ความคิดเห็นที่ 1 ซึ่งถ้าเรามองไปที่ด้านล่างขวาของเว็บ ก็จะมีลิงค์ พาไปสู่แถลงการณ์ของชมรม ที่มีเนื้อหาตรงกับฟอร์เวิร์ดเมล์ที่ได้ๆ กันมานะแหล่ะ แถมมีประโยคบอกให้ช่วยกันส่งต่อจริงๆ ด้วย จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 11:40:13

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อแสดงว่าฟอร์เวิร์ดเมล์นี้มีที่มาจริงๆ ก็ต้องตั้งคำถามต่อว่าเชื่ีอได้มั้ย หลายๆ ท่านก็ได้อภิปรายกันไปเยอะแล้วในกระทู้ก่อนๆ ซึ่งผมสรุปรวมๆ ว่าผมเห็นด้วยว่าการบริจาคแต่หูกระป๋องหรือขอบฝาขวด มันเกิดขึ้นเยอะมาเพราะกลไกการโฆษณาของบริษัทเอกชนที่เกี่ยวของ โดยเฉพาะจากซุปไก่เจ้าดัง ... แต่อย่าลืมว่า องค์กรที่ริเริ่มทำการรณรงค์ตรงนี้่ และยังรับบริจาคอย่างต่อเนื่อง คือ มูลนิธิขาเทียม โดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 11:46:32

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าได้เข้าไปเว็บของมูลนิธิ ก็จะเห็นกิจกรรมโครงการต่างๆ เกี่ยวกับการทำขาเทียม และการรับบริจาควัสดุอุปกรณ์ ซึ่งก็มีทั้งรับบริจาคอลูมิเนียมทั่วไป ฝาเปิดกระป๋องเครื่องดื่มต่างๆ ฝาตลับแป้งอลูมิเนียม ฝาจุกน้ำดื่มที่ผลิตมาจากอลูมิเนียม กระป๋องน้ำอัดลม กระป๋องเบียร์ หม้อ กะทะอลูมิเนียมเก่าๆ และขยะอลูมิเนียมอื่นๆที่ผลิตจากอลูมิเนียม (ยกเว้น กระป๋องกาแฟ และกระป๋องนมสดต่างๆ ที่มีส่วนประกอบของเหล็ก จะไม่สามารถนำมาใช้ได้) พูดง่ายๆ คือ ขอให้เป็นอลูมิเนียมแท้ๆ ไม่ต้องไปเสียเวลา เสียเงิน ในการถลุงแปรรูปกันใหม่ คำชี้แจง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการเอาอลูมิเนียมที่ได้เกิน ไปจำหน่ายหารายได้ต่อ ก็มีดังนี้ครับ ------------------------------------------------------------------------------- การนำอลูมิเนียมที่ได้รับบริจาคมาใช้ในการดำเนินงานของมูลนิธิขาเทียม     มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นมูลนิธิฯ ที่สมเด็จพระศรีนครินทรา- บรมราชชนนีทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จัดตั้งขึ้น เพื่อทำขาเทียมให้ผู้พิการขาขาดที่ยากไร้ด้อยโอกาส โดยไม่คิดมูลค่า ซึ่งมูลนิธิฯ ไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนใดๆจากรัฐบาล แต่ได้ดำเนินงานด้วยเงินบริจาค และดอกผลจากกองทุนสำนักงานสลากกินแบ่งตั้งไว้ให้ ซึ่งมีจำนวนเงินน้อยลง เพราะดอกเบี้ยลดลง เนื่องจาก ขาเทียมมีชิ้นส่วนที่เป็นโลหะหลายส่วน ซึ่งโดยปกติทำด้วยเหล็กกล้าปลอดสนิมซึ่งมีราคาแพง  เพื่อเป็นการประหยัด รวมทั้งเพื่อช่วยลดขยะและมลภาวะ มูลนิธิฯ จึงได้ทดลองเอาห่วงเปิดกระป๋องอลูมิเนียมมาผลิตเป็นชิ้นส่วนดังกล่าวพบว่าได้ผลดี  เมื่อสังคมได้ทราบว่ามูลนิธิฯนำขยะอลูมิเนียมมาใช้ผลิตชิ้นส่วนขาเทียม ผู้มีจิตศรัทธาจึงได้รวบรวมเก็บอลูมิเนียมส่งมาให้ ทำให้มูลนิธิฯ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและผลิตขาเทียมเพื่อช่วยเหลือผู้พิการให้ผู้พิการสามารถช่วยเหลือตนเองหรือประกอบอาชีพได้ แต่เนื่องจากในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิฯได้รับบริจาคอลูมิเนียมจากผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมากเกินความต้องการที่นำมาใช้เป็นส่วนประกอบของขาเทียม มูลนิธิฯจึงต้องนำเศษอลูมิเนียมมาหลอมเป็นแท่งเก็บไว้ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการหลอม การเช่าโกดังเก็บแท่งอลูมิเนียม และจ้างยามเฝ้า  องค์ประธานมูลนิธิขาเทียม ซึ่งในขณะนั้นคือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์   จึงมีพระกระแสรับสั่งให้นำเศษอลูมิเนียมที่ได้รับบริจาคออกจำหน่าย เพื่อนำเงินมาใช้ในการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ดังต่อไปนี้ เพื่อพัฒนา ค้นคว้า วิจัย การผลิตขาเทียมที่ดีเช่นของต่างประเทศให้แก่ผู้พิการที่ยากจน     เพื่อพัฒนา ประดิษฐ์ คิดค้น วิธีการ, เครื่องมือ และอุปกรณ์ ในการทำขาเทียม เพื่อใช้เป็นงบประมาณในการจัดตั้งโรงงานทำขาเทียมประจำชุมชน เพื่อให้บริการผู้พิการด้อยโอกาสที่อยู่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดาร  สามารถรับขาเทียมในเวลารวดเร็ว ทั่วถึง และยั่งยืน เนื่องจาก มูลนิธิขาเทียม เป็นองค์กรเพื่อการกุศล ที่ไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากหน่วยงานใด เงินที่นำมาใช้ในการดำเนินงานล้วนมาจากผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทั้งสิ้น การนำเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายอลูมิเนียมมาใช้ในการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ทำให้มีการพัฒนาวิธีการทำขาเทียม และพัฒนาคุณภาพของชิ้นส่วนขาเทียมให้ทัดเทียมกับของต่างประเทศเพื่อช่วยให้ผู้พิการได้รับขาเทียมที่ดี มีคุณภาพทัดเทียมกับขาเทียมที่ผลิตจากต่างประเทศ  การบริจาคเศษอลูมิเนียมช่วยให้ทุกภาคส่วนในสังคม ตั้งแต่ผู้ที่ยากจน หรือบริษัทที่มีเศษอลูมิเนียม สามารถมีส่วนร่วมช่วยเหลือผู้พิการยากไร้ ด้อยโอกาสได้ง่ายขึ้นอีกด้วย มูลนิธิขาเทียม ขอรับรองว่าเงินที่ได้จากการจำหน่ายอลูมิเนียมที่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคให้นั้น ถูกนำมาใช้พัฒนาชิ้นส่วนขาเทียมมูลนิธิฯ เพื่อการทำขาเทียมที่ดีให้แก่ผู้พิการขาขาดโดยไม่คิดมูลค่า เป็นการดำเนินงานเพื่อประโยชน์แก่สังคม โดยไม่หวังผลตอบแทนหรือมูลค่าอื่นใดทั้งสิ้น และเพื่อเทิดพระเกียรติของพระราชวงศ์ที่ทรงอุทิศพระองค์เพื่อผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส อย่างไม่เลือกเชื้อชาติศาสนา แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 54 12:03:25 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 54 12:02:34 จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 11:51:16

