่ง และกำจัดภัยคุกคามแบบอสมมาตร (Asymmetric Threats) เช่น เรือผิวน้ำขนาดเล็กเคลื่อนที่เร็ว , เรือดำน้ำขนาดเล็ก (Quiet Diesel Submarine) และทุ่นระเบิดแบบต่าง ๆ จุดเด่นของเรือ LCS อันแท้จริง คือเรือสามารถปรับเปลี่ยนภารกิจได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เรือรบผิวน้ำ , เรือปราบเรือดำน้ำ , เรือยกพลขึ้นบก , เรือหาข่าว , เรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล และ เรือล่าและทำลายทุ่นระเบิด ด้วยการเปลี่ยนอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาวุธ , อุปกรณ์สนับสนุนการรบ และเซนเซอร์ ในลักษณะของการเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว (Swap) เหมือนการแต่งรถอย่างไรอย่างนั้น โดยในเบื้องต้นนั้น จะมี Mission Package อยู่ทั้งหมด 3 Package คือ การล่าทำลายทุ่นระเบิด (Mine Countermeasure) , การรบผิวน้ำ (Surface Warfare) และ การปราบเรือดำน้ำ(Anti Submarine Warfare) และจะมีเพิ่มเติมขึ้นอีกในอนาคต โดยแต่ละ package นั้น จะมาเป็นลักษณะของโมดูล โดยสามารถสลับสับเปลี่ยนจากโมดูลหนึ่งไปอีกโมดูลหนึ่งได้ภายใน 1 วัน และสามารถออกปฏิบัติภารกิจได้ทันทีหลังเปลี่ยนโมดูล นอกจาก Mission Package ที่เหมือนเป็น option แล้ว ตัวเรือยังมาพร้อมกับ คุณสมบัติหลักในการสนับสนุนการเคลื่อนที่เร็วจู่โจมอย่างเต็มที่ โดยประกอบไปด้วยลานจอดเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเรือพิฆาตเสียอีก โดยโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์สามารถรองรับเฮลิคอปเตอร์แบบ SH-60 หรือ MH-60S Seahawk ได้ถึง 2 ลำ รวมไปถึงเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับแบบ MQ-8B Fire Scout เพื่อใช้ในภารกิจลาดตระเวนหาข่าว , สอดแนม และสนับสนุนการรบ อีกหลายลำ *ภาพ MH-60S Seahawk แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 14:52:29 จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:51:39

ความคิดเห็นที่ 34 อืมม  ชนชาตินี้ แรงฮึด สูงจริงๆ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:51:40

ความคิดเห็นที่ 35 ภาพ MQ-8B Fire Scout จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:53:19

ความคิดเห็นที่ 36 ramp ท้ายเรือ และประตูข้าง สามารถปล่อยและเก็บเรือเร็วโจมตีแบบเรือยางท้องแข็ง และยานผิวน้ำไร้คนขับ แบบ AN/WLD-1 และยานใต้น้ำไร้คนขับ Bluefin 21 ได้ โดยประตูด้านข้างนั้นเป็นแบบ Roll-on/Roll-off Ramp คือสามารถเปิดสะพานทอดไปบนฝั่ง เพื่อลำเลียงยานเกราะของนาวิกโยธินหรือรถต่าง ๆ ขึ้นลง ได้อย่างสะดวกสบาย จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:55:11

ความคิดเห็นที่ 37 สำหรับยาน AN/WLD-1 เป็น USV (Unman Surface Vehicle) หรือยานผิวน้ำไร้คนขับควบคุมระยะไกล ซึ่งในการใช้งานจริง ๆ จะทำงานในลักษณะกึ่งดำน้ำ มากกว่าแล่นบนผิวน้ำ โดยส่วนตัวเรือจะจมอยู่ใต้น้ำโผล่ขึ้นมาเฉพาะเสารับสัญญาณเพียงเท่านั้น เพื่อป้องกันการตรวจจับด้วยสายตา AN/WLD-1 ติดตั้งระบบล่าและทำลายทุ่นระเบิดในตัว เรือทั้งสองแบบสามารถลากโซนาร์แบบ Tow Acoustic Array ทั้งแบบ Active และ Passive และสามารถหย่อน Dipping Sonar ได้ ซึ่งทำให้เรือสามารถใช้เทคนิคของโซนาร์ที่เรียกว่า Bistatic Sonar ได้ด้วย ซึ่งให้ความแม่นยำในเขตน้ำตื้นมากกว่า Monostatic Sonar ของเรือทั่ว ๆ ไป ภาพ  AN/WLD-1 จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:59:53

