ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาให้กำลังใจจ้า จากคุณ : พริ้นท์สกรีนกดไม่ลง เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 14:01:10 A:124.122.132.250 X: TicketID:322411

ความคิดเห็นที่ 2 ปรกติแล้วจำนวนนายพลจะเป็นตามสัดส่วนที่ NATO ระบุครับ คิดเป็น % จากกำลังพลทั้งหมด (ผบ.ทอ.สิงคโปร เป็นแค่ พลตรี เพราะกำลังพลเค้าน้อย) ตำแหน่งที่คุณว่ามาคือตำแหน่งที่เป็นพลเอกของไทยซะมากว่าครับ โครงสร้างองค์กรณ์ทหารซับซ้อนกว่านั้นเยอะ เช่นต้องมี หน.นขต.กองทัพ แม่ทัพภาค รองแม่ทัพภาค เจ้ากรมต่าง ฝ่ายเสนาธิการ ฯลฯ ครับ แต่ละกรมตำแหน่งสูงสดก็ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับโครงสร้างจำนวนกำลังพลด้วย แต่รวมๆแล้ว นายพลไทยก็เยอะครับ สาเหตุที่หน.หน่วยขึ้นตรงต้องเป็นนายพลเพราะนายพลจะมีสิทธิขาดในการออกคำสั่งโดยกม. รวมถึงๆได้รับการยกเว้น ไม่ต้องลงโทษหรือสอบสวนทางวินัย เป็น ต้นซึ่งตรงนี้เป็นสิทธิที่มีเหมือนกันโดย NATO ซึ่งเราเองก็ไปกำหนด จำนวนเองไม่ได้ครับ เพราะหากมีการสนธิกำลังรบร่วมแล้วการบังคับบัญชาและให้เกียรติต้องเป็นไปตามยศ ดังนั้น จึงต้องกำหนดยศในส่วนบังคับบัญชาให้เป็นไปในหลักการเดียวกัน จะได้เท่าเทียมกันเมื่อเกิดการสนธิกำลังครับ (ตามทฤษฎีครับ ทางปฎิบัติก็ต้องให้เกียรติประเทศยักใหญ่เค้า) จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 14:26:27

ความคิดเห็นที่ 3 ตัวอย่างนะครับ US Army กำลังพล 560000 นายพล 230 พลตรี 160-170 พลโท 50-60 พลเอก 7 ทบ.ไทย กำลังพล 230000(กำลังพลสำรอง 260000) นายพล ประมาณ 100 กว่าตำแหน่งครับ (ไม่รวมพวกนายพลรอเกษียณ เพราะพวกนั้นมีแต่ยศไม่มีอัตราและไม่มีสิทธิใดๆ) ทั้งนี้ที่ผมกล่าวมาเป็นจำนวนนายพลที่อยู่ในตำแหน่งนะครับ สาเหตุที่เราเหมือนมีนายพลเยอะเพราะนายพลไทย หลังเกษียณมักจะรับตำแหน่งอื่นๆต่อ เช่นนักการเมือง องคมนตรี ซึ่งจริงๆเค้าพ้นสถาณะภาพทหารไปแล้ว แต่ยศ ติดอยู่ตลอดชีวิตครับ ส่วนในต่างประเทศแล้วผู้พ้นราชการทหารไปแล้ว แม้จะมียศและนำไปใช้ได้ แต่หากอยู่ใน กิจการที่ไม่เกี่ยวกับทหารมักจะไม่ใช้ยศมานำชื่อครับ ทำให้เราไม่รุ้ว่าเค้าเป็นนายพลทั้งๆที่เค้าอาจจะเป็น ซึ่งจริงๆแล้วอาจมองได้ว่าของเป็นยศที่ได้รับพระราชทานจึงนิยมใช้ (อดีตนายกอภิสิทธิจริงๆมียศ ร.ท. แต่เพราะ ไม่ใช้ยศก็เคยโดนโจมตีเรื่องนี้มาแล้ว) จริงๆแล้วสูตรคำนวนจำนวนนายพลมีมากกว่านี้อีกนะครับ เพราะบางเหล่าเช่นทอ. มีนายทหารเป็นหลัก จึงมีสัดส่วนนายพลมากกว่าเหล่าอื่นๆ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 14:48:10 แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 14:44:53 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 14:44:10

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ร.ท เจอ พันโท ต้องตะเบะนะซิครับ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 14:49:40

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าจะให้นายพลน้อยลง ต้องเริ่มบีบลดลงมาตั้งแต่โรงเรียนนายร้อย จากคุณ : นอกวงการ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 15:17:08

ความคิดเห็นที่ 6 "รัฐมนตรี" เป็นตำแหน่งการเมือง ส่วนที่เหลือเป็นตำแหน่งประจำ ดังนั้นทั้งรมว.และรมช. จึงไม่สามารถควบตำแหน่งได้ครับ จากคุณ : ไม่แน่ใจ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 16:05:40 A:223.204.212.132 X: TicketID:320313

ความคิดเห็นที่ 7 คห.5 ทุกวันนี้เค้าลดไปเยอะแล้วครับ รร.นอ. เหลือ  70 คน รร.นร. เหลือ 40-50 คน แถมข้าราชการเงินเดือนน้อย อัตรานายร้อยจบใหม่ออกเยอะพอควรนะครับ เพราะจบมาก็วุฒิวิศวทั้งนั้น แต่กว่าเด็กรุ่นนี้จะถึงนายพลก็อีก 25-30ปี ดังนั้นจึงลดมากไม่ได้ เพราะอนาคตมีสงครามโลกครั้งที่ 3 ทหารขาดขึ้นมานายพลไม่ได้เรียกกำลังสำรองมาเป็นได้นะครับ ถึงเวลารบขึ้นมาไม่มีนายพลทีนี้เดือดร้อน ทหารเป็นอาชีพที่มีคติว่า มีไม่ได้ใช้ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 16:10:26

ความคิดเห็นที่ 8 ... ว่าจะลองไล่เรียงตำแหน่ง....ที่เป็นอัตรานายพลให้ดูซักหน่อย แต่พอคิดไปคิดมา...พรุ่งนี้ก็ไม่เสร็จ...เปลี่ยนใจดีกว่า   ... จากคุณ : First In, Last Out เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 16:11:44

ความคิดเห็นที่ 9 แต่ในอเมริกา เห็นบางคนจบนายร้อยมา บางทีก็สูงสุดแค่นายพันหรืออาจต่ำกว่านั้น แต่บ้านเรามันขึ้นนายพลทั้งรุ่นเลยนะสิ จากคุณ : DEVIL PHOENIX HELLSING เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 17:22:49

ความคิดเห็นที่ 10 อย่างที่เคยบอกครับ...ที่ว่าทำไมนายพลในปัจจุบันทำไมถึงเยอะ....มันเยอะตั้งแต่เราเร่งผลิตในช่วงที่มีเหตุปะทะกับเวียดนามแล้วครับ....สมัยนั้นกลัวเกิดสงครามจึงผลิตนายทหารจำนวนมาก...พอเวลาผ่านไปจึงมีมาก....ให้คนบางกลุ่มเอามาด่ากันได้สนุกปากแหละครับ....อย่างที่เคยบอกความผิดของพวกเขาคือ...มันไม่เกิดสงคราม....และพวกเขาเลยไม่ได้ตายในสนามรบ... จากคุณ : เฮ้อ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 17:28:01 A:58.8.91.242 X: TicketID:306636

