ความคิดเห็นที่ 1 ทั้งหมดที่ถามมารู้ไว้ก็จะดีมาก มีประโยชน์กับงานเครื่องกลทุกตัว แต่network ไม่จำเป็นเท่าไหร สรุปคือ ต้องดูว่างานที่เราจะเข้าไปทำนั้นเป็นลักษณะไหน หรือเราสนใจไปทางไหนของเครื่องกล เพราะสายเครื่องกล ไปได้หลายทางมาก จากคุณ : แสนเซ็ง เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 15:22:13

ความคิดเห็นที่ 2 บุคลิกภาพครับ จะเป็นหัวหน้าคน ต้องสั่งงานลูกน้องเป็น เป็นผู้นำที่ดี จากคุณ : lovodath เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 15:27:55

ความคิดเห็นที่ 3 ตัว network ผมศึกษาเพราะชอบครับ ไม่ได้หวังจะเอาดีด้านนี้ แต่ถ้ามีปัญหาก็พอจะแก้ได้อยู่ สมัยเด็กๆชอบด้านคอมครับ กะว่าจะเรียนวิศวะคอมด้วยซ้ำ แต่คิดว่าด้านคอมศึกษาเองก็ได้ ไม่ต้องลงทุนเรียนถึง 4 ปี เลยมาสายเครื่องกลครับ เพราะว่ามันยากดี ยากเกินไปด้วย ผมก็ยังไม่จบครับ แต่ก็คาดว่าจะจบด้วยเกรดประมาณนี้ ไม่น่าถึง 3 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ จากคุณ : Phantom thief เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 15:31:37

ความคิดเห็นที่ 4 แนะนำให้ เทพ โปรแกรม SPSS, Minitab ครับ เพื่อวิเคราะห์ทางสถิติ ถ้าหาก ทำงานโรงงานแล้ววิเคราะห์ทางสถิติ เก่งๆหละก็ อัพค่าตัวได้อักโข ทีเดียวเชียวครับ เพราะ การวิเคราะห์ทางสถิติ นั้นสามารถดูได้ว่า ระบบโรงงานนั้นบกพร่องตรงไหน แล้วควรจะลด Cost ส่วนไหนได้บ้าง สกิลนี้สำคัญพอตัวครับ เพราะเราเรียนไปก็อยากเป็นเจ้าคนนายคน ไม่อยากเป็นแค่ Technician ^_^ จากคุณ : ฟ้าสั่งให้ฉันรักคนที่มีเจ้าของ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 15:45:46

ความคิดเห็นที่ 5 หนังสือเซนกล่าวไว้ว่า "ไม่โง่ แต่ก็ไม่อวดรู้" จะทำให้มีเสน่ห์เพิ่มขึ้นมากครับ จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 16:09:59

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้ามีความสามารถด้านการขาย จะเจ๋งมากครับ ทุกบริษัทต้องการคนที่มีความเข้าใจทั้งเรื่องงานขาย และงานผลิตคู่กัน เราเป็นฝ่ายผลิด ถ้าเข้าใจเรื่องการขาย ก็ผลิตได้ตรงใจลูกค้า เราย้ายไปอยู่ขาย เข้าใจเรื่องการผลิต ก็ดิวงานง่าย งานไม่ต้องแก้ ของเสียน้อย กำไรเยอะ เราย้ายไปฝ่ายบริหาร ก็เข้าใจทั้งผลิตทั้งขาย บริษัทจะปลดพนักงานเราก็เป้นตัวเลือกตัวท้ายๆ เพราะเป็นตัวทำเงิน บริษัทเจ๊ง ก็หางานง่ายเพราะใครๆ ก็อยากรับ จากคุณ : รวมพล คนธรรมดา เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 16:13:10

ความคิดเห็นที่ 7 ภาษา ครับ วิศวกรหลายคน มีจุดบอดด้านนี้ (ผมเองก็หนึ่งในนั้น) ถ้าจะ deal งานกับชาวต่างชาติ คนได้ภาษาได้เปรียบมากครับ บังเอิญว่าผมไม่ต้องไปแก่งแย่งกะใคร เมื่อก่อนมีเจ้านายเป็นฝรั่ง ถ้าเค้าพูดแล้วผมฟังไม่รู้เรื่องก็ไม่ได้งานแค่นั้น แกเลยต้องสอนภาษา (เหมือนโดนบังคับ) ไปในตัวครับ :) จากคุณ : หลังอาน เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 16:13:13

ความคิดเห็นที่ 8 ไมโครซอฟออฟฟิศ จากคุณ : ลูกกระจ๊อกของโฮกุโตะ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 16:15:12

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าตั้งใจเรียนเก็บความรู้ติดมาพร้อมใบปริญญาและ กว. ขอภาษาเพิ่มเติมครับ  กับบุคลิกภาพ มนุษยสัมพันธ์ที่ดี จากคุณ : ชื่อสมาชิก เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 16:17:31