ความคิดเห็นที่ 38 Battlespace Preparation Autonomous Undersea Vehicle (BPAUV) Bluefin 21 เป็นส่วนประกอบใน Mission Package การปราบเรือดำน้ำ และการต่อต้านทุ่นระเบิด โดยยานลำนี้จะถูกปล่อยออกจากเรือแม่ เพื่อหาข้อมูลสภาพพื้นท้องทะเล ณ ขณะนั้น โดยอาศัยความสามารถของ side-scan sonar ขนาด 455 kHz และเมื่อเรือใหญ่ทำการเก็บกู้ Bluefin 21 ขึ้นมาก็จะทำการอัพโหลดข้อมูลเข้าสู่ฐานข้อมูลกลางของ Mine Warfare and Environmental Decision Aids Library (MEDAL) เพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อไป ภาพ  BPAUV Bluefin 21 จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:01:06

ความคิดเห็นที่ 39 อาวุธหลักของเรือได้แก่ ปืนใหญ่ Mk-110 57 มม. ของ BAE Systems ติดตั้งอยู่บริเวณหัวเรือ และปืนกล .50 มม. 4 กระบอกทางด้านหัวและท้ายเรือทั้ง 2 กราบ และยังอาจจะมีโมดูลของ อาวุธปล่อยแบบ Non-Line of Sight Launch System (NLOS-LS) หรือที่รู้จักกันในชื่อ NETFIRES จำนวน 60 ลูก ซึ่งเป็นอาวุธปล่อยขนาดเล็กแต่มีความแม่นยำสูง ที่ใช้ในกองทัพบกสหรัฐฯ โดยได้กำหนดไว้ใช้สำหรับโจมตีเรือผิวน้ำความเร็วสูง ซึ่งแล่นปะปนอยู่กับเป้าอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ก็เป็นอาวุธประจำเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งสามารถติดตั้งได้ตั้งแต่อาวุธปล่อย และตอร์ปิโด ไปจนกระทั่ง ระบบล่าทำลายทุ่นระเบิด ภาพ  BAE Systems Mk-110 57 มม. จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:02:30

ความคิดเห็นที่ 40 เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการใหม่และยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน ดังนั้นทาง ทร.สหรัฐฯ จึงตัดสินใจที่จะให้บริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการในลักษณะประกวดแข่งขัน คือ บริษัทใดสามารถต่อเรือที่มีสมรรถนะดีเยี่ยมที่สุด ก็จะได้รับการต่อสัญญาเพื่อสร้างเรือลำถัดไป โดยบริษัทที่ชนะการประมูลในการเป็น:-)านในการต่อเรือต้นแบบ 2 บริษัทคือ บริษัท Lockheed Martin และบริษัท General Dynamics โดย Lockheed Martin ได้เสนอเรือแบบ Semi-Planning Monohull ซึ่งมีรูปทรงคล้ายกับเรือปกติโดยทั่วไป โดยตั้งชื่อแบบของเรือลำนี้ว่า LCS-1 และ ทร.สหรัฐฯตั้งชื่อให้เรือลำนี้ว่า USS Freedom และบริษัท General Dynamics ได้เสนอแบบเรือแบบ Tri-Maran มีรหัสว่า LCS-2 และมีชื่อเรือว่า USS Independence ภาพ  NLOS-LS NETFIRES จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:03:51

ความคิดเห็นที่ 41 นอกจากความแตกต่างของ Platform แล้ว เรือทั้งสองลำยังมีความแตกต่างกันด้านการเลือกใช้เครื่องยนต์ในระบบขับเคลื่อน , ระบบอำนวยการรบ และระบบป้องกันตัวเองระยะประชิด อีกด้วย จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:04:40

ความคิดเห็นที่ 42 ทั้งสองบริษัทเลือกใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ CODAG (Combine Operation Diesel and Gastuebine)ไป ขับ Water Jet ในการผลักดันให้เรือขนาด 3,000 ตันแล่นไปข้างหน้า  แต่ใช้เครื่องจักรขับเคลื่อนแตกต่างกัน โดย Lockheed Martin เลือกใช้ เครื่องยนต์กังหันก๊าซของ Rolls-Royce MT30 ขนาด 36 MW จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งเป็นเครื่องยนต์กังหันก๊าซที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ และเครื่องยนต์ดีเซล Fairbanks Morse 2 เครื่อง และ Waterjet ของ Rolls-Royce จำนวน 4 เครื่อง ส่วน General Dynamics เลือกใช้ เครื่องยนต์กังหันก๊าซของ General Electric LM2500 จำนวน 2 เครื่อง และเครื่องยนต์ดีเซล MTU 20V 8000 M90 2 เครื่อง ส่วน Waterjet เป็นของ Wärtsilä จำนวน 4 เครื่องเช่นกัน ซึ่งทั้ง 2 บริษัทสามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 45 Knots ภาพ  Rolls-Royce MT30 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 15:06:10 จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:05:45