ความคิดเห็นที่ 11 ตาม คห. 2 ,3 ครับ ซึ่งหลายๆคนไม่ทราบ (เชื่อว่าทหารส่วนใหญ่ก็ไม่รู้) จึงพูดว่า นายพลไทยเยอะมากเกิน จากคุณ : ชาร้อน~ชาเย็น เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 17:45:38

ความคิดเห็นที่ 12 ...เวลาอ่านไม่พอ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 17:53:21

ความคิดเห็นที่ 13 ระบบยศทหารของไทยมันบ้า ยศนายพลในไทยมีไม่ต่ำกว่าพันคน ขอให้จบจปร.เถอะ ได้ติดนายพลทุกคน อย่างตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นตำแหน่งที่ไม่ได้คุมกำลังยังได้ยศนายพลเลย ยศนายพลบ้านเราเยอะเกินความจำเป็นมากๆๆครับ ถ่วงความเจริญในการพัฒนาประเทศ หมายถึงเงินที่รัฐต้องจ่ายเลี้ยงดูนะ เยอะ เอาเงินนั้นไปพัฒนาด้านอื่นดีกว่าไหน จากคุณ : ผมแอบชอบคุณ!! เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 17:53:45

ความคิดเห็นที่ 14 ไว้ผมหาลิงค์ของทหารที่เป็นวิชาการให้ดูครับ มีทั้งจำนวนยศนายพลในปจบ.(เยอะมากๆ) และวิธีการคิดสัดส่วนนายพลต่อจำนวนทหารที่ไม่เหมือนประเทศที่พัฒนาแล้วให้ดู ขอหาก่อนครับไม่รู้ไปเก็บไว้ไหน จากคุณ : ผมแอบชอบคุณ!! เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 17:57:29

ความคิดเห็นที่ 15 คห. 13-14  จะบอกว่าคนจบจปร.ที่ได้เป็นนายพลนั้นหลายๆคนเค้าได้เป็นแค่ก่อนเกษียณครับ จะขอให้ความรู้เพิ่มนิดครับ ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิอะไรนั่นแหละคือตำแหน่งที่เค้าใช้ระบายนายพลพวกนี้ ซึ่งนายพลพวกนี้จะอยู่นอกระบบครับ เพราะอย่าที่คุณว่าไม่ได้คุมอำนาจหรือกำลังพลใดๆเลย ตำแหน่งนี้เค้ามีให้คนจะเกษียณเข้ามารับยศนายพลหรือ หมุนเวียนนายพลที่มีอยู่ครับ เพราะยศนายพลนั้นมีมากกว่าตำแหน่งอยู่แล้ว แม้แต่อเมริกาเองก็มีตำแหน่งนี้ครับ ปรกติแล้วระบบยศอเมริกา จะให้คนเป็นนายพลยศสูงสุดแค่พลตรีเท่านั้น แต่ตำแหน่งพลโทและเอกจะเป็นการเข้า ตำแหน่งตามอัตรา ซึง่เป็นยศชัวคราว ซึ่งจะอยู่ได้ไม่เกิน 4 ปี แล้วจะต้องกลับมาอยู่ในตำแหน่งผู้ทรง คุณวุฒิใหม่คือพลตรีใหม่และถูกลดยศกลับเป็นพลตรีครับ เพื่อให้คนอื่นได้ขึ้นบริหารแต่ทางปฏิบัติแล้วผู้ที่รับ ยศพลโท-เอก หากหมดวาระมักจะลาออกครับเพื่อให้ตัวเองเกษียณในยศที่สูง ซึ่งไทยไม่มีระบบตรงนั้น เนื่องจากยศทหารของไทยได้รับพระราชทานจากในหลวง ผู้มีอำนาจโยกย้ายทหารไม่มีอำนาจไป ปลดยศที่เป็นของพระราชทานได้เหมือนที่อเมริกา ดังนั้นหากเค้าจะโยกย้ายนายพลท่านใดออกนอกตำแหน่ง ในกรณีทำงานไม่เข้าตา หรืออยู่ในวาระนานเกินไป(เรียกอีกอย่างคือเด้ง)จึงไม่สามารถไปลดยศได้แต่ก็แก้ ไขโดยสร้าตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นแทน  เพื่อรับนายพลส่วนเกินตรงนั้น ซึ่งตามหลักแล้วนายพลพวกนี้ จะมีแต่ยศไม่ได้มีอำนาจและอัตราแต่ประการใด(ซึ่งจริงเราก็มีไม่เยอะมากครับ) อีกสาเหตุนึงที่อเมริกาไม่มีนายพลเยอะเพราะอัตราการลาออก เค้าสูงมากครับเนื่องจากผู้ผ่านสมรภูมิจะได้ เบี้ยหวัดเยอะมาก (เพราะเค้ารณรงค์ให้คนมาเป็นทหารเนื่องจากกำลังพลเค้าสมัครใจหมด)บางคนผ่านไม่กี่ สมรภูมิจะมีเบี้ยหวัดรายเดือนพอจะกินไปตลอดชีวิตครับ เมื่อถึงจุดหนึงเค้าจึงมักลาออกไปทำอย่างอื่น และที่สำคัญอย่างที่บอกไปหลายๆคนเป็นนายพลแต่เค้าไม่ได้ใช้ยศเวลาติดต่ออะไรโดยทั่วไปเราเลย ไม่รู้ว่าเค้าเป็นนายพลครับ อีกอย่างนะครับเรามีรร.ผลิตทหาร 3 เหล่าแต่คุณต้องเข้าใจว่าเรามี 1 ทบ. 2 ทอ. 3 ทร. 4 บก.สส. 5 ราชองครักษ์ 6 สำนักปลัด.กห. ซึ่งเทียบได้ 6 เหล่า แต่ 3 เหล่าหลังใช้นายทหารจาก 3 เหล่าแรก แต่กำลังพลใช้แยก และยอด 3 เหล่าหลัง จะไม่รวมในตัวเลขที่ผมให้ข้างบน ดังนั้นนายพลบางคนที่ท่านเห็นอาจจะมาจากโควต้าใน 3 เหล่าหลัง อเมริกามี 1 Army 2 Navy 3 Air Force 4 Marine 5 Public Health Service 6 Coast Guard   7 National Oceanic and Atmospheric Administration   แต่อเมริกามี 7 เหล่าแยกเป็นเอกเทศแต่แรกบางเหล่าเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นทหาร แต่เวลาเอามาเปรียบเทียบเรามัน ยกแค่ ทบ.เทียบกับทบ.ซึ่งความจริงทบ.เราอาจไปรวมทบ.ที่อยู่บก.สูงสุดหรือราชองครักษ์ ด้วย สุดท้ายที่ทำให้นายพลอเมริกาเหมือนจะน้อยเพราะประเทศเค้ามี 300 ล้านคน แต่มีทบ.เพียง 500k แต่เรา มีคนแค่ 70 ล้านคน  แต่มีทบ. 260k คนดังนั้นเทียบอัตตราทหารต่อประชากรแล้วเรามากกว่าเค้ากว่าเยอะ ดังนั้นไม่แปลกที่เราจะมีนายพลต่อประชากรณ์มากกว่าเค้าเช่นกันเพราะนายพลคิดจากอัตตราต่อกำลังพลไม่ใช่ต่อ ประชากรประเทศ ส่วนเรื่องกองทัพต้องเสียค่าเลี้ยงดูนั้นก็ไม่จริงอีก ทหารใช้ระบบเงินเดือนเป็นระบบแท่งครับไม่ได้ให้ตามตำแหน่งหน้าที่หรือยศ จ่าอาวุธโสหลายคนเงินเดือนมากกว่าพันโทติดยศใหม่นะครับ ส่วนนายพลก่อนเกษียณพวกนี้เค้าจะเงินเดือนตันตั้งแต่ พอ.พิเศษแล้วครับ และได้ข้ามแท่งไปนานแล้ว การได้นายพลในปีสุดท้ายไม่ได้ทำให้เงินเดือนเยอะขึ้นแต่ประการใดเพราะอยู่แท่งเดิม และจริงๆแล้วเงินเดือนสูงสุดที่พลเอกจะได้ มากกว่าพ.อ.พิเศษไม่ถึง 10000 ครับ ถ้าจะมีเงินเพิ่มอื่นๆ จะเป็น พวกเงินประจำตำแหน่งพิเศษ ซึ่งเงินพวกนั้นจะได้เฉพาะนายพลที่อยู่ตำแหน่งหลักเท่านั้น ดังนั้นการให้ยศปี สุดท้ายตำแหน่งพวกที่ปรึกษา ไม่ได้มีผลต่องบประมาณขนาดนั้น อัตรานายพลของทหารมีจำกัดมากครับ ผมเองจบก็ จบรร.นอ. บอกได้เลยว่ามีไม่ถึงครึ่งของศิษย์เก่าที่จะได้นายพลที่ไม่ใช่นายพลตอนเกษียณ ปล.ปัจจุบัน จปร.มีรุ่นละ 200-300 รร.นร. รุ่นละ 40-100 รร.นอ.รุ่นละ 70-100 นายร้อยไม่ได้มีเยอะอย่างที่คุณคิด แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 19:45:38 แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 19:43:39 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 19:35:00

