 |
ทองคำขาว = ทองคำ + โลหะอื่นๆ จนเป็นสีขาว ทองขาว = Platinum มีราคาแพงกว่าทอง
ถ้าดูจากชื่อ ภาษาอังกฤษเลยคำว่า Gold แปลว่า ทองคำ(ไม่ใช่ทองเฉยๆ) เป็นธาตุชนิดหนึ่ง
ดังนั้น ถ้า White Gold ก็คือ ทองคำขาว ซึ่งเป็นทองคำเจือโลหะอื่นให้มีสีขาว และมีเปอร์เซนต์ทองต่ำลง
ส่วน Platinum ก็เป็นธาตุอีกชนิดนึง เป็นโลหะมีค่า แพงกว่าทองซะอีก พวกนี้มีความแข็ง และความหนาแน่นสูงกว่าทอง
ทองขาว มีชื่อภาษาอังกฤษว่า แพลทินัม (Platinum) แพลทินัม เป็นธาตุบริสุทธิ์ มีสีเงินเทา มีน้ำหนักมาก สามารถยืด และตีเป็นแผ่นได้ แพลทินัมทนต่อการกัดกร่อนมาก ในธรรมชาติพบอยู่กับสินแร่ของนิกเกิลและทองแดง แพลทินัมใช้ทำ เครื่องประดับ อุปกรณ์ในห้องทดลอง ตัวนำไฟฟ้า งานทันตกรรม และเครื่องกรองไอเสียในรถยนต์
ทองขาว (Platinum) มีราคาสูงกว่าทองคำบริสุทธิ์ (Gold) ประมาณ 2 เท่า
ส่วนทองคำขาว มีชื่อภาษาอังกฤษว่า ไวท์โกลด์ (White gold) ผู้ซื้อส่วนมากมักจะโดนร้านค้าสอนให้เรียกแบบผิดๆ ซึ่งทำให้สินค้า ของตัวเองดูมีราคามากขึ้น
ทองคำขาว (White gold) จะถูกว่าทองคำบริสุทธ์ เนื่องจากมีส่วนผสมที่ไม่ครบ 100% นั่นเอง
ทองคำขาว (White gold) คือโลหะผสม ของทองคำและโลหะสีขาว เช่น เงิน และ แพลเลเดียม ซึ่งเราอาจจะเห็น ทองขาวมีตัวเลข 90% , 75% หรือ % อื่นๆ ก็ตาม เช่น ทองคำ (Yellow gold) มีตัวเลข 90% หมายถึง ทองคำ 90% + ทองแดงและสังกะสี อีก 10% ทองคำขาว (White gold) มีตัวเลข 90% หมายถึง ทองคำ 90% + เงินและแพลเลเดียม อีก 10%
ข้อมูลเพิ่มเติม ทองคำขาว คือ วัสดุผสม ของของ ทองคำและโลหะขาวอื่นๆ เช่น เงิน แพลเลเดียม หรือ นิกเกิล สีปกติของทองคำขาวมีสีเทาอ่อน
โดยปกติอัญมณีที่ทำจากทองคำขาว นิยมเคลือบด้วย โรเดียม หรือ แพลตินัมเพื่อเพิ่มความเงางาม ทองคำขาวไม่ใช่แพลตินัม โดย ปกติจะเคลือบแพลตินัมไม่เกิน 1 ใน 3 เนื่องจากแพลตินัมมีราคาแพง
ทองคำขาวได้ถูกคิดค้นขึ้นในช่วง คริสต์ทศวรรษ 1920 ซึ่งเป็นวัสดุผสมที่จาก ทองคำ - แพลเลเดียม - นิกเกิล และราคาถูกกว่า แพลตินัม
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 แพลตินัมและนิกเกิลถูกห้ามใช้ในกิจการอื่นนอกเหนือจากในสงคราม ทำให้วัสดุผสมระหว่าง ทองคำนิ-แพลเลเดียม เป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกา โดยมีน้ำหนักมากกว่าทองคำ - นิกเกิล
ภายหลังสงคราม ทองคำขาวจากการผสมของนิกเกิลได้เป็นที่นิยมอีกครั้งเนื่องจากราคาที่ถูกกว่า บางคน (ประมาณ 12.5%) มีอาการแพ้ต่อทองคำขาว เนื่องจากปฏิกิริยาระหว่าง นิกเกิลกับผิวหนัง โดยการระคายเคืองเล็กน้อยและ อาจจะเป็นผื่นคัน
http://www.google.co.th/url?sa=t&source=web&cd=4&ved=0CC0QFjAD&url=http%3A%2F%2Fwww.thai-ireland.com%2Fdocumentnew%2Fgold%2520knowladge.pdf&ei=wKctTvehHcnRrQfGrbSyDQ&usg=AFQjCNHOinKLiSawEO8Bsiylg2MTgIFIow&sig2=0ibgBJGT-kHExb9KFBFhJA
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 00:29:10
แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 54 18:18:04
จากคุณ |
:
Culture
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ก.ค. 54 18:16:46
|
|
|
|
 |