ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่า น่าจะใช้ ทั้งสอง นะครับ แต่ต้อง ทำระบบราง เชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ที่ต่อการเดินทาง สามารถ รู้เวลา การเดินทางที่แน่นอนได้ ผมว่า เวลา การ เดินทางด้วยรถไฟ ไม่น่าจะนานมานะครับ  แยกเลย ต่างประเทศ และ ใน ประเทศ. จากคุณ : พี่กบ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:19:46

ความคิดเห็นที่ 2 อยากให้ไฟลต์ในประเทศลงที่ดอนเมือง ไฟลต์ต่างประเทศลงที่สุรรณภูมิ เพื่อลดความแออัด โดยทำรถไฟฟ้าเชื่อมโยงแบบ BTS จากคุณ : รีคอนแมน02 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:24:23

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่าเหมาะสมที่จะมีสนามบิน2แห่งนะครับ เกิดมีใครคิดอุตริไปปิดสนามบินอีก จะได้มีสนามบินสำรอง ไว้ให้เครื่องบินบินขึ้น หรือใช้เป็นสนามบินสำรองเกิดสนามบินอีกสนามบินโดนทำลาย แต่ส่วนมาก สนามบินมักเป็นเป้าหมายแรกของกองทัพศัตรู ... จากคุณ : Andy lim เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:26:33

ความคิดเห็นที่ 4 เหมือน คห.2 จากคุณ : คนข้างถนน เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:27:30

ความคิดเห็นที่ 5 ทำสองสนามบินควบคู่กันไปนะครับ   บ้านใครใกล้ดอนเมือง  แต่ต้องไปต่างประเทศ  ก็ไปขึ้นรถไฟที่แอร์พอร์ทลิ๊งค์ดอนเมือง   บ้านใครใกล้สุวรรณภูมิแต่บินในประเทศ  ก็สลับกัน จากคุณ : fdX3S เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:30:31

ความคิดเห็นที่ 6 สองสนามบินครับดีที่สุด   สนามบินเดียวต่อให้ขยายยังไงก็ไม่ทางเกิน 103 ล้านคนต่อปี  เพราะ Airspace ไม่พอเครื่องบินจะชนกันตายครับ แต่ถ้าใช้ดอนเมืองร่วมด้วย รับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 163 ล้านคนต่อปี Work กว่า กันเห็น ๆ ครับ แล้วยิ่งเป็นการลดความแออัดเพราะเพิ่ม Airspace เป็นสองเท่าครับ อีกทั้งเป็นการใช้สิ่งก่อสร้างที่มีอยู่แล้วให้มีประโยชน์สูงสุดด้วยครับ จากคุณ : LogiEng เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:34:54

ความคิดเห็นที่ 7 คิดเหมือน 1 + 2 นะครับ มี 2 สนามบิน สนามบินนึงบินนอกประเทศ สนามบินที่ สองบินในประเทศ แต่ต้องมีระบบคมนาคมที่เชื่อมต่อสองสนามบินเข้าด้วยกัน และต้องเป็นระบบที่ดีมากๆเสมือนว่าเป็นสนามบินเดียวกัน จากคุณ : npn เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:36:59

ความคิดเห็นที่ 8 จริง ๆ แต่เดิม แนวคิดการสร้าง airport link ก็วางแผนเชื่อมต่อทั้งสองสนามบิน แต่ไม่รู้ทำท่าไหน มาลดสเปค ทำแค่ครึ่งเดียว จากคุณ : j เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:37:14 A:183.89.206.96 X: TicketID:268645

ความคิดเห็นที่ 9 2 ละดีสุกครับ ทุกวันนี้ลงดอนเมืองผมก็ว่าสะดวกดี กระจายผู้โดยสารและบริการได้กว้างมากกว่า จากคุณ : ดีเจอึ่งอ่าง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:39:33

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นคนต่างจังหวัดที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ อยากสะท้อนเสียงของตัวเอง(และน่าจะเป็นเสียงของนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย)ว่า อยากให้มีสนามบินเดียว เพราะเมื่อมาจากต่างประเทศแล้วต้องต่อเครื่องบินภายในประเทศเพื่อกลับบ้าน(หรือไปจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่กรุงเทพ) ถ้าสนามบินแยกกัน คนที่มาจากต่างประเทศที่มีทั้งกระเป๋าเดินทางและเด็กจะต้องหอบหิ้วกันไปต่อเครื่องบินภายในประเทศที่สนามบินอีกแห่งหนึ่งที่อยู่คนละฝั่งเมือง ...ถ้ามีการคมนาคมเชื่อมต่อที่สะดวกไว้ใจได้ก็ดีไป จะใช้สนามบินสี่แห่งห้าแห่งเลียนแบบขนส่งทางบกก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าหลังจากการเดินทางข้ามทวีปเป็นเวลายาวนานมาแล้วยังต้องไปหาแท็กซี่ หรือต้องหอบกระเป๋าหอบลูกเล็กเด็กแดงไปหารถต่อกันเอาเองในภาวะการจราจรเช่นนี้ ในสภาพจรรยาบรรณวิชาชีพผู้ขับขี่รถที่ไม่ได้มาตรฐานแบบนี้ การมีสองสนามบินแยกเป็นภายในประเทศกับต่างประเทศ ก็คือนรกดีๆนี่เอง จากคุณ : คนรับกรรม เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:44:22 A:125.26.158.144 X: TicketID:299625

ความคิดเห็นที่ 11 สองสนามบินครับ ของเค้าสร้างมาดีๆ จะไปเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นทำไม หากสุวรรณภูมิเกิดอะไรขึ้น ก็ยังมีดอนเมืองไว้รองรับ จากคุณ : psybuster เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 22:50:55

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าจะซ่อมก็ไปรวมกันที่ TAI นครสวรรค์ก็ได้ครับ  http://www.taithailand.com แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 23:14:13 จากคุณ : LogiEng เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 23:13:38

ความคิดเห็นที่ 13 คห.10  เค้าถึงมีแอร์พอร์ตลิ้งค์  ที่เชื่อมโยงสนามบิน กับขนส่งสาธารณะประเภทต่างๆไว้ด้วยกันไงครับ  เพียงแต่ของเรามันเน่า   รอให้เสร็จสมบูรณ์ก็จะดีเอง จากคุณ : fdX3S เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 23:53:56

ความคิดเห็นที่ 14 ขอเป็นความคิดเห็นส่วนตัว  เห็นด้วยกับ การใช้ สนามบินสุวรรณภูมิ ควบคู่ ดอนเมือง โดยปกติ ในชีวิตการเดินทาง จะต้องใช้ทั้งสองสนามบิน แต่ส่วนใหญ่จะหนักไปทาง สนามบินดอนเมืองมากกว่า   เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมาก็มีการย้ายเที่ยวบินทั้งหมดที่มาลงยังบริเวณอาคารภายในประเทศ  ย้ายมายังอาคาร 1 หรือเมื่อก่อนเป็นอาคาร ขาออกหรือ ออต่างประเทศนั้นเอง ซึ่งหลังจากการปรับปรุงใหม่ ผมว่าโอเคเลย กว้างขวางเพียงพอที่จะรับสายการบินภายในประเทศได้สบายๆ  แต่ช่วงแรกๆ คนยังสับสน อย่างก็บอกต่อกันด้วยครับ เมื่อมายังอาคาร 1 ขาออกให้ขึ้นไปยังชั้น 3 ชั้นล่างจะเป็นขาเข้าครับ ถ้าใครไม่รู้ก็ต้องลากประเป๋าเดินขึ้นลิฟต์ หรือไม่ก็บันไดเลื่อน เสียเวลาได้ จากคุณ : กกร่ม เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 01:06:38

ความคิดเห็นที่ 15 สนามบินดอนเมืองโฉมใหม่ บริเวณชั้น 3  บริเวณทีเช๊คอิน ใหญ่แบ่งเป็นสัดส่วน กว้างดีมากๆ มาย  เสียดายถ้าต้องปิดไปหรือไม่ได้ใช้งาน จากคุณ : กกร่ม เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 01:08:00

ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อผ่านด่านตรวจมาแล้ว ยังได้มีบริเวณ มองเครื่องบินผ่านกระจกได้ด้วย วิวสวยดีจริงๆ ซึ่งอาคารภายในประเทศ ไม่ค่อยเห็นตรงนี้   แต่ที่ใหม่ วิวสวยงาม มีที่นั่งให้ชม เครื่องบินได้ครับ  ผ่านตรงนี้ตรงไปเรื่อยๆเลี้ยวซ้ายก็จะเข้าสู้ที่พักผู้โดยสาร ที่จะออกไปขึ้นเครื่อง จากคุณ : กกร่ม เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 01:10:06

ความคิดเห็นที่ 17 2 ดีกว่าครับ ไม่ต้องแยกในประเทศ หรือต่างประเทศ ให้เลือกเป็นสายๆ กันไป เหมือนสายซีกโลกเหนือ ซีกโลกใต้ ออก ตก ไปเลย จากคุณ : chakrint เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 01:14:58

ความคิดเห็นที่ 18 บริเวณที่พักรอขึ้นช่องทางของเครื่อง สามารถมองเห็นเครื่องบินได้เด่นชัดครับ วิวสวยไปอีกแบบ   ดังนั้น หลังจากการเปิดใช้มา 10 วัน สนามบินดอนเมืองใหม่ นี้ เหมาะแล้วที่จะใช้เป็นสนามบินที่ 2  เพราะถ้าเกิดเหตุอะไร อย่างน้อยยังมี สนามบินเพื่อรองรับ  เมื่อก่อนจะเป็น สนามบินอู่ตะเภา ถ้ายังจำกันได้....ใช้เป็นสนามบินสำรอง ที่ใกล้ที่สุดของ กทม. เพียงแต่ว่า เราจะทำอย่างไร ให้การ คมนาคมขนส่ง ระหว่าง 2 สนามบินเชือมเข้าหากันได้ ให้สะดวก นั้นแหละ คือสิ่งสำคัญ.......................... คนแถวดอนเมือง รังสิตหรือกรุงเทพโซนทางนี้ จะให้ไปขึ้นเครื่อง ลงเครื่อง ที่สุวรรณภูมิก็คงไม่ไว้ คงแถวนั้นก็เช่นกัน คงไม่อยากมาลงดอนเมือง งั้นก็ทำให้การขนส่งพวกระบบรถไฟฟ้ามันเชื่อมกันสิ .......เท่านี้แหละครับ จากคุณ : กกร่ม เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 01:15:39

ความคิดเห็นที่ 19 หากยังไม่มีแผนการเชื่อมต่อระบบ Airport link ระหว่าง 2 สนามบิน หรือมีระบบคมนาคม,ขนส่งมวลชนที่ สะดวก,ประหยัด,รวดเร็ว ระหว่าง 2 สนามบิน ก็ยังไม่ควรใช้ 2 สนามบินครับ เอาปัจจุบันนี้เพียงแค่ Airport link ที่มีอยู่ก็ยังมีระบบการจัดการไม่ดีเลยครับต้องเผื่อเวลามากๆเอาแน่เอานอนไม่ได้ ลองคิดแค่ว่าขึ้นเครื่องจาก ต่างจังหวัดมาลงดอนเมืองแล้วต้องไปต่อเครื่องที่ สุวรรณภูมิ จะเสียเวลาเสียค่าใช้จ่ายแค่ไหน ผมคนต่างจังหวัดนะครับ จากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิเท่าที่จำได้ โดนค่า แท็กซี่ไป 500 กว่ารวมค่าทางด่วน เสียเวลาไปประมาณ 1 ชม ลองคิดดูว่าหากสนามบินเดียวผมสามารถเอาเงิน 500 ไปทำอะไรหลายอย่าง มีเวลาพักผ่อนไม่ต้องเร่งรีบ 1 ชม ผมว่า ไว้มีอย่างที่กล่าวมาแล้วค่อยว่ากันใหม่อีกทียังไม่สายครับ จากคุณ : นายเปเล่ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 03:27:57

ความคิดเห็นที่ 20 แต่เรื่องของเรื่อง คือตอนนี้ Aero Bridge มันเยอะกว่าอาคารเก่าจริง แต่ใช้งานได้เท่ากันเนื่องจากมันเสียแล้วยังไม่ได้ซ้อม แถมมันจอด MD น้อยๆของผมได้ 5 อันเอง T-T จากคุณ : Napoleonic เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 05:45:56