ความคิดเห็นที่ 16 #15 เยอะจัดจับประเด็นไม่ไหว เอาเป็นว่า จากคห.3 ถ้าเทียบกับสัดส่วนของทหารต่อยศ แล้วเทียบกับไทยดูยังไงของไทยก็เยอะกว่ามากๆครับ มีแต่เค้าจะหาวิธีทำยังไงลดตำแหน่งนายพลลง ของเรามีแต่จะเพิ่ม http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/88256.html แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 21:13:06 จากคุณ : ผมแอบชอบคุณ!! เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 21:11:58

ความคิดเห็นที่ 17 ข้อมูลของทหารทำไมหายากจัง อยากรู้จำนวนทหารยศนายพลคงต้องถ่อสังขารไปฝ่ายกำลังพล กระทรวงกลาโหม(ถึงไปแล้วเค้าจะให้ข้อมูลหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆ) เพราะว่าที่นี่เค้าจะแยกเป็น สป.กระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ --------------------------------- เอาที่หาได้ละกัน กองทัพไทยมีจำนวน รวมกันทั้งสิ้น  315,000  คน  กำลังพลสำรอง  200,000  คน  นับเป็นอันดับที่  16  ของโลก  โดยมีกำลังพลมากกว่าอังกฤษ  ฝรั่งเศส  และเยอรมัน  แต่เป็นรองพม่า  (อันดับ  10  กำลังพล  490,000  คน  เวียดนาม  (อันดับ  11  กำลังพล  485,000  คน)     ไม่ทราบจำนวนนายทหารระดับชั้นนายพลทั้งกองทัพว่ามีอยู่เป็นจำนวนเท่าใด   แต่น่าจะไม่ต่ำกว่า  1,500  คน  ขณะที่กองทัพเขมรมีนายพลถึง  613  คน  เฉลี่ยทหารทั้งกองทัพ  179  คน  จะมีนายพล  1  คน  (2507) ผลประโยชน์ตามกฎหมาย     1.1  เงินเดือน/เงินประจำตำแหน่ง/เงินพิเศษอื่นๆ  ที่กองทัพจัดสรรให้ตามระเบียบภายใน/ค่าวิชา/ค่าปีก/ค่าน้ำมันรถ/  ฯลฯ  และสวัสดิการต่างๆ  ตามระเบียบทางราชการ/เงินบำเหน็จบำนาญ/เบี้ยหวัด  พ.ส.ร. การนับอายุราชการผู้ที่เข้าเรียนโรงเรียนนายร้อย  จะเริ่มนับอายุราชการตั้งแต่เป็นนักเรียนเตรียมหาร  เท่ากับได้เปรียบหน่วยราชการอื่น  6  ปี  (เตรียมทหาร  2  ปี  และโรงเรียนนายร้อยอีก  4  ปี)  และในการปฏิบัติหน้าที่บางอย่าง  เช่น  การสู้รบ  เสี่ยงภัย  จะได้รับการทวีคูณ  (2  เท่า)  อายุราชการสำหรับช่วงเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว  ดังนั้นทหารโดยเฉพาะที่ผ่านเงื่อนไขต่างๆ  ดังกล่าวจะได้รับบำนาญ/เบี้ยหวัดรายเดือนสูงมาก   โดยเฉพาะเมื่อสมัยก่อนเกือบเท่าเงินเดือนสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ  มาภายหลังมีข้อกำหนดให้ไม่เกิน  70  เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนเฉลี่ย     1.2  ยศ/ตำแหน่ง/เครื่องราชอิสริยาภรณ์     1.3  อื่นๆ  เช่น  วันหยุดเล่นกีฬา  (วันพุธ)  การหยุดทำงาน  1  ปีก่อนเกษียณอายุ  และจัดให้ไปเที่ยวต่างประเทศเป็นบำเหน็จผ่านโครงการศึกษาดูงาน  การเพิ่มชั้นยศให้กรณีลาออกก่อนเกษียณ  (เออร์ลีรีไทร์)  เช่น  พลตรีได้เลื่อนเป็นพลโท  เป็นต้น ข้อมูลจาก ไทยโพสต์ http://www.thaipost.net/news/130409 -แก้ไขคำผิด- แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 21:22:52 จากคุณ : ผมแอบชอบคุณ!! เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 21:21:00