ความคิดเห็นที่ 4 ที่น่าสนใจ คือ ในส่วนคำถาม คำตอบ ของเว็บไซต์ ได้มีคำอธิบายไว้ด้วยว่าอลูมิเนียมที่รับบริจาคไปนั้น โดยเฉพาะหูกระป๋องเนี่ย มันมีประโยชน์มาก ทำส่วนประกอบของขาเทียมได้หลายจุด ไม่ใช่เฉพาะตัวขาเทียม เพราะฉะนั้น ท่านที่เคยบริจาคหูกระป๋องอยู่เรื่อยๆ หรือคิดว่าจะบริจาค หรือชอบกินน้ำอัดลมเพื่อจะได้แถมการบริจาคไปด้วย ก็โปรดสบายใจเถอะว่า ทำไปไม่เป็นไรหรอก มันมีประโยชน์เป็นกรณีพิเศษกว่าการบริจาคกระทะตลิวโลหะธรรมดา แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 54 11:56:37 จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 11:54:58

ความคิดเห็นที่ 5 คำถามที่งงๆ ตามมาว่า เอ... แล้วทางชมรมนักพัฒนาอุตสาหกรรมไทย จะออกแถลงการณ์ดังกล่าวทำไม ทั้งๆ ที่ก็แยกกันเดิน แยกกันทำ เป็นความดีต่อสังคมทั้งคู่ (จะกลุ่มหนึ่งอยากรับบริจาคทุกอย่าง แต่อีกกลุ่มอยู่ได้ห่วงกระป๋องเป็นพิเศษ ก็ไม่น่าจะเสียหาย ตั้งงัดข้ออะไรกัน) คำตอบลอาจจะอยู่ในเนื้อหาในเว็บของเค้าส่วนนี้ก็ได้ ซึ่ีงผมไม่ขอออกความเห็นส่วนตัว แต่ให้พิจารณากันเอง อย่าปล่อยให้คนเฉื่อยลอยนวล http://www.thailegs.com/article/adonotw.htm จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 12:00:26

ความคิดเห็นที่ 6 ครับ สรุปประเด็นที่ผมตั้ง อ่านดูแล้ว ก็แค่ไม่อยากให้ตั้งแง่แค่ บริจาคหูกระป๋องอย่างเดียว ส่วนที่เป็น กระทะ หม้อก็ได้ และ แค่ไไม่ให้เป็นการยึดติดเกินไปว่าเฉพาะแค่หู แค่นั้นเอง อ. #แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 54 12:47:30 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 54 12:05:15 จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 12:04:29

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ JD300 เขาเป็น อาจารย์ครับ คุณส่วน Dr.J(FK) เป็นหมอครับ จากคุณ : WindMaster เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 12:14:45

ความคิดเห็นที่ 8 ซ.ต.พ. จากคุณ : omega. เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 12:29:19

ความคิดเห็นที่ 9 เอ่อ แล้วเรื่องประเด็นความคุ้มค่าของการหลอมอะลูมิเนียมในข้อ 4. ของคำชี้แจงของรมรมฯล่ะครับ มันเป็นจริงดังว่าหรือเปล่าครับ จากคุณ : นกกินเปี้ยว เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 12:29:26

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณอาจารย์ครับ ทำให้ตาสว่างได้อีกเรื่องหนึ่ง จากคุณ : TingTing เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 12:41:12

ความคิดเห็นที่ 11 จาก #5 นี่ คำแถลงของสมาคมนี่ แถได้แบบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมหรือคนที่ทำงานด้านนี้เลย จากคุณ : Buff_Power เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 12:41:31

ความคิดเห็นที่ 12 กินกาแฟกระป๋องเป็นประจำอยู่แล้วครับ ทุกทีก็ดึงฝากระป๋องเก็บไว้บริจาค ไม่ได้อยากบริจาคเลยทนตาแข็งกินกาแฟหรอก แล้วที่บ้านก็ไม่มีหม้ออะลูฯให้บริจาคด้วยครับ จากคุณ : tuinui98 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 13:14:36

ความคิดเห็นที่ 14 ผมสงสัยเหมือน คห. 9 เลยครับ ไม่ทราบว่าใครพอจะมีข้อมูลนำมาแบ่งปันทีครับ จากคุณ : นายเปเล่ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 13:17:32

ความคิดเห็นที่ 15 ตามไปอ่านจากลิ้งใน #5 แล้วรู้สึกแย่จัง ทำไมทางชมรมถึงได้ตอบแบบ ... แบบนี้ละ มาทั้งประชดประชัน เสียดสี แด กดัน ไม่กล้าบริจาคแล้วอะ ดูไม่เป็นมืออาชีพเลย จะอาศัยแค่ใจรัก - อยากช่วย อย่างเดียวได้ไง จากคุณ : Avanyere เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 13:17:34

ความคิดเห็นที่ 16 ประเด็นเรื่องความคุ้มค่านี่ อ่านของมูลนิธิขาเทียมฯ แล้ว ตอบคำถามได้นะครับ ในขณะที่ชมรมฯ มาบอกว่าค่าใช้จ่ายในการหลอมยังสูงกว่าราคาวัสดุอีก แต่ของมูลนิธิฯ เขาเอาไปหลอมเป็นแท่งแล้วขายได้เงินมาใช้ได้ด้วย จากคุณ : TingTing เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 13:27:52

ความคิดเห็นที่ 17 "ขาดทุน คือ กำไร" พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จะขาดทุนอะไร และ กำไรอะไร คิดกันดูนะครับ ประโยคสั้นๆแต่ความหมายยิ่งใหญ่นะครับ จากคุณ : Cocopok เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 13:30:36

ความคิดเห็นที่ 18 ผลประโยชน์แน่นอนถ้าออกมาหอนกันแบบนี้ จากคุณ : varitpum2 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 14:09:33

ความคิดเห็นที่ 19 น่าสนใจ ตกลงเราควรบริจาคหรือไม่ควรกันแน่ โดยส่วนตัวเห็นว่าถ้ากินตามปกติอยู่แล้วก็บริจาคไปดีกว่าทิ้งเสียเปล่า จากคุณ : นายข่วย เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 14:39:36

ความคิดเห็นที่ 20 ผมคงไม่ตั้งหน้าตั้งตากินเพื่อบริจาคหรอกครับ หาจะกินเพื่อเอาหูกระป๋องตั้งเกือบห้าพันอัน เอาเงินไปบริจาคเลยดีกว่า จากคุณ : quartzite เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 14:48:43