ความคิดเห็นที่ 43 ภาพ  MTU 20V 8000 M90 จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:07:12

ความคิดเห็นที่ 44 Iowa Class Battleship (BB 61-64) เรือชั้นนี้ถูกสร้างมาแค่ 4 ลำเท่านั้นครับ สองลำสุดท้าย (BB 65-66) สร้างไม่เสร็จ ถูกยกเลิกเพราะสิ้นสงครามเสียก่อน ถึงแม้ว่าจะถูกสร้างไปบางส่วนแล้วก็ตาม ปืนเรือของทั้งสองลำนี้ ถูกเอาไปตั้งประจำที่ เป็นปืนป้องกันชายฝั่ง ผมไปเคยไปยืนข้างข้างมันมาแล้ว นึกไม่ออกเลยว่า ถ้ามันถูกยิงออกมาแค่กระบอกเดียว คนบนดาดฟ้าเรือจะรู้สึกอย่างไร กระบอกที่ว่านี้ ถูกตั้งแสดงไว้ที่ Aberdeen Proving Ground, Maryland จากคุณ : บาเยงนอง เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:08:04

ความคิดเห็นที่ 45 ระบบอำนวยการรบของเรือ USS Freedom เป็นของ Lockheed Martin เอง โดยเลือกใช้ระบบอำนวยการรบแบบ COMBATSS-21 ซึ่งเป็นระบบล่าสุดที่พัฒนาต่อมาจากระบบ Aegis ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเรือรุ่นใหม่ของกองทัพเรือสหรัฐฯ มาก่อนหน้านี้ ส่วนเรือ USS Independence ใช้ระบบ อำนวยการรบของ Northrop Grumman , ICMS (Integrated Combat Management System)  ซึ่งทั้งสองระบบเป็นสถาปัตยกรรมแบบเปิด (Open Architectural Design) ซึ่งหมายความว่า ระบบนี้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้หลากหลายรูปแบบ หลาย platform ซึ่งเหมาะสมกับแนวความคิดเรื่อง Mission Package ซึ่งระบบอำนวยการรบทั้งสองแบบนั้น สามารถรองรับ Mission Package ได้ทุก package ทางด้านระบบป้องกันตนเอง ตอนนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า จะมีการติดตั้งระบบที่แตกต่างกันคือ ใน USS Freedom ติดตั้งเครื่องยิงจรวดแบบ RIM-116 RAM (Rolling Airframe Missile) ภาพ   RIM-116 RAM แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 15:08:56 จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:08:38

ความคิดเห็นที่ 46 ส่วน USS Independence ติดตั้งระบบป้องกันตัวเองระยะประชิด (CIWS Close-In Weapon System) แบบ SeaRam ซึ่งเป็นการนำเครื่องยิงจรวดแบบ RIM-116 RAM ติดตั้งเข้ากับระบบติดตามเป้าแบบ Phalanx ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีระบบป้องกันตัวเองระยะประชิดของเรือ ที่มีความทันสมัยมาก ๆ ภาพ  SeaRam จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:09:45

ความคิดเห็นที่ 47 ด้วยขนาดของเรือที่มีระวางขับน้ำ 3,000 ตัน เรือ LCS กลับใช้กำลังพลที่น้อยมาก คือมีกำลังพลประจำเรือ 40 นาย บวกกับกำลังพลประจำแต่ละ Mission Package 15 นาย และแผนกการบินอีก 20-23 นาย ซึ่งถือเป็นลักษณะพิเศษอีกอย่างของเรือ LCS ที่ไม่ต้องใช้กำลังพลจำนวนมากในการปฏิบัติการ กำลังพลหลัก 40 นายนี้ สามารถปฏิบัติภารกิจหลักของเรือได้ทั้งหมด โดยอาศัยความช่วยเหลือของระบบอิเล็กทรอนิกส์อันชาญฉลาด ยกตัวอย่างเช่น ระบบเทียบเรือโดยไม่ต้องใช้เรือ Tug ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “Harbor Moving” , ระบบ “Trigon Aircraft-Handling System” ที่ช่วยให้คนเพียงคนเดียว สามารถนำเฮลิคอปเตอร์จากดาดฟ้าบินเข้าไปเก็บในโรงเก็บเครื่องบินได้ , “Mission Bay” ซึ่งอยู่ใต้ดาดฟ้าบิน สามารถควบคุมการขนถ่ายสิ่งของ , เรือเล็ก , ยานใต้น้ำไร้คนขับ และอุปกรณ์อื่น ๆ ใน Mission Package ได้อย่างง่ายดาย USS Freedom จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:12:59