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าความเห็น 15 ก็เคลียแล้วนะครับ เพราะตำแหน่งทางทหารของเราเป็นยศพระราชทาน จึงไม่สามารถปลดได้ถ้าไม่ได้รับอณุญาติจากองค์กษัตริย์ พูดง่ายๆคือ ถ้าไม่ได้ร้ายแรงมากก็คงไม่มีใครจะทำเรื่องปลดเข้าวังแน่ๆ แต่ใช้วิธีย้ายไปตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิ หรือตำแหน่งแขวนแทน แต่ไม่มีหน้าที่อะไรอีกแล้ว สรุปง่ายๆคือ นายพลบ้านเราที่เยอะส่วนนึง คือ พวกที่ใกล้เกษียณ และไม่ได้มีอำนาจหน้าที่อะไรอีกแล้วหรือเกษียณแล้ว แต่ว่ายังใช้ยศนำหน้าอยู่ ส่วนนายพลที่มีอำนาจหน้าที่จริงๆ ก็ถือว่าจำนวนเทียบกับจำนวนทหารยังอยู่ในเกณฑ์ปรกติตามมาตรฐานสากล จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 21:25:01

ความคิดเห็นที่ 19 อยากให้ระบบเลื่อนชั้นยศ วัดจากผลงานครับ แล้วก็อยากให้สร้างทัศนะคตินายร้อยกันใหม่ว่าอาจจะเออรี่รีไทน์แค่ยศพันโทครับ ตันแถวๆพันตรีพันโทนานๆหน่อยประสบการณ์จะได้เยอะ ส่วนระดับผู้บริหารตั้งแต่พันเอกขึ้นไปนี่ต้องแป๊ะจริงๆ ระบบเออรี่ต้องนำมาใช้อย่างจริงจังตำแหน่งที่ปรึกษานี่ลดๆไปให้เยอะๆเลยก็ดีครับ จากคุณ : Big Worm. เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 21:26:22

ความคิดเห็นที่ 20 นายพลบางคนแก่มากแล้วเเต่ยัง ไม่เลิกวุ่น จากคุณ : varitpum2 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 22:13:20

ความคิดเห็นที่ 21 ... ไม่ต้องห่วงกังวลเรื่องจำนวนนายพลของกองทัพไทย....มีแยะไปหรอกครับ ตอนนี้เขาก็กำลังปรับลดอัตราลงไปทุกปีอยู่แล้ว....นายพลเกษียณ 100 คน สามารถที่จะขอพระราชทานฯ แต่งตั้งนายพลใหม่ได้เพียง 90-95 คนเท่านั้น ...ทำอะไรมันต้องใช้เวลา....แก้ไขปัญหา สาเหตุของปัญหา คือ ช่วงปี 2516-2521...เราผลิตนายทหารออกมาแยะไป เพราะเตรียมรับภัยคุกคามจากนอกประเทศ.....พอไม่ได้รบกันเลยเหลือแยะ คนพวกนี้...ปัจจุบันก็อายุ 50+/- นิดหน่อย...อีกสิบกว่าปีก็พ้นราชการกันแล้ว ...ขอแค่เป็นนายพลก่อนเกษียณเท่านั้น ในโลกแห่งความเป็นจริง...โครงการ Early Retried ช่วยระบายกำลังพลได้ดี พวกสมัครใจเข้าโครงการต่างก็ Happy กันถ้วนหน้า....ได้เงินก้อน ได้ยศเพิ่ม แต่โครงการฯ สิ้นสุดเอาปีนี้พอดี....ทำให้พวกปี 2516-2521 ขอ Early ไม่ทัน ...ตอนนี้มองหน้ากันเลิ่กลั่ก...ขอต่ออีกซัก 5 ปีไม่ได้เหรอ? คงพอจะเห็นภาพกันนะครับ....เขียนยาวไปเดี๋ยวไม่มีคนอ่าน สรุปเอาดื้อๆว่า....เราไม่มีระบบปลดถ่ายกำลังพลที่เหมาะสม และเราไม่ "เสร็จนา ฆ่าโคถึก...เสร็จศึก ฆ่าขุนพล" แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 22:16:41 จากคุณ : First In, Last Out เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 22:13:26

ความคิดเห็นที่ 22 ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณครับอธิบายได้เก่งมาก อ่านรอบเดียวแล้วเข้าใจเลย จากคุณ : zzz เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 22:57:29 A:58.8.10.85 X: TicketID:091648

