ความคิดเห็นที่ 1 หลากแบรนด์หลายยี่ห้อ ในขนาดขวดขนาดเล็กพร้อมดื่มราว 1-2 อึก แต่สนนราคาเรือนร้อย!             เป็นคำถามที่ผู้รักสุขภาพสงสัยกันมานานเหลือเกินว่า “รังนก” ดีจริงหรือไม่ บำรุงสุขภาพได้มากน้อยเท่าใดหากเทียบกับราคาที่ค่อนข้างสูงเอาการ และท่ามกลางความสงสัยนี้ มีหลากหลายองค์กรวิชาการที่ได้ออกมาให้ข้อมูล แต่ทว่าเสียงเพื่อการให้ข้อมูลเหล่านี้ อาจจะยังไม่ดังเท่าเสียงโฆษณาและรัศมีเจิดจ้าของเหล่าพรีเซนเตอร์สุดสวย-สุดหล่อ ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากยังคงมีความเข้าใจผิดอยู่มากในการเลือกซื้ออาหารเสริมชนิดดังกล่าว จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:11:49

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นของ “รังนก” ถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง โดยมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ในประเด็น “ความแท้” ที่ถูกระบุไว้ในฉลากว่า “100%” แต่ในความเป็นจริงแล้วความแท้ 100% ที่ระบุนั้น คือ100% ของส่วนผสมจากรังนกแท้ที่ถูกบรรจุอยู่ในขวดเพียง 1% เท่านั้น ที่เหลือจะเป็นน้ำและน้ำตาลกรวดเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่า 100% ของทั้งขวดคือรังนกแท้ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วรังนกแท้มีเพียงร้อยละ1เศษๆ เท่านั้นต่อหน่วยบริโภค 1 ขวด จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:12:36

ความคิดเห็นที่ 3 ซื้อก๊วยเตี๋ยวน้ำตกหน้าปากซอยยังมีประโยชน์กว่าเลย จากคุณ : หัวโตนะ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:13:26

ความคิดเห็นที่ 4 รศ.ดร.นพมาศ สุนทรเจริญนนท์ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรระบุว่า “รังนก” ถือเป็น “สัตว์วัตถุ” ที่ถือว่าเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งเหมือนกัน ความนิยมในการบริโภครังนกนี้มาจากศาสตร์ของการแพทย์แผนจีน และเป็นความเชื่อตามภูมิปัญญาของชนชาติมังกรที่มีมานับพันปีแล้วว่า รังนกเป็นของดี เป็นของบำรุงสุขภาพ             “แต่โดยส่วนตัวยังไม่เคยทำวิจัยเรื่องรังนกแบบลงลึก จึงไม่สามารถบอกได้ว่าคุณสมบัติที่แท้จริงของมัน เป็นไปอย่างที่คนส่วนใหญ่เชื่อหรือไม่ เมื่อวันก่อนเห็นข่าวของมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค อันนี้เห็นด้วยที่จะออกมาแก้ความเข้าใจผิดของประชาชน ซึ่งมีอีกมากที่เข้าใจว่า 100% ในขวดคือรังนก ส่วนอีกประเด็นหนึ่งที่เป็นห่วงคือ ความนิยมและความเชื่อในสรรพคุณว่าเป็นยาบำรุงชั้นดี ทำให้มีเป็นที่มาของรังนกปลอม” จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:15:10

ความคิดเห็นที่ 5 รศ.ดร.นพมาศ ให้ข้อมูลว่า เท่าที่ทราบมีการลักลอบขายรังนกปลอมกันเป็นจำนวนมากตามแนวชายแดน ส่วนใหญ่จะทำมาจากชัน ซึ่งเป็นยางไม้ชนิดหนึ่ง เมื่อใส่น้ำลงไปจะบวมน้ำ มีลักษณะขาวใสคล้ายรังนก ซึ่งมีราคาถูกกว่ามาก             “จริงๆ รังนกแท้ก็ไม่ได้เป็นพิษ สามารถรับประทานได้ แต่ประเด็นคือมันมีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งก็อยากวอนทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับรองคุณภาพสินค้าเหล่านี้ ให้มีคุณภาพจริงตามที่ฉลากโฆษณาไว้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้บริโภคด้วย” ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรรายนี้ระบุ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:15:45