ความคิดเห็นที่ 21 ผมสนใจในประเด็นเรื่องความคุ้มค่าครับ ถ้ากินน้ำอัดลมกระป๋องอยู่แล้ว เอาหูกระป๋องมาบริจาคนี่ถือว่าคุ้มครับ แต่การทำให้เกิดกระแส แล้วพยายามซื้อน้ำกระป๋องมากินเพื่อให้มีหูกระป๋องไปบริจาค ผมมองว่าไม่คุ้มแน่ๆ จากคุณ : oppertunity เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 14:55:19

ความคิดเห็นที่ 22 เท่าที่ทราบ .. ประเด็นเรื่อง หูกระป๋อง มันเป็นเรื่องของความง่ายในการจัดเก็บ ขนส่ง และแปรรูปครับ ง่าย ๆ คือ "หู" มันจัดการง่ายกว่า จริง ๆ แล้วในทางเทคนิคคุณสมบัติของตัววัสดุเองไม่ต่างกันมาก เพียงแต่ตัวกระป๋องบางทีมันเคลือบสี เคลือบพลาสติกมา เวลาเอาไปหลอมทำใหม่ ก็ต้องกำจัดพวกนี้ออกก่อน ซึ่งมันค่อนข้างยุ่งยากมากถ้าไม่ใช่โรงงานซีไซเคิลใหญ่ ๆ จากคุณ : เตยทะเล เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 15:13:06

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าผมจำไม่ผิดเรื่องการเก็บฝากระป๋องเพื่อทำขาเทียมนี้ ครั้งแรกที่รายการชิงร้อยชิงล้านมั้ง ช่วงนั้นเห็นคนเก็บเพื่อช่วยสังคมกันเยอะจริงๆ จนผมเริ่มสงสัยว่ามันมีผลประโยชน์ลับๆตามที่เคยมีคนกล่าวหาไว้จริงหรือป่าว จากคุณ : Sarra (Sarra002) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 15:24:15

ความคิดเห็นที่ 24 ก็บริจาคเหมือนเดิม เพราะว่าถ้าเรายังดื่มเครื่องดื่มแบบนี้  เราไม่บริจาคก็ทิ้ง  ทิ้งไปก็ เป็นขยะ  ถ้ามีหน่วยงานใด เอาไปใช้ประโยชน์ได้ ก็ทำต่อไปเถอะค่ะ จากคุณ : เจ้อ้วนเองจ้า เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 15:39:25

ความคิดเห็นที่ 25 บริจาคๆไปก็ไม่เห็นจะเป็นไรนี่นะ มันก็เป็นช่องทางนึงในการ recycle วัตถุดิบเท่านั้นเอง >.< จากคุณ : YanYanMachiko เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 15:57:47

ความคิดเห็นที่ 26 ดูไปดูมา ชมรมนี้เขาเป็นคนทำนี่เอง สงสัยต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ เลยออกมาพูดทำนองแบบนี้ เห็นเหมือนมีการเก็บขยะ คัดแยกขยะด้วย ประมาณพวกรับซื้อของเก่าเลย จากนั้นก็แยกขยะแล้วส่งให้กับคนในชมรม เพื่อให้ได้วัสดุรีไซเคิลมาต่อยอดธุรกิจแน่ๆ เห็นแบบนี้แล้ว บริจากต่อไปกันดีกว่า เพราะอย่างน้อยถ้ามูลนิธิมีหูเกิดจากต้องการแล้วก็เอาไปขายได้แน่ๆ อีกอย่างค่าหลอมวัสดุถ้าผมคิดๆ ดูแล้วมันไม่ได้แพงมากเท่าไหร่หรอก จากคุณ : ป๊าม้าออนเซน เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 15:58:28

ความคิดเห็นที่ 27 การทำขาเทียมต้องการอลูมีเนียมทั้งหมด แต่ไม่สามารถโฆษณาได้ เนื่องจากคนเก็บขยะได้ขอร้องไว้ ผู้บรรยายจากมูลนิธิทำขาเทียมเคยบอกไว้ จากคุณ : ผู้เข้ารับการอบรม เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 16:09:18 A:203.155.29.220 X: TicketID:325002

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าไม่ศึกษาพฤติกรรมลูกค้า ก้จะเถียงกันจนขัดแย้ง จริงๆแล้ว พฤติกรรมของลูกค้า คือซื้อเพื่อดื่ม ไม่มีใครซท้อเพียงแค่หวังเศษหูกระป่องนำไปบริจาคสักคน มันเป็นเพียงหยิบสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ แล้วนำไปทิ้งไม่เกิดประโยชน์อะไร ให้นำสิ่งที่คิดว่ามันเป็นเพียงเศษขยะ ให้กลับมาใช้ใหม่แค่นั้นเอง ส่วนกระบวนการของคนเก็บขยะขาย แค่เพียงเศษเล็กเศษน้อยเมื่อสะสมมากเข้าทุกเดือน มันก็คือตัวเงินได้ แต่เรื่องซื้อกระป่องน้ำอัดลมเพื่อการบริจาค ไม่สามารถสร้างกระแสกลยุทธการตลาดได้เลย แต่จะได้เรื่องของการชี้ให้สังคมรู้จักการนำสิ่งของที่ทิ้งแล้ว นำกลับมาใช้ใหม่แค่นั้นเอง คนจะเิข้าใจในวัสุดชิ้นอื่นๆได้อีก จากพฤติกรรมการบริโภคสินค้าอื่นๆได้อีก อันนี้คือข้อดี จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 16:24:47

ความคิดเห็นที่ 29 ขอแซวอาจารย์หน่อยนะครับ ตกลงอาจารย์มี mail กี่ account กันครับ ผมเห็นครบเลย ทั้ง gmail yahoo hotmai แถมด้วย Chula mail อีก อิอิอิ จากคุณ : - v e x - เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 16:29:33

ความคิดเห็นที่ 30 คงไม่มีใคร หรือ มีก็น้อยมาก ที่อยากจะบริจาค หูกระป๋อง จนต้องไปซื้อมากิน หรือ ว่า ซื้อมาเสร็จ ดึงหูออก แล้วทิ้งที่เหลือ จากคุณ : เบื่อเนอะ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 17:36:22

ความคิดเห็นที่ 31 mthai ก็ลงบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ http://men.mthai.com/content/5606 จากคุณ : ฟ้าไม่ค่อยใส เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 17:54:58