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องอัตราส่วนกำลังพลผมขอไม่เถียงจนกว่าข้อมูลคุณจะมานะครับ ไม่ใช่เลขลอยๆ ผลประโยชน์ตามกฎหมาย จริงๆประเด็นเราคือการเลื่อนเป็นนายพลไม่ได้ทำให้เงินเดือนมากขึ้น ไม่ได้เปลืองงบประมาณ สิทธิที่คุณอ้างมา มันได้อยู่แล้วถ้าเรามีเงื่อนไขที่จะได้ครบ ไม่ได้เกี่ยวว่ายศอะไร เช่นค่าประจำตำแหน่ง ค่าน้ำมัน ต่อให้นายพล ถ้าไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะได้ก็ไม่ได้ครับ ดังนั้นเลื่อนเค้าเป็นนายพลกองทัพก็จ่ายเท่าเดิม แต่คนได้ยศเค้าภูมิใจ เป้นรางวัลที่รับใช้ชาติและเสี่ยงภัยมา  "  1.1  เงินเดือน/เงินประจำตำแหน่ง/เงินพิเศษอื่นๆ  ที่กองทัพจัดสรรให้ตามระเบียบภายใน/ค่าวิชา/ค่าปีก/ค่าน้ำมันรถ/  ฯลฯ  และสวัสดิการต่างๆ  ตามระเบียบทางราชการ/เงินบำเหน็จบำนาญ/เบี้ยหวัด  พ.ส.ร. การนับอายุราชการผู้ที่เข้าเรียนโรงเรียนนายร้อย  จะเริ่มนับอายุราชการตั้งแต่เป็นนักเรียนเตรียมหาร  เท่ากับได้เปรียบหน่วยราชการอื่น  6  ปี  (เตรียมทหาร  2  ปี  และโรงเรียนนายร้อยอีก  4  ปี)  และในการปฏิบัติหน้าที่บางอย่าง  เช่น  การสู้รบ  เสี่ยงภัย  จะได้รับการทวีคูณ  (2  เท่า)  อายุราชการสำหรับช่วงเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว  ดังนั้นทหารโดยเฉพาะที่ผ่านเงื่อนไขต่างๆ  ดังกล่าวจะได้รับบำนาญ/เบี้ยหวัดรายเดือนสูงมาก   โดยเฉพาะเมื่อสมัยก่อนเกือบเท่าเงินเดือนสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ  มาภายหลังมีข้อกำหนดให้ไม่เกิน  70  เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนเฉลี่ย" ตรงนี้คุณพูดมาอ่านผ่านๆก็เหมือนจะเยอะเหมือนจะเอาเปรียบนะ แต่ เงินเดือนเงินประจำตำแหน่ง ค่าน้ำมัน ข้าราชการทั่วไปก็มีครับ ไม่ได้ต่างกัน ค่าปีก นั้นเปรียบเทียบไปก็คือ ความสามารถค่าพิเศษ เช่นครูก็คือค่าคุรุ อัยการก็มี หมอก็มีค่าใบประกอบวิชาชีพเป็นต้น  ซึ่งค่าปีกมีตั้งแต่ 3000(พลร่ม) ถึง 27000(นักบิน) ซึ่งถ้าเทียบ ค่าตอบแทนกับรายได้ของคนข้างนอกในสายอาชีพนั้นๆยังน้อยไปด้วยซ้ำ และทหารเองเงินเดือนน้อยกว่าข้าราชการประเภทอื่นอยู่แล้ว เช่น ป.ตรีจบใหม่ เงินเดือน 8300 ขณะที่ ข้าราชการอื่นๆ 9300 ยังไม่รวมประทวนซึ่งเทียบเป็นข้าราชการคือ C1-2 ที่มักจะตันที่ 27000 เท่านั้น ระดับแท่งก็จะช้ากว่า เช่น จบจาก รร.จปร.(C-3) ต้องใช้เวลา 10 ปี จึงจะได้พันตรี ซึ่งเทียบเท่ากับ (C-4) ในขณะที่ข้าราชการอื่นๆใช้เพียง 4-5 ปี ดังนั้นต้องทราบก่อนว่า เรามีฐานเงินเดือนน้อยกว่าข้าราชการพลเรือนครับ เรื่องพสร.ชื่อก็บอกอยุ่แล้วว่าพิเศษสู้รบ ได้จากการไปรบ ซึ่งปรกติได้แค่ไม่เกิน 1000 บาทต่อเดือน พวกรบเยอะๆ ที่ผมเจอมากสุดก็แค่ 2000-3000 ต่อเดือน ถามว่าคุ้มมั้ยที่ต้องไปเสี่ยงชีวิตรบ ส่วนเรื่องอายุราชการนั้นผมถามว่า มันไม่เหมาะตรงใหนที่เราจะได้ เพราะเราต้องไปเรียน ไปฝึกหนักตั้งแต่ตอนนั้นจริงๆได้ทำงานจริงๆนะครับแล้วจริงๆ เค้าเริ่มนับอายุราชการเมื่อขึ้นทะเบียนทหารครับ คือเมื่ออายุ 18 ปี ซึ่งสมัยนี้เข้ารร.ตทตั้งแต่ 15 ดังนั้นเหมือน ฝึกฟรีไป 3 ปีแบบ(นักเรียนนายสิบก็ได้สิทธินี้ครับ) แถมจริงๆข้าราชการธรรมดาถ้าเข้าเร็วป.ตรีก็ 21-22 ต่าง กันแค่ 4 ปีครับ แต่ทำงานต่างกัน 7 ปี(เงินเดือนเริ่มคิดตอนจบเริ่มพร้อมกันอยู่ดี) ส่วนวันทวีคุณก็ได้เพราะไปรบ มาอยู่แล้ว จริงๆพอเปลี่ยนเป็น 70% ต้องถามว่ายุติธรรมมั้ยด้วยซ้ำ เพราะทำงานก็นานกว่า งานก็เสี่ยงกว่า ลำบากกว่า สุดท้ายได้บำนาญเท่ากัน(บำนาญใช้เงินเดือนอย่างเดียวครับ ข้าราชการอื่นๆลงใต้ก็ได้สิทธิเดียวกันครับ)คุณเล่นแต่ เอาข้อดีลากมาให้ดูไม่ได้ใส่ข้อเสียหนิครับว่ามีอะไรบ้าง   " 1.2  ยศ/ตำแหน่ง/เครื่องราชอิสริยาภรณ์" ตรงนี้ยศเป็นอย่างเดียวที่ที่คุณว่ามาทหารมีแล้วข้าราชการอื่นๆไม่มีครับ หลายๆคนเค้าถึงอยู่รอเพื่อที่จะได้ยศนายพล เพื่อเป็นเกียรติแก่ชีวิต    1.3  "อื่นๆ  เช่น  วันหยุดเล่นกีฬา  (วันพุธ)  การหยุดทำงาน  1  ปีก่อนเกษียณอายุ  และจัดให้ไปเที่ยวต่างประเทศเป็นบำเหน็จผ่านโครงการศึกษาดูงาน  การเพิ่มชั้นยศให้กรณีลาออกก่อนเกษียณ  (เออร์ลีรีไทร์)  เช่น  พลตรีได้เลื่อนเป็นพลโท  เป็นต้น" วันพุธเล่นกีฬาครึ่งวันครับ ข้าราชการอื่นๆก็มี ไม่ได้ลงเล่นทุกคนครับ สับเวรไปคนไม่ได้เล่นก็ทำงาน ไปในทาง กลับกันทหารต้องเข้าเวร เมื่อทหารใหม่มาต้องอยู่ฝึกทั้งวันคืนเสาร์อาทิตย์ ไม่ได้โอทีนะครับ เรื่องดูงานก็ยอมรับว่าเหมือน เป็นกำไรชีวิตจริงๆแลหละแต่ข้าราชการอื่นๆมีเช่นกัน ส่วนเลื่อนยศ อย่างที่บอกไปมันเหมือนเป็นรางวัลคนได้เค้าก็ได้แต่ เรื่องหยุด 1 ปีนี่จริงๆมันไม่ใช่หยุดหรอก แต่อย่างที่บอกว่าเค้าจะให้ยศนายพลก่อนเกษียณเลยต้องจับมา นั่งลอย เมื่อมีแต่ตำแหน่งเค้าเลยไม่มีงานทำซึ่งข้าราชการอื่นๆก็เป็น ตรงนี้เป้นจุดดีของข้าราชการจุดนึงครับ แต่คนที่อยู่ในตำแหน่งเค้าก้ตองทำงานปรกติครับ ยศ กับความภูมิใจ คนที่รับใช้ชาติจนเกษียณได้ยศเพิ่มรัฐไม่ได้เสียอะไรมันเสียหายมั้ย ถ้าผมจะเทียบอีกมุมนึง ทหารประทวน เงินเดือนตันน้อยกว่าข้าราชการใดๆ คือไม่เกิน 27000 นายทหารสัญญาบัตร เงินเดือนขึ้นช้าแต่ตันเท่าๆกับชาวบ้านเค้า สายนายร้อยไปได้ไกลหน่อย แต่ก็พราะ เป็นสายที่ปกครอง จริงๆแล้วจบ รร.เหล่า ได้ป.สายวิศวะ ซึ่งถ้าจะว่ากันจริงๆเงินเดือน แต่ละสายไม่เคยเท่ากันอยู่แล้ว ถ้าจะเทียบรายได้ต่อสายการทำงานถือว่าน้อยกว่าที่ควรจะเป็นอีก จริงๆแล้วปีๆนึงเพื่อนผมออกไปเยอะครับ เพราะ เรื่องนี้ด้วยส่วนนึง จะบอกว่าทุกอย่างในโลกมันมีข้อดีข้อเสีย มันเป็นธรรมชาติของสังคม เทียบกับราชการอื่นๆทหารเสี่ยงกว่าก็ย่อม ต้องมีสิ่งที่ตอบแทนที่สูงกว่า ค่าพิเศษอื่นๆก็ไม่ใช่ว่าจะได้มาฟรีๆ ฝึกแลกเสี่ยงแลกทั้งนั้น งานทหารอาจสบายกว่าเอกชน แต่ก็ได้เงินน้อยกว่าเช่นกัน ส่วนตัวผมตอนนี้ผมเห็นว่าสิ่งเดียวที่ไม่สมดุลคือข้าราชการชั้นประทวนเงินเดือนเงินเดือน น้อยเกินไป แต่นอกนั้นผมว่าก็ปรกติ ลองไปมองเหอะครับว่าทหารอเมริกาได้อะไรบ้างคุณจะรู้ว่าสิทธิที่คุณว่าทหารได้หน่ะขี้ผงเลย เค้าถึงว่าทหารไทย แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 54 10:21:55 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 10:06:45

