ความคิดเห็นที่ 1 ไม่รู้แฮะ จากคุณ : phanyanukul เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 13:55:27

ความคิดเห็นที่ 2 พวกภาพตามถ้ำยิ่งแล้วใหญ่ เป็นแสนเป็นล้านปีเลยครับ... จากคุณ : ผู้เชี่ยวชาญเรื่องชาวบ้าน เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 14:12:01 A:182.255.9.32 X: TicketID:317712

ความคิดเห็นที่ 3 แสงแดด ส่องไม่ถึงหรือเปล่า จากคุณ : 1812Overtureyoot เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 14:13:01

ความคิดเห็นที่ 4 พวกลายจิตรกรรมถึงแดดจะไม่ถึงแต่บางที่ก็เป็น ร้อยๆ ปี..อยากรู้จังว่าพวกกรมศิลป์เค้าอนุรักษ์กันได้อย่างไร.. จากคุณ : ริเชลิว เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 14:28:56

ความคิดเห็นที่ 5 จิตรกรรมโบราณในวัดส่วนใหญ่ผมคิดว่ามันอยู่ในอาคารในวัดจึงไม่ค่อยโดนฝนโดนแดดอยู่แล้วนี่ครับ แต่สีคงจะจางกร่อนไปบ้าง ปล. คห.2 มั่วหรือเปล่า? มนุษย์เพิ่งเกิดขึ้นบนโลกนี้ไม่กี่หมื่นปีเองนะครับ จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 14:35:46

ความคิดเห็นที่ 6 ok ครับ หมื่นปีก็หมื่นปี... จากคุณ : ผู้เชี่ยวชาญเรื่องชาวบ้าน เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 14:47:49 A:182.255.9.42 X: TicketID:317712

ความคิดเห็นที่ 7 ผาแต้ม ไม่รู้ แต่ ฝาผนังวัดพระแก้ว มีการให้ ศิลปีนของกรมศิลป ไป เขียนซ่อมแซมเป็นระยะๆ จากคุณ : โรงเรียนวัด เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 16:44:49

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ผาแต้มมีชาวหว้ากอบอกว่าถ้ามันซีดมีเติมครับ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 17:35:26

ความคิดเห็นที่ 9 จิตรกรรมก็ต้องมีการซ่อมแซมเป็นระยะ ๆ นะครับ บางที่ที่ไม่มีการบูรณะก็เสียหายไปพอสมควรเหมือนกัน จากคุณ : Timin2101 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 17:36:20

ความคิดเห็นที่ 10 คคหท 7 ชัดเจนครับ ผมยังเคยไปทำเลย แต่ผมไม่ใช่ศิลปินน่ะครับ จากคุณ : เจ๋ง เจได เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 18:44:49

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนเราไปวัดพระแก้ว ก็เคยเจอมีคนเค้ามานั่งวาดซ่อมอยู่นะคะ จากคุณ : ~mini_thirds เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 20:29:14

ความคิดเห็นที่ 12 ภาพจิตกรรมฝาผนังในไทยหลายแห่ง ที่สามารถอยู่ได้ถึงปัจจุบัน ส่วนมากอยู่ในอาคาร หรือในเจดีย์ ปรางค์ หรือสถานที่ที่มีหลังคาคลุม เพราะตัวการที่ทำให้จิตรกรรมชำรุด คือ ความชื้น จากน้ำฝน และน้ำซึมใต้ดิน แสงแดด ฝุ่นละออง ฯลฯ หลักการซ่อมแซมที่ดีคือ ไม่ต่อเติม เสริมแต่ง รักษาคุณค่าของงานศิลป์ อยู่มาอย่างไร ก็รักษาให้คงอยู่สืบไป เท่าที่เทคโนโลยีในปัจจุบันจะรักษาไว้ได้ สำหรับ วัดพระแ้ก้วที่กล่าวว่าให้ศิลปินของกรมศิลป ไปเขียนซ่อมแซมเป็นระยะ ๆ นั้น ผมคิดว่า แท้จริงแล้วเป็นการซ่อมแซม โดยรักษาคุณค่าความเป็นของแท้ ดั่งเดิม เพราะในหลักการจะต้อง ไ่ม่มีการไปปรับเปลี่ยแก้ไข ให้เป็นผลงานอย่างตนเองอย่างแน่นอน จากคุณ : รามณรงค์ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 20:34:46

ความคิดเห็นที่ 13 ตามคห 7,12 เลยครับ วัดใหญ่ๆหรือโบราณสถานหรือพระอารามหลวงส่วนใหญ่มีการบูรณะซ่อมแซมอยู่ตลอดครับ จากคุณ : ผมแอบชอบคุณ!! เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 21:40:21

ความคิดเห็นที่ 14 วัดแห่งหนึ่งในสุพรรณ 555 จากคุณ : SICKHEART เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 01:20:16

ความคิดเห็นที่ 15 ฮากลิ้ง คห.14 จากคุณ : เขียนบน iPhone (ลูกหมีฟันผุ ^^) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 01:57:59

