ความคิดเห็นที่ 1 หาปุ่ม Like ไม่เจอ 555+ จากคุณ : GordonFR เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:10:07

ความคิดเห็นที่ 2 ลองไปอ่านเว็บจ่า แล้วคุณจะรู้ว่า อย่ามองคนแค่เปลือกนอก เห็นเขา sensitive กัน เพราะมันมีเรื่องอื่นมาเกี่ยวข้อง จากคุณ : psybuster เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:15:03

ความคิดเห็นที่ 3 ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าห้องวิทย์ จากคุณ : PastelSalad เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:19:31

ความคิดเห็นที่ 4 ไหนล่ะครูมวย ? จากคุณ : เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการโผ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:19:34

ความคิดเห็นที่ 5 อูย ซี๊ด.... จากคุณ : rain_gutters เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:20:58

ความคิดเห็นที่ 6 ถกกันด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ จากคุณ : fdX3S เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:21:16

ความคิดเห็นที่ 7 ที่นี่ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ครับ เป็นเรื่องปกติในทางวิทยาศาสตร์ จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:22:03

ความคิดเห็นที่ 8 ถามถึงเรื่อง หลักเหตุ แล ผล พอตอบไป ก็บอกว่าไม่มีหัวใจ พอไม่ตอบ ก็บอกว่า ไม่มีน้ำใจ เออ คนหนอคน จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:22:44

ความคิดเห็นที่ 9 มองโลกตามความเป็นจริง แค่นั้นก็พอ ถ้ามนุษย์ทำได้อย่างนั้นปัญหาของโลกนี้จะลดลงไปเยอะ ความ Sensitive นั่นแหละทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมา ความขัดแย้งทางศาสนา เชื้อชาติ ทีมฟุตบอล ฯลฯ ส่วนมากเกิดจากความยึดติด ยึดมั่นถือมั่นว่า ศาสนาตัวเองดีกว่า เชื้อชาติตัวเองดีกว่า ทีมฟุตบอลที่ตัวเองชอบดีกว่า หมาดีกว่าคนฯลฯ ทั้งนั้น จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:23:46

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าทุกคนต่างอ่อนไหวกันไปหมด .. ถึงเวลาคับขันคนที่มีสติมองเหตุและผลจะนำพากันรอด !!! . จากคุณ : สวยสะพรึง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:25:53

ความคิดเห็นที่ 11 จับไปอยู่กับพลทหารร จากคุณ : varitpum2 เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:27:28

ความคิดเห็นที่ 12 ถึงวิทย์ ก็มีหัวใจนะ ^^ มีความรู้สึก ออกจะ sensitive ด้วยนะ ถ้าใครมาตั้งคำถามประมาณไร้สาระ ในสายตาหลายคนหรือว่ามาตั้งคำถามเรื่องผี แล้วอยากให้ห้องนี้เชื้อ พอห้องนี้ไม่มีใครเชื่อก็ไม่พอใจ ประชดอย่างโน้นอย่างนี้ เลยโดนกลับไปหลายดอกแล้ว เห็นไหม sen นะไม่ใช่เย็นชา ^^ จากคุณ : wan_medtech เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:27:58

ความคิดเห็นที่ 13 ผมคิดส่วนตัวเลยนะ อาจจะเป็นไปได้ว่า เพราะคนส่วนมากในนี้ ยอมรับความจริงของโลกได้กระมัง เกิดแก่ เจ็บตาย เป็นขอคู่กัน มามั่วแบบว่า อุ้ยน่าสงสาร  ไม่ได้นะผิดโน่นนี่นั่น อย่างมากก็แค่ในหน้าจอคอมนั่นแหละ ออกไปเจอโลกความจริง มันไม่ใช่นะคุ๊ณณณณณณ เรื่องจริงก็ต้องเรื่องจริง ต้องยิมรับแล้วละ ยังมีอีกหลายๆๆคนไม่ยอมรับความจริง กระทู้เลยมาม่ากันไป จากคุณ : เข้ามาครองโลก เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:33:34

ความคิดเห็นที่ 14 ปล. คห 13 แก้คำผิดอย่างไรครับ หาที่แก้ไม่เจอ ผิดไปสองสามที่แหนะ จากคุณ : เข้ามาครองโลก เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:34:24

ความคิดเห็นที่ 15 ห้องนี้ Sensitive กับพวกใช้ วิทยาศาสตร์หลอกลวง ครับ จากคุณ : Mr.thanyawat เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:38:35

ความคิดเห็นที่ 16 จขกท รู้ไดไง เห็นพิมพ์ แบบ ไร้หัวใจ แต่หลังคีย์บอร์ด น้ำตาอาจไหลพราก สะอื้น ตุ๊ดแตก เลยก็ได้ ดีใจ เสียใจ ใครๆ ก็มีทั้งนั้นแหละ เพียงแต่ เวลาแสดงออกมา มากเกินไป จะกลายเป็น ทุกข์ จากคุณ : Subten เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:41:36 A:199.48.147.35 X: TicketID:322575

ความคิดเห็นที่ 17 จขกท. โดนครูมวยถ่ายทอดวิชาเข้าทางประตูหลัง ตุดฉีก นอนยิ้มอยู่ รพ. ไป 7 วัน จากคุณ : เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการโผ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:43:04

ความคิดเห็นที่ 18 เหมารวมอีกละ จากคุณ : Tiggy-ข้าวหอม เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:43:59

ความคิดเห็นที่ 19 ชนักมันปักหลังจริงๆ จากคุณ : donutpla2 เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:44:46

ความคิดเห็นที่ 20 เซนซิทิฟสิคะ ไม่เซนซิทิฟจะมีกระทู้เบื่อ SEAL ออกมาเยอะแยะเหรอคะ จากคุณ : i เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:47:24