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าเอายศนายพลไปติดให้กับข้าราชการพลเรือนหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจที่มีอัตราเงินเดือนเทียบเท่าทหารชั้นนายพล  จะมีอัตราส่วนต่อกำลังพลในหน่วยมากกว่าทหารเสียอีก จากคุณ : นิลพัฒน์ เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 10:37:11

ความคิดเห็นที่ 25 เจ้าของกระทู้ ต้องนับหน่วยงานระดับกองพลหรือเทียบเท่าขึ้นมา ทั้งหมดครับ ตำแหน่งเท่าที่กล่าวมาเป็นระดับ พล.อ. พล.ร.อ. พล.อ.อ. จากคุณ : ชื่อสมาชิก เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 15:36:23

ความคิดเห็นที่ 26 จบจาก รร.จปร.(C-3) ต้องใช้เวลา 10 ปี จึงจะได้พันตรี ซึ่งเทียบเท่ากับ (C-4) ------------------------------------------------------------------------------------------- ขออธิบายตรงนี้นะครับ และขอแสดงความคิดเห็นนะครับ สมัยนี้ข้าราชการไม่มีซีแล้วครับ แบ่งเป็นปฏิบัติการ ชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ บลา ๆ ๆ ส่วนถ้าเทียบเป็นซี ซี3 ไป ซี 4 อัตราเลื่อนไหล ระยะเวลาในการเลื่อนซีคือ 2 ปีครับ ซี 4 ไป ซี 5  อัตราเลื่อนไหลเหมือนกัน ระยะเวลาในการเลื่อนซีคือ 2 ปีครับเช่นกัน ซี 5 ไป ซี 6 อัตราเลื่อนไหลเหมือนกัน ระยะเวลาในการเลื่อนซีคือ 2 ปีอีกเช่นกันครับ ระยะเวลาซี 3 ไปซี 6 คือ 6 ปีครับ ซี 6 เทียบเท่าระดับชำนาญการ ผมใช้เวลา 6 ปีในการเลื่อนจากซี 3 ไปเป็นวิศวกรชำนาญการครับ ปล.ผมยังเด็กอยู่นะยังไม่เข้าเลข 3 ----------------------------------------------------------------------------------------- ปล.อีกที C-3 ต้องใช้เวลา 10 ปี จึงจะได้พันตรี ซึ่งเทียบเท่ากับ (C-4) นี่คงไม่ใช่ละครับ ปล. อีกที ประเทศไทยยังไม่พัฒนาเท่าอเมริกา อเมริกาค่าตอบแทนเค้าสูงในทุกอาชีพอยู่แล้วครับ รู้สึกว่าเค้าให้ความสำคัญกับครูมาก ปล.อีกที การไฟฟ้าไม่ใช่ข้าราชการ เป็นรัฐวิสาหกิจ การคิดบำเน็จบำนาญต่างจากราชการทั่วไป แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 54 18:12:06 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 17:37:29

ความคิดเห็นที่ 27 อีกที ไม่รู้ว่านายพลเงินเดือนเท่าไหร่ แต่ซี 8 ในที่ที่ผมคุ้นเคยไม่ใช่ได้มาง่าย ๆ เลย ไม่ใช่ว่าทุกคนเข้ามาซี 3 จะถึงซี 8 นะครับ มันขึ้นอยู่กับผลงาน ฝีมือ ความสามารถ ฯลฯ ถ้าคนที่เช้าชามเย็นชามง่าย ชิลด์ ๆ ไม่ก้าวหน้าแน่นอนครับ อย่างมากก็ตันแค่ซี 7 หรือแค่ระดับชำนาญการจนเกษียณอายุราชการครับ มีที่ทำงานคนนึงไม่ทำงานกำลังจะตั้งกรรมการสอบให้ออกจากราชการอยู่ ครับ... จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 17:45:12

ความคิดเห็นที่ 28 ต้องใช้เวลา 10 ปี จึงจะได้พันตรี ซึ่งเทียบเท่ากับ (C-4) ขำละครับ รต. คือ ซี สามครับ ดังนั้น พันตรี เท่ากับ ซี หก มั่วได้ใจนะคุณ จากคุณ : พด เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 19:38:47 A:124.122.21.2 X: TicketID:314898

ความคิดเห็นที่ 29 ^ ถ้า รต คือ ซี 3 ดังนั้น ผมเทียบได้ว่า พลตรี เท่ากับซี 9 ซี 9 นี้ ข้าราชการพลเรือนได้ยากมาก ยากมาก ในกรมหนึ่งมีไม่กี่คนเอง ต่อจากซี 9 ก็ไปรองอธิบดีแล้วครับ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 19:46:55

ความคิดเห็นที่ 30 ปล. อีก กรมในกระทรวงฯ ไม่เหมือนกรมทหารนะครับ สมมติใน 1 กระทรวงฯ มี 5 กรมฯ 1 กรมมี จนท. ทุกระดับประมาณ 500 คน อาจจะมี ซี 9 อยู่ซัก 10 คน ราว ๆ นี้ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 19:51:11

ความคิดเห็นที่ 31 คุุณลาบฯ เหมือนใน คห.15 บอกไว้ว่า เงินเดือนไม่เกี่ยวกับยศหรือตำแหน่ง ผมว่ายศเทียบกับทางฝ่ายพลเรือนที่ไม่ได้ไปคุมหรือบรรชาใคร น่าจะเปรียบได้กับพวกเครื่องราชฯ คือมีตามประวัติการทำการปรือได้ทำความดีพิเศษ ไม่เกี่ยวว่าได้เงินเดือนเท่าไร ส่วน C9 เยอะๆไปดูกระทรวงศึกษาฯครับ อาจารย์ในมหาวิทยาลัย C9เยอะ จากคุณ : KL เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 21:03:02