ความคิดเห็นที่ 48 กำลังพลหลักนี้ยังมีทั้งหมดถึง 2 ทีม โดยมีชื่อเรียกว่า “Blue Team” และ “Gold Team” ซึ่งจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันปฏิบัติภารกิจ เป็นระยะเวลา 4 เดือนในแต่ละทีม ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้เรือออกปฏิบัติภารกิจได้ตลอด 24 ชม. โดยไม่ทำให้กำลังพลเหนื่อยล้าและสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างเต็มขีดความสามารถ และสามารถใช้เรือได้คุ้มค่าสูงสุดตามหลักการของการส่งกำลังบำรุงรวม (Integrated Logistic Support , ILS) ในระหว่างนี้ เรือทั้ง 2 ลำกำลังอยู่ในช่วงการทดลองใช้งานจริง ซึ่งผลที่ได้จากการทดลองที่ดีที่สุดจะถูกนำไปใช้กับเรือลำต่อ ๆ ไป ซึ่งในขณะนี้ได้วางกระดูกงูไปแล้ว 2 ลำ คือ LCS-3 USS Fort Worth เป็นเรือในชั้น Freedom ต่อโดยบริษัท Lockheed Martin และ LCS-4 USS Coronado เป็นเรือในชั้น Independence ต่อโดยบริษัท General Dynamics ซึ่งหลังจากนี้ ทร.สหรัฐฯอาจจะพิจารณาเลือกใช้แบบจากบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ซึ่งสามารถลดต้นทุนให้กับ ทร.สหรัฐฯได้มากที่สุด เพราะที่ผ่านมาสหรัฐฯลงทุนไปกับเรือทั้งสองลำนี้มากกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยใช้ไปกับ USS Freedom เป็นจำนวน 637 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และอีก 704 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับ USS Independence โดยในการจัดซื้อจัดจ้างครั้งต่อไป ทร.สหรัฐฯได้มีข้อตกลงเพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้กับบริษัททั้งสอง ว่าหากบริษัทใดชนะการประกวดราคา บริษัทนั้นจะได้สัญญาต่อเรืออีก 10 ลำ ต่อเนื่องไปอีก 5 ปี (ปีละ 2 ลำ) และบริษัทที่ 2 จะได้สัญญาต่อเรือ 5 ลำ แต่เป็นแบบของบริษัทแรกที่ชนะ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:14:02

ความคิดเห็นที่ 49 ทั้งนี้ ทร.สหรัฐฯได้พิจารณาแล้วว่า มีความต้องการเรือ LCS จำนวน 55 ลำ เพื่อทดแทนเรือที่กำลังจะปลดประจำการจำนวน  56 ลำ ได้แก่ เรือฟริเกต FFG-7 ชั้น Oliver Hazard Perry  30 ลำ, เรือล่าและทำลายทุ่นระเบิด MCM ชั้น Avenger 14 ลำ และ เรือกวาดทุ่นระเบิด MHC-51 ชั้น Osprey 12 ลำ ในอีก 5 ปีข้างหน้า โลกคงจะได้รู้กันว่า เรือรบรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ จะมีประสิทธิภาพและตอบสนองภารกิจของสหรัฐอเมริกาได้มากน้อยแค่ไหน และเรือชุดนี้ จะเป็นต้นแบบของการต่อเรือในยุคใหม่หรือไม่ คงต้องติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดกันต่อไป จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:15:42

ความคิดเห็นที่ 50 มาลองตามชมครับ อ่านได้สนุกมาก จากคุณ : nap62 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:19:47