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนตัวผมก็อยากให้เปิดทั้ง 2  สนามบิน เพราะว่า เสียดายโครงสร้างที่ลงทุนไปมาก แถม ไม่อยากให้ลงทุนสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นทั้งๆ ที่เปิดมาได้ไม่กี่ปี ในขณะที่ดอนเมืองปิดไว้เฉยๆ ตอนแรกผมคิดคล้ายๆ ทุกท่านข้างต้นว่า น่าจะเปิดให้เป็นสายภายในประเทศ หรือเราอาจจะ ทำเป็นสาย low cost สำหรับดอนเมือง เพราะทุกวันนี้ ดอนเมืองยังมีค่าใช้จ่ายในการดูแลสนามบิน ทำให้ขาดทุนเรื่อยมานับจากที่ปิดสุวรรณภูมิ เข้าใจว่ามีค่าใช้จ่ายปีละ 1000 ล้านบาททีเดียว ซึ่งปัจจุบันยังไม่คุ้มทุน ตอนแรกได้ข่าวว่าเขาจะทำเป็นภายในประเทศสำหรับที่นี่ ปรากฎว่า สายการบิน low cost บางสายบอกว่า เขาใช้เครื่องแบบเดียวกัน บินทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ไม่สามารถใช้เป็นเครื่องสำหรับภายในประเทศแบบเดียว เพราะว่า ไม่คุ้ม ที่จะบินขึ้นสั้นๆ  เพื่อไป serve อีกสนามบิน นอกจากนั้น ยังได้ทราบว่า ระยะห่างทางการบินระหว่าง สองสนามบิน มันใกล้กันมาก ทำให้ เมื่อเครื่องขึ้นจากสนามบินหนึ่ง ก็จะกระทบกับอีกสนามบินหนึ่ง ทำให้ ต้องมีการสับหลีกเพื่อให้อีกสายนำเครื่องขึ้น เพื่อปรับให้ระยะห่างกันพอควร ทำให้เกิดการไม่สะดวก ใช้ประโยชน์ของสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งมี 2 รันเวย์ได้ไม่เต็มที่ และสิ้นเปลือง อย่างไรก็ตามเคยมีผู้คำนวณว่า ดอนเมืองมีขีดความสามารถในระดับหนึ่งเพื่อไม่กระทบกับสุวรรณภูมิ ที่สำคัญ คือระบบการเชื่อมต่อ อันที่จริง airport link ที่มีการออกแบบมา จะเชื่อมระหว่างสองสนามบิน ถ้าผมจำไม่ผิดคือสายสีแดง แต่การตัดสินใจทางการเมืองในขณะนั้น ทำให้ได้รถไฟฟ้า ที่ค่อนข้างไม่สมบูรณ์ แม้แต่ปัจจุบัน ระบบรถไฟฟ้าที่มีอยู่ก็มีปัญหามากมาย มีทั้งความไม่พร้อมหลายประการที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร (ประการหนึ่งผมคิดว่า คงเป็นความไม่ค่อยมีวินัยของคนไทยด้วย ผมไม่ค่อยเห็นด้วยที่หลายคนลากกระเป๋ามากมายไปขึ้น city line ที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ขนสัมภาระจำนวนมาก อันที่จริงผมว่า ทำราคาให้เท่ากันไปเลย ทั้ง city line และ express line แต่สำหรับ city line ควรคิดค่าใช้จ่ายตามระยะทาง แต่ต้องแพงขึ้น หรือปรับ express line ถูกลง เพราะคนก็จะหันไปใช้ city line หมด ทั้งๆ ที่สายนี้ ออกแบบมาเพื่อให้ความสะดวกสบายแก่ผู้เดินทางไปสนามบิน ตอนนี้กลายเป็นว่า ไม่มีใครใช้ express line หรือใช้น้อยมาก ผู้สนับสนุน single airport บอกว่า ขณะนี้ สุวรรณภูมินั้นแทบจะเกิดขีดความสามารถของตัวอาคารผู้โดยสารแล้ว ควรสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศแยกไปอีกอาคาร จะทำให้สามารถเพิ่มความสามารถของอาคาร international ได้อีกสิบกว่าล้านคนต่อปี ทำให้ไม่ต้องลงทุนอาคารหลักมากเท่าไหร่ เนื่องจาก domestic ไม่ต้องมีระบบตรวจสอบมากมายเท่า international ทำให้ต้นทุนการก่อสร้างจะต่ำกว่าค่อนข้างมาก นอกจากนี้ การเปิด airport สองแห่งขณะนี้ อาจจะทำให้สิ้นเปลือง ทั้งบุคคลากร ที่ก็ยังขาดแคลนหลายส่วน ตัวอย่างง่ายๆ เช่น ตรวจคนเข้าเมือง (การเปิดเฉพาะ domestic จะยังไม่สมบูรณ์หาก บางสายก็ยังใช้สุวรรณภูมิ จึงเกิดการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม เช่น สายการบินราคาประหยัดรายหนึ่ง ที่ให้บริการในสุวรรณภูมิในปัจจุบัน ได้รับผลประโยชน์มากจากผู้โดยสารที่มาจากต่างประเทศแล้วต่อสายไปยังภายในประเทศเพราะหลายท่าน ไม่ต้องการเสียเวลาเดินทางไปสนามบินอื่น เท่าที่ดูอย่างมาเลเซีย ซึ่งแยกอาคาร international กับ domestic terminal ใช้รถบัสเชื่อมต่อระหว่างสองอาคาร ก็สามารถทำได้ และระยะทางระหว่างสอง terminal ก็ห่างกันพอควร อันที่จริง หากมีระบบการเดินทางที่ดี ก็จะสามารถบริการด้านนี้ได้เป็นอย่างดี ผมเข้าใจว่า อาจจะต้องพิจารณาเส้นทางระหว่างสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ที่สามารถเลี่ยงเมือง หรือเลี่ยงปัญหารถติด (ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างยาก) หรือรัฐต้องเร่งลงทุนสร้างระบบรถไฟฟ้าเชื่อมต่อไปยังดอนเมือง ซึ่งคาดว่าใช้เวลาก่อสร้างนาน เพราะว่าระบบตรงช่วงนั้นจะเป็นขนาดใหญ๋มากเนื่องจากเป็นเส้นทางหลัก และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆ หลายสาย สรุป ที่ได้ฟังจากผู้เชี่ยวชาญที่อยากให้เป็น single airport เพราะติดปัญหาเรื่องสนามบินที่อยู่ใกล้กันเกินไป ทำให้ต้องสับหลีกเที่ยวบิน ทำให้ ใช้ประโยชน์สุวรรณภูมิไม่เต็มที่ ประกอบกับระบบเชื่อมต่อระหว่างสองสนามบินไม่ดี แต่ส่วนตัว ไม่อยากให้บินดอนเมืองไว้เฉยๆ  เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายทุกปี ทำให้ ขาดทุนอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเท่าที่ทราบในปัจจุบัน เนื่องจากจะมีการปรับปรุงให้สามารถรองรับเครื่องส่วนตัวมากขึ้น ทำให้มีผู้เข้ามาใช้สนามบินดอนเมืองมากขึ้น อีกทั้งจะปรับไปเป็นศูนย์ซ่อม และการขยายตัวของสายการบินภายในประเทศมากขึ้น และเนื่องจากมีการใช้อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ คาดว่าจะมีการเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศในระยะอันใกล้ ทำให้ สนามบินดอนเมืองจะพ้นจากการขาดทุนภายในอีกไม่กี่ปีนี้ จากคุณ : bangkokguy เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 07:02:31

ความคิดเห็นที่ 22 โดยส่วนตัว เสียดายสนามบินดอนเมือง ซึ่งอยู่คู่กับคนไทยมานาน และสภาพก็ยังใช้งานได้ดี การคมนาคมก็สะดวก ยังมีศักยภาพการใช้งานได้อีกเป็นสิบๆปี แต่พอมีสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ห่างออกไปแค่ 35NM ซึ่งมันใกล้กันเกินไป ทำให้ airspace มันชนกัน (ต้องเข้าใจว่า เครื่องบินไม่ว่าจะมาจากเหนือใต้ออกตก มาถึงสนามบิน ก็ต้องตีวง เข้า pattern เพื่อร่อนลงจอดที่สนามบินตามทิศของรันเวย์) ดังนั้นการนำเครื่องบินเข้าออกสนามบินหนึ่ง จำเป็นต้องสลับเวลาหลบหลีก traffic ของอีกสนามบินหนึ่ง หรือไม่งั้น ก็ต้องนำเครื่องบิน ตีวงอ้อมทำให้ต้องบินไกลขึ้น ซึ่งสายการบินไม่ชอบ เพราะเปลืองน้ำมัน จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 07:57:34

ความคิดเห็นที่ 23 มีแอร์พอร์ตลิงค์เมื่อไหร่ค่อยมาว่ากันเรื่องสองสนามบิน ถ้ายังไม่มีก็สนามบินเดียวไปก่อนนั้นล่ะครับ จากคุณ : Maki Roll เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 08:44:37

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าจะใช้สนามบินดอนเมืองมันต้องปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยขึ้น  ตอนนี้มันแย่มาก  ขนาดห้องน้ำยังแย่สุดๆ เลย แล้วไฟที่ดอนเมืองทำไมมันปวดตาขนาดนี้  ไปทีไรปวดตากลับมาทุกที  (หรือเราเป็นคนเดียว?) แต่คงไม่มีหวังแล้ว  เพราะกำลังปรับปรุงทำเป็นอย่างอื่น จากคุณ : XziBitch เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 08:47:59

ความคิดเห็นที่ 25 ถึงจะมีแอร์พอร์ตลิงค์ จะใช้เวลาเท่าไหร่ในการเดินทางอ่ะคะ ตอนนี้เวลาเรากลับไทย ไฟลท์จากคันไซไปลงสุวรรณภูมิ ต้องต่อไปตจว. เวลาระหว่างไฟลท์ก็แทบไม่มีแล้วอ่ะ กลัวว่าถ้าเสียเวลาเดินทางอีก กว่าจะได้ผ่าน ตม. กว่าจะได้ขึ้นรถไฟฟ้า กลัวว่าจะตกเครื่องกันพอดี  ไม่อยากให้เปลี่ยนตารางเวลาของสายการบินด้วย เพราะตอนนี้มันโอเคดีอยู่แล้ว   เหตุผลเห็นแก่ส่วนบุคคลล้วนๆของเรา ฮ่าๆ อ้อ แล้วเราเช็คอินกระเป๋าแบบตรงจากคันไซจนถึงปลายทางเลย(สายการบินเดียวกัน) แบบนี้สายการบินก็คงต้องขนกระเป๋าคนจากต่างประเทศที่ต้องต่อเครื่องทันทีกันแย่เลยอ่ะนะ จากคุณ : Doraemon no fushigi na POKKE เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 09:12:16