ความคิดเห็นที่ 32 โทดทีครับไล่ผิด พ.อ.(พ) C-7 ทราบครับว่าตอนนี้ข้าราชการพลเรือนเปลี่ยนแล้ว แต่นี่อ้างอิงก่อนเปลี่ยนครับ เอ่อ คุณคห. 28 ใครกันแน่ที่มั่ว ยศทหารตั้งแต่ ร.ต.ถึง ร.อ. เป็นระดับ น.1 ครับหรือเป็นข้าราชการคือ C-3  การเลื่อนยศ ร.ต-ร.อ.นั้นจะใช้เวลา ขั้นละ 3 ปี โดยอัตโนมัตส่วนการเลื่อนยศไปพ.ต.ต้องติดยศร.อ.ก่อน 4 ปีจึงจะมีสิทธิสอบ เข้ารร.ชั้นนายพันได้ หากสอบไม่ได้ก็ติด ร.อ.ต่อไป พ.ต.จึงจะเป็น น.2 หรือ C-4 พ.ท. น.3 C-5 พ.อ. น.4 C-6 พ.อ.(พิเศษ อัตราพลจัตวา) น.5 C-7 พล.ต. น.6 C-8 พล.ท  น.7 C-9 พล.อ. น.8 C-10 พล.อ. น.9 (อัตราจอมพล พวกผบ.เหล่าทัพ และรอง) C-11 ตารางเงินเดือนข้าราชการทหารหลังปรับ 5% ใครบอกข้าราชการพลเรือนมี C ไม่สูงครับ กระทรวงมหาดไทย มีผู้ว่า 76 คน(ไม่รวมกทม)ผู้ว่า เท่ากับ C-10 นี่ยังไม่รวมอดีตผู้ว่าที่มาประจำนะครับ กระทรวงมหาดไทยมีข้าราชการ 41000 คน กระทรวงต่างประเทศ มีทูตกี่คุณ ว่าไปเลย พวกนั้น C-10 หมด กระทรวงต่างประเทศ มีข้าราชการ 1600 คน ตอนนี้ผมสังกัดกรมสื่อสารทหารอากาศ มีข้าราชการ 1500 คน กรมผมปัจจุบันไม่มีพลทหารครับ มีพล.อ.ท. C-9  1 คน พล.อ.ต. C-8 3 คน ชอ.ทอ. มีข้าราชการ 2000 คนไม่มีพลทหาร พล.อ.ท. C-9  1 คน พล.อ.ต. C-8 4 คน กองบิน มีข้าราชการไม่นับพลทหารมีข้าราชการ 500 คน มี น.อ.พิเศษ (C-7) เป็นผบ. จากที่คห.30 ว่า 1 กระทรวง มี 5 กรม 1 กรม มี 500 ดังนั้น 1 กระทรวง มีแค่ 2500 คน ทอ.เป็นเหล่าที่เล็กที่สุดมีข้าราชการประจำ 20000-30000 คนครับ(ไม่รวมพลทหาร) ขนาดเท่ากับ 10 เท่าของบางกระทรวงมี C-11 4 คน C-10 7-8 คน   จากข้อมูลกบข. http://www.gpf.or.th/web/GPF_MemberStat.asp ซึ่งแสดงเฉพาะผู้เป็นข้าราชการไม่รวมพวกลูกจ้าง พนังงานราชการ และ ข้าราชการพลเรือน 20 หน่วยงานมีจำนวน 330000 ข้าราชการทหาร กระทรวงเดียว 167000 จเะห็นได้ว่ากระทรวงกลาโหมกระทรวงเดียว ใหญ่เป็นครึ่งหนึ่งของข้าราชการพลเรือน(18กระทรวง + 2 หน่วยงาน) ปัญหาที่ข้าราชการทหารขึ้นช้าเพราะผมบอกไปแล้วว่าตำแหน่งมันถูกควบคุมโดยนาโต้ และยศมันผูกกับตำแหน่ง และ C หรือแท่งก็ผูกกับยศอีกที ซึ่งประเทศเจริญแล้วข้าราชการระดับสูงเค้าน้อย เพราะเค้าอัตรารีไทด์เยอะ (เพราะจ้างให้ออกแพง)ส่วนเราจะทำโครงการ early ก็ได้ปีละไม่มากเพราะใช้งบเยอะครับ (คนหน่ะอยาก early กัน) ส่วนข้าราชการอื่นๆเลื่อนง่ายกว่าเยอะ อ่อนายพลเกษียณได้แต่ยศนะครับ เครื่องราชและ C ไม่ขึ้น ปล.นายพลไม่ได้เป็นง่ายๆนะครับ คุณอ้างว่าเห็นเยอะเพราะคนเป็นนายพลมันเด่นเพราะมียศ เห็นแต่ไกล ชีวิตนึงคุณคงเจอระดับ C10 C11 เยอะแหละแต่คุณไม่รู้เฉยๆว่าเค้าเป็นระดับนั้น ทหารอย่างที่รู้ๆถ้าไม่จบ เหล่าโอกาสเป็นนายพลแทบไม่มี ถึงจบเหล่ายังได้เป็นไม่ถึงครึ่ง คำพูดที่ว่านายพลต้องจบเหล่าเท่านั้นมีความเป็นจริง อยู่บ้าง แต่คำพูดที่ว่าจบเหล่าแล้วได้เป็นนายพลอันนั้นไม่จริงครับความหมายไม่เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 00:36:43 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 00:34:01 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 00:33:16 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 00:17:22 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 00:15:48 แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 54 23:47:04 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 23:41:24

ความคิดเห็นที่ 33 ตารางเงินเดือนข้าราชการทหาร จบตรีใหม่เงินเดือนรับ น.1 ขั้น 6 8380(ข้าราชการพลเรือนรับ 9300) แท่งพ.คือแท่งพลทหารข้าราชการพลเรือนไม่มีแท่งนี้ ป.1 คือสิบตรี-สิบเอก ป.2 คือจ่าสิบตรี-เอก โปรดสังเกตุ ป.3(จ.ส.อ.พิเศษ) แท่งเดียวกับ น.1 แต่ ป.3 ใช้กับประทวน แท่งน.1 น.2 จะยาวมากเพราะเอาหัวแท่งประทวนมา แต่สังเกตุดีๆแท่งระดับสูง 1 ขั้นจะเยอะกว่า (%มากกว่า) ซึ่งเดิมแท่งน.1 นั้นอัตราจะเพิ่มเท่าแท่ง C3 แต่ตารางนี้เป็นตารางหลังปรับเงินเดือน เม.ย.54 แล้วจึงหาตาราง ข้าราชการพลเรือนมาเทียบไม่ได้เนื่องจากใช้คนละระบบแล้ว เดียวหารูปที่ชัดกว่านี้ใหม่ให้ครับ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 00:14:48 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 00:02:43 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 00:01:02

ความคิดเห็นที่ 34 ถูกของคุณซกเล็กอย่างนะครับ กรมทหารไม่เหมือนกรมกระทรวง เพราะกรมทหารใหญ่กว่ามาก กรมทหารขนาดเท่ากับบางกระทรวงเลยครับ เลขที่ผมเอามาคือจำนวนข้าราชการประจำนะครับ ไม่ได้รวมพลทหาร ลูกจ้าง พนักงานราชการเพราะถ้ารวมคงไม่ยุติธรรม แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 00:29:00 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 00:28:23 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 00:13:21