ความคิดเห็นที่ 6 ด้านรศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล จากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า จากการเก็บข้อมูลตัวอย่างเครื่องดื่มรังนกสำเร็จรูปในท้องตลาดของไทยมาตลอด 10 ปี ทำให้ทราบว่าค่าเฉลี่ยของรังนกสำเร็จรูปดังกล่าวส่วนใหญ่จะมีรังนกเป็นส่วนผสมอยู่ในแต่ละขวดราว 1% เศษๆ ของส่วนผสมทั้งหมดภายในขวด มีน้ำตาลประมาณ 12% และเมื่อวิเคราะห์โปรตีนในปริมาณต่อขวดแล้วพบว่ามีเพียง 0.25 กรัมเท่านั้น และในภาพรวมของแต่ละขวดให้พลังงานประมาณ 52 กิโลแคลอรี ซึ่งส่วนใหญ่พลังงานจะมาจากน้ำตาล             “จากสัดส่วนโปรตีนเพียง 0.25 กรัม หากเขาต้องแจงรายละเอียดข้างขวด ด้วยขนาดเท่านี้อาจจะต้องระบุด้วยซ้ำว่ามีโปรตีน 0% เพราะน้อยมากๆ แถมเป็นโปรตีนจากน้ำลายนก ซึ่งเป็นโปรตีนไม่สมบูรณ์ แต่เขามีช่องที่ไม่ต้องแสดงรายละเอียดในส่วนนี้ เพราะกฎหมายระบุว่าหากไม่ใช่อาหารเสริมประเภทมีส่วนอะไรที่สูงเป็นพิเศษ อย่างแคลเซียมสูง โปรตีนสูง พวกนี้ต้องแสดงรายละเอียด แต่ช่องว่างดังกล่าวทำให้รังนกสำเร็จรูปไม่ต้องแสดงรายละเอียด ไม่เช่นนั้นก็อาจจะต้องใส่ว่ามีโปรตีน 0%” จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:16:26

ความคิดเห็นที่ 7 รศ.ดร.ประไพศรีกล่าวอีกว่า ภูมิปัญญาการบริโภครังนกบำรุงกำลังเป็นของชาวจีนที่มีมานับพันปี ประกอบกับความยากในการได้มาซึ่งสัมปทานรังนกตามเกาะหรือถ้ำ และปริมาณที่มีน้อย บวกกับคำโฆษณาจากกลยุทธ์ทางการตลาด ทำให้รังนกถูก “เพิ่มมูลค่า” ขึ้นนับเท่าทวีคูณ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:17:04

ความคิดเห็นที่ 8 “เครื่องดื่มรังนกมักผสมน้ำตาล ทำให้ผู้ป่วยฟื้นไข้หรือคนที่อ่อนเพลียกินแล้วจะรู้สึกสดชื่น ซึ่งจริงๆ รังนกก็ไม่ได้มีพิษ โดยส่วนตัวคิดว่าหากอยากกินอะไรแปลกๆ ก็กินได้ แต่จากการเก็บข้อมูลอย่างที่เรียนให้ทราบคือในแต่ละขวดมีโปรตีนเพียงเท่านี้ ดังนั้นเป็นเรื่องของผู้บริโภคที่จะชั่งน้ำหนักตัดสินใจความคุ้มค่าด้วยตัวเอง และค่านิยมในการนำรังนกไปเยี่ยมไข้ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าห่วง คือคนเยี่ยมจะมองว่า เป็นของแพง ซึ่งน่าจะเป็นของดี แต่ถ้าต้องการประหยัดสตางค์ การนำกระเช้านมและผลไม้ไปเยี่ยม ก็น่าจะประหยัดและมีประโยชน์แก่คนไข้ และเป็นตัวเลือกที่ดี” จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:17:29

ความคิดเห็นที่ 9 อืม ขอบคุณครับ ^^ จากคุณ : นักเทคนิคการแพทย์น้อย (wan_medtech) เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:20:51