ความคิดเห็นที่ 26 มันก็มีสายการบินภายในประเทศที่สุวรรณภูมินะ ผมว่าภายในประเทศ ใครพอใจสายการบินไหน สนามบินไหน ก็ไปที่นั่น ดีแล้วนี่ครับ ถ้าจะบอกว่า มาจากจังหวัดที่ไม่มีเครื่องบินไปสุวรณภูมิ มีแต่ลงดอนเมือง แล้วเสียเวลา เสียค่าแท๊กซี่ มากมายเพื่อไปสุวรรณภูมิ แต่ไม่คิดบ้างเลยว่า แล้วถ้าไม่มีเครื่องมาจากจังหวัดนั้น ต้องทำอย่างไร นั่งรถทัวร์ลงขนส่ง แล้วต่อแท๊กซี่ใช่มั๊ย ประเด็นของผม คือ เค้าไม่ได้บังคับสายการบินให้ไปลงที่ใดที่หนึ่ง แต่ใครพอใจที่จะทำที่ไหน ก็เลือกลงที่นั่นต่างหาก จากคุณ : master foo bar เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 09:28:20

ความคิดเห็นที่ 27 ตอบคห. 25 จริงๆ แอร์พอร์ทลิ้งมันมีที่ขนกระเป๋าอยู่แล้วครับ ดังนั้นการเช็คอินทีเดียวไม่มีปัญหาหรอก ส่วนเรื่องขึ้นเครื่องไม่ทันนั้น ผมว่าถ้าระเบียบใช้ 2 สนามบินออกมาจริงทางสายการบินคงต้องเผื่อเวลาให้อยู่แล้วครับ ยิ่งถ้าคุณซื้อสายการบินเดียวอย่างที่ว่า หรือไม่งั้นคุณเองก็ควรเผื่อเวลาเดินทางไว้ครับ  ถ้าแอร์พอร์ทลิ้งยาวมาถึงดอนเมืองเสร็จแล้วผมว่า express line ไม่น่าเกิน 45 นาทีครับ จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 09:43:32

ความคิดเห็นที่ 28 จะอธิบายสั้นๆว่า ร่มชูชีพนักโดด เขายังมี2ร่มเลยเผื่อร่มหลักติดขัด ยางรถยนต์ ก็ยังมี5เส้นเป็นยางสำรอง1เส้นเลย ไปคิดต่อเองเหอะนะ มีกี่สนามบินดี ทั้งๆที่มันยังสภาพดีใช้การได้อีกหลายสิบปี ยิ่งถ้าบำรุงรักษา ก็ใช้ไปได้เรื่อยๆนานเท่านาน จากคุณ : นะลูกนะ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 09:56:49 A:124.120.216.25 X: TicketID:303162

ความคิดเห็นที่ 29 ผมเคยตกเครื่องบินที่ปักกิ่งเพราะไม่รู้ว่าปักกิ่งมีสองสนามบิน ทำให้ตอนนี้จำได้ขึ้นใจ เซี่ยงไฮ้ก็เช่นกัน เมืองใหญ่ๆจำนวนมากมีมากกว่าหนึ่งสนามบินครับ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 10:06:01

ความคิดเห็นที่ 30 สองหัวดีกว่าหัวเดียว ส่วนเรื่องปัญหาการจราจร เป็นเรื่องอีเดียทมาก  ทำยังกับไม่รู้จักเมืองไทย  รู้อยู่ว่ารถมันติดควบคุมตรงนี้ไม่ได้ ก็หัดเผื่อเวลาเอาสิครับ  อย่าเอาแต่ตีโพยตีพายโทษนูนนี่นั่น โดยทั่วไปสนามบินใหญ่ๆ ก็จะมีไฟล์ทให้เลือกลงได้อยู่แล้วว่า ดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ  เพราะงั้นตรงนี้พวกที่ต้องเปลี่ยนเครื่องคงไม่มีปัญหา   ส่วนพวกที่จะขึ้นสนามบินเล็กที่มาแต่ดอนเมือง  ถ้าคุณกลัวต่อเครื่องไม่ทัน ก็หัดมาก่อนเยอะๆ ไม่ก็ไปขึ้นเครื่องที่สนามบินใหญ่ใน จว. ใกล้เคียง เดินทางสองสามชั่วโมง ก็จบเรื่องแล้ว จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 10:10:23

ความคิดเห็นที่ 31 8วรพัฒนาสุวรรณภูมิให้เต็มที่ก่อนครับ ตามแผนถ้าจบเฟส 3 จะรองรับได้ 120ล้านคนต่อปีนะ ถ้าจำนวนผดส.ยังเพิ่มขึ้นอีก ค่อยไปเปิดดอนเมืองเพิ่มอีกที ที่ว่าต่างประเทศเมืองใหญ่มีหลายสนามบิน ไม่ใช่ว่าเค้าอยากให้มีหลายที่นะ แต่ที่เดียวมันรองรับไม่พอ จะขยายอีกก็ไม่ได้จึงต้องไปเปิดสนามบินใหม่อีกแห่ง และถ้ามีมากกว่าหนึ่งสนามบิน สายการบินหนึ่งก็ควรที่จะ operate ที่สนามบินเดียว การต่อเครื่องข้ามสนามบินมันแสนจะไม่สะดวกครับ แทนที่จะเดินผ่านทรานเฟอร์เกทไปก็ต้อเครื่องได้เลย  กระเป๋าก็เช็คทรูจากต้นทางได้เลย ก็ต้องรับกระเป๋าลากแท่กๆๆๆ ออกไปต่อรถไฟ(ถ้ามี) อีกชั่วโมงกว่า ไปเช็คอินใหม่(ซึ่งก็ต้องเผือเวลาอีก) ก็ต้องการเวลาในการต่อเครื่องอย่างน้อย 3 ชั่วโมง แทนที่จะแค่ชั่วโมงเดียว แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 54 10:28:04 จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 10:23:25

ความคิดเห็นที่ 32 กระทู้คำถามนี้ ตอบกันมาหลายรอบแล้วมั้ง ทั้งสองฝ่ายมีเหตุผลที่ดีทั้งคู่เลย ... แต่ข้อสรุปน่าจะอยู่งบประมาณชาติมากกว่า ว่ามีพอจะลงมือขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 เพื่อแยกเที่ยวบินในประเทศออกไป ได้หรือยัง ส่วนตัว ยังอยากให้มี 2 สนามบิน เพราะประเทศไหนเค้าก็ทำกัน ที่มีหลายสนามบินต่อหนึ่งเมือง (นักการเมืองเคยโกหกคำโต ว่าไม่มีใครทำกัน) แต่จริงๆ แล้ว มักจะเอาสนามบินของเครื่องโลว์คอสไปไว้นอกเมืองต่างหาก จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 10:34:10

ความคิดเห็นที่ 33 ในกรณีที่เครื่องจากนอกจะเข้าไทยแต่ปลายทางคุณจะไปต่างจังหวัด  ถ้าไม่รีบ  ก็ควรมีโรงแรมของสนามบินไว้ก่อน    ซึ่งก็แก้ปัญหาวิ่งหาที่พักได้   แต่ถ้ารีบ  ก็ควรเร่งจัดการแอร์พอร์ทลิ๊งค์ให้เรียบร้อย จากคุณ : fdX3S เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 10:44:22

ความคิดเห็นที่ 34 จัดการ 2 ที่มันยุ่งยาก one stop service ดีที่สุด ประหยัด จัดการง่าย จากคุณ : RouteRaideR เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 10:57:48