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่รู้ว่าไอนี่เกี่ยวมั้ย แต่ไปเจอมาน่ะ เอามาฝากๆแชร์ๆ   ที่มา http://men.mthai.com/content/5606 ลองดูจ้า แก้ไข ; ง่าาาาา ซ้ำกับกระทู้ก่อนนี่หว่า เหอๆ _______________________________________ "จากการที่มีผู้สอบถามและนำหูกระป๋องและฝาเครื่องดื่มบำรุงร่างกายมามอบให้แก่ชมรมนักพัฒนาอุตสาหกรรมไทย เพื่อทำชิ้นส่วนของขาเทียมจำนวนมาก ทางชมรมฯ ขอขอบคุณและชื่นชมในความเอื้ออาทรของทุกท่านเป็นอย่างยิ่งและใคร่ขอชี้แจงข้อเท็จจริงในการนำเศษวัสดุเหลือใช้มาผลิตขาเทียมให้ทุกท่านได้ทราบดังต่อไปนี้" 1. หูกระป๋องหรือฝาเครื่องดื่มเป็นโลหะประเภทอลูมิเนียม ดังนั้นอลูมิเนียมทุกชนิด เช่น กระทะ ขัน กะละมัง ที่เป็นอลูมิเนียมสามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมด 2. การรณรงค์นำของเหลือใช้มาทำประโยชน์เป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ควรบริโภคเพื่อหวังจะนำหูกระป๋องมาเพื่อทำขาเทียมช่วยเหลือผู้พิการ เพราะหูกระป๋อง 4,200 อัน มีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม มีมูลค่าเป็นเศษอลูมิเนียมเพียง 50 บาท จะหลอมได้ชิ้นส่วนเพียง 5 ชิ้น ในขณะที่เราต้องเสียเงินซื้อเครื่องดื่มอย่างน้อยถึง 42,000 บาท 3. เหตุใดถึงเลือกเฉพาะหูกระป๋องหรือหูเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ถ้าต้องการอลูมิเนียมเพื่อทำขาเทียมจริง ๆ ก็ควรจะรับบริจาค หม้อ ขัน กระทะ เครื่องต่าง ๆ ที่มีส่วนของอลูมิเนียม จะได้ประมาณมากมาย (ถ้าท่านมีศรัทธาอยากจะช่วยเหลือผู้พิการส่งเงินบริจาคไปยังที่อยู่ของหน่วยงานที่ขอบริจาคจะดีกว่าที่จะรวบรวมหูกระป๋อง เพราะนอกจากไม่คุ้มค่าแล้วยังเสียความรู้สึกที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือให้แก่นักฉวยโอกาสหาผลประโยชน์ให้แก่ตน) 4. เศษอลูมิเนียมทุกชนิดต้องนำมาหลอมที่อุณหภูมิ 800 C เพื่อจะแปรรูปเป็นอลูมิเนียมแท่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการหลอมอลูมิเนียมแท่งและค่าจัดส่งมากกว่าค่าวัตถุดิบ ถ้าหน่วยงานใดที่ต้องการชิ้นส่วนขาเทียม ทางชมรมฯ ยินดีจะผลิตให้พอกับความต้องการและไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น 5. ความสามารถในการประกอบขาเทียมจากเศษอลูมิเนียม 100 กิโลกรัม เมื่อนำมาทำชิ้นส่วนของขาเทียมจะได้ชิ้นส่วนถึง 500 อัน ผู้ประกอบขาเทียมต้องใช้เวลาประกอบหลายปี ดังนั้นการรณรงค์เพื่อเก็บหูกระป๋องกันอย่างแพร่หลายทั่วประเทศจึงเป็นเรื่องการสร้างภาพของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น และควรจะให้ประชาชนได้รู้ความจริง 6. การดื่มน้ำกระป๋อง เป็นการสิ้นเปลือง เพราะแผ่นโลหะที่นำมาทำกระป๋องต้องนำเข้า และต้องจ่ายค่ากระป๋องเพิ่มจากน้ำขวดปรกติถึง 3 บาท 7. การสร้างศรัทธาและจิตสำนึกเพื่อช่วยเหลือคนพิการเป็นสิ่งที่ดี แต่การโฆษณาเพื่อส่งเสริมการขายและนำสถาบันเบื้องสูงมาอ้างเช่นนี้ทำให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาเข้าใจผิดเป็นจำนวนมาก เรื่องอย่างนี้ ผู้คุ้มครองผู้บริโภคน่าจะดูแลให้ทั่วถึง แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 54 18:17:13 จากคุณ : ชักธง1 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 18:12:53

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าคนซื้อน้ำอัดลมชนิดกระป๋องจะได้บุญมากกว่าซื้อน้ำอัดลมชนิดขวด เราคงต้องเสียเงินนำเข้ากระป๋องมหาศาลเลยนะ ความจริงของกระทู้คืออย่างนี้ก็บอกไปเลย พูดตรงๆไปเลย เอาข้อมูลอ้อมไปอ้อมมา ผมคนนึงละไม่ดื่มกระป๋องเพราะแพงกว่าแบบขวด ผมก็ไม่สนใจว่าด้วยว่าจะไม่ได้บุญจากฝากระป๋อง เข้าใจเรื่องนี้มานานแล้วว่าจะต้องซื้อน้ำกระป๋องกี่ใบถึงจะบริจาคหูกระป๋องได้สักกิโลนึง อยากทำบุญกับคนก็ไปบริจาคตรงได้เลย ส่วนขยะก็ปล่อยพวกเก็บขยะไปรีไซเคิลดีกว่าทำบาปกับพวกเก็บขยะ อดรายได้งามๆจากกระป๋องอลูมิเนีม จากคุณ : pkmea เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 18:27:39

ความคิดเห็นที่ 34 ก็เค้ารับบริจาค ไม่ได้บังคับหนิครับ นักอุตสาหกรรม มักจะคิดอะไรเป็นแค่อุตสาหกกรม ... ซึ่งจากแถลงการณ์นี้ ก็ชัดว่า เค้าไม่ได้คิดถึงการสร้างความรู้สึกความมีส่วนร่วม การสร้างจิตอาสา ... เลย (เค้าคงคิดไม่ได้จริง) ผมรู้ครับว่า เอาอลู่มา ingot หล่อ มันถูกกว่าแน่ๆ แต่แล้วต้องการอะไรอะครับ ต้องการผลิตขาเทียมส่งออกหรือเปล่า ผมเข้าใจว่าคนที่เค้าคิดเค้าต้องการ เรื่องทางสังคมที่ไม่สามารถตีเป็นมูลค่าทางเศรษกิจได้ ส่วนข้อ 1 ที่บอกว่า อลู ทุกตัวใช้ได้นั้น แสดงถึงความขาดความเข้าใจทางเทคโนโลยี หรือไม่ก็ตีความได้อีกเหมือนกันว่า สมาคมนี้มีเจตนาแอบแฝง เพราะตั้งแต่แรก ที่เค้าต้องการหู ก็เพราะมันเป็นอลูมิเนียมผสม คลละเกรดครับ ... ซึ่งถ้าคนที่เค้าเอาไปใช้ต่อ ถ้าเค้าเลือกเฉพาะส่วนี้เค้าก็ไม่ต้องเอาไป ปรับส่วนผสมใหม่ ... (เท่าที่ผู้รู้ ทองแดงที่อยู่ในนั้น แพงกว่าค่าอลูมิเนียมครับ) ซึ่งถามว่า ถ้าเอาอลูเช่น 20xx ไป แล้ว ต้องการใช้ อลู 70xx ถามว่าค่าใช้การในการหลอมใหม่ ในการสกัดใหม่ มันจะเป็นเท่าไร ไม่รวมค่า ทองแดง - additive ที่ต้องใส่เข้าไป ... ถ้าเป็นคนที่ทำโรงงานอลูอยู่ควรจะรู้เรื่องนี้ดี ดังนั้นจึงทำให้สงสัยว่า แม้ว่า จะสามารถใช้โรงงาน สร้างขาเทียมได้จริงโดยมีต้นทุนค่าหล่อค่ากัดที่ถูกหากผลิตในอุตสาหกกรม แต่นั่นรวมถึงค่า หลอมอลูมีเนียมเพื่อปรับเกรดหรือความแข็งหรือเปล่าครับ ส่วน ถ้าพูดอีกอย่าง กระป๋องก็เป้นอลู ครับ ทำอย่างที่คุณว่าเพื่อให้ขายได้ได้ เยอะๆ ทำไมไม่อ้างเป็น ฝา ขวดไปเลยอะครับ ปริมาณมากกว่าเห็นๆ จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 18:37:15 A:124.121.212.228 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 35 ให้ผมบริจาคกระทะตะหลิวหม้อผมทำก็บ้าละครับ ซื้อมาราคาหลายพัน ขายชั่งกิโลก็ยังได้ ราคาดี ส่วนหูกระป๋องที่บริจาคตามห้างเพราะยังไงมันก็ต้องทิ้งสู้อดทนเดินไปหย่อนตู้ดีกว่า ถ้าไม่รับก็ไม่ต้องตั้งตู้ให้ลำบาก หรือบอกคนเอาไปบริจาคไปเลยว่าไม่เอา เขาจะได้บริจาคที่อื่น และผมก็ไม่ได้ซื้อเพราะเอาห่วงไปบริจาคแต่ซื้อเพราะอยากทานอยากกินแล้วห่วงมัน เป็นประโยชน์แก่คนอื่นก็แค่นั้นเจอตู้ก็บริจาคไม่เจอก็ทิ้งไปเฉยๆก็มีไม่เก็บกลับห้อง จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 19:00:38