ความคิดเห็นที่ 10 ปิดท้ายที่ อ.สง่า ดามาพงษ์ นักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญ ที่ยืนยันในกรอบความคิดเดิมที่ย้ำมาตลอดกับทุกๆ สื่อและทุกๆ ครั้งที่ได้มีโอกาสบรรยายว่า ไม่มีวิตามินหรืออาหารเสริมตัวใดตัวหนึ่งที่มนุษย์เรากินแล้วจะแข็งแรง ความแข็งแรง สมบูรณ์ และสมดุลของร่างกาย ต้องขึ้นอยู่กับการบริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ การออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ “ภาครัฐจะต้องให้ข้อมูลประชาชนมากกว่านี้ ต้องมีกฎหมายบังคับในการติดฉลากและโฆษณาตามความเป็นจริง ประชาชนเองก็ต้องใส่ใจหาข้อมูลก่อนจะหลงเชื่อคำโฆษณา ผมเชื่อว่าก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชาม ข้าวราดแกงหนึ่งจาน ตามด้วยผลไม้ จะมีคุณค่าทางอาหารมากกว่ารังนกหรืออาหารเสริมตัวใดตัวหนึ่งแน่นอน” นักโภชนาการคนดังทิ้งท้าย จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:23:49

ความคิดเห็นที่ 11 ความเห็นในเวปต้นเรื่อง ถล่มกันอย่างเมามันส์ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:33:45

ความคิดเห็นที่ 12 อยากรู้ว่า จริงๆ แล้ว เขาเก็บรังนกตอนไหน ถ้าเขาเก็บตอนที่ลูกนกโตแล้ว รังไม่ได้ใช้แล้ว แบบนี้ก็น่าจะโอเคนะ หรือเขาเก็บเอาเฉพาะรังใหม่ จากคุณ : RouteRaideR เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:43:14

ความคิดเห็นที่ 13 ออกกฏหมายบังคับใช้ให้ติดข้อความ  แบบซองบุหรี่เ้ลยได้ไหมครับ ไม่ต้องรณรงค์ ชี้แจงเรื่องสารอาหารให้เสียเวลา แค่ให้ รังนกทุกขวดต้องติดข้อความว่า " มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ ต้องโง่ด้วย " จากคุณ : muanchol เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:51:11

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนตัวผมคิดว่าเป็นสินค้าสำหรับตลาดบน (คนมีฐานะ) ซึ่งการบริโภคขึ้นอยู่กับความพอใจที่จะจ่ายครับ ส่วนคุณประโยชน์ที่คุ้มกับเงินที่เสียไปหรือเปล่านั้น ผมคิดว่าเป็นเรื่องรองครับ จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:52:13

ความคิดเห็นที่ 15 สรุปว่ากินน้ำผึงดีกว่าใช่ป่าว จากคุณ : Pu121 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:55:57

ความคิดเห็นที่ 16 เราว่ามันเเปลกที่โฆษณาให้ลูกแสดงความกตัญญูต่อเเม่ ด้วยการไปทำร้ายเเม่...คนอื่น(แม่นกนางแอ่น) ตลก!!!!! ปล.เเม่เราเป็นคนพูดเองตอนดูโฆษณา เเล้วบอกว่าไม่ต้องซื้อนะ ...ขอเป็นเงินดีกว่า XD (จำได้เเต่ประโยคเเรก อันหลังหูดับ!!!!) จากคุณ : nan (born to be tiger) เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 16:02:06

ความคิดเห็นที่ 17 รวยกันเพราะ หลอกลวง นี่ น่ะหรือ ที่ ยอมได้ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 16:15:06

ความคิดเห็นที่ 18 ผมไม่แปลกใจที่รังนกได้รับความนิยมนะ ลองเสิร์ชในกูเกิ้ล ก็เจอแต่โฆษณาที่ชี้ชวนให้เห็นว่ามันมีประโยชน์มหาศาล ในทีวีก็โฆษณากันโครมๆ คนทั่วไปจะมีอะไรมาแย้งได้ จากคุณ : Entitas เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 16:44:14