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นด้วยว่าควรมีสองสนามบินจะได้ช่วยแบ่งเบาและกระจายความแออัด เพิ่มตัวเลือกให้ประชาชน สะดวกที่ไหนก็ไปใช้บริการที่นั่น แล้วจริงๆ ดอนเมืองน่าจะมีไฟลท์ต่างประเทศบ้างด้วยซ้ำ อาจจะเป็นไฟลท์ใกล้ๆอย่างเฉพาะในอาเซียน เน้นพวกสายการบินเล็กๆ หรือ Low Cost เป็นหลัก     อย่างเมื่อก่อนสายการบินโลว์คอสที่ประจำอยู่ดอนเมืองเคยเปิดไฟลท์ต่างประเทศด้วย แต่สุดท้ายไปไม่รอดต้องกลับมาบินในประเทศอย่างเดียว สู้ต้นทุนไม่ไหว เพราะต้องเอาเครื่องที่บินต่างประเทศไปขึ้นลงที่สุวรรณภูมิ เสร็จพอจะบินในประเทศต้อง rotate ไปดอนเมือง แล้วต้องลงทุนทั้งเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก พนักงานประจำทั้งสองสนามบิน สุดท้ายเลยไปไม่รอด ทุกวันนี้เลยไม่โตซะที ส่วนไฟลท์สายการบินหลักที่บินไปไกลๆ เช่นญี่ปุ่น ยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกา พวกนั้นก็ให้ operate ที่สุวรรณภูมิให้หมดครับ จากคุณ : se7o1 เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 11:09:04

ความคิดเห็นที่ 36 ถามจริงๆเถอะ คนที่เลือก 2 สนามบินนี่ เคยลากกระเป๋าใบโตๆหนักๆ2ใบขึ้นแอร์พอร์ทลิ้งมั้ย เคยต้องต่อเครื่องด้วยเวลากระชั้นชิดมั้ย รู้หรือเปล่าว่ามันลำบากขนาดไหน จะขึ้นจะลงจะลากแต่ล่ะทีนี่ ลำบากสุดๆ หลังๆมานี่ยอมโดนแทกซี่ขูดเลือดดีกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 54 11:32:02 จากคุณ : anthonyjason เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 11:29:18

ความคิดเห็นที่ 37 สนับสนุนสนามบินเดียว ด้วยเหตุผลเรื่องการต่อเครื่อง ไม่เกี่ยวว่าสนามบินไหนใกล้หรือไกล เพราะบ้านอยู่พุทธมณฑล จะที่ไหนก็ไกลทั้งนั้น จากคุณ : Wobbegong เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 11:44:56

ความคิดเห็นที่ 39 ญี่ปุ่น โตเกียว เขายังมีนาริตะ กับฮาเนดะ เรามีสแปร์ไว้น่ะถูกต้องแล้ว รถไฟฟ้า ก็มีสำนักบริหารโครงการแล้ว ขอแค่อย่างาบ และทำให้ระบบรถไฟฟ้ามันเชื่อมกันได้ ก็จบ ดอนเมือง อาคาร 1 ก็ใช้เป็น terminal ทำ light rail ไปต่อกับรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายสะพานใหม่ซะ อาคาร 2 ก็อาจกันเอาไว้เป็น conference hall  ไว้จัดงานอะไรที่ไม่จำเป็นต้องใช้ความอลังการมากแบบงานที่ศูนย์สิริกิติ์ ไบเทค อิมเพค ส่วนคลังสินค้า อาคารในประเทศเดิม ก็ยกให้ศูนย์ซ่อม หัวสนามบิน ก็กันที่ไว้ให้อู่แท็กซี่ แค่นี้ ก็ใช้งานของเก่าได้อย่างคุ้มค่าแล้ว จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 11:51:09

ความคิดเห็นที่ 40 อยากให้ใช้เดี่ยว ใช้จนกว่าสุวรรณภูมิจะเต็มทุกเฟส แล้วค่อยขยายไปดอนเมืองครับ จากคุณ : I love Alpha เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 11:59:22

ความคิดเห็นที่ 41 อืมม  จากเหตุผลที่ มัน ใกล้กัน จนเป็นปัญหา ก็ คงเป็นคำตอบได้ว่า มันไม่เหมาะ ทำเป็้น อู่ซ่อม กับ สนามบิน สำรองไปแล้วกัน ไม่เปลืองดี จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 12:08:38

ความคิดเห็นที่ 42 ขอให้เปิดทั้งสองที่เลยละกัน จริงแล้วๆอยากให้มีทุกจังหวัดด้วยซ้ำ ไปทำงานที่ขับรถเที่ยวนึงเกือบ2000กิโล เหนื่อยมากๆ แต่ก็สะดวกที่สุดแล้ว จากคุณ : Neutron Light Detected เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 12:16:59

ความคิดเห็นที่ 43 ย้ายไปย้ายมา ปวดหมอง ใช้แบบนี้ไปก่อน จนกว่าแอร์พอร์ทลิงก์มาถึงกัน แต่ตอนนี้ อยากให้กันส่วนหนึ่ง เช่นในประเทศเก่าจนถึงอาคารคลังสินค้า มาทำหมอชิต๓ คือขนส่งสายเหนือ+อีสาน จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 12:23:39

ความคิดเห็นที่ 44 ความคิดเห็นที่ 22 ก็จัด filght pattern ใหม่ซิครับ   เครื่องที่มาจากทิศเหนือหรือตะวันตกมาลงที่ดอนเมือง เครื่องที่มาจากทิศใต้หรือตะวันออกมาลงที่สุวรรณภูมิ ถ้าจะต่อเครื่องก็ใช้บริการ Airport link ระหว่างสนามบินครับ ไม่ต้องอ้อมให้เสียเวลาและเชื้อเพลิง อีกทั้งยังเป็นสัดเป็นส่วนดีด้วยครับ จากคุณ : LogiEng เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 12:29:14

ความคิดเห็นที่ 45 ส่วนตัวอยากให้มีสองที่ครับ แต่ระหว่างที่รอ airport link เชื่อมกัน ก็เปิดสุวรรณภูมิที่เดียวก่อนก็ได้ครับ ญี่ปุ่นเองก็มี สนาบบินนาริตะเป็น inter ส่วนฮาเนดะเป็น domestic ทำนองเดียวกันเกาหลีใต้ก็มี อินชอนเป็น inter ส่วน กินโปเป็น domestic เรื่องระยะทางระหว่างสนาบบินที่เกาหลีใต้ผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร เพราะเคยไปแต่อินชอน แต่ถ้าเป็นฮาเนดะกับนาริตะนี่ห่างกันมากครับ ถ้าตีเป็นการกระจัดก็ประมาณ 60 km จากใจกลางโตเกียวครับ ฮาเนดะเองก็ห่างจากโตเกียวประมาณ 15 km (ฮาเนดะเองก็เปิดบริการ inter route ที่นักท่องเที่ยวเดินทางบ่อยเช่นโซล ปักกิ่ง หรือกรุงเทพด้วยครับ) ฉะนั้นปันหาเรื่อง airspace น่าจะน้อยกว่าบ้านเราที่สุวรรณภูมิกับดอนเมืองที่มันใกล้กันมาก โดยส่วนตัวเห็นว่าแยกกันไว้มีข้อดีมากกว่าครับ จากคุณ : เฉาก๊วยกะบ๊วยเค็ม - -" เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 12:38:46

ความคิดเห็นที่ 46 #44 พูดน่ะง่าย แต่ทำก็ง่าย แต่สายการบินร้องจ๊ากเลยค่ะ เพราะเครื่องจากลอนดอนมาแวะกรุงเทพ เพื่อต่อไปญี่ปุ่นล่ะ จะให้ทำยังไง จะให้ตีเครื่องจากดอนเมืองไปรับคนที่สุวรรณภูมิเพื่อต่อไปญี่ปุ่น? แล้วพวกสำนักงานออฟฟิศเขาอีกล่ะ ต้องประจำพนักงานทั้งสองสนามบิน เพื่อให้บริการเครื่องบินไฟล์ทเดียวกัน จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 13:36:05

ความคิดเห็นที่ 47 เห็นด้วยครับ ดอนเมืองในประเทศ  และเครื่องส่วนตัว สุวรรณนะบะฮูม เน้นต่างประเทศใน ประเทศบางส่วน แต่ต้องมีระบบรางเชื่อมต่อกัน จากคุณ : สุดโหดโคตรโรแมนติค เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 13:55:04