ความคิดเห็นที่ 21 ผมว่ามีเหมือนกันนะ ลองเถียงแบบข้าง ๆ คู ๆ แบบกระทู้ดัง ๆ มาม่าเพรียบตัวอย่างเช่น แกสน้ำตา , ตะขาบพยนต์ , np faster , GT200 , น้ำป้าเช็ง , เรือเหาะ  บลา ๆ ๆ เชื่อโดยสนิท . . เชื่อแบบสมาชิกนำข้อมูลหักล้างมาให้ดูก้อไม่ยอมฟัง   แถไปแบบข้าง ๆ คู ๆ ไม่มีเนื้อหาสาระมาโต้แย้งนี้ผมเห็นโดนจัดหนักจัดเต็มตลอดเหมือนกันนะ ปล. คุณ : เข้ามาครองโลก    คลิ๊กแก้ไขข้อความได้ตรงที่วงไว้นะครับ แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 54 14:03:51 จากคุณ : athit1975 เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:48:28

ความคิดเห็นที่ 22 ก็ห้องวิทยาศาสตร์นี่นา กระทู้ก็เป็นกระทู้วิทยาศาสตร์คนเขาก็ต้องตอบไปตามกฎวิทยาศาสตร์ เกิดใช้อารมณ์ตอบคงดูไม่จืด จากคุณ : Dequardo เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 13:53:57

ความคิดเห็นที่ 23 เคยมีกระทู้จิตรวิทยา ของคุณกิ๊ฟ บ้าง ก็ดูออกจะอ่อนไหวนะครับ ยิ่งกระทู้กับสาวห้องแป้ง คนห้องนี้ยิ่งจะอ่อนไหว .... จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:06:20 A:124.122.243.145 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 24 คืองี้ครับคุณ TonyMao_NK51 เราศึกษาวิทยาศาสตร์เพื่อจุดมุ่งหมาย รู้ เข้าใจ ควาบคุม และทำนายปรากฎการณ์ ครับ สิ่งที่เรียกว่า มารยาท จารีตประเพณี มันเป็นความรู้ที่ไม่ทำให้เกิดดความรู้ใหม่ ผมจะยกตัวอย่างการตั้งสมติฐานเกี่ยวกับฮอตกนะครับ ปัญหาเรื่องนี้มี 2 อย่างคือ 1.ปฏิเสธสมติฐานทั้งๆที่สมติฐานนั้นเป็นจริง  (ขัดกับความเชื่อเรื่องเจ้า 7 ภู) 2.ยอมรับสมติฐานทั้งๆที่สมติฐานนั้นเป็นเท็จ (ถ้าไม่เชื่อเรื่องเจ้า 7 ภูจะขัดจารีตประเพณี) วันนั้นที่ถกกันมีการตั้งสมติฐานกันมากมายแต่ยังไม่มีไครไปถึงขั้นสรุปเลย แค่ตั้งสมติฐานก็โดนทหารกลุ่มนึงเขามาป่วนก่อนด่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้ไม่เคารพผู้ตาย ตั้งสมติฐานแบบมั่วๆทั้งๆที่คนพูดไม่เข้าใจกระบวนการวิทยาศาสตร์เลย เช่น สมติฐานที่เพื่อนๆตั้งว่า สมติฐานว่าฮอตกเป็นเพราะสภาพอากาศ จุดมุ่งหมายด้านการวิจัยด้านการอธิบาย สมติฐานฮอตกมาจากการถูกยิง จุดมุ่งหมายด้านการวิจัยคือหาแนวโน้ม สมติฐานฮอตกมาจากการวางยาหรือฮอมันห่วย จุดมุ่งหมายด้านการวิจัยคือด้านการควบคุม เพื่อหาจุดบกพร่องของฮอ สมติฐานฮอตกมาจากสภาพพื้นที่ เป็นการตั้งเพื่อหาจุดมุ่งหมายด้าน บรรยาย อธิบาย การตั้งสมติฐานว่าถ้าฮอตกติดๆกันบ่อยๆจะมีการของบเพื่อซื้อฮอใหม่ เป็นการวิจัยเพื่อหาจุดมุ่งหมายด้าน การทำนาย (ซึ่งก็เกิดปรากฏการณ์ตามนั้นจริงๆ) ขั้นต่อไปก็คือ การวิจัย การหาวรรณกรรมอ้างอิง ผมก็เซิซหาข้อมูลมาถกกันอยู่กลับมาอีกทีกระทู้เละเทะเสียแล้ว ยังไม่ถึงขั้นสรุปเลยทหารเข้ามาป่วนซะเละ และอีกปัญหาหนึ่งคือผู้สังเกตุการหรือMODของห้องนี้มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์น้อยอาจเป็นเพราะเรียนมาด้านอื่นๆ และมีความลำเอียงจากการเป็นสมาชิกของกลุ่มจึงได้เกิดการลบการย้ายกระทู้หลายๆกระทู้โดยขาดความเข้าใจ ความเที่ยง ความตรง และความเชื่อมั่น         รณรงค์ช่วยกันทำให้ห้องหว้ากอกลับเป็นแหล่งความรู้ที่ยิ่งใหญ่เช่นเดิม                                                    Way of life may be spoiled with you  . แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 54 15:49:48 จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:06:42

ความคิดเห็นที่ 25 แต่หลายคนบอกสมัยนี้กับสมัยก่อนก็ต่างกันนะ จากคุณ : tkung13 เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:09:04

ความคิดเห็นที่ 26 ใช้ความรู้สึกตัดสิน ใช้อารมณ์นำเหนือเหตุผล ก็เละเทะแบบทุกวันนี้นี่ไง อย่างน้อยมองด้วยความจริงและข้อเท็จจริง ก็ช่วยให้ไม่มืดบอดเหมือนบางห้องที่แค่เรื่องนิดหน่อยก็น้ำตาไหลพราก แจกกิ๊ฟท์หมดเป็นกระบุงสนองอารมณ์ จากคุณ : tomorrow night เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:14:24