ความคิดเห็นที่ 51 ต่อ....   ว่าด้วยเรื่อง กองเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก นั่นก็คือกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา เหตุผลที่ทำให้กองทัพเรือสหรัฐนั้นดูยิ่งใหญ่ที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นกองเรือบรรทุกเครื่องที่มีมากถึง 12 กองเรือ และตอนนี้เรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ก็กำลังถูกสร้างอยู่ แต่ในจำนวนนี้ทั้ง 12กองเรือได้ถูกปลดประจำการไปแล้ว 1 ลำคือเรือ USS Kitty Hawk ซึ่งเป็นเรือที่ประจำการมานานตั้งแต่ปี1960 เรือชั้นเดียวกับ Kitty Hawk นั้นมีอยู่อีก 2 ลำอีกไม่นานก็คงจะถูกปลดประจำการ และก็จะทำให้กองเรือบรรทุกเครื่องของสหรัฐนั้นเหลือเพียง 9 กองเรือ+อีก1ลำที่กำลังสร้าง แต่ทั้งหมดนี้ยกเว้นเรือชั้น Kitty Hawk ใช้พลังงานนิวเคลียร์ในการขับเคลื่อนทำให้มันสามารถที่จะไปที่ไหนก็ได้ในโลกโดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิงเป็นสิบๆปี ส่วนเรือชั้น Kitty Hawk ทั้ง3ลำนั้นเป็นเรือที่ใช้เครื่องยนต์พลังงานธรรมดา กองเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐ 1 กองเรือนั้น จะประกอบไปด้วยเรือแบบต่างๆดังนี้ -เรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ ขนาดระวางขับน้ำเต็มที่ 91,487ตัน ประกอบไปด้วยอากาศยานแบบต่างๆรวมกันถึง 85 ลำ ประกอบไปด้วย   บ.ขับไล่โจมตีทางทะเล F/A-18 E/F   บ.ทำสงครามอิเล็คทรอนิคส์ EA-6B Prowler   บ.ควบคุมและแจ้งเตือนภัยทางอากาศ E-2C Hawk Eyes   บ.ลาดตระเวณและปราบเรือดำน้ำ S-3 Viking   ฮ.กู้ภัยและปราบเรือดำน้ำ SH-60 Sea Hawk   ทหารประจำเรือ นักบินและเจ้าหน้าที่อากาศยานรวมกัน 6600คน(ที่ใช้เป็นคนเพราะมีทั้งชายและหญิง) -เรือลาดตระเวณ 2 ลำ  มีหน้าที่ต่อต้านเรือผิวน้ำและโจมตีบนฝั่งด้วยขีปนาวุธ Tomahawk -เรือพิฆาต 2-3 ลำ มีหน้าที่ป้องกันภัยทางอากาศให้กับกองเรือ โดนใช้ขีปนาวุธระยะไกล SM-2 -เรือฟริเกต 1 ลำ มีหน้าที่ปราบเรือดำน้ำ -เรือดำน้ำ 2 ลำ มีหน้าที่ปราบเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำ -เรือส่งกำลังบำรุง 1 ลำ มีหน้าที่ในการสนับสนุนการรบและส่งเสบียงให้กับกองเรือ เช่น กระสุน น้ำมัน อาวุธสำรองต่างๆ รวมถึงเสบียงอาหารและอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็น ภาพกองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:36:17

ความคิดเห็นที่ 52 บ.ขับไล่โจมตีทางทะเล F/A-18 E/F . จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:37:28

ความคิดเห็นที่ 53 รูปเรือ YAMATO  แบบเต็มๆลำนี่  หาดูยากมากๆเลย    เห็นมีอยู่ไม่กี่รูป ไม่รู้สมัยนั้น เค้าห้ามถ่ายรูป  ถือเป็นอาวุธลับสุดยอด หรือว่าไร จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:37:28

ความคิดเห็นที่ 54 บ.ทำสงครามอิเล็คทรอนิคส์ EA-6B Plowler จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:38:17

ความคิดเห็นที่ 55 บ.ควบคุมและแจ้งเตือนภัยทางอากาศ E-2C Hawk Eyes จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:38:59

ความคิดเห็นที่ 56 บ.ลาดตระเวณและปราบเรือดำน้ำ S-3 Viking จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:39:35

ความคิดเห็นที่ 57 ฮ.กู้ภัยและปราบเรือดำน้ำ SH-60 Sea Hawk จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:40:21

ความคิดเห็นที่ 58 เรือLCS มีสนามบอลอยู่ท้ายเรือด้วย ! - -" จากคุณ : EleMent M@stER เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:40:23

ความคิดเห็นที่ 59 เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Nimitz Class จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:40:59

ความคิดเห็นที่ 60 เรือลาดตระเวณ Ticonderoga Class จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:41:47

ความคิดเห็นที่ 61 เรือพิฆาต Arleigh Burke Class จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:42:30

ความคิดเห็นที่ 62 เรือดำน้ำ Los Angeles Class จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:42:54

ความคิดเห็นที่ 63 เรือฟริเกต Oliver Hazard Perry Class จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:43:31

ความคิดเห็นที่ 64 เรือส่งกำลังบำรุง Sacramento Class จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:48:48

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณครับ จากคุณ : เศียรนาคา ... เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:49:56 A:125.24.12.62 X: TicketID:255126

ความคิดเห็นที่ 66 กาตูนเรื่อง Mugen no Gunkan Yamato เกี่ยวกับเรือ Yamato สุดๆๆ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 15:52:24 จากคุณ : OuyZ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:50:53

ความคิดเห็นที่ 67 มีทำเป็นหนังด้วยนะ เธอ... จากคุณ : OuyZ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:53:49