ความคิดเห็นที่ 36 โดยปกติที่บริจาคกันก็คือ ซื้อมาบริโภคเป็นหลัก แล้วบริจาคเป็นผลพลอยได้นี้ค่ะ ยังไม่เห็นมีใครตั้งใจซื้อมาเพื่อบริจาคโดยตรงสักคน(หรือมีแต่เราไม่เคยรู้) ส่วนคนที่เก็บของเก่าที่เราเห็นๆ คือไม่เห็นเขาจะสนใจกันเลยว่าจะมีห่วงหรือไม่ เวลาเขาเอาไปขายก็ทุบให้กระป๋องแบนๆ เท่านั้นเอง ในส่วนที่บอกว่ากระทะ ตะหลิวก็บริจาคได้ ทางมูลนิธิก็บอกอยู่แล้วว่า "... หม้อ กะทะอลูมิเนียมเก่าๆ และขยะอลูมิเนียมอื่นๆที่ผลิตจากอลูมิเนียม..." คือยังไงของพวกนี้เราก็ไม่ได้ใช้แล้ว ก็บริจาคให้ทางมูลนิธิเพื่อประโยชน์ต่อไปดีกว่า จากคุณ : รักฉันคือเธอ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 20:42:18

ความคิดเห็นที่ 37 ที่จริงควรแยกขยะให้มากชนิดกว่านี้ด้วยซ้ำ คนญี่ปุ่นเค้าแยกกันละเอียดมาก ทำความสะอาดก่อนทิ้งถังรีไซเคิล จัดการง่าย สภาอุตฯบ้านเค้าคงไม่มาคิดว่าการแยกขยะ เป็นแผนของโรงงานมาขายของ อะไรที่ดีกว่าเดิมก็ทำอันนั้นแหละ จากคุณ : @VVIEWW เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 21:27:39 A:58.64.64.158 X: TicketID:173601

ความคิดเห็นที่ 38 ทำไมชมรมเขียนตอบปัญหาได้เสียดสี ดราม่าและไม่สุภาพ ทำให้ชวนคิดกังขาถึงความน่าเชื่อถือของโครงการ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 00:45:06

ความคิดเห็นที่ 39 ตอนนี้ไม่ติดใจสงสัยเรื่องห่วงอลูมิเนียมแล้วค่ะ เรื่องนั้นคือบริจาคยิ่งมากยิ่งดี ได้หมด หม้อ กะทะ ใครสะดวกอะไรก็เชิญ แต่หลังจากตามไปอ่านที่วปชมรมแล้ว ข้องใจอย่างแรง คือส่วนตัวคิดว่า ในเมื่อมีชมรมเป็นอีกแรงในการทำขาเทียมแจกจ่ายให้ผู้พิการ ก็เป็นเรื่องดี แทนที่รัฐจะมาคอยนั่งจับผิด ในด้านการผลิต การประกอบ บุคลากร ทำไมไม่สนับสนุนทางด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาให้ชมรมมีคุณภาพยิ่งขึ้น เช่นที่บอกว่า พนักงานของชมรมฯ ที่ทำขาเทียมไม่มีความรู้ด้านการแพทย์และกายภาพบำบัด แล้วทำไม่จัดบุคลากรไปสอน ไปฝึกอบรมก็ได้ บอกว่าวัสดุไม่ได้มาตรฐาน แล้วไมไม่แชร์ความรู้กันทั้ง2ฝ่าย ถ้าทั้ง2ฝ่าย ทำเพื่อคนพิการ ทำเพื่อนคนไทยเหมือนกัน ทำไมมันถึงหันหน้าเข้ากันไม่ได้ ทำให้รู้สึกหดหู่ กฎหมาย บางครั้งเอาผิดคนผิดไม่ได้ และบางครั้งก็ทำให้เรื่องดีดีเกิดขึ้นไม่ได้ด้วย จากคุณ : kumo เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 02:49:39 A:180.183.189.48 X: TicketID:326425