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าเป็นผมน่ะครับ ถ้าจะเอามาเป็น วิศวกรออกแบบ เรื่องอื่นไม่ต้องรู้มากก็ได้ครับ มีผู้เชี่ยวชาญทำงานอยูแล้ว ขอเพียงเรื่องเดียว เรื่องที่เรียนมา ให้แน่นๆ หน่อย ยกตัวอย่างลูกน้องที่อันเป็นที่รักมาก เป็นวิศวกรออกแบบ แต่ให้มันคำนวน หาแรงแรงกระแทกของชิ้นงาน ขณะชน โดยชิ้นงานที่เคลื่อนที่มากระแทกกับ แผ่นกั้น ตามกระดานเอียง ว่าเท่าไร เพื่อที่จะไปออกแบบแผ่นกั้น และmode shape ของระบบ แค่นี้มันทำไม่ได้ ที่น่าเจ็บใจ ตอนแรกดันบอกทำได้ ผมต้องไปทำธุระ เป็นอาทิตย์ กลับมาดู ได้แค่แรงธรรมดามา พร้อมการมั่วๆสุด ความเร็ว ก็มั่วเอาเอง ไม่ได้คำนวนเลย ต้องการแรงกระแทกน่ะเฟ้ย สุดท้าย ย้ายก้นมันไป คุมงานผลิตแทนแล้ว พร้อมหักเงิน ค่าออกแบบ แค่บ่นน่ะครับ คุณ จขกท คงจะแน่น แล้ว งั้นก็หาอะไรที่ชอบเลยครับ เป็นผม ผมเลือกถ่ายรูปครับ จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 16:44:50 A:124.121.11.44 X: TicketID:255467

ความคิดเห็นที่ 11 ภาษา ญี่ปุ่น + อังกฤษ สองภาษานี้สำคัญอย่างแรงในชีวิต การทำงาน จากคุณ : aum_pe เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 17:16:40

ความคิดเห็นที่ 12 ผมก็เครื่องกลครับ ส่วนตัว คิดว่า ถ้าทำงานบริษัทฯ งานที่ออกมาส่วนใหญ่จะเป็น Teamwork ภาษาอังกฤษ+ญี่ปุ่น สำคัญมากครับ อาจจะมี - relationship - presentation skill - expansion skill นอกนั้น คนที่จบมาได้ ไม่มีปัญหาเรื่อง Knowledge ครับ เชื่อผม.. จากคุณ : Mr.Pong Roi-Et เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 17:56:50

ความคิดเห็นที่ 13 Able to work under pressure. จากคุณ : askedwutt เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 19:19:31

ความคิดเห็นที่ 14 Common Sense ครับ จากคุณ : ม้านอกสายตา เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 19:37:05

ความคิดเห็นที่ 15 ภาษาอังกฤษและเรื่องของคน จากคุณ : tangs เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 20:54:25

ความคิดเห็นที่ 16 การเจรจาต่อรอง กับทุกสถานะการณ์ ทุกภาษาคับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 20:59:54 จากคุณ : กะเหรี่ยงน้อยเองจ้า (sagga18) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 20:59:36

ความคิดเห็นที่ 17 เก่งคน เก่งเครื่องจักร เก่งเอกสาร และเก่งงาน จากคุณ : หมื่นทัพ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 21:04:50