ความคิดเห็นที่ 68 อิโซรกคุ ยามาโมโตะ(Yamamoto Isoroku) (4 เมษายน 1884 – 18 เมษายน 1943) พลเรือเอกของกองทัพเรือจักรพรรดินาวีญี่ปุ่น และผู้บัญชาการทัพเรือผสมผสมระหว่าง สงครามโลกครั้งที่2 จากคุณ : OuyZ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 16:01:39

ความคิดเห็นที่ 69 เมกัน ยกหางตัวเองอีกตามเคย เรือยามาโต้ ติดระบบเรด้าห์ สำหรับยิงเป้าปืนใหญ่ครับ โดยเฉพาะเป้าทางอากาศ ลูกแตกอากาศ มันมี fragment แตกออกมาได้ 6000 ชิ้นทีเดียว ยุทธนาวีที่อ่าวเลย์เต้ ฟิลิปปินส์ ขนาดมะริกัน ส่งฝูงบินไปถล่มเรือยามาโต้ ตั้งแต่เดินทางออกมาจากซาบ้าห์ ต่อมาถึงเลย์เต้ ตั้งร่วมสิบวัน เรือยามาโต้ที่ได้รับความเสียหาย ยังสำแดงอานุภาพยิงปืนเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก จมเรือประจัญบานหนักของเมกันไป 2 ลำลงสู่ก้นอ่าว นับแต่นั้นพี่กันไม่กล้าเอาเรือลำไหนมาสู้กับยามาโต้อีกเลย แต่เล่นใช้เครื่องบินรุมกินโต๊ะแทน เรียกว่ากลัวกันจนฝ่อ จากคุณ : x เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 17:12:09 A:115.87.179.213 X: TicketID:052378

ความคิดเห็นที่ 70 อ่ายจนตาลายอะ จากคุณ : ยำปลากระป๋องใส่ซอสมะเขือเทศ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 17:13:10

ความคิดเห็นที่ 71 ยุคต่อไปสงสัยใช้ ซุปเป่อเลเซ่อ ยิงกัน จากคุณ : tanakeme เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 17:23:18

ความคิดเห็นที่ 72 เหมาะกับ การออกทะเล ทุกลำเลย ครับ 55+ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 17:44:31

ความคิดเห็นที่ 73 ความคิดเห็นที่ 71  ซุปเป่อเลเซ่อ ยิงกัน ยังไง  ก็แพ้ gundam  ครับ  ยิงแรงกว่าเยอะ จากคุณ : OuyZ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 17:46:51

ความคิดเห็นที่ 74 ลอง Railgun สร้างเสร็จไม่แน่นะครับว่า เรือแบบเรือประจัญบานอาจถูกนำกลับมาใหม่ก็ได้ เพราะ Railgun มันยิงได้ไกล เร็ว แถมแรงสะท้อนต่ำมาก สามารถสร้างเรือบางๆแบบ TICONDEROGA CLASS แล้วเอาป้อมปืนไปตั้งยิงยังได้เลย จากคุณ : DEVIL PHOENIX HELLSING เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 18:01:39

ความคิดเห็นที่ 75 56ลำที่จะปลดบริจาคมาแถวนี้หน่อยได้ไหม จากคุณ : หยงกี้ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 18:23:11

ความคิดเห็นที่ 76 ^ ^ แบบนี้ก็รัวได้เลยสิ น่ากลัวพิลึก ปืนเรือยักยิงรัว -..- จากคุณ : MAXReal เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 18:40:49

ความคิดเห็นที่ 77 //69 มั่วอีกตามเคย.   ยามาโต้นั่นแหละที่หนีหางจุกตูด อีกอย่างหนึ่ง. เรดาหของยามาโต้ไม่มีระบบควบคุมการยิงครับ. ดูเฉยๆ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 18:43:00

ความคิดเห็นที่ 78 ลงชื่อไว้ เดี๋ยวมาอ่านต่อ อิอิ ชอบๆ พวกเครื่องบินรบ เรือรบ รองจากเรื่อง อวกาศ ดวงดาว เลย จากคุณ : เด็กฝึกหัด เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 19:23:40

ความคิดเห็นที่ 79 กระทู้นีเรือเยอะจัง ออกทะเลก็เยอะ ระวังพวกนี้ อยู่แถวโซมาเลียด้วย พวกนี้ชอบยึดเรือ จากคุณ : Chukiet_pr เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 19:34:55

ความคิดเห็นที่ 80 มายิงกับ Bismarck ในอู่ผมป่าว  จากคุณ : Doralords เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 20:03:06

ความคิดเห็นที่ 81 คห.80 ภาพสวยจังเกมส์อะไรครับ ? จากคุณ : มาช้าแต่มาแล้ว เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 20:58:26