ความคิดเห็นที่ 19 จริงๆแล้วความรู้เรื่องโภชนาการคนไทยน้อย การโฆษณารณรงค์ให้กินโปรตีนก็น้อย คนไทยถึงตัวไม่ล่ำเหมือนพวกมะกัน ยุโรปเหนือ ชีนตอนเหนือ มองโกล อย่างในนมก็โฆษณาแต่ว่าแคลเซียมเยอะ จริงๆแล้ว สารอาหารของคนไทยที่เล่นกีฬาทั่วไป ได้รับไม่เพียงพอที่สุดคือโปรตีนนะ เวย์อาหารเสริมที่ดีที่สุดในโลก กลับถูกมองเป็นสารเคมีของพวกบ้าพลังเพาะกาย บางคนจัดหมวดไปเข้ากับสเตีัยรอยด์อีก ขอบ่นหน่อย  - -' จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 16:54:38

ความคิดเห็นที่ 20 ...นอกจากแนว "ลูกกตัญญู" หรือ "ฟื้นไข้" แล้ว ...พักหลังนี้ จะมาโหมด้าน "บำรุงสมอง" ...อัดซะถี่เลย แถมเป็นแคมเปญต่อเนื่อง โดยนักวางแผนโฆษณาและนักการตลาดมือหนึ่ง ...ทำเป็นเล่นไป ระดับชาวบ้านทั่วๆไป ...ผมว่า ได้ผลนะ แบบซึมลึกไปเรื่อยๆ ...ต้องชมว่า ทีมการตลาดเค้าเก่งจริง เป๊ะมาก ไม่มีช่องโหว่ให้เตะสกัดได้เลย ครับ จากคุณ : sungod เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 17:09:16

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าเทียบราคาต่อคุณค่าทางโภชนาการ  "เหล้า"แย่กว่าซะอีก แต่ใครไปรณรงค์ให้เลิกผลิตจะโดนมิใช่น้อย จากคุณ : ลิงจุ่น เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 17:19:58

ความคิดเห็นที่ 22 รังนกแทบจะไม่มีคุณค่าอะไรเลยในแง่ของทางโภชนาการ แต่เป็นเพราะความเชื่อมาแต่โบราณว่าอะไรก็ตามที่มันได้มายาก ๆ มักจะเป็นของดีมีคุณค่าเท่านั้นเอง มันก็แค่ น้ำลายนก + น้ำ + น้ำตาล แค่นั่นเอง ข้าวผัดหนึ่งจานยังมีคุณค่ามากกว่ารังนกเนื้อทองห้าหกขวดรวมกันซะอีก สังเกตง่าย ๆ ถ้าของมันดีจริงทำไมไม่เอา "ตารางข้อมูลโภชนาการ" มาแปะที่กล่องล่ะ? ก็เพราะกลัวว่าคนกินจะรู้แล้วก็เลิกซื้อ จากคุณ : Hyper Takuto เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 17:33:09

ความคิดเห็นที่ 23 ทั้งขวดที่เล็กอยู่แล้วยังมีรังนกจริงๆอยู่แค่ 1%กว่าๆ แต่ก็ยังกล้าเรียกผลิตภัณฑ์ตัวเองว่า "เครื่องดื่มรังนก" งี้ถ้าผมทำ "เครื่องดืมโสมแท้100%" แต่ทั้งขวดใส่โสมจริงๆไปแค่ 0.0001 มิลลิกรัม ก็ไม่ถือว่าผิดอะไร แล้วผมก็จะไปเปิดร้านขายเครื่องประดับ มีจี้ทองคำแท้99% แต่ความจริงเป็นจี้พลาสติกเคลือบทองคำแท้99% จากคุณ : omega. เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 18:00:27