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณสำหรับข้อมูล ทำให้ได้รู้อะไรเกี่ยวกับทหารเยอะ อ๋อ ขออธิบายเพิ่มเติม " จากที่ คห.30 ว่า 1 กระทรวง มี 5 กรม 1 กรม มี 500 คน ซี 9 ประมาณ 10 คน "   อันนี้เอาเป็นว่ากรมที่ผมสังกัดแล้วกัน เพราะแต่ละกรมในกระทรวงมีข้าราชการไม่เท่ากัน แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 00:25:09 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 00:24:06

ความคิดเห็นที่ 36 ขออภัยจริง ๆ  ขอแก้ไขข้อมูล ตอนแรกกะคร่าว ๆ ว่าน่าจะประมาณนี้โดยคิดแต่เฉพาะหน่วยงานหลัก คือ กลุ่มงานของวิศวกร ซึ่งลืมนับศูนย์สารสนเทศ กองการเจ้าหน้าที่หรือฝ่ายบุคคล กองคลัง เลขากรม... แต่เมื่อกี้เข้าเว็บกรมไปนับโดยละเอียดซึ่งรวมหน่วยงานที่ไม่ใช่หน่วยงานหลัก คาดว่ามีซี 9 ซึ่งรวมผู้เเชี่ยวชาญแล้ว 20-30 คน จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 00:39:14

ความคิดเห็นที่ 37 ผมชี้ให้เห้นว่ากระทรวงคุณคนน้อยมาก ไม่แปลกที่มี C9 C10 ไม่กี่คน ครับแต่อย่างที่ยกตัวเลขจากกบข.มา ข้าราชการพลเรือน 18 กระทรวง+สำนักนายก+กิจการพิเศษ 330000 ข้าราชการทหาร  167000 ข้าราชการทหารกระทรวงเดียวใหญ่ครึ่งหนึ่งของข้าราชการพลเรือน ดังนั้นจำนวนนายพล C8 C9 C10 C11 ถ้าจะเทียบกับข้าราชการพลเรือนจึงควรเท่ากับ 10 กระทรวงรวมกัน จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 00:43:11

ความคิดเห็นที่ 38 ปล.อีกที ที่ไม่ใช่หน่วยงานหลักอาจจะสูงสุดแค่ซี 9  หรือตำแหน่ง ผอ. ถ้า ซี 10 คืออธิบดี หรือ ซี 11 ปลัดกระทรวงฯ ตั้งแต่ในอดีตเห็นมีแต่ตำแหน่งวิศวกร หรือ ซี 10 และซี 11 ของผู้เชี่ยวชาญมักเห็นเป็นตำแหน่งของนักวิืทยาศาสตร์และวิศวกร จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 00:51:11

ความคิดเห็นที่ 39 จริงๆของข้าราชการพลเรือนก็มากกว่านั้นครับ เช่น รองปลัดกระทรวง ก็ C11 ครับ แล้วในสำนักปลัดกระทรวงจะมีพวก C10 ตำแหน่งประจำสิงอยู่มากมาย ผู้ว่าราชการจว. ก็ C10 ทุกคนครับ ประเทศไทยไม่รวมกทมมี 76 จว. เอกคราชทูติก็ C10 แล้วไทยส่งทูติไปกี่คน นับเอาเอง สำหรับทหาร C11 ผบ.ทบ. รองผบ.ทบ ผช.ผบ.ทบ. (และตำแหน่งเดียวกับของเหล่าอื่น) C10 คือ พล.อ.ที่เหลือ ทหารทำใจเรื่อง C มานานแล้วครับ เครื่องราชได้ช้ามาก ผมรับราชการมา 6 ปีถึงเพิ่งได้ช้างทองมงกุฎทอง ถ้าเป็นจ่าก็หมดสิทธิได้มงกุฎด้วยซ้ำ พวกผมหลายๆคนก็น้อยใจเงินเดือนเรื่องการตันไปนานแล้ว ไม่งั้นคงไม่เห็นทหารลาออกไปอยู่ที่อื่นบ่อยๆหรอกครับ ตอนนี้มียศอย่างเดียวที่ซื้อใจอยู่ งานทหารส่วนใหญ่ก็ทำงานสายวิศวะครับ ผมวิศวะสื่อสาร ชอ.ก็วิศวกรรมอากาศยาน เป็นต้น นายทหารหลักร้อยละ 90 จบวิศวะ แต่เค้าไม่ได้มองทหารเป็นสายเทคนิคครับ มองเป็นสายปกครอง จึงไม่ได้ตั้งผู้เชี่ยวชาญไว้มากยังดีที่เดียวนี้มีประเมิน ข้ามแท่ง เวลาตันที่นอ.พิเศษก็ข้ามไปกินแท่งถัดไปได้ แต่ก็ถือว่าตันเร็วกว่าข้าราชการอื่นๆครับ ส่วนกรมผมนายทหารเป็นวิศวกรแทบจะทั้งกรม ตำแน่งสูงสุด C9 ครับ ในทอ. C10 ขึ้นไปนอกจากเป็น วิศวกรแล้วต้องเป็นนักบินด้วย :-) แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 01:06:17 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 01:04:49 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 01:02:08 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 00:56:19 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 00:52:45

ความคิดเห็นที่ 40 อ๋อ ครับ รองปลัดฯ และผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ของสำนักงานปลัดฯ ครับ สำนักงานปลัดฯ กระทรวงผม คงเทียบได้กับสํานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 01:09:08

ความคิดเห็นที่ 41 ขออีกนิด กลับมาที่ตารางเงินเดือน พ.อ.(พิเศษ)น.5 กินข้ามแท่ง ไปที่น.6ได้ดังนั้นจึงตันที่ 66760 เมื่อตันแล้วได้เงินเดือนเพิ่มอีก 3-6% ขึ้นอยู่กับผลการประเมิน หากเราได้เลื่อนยศเป็น พล.ต.ปีสุดท้าย เราจะอดรับ 3-6% แต่จะได้เลื่อนเงินเดือนไปกิน น.7 ซึ่งได้มาเป็น 67560 สรุปเป็นนายพลได้เงินเดือนเพิ่ม 700 บาท หรือถ้าเป็นอัตราจอมพลมารับสูงสุดแท่งน. 9 ก็ 71330 มากกว่านอ.(พ) แค่ 3800 บาทเอง ส้วนค่าตำแหน่งค่าน้ำมันอะไรถ้าไม่อยู่ในตำแหน่งหลักไม่ได้นะครับ ผมถึงบอกไงครับว่าในแง่ว่าให้คนเป็นนายพลจะเปลืองงบไม่จริงเลยซักนิดคนที่พูดคิดเองเออเองลอยๆล้วนๆ ค่าปีกนี่ถ้ามีปีกนั้นๆและอยู่ในหน่วยตามเงื่อนไขยศอะไรก็ได้ครับ น.สัญญาบัตรได้ค่าปีกเท่ากันตั้งแต่ ร.ต.ยัน พล.อ. แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 01:26:53 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 01:23:46

ความคิดเห็นที่ 42 คห. 40 ใช่ครับๆ แต่กระทรวงผมเสียเปรียบที่คนเยอะนี่แหละ จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 01:25:14