ความคิดเห็นที่ 82 จากคุณ : ^__^ (เซ็งอูฐ) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 21:23:15

ความคิดเห็นที่ 83 อยากรู้ว่าเรือใหม่มะกัน เสรีภาพ กับเอกราช นี่มันจะเหนือกว่าคิรอฟของรัสเซียรึป่าว แล้วอยากรู้ด้วยว่า ทหารมะกัน อยู่บนเรือเป็นเดือนทั้ง ช ญ นี่ จะ XXกันยังไงรึป่าว เพราะเคยอ่านข่าว ทหารมะกันโดนข้อหารุมโทรม เพื่อนทหาร ญ มะกันเชื้อสายเอเชีย จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 21:27:09

ความคิดเห็นที่ 84 คห.51 ทหารประจำเรือ นักบินและเจ้าหน้าที่อากาศยานรวมกัน 6600คน(ที่ใช้เป็นคนเพราะมีทั้งชายและหญิง) ใช้หน่วยนับว่า "นาย" ก็ได้ครับ ของไทยเรา เวลาเรียกทหารทั้งชายและหญิง เรียกว่า นาย ทั้งสองเพศครับ จากคุณ : Kaipok เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 21:49:28

ความคิดเห็นที่ 85 # 83!!!!! เรื่องทหารเรือสหรัฐร่วมเพศขณะปฎิบัติภาระกิจในเรือจนตั้งครรภ์หลายนายนั้นพอเคยได้ยิน แต่เรื่องรุมโทรมทหารหญิงสหรัฐเชื้อสายเอเซียนี้ไม่เคยได้ยินครับ!!!! มันเกิดขึ้นครั้งเดียว หรือเกิดขึ้นบ่อยๆครับท่าน??? ในกองทัพสหรัฐยังมีการ racism กันอีกหรือนี้? หรือผมดูหนังฮอลลีวู๊ดมากไปแล้ว? จากคุณ : มาช้าแต่มาแล้ว เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 21:56:09

ความคิดเห็นที่ 86 Navyfield ครับ ผมก็เล่นอยู่ HTMS Leviathan Battlecruiser Guam ครับ จากคุณ : Maverick เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 22:10:50 A:124.122.32.13 X: TicketID:239663

ความคิดเห็นที่ 87 ยามาโต้ จมเรือรบรบอเมริกัน 2 ลำ ด้วยเหรอครับ ยังไม่เคยได้ยินเลย แต่ที่ได้ทราบมา เรือยามาโต้ ยังไปไม่ถึงไหน ก็จมแล้ว จากคุณ : E22QV เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 22:31:35

ความคิดเห็นที่ 88 คห.87 คงจมได้ตอนรบที่อ่าวเลเต้กระมังครับ นั่นเป็นหนึ่งในการรบไม่กี่ครั้งของเรือยามาโตะและเป็นครั้งเดียวที่มีโอกาสใช้ปืนหลักของเรือด้วย จากคุณ : jedsada เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 23:26:38 A:182.53.31.34 X: TicketID:198675

ความคิดเห็นที่ 89 คห.80 ทำไม bismark ท่านใส่ปืน3ลำกล้องอ่ะ นน.มันไม่เกินเรอะ แต่bismark มาเจอ kitakami ซัดตอร์หมดแผงยังไงก็ไม่รอด หุหุ เกมส์ในคห.80 น่ะเรือญี่ปุ่นปืนเทพนะ AAที่ดีที่สุดในเกมส์เลยมั้ง ตอร์ปิโดเทพอีกต่างหาก ที่เกราะของญี่ปุ่นนี่ไม่ต้องมีก็ได้ ไม่รู้ว่าเกราะหรือกระดาษแทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย จากคุณ : Arado_Kung เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 00:12:05

ความคิดเห็นที่ 90 ตั้งข้อสังเกตนะครับ... ใน 1 กองเรือ  ดูเหมือนทาง ทร.สหรัฐจะให้ความสำคัญมากๆในภารกิจเกี่ยวกับการ ปราบเรือดำน้ำ สันนิษฐานว่า ทร.สหรัฐ มองเห้นจุดอ่อนของกองเรือคือทางใต้น้ำ  นั่นก็คือเรือดำน้ำ   ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้ที่กองเรือจึงเน้นระบบการป้องภัยทางเรือดำน้ำเป็นพิเศษเพื่อ ลดจุดอ่อนในตรงนี้ก็เป็นได้ อันนี้ดูจากภารกิจและความสามารถของยุทโธปกรณ์แต่ละชิ้นนะครับ จากคุณ : _snowy เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 00:34:33