ความคิดเห็นที่ 24 ผมขอจับประเด็นคำว่า " มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ ต้องโง่ด้วย "   คนมีตังจะซื้อกินมันก็ไม่ได้เดือดร้อนเงินในกระเป๋าใครนี่ครับ ผมเชื่อว่าคนมีตังที่จะซื้อมันกินนี่ก็คงไม่ได้โง่ด้วย ถ้าโง่ก็คงไม่มีปัญญาเอาสตางค์มาซื้อกินหรอกนะครับ รังนกมันเหมือนเป็นอาหารประดับฐานะของผู้มีอันจะกิน จะมีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ แต่คนซื้อพอใจที่จะซื้อ คนขายพอใจที่จะขาย ก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่ครับ จะมาเดือดร้อนแทนเค้ากันทำไม ส่วนตัวผมจะซื้อกินเองมั้ย ตอบคือไม่ซื้อครับ  แต่ในทางกลับกัน ถ้าผมเป็นลูกน้องแล้วพรุ่งนี้วันเกิดเจ้านายผม เจ้านายผมเป็นคนจีน ถ้าผมซื้อรังนกชั้นดีให้เจ้านายผมสัก 2-3 ขีด คุณคิดว่ารังนกมีประโยชน์กับคุณมั้ยครับ??  ^^" จากคุณ : Again_PE เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 18:14:33

ความคิดเห็นที่ 25 มีเงินก็กินไปเหอะ ทีบลูเลเบล โกลด์เลเบล ยังกินกันได้ไม่เดือดร้อน จากคุณ : yatiko เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 18:33:45

ความคิดเห็นที่ 26 ของบางอย่าง มีค่าในหลายแง่ครับ ถ้าให้มอง ผมมองว่ารังนกมีค่าในแง่ความเชื่อที่มีมาแต่โบราณว่าเป็นของบำรุง มีค่าในแง่ของสัญลักษณ์คือเป็นของแพง และมีค่าในแง่ของรสชาติ ซึ่งสำหรับผมผมคิดว่ารังนกก็เป็นของหวานที่อร่อยอย่างหนึ่งครับ ผมคิดว่าการที่จะบอกว่า"ต้องโง่ด้วย"จึงจะซื้อรังนก ก็ดูจะทำร้ายจิตใจเกินไปครับ และผมก็คิดว่าจะเอาอาหารชนิดหนึ่ง ไปเปรียบกับชนิดหนึ่งก็ดูจะไม่ค่อยเหมาะสมครับ เพราะเทียบกันไม่ได้ บางคนอาจไปเดินเยาวราช ทานบะหมี่ลูกชิ้นปลาสักสองชาม กระเพาะปลาอีกชาม สุดท้ายก็อาจตบท้ายด้วยรังนกแสนอร่อยอีกหนึ่งถ้วย แล้วจะเอาไปเทียบกับคนที่ทานบะหมี่ลูกชิ้น ทานกระเพาะปลา ก็ดูจะตลกเหมือนกันครับ จากคุณ : Staphylococcus aureus เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 18:37:37

ความคิดเห็นที่ 27 เอาเถอะน๊าาาาา กินรังนก+น้ำเชื่อม  ก็ยังดีกว่า กินเหล้า + โซดา จริงป๊ะ.. จากคุณ : เฝื่อน เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 18:37:50

ความคิดเห็นที่ 28 ราคามันต้องรวมค่าตรวจสอบคุณภาพด้วยเครื่องตรวจเพชรเอาไว้ด้วย จากคุณ : Healer เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 18:47:27

ความคิดเห็นที่ 29 ความคิดเห็นที่ 24 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน ผมขอจับประเด็นคำว่า " มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ ต้องโง่ด้วย "   คนมีตังจะซื้อกินมันก็ไม่ได้เดือดร้อนเงินในกระเป๋าใครนี่ครับ ผมเชื่อว่าคนมีตังที่จะซื้อมันกินนี่ก็คงไม่ได้โง่ด้วย ถ้าโง่ก็คงไม่มีปัญญาเอาสตางค์มาซื้อกินหรอกนะครับ รังนกมันเหมือนเป็นอาหารประดับฐานะของผู้มีอันจะกิน จะมีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ แต่คนซื้อพอใจที่จะซื้อ คนขายพอใจที่จะขาย ก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่ครับ จะมาเดือดร้อนแทนเค้ากันทำไม ส่วนตัวผมจะซื้อกินเองมั้ย ตอบคือไม่ซื้อครับ  แต่ในทางกลับกัน ถ้าผมเป็นลูกน้องแล้วพรุ่งนี้วันเกิดเจ้านายผม เจ้านายผมเป็นคนจีน ถ้าผมซื้อรังนกชั้นดีให้เจ้านายผมสัก 2-3 ขีด คุณคิดว่ารังนกมีประโยชน์กับคุณมั้ยครับ??  ^^" จากคุณ : Again_PE ผมพาเจ้านายไปหาน้อง"นก" มีประโยชน์ กับผมมากกว่า อิอิ เรื่องอาหาร บางทีมันก็ไม่มีเหตุผลนะ ผมไปกินปลาดิบ 8 ชิ้น 3 ร้อยกว่าบาท ไม่อิ่มด้วย ต้องกินอย่างอื่น รวมแล้วหัวล่ะ 500++ กับไปกิน ร้าน สเต็ก1จาน+สลัดบาร์ 500++ กับ ข้าวแกงตรงมักกะสัน 30 บาทป้าอุไร  อิ่มเหมือนกัน   แต่ความพอใจต่างกัน ....ต่างจิตต่างใจครับ จากคุณ : แมลงปอร่อแร่ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 19:41:09