ความคิดเห็นที่ 40 ตอบ 39 ภาครัฐมีการผลิตอยู่แล้วในชื่อหลักสูตร วิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขากายอุปกรณ์ การทำขาเทียมไม่ใช่แค่การเอาวัสดุมาต่อกันเป็นรูปขา มีเบ้าให้สวมก็เสร็จ มันมีเรื่องให้คิดพิจารณาเยอะ - คุณต้องรู้กายวิภาค ไม่ใช่แค่ภาวะปกติ แต่ต้องรู้ไปถึงว่าการตัดขาระดับไหนจะเหลืออะไรไว้ให้ใช้บ้าง และใช้อย่างไรจึงจะไม่มีปัญหาตามมา ไม่อย่างนั้นาการวางแนวขาผิดไปนิดเดียว จะทำให้ผู้พิการใช้กล้ามเนื้อไม่เหมาะสม คุณลองนึกถึงตัวคุณเองนะ แค่ก้มๆเงยๆก็ปวดหลังมากหน่อยแล้ว แต่นี่ ถ้าต้องเกร็งกล้ามเนื้อผิดส่วนตลอดเวลาที่ยืนเดิน คุณลองคิดดูว่าจะมีคนกระดูกสันหลังผิดรูปไปกี่ราย ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อโดยไม่รู้สาเหตุอีกเท่าไร และมันจะมีปัญหาอะไรตามมาบ้าง - คุณต้องรู้จักสภาวะของโรค เพราะสาเหตุของการตัดขามันไม่ได้มีแต่อุบัติเหตุ และคนที่ประสบอุบัติเหตุก็ไม่ได้ปลอดจาดโรคอื่นกันทุกคน ตัวอย่างเช่น คนที่ต้องตัดขาจากเบาหวาน คนที่ทำขาเทียมต้องคำนึงถึงความบกพร่องของระบบการรับความรู้สึกที่ตอขา ต้องคิดถึงการไกลเวียนโลหิตและโอกาสในการเกิดแผลกดทับ และ ฯลฯ และการจะฝึกสอนให้คนๆหนึ่งรู้และทำขาเทียมได้อย่างมีมาตรฐาน เขาวางหลักสูตรไว้แล้วว่าต้องเรียน 4 ปี เมื่อก่อน การฝึกอบรมระยะสั้นก็มี แต่เขาทำงานร่วมกับคนที่รู้มากกว่า สิ่งที่ต้องถามก็คือ ในเมื่อมี นศ สาขานี้เรียนจบทุกปี หน่วยงานนี้เคยประกาศรับสมัครเข้าไปทำงานด้วยสักคนไหม จากคุณ : Deckard เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 03:47:08

ความคิดเห็นที่ 41 ไม่สนใจครับ ผมก็ดื่มตามปกติ หูเด็ดมาบริจาค กระป๋องเก็บไว้ชั่งโลขาย แค่นั้น แต่ขอบคุณ อ.เจษฯ ครับ ที่ทำให้ผมมั่นใจว่า บริจาคหูกระป๋องไปแล้วเขาก็เอาไปทำขาเทียมจริงๆ จากคุณ : NATSKI13 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 08:33:13

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณ 40 ค่ะ*0* ทำให้ได้เห็นภาพรวมกว้างขึ้นค่ะ จากคุณ : kumo เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 10:49:37 A:180.183.91.11 X: TicketID:326425

ความคิดเห็นที่ 43 ซึ่งก็มีทั้งรับบริจาคอลูมิเนียมทั่วไป ฝาเปิดกระป๋องเครื่องดื่มต่างๆ ฝาตลับแป้งอลูมิเนียม ฝาจุกน้ำดื่มที่ผลิตมาจากอลูมิเนียม กระป๋องน้ำอัดลม กระป๋องเบียร์ หม้อ กะทะอลูมิเนียมเก่าๆ และขยะอลูมิเนียมอื่นๆที่ผลิตจากอลูมิเนียม (ยกเว้น กระป๋องกาแฟ และกระป๋องนมสดต่างๆ ที่มีส่วนประกอบของเหล็ก จะไม่สามารถนำมาใช้ได้) แทนที่จะเอาแค่หู เอาทั้งกระป๋องเลยดีกว่าปะ พวกสีเคลือบน่าจะสลายตัวไปในขั้นตอนการหลอมนะ จากคุณ : GreenEyes เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 11:04:16

ความคิดเห็นที่ 44 "...พวกสีเคลือบน่าจะสลายตัวไปในขั้นตอนการหลอมนะ..." ไม่หมดครับ และพวกนี้คือตัวดีเลยแหละที่ทำให้โลหะที่นำกลับมาหลอมใช้ใหม่ มีคุณภาพลดลงเนื่องจากกลายเป็นสารปนเปื้อนแทรกอยู่ในเนื้อโลหะ จากคุณ : Away from Thailand เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:04:57

ความคิดเห็นที่ 45 เป็นการปลูกจิตสำนึกในการ นำกลับมาใช้เพื่อประโยชน์อีกครั้ง ได้กุศลจากการคิดและการทำ ง่ายๆ ได้ผล แยกขยะเเละมั่นใจว่าคนเก็บหูกระป๋องไว้อย่างน้อยก็ทิ้งกระป๋องลงถัง จิตผู้ต้องการบริจ่คได้รับกุศลและกล่อมเกลาเพื่อผู้ที่ด้อยกว่า อีกเยอะเเยะครับ ทำดีกว่าไม่ทำข้อดีมีมากกว่าข้อเสีย ทำต่อเถอะครับ จากคุณ : แต้มขาว เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 12:50:49

ความคิดเห็นที่ 46 จริงๆ แล้ว ใช้ได้ทั้งกระป๋องนะครับ แต่โครงการนี้ มีเป็นสิบปีแล้ว เมื่อสมัยก่อนยังไม่มีการรณรงค์การ recycle การนำวัสดุกลับมาใช้ มากเหมือนปัจจุบัน ในตอนนั้นผู้บบริโภค ก็บริโภคแล้วทิ้งกันซะส่วนใหญ่ ทางเจ้าหน้าที่ก็ออกกุศโลบายเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ที่เป็นห่วงดึง นำมาบริจาคนะครับ แต่ตอนนี้ การ recycle กระป๋อง เราทำได้ทั้งหมดนะครับ ถ้าจะบริจาคก็ได้ทั้งหมดเช่นกันนะครับ จากคุณ : นะนะ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 14:05:00

ความคิดเห็นที่ 47 100 ทั้ง 100 บริจาคหูกระป๋อง มันเป็นผลพลอยได้ทั้งนั้นครับ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 17:22:25

ความคิดเห็นที่ 48 เรื่องขาเทียมก็ยังมีการวิจัยในวิศวรรมชีวเวชอีกค่ะ เช่นงานนี้ http://www.tsme.org/ME_NETT/ME_NETT23/topic/file/BME-002317.pdf จากคุณ : jackfruit_k เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 23:19:28

ความคิดเห็นที่ 49 เคยฟังสัมภาษณ์ นายแพทย์ผู้รับผิดชอบโครงการ ท่านให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่ที่มูลนิธิคิดการรับบริจาคนี้ขึ้นมา ก็มีคนมาบริจาคมากมาย จนล้น สมเด็จย่าจึงพระราชทานอาคาร โกดัง และพื้นที่อีกมากมายเพื่อเก็บอลูมิเนียมเหล่านี้ แม้กระทั่งที่ญี่ปุ่นยังบริจาค เป็นแท่งอลูมิเนียมใหญ่ ๆ มาให้ด้วย จนกระทั่งไม่มีที่เก็บแล้ว ใช้ก็ใช้ไม่ทัน แต่เห็นว่าเป็นของบริจาคทำบุญ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงขอประทานคำปรึกษาสมเด็จย่า ท่านทรงแนะนำว่า อย่ากังวลว่าเป็นของบริจาค เพราะผู้มาบริจาคย่อมมีเจตนา ในการช่วยผลิตขาเทียมเป็นที่ตั้ง ให้ขายออกไปแล้วนำเงินมาเข้ามูลนิธิดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้นจะต้องเสียค่าดูแลรักษา ของรับบริจาคเหล่านั้นอีก ทำให้สิ้นเปลืองเงินมูลนิธิซึ่งไม่ใช่เจตนาของผู้บริจาคอย่างแน่นอน ตั้งแต่นั้นมาทางมูลนิธิยังรับบริจาคอยู่เหมือนเดิม แต่นำไปเปลี่ยนเป็นเงินมาใช้บริหารโครงการอีกทางหนึ่งด้วย ... เล่าสู่กันฟังค่ะ จากคุณ : ... (เงินงอกเงย) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 23:43:24