ความคิดเห็นที่ 48 ตอบ #36 ถามจริงๆเถอะ คนที่เลือก 2 สนามบินนี่ เคยลากกระเป๋าใบโตๆหนักๆ2ใบขึ้นแอร์พอร์ทลิ้งมั้ย เคยต้องต่อเครื่องด้วยเวลากระชั้นชิดมั้ย รู้หรือเปล่าว่ามันลำบากขนาดไหน จะขึ้นจะลงจะลากแต่ล่ะทีนี่ ลำบากสุดๆ ไม่เคยครับ เพราะถ้าผมรู้ว่าต้องต่อเครื่องที่สุวรรณภูมิ ผมคงไม่งี่เง่าเลือกสายการบินที่มันไปลงดอนเมืองหรอกครับ อ่อเผื่อเดี๋ยวมีคนมาอ้างอีกว่า แล้วถ้าบ้านอยู่จังหวัดที่มันมีแต่ไฟลท์ไปลงดอนเมืองอย่างเดียวทำไง อันนั้นบอกตามตรงว่าส่วนน้อยมากครับ เพราะสายการบินใหญ่ๆที่มีเที่ยวบินเยอะๆในประเทศ อย่างการบินไทย แอร์เอเชีย บางกอกแอร์ฯ พวกนั้นมันไปลงสุวรรณภูมิหมดอยู่แล้ว ที่ใช้ดอนเมืองทุกวันนี้ (นกแอร์+วันทูโก) เส้นทางส่วนใหญ่มันก็ทับกับการบินไทยกับแอร์เอเชียทั้งนั้นแหละ มีแค่ไม่กี่จังหวัดที่สายการบินพวกนี้บิน แล้วสายการบินที่ไปลงสุวรรณภูมิไม่มี แต่ถ้ามันกรณีมันสุดวิสัยจริงๆ ก็คงจะต้องวางแผนล่วงหน้า เผื่อเวลา ไม่ก็จองโรงแรมไว้พักคืนนึงครับ   ส่วนแผนที่ว่าจะเอาดอนเมืองเอาไปทำอย่างอื่น เช่น ศูนย์ประชุม โรงแรม ศูนย์การค้า คอมเพล็กซ์อะไรพวกนั้น ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เพราะอาคาร สถานที่ ตำแหน่งที่ตั้ง ฟังก์ชั่นการใช้งานมันออกแบบมาเพื่อใช้เป็นสนามบินอยู่แล้ว จะไปปรับปรุงให้เป็นอย่างอื่น ยังไงมันก็ตอบสนองการใช้งานได้ไม่เต็มที่ 100% อยู่ดี เรียกว่าเสียของป่าวๆ ถ้าจะทำสู้สร้างที่ใหม่ไปเลยดีกว่า จากคุณ : se7o1 เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 14:23:22

ความคิดเห็นที่ 49 ถ้าเอาตามผลการศึกษา(จำไม่ได้ว่าของหน่วยงานไหน แต่ลงหนังสือพิมพ์นานแล้ว) ตั้งแต่ตอนจะเปิดสุวรรณภูมิ เขาสรุปแล้วว่าเปิดสองสนามบินไม่คุ้มค่าครับ เปิดสนามบินเดียวแล้วเอาเงินไปขยายตาม phase ต่างๆจนครบ ซึ่งก็ต้องกินเวลาเกือบสิบปี จนนักท่องเที่ยวถึงจะเพิ่มมากจนสุวรรณภูมิขยายไม่ได้อีกแล้ว(ซึ่งก็ต้องคิดว่ามันจะเยอะได้ขนาดนั้นจริงๆน่ะหรือ?) และจากผลการศึกษานั้น มันก็เป็นผลให้ airport link ไม่ขยายไปถึงดอนเมืองตั้งแต่แรกด้วย(เพราะไม่คาดคิดว่าจะเปิดสองสนามบิน) ส่วน ณ ปัจจุบัน จากแรงการเมืองที่ฝืนให้เปิดสองสนามบิน ทำให้การท่าเสียค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรไปอย่างไม่คุ้มค่า จำได้ว่าเขาลงว่าขาดทุนในส่วนดอนเมืองตลอดนะครับ สายการบินต่างๆในประเทศเขาก็ไม่อยากจะจอด เพราะผู้โดยสารต่อเครื่องบินลำบาก เสียโอกาสไปเปล่าๆ จนต้องทำแกมบังคับให้สายการบินที่มีหน่วยงานรัฐถือหุ้นมาลง แล้วลดค่าหลุมจอดให้ (กลายเป็นการท่าฯ รายได้น้อยลงอีก) ส่วนสายการบินเจ้าใหญ่ ที่บังคับเขาไม่ได้ ก็ไปจอดสุวรรณภูมิกันหมดอยู่ดี นั่นคือมองในระยะสั้น-ปานกลางแล้ว เปิดสองสนามบินทำให้ขาดทุนและสิ้นเปลืองงบประมาณไปเปล่าๆ นักท่องเที่ยวต่อเครื่องลำบากสุดๆ ซึ่งเท่าที่เห็นคนที่สนับสนุนสองสนามบิน ก็เพราะชอบดอนเมืองที่่มันใกล้เดินทางไปขึ้นเครื่องสะดวกแค่นั่นแหละครับ ส่วนความคุ้มค่าอื่นๆผลการศึกษาก็บอกไปแล้ว่ามันไม่คุ้มจริงๆ ถ้ากลัวว่าสุวรรณภูมิจะขยายจนเต็มแล้วไม่พอ ก็เป็นเรืองอีกนับสิบปีข้างหน้าเลยทีเดียว ซึ่งก็ต้องคิดว่าเราจะมีนักท่องเทียวบินขึ้นมากขนาดนั้นจริงๆหรือ และจะจัดเที่ยวบินอย่างไรไม่ให้มีปัญหารอกันนาน ทางออกในอนาคตอาจจะเป็นการสร้างที่เมืองคู่ขนาน แล้วนักท่องเที่ยวก็ไปลงที่เมืองนั้นแทนที่จะมาแออัดกันในกทม.อย่างเดียวครับ ป.ล.จะไม่การเมืองแล้ว ขอพาดพิงนิดหน่อย แต่แนวคิดดันทุรังเปิดสองสนามบินทั้งๆที่ขาดทุน มาจาก...ล้วนๆเลยครับ เพราะผลการศึกษาก็บอกไว้ชัดเจนว่าไม่คุ้ม แต่คนถือปืนเขาจะเอาใครจะทำไม? แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 54 14:30:10 จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 14:27:53

ความคิดเห็นที่ 50 ต่อเรื่องสนามบินสำรอง เอาจริงๆตามแผนเดิมดอนเมืองก็เป็นสนามบินสำรองอยู่แล้วครับ ปกติเขาจะเปิดให้เช่าเหมาลำ หรือขนส่งมาลงบ้าง แต่ถ้าฉุกเฉินก็มาลงได้ รวมถึงฝั่งทหารด้วย ถ้ามองเรื่องสำรองแล้วต้องเสียเงินขาดทุนไปเปล่าๆ ผมว่ายังไงก็ไม่คุ้มค่า เพราะอย่างที่ผ่านมา มันก็โดนปิดทั้งสองที่ ต้อง re-route ไปลงอู่ตะเภากันอยู่ดี จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 14:32:55

ความคิดเห็นที่ 51 ผลการศึกษาของ ICAO  และ IATA ไปในทางเดียวกันคือ เสนอให้ใช้ Single Airport ครับคุณ 4จุด จากคุณ : King Bamboo เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 15:10:59

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณ#51 ที่ช่วยยืนยันข้อมูลครับ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 15:12:52

ความคิดเห็นที่ 53 ถามจริงๆ เอาดอนเมืองไปทำเป็นศูนย์ประชุม  โรงแรม  ศูนย์การค้า บลาบลาบลา อย่าลืมนะครับว่า  สนามบินดอนเมืองไม่ได้มีแต่เครื่องพานิชย์อย่างเดียว   เครื่องทหารขึ้นลงประจำนะครับ จากคุณ : fdX3S เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 15:54:29