ความคิดเห็นที่ 30 ผมไม่ได้บอก ไม่ต้องกิน เด็ดขาด ผมแค่บอกว่ามันเกินราคาที่ควรจะเป็นจากตัวสินค้าเอง ใครจะกินจะโง่ ะฉลาดไม่เกี่ยวครับ เราเล่นประเด็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้ม ค่า ของคุณสมบัติและราคา ไม่ใช่ โอ้อวดหรือทำให้ดีว่าดีมากมายแต่ไม่มีอะไร จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 19:53:22

ความคิดเห็นที่ 31 บางทีการโฆษณาที่มันเกินจริง ก็อาจหลอกคนที่ไม่ค่อยมีความรู้ได้นะคะ ทำให้อยากซื้อหามากิน ตามคำโฆษณานั่นเอง  "นี่เเหละหนาโฆษณาชวนเชื่อ"" จากคุณ : แมวย่างกระทะร้อน เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 20:56:59

ความคิดเห็นที่ 32 เคยซื้อรังนกให้แม่ แกเขวี้ยงทิ้งเลยเพราะแกเป็นเบาหวาน(ไม่รู้เกี่ยวกันไหม) รังนกนี้มีสรรพคุณที่มีการวิจัยรับรองแล้วอะไรบ้างหรือครับ  ไม่รู้จริงจริง จากคุณ : สุดยอดของใบชา เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 21:10:31

ความคิดเห็นที่ 33 พอกันกับชาเขียวออแกนิคยี่ห้อหนึ่งแหละ ถ้าออแกนิค ทุกส่วนผสมต้องออแกนิคด้วย ไม่ว่าน้ำตาล คาเฟอีน จากคุณ : kristalball (kristalball) เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 21:57:34

ความคิดเห็นที่ 34 ของพวกนี้มันเป็นอาหารของพวกคนมีเงิน มีกำลังซื้อ บางทีเราไม่ต้องไปด่าเขาว่าโง่ หรือเดือดร้อนแทนคนรวยหรอก มันคือคุณค่าทางใจ เหมือนไปกินซูชิปลาโทโร่คำเป็นพัน เหมือนการไช้ของแบรนด์เนม สิ่งพวกนี้มันไม่สามารถแจกแจงเป็นตัวเลข เป็นรูปธรรมได้หรอก อาหารสำหรับร่างกาย แต่สำหรับจิตวิญญานแล้วมนุษย์ยังต้องการอะไรซักอย่างมาบำรุงไม่ทางใดก็ทางนึง จากคุณ : Sleeping เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 22:39:31

ความคิดเห็นที่ 35 อืม GT200 ขายแพ๊งแพง คนก็เลยว่ายิ่งดี ใช่ไหม ยึดเหนี่ยวทางจิตใจด้วยราคา สูงๆนี่เอง .... จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 07:59:18

ความคิดเห็นที่ 36 ใช่ครับเป็นเรื่องของราคาล้วน ๆ ให้ผลเช่นเดียวกับพวกนาฬิกาหรือกระเป๋าแพง ๆ ซึ่งคนละเรื่องกับ GT200 ตรงที่เงินมันออกมาจากกระเป๋าใครครับ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องคอยประชดประชันคนที่เห็นแตกต่างตลอดเวลา จากคุณ : Zkizzik เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 10:50:31

