 |
ในเดือน ก.ย.2552 อินโดนีเซียได้ประกาศแผนการจัดซื้อซื้อเรือลำน้ำจำนวน 12 ลำ และ สื่อของรัสเซียรายงานว่ารัสเซียได้เจรจาขายแบบ 636 ให้จำนวน 2 ลำ มูลค่า 700 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานในเว็บไซต์กลาโหม เรือดำน้ำแบบ 636 ออกแบบสำหรับสงครามต่อต้านเรือดำน้ำ (Anti-submarine warfare) และ สงครามต่อต้านเรือรบผิวน้ำ (Anti-surface-ship warfare) และเพื่อภารกิจลาดตระเวนทั่วไป เป็นเรือที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล-ไฟฟ้า รัศมีปฏิบัติการ 7,500 ไมล์ (กว่า 12,000 กม.) ความเร็วใต้น้ำสูงสุด 20 นอต ดำได้ลึกสุด 300 เมตร ติดขีปนาวุธต้านเรือใต้น้ำและผิวน้ำ กับระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศ เวียดนามมีเรือดำน้ำขนาดเล็กที่ซื้อจากยูโกสลาเวียในอดีต จำนวน 2 ลำ ใช้มาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ปัจจุบันใช้เป็นเรือฝึก อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีเรือดำน้ำใช้งาน เป็นเรือใช้แล้วซื้อจากเยอรมนี ปีที่แล้วประกาศแผนจัดซื้อทั้งหมด 12 ลำ รวมทั้งชั้น 636 สองลำที่กำลังเจรจากับรัสเซีย ปีที่แล้วเช่นกัน มาเลเซียได้นำเข้าประจำการเรือลำน้ำชั้นสกอร์ปีน (Scorpene) ลำแรก โดยซื้อจากฝรั่งเศสทั้งหมด 2 ลำ สิงคโปร์กำลังเจรจาซื้อเรือดำน้ำใช้แล้วจากสวีเดนจำนวน 2 ลำ เป็นชั้นวาสเตอร์ก็อตลานด์ (Vastergotland) แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสิงคโปร์บอกกับ "ASTVผู้จัดการออนไลน์" เดือน ก.ย.ปีที่แล้วว่า รัฐบาลกำลังเจรจาซื้อเรือใช้แล้วจากบริษัทคอกคูมแห่งสวีเดนอีก 2 ลำ รวมเป็น 4 ลำในแผนการ ส่วนราชนาวีไทยเคยมีรายงานว่า ได้หมายตาเรือดำน้ำใช้แล้วของจีนจำนวน 2 ลำ.
รมว.กลาโหมเวียดนามซึ่งได้รับคะแนนโหวตจากผู้แทนราษฎรจากทั่วประเทศ ถึง 97.6% เมื่อรัฐสภาลงมติรับรองคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ในวันที่ 3 ส.ค. ให้สัมภาษณ์ว่าการจัดซื้อจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้อยู่ในแผนระยะยาวของ การพัฒนากองทัพประชาชนให้ทันสมัย ตามนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์ที่ออกมาระหว่างประชุมใหญ่ครั้งที่ 11 ในเดือน ม.ค.ปีนี้ เวียดนามกำลังพัฒนากองทัพเพื่อป้องกันประเทศอย่างแท้จริง ไม่ได้เป็นการข่มขู่คุกคามประเทศอื่นใดในภูมิภาค นอกจากนั้นหลายประเทศในภูมิภาคก็กำลังดำเนินการเช่นกัน และเป็นไปตามกำลังและขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ซึ่งไม่ใช่การแข่งขันกันด้านอาวุธ ทั้งหมดนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์กวนโดยเญินซเวิน (Quan Doi Nhan Dan) หรือ "กองทัพประชาชน" ของกระทรวงกลาโหม เวียดนามซึ่งมีชายฝั่งทะเลเหนือจรด ใต้ยาวกว่า 3,000 กม. ยังต้องการเรือรบอีกจำนวนมาก และพร้อมๆ กับเซ็นซื้อเรือตรวจการณ์ชั้นสเวตลายัค หรือ Type 1042.2 เวียดนามยังเจรจาซื้อสิทธิบัตรจากรัสเซีย เพื่อต่อเรือชั้นนี้ไว้ใช้เองด้วย เช่นเดียวกับเรือฟรีเกตชั้นเกพาร์ด เรือสเวตลายัคสามารถติดปืน AK-176 ได้เช่นเดียวกับเรือฟรีเกตเกพาร์ด และ ติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทันสมัย รวมทั้งระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมด้วย ทั้งนี้เป็นข้อมูลจากเว็บไซต์ข่าวการทหาร สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์รายงานก่อนหน้านี้ว่า เวียดนามยังเจรจาขอซื้อลิขสิทธิ์เพื่อผลิตขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานและต่อสู้ เรือผิวน้ำอีกอย่างน้อย 2 รุ่น ซึ่งปัจจุบันอินเดียผลิตอาวุธเหล่านี้ใช้เองเช่นกัน ในสัปดาห์กลางเดือน มิ.ย. ขณะที่การเผชิญหน้ากับจีนยังคุกรุ่น กองทัพประชาชนเวียดนามได้นำผู้สื่อข่าวเข้าชมระบบขีปนาวุธ S-300PMU1 ที่ได้รับการยอมรับว่าทันสมัยที่สุดในโลกอีกระบบหนึ่งของรัสเซีย ในการต่อต้านการโจมตีทั้งจากทางอากาศ ทางเรือและบนบก ทั้งจากระยะไกลหลายร้อย กม.และ ระยะใกล้ อย่างไรก็ตาม พล.อ.แทงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กรณีพิพาทใน “ทะเลตะวันออก” ถือเป็นภารกิจ "ด้านการเมือง" ของกองทัพ ซึ่งเวียดนามกับจีนและกลุ่มอาเซียนได้ตกลงกันจะแก้ปัญหาอย่างสันติ เวียดนามกับจีนจะมีการเจรจาแก้ปัญหาระหว่างสองฝ่าย แต่เนื่องจากแผนที่ที่ฝ่ายจีนกำหนดขึ้นมาเองนั้นส่งผลกระทบหลายฝ่าย เวียดนามจึงสนับสนุนให้มีการเจรจาหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องพร้อมกันเพื่อแก้ไข ปัญหานี้ สำหรับบทบาทของสหรัฐฯ ต่อกรณีพิพาททะเลจีนใต้ สหรัฐฯ ได้ให้คำมั่นจะวางตัวเป็นกลาง แต่ทุกฝ่ายยอมรับว่าสหรัฐฯ มีสิทธิ์ที่จะปกป้องเส้นทางเดินเรือเสรีในทะเลแห่งนี้ รมว.กลาโหมเวียดนามกล่าว.
ในภาพ : เรือสเวตลายัค 1ใน4ลำ ต.994ของเราพอสูสีนะครับ แต่เรือดำน้ำของเราสู้เค้าไม่ได้เพราะยังไม่มี ถ้าได้206ทั้ง6ลำมาหละคงจะดีไม่ใช่น้อย ข่าวเรือจีนเก่าไปหน่อยมั้ง
ปล. อ่านเนื้อข่าวแล้วงงมากมาย วนไปวนมามีทั้งเรือ เครื่องบิน และเรือดำน้ำอีกหลายประเทศ จับฉ่ายไปหน่อยนะเนี่ย
จากคุณ |
:
yamaha111
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ส.ค. 54 23:32:52
|
|
|
|
 |