ความคิดเห็นที่ 54 อ้อ ถ้าจะบอกว่าเปิดสองสนามบินกันโดนปิดสนามบิน คราวก่อนก็โดนปิดไปทั้งสุวรรณภูมิและดอนเมืองนะครับ ตอนนั้นดอนเมืองก็เปิดให้บริการเที่ยวบินในประเทศอยู่ ไม่งั้นเค้าก็เอาเครื่องหนีไปรับส่งคนดอนเมืองกันหมดแล้ว ไม่ต้องถ่อไปถึงอู่ตะเภาหรอก จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 16:21:22

ความคิดเห็นที่ 55 เปิดสองสนามแข่งกันไปเลยครับ ใครดีใครอยู่ จากคุณ : I love Alpha เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 18:59:19

ความคิดเห็นที่ 56 ตลกแล้วล่ะค่ะ ทหาร โดยเฉพาะทหารอากาศ อยากใช้ดอนเมืองแต่เพียงผู้เดียวทั้งสองรันเวย์อยู่แล้วค่ะ จะขึ้นจะลง ไม่ต้องคอยหลบเครื่องบินพาณิชย์ จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 19:35:21

ความคิดเห็นที่ 57 ผมว่าสนามบินเดี่ยวนี่ดีสุดแล้ว แม้จะใช้เวลาในการขยายนานไปหน่อย มันดูเป็นเอกภาพมากกว่า การบริหารจัดการก็ง่าย และงบประมาณที่นำมาใช้ก็ไม่บานปลาย อีกอย่างคนไทยไม่นิยมเดินทางด้วยเครื่องบินมากนัก หากเทียบกับหลายประเทศหลายเมืองที่ใช้สนามบินสองแห่งควบคู่กันไป ซึ่งดอนเมืองน่าจะพัฒนาพื้นที่ใ้ช้ในด้านอื่นมากกว่า ซึ่งตรงนี้กองทัพอากาศก็เป็นเจ้าของพื้นที่อยู่ ผมว่าเป็นฐานทัพอากาศน่ะก็โอเคอยู่นะ ดูเป็นเอกเทศมากขึ้น มีความเป็นกองทัพมากขึ้น จากคุณ : แสงริมทางเท้า เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 20:54:18

ความคิดเห็นที่ 58 เราเชียร์ Single Airport คะ  เพราะเท่าที่ดูการพัฒนาขนส่งมวลชลบ้านเรา/air traffic/ความไม่สะดวกสบายของผู้คนและนักท่องเที่ยว รวมถึงฝรั่งมังค่าแล้ว หากเปิดสองสนามบินจะมีปัญหาหยุกย่อยเยอะคะ ต้องไล่ตอบคำถามและจัดการเรื่องพวกนี้ทุกๆ วัน อีกปัญหาที่เราอยากรู้คือ ถ้าใช้ 2 Airport แล้วผู้โดยสารต่อเครื่องในสายการบินพันธมิตร เช่น ใช้สายการบินไทย จาก london ----> via BKK----- > เชียงใหม่  จะต้องออกจากสุวรรณภูมิไปดอนเมืองไปหรือ ?  ไม่สามารถเช็คทีเดียวไปเชียงใหม่ได้เลยใช่ไหม ?  แล้วกระเป๋าเดินทางก็ต้อง check เป็น point to point แทนหรอคะ.... คงลำบากน่าดู จากคุณ : Arccyber2004 เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 20:55:17

ความคิดเห็นที่ 59 สนามบินเดียวดีที่สุด  เรายังใช้ศักยภาพของสุวรรณภูมิไม่เต็มที่เลย ถ้า 2 สนามบินดี แล้วเค้าย้ายจากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิทำไม ทั้งๆที่เป็น นโยบายจากฝ่ายหัวเก่า  เพราะสายการบินขาดทุน มีภาระเพิ่ม  พักหลังสายการบินเป็นคนประกาศย้ายไปใช้สนามบินเดียวที่สุวรรณภูมิเอง ใครอยากใช้ 2 สนามบิน ผมคนนึงที่ไม่อยาก  ทำเรื่องให้มันง่ายเข้าไว้  สะดวกกว่าไหนๆ จากคุณ : หัวใจเดินทาง เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 03:44:27

ความคิดเห็นที่ 60 ส่วนตัวผมมองว่าสนามบินเดียว เอาให้ดีไปเลยดีกว่าครับ การจะมีสองสนามบินแสดงว่าเราต้องมีรายจ่ายสองสถานที่เลย ทั้งๆที่จำนวนของผู้ใช้บริการเท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กเล็กน้อยเท่านั้นเอง ผมว่ามันไม่คุ้มค่าครับ ทั้งสายการบิน ตัวการท่าเอง หรือมองในมุมผู้โดยสารที่เดินทางจากตจว. เพื่อไปตปท. ก็ต้องมาลงที่ดอนเมือง แล้วต่อเครื่องที่สุวรรณภูมิอีก ลองคำนวนเวลาพรีไฟท์จากตจว. จนถึงขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ นี่ต้องเตรียมตัวกันครึ่งค่อนวันเลย รวมถึงการเดินทางเชื่อมต่อของสองสนามบินก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลย ยิ่งถ้าหากไฟท์เร่งด่วน ยิ่งทำได้ลำบากเลย หากมีการต่อเครื่องเร่งด่วน นี่คงไม่ต้องพูดถึง หลายๆคนชอบบอกว่าขนาดญี่ปุ่นยังมีเลย ผมว่าตรงนี้ยังไม่ต้องไปรีบเลียนแบบเค้าหรอกครับ ค่อยเป็นค่อยไป เอาให้มั่นคงชัวร์ๆดีกว่าครับ ประเทศเรามันไม่ใช่ประเทศทางผ่าน หรือเป็นประเทศแวะเหมือนญี่ปุ่นเค้าครับ จากคุณ : Coppich เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 04:02:13

ความคิดเห็นที่ 61 ทำไมถึงควรใช้สนามบินดอนเมืองควบคู่กับสนามบินสุวรรณภูมิ (ในความเห็นส่วนตัว) จากคุณ : ben_benz เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 04:38:43

ความคิดเห็นที่ 62 ส่วนตัวก็มองเช่นเดียวกันครับว่า เปิด single airport ก็ดี ดอนเมือง เอาไว้สำรอง หรือเมื่อพร้อมกว่านี้ หรือเต็มที่แล้ว ค่อยให้พวก domestic หรือ low cost ย้ายมาอยู่นี่ แต่มีคำถามเพียงนิดเดียวว่า ตอนแรก เค้าก็ออกแบบให้มีขนาดรองรับคนได้ 50 ล้านคนหรือมากกว่านั้นอยู่แล้ว แต่ต่อมาลดเหลือ 45 ล้านคน และเพียงปีสองปีแรกที่เปิด (ขนาดเจอสารพัดม๊อบแล้ว) มันก็เต็มศักยภาพของสนามบิน ทำให้มีโครงการมูลค่าหลายหมื่นล้านเพื่อขยายสนามบินอีกแล้ว ทั้งๆ ที่ตอนแรก มันประหยัดได้แค่หมื่นกว่าล้านหรืออย่างไรผมจำไม่ได้ แต่ส่วนขยายที่ออกแบบกันมาเช่น สร้าง domestic termianal ได้ยินว่า อย่างเลวก็ต้องใช้งบ 6000 ล้าน (ไม่รวม shutter trian) ที่จะเชื่อมต่อแบบต่างประเทศ หรือถ้าขยายตัวอาคารหลักอย่างเดียว ก็ใช้เงินหลายหมื่นล้านบาท ซึ่ง รองรับคนได้ 65 ล้านคน (สนามบินนี้จริงๆ ออกแบบมีอาคารรองรับคนได้ 100 ล้านคนต่อปี แต่แยกเป็น 2 terminal หลัก อาคารละ 50 ล้าน ตอนนี้ กลายเป็น แผนว่า อาคารหลักจะเกิน 50 มี domesitic termianal 20 ล้าน ดูแปลก ๆ) เสียดายตอนแรกสร้างไม่น่าไปลดขนาดอะไรเลย แถมว่า สร้างไปจริง ๆ ไม่ได้ประหยัดอะไรเลย เพราะต้องจ่ายโน่นนี่เพิ่มเติม เพราะไม่ได้คิดออกแบบมาแต่ต้น อย่างระบบรถไฟฟ้า แอร์พอร์ลิงค์ อุโมงค์ข้างใต้ที่เอารถไฟฟ้าไปจอด ก็ต้องให้การรถไฟมาเป็นผู้รับผิดชอบเพราะงบประมาณของการท่าไม่ครอบคลุม เหมือนเอาเตี้ยไปอุ้มค่อม ปล.ผมจำได้ ตอนมีการหาเสีย คุณ มิ่งขวัญ แกบอกว่าจะใช้สองสนามบิน ซึ่งผมเห็นด้วยในหลักการของแก ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว จะใช้สนามบินเดียว ผมหวังใจว่า คงไม่กินกันเละเทะอีกรอบนะ จากคุณ : bangkokguy เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 07:32:32