ความคิดเห็นที่ 16 สีที่ใช้วาดจะหลุดออกตามปูน หรือ หินที่วาดเอาไว้ครับ ถ้าเป็นยุคโบราณสีต่าง ๆ อาจเกิดจากการเอาผงหินหรือแร่ธาตุต่าง ๆ หรืออะไรก็แล้วแต่มาละลาย หรืออาจสกัดจากพืชก็มีครับ ถ้าเอาไปวาดบนหิน แล้วหินนั้นไม่หลุดกร่อน ร่อน หรือผุพังลงมาก็จะยังติดอยู่อย่างนั้นแหละครับ ((อาจไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซนต์)) ส่วนยุคประวัติศาสตร์นั้น ก็จะเริ่มมีการใช้เทคนิคหลัก ๆ สองอย่างครับ คือ วาดบนผนังปูนเปียกที่เรียกว่า เฟซโก้  กับวาดบนผนังปูนแห้งที่เรียกว่า เทมเพอร่า ถ้าใช้เทคนิคเฟซโก้ สีจะซึมเป็นเนื้อเดียวกับปูนที่ก่อผนัง หรือเพดาน อันนี้ภาพจะติดแน่นทนนาน ไปจนกว่าผนัง เพดานจะถล่มหล่ะครับ  หาดูได้จากงานตามโบสถ์ วิหาร ที่เกิดขึ้นในยุคเรเนอซองครับ ถ้าใช้เทคนิคเทมเพอร่า สีจะอยู่บนผิวของปูนที่ใช้เป็นพื้นที่เท่านั้น ถ้าโดนน้ำ ฝนตก อากาศชื้น ส่งผลให้ชั้นของสีที่อยู่บนผิวปูนลอก ภาพก็จะลอกครับ ((ส่วนมากในไทยจะใช้เทคนิคนี้กัน จึงต้องมีการวาดเติมตลอด)) แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 54 04:40:07 จากคุณ : น้องบอย (hydehalf) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 02:38:45

ความคิดเห็นที่ 17 ภาพจิตรกรรมฝาผนังในสมัยเดิมใช้กาวจากไขสัตว์และส่วนผสมอื่นๆ ซึ่งเราเคยอ่านเจอแต่จำได้ไม่หมด แต่มันก็ทนมากเลยนะคะ สามารถอยู่มาได้เป็นร้อยปีอาจเพราะมลภาวะไม่มาก ทำให้ตัวเร่งความเสื่อมมีน้อย ปัจจุบันภาพจิตรกรรมเสียหายเร็วมาก ด้วยมลภาวะ การท่องเที่ยว และภัยพิบัติต่างๆ สำหรับการอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมฝาผนังตามความคิดเรานะ มีหัวใจหลักอยู่ 3 อย่าง คือ หนึ่งสภาพของอาคารที่ภาพจิตรกรรมฝาผนังติดอยู่ สอง ชั้นดินสอพองที่ภาพจิตรกรรมติดอยู่ และ สามสีที่ประกอบขึ้นมาเป็นภาพจิตรกรรม อันดับแรกเลยต้องตรวจสภาพอาคารก่อนว่า ภายในมีการชำรุดเสียหายไหม หากต้องซ่อมอาคารก่อน อาจมีการลอกชั้นดินสอพองที่มีภาพจิตรกรรมออกมาก่อน เมื่อซ่อมอาคารแล้วจึงดำเนินการซ่อมภาพจิตรกรรม โดยการติดชั้นดินสอพองโดยใช้กาว อันนี้เราไม่แน่ใจว่าเป็นกาวประเภทไหน และสุดท้ายก็มีซ่อมสีของภาพจิตรกรรม การซ่อมสี ไม่ใช่การเขียนขึ้นใหม่ เพราะช่างจะต้องให้เกียรติรักษาฝีมือช่างของผู้เขียนเดิมไว้ จะซ่อมโดยไม่นำฝีมือของตนเองเข้าไปปะปน ยกเว้นมีความจำเป็นต้องเขียนเพิ่มบางจุด เราอ่านหนังสือมาค่ะ ไม่รู้ว่าถูกต้องหรือเปล่า จากคุณ : luksawkhonklang เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 09:59:15

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าไม่นับความทรุดโทรมทางกายภาพ (หลุด ลอก กะเทาะ กร่อน) ปัจจัยสำคัญคือสารสีที่ใช้ครับ สมัยโบราณนิยมใช้ Pigment ที่ทำจากสารประกอบของโลหะ อย่างพวก Copper Iron หรือสีดำก็มักจะเป็น Carbon (ถ่านนั่นเอง เรียกให้ขลังๆซะงั้น) สารสีพวกนี้เรียกรวมๆกันว่า Pigment ซึ่งมันทนทานต่อการจาง (Fade) มาก ต่างกับสารสีพวก Dye ซึ่งเป็นประเภท Organic ที่จางง่ายกว่า (พบเห็นได้ในหมึก Inkjet เพราะขนาดโมเลกุลมันเล็กทำให้พิมพ์ได้ละเอียด) ดังนั้นการที่ภาพเขียนสมัยก่อนอยู่ได้ทนทานผ่านร้อนผ่านหนาวมาได้หลายพันปี ก็ขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมที่ภาพนั้นๆอยู่(ยิ่งความชื้นต่ำยิ่งดี) และสารให้สีที่ใช้เขียนภาพนั้นขึ้นมา แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 54 08:29:02 จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 08:28:38

ความคิดเห็นที่ 19 เออ..มนุษย์ไม่กี่หมื่นปี ???? ไม่ใช่ราว2ล้านปีหรือเจ้า ???? จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 05:14:38

ความคิดเห็นที่ 20 Homo sapiens เริ่มปรากฏเป็นหลักฐานเมื่อ 200,000 ปี ก่อนหน้าคือ Homo erectus เป็น Homo sapiens neanderthalensis ราวๆ 50,000 ปีก่อน และเป็น Homo sapiens dramaticus var pantip ราวๆ 10 กว่าปีมานี่เอง จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 16:57:07