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่อยากจะตัดสินจากการใช้ภาษาของทางชมรมฯเลยนะ แต่ยอมรับเลยว่ารอบแรกที่อ่านจากฟอร์เวิร์ดเมล์เนี่ย รู้สึกได้ว่ามันไม่น่าเชื่อถือ มาอ่านคห.ที่5 ถึงบางอ้อ.. (ใครยังไม่ได้อ่านลองย้อนขึ้นไปดูนะ) ส่วนตัวเห็นว่า.. แม้การนำหูกระป๋องมาใช้ใหม่อาจเสียค่าใช้จ่ายในการหลอม แต่ถ้าเรานำสิ่งเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์อีกรอบ น่าจะเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากกว่า ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่เอาข้อมูลมาแบ่งปัน ทำให้มองเรื่องนี้ได้อย่างรอบด้านมากขึ้น :) จากคุณ : เสียงดัง ฟังชัด เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 23:48:22

ความคิดเห็นที่ 51 จากที่ผมเคยประสานงานร่วมกับมูลนิธิขาเทียมในด้านนำคณะนักเรียนต่างชาติเข้ามาดูงานที่มูลนิธิ ข้อมูลที่ผมได้รับและประจักษ์คือ - หูกระป๋อง ยังเก็บไว้เป็น"โกดัง" ย้ำ "โกดัง" ใครอยากเห็น ไปดูได้ เป็นลานทีมีหลังคาข้างตึกอำนวยการ เก็บไว้หลายร้อยกิโล (ครั้งสุดท้ายเมื่อสองสามปีก่อน ตอนนี้ไม่รู้เขาย้ายหรือยังนะครับ) - ค่าหลอม ค่าเสียเวลา ไม่คุ้ม เอาเงินซื้อวัตถุดิบตรง ๆ คุ้มกว่า - เคยมีผู้ดูงานจากต่างประเทศ มาดูงานที่มูลนิธิ เร่เก็บของเหล่านี้จากประเทศเขา พอจะเอาเข้าไทย โดนเก็บภาษีที่สนามบิน ทางมูลนิธิ ต้องไปเอาของออก ทำเอกสาร วุ่นวายไปหมด บางทีก็เอาของออกจากสนามบินไม่ได้ ก็ต้องปล่อยเลยตามเลย สรุป อยากบริจาคเพื่อช่วยเหลือจริง ๆ  "เงินสด" จะเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดขาเทียมได้ไวที่สุด แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 00:26:42 จากคุณ : lastyim เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 00:25:54

ความคิดเห็นที่ 52 บริจาคไปก็ไม่เสียหายนะครับ เพราะบริจาคด้วยใจ ยังไงรวบรวมได้มาก มันก็ย่อมมีประโยชน์จริงๆ จังๆ เพียงแต่โครงการหลายๆ โครงการ อย่างการบริจาคหูกระป๋อง ในความเป็นจริง มันนำไปทำขาเทียมแทบไม่ได้จริง เพราะมันต้องใช้เยอะ ระยะเวลาที่กำหนดของแต่ละโครงการมันยังน้อยไป ความคุ้มค่าก็น้อย อันนี้วงในเขาก็รู้กัน ว่ามันเป็นเพียงโครงการ ถึงเวลาจริงๆ ก็ใช้วิธีับริจาคเงินแทน .. จากคุณ : น้องหยิก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 14:09:55

ความคิดเห็นที่ 53 เข้าใจว่าโครงการมีแนวคิดดี และกระตุ้นให้คนทั่วไปอยากทำดี แต่ในเมื่อเป็นห้องวิทยาศาสตร์ ก็ต้องดูข้อเท็จจริง อยากทราบข้อมูลต้นทุนในการหลอมมากกว่า ว่าแพงกว่าซื้อวัตถุดิบโดยตรงจริงๆ อย่างใน fwd maiไหม? เพราะถึงจะอ้างว่าของเหลือใช้ แต่ถ้าต้นทุนในการ recycle มันแพงกว่าจริงๆ จะกลายเป็นว่า เราใช้ทรัพยากรอย่างเปล่าประโยชน์เสียมากกว่าน่ะซี เพราะการที่ใช้เงินมากกว่าก็แสดงว่าต้องใช้พลังงานอื่นๆในการหาเงินมากกว่าด้วย จุดสำคัญของเรื่องนี้จึงอยู่ที่ต้นทุนในการหลอม แพงกว่าซื้อวัตถุดิบเลยจริงๆหรือไม่? จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 14:55:15

ความคิดเห็นที่ 54 จาก ค.ห. 5 แสดงว่าเรื่องนี้น่าจะเขียนเมื่อปี 2542...12 ปีที่แล้วเลยทีเดียว สงสัยก็คือ ในเมื่อมันเป็นอลูมิเนียมเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นจากหูกระป๋องหรือจากการหลอมวัตถุดิบใหม่ก็น่าจะใช้อุณหภูมิใกล้เคียงกัน ส่วนต่างด้านค่าใช้จ่ายระหว่าง 2 วิธีจึงน่าจะอยู่ที่ process อื่นๆในการหลอมมากกว่า แต่มันมากพอที่จะทำให้ของเหลือใช้มีค่าใช้จ่ายมากกว่าซื้อวัตถุดิบใหม่หรือ? จากคุณ : oryze เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 21:35:47

ความคิดเห็นที่ 55 ....ผมอยากให้ห้องหว้ากอ   มี หมวดห้องย่อยว่า "ห้องนักสืบ"   ได้ไหม จากคุณ : Zaytsev เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 21:56:49

ความคิดเห็นที่ 56 ตอนผมเรียน ม.3 รร.มหรรณพาราม  (ตลิ่งชัน) ผมอยู่ชมรม ขาเทียม ซึ่งอาจารย์เป็นคนต้นคิด คือรับ บริจาค ที่เปิดกระป๋องที่ว่านี้แหละ นำไป ถวายมูลนิธิขาเทียมเนี้ยแหละครับ เค้าว่ามันเป็นส่วนข้อต่อของจาเทียม ซึ่งมูลนิธินี้ก็ของสมเด็จย่าครับ ผมก็ไปนะครับตอนไปส่ง ไปส่งถึงที่เลย ( ที่มูลนิธิ )  เรื่องนี้ผ่านมาประมาณ 8 ปีแล้วครับ จำรายละเอียดไม่ได้มาก แต่ยืนยันว่าได้ทำบุญจริงๆครับ จากคุณ : Microsis เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 01:14:54

ความคิดเห็นที่ 57 ซ้ำครับ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 54 01:15:36 จากคุณ : Microsis เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 01:15:07