ความคิดเห็นที่ 63 เรื่องผลการศึกษา ไม่ว่าจะ ICAO หรือ IATA นั้น มันแล้วแต่วัตถุประสงค์ว่า คุณตั้งหัวข้อการศึกษาไว้อย่างไร อยากได้ผลลัพธ์อย่างไร คุณก็ตั้งหัวข้อศึกษากำหนดกรอบให้มันจำกัดวงอยู่แค่ในทางนั้น ของทุกอย่าง มีข้อดีและมีข้อเสียทั้งนั้น เจ้าค่ะ ถ้าอยากได้ A ก็จ้างให้ศึกษาแต่ข้อดีของ A และข้อเสียของ B หรือถ้าอยากได้ B ก็กำหนดกรอบการศึกษาไว้แต่ข้อเสียของ A และข้อดีของ B แค่นั้นเองค่ะ อย่าง IATA เอง เป็นสมาคมผู้ประกอบการสายการบิน เขาก็ย่อมต้องคำนึงถึงต้นทุนของสายการบินเป็นหลัก เขาจะไปแคร์ทำไมว่า ดอนเมืองลงทุนสร้างไปเป็นเงินเท่าไหร่ แล้วต้องทิ้งร้าง เขาไม่จำเป็นต้องสนใจใยดี หรืออย่าง ICAO องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ซึ่งคำนึงเรื่องความปลอดภัยในการเดินอากาศเป็นหลัก เขาย่อมต้องมองว่า การที่เปิดสองสนามบินแล้วเส้นทางการบินมันตัดกันพัลวันแบบนี้ ย่อมเป็นการเสี่ยงต่อความปลอดภัย เขาจะไปแคร์อะไรกับสนามบินที่ต้องทิ้งร้าง ทั้งๆที่ยังมีศักยภาพอยู่อีกมาก คำตอบมันมีตั้งแต่การเลือกจ้างผู้ทำการศึกษาแล้วค่ะ คนจ้างเขารู้ว่าถ้าต้องการผลลัพธ์การศึกษาแบบนี้ แล้วต้องจ้างใคร !! แต่นี่ ไม่ได้ตำหนิ หรือกล่าวหา IATA หรือ ICAO ว่าลำเอียงหรืออะไรนะคะ เพราะทุกคนก็ทำตามหน้าที่ตามบทบาทของตัวเอง เขาก็มองจากมุมของเขาเท่านั้น เขาไม่มีหน้าที่ต้องวิเคราะห์ว่าไทยจะสูญเสียโอกาสทางธุรกิจไปเท่าไหร่ จากการที่ต้องทิ้งดอนเมืองให้ร้าง อันที่จริง ICAO เป็นองค์กรระหว่างประเทศ สังกัด UN ซึ่งไม่มีหน้าที่มาก้าวก่ายกิจการภายในประเทศใดประเทศหนึ่งด้วยซ้ำไป ส่วน IATA เป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง เขาย่อมเลือกทางเลือกที่เขาได้มากสุด เสียน้อยที่สุดอยู่แล้ว ย้ำอีกทีว่า คนจ้างเขารู้ว่า ถ้าต้องการผลลัพธ์การศึกษาแบบนี้ แล้วต้องจ้างใคร !! จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 07:52:56

ความคิดเห็นที่ 64 ถ้าไม่ลดตอนแรกก็ไม่รู้ต้องรออีก 40ปีหรือเปล่า ถึงมันจะเสร็จ? แล้วการสร้าง phase 2 ที่ล่าช้า เป็นพเราะทหารเต็มๆเลยครับ ก็การดันทุรังเปิดดอนเมือง ทำให้ AOT ขาดทุนอีกเยอะเลยทีเดียว ก็ต้องหาเงินมาโปะอีก แล้วมันก็ทำให้แผนงานเดิมมั่วไปหมดนั่นแล ส่วนงานวิจัยจะบอกว่าไม่น่าเชื่อถือ ก็ต้องวิจัยมาค้านครับ ณ ตอนนี้อ่านมาทั้งหมด ก็เห็นมีแต่เหตุผลประเภท เสียดายของเก่า อันเก่าเดินทางง่ายกว่า แค่นั่้นเอง :P จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 13:52:41

ความคิดเห็นที่ 65 ทำไมถึงเสียดายดอนเมืองกันจังเลยล่ะครับ มันถึงเวลาปลดระวางไปนานแล้ว เอาไปพัฒนาอย่างอื่นที่คุ้มค่ากว่าในภาพรวมดีกว่า ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องของการเล่นขายของนะ ถึงจะมาบอกว่าจะเอาอันโน้นอันนี้ เปิดอันนี้ใช้เถอะเพราะทิ้งไว้เฉยๆ เสียดายของ คนทั่วไปอาจจะคิดกันแบบนี้ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริง คนที่อยู่ในวงการเขาทราบดีว่าอย่างไรก็ได้ไม่คุ้มเสียกับการใช้สองสนามบิน ตามที่หลายท่านอธิบายจนปากเปียกปากแฉะไปหลาย คห. ด้านบน มันเป็นเรื่องระดับประเทศ ระดับโลกนะครับ จะเอาองค์ความรู้ตื้นๆ ของเรา เอาความอยาก ความเสียดายของเรามาตัดสินไม่ได้หรอก เรารู้ดีกว่าเขาแค่ไหน หรือเป็นแค่ความคิดเห็นของเรา? เอาในแง่ของคนใช้ทั่วไป การใช้สองสนามบินจริงๆ จังๆ แล้วจะรู้สึกกันเองครับ อย่าลืมดูบริบทของบ้านเมืองเราด้วย เราเป็น "เมืองท่องเที่ยว" รายได้จำนวนมากของเราก็มาจากนักท่องเที่ยว ซึ่งเขาก็บินมาเข้ากรุงเทพ แล้วนั่งเครื่องต่อไปตามต่างจังหวัดด้วยความสะดวกสบาย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าการมาเที่ยวบ้านเมืองเราแล้วมันไม่สะดวกสบาย ...พูดแค่นี้แล้วให้คนที่เชียร์สองสนามบินที่อ้างโตเกียวแบบโน้นแบบนี้ ชิคาโก้แบบนั้นแบบนี้ ไปคิดต่อแล้วกันครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น สองสนามบินในโตเกียว เขาเป็นแบบนี้เพราะการบินในประเทศเขาเข้มแข็งอยู่แล้ว คนในชาติเดินทางในประเทศใช้เครื่องบินเดินทางกันเป็นปกติ ...ส่วนบ้านเรา คนไทยหมู่มากยังหมอชิตกันอยู่เลย บริบทแต่ละประเทศมันไม่เหมือนกันครับ จากคุณ : COLORS เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 03:33:55