ความคิดเห็นที่ 91 เรื่องการจัดอันดับ จะว่า Discovery Channel อวยกันเองก็ได้ แต่อย่าลืมว่า การคิดคะแนนมันมีหลายส่วน ไม่ได้คิดแต่แสนยานุภาพอย่างเดียว จะเห็นว่าเค้าจัดอันดับคลาสเรือ ไม่ได้จัดอันดับเรือแยกเป็นลำ ดังนั้นจึงมีการคิดคะแนนเรื่องจำนวนที่ต่อออกมาด้วย นอกจากนั้นก็คิดคะแนนเรื่อง นวัตกรรม ระยะเวลาที่ประจำการ ผลงานในสนามรบ ฯลฯ จากคุณ : :: AdvanceTactics :: เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 02:20:40

ความคิดเห็นที่ 92 แต่ผมชอบเรืออูมากที่สุด กินเยอรมันไม่ลงเลยทีเดียวเชียว จากคุณ : น้ำเต้าหู้กะปาท่องโก๋ เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 03:15:31

ความคิดเห็นที่ 93 LCS เหมือนกำลังจะมีปัญหานะครับ http://www.wired.com/dangerroom/2011/07/plenty-of-blame-to-go-around-for-disappearing-warship/ จากคุณ : Charles Y. เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 04:17:12

ความคิดเห็นที่ 94 อันดับ  0 Kirov class battlecruiser เป็นเรือรบของ สหภาพโซเวียตที่ตกทอดมายังรัสเซีย มีทั้งหมด 4 ลำ เป็นเรือ guided missile cruiser ซึ่งอาวุธหลักจะเป็นขีปนาวุธต่าง ระวางขับน้ำ 23,000 - 28,000 ตัน ความสามารถคือ เป็นเรือรบขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ ที่ยิงขุปนาวุธต่างๆจากระยะไกล รวมทั้งหัวรบนิวเคลียร์ พร้อมด้วยระบบป้องกันอากาศยานที่แน่นตึ๊บ อีกทั้งระบบป้องกันเรือดำน้ำที่แน่นหนาอีกด้วย และยังบรรทุกฮอลิคอปเตอร์ได้อีก 3 ลำ ระบบเรดาร์ โซนาร์  และสงครามอิเลคทรอนิคส์ - Voskhod MR-800 (Top Pair) 3D search radar - Fregat MR-710 (Top Steer) 3D search radar - 2 × Palm Frond navigation radar - Horse Jaw LF hull sonar - Horse Tail Variable Depth Sonar - 2 x PK-2 Decoy dispensers อาวุธหลัก ต่อต้านเรือ - P-700 Granit AShM    บรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ได้* - SS-N-14 Silex ASW cruise missiles ปืน - ปืนคู่ AK-130 130 mm/L70 dual purpose gun - AK-630 six-barreled Gatling 30 mm/L60 PD guns อาวุธต่อต้านอากาศยานและต่อต้านขีปนาวุธ - S-300 long-range SAM - 9K311 Tor point defense SAM - OSA-MA PD SAM - CADS-N-1 Kashtan gun/missile system ตอปิโดต่อต้านเรือ และระบบต่อต้านตอปิโดและเรือดำน้ำ - RBU-1000 305 mm ASW - RBU-12000 (Udav-1) 254 mm ASW - RPK-2 Viyuga 533 mm ASW/ASuW ฮอลิคอปเตอร์ - Ka-50 "Black Shark"   3 ลำ จากคุณ : คนสร้างภูเขา เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 08:22:21

ความคิดเห็นที่ 95 Ka-50 "Black Shark" เป็นฮอลิคอปเตอร์ ที่มีประสิทธิภาพสูสีกับ อะปาเช่ ของเมกา (AH-64 Apache)  เนื่องจากระบบใบพัด 2 ชั้น จึงทำให้แรงยก และความเร็วดีกว่า Performance    - Maximum speed: 315 km/h (AH-64 Apache - 293 km/h)    - Cruise speed: 270 km/h (AH-64 Apache - 265 km/h)    - Range: 545 km (AH-64 Apache - 476 km)    - Ferry range: 1,160 km (AH-64 Apache - 1,900 km)    - Service ceiling: 5,500 m (AH-64 Apache - 6,400 m)    - Rate of climb: 10 m/s (AH-64 Apache - 12.7 m/s )    - Disc loading: 30 kg/m² (AH-64 Apache - 47.9 kg/m²)    - Power/mass: 0.33 kW/kg (AH-64 Apache - 0.31 kW/kg)    - Empty weight: 7,700 kg (AH-64 Apache - 5,165 kg)    - Loaded weight: 9,800 kg (AH-64 Apache - 8,000 kg)    - Max takeoff weight: 10,800 kg (AH-64 Apache - 10,433 kg) จากคุณ : คนสร้างภูเขา เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 08:41:41