ความคิดเห็นที่ 58 เคยคิดเล่นๆเหมือนกันนะว่า เป็นการตลาดแบบช่วยเหลือสังคมรึป่าว แต่ไม่ได้คิดแบบจขกทเลยแฮะ จากคุณ : Akexorcist เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 04:17:49

ความคิดเห็นที่ 59 #3 ไม่สงสัยในหน่วยงานครับ แต่สงสัยในจุดนี้่ "มูลนิธิฯ จึงได้ทดลองเอาห่วงเปิดกระป๋องอลูมิเนียมมาผลิตเป็นชิ้นส่วนดังกล่าวพบว่าได้ผลดี" ห้องหว้ากอเป็นห้องวิทยาศาสตร์ สมควรใช้ "ศาสตร์" มาถกกันถึงพจน์ข้างบนนี้ เพื่อจะได้ให้ประชาชนคลายสงสัย ตั้งสมมติฐาน ตั้งเกณฑ์การทดสอบ ออกแบบการทดลองสองชุด เป็นชุดควบคุม 1 ชุด นำข้อมูลมาทดสอบนัยสำคัญทางสถิติดูความแตกต่าง แต่ว่าง่ายสุด บุคคลอ้างอิงบุคคลแรกที่น่าจะความกระจ่างได้ ก็คือพนักงานโรงงานผลิตกระป๋องอลูมินั่ม ลำบากแค่ยกหูโทรศัพท์สอบถามว่ากระป๋องกับแท็บเปิดกระป๋อง ใช้วัสดุชนิดเดียวกันหรือไม่ หรือแถวนี้มีใครทำงานวัสดุศาสตร์ก็น่าจะให้คำตอบได้ หลับหูหลับตาค้นอากู๋ ได้เว็บนี้มา http://thailand.panpages.com/ก/กระป๋องโลหะ-ฝา/ คุณสมบัติที่สำคัญของนักวิทยาศาสตร์ 2 ประการที่พึงมี 1) การคิดแบบวิเคราะห์วิจารณ์ และ 2) ยึดในกาลามสูตร ยกตัวอย่าง Myth-Buster It is better to recycle the tabs than the whole can From Alcoa's website No. Often local charities encourage communities to collect can tabs and donate them for various causes. This is a great way to engage a community, and the tabs are fun and easy to collect. But their value is no different to a recycler than the rest of the can. It's all the same aluminum. These tabs have no special value other than the fact that they are scrap aluminum. They take up less space than the cans, so are easier to collect and store. For the sake of the environment, when you're collecting tabs, don't forget to recycle the rest of the can! แต่ในนี้ก็เป็นวิธีทำกระป๋อง แต่ไม่ได้บอกวิธีทำฝา How's it made: Aluminum Cans http://www.youtube.com/watch?v=V7Y0zAzoggY เท่าที่หาดู ในต่างประเทศมีการรับบริจาคแท็บเปิดกระป๋องนำไปประดิษฐ์สิ่งต่างๆ เพราะรูปร่างเฉพาะของมัน แต่ยังไม่เห็นการรับบริจาคเพื่อนำไป recovery เอาวัสดุไปใช้ทำผลิตภัณฑ์อย่างอื่น อิ อิ อิ นอกจากทำขาเทียมแล้ว เอาไปทำอันนี้ก็ได้ http://www.wikihow.com/Make-Soda-Can-Tab-Earrings ใครจะงัดข้อกับใครก็ช่าง แต่นักวิทยาศาสตร์ก็มีหน้าที่ค้นหาความจริงไม่ใช่หรือ จากคุณ : vandyman เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 01:09:54

ความคิดเห็นที่ 60 และในความเห็น ขาเทียมที่แพง ไม่น่าแพงกับวัสดุหรอก ขาเทียมหนักแค่ไหนคงไม่เกิน 10 กก. อลูมินัม 10 กก.ราคาไม่เกิน 500 บาท แต่ที่แพงน่าจะเป็นการออกแบบ การสั่งทำ การจัดทำ เทคโนโลยีเสียมากกว่า ดังนั้น การบริจาคเงินให้มูลนิธีโดยตรงเพื่อเอาเงินไปจัดหาในส่วนนี้ น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าการบริจาคแท็บฝากระป๋อง ซึ่งเป็นภาระให้มูลนิธินำไปหลอมหรือนำไปขายอีกที ดังนั้น ผู้บริโภคน่าจะนำบรรจุภัณฑ์อลูมินัมไปขาย แล้วนำเงินที่ขายได้ไปบริจาค น่าจะได้อรรถประโยชน์มากกว่า จากคุณ : vandyman เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 01:27:41

ความคิดเห็นที่ 61 ^ ^ ถ้าบริจาค "เงิน" ล่ะก็ใช่ครับ แต่การบริจาคหูกระป๋องเนี่ย ในแง่คนบริจาคแล้ว เขา "ไม่เสียเงิน" แม้แต่แดงเดียว แถมไม่ต้องออกแรงไปหาคนซื้อหูกระป๋องเพื่อมาแปรเป็นเงินด้วย เงื่อนไขมันต่างกัน ผมว่าเอาไปเทียบไม่ได้ คือถ้าจะออกเงินละก็ ให้เป็นเงินสดไปเลยย่อมดีกว่าอยู่แล้วครับ ป.ล. จะว่าไป มูลนิธิที่รับหูกระป๋องไปจะเอาไปขายต่อแล้วเอาเงินมาทำขาเทียมก็ได้นี่นา? จากคุณ : oryze เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 08:56:57

ความคิดเห็นที่ 62 เขาขอ บริจาค ไม่ได้บังคับให้คุณซื้อ เพื่อมาบริจาค คนที่ไม่คิดบริจาค เขาไม่ได้ว่า คนที่ไม่คิดบริจาค เนื่องจาก คำตอบใน คห.5 คุณเคยทำประโยชน์โดยไม่มีผลตอบแทนไหม นั้นแหล่ะครับ คนเหล่านั้นกำลังทำอยู่ ซึ่งเขาอาจจะไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย คิดแบบชาวบ้าน ก็ตอบแบบชาวบ้าน คนที่จะบริจาคเป็นตัวเงิน  ผมว่า ทางชมรม คงจะพิจารณาแล้ว ว่าหากมาเป็นรูปของตัวเงิน มันคงจะทำให้โปร่งใสได้ยาก ผมว่าหากขอบริจาคเงินแทนหูกระป๋อง จะโดนขุดคุ้ยมากกว่านี้เยอะ แค่บริจาคหูกระป๋อง ยังมีคนแขวะ สรุปแล้ว แล้วแต่จะศรัทธาครับ ไม่ได้ลำบาก ไม่บริจาค ก็เหมือนคุณบริจาคให้คนเก็บขยะ ถ้าบริจาค ก็ไปสู่กลไกการทำขาเทียมต่อไป ผมมองว่าเฉลี่ย คนละ 1-2 ชิ้น ต่อเดือน มันก็เป็นขาเทียมให้คนที่ไม่มีทุนทรัพย์ในการไปซื้อขาเทียมนำเข้าได้หลายต่อหลายคนแล้วครับ จากคุณ : Mondoval เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:29:20

ความคิดเห็นที่ 63 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 18:28:05