ความคิดเห็นที่ 37 ชอบรังนกที่มันอร่อย แต่ไม่เคยคิดว่าดีกว่าไข่ไก่ฟองนึง ไม่จำเป็นต้องไปเอารังนก น้ำลายนกมากินให้ได้ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 11:13:42 A:124.120.244.195 X: TicketID:303162

ความคิดเห็นที่ 38 เกิดมา 30กว่าปีไม่เคยกินรังนกเลย รสชาดมันเป็นอย่างไร จากคุณ : puylogin เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 12:12:42

ความคิดเห็นที่ 39 #1 ..... ไม่ไช่รูปนกแอ่นกินรังครับ คุณจะไม่มีโอกาสได้เห็นรูปนกแอ่น สำหรับกินรังเกาะตามสายไฟทั่วไปแน่นอนครับ มันเป็นนกถ้ำ จากคุณ : ลูกผู้ชายชื่อเบอร์รี่ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 13:14:26

ความคิดเห็นที่ 40 ความรู้สึกพอใจเอาเงินหรือเหตุผลทางสติปัญญามาวัดไม่ได้หรอก การทำบุญคนเราก็พอใจ การให้ขอทานคนให้ก็พอใจ ถ้าเอาเหตุผลมาจับ 100% ก็ต้องห้ามทำบุญ ห้ามให้ขอทาน จะทำบุญต้องทำให้กับองค์กรณ์ที่มีการรองรับหรือชี้แจงอย่างชัดเจนว่าเอาเงินไปทำประโยชน์เท่านั้น ใครทำบุญนอกเหนือจากเกณฑ์นี้ถือว่า "โง่" แบบนี้ผมว่าไม่ใช่ตรรกะที่ถูกต้องนัก การกินก็เหมือนกัน อาหารอร่อยระดับเหลาคุณค่าอาจจะไม่ต่างกับอาหารข้างทางเสียด้วยซ้ำ สุดท้ายมันก็คือความพอใจเชิงตัวบุคคล เมื่อฟังข้อมูล รับฟังเหตุผลแล้ว เข้าใจข้อเท็จจริงแล้วสุดท้ายอยากแดร๊กก็แดร๊กไปเหอะ ถ้าไม่ไปขโมยตังค์ใครมาซื้อนะ จากคุณ : Aha301 เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 20:04:07

ความคิดเห็นที่ 41 GT200 มาได้ยังไงอ่ะ มันดีเท่าๆๆ กับ 212 ที่ตกมะครับ จากคุณ : ammnetto เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 54 00:00:26

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยว่าควรมีการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องนี้ คนรวย มีความรู้ และ มีเงินจะซื้อ เค้าอาจ ไม่ได้ โง่  แต่ต้องซื้อเพราะเรื่องของความรู้สึก การมีหน้ามีตา อะไรก็ว่ากันไป แต่ ก็มี คนจน ไม่มีความรู้ และ "โง่" ถูกเขาหลอก ถูกกรอกหูให้เชื่อในคุณค่า ต้องเจียดเงินมาซื้อ ทั้งๆที่เอาเงินนั้นไปซื้อสิ่งที่มีคุณค่าที่ดีกว่าได้มากมาย จากคุณ : blazing เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 54 10:34:29

ความคิดเห็นที่ 43 มันผิดตรงที่ ไม่มีประโยชน์ + แพง + โฆษณาเกินจริง จากคุณ : หว่างฮั่น2011 เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 54 15:48:46

ความคิดเห็นที่ 44 แบบนี้เราว่าสินค้าอีกหลายตัวเช่นพวกผงชูรสนี่...น่าโดนกว่าป่าว? แล้วก็พวกขนมขบเคี้ยว ใส่ชูรสซะเด็กไทยกินจนโง่กันไปหมดแล้วเนี๊ยะ...ทำเป็นรูปการ์ตูนหลอกเด็ก เราว่าเรื่องแบบนี้ดูน่าเป็นห่วงมากกว่าอีก น่าจามาทำวิจัยขนมเด็กมากกว่านะ ดูมีประโยชน์มากกว่า จากคุณ : ปิ๊กก้าจู้ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 17:32:21 A:58.8.158.208 X: TicketID:327028