ความคิดเห็นที่ 27 ห้องหว้ากอเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ นั่นแหละ ว่าแต่..​ อะไรไม่เปลี่ยนตามเวลาที่ผ่านไปบ้างเหรอ ? ราคาทอง ใจคน ความรู้สึก มันเปลี่ยนทุกอย่างนั่นแหละ แต่จะมากหรือน้อยก็ว่ากันไป ส่วนเรื่องหมาสองพันตัวอะไรนั่นอะ มีแต่คนบอกว่าน่าสงสาร แต่ลองให้พวกที่บอกว่าสงสารเอารับหมาไปเลี้ยงคนละตัวสิ จะได้รู้กันจริงๆ ว่าไอ้ที่ว่าสงสารเนี่ย มันสงสารจริงๆ กันหรือเปล่า ปากคนจะพูดอะไรก็ได้ แต่จะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่ามันอีกเรื่อง ถ้าคุณจะตัดสินคนแค่คำพูดที่เค้าพูด ก็ไปหานิยายประโลมโลกอ่านเหอะ ชีวิตจะได้มีความสุขขึ้น จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:16:12

ความคิดเห็นที่ 28 ห้องนี้รักสัตว์นะครับ โดยเฉพาะ ฮิปโป, อนาคอนดา, หนอนปลอก ฯลฯ จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:16:35

ความคิดเห็นที่ 29 จำกระทู้ตอน ฮ. ตกได้ใหมครับ  มีกระทู้มากมายเกิดขึ้นมาซึ่งส่วนใหญ่เป็นในแนวเสียใจกับเหตุที่เกิด  ซึ่งผมก็เบื่อมากช่วงนั้นว่า ทำไมถึงมัวแต่มาเสียใจกับเหตุการณ์ไม่หาเหตุผล และ หนทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก นี่คือผลจากการเอาความรู้สึกมาใช้ในกระบวนการคิด การเอาเอารมย์ความรู้สึกมามีส่วนรวมในการ วิเคราะห์และพิจารณา จะทำให้คำตอบที่ได้ออกมาผิดเพี้ยนได้ครับ  อย่างกระทู้สุนัขนั้น  จขกท. ก็พิจารณาหาวิธีแก้ไขปัญหาว่า ทำอย่างไรถึงจะดูแลจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด  ถ้าเราเอาความสงสารมามีส่วนในการวิเคราะห์  ก็จะได้คำตอบเดียวเลยคือ  รับเลี้ยงไว้  จะไม่นำไปสู่วิธีการที่หลากหลายได้ครับ จากคุณ : pvman65 เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:17:47

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าถามผมว่า... กระทู้ในหมวดย่อยคณิตศาสตร์จำเป็นต้องใช้อารมณ์ในการตอบหรือไม่??? ผมจะตอบว่า... ไม่จำเป็นเลยครับ (ยอมถูกมองว่าเป็นคนเย็นชา) ลองคิดดูว่าถ้าใช้อารมณ์ในการตอบจะเป็นอย่างไร จากคุณ : TIYHz เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:24:22

ความคิดเห็นที่ 31 นับถือคนตั้งกระทู้ ตั้งได้โดนใจ อัจฉริยะมี 8 ประการ 4 ใน 8 ประการคือ การให้เหตุผล การเข้าใจคนอื่น การเข้าใจตนเอง การใช้ภาษา หลายๆ คนใช้ความรู้แค่การให้เหตุผล โดยหลงลืมการเข้าใจคนอื่น การใช้ภาษาและอาจรวมไปถึงการเ้ข้าใจตนเอง หลายๆ คนไม่ได้ทำงานกับคน ดังนั้นทักษะอื่นๆ จึงไม่จำเป็นเ่ท่าไหร่ครับ เขาจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาทักษะด้านอื่นๆ เลย เพราะทักษะเพียงเหตุผลอย่างเดียวก็เพียงพอในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน ดังนั้นสิ่งที่คุณ จขกท. ควรทำคือ ทำใจยอมรับซะ แรกๆ ผมก็เหมือนคุณนั่นแหละผมเลยได้ตั้งกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X10902513/X10902513.html ขึ้นมา ตอนนี้ทำใจแล้ว อย่าไปคิดมากครับ สุดท้ายมันก็ทำให้คุณ จขกท. เซ็งงง ในอารมณ์ได้ โดยที่คนอื่นไม่ได้รู้สึก เซ็งงง ไปกับคุณด้วย เพราะบางทีทักษะการเข้าใจคนอื่นนั้น บอดดดด สนิท... ทางที่ดีคุณ จขกท. ต้องฝึกการเ้ข้าใจตนเองก่อน เพราะทักษะนี้จะนำไปสู่การเข้าใจผู้อื่นครับ แล้วจะได้ไม่ต้อง เซ็งงง เหมือนที่ผมเคยเป็น -_-" จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:25:36

ความคิดเห็นที่ 32 ถามจริงๆ ไม่เบื่อเหรอครับกับการเฟคใส่กันตลอดเวลา จะมีสักกี่ที่เชียวที่ทุกคนจะได้พูดกันแบบตรงไปตรงมา ได้คุยกันด้วยเหตุผลล้วนๆ ไม่เอาอารมณ์มาเกี่ยวข้อง แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 54 14:43:44 จากคุณ : Lancaster เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:26:26

ความคิดเห็นที่ 33 อย่าเพิ่งเหมาครับ คนในทุกห้องมีดีมีชั่วต่างกัน   แต่ แต่ละคนก็ใช้อารมณ์กันทั้งนั้น มากน้อย ในแต่ละกระทู้ ที่เบื่อคือ ไม่ตอบ แต่กระแนะกระแหน นี่.. ตุ๊ดจริงๆ เลยไม่รู้ว่าที่กระแนะกระแหนนี่ เอ็งรู้หรือไม้รู้อ่ะ... เซงโพต จากคุณ : Whalephant เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:32:23

ความคิดเห็นที่ 34 มีหัวใจทุกคนครับ ถ้าไม่มีนี่ต้องนอนอยู่โรงพยาบาลใช้หัวใจเทียม ไม่ก็เข้าเฝ้าพระยายมโลกอยู่ครับ จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:37:23

ความคิดเห็นที่ 35 ดูจะเป็นห้องที่จริงใจที่สุดในสามโลกแล้วนะผมว่า คนที่เข้ามาถามคำถามในห้องนี้ก็ล้วนแต่ต้องการรู้ความจริง ไม่ใช่อยากได้คำตอบแบบอ้อมโลก ถ้าอยากได้คนรัก คนเห็นใจ คนสงสาร คนเวทนา คนรู้ใจ ก็มีอีกหลายห้องที่ตอบโจทย์นะ ที่พักนี้ผมสิงห้องนี้เป็นหลักเพราะคนห้องนี้ดูจะรับฟังเหตุผล และยอมรับได้ถ้ามีความเห็นที่ต่างกัน อย่างมากก็แชร์กันว่าคิดต่าง ไม่ถึงกับไล่กระทืบให้จมดินแบบห้องอื่นๆ จากคุณ : omega. เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:37:34

ความคิดเห็นที่ 36 กระทู้นี้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ตรงไหน ? จากคุณ : Sensitive พอยัง? (Firion) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:37:46

ความคิดเห็นที่ 37 ความคิดเห็นที่ 36     กระทู้นี้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ตรงไหน ? จากคุณ : Sensitive พอยัง? (Firion) คิด วิเคราะ หาเหตุผล ทำนายปรากฎการณ์ ไงครับเอะเมื่อก่อนผมเห็นกระทู้ไร้สาระคุณก็ยังตอบเป็นสาระได้นี่นา^^ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:40:46

ความคิดเห็นที่ 38 แต่ผมชอบอ่ะ  ตัด Option ออกมันก็เหลือแต่ Core จากคุณ : Zew เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:42:45

ความคิดเห็นที่ 39 ^ ^ จขกท. เขาออกตัวแล้วครับ ว่าต้มมาม่า จากคุณ : สุกแล้วแหละ (CuSO45H2O) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:42:50

ความคิดเห็นที่ 40 #37 ผมแค่ประชดเล่นๆครับ :P มันเป็นประโยคที่ดูเหมือนจะใช้อารมณ์มากที่สุดของห้องหว้ากอละ 5555+ จากคุณ : Firion เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:46:21

ความคิดเห็นที่ 41 แต่เราเห็นอะไรบางอย่างในห้องนี้นะคะ ท่ามกลางผู้เล่นในห้องทั้งหลาย จขกท ว่า จุดประเด็นมาม่าเราไม่อยากช่วยเสริมเครื่องปรุง เพราะมันเป็นเรื่อง รดน. ตรงจุดนี้ เราเห็นจุดยืนชีัชัดเจน ในห้องนี้ จากหลาย ๆ กระทู้ที่แอบแฝงมานานแรมปี และความเห็น กิ๊ฟ ของอมยิ้มมีชื่อ ที่เลือกให้ฝ่ายไหน เราไม่เหมายกหมดห้องหรอกนะคะ แต่มันก็เยอะจริง ๆ บางทีอาจจะเป็นฝีมือขาจร ที่ไม่มีห้องให้ระบายก็ได้ และเข้ามาระบายที่ห้องอั้บดุลจับฉ่ายของเฉลิมไทย ที่คนเล่นเยอะ คือ หว้ากอฯ แทน (หว้ากอฯ รับเคราะห์) แต่มันไม่ใช่อ่ะ จากคุณ : กุ๊กไก่ไม่ขันมาหาฉันจะกระต๊าก เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:53:39 A:223.206.123.128 X: TicketID:191399

ความคิดเห็นที่ 42 ก็ดูไม่ต้มมาม่านะ เป็นความเห็นสวนทางกับจขกท.ซะหมด =____= จากคุณ : WhitecatCud เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:54:36

ความคิดเห็นที่ 43 ก็เพราะไม่ใช่ Sensitive หรอกเหรอครับ ที่ทำให้ประเทศและโลกนี้เกิดปัญหาตั้งแต่ ปัญหา ปัญหาอ่อน ไปจนถึงระดับประเทศ ตั้งแต่หมาตายยันปัญหาการเมือง ก็เพราะ Sensitive ไม่ใช่เหรอ จากคุณ : เมื่อคืนยังมีอมยิ้มอยู่เลย เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 14:56:11

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบครับ จริงๆ หลายท่านคงรู้ละ ( ยิ่งถ้าพวกตามมาจากประมูลน่าจะรู้ ) ผมเป็นพวกไม่ชอบการต่อสู้แข่งขัน ไม่มีความเป็นนักฆ่า - นักล่าอยู่ในตัวแบบคนอื่นๆ ด้วยเหตุนี้เวลาผมเห็นคนอื่นที่เป็น Loser ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นคนอ่อนแอ คนยากจน คนสติปัญญาน้อย ฯลฯ หลายๆ ครั้งผมเกิดความรู้สึกที่เรียกว่า Sensitive ขึ้นมา แม้ว่าผมจะช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้เลยก็ตาม เนื่องด้วยผมก็เป็น Loser คนหนึ่ง จะให้ผมไปสมน้ำหน้าพวกเดียวกันมันก็คงเป็นไปไม่ได้ ( แม้กระทั่งบางคนที่ผมรู้จัก รู้ทั้งรู้ว่าเขาทำตัวเองทั้งนั้น ผมก็อดสงสารไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง เตือนก็หลายรอบแล้ว บางคนที่ว่านี่มีต้นทุนชีวิตดีกว่าผมด้วยซ้ำไป ) ผมเป็นพวก Romantic บ้าอุดมคติ หัวเอียงไปทางสังคมนิยมนิดๆ อยากเห็นคนทำเพื่อผู้อื่นมากขึ้น อยากเห็นคนแพ้มีที่ยืน ไม่ใช่ถูกเหยียดหยามเป็นขยะไปจนตาย ( หรือไม่ก็ฆ่าตัวตาย หรือก่อกบฏประชดสังคมแล้วติดคุกบ้าง ถูกวิสามัญฯ บ้าง ) ผมจึงเชื่อว่าทุนนิยมทำให้เกิดการแข่งขัน และอะไรที่เกิดการแข่งขันมันต้องมีทั้ง Win และ Lose ( เป็นไปได้น้อยมากที่จะจบด้วย Win Win ทั้ง 2 ฝ่ายหรือทุกฝ่าย ) สังคมยกย่องผู้สำเร็จ ถ้ายกย่องเฉยๆ คงไม่เป็นไร แต่สังคมมักพ่วงด้วยการประณามหยามเหยียดผู้ล้มเหลวว่าโง่บ้าง อ่อนแอบ้าง สิ้นคิดบ้าง ไม่เอาถ่านบ้าง ฯลฯ บลาๆ ต่อให้ผมรู้เต็มอกว่าโลกนี้ไม่มีวันเท่าเทียม ผู้ที่ฉลาดที่สุดจะอยู่รอด ( Natural Selection ) ผมก็อดไม่ได้หรอกครับที่จะไม่พอใจ เวลาที่เห็นใครสนุกกับการต่อสู้แข่งขัน และส่งเสริมที่จะให้มีการแข่งขันมากๆ เพราะผมไม่เคยมองผู้ชนะครับ ตรงกันข้าม ผมมักจะสงสารผู้แพ้เสียมากกว่าด้วยซ้ำไป เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ครับ ปล.แต่ถึงกระนั้น ห้องนี้ก็เป็นห้องหลักที่ผมเข้าทุกครั้งที่เปิดคอมฯ นะเออ ( Paradox ชัดๆ ) จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 15:03:16

ความคิดเห็นที่ 45 ผมมีความsensitive ในอะไรที่มันไม่มีเหตุผล แล้วคนเชื่อหรืออวย ทำให้เรื่องบางเรื่องต้องเสียหาย หรือไม่ดีอย่างที่ควร รู้สึกอยากขจัดความไม่รู้พวกนั้นให้ออกไปจากคนพวกนั้น เพราะมักจะมีคนเตือนคนพวกนั้นก่อนผมแล้ว แต่ถ้าไม่ฟังผมก็จะใช้ความละเอียดอ่อนของผม ใส่คำพูดที่รุนแรงไปซะ ถ้าจริงๆแล้วผมผิด ก็ดีกับผมเองหลังการถกด้วยเหตุและผล เพื่อที่ผมจะได้เข้าใจถูก ในห้องนี้คนหลากหลายนะ หลากหลายมาก และสิ่งที่เป็นจุดรวมกันมากที่สุดกว่าห้องอื่นคือเรื่องการใช้เหตุผลเป็นใหญ่นี่แหล่ะ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 15:06:20

ความคิดเห็นที่ 46 ห้องนี้ออกความเห็นตามความจริงครับ ไม่ได้ออกความเห็นแบบที่คนอยากอ่าน และคนนี้ก็อยากอ่านความเห็นตามความจริง งงไหม จากคุณ : pipek (yukraider) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 15:09:40

ความคิดเห็นที่ 47 ร่วมสนทนามาม่า จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 15:10:12

ความคิดเห็นที่ 48 sensitive ผมก็น่าจะเซ็นซิทีฟ ดูหนังแล้วร้องไห้น้ำตาแตกก็บ่อย (โดยเฉพาะเรื่องหมา ๆ แมว ๆ หรือเรื่องสัตว์โลกทั้งหลาย ) แต่อย่างคลิปนี้ผมเคยวิจารณ์ไปตามที่ผมคิด ผมคิดว่ามันอยากจะผสมพันธุ์ไม่ใช่จะนวดหัวใจให้เพื่อนฟื้น แสดงความเห็นแค่นี้ผมโดนเลย แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 54 15:13:12 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 15:11:33

ความคิดเห็นที่ 49 นักวิทยาศาสตร์ = เชื่อในความจริง เชื่อในความจริง = ไม่โรแมนติค ไม่โรแมติค = ไร้หัวใจ ไร้หัวใจ = นักวิทยาศาสตร์ ซตพ. จากคุณ : Taiyo เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 15:11:45 A:118.172.17.51 X: TicketID:319350

ความคิดเห็นที่ 50 จำกระทู้   "สร้างกระแสวีรบุรุษเพื่อกลบความห่วยแตกของกองทัพ"ที่ได้ขึ้นแนะนำ ของผมได้มั้ยครับ  ถ้าผมมาตั้งกระทู้ว่าเสียใจกับผู้เสียชีวิต   จบก็จบกันไป   เอาเซนซิถีฟอย่างเดียวโดยไม่ฉุกคิดมุมอื่น   สังคมก็นับถือภูตผีแบบสลิ่มต่อไปเถอะครับ   ต่อไปจะได้มีกรณีเก้าอี้ด้ามธงอยู่เนืองๆ จากคุณ : fdX3S เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 15:16:49

ความคิดเห็นที่ 51 เหตุผลอยู่เหนืออารมณ์ อ่านแล้วสนุกดีออก จากคุณ : เจ้าสาวเลือดผสม เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 15:19:56

ความคิดเห็นที่ 52 รู้สึกว่าไม่ค่อยมาม่านะคะ XD ไม่ใช่ขาประจำห้องนี้ค่ะ แล้วก็ไม่ค่อยใช่ขาประจำพันดริ๊ฟด้วย แต่เชื่อว่าห้องนี้ก็ไม่ใช่ว่าไร้ใจกันหรอกค่ะ เพียงแต่เราพยายามใช้เหตุผลในการหาคำตอบมากกว่าการใช้อารมณ์ เพราะหลายครั้งมากที่อารมณ์ทำให้เราไม่เจอคำตอบที่(ดูเหมือนจะ)ถูกต้องที่สุด ส่วนตัวเชื่อว่า คนที่ใช้เหตุผลมากๆ ไม่จำเป็นต้องไร้อารมณ์หรอกค่ะ เราสามารถตัดสินการกระทำหนึ่งว่าผิด ไปพร้อมๆกับสงสารผู้กระทำได้นะคะ ในทางตรงข้าม การกระทำที่ผ่านการตรึกตรองอย่างมีเหตุผลจนถึงที่สุด แม้ว่าต้องผ่านอารมณ์ที่ขัดแย้ง หรือเหตุผลปลอมๆ การกระทำเหล่านี้คือการกระทำที่เรามักยกย่องในอะไร romanticๆ อย่างพวกวรรณกรรมไม่ใช่หรือคะ? อาจจะแปลกสักนิด แต่เราเชื่อว่า ในมุมที่เป็นมนุษย์อันไม่สมบูรณ์ของคนๆนึง เขาสามารถมีมุมที่เป็นทั้ง realist และ romantic ค่ะ >_< ขอบคุณค่ะ จากคุณ : wassery_harp เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 15:27:23

ความคิดเห็นที่ 53 บางทีผมเข้าไปอ่านเฉลิมไทยแล้วก็ละเหี่ยใจครับ อะไรจะมาม่าได้ขนาดนั้น กับแค่เรื่องหนังและละคร กลับมาห้องนี้สบายใจกว่า ถึงจุดหนึ่งที่คุณเห็นโลกมามากๆ แล้วคุณจะชินชาไปเหมือนกัน ชินชาไประดับหนึ่งก็มาอยู่ที่นี่ ชินชามากกว่านี้คงต้องไปห้องศาสนา จากคุณ : นาย X-MAN เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 15:45:41

ความคิดเห็นที่ 54 จขกท. ทุนนิยมมีทฤษฎี GAME ไงครับ ไม่ต้อง Win-Lose แต่เป็น Win-Win (จริงๆควรเป็น Lesser win-Lesser lose) จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 15:54:11

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่ Sensitive แต่มีลักษณะเด่นคือ มีบาง คห. แปลกดี สำรอกอะไรออกมาก็สรุปเองเออเองว่าเป็นความจริง แล้วชอบอ้าง Free Speech ทั้งๆที่เป็นแค่คำใส่ร้ายโดยปราศจากหลักฐาน จากคุณ : Mdiic~* เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 15:54:25

ความคิดเห็นที่ 56 คห.54 ถ้าทุกเรื่องทำให้เป็น Win Win ( คำโบราณคงประมาณ " ถอยคนละก้าวเพื่อประโยชน์ส่วนรวม " ) ได้ก็ดีสิครับ แต่ในความเป็นจริงหาได้เป็นเช่นนั้นแต่อย่างใด ชัยชนะส่วนใหญ่เป็นแบบ Win - Lose เสียมากครับ จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 16:10:10

ความคิดเห็นที่ 57 คนนึงคนสวมหมวกหลายใบนะครับ ถ้าสวมหมวกวิชาการ  แล้วจะให้คุยไปน้ำตาไหลพรากไป  ก็ไม่ใช่แระ หรือคุยเรื่องระบบสืบพันธ์ของวัยเจริญพันธ์ของประเทศเขตร้อน   และจะให้คุยไปสาวแหนมไป (ก็เซนซิทีฟไง  กระตุ้นง่าย)  ก็ไม่ใช่อีก ขึ้นกับ space-time กาลเทศะครับ จากคุณ : apollo14 เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 16:19:03

ความคิดเห็นที่ 58 win lose ในสายตาเจ้าของกระทู้เท่านั้นครับ จริงๆแล้ว กติกาของทุนนิยมปัจจุบัน จะทำให้ทุกคนวินมากที่สุด และเสียน้อยที่สุด บางที คนที่เสีย ก็คือคนที่ วิน วิน เช่นกัน แต่วิน น้อยกว่า เคยอ่านการ์ตูนเรื่องฮิคารุมั้ย การที่เรามีคู่แข่งที่ทัดเทียม เพื่อพัฒนาตัวเอง ให้เข้าไปสู่หัตเทวะอีกก้าวนึง คนที่ไม่คิดจะก้าว ไม่คิดจะทำอะไร แต่อยากได้อยากมีแบบคนอื่นเค้า อันนี้คือ อุดมคติ จขกท รึครับ ทั้งที่จริงก็มีสวัสดิการ พฐ ให้เรียบร้อย จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 16:24:04

ความคิดเห็นที่ 59 ไม่ใช่ขาประจำ แต่ผมชอบบรรยากาศของห้องนี้ครับ แม้ว่าบางที ผมอ่านเจอหลายคนที่ตอบได้ไร้มารยาทมาก แต่ก็เป็นการถกเถียงด่วยความจริงอย่างนึง จากคุณ : นิว ชะลาล่า เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 16:25:33

ความคิดเห็นที่ 60 ความคิดเห็นที่ 55 ผมว่าพวกหลับหูหลับตาเชื่อแบบสลิ่มน่าเบื่อกว่านะครับ จากคุณ : fdX3S เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 16:33:33

ความคิดเห็นที่ 61 คห.58 คนเราที่กระโจนเข้าสู่โลกแห่งการแข่งขัน ไม่ว่าจะด้วยเต็มใจหรือไม่เต็มใจ เขาจะบรรลุเป้าหมายนั้นทุกคนหรือเปล่าละครับ ใช่ว่าคนส่วนใหญ่เป็นพวกไม่อยากทำอะไรแต่อยากมีอยากเป็น คนไม่น้อยลงมือทำ แต่ไม่ว่าด้วยอะไรก็ตาม ผู้ชนะย่อมมีน้อยกว่าผู้แพ้ คนที่อยู่สูงย่อมมีน้อยกว่าคนที่อยู่ต่ำ ทำไมคนบางคนคิดได้ แต่ใครอีกหลายๆ คนคิดไม่ได้ นั่นคือข้อแตกต่างใช่หรือไม่? ประวัติศาสตร์มีแต่จะทับถมคนแพ้ เชิดชูคนชนะ ไม่ว่าลึกๆ แล้วชนะด้วยเหตุใด แพ้ด้วยเหตุใดก็ตาม มันน่าสนุกตรงไหนครับ โลกแห่งความจริงมีแต่การดุถุกกันครับ หายากที่ผู้แ้พ้จะได้รับคำชมเยี่ยงผู้ชนะครับ มันไม่เหมือนในการ์ตูนหรือนวนิยายหรอกครับ จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 16:34:48

ความคิดเห็นที่ 62 คนห้องนี้ไม่ใจร้ายหรอก แค่มองกันที่ "ความจริง" แค่นั้น (ซึ่งจะจริงแค่ไหนนั่นอีกเรื่องนึง) จากคุณ : เศียรนาคา ... เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 16:42:11 A:125.24.78.130 X: TicketID:255126

ความคิดเห็นที่ 63 หืมมม..ธีกระธู้แนววิดไม่คิดจะตอบ แต่กระธู้ธดสอบตอบกันบาน แสดดดดดดดดด จากคุณ : มุดสลัม sillyfoo เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 16:51:37 A:110.169.121.218 X: TicketID:267004

ความคิดเห็นที่ 64 Only The Strongest Will Survive "These days you've got to kill yourself just to stay alive" บางครั้งเราก็ต้องทิ้งตัวตนของตัวเองไปเพื่อทำในสิ่งที่ควรทำ บางครั้งเราก็ต้องทำสิ่งที่ควรทำ ทั้งที่เราไม่อยากทำมัน นักวิทยาศาสตร์ ก็เหมือนกัน ถ้าใช้อารมณ์เหนือเหตผลเมื่อไหร่ งานก็พังเมื่อนั้น เพราะอารมณ์จะทำให้เรามีความลำเอียง (bias) เกิดขึ้น จากคุณ : Maki Roll เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 16:52:37

ความคิดเห็นที่ 65 คนมีเหตุมีผล กับคนมีความรู้สึก คนเดียวกันได้ครับ คนที่พูดว่าตัวเองเป็นคนที่มีความคิด เป็นคนที่สนใจวิทยาศาสตร์ และคิดว่าการที่มีความคิด เป็นคนที่มีแนวทางทางวิทยาศาสตร์ ต้องไม่มีความรู้สึกนั้น เป็นตรรกะที่แปลกมากครับ มันไม่ได้เกี่ยวกันเลยครับ หรือเวลาที่เรารู้ว่าใครจะตาย จะต้องบอกว่า อย่าไปเสียเวลารักษาเลย ตายแน่นอน แบบนี้หรือครับ โดยปกติ แม้คนที่จะตาย ถ้ารู้จักพูดให้คนคลายความทุกข์ และใช้เวลาให้มีค่า ด้วยความรู้สึกร่วมกันกับคนที่มีความทุกข์ แบบนั้นก็ไม่ได้ทำให้วิทยาศาสตร์ผิดเพี้ยนไปมั้งครับ นั่นล่ะครับ ความเป็นจริง ระหว่างคำว่ามีเหตุมีผล กับมีความรู้สึก ซึ่งไม่ได้ขัดแย้งกันเลย การต้องพูดตรงไปตรงมา โดยไม่แคร์ความรู้สึกคน มันวิทย์ตรงไหน เราสอดแทรกความมีเหตุผลด้วยความรู้สึกที่ดี เพื่อสื่อสารให้คนเข้าใจได้ง่ายขึ้นได้ครับ และเรื่องราวที่พิสูจน์ยังไมได้ แนวคิดที่ไม่ยืนยัน ก็ยังเป้นสิ่งที่อ่อนไหว และไม่ใช่ว่าพอพิสูจน์ไม่ได้ มันต้องไร้สาระครับ ถ้ายึดถือตนเป็นคนมีเหตุมีผล แต่ไม่ยอมรับสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ ไม่ว่าจะเรื่องใดๆ นั่นก็ไม่ใช่วิทย์เช่นกันครับ โดยสรุปแล้ว ผมไม่คิดว่าคนมีเหตุมีผล หรือมีแนวความคิดเป็นวิทย์ จะเป็นคนอ่อนไหว หรือเข้าใจความรู้สึกคนอื่น ในเวลาเดียวกันไม่ได้ครับ จากคุณ : I_AM_Y (I_am_y) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 16:54:31

ความคิดเห็นที่ 66 ความจริงก็คือความจริง เหตุผลไหนมีตรรกะ มันก็มีเหตุผลแ้ม้มันจะเป็นความจริงที่คุณไม่อยากฟังก็ตาม มันจะวุ่นวายก็เมื่อมีการโจมตีกันแบบตรรกะวิบัติ โดยที่ไม่สามารถอธิบายอย่างมีเหตุผลได้ว่า ทำไมถึงไม่เห็นด้วยกับคคห.ของอีกฝ่าย นั่นแหละครับ ดราม่าจึงบังเกิด จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 16:55:25

ความคิดเห็นที่ 67 เพราะต้องแคร์ความรู้สึกคนอื่นเนี่ยแหละ ในบางครั้งเราก็ทำร้ายคนอีกคนเหมือนกันนะครับ สังคมเราซัพพอร์ตความรู้สึกคนแค่บางกลุ่มโดยใช้หลายมาตรฐานในการให้คะแนนในการช่วยเหลือ. จากคุณ : ด้านมืดในใจคุณ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 17:02:57

ความคิดเห็นที่ 68 ตอบ 65 อย่างนั้นเรียกตรรกะวิบัติแล้วครับ เมื่อมีคนถูกยิง ต้องตั้งสมติฐานเลยครับว่าถูกยิงแล้วจะตาย พอต้องมติฐานแล้ว ทำการรบวบรวมข้อมูล ทำการวิจัย ถ้าเวลาวิจัยไม่พอ ค้นหางานวิจัยที่ คนอื่นทำไว้ เสร็จแล้วทำการรักษา สรุป ยังไม่จบนะครับ ที่นี้ต้องศึกษาหาแนวโน้มทำไมถูกยิง สาเหตุที่ถูกยิง เพื่อพยากรณ์เหตุการณ์ในอนาคต จะได้ บรรยาย อธิบาย เกี่ยวกับการถูกยิงได้ การวิจัยบางอย่างต้องใช้การสังเกตุนะครับ การสังเกตุเพื่อดูพฤติกรรมนั้นข้อห้ามคืออย่าไปเข้ากลุ่มกับกลุ่มตัวอย่างเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้เกิดความโน้มเอียงในการเป็นสมาชิกของกลุ่มได้ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 17:15:09

ความคิดเห็นที่ 69 สนับสนุนแนวคิดครับ เสริมด้วยว่ามีพวกปัญญาอ่อนคลั่งในหลักการ มากขึ้นเรื่อยๆ (ผลพลอยได้จากเด็ก Gen D ) ที่โตขึ้นกว่าปัญญาและความสามารถ จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 17:39:01

ความคิดเห็นที่ 70 Sensitive เหมือนกันนะครับ ตรงที่หัวใจไง จากคุณ : Akexorcist เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 17:49:54

ความคิดเห็นที่ 71 69 อธิบายเพิ่มซิครับถ้าอธิบายไม่ได้ว่า Gen D คลั่งในหลักการคืออะไรไม่ได้ แสดงว่าไม่มีความรู้ในสิ่งที่พูดมันจะย้อนเข้าตัวนะครับแล้วจะดูแย่กว่าคนที่ไม่มีหลักการเลย แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 54 18:05:06 จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 17:58:27

ความคิดเห็นที่ 72 บางคนก็มีความคิดเป็นแบบนั้นจริงๆ แต่บางคนก็แกล้งทำเป็นมีความคิดแบบนั้น  เพื่อให้ตัวเองดูฉลาดเหนือคนอื่น จากคุณ : AwayG.com เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 18:00:55

ความคิดเห็นที่ 73 ...หัวข้อน่าสนใจ...โหวตให้ถกต่อในอาทิตย์หน้าด้วยนะ... จากคุณ : gunpen2010 เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 18:15:19

ความคิดเห็นที่ 74 มนุษย์ใช้เหตุผลเป็นหลัก อารมณ์เป็นแค่ฉากหน้าของความคิด ที่ซ่อนเหตุผลอยู่เบื้องหลัง จากคุณ : โลกที่แล้วต่อโลกนี้และโลกหน้า เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 18:16:38 A:124.120.66.125 X: TicketID:322411

ความคิดเห็นที่ 75 วาทกรรม การแสดงออก เป็น เครื่องมือส่งผ่านความคิด จากคุณ : โลกที่แล้วต่อโลกนี้และโลกหน้า เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 18:21:57 A:124.120.66.203 X: TicketID:322411

ความคิดเห็นที่ 76 ใครบอกห้องนี้ไม่ sensitive ลองตั้งกระทู้โรงไฟฟิานิวเคลียร์ดูสิ จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 18:23:27

ความคิดเห็นที่ 77 ไม่ใจร้ายหรอกครับ ... เนี่ย เดี๋ยวก็ต้องไปรอรับละครเรื่องใหม่ น้องญาญ่า ห้องเหลิมไทย ทั้งๆ ที่เมื่อคืนนี้ ก็เพิ่งร้องไห้กับตอนจบ เพลิงทระนง ไปเอง ไหนยังจะต้องไปช่วยทำหมัน ฉีดวัคซีน หาแมวหาย ที่ห้องแมว ต่ออีก จากคุณ : Tiggy-ข้าวหอม เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 18:41:37

ความคิดเห็นที่ 78 บางเรื่องใช้หัวใจดูมันก็หลงอยู่ในเขาวงกตนั่นล่ะครับ ลองทิ้งหัวใจอันหนักอึ้ง บินไปมองจากมุมมองด้านบนดูสิครับ บางทีทางออกมันก็ง่ายกว่าที่คิด ไอ้กอนหินหนัก ๆ ที่เรียกว่าหัวใจน่ะ บางครั้งก็ไม่รู้จะแบกไว้ทำไม จากคุณ : devil amature2 เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 18:42:08 A:124.120.240.185 X: TicketID:321081

ความคิดเห็นที่ 79 ผมขอแย้งนะครับ ที่บอกว่า คนในห้องนี้ใช้ เหตุผลมากกว่าอารมณ์ เห็นในห้องนี้ รวมถึงในกระทู้นี