ความคิดเห็นที่ 18 skill ที่ผมว่าสำคัญสำหรับวิศวะเครื่องกลที่สุดคือ ... การกลึงชิ้นงาน .. ตามด้วยการเชื่อม ... โดยปราศจาก 2 skill นี้ก็อาจจะพอกล้อมแกล้มริอาจเป็น วิศวะกรออกแบบได้ แต่มันทำรถหลุดเป็นชิ้นๆ เรือล่ม แอร์ระเบิดได้เลยทีเดียว ... หรือไม่งั้นก็เป็นได้แค่หัวหน้าแบบที่ลุกน้อง ฟังแล้ว ... เฮ้อ ส่วนวิศวกรไฟฟ้า-อิเล็ก คือต้องพันหม้อแปลงเองเป็น โทรคมต้องเคยทำวิทยุทำเสาอากาศมาแล้วบ้าง จะได้รู้ว่า สิ่งมหัศจรรย์-ลี้ลับในโลกมันมีจริง ส่วน พวก spss อะไรเทือกนั้น ปล่อยให้เป็นงาน วิศวอุตสาหการไปดีกว่า ถ้าเครื่องกลจะ up ขั้นก็ควรไปดูเรื่อง FEM Analysis จะเป็น skill จริงๆ พวก spss, English มันเป็นเรื่องเด็กๆ ไปเลยถ้าเทียบกับที่ผมพูดมา... จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 21:25:10 A:124.120.217.132 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 19 ขยายความดีกว่า ... ในกรณีที่คนสงสัยว่า การกลึงชิ้นงานมันเกี่ยวอะไร เพราะถ้าคนเคยกลึงงาน ง่ายสุดก็สวมแกนลูกปืน จะรู้ว่าการคุมให้ได้ขนาดนี้ ขนาดโน้น ตาม h5 h7 มันยากต่างกันแค่ใหน เคยมีเด็ก สั่งงาน แล้วไม่รู้ว่าความยากของ h7 มันต่างกันยังไง ขนาดรูเจาะทิ้งมันยังให้ bore เป็น h7 ... ทำอย่างนี้ไปบริษัทมีต้นทุนสูงจนบรรลัย ทั้งเรื่อง Surface Finished ทั้งเรื่องว่า กลึงเสร็จต้องเอาไปชุบแล้วการบิดการเบี้ยวจะเป็นยังไง เลยสามารถกล่าวเลยว่า ถ้าไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานพื้นฐานสองอย่างนี้ จะไม่มีวันออกแบบอะไรได้ดีจริงๆ ... ถ้าจะทำได้ก็เป็นแค่วิศวกรคุม ไลน์ ที่ไม่ได้ใช้ความรู้ทางวิศวกรรม แล้วก็ไม่สามารถแม้กระทั่งเป็นคนออกแบบวิธีการควบคุมไลน์การผลิต ด้วยซ้ำ เพราะไม่เคยรู้ว่าปัญหาจริงๆ อารมณ์จริงๆ สภาพจริงๆ มันเป็นยังไง จะเป็นได้แค่วิศวกร คุมไลน์ที่ ทำตามคำสั่งคนอื่นๆ อีกที จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 21:31:24 A:124.120.217.132 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 20 หัดสร้างหุ่นยนต์สิ ถ้าชำนาญอีกหน่อยสร้างเองขายเอง ไม่ต้องเป็นลูกจ้างเขาสบายใจด้วย หัดกลึงชิ้นงาน เชื่อมชิ้นงาน ที่สำคัญหัดการใช้ชีวิตอยู่กับผู้ร่วมงาน ไม่แบ่งชั้นความรู้ เพราะส่วนมากคนที่จบวิศวะมักจะคิดว่าตัวเองเป็นเทวดา คิดว่าฉลาดรอบรู้มากกว่าคนอื่น แต่ขอบอกความจริงของชีวิตมันต่างกับทฤษฎีในหนังสือ จากคุณ : invisible_man เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 01:33:10

ความคิดเห็นที่ 21 -SAP -Mechanical Planning -Reliability &Cost control -Industrial Process -Leader ship and Decision Making -English for communication -Machine design and selection จากคุณ : Gulf (guffpooh) เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 10:16:02

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่าผมเรียนที่เดียวกับจขกท.นะ แต่ผมภาคคอม (นอกเรื่อง ฮ่าๆ) จากคุณ : chayenkung เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 10:31:41

ความคิดเห็นที่ 23 วิศวกรไทย เป็นอย่างอื่นได้ปะ นอกจากจบมาเป็นแค่ลูกจ้างโรงงานญี่ปุ่น เกาหลี โรงงานอื่นๆ จากคุณ : วิศวะไทย ทำได้แค่.. เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 11:20:24 A:124.120.246.239 X: TicketID:303162

ความคิดเห็นที่ 24 ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นเยอะเลย ขอบคุณมากๆครับ ผมว่าจะลงเรียนอย่างอื่นเพิ่มนอกจากหลักสูตรที่สอนในมหาวิทยาลัยครับ ตอนนี้กำลังฝึกภาษาอยู่ ด้อยพัฒนามาตั้งนาน ในเรื่องการปฎิบัติต่างๆผมคิดว่าผมทำได้เยอะกว่าคนอื่น แต่ด้านทฤษฏีอาจจตรงกันข้ามเลย จากคุณ : Phantom thief เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 12:05:13

ความคิดเห็นที่ 25 ภาษาครับ คำพูดให้ฉะฉาน มั่นใจตัวเอง แต่อย่าอวดรู้ไปหมด ให้เค้ารู้สึกว่าคุณทำงานกับเค้าได้ ที่สำคัญที่เค้าต้องการคือ ไหวพริบ ปฏิภาณ Engineering sense  เรื่องนี้สอนกันไม่ได้ เอาไว้ใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า เค้าจ้างคุณแพงๆก็ตรงนี้แหละ   เรื่องความรู้ ขอแค่พิ้นฐานที่เรียนมา เรื่องอื่นๆ ถ้าต้องใช้เดี๋ยวเค้าจัดให้เอง ถ้าจะให้ดี เรื่องบริหาร การเงิน ติดตัวไว้ดูดีกว่าเดิมเยอะ ผมก็แค่ 2.66 ม.บ้านนอก ไม่ดัง สัมภาษณ์ก็ได้เกือบทุกที่ คห.23 ผมสงสารคุณจริงๆเลย โลกแคบมาก จากคุณ : Sympho เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 18:14:33

ความคิดเห็นที่ 26 25 คิดดีแล้วหรอ หา พี่ข้าก็เป็นวิดวะ โรงงาน....ลูกจ้าง จากคุณ : โธ่ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 09:48:23 A:110.168.69.124 X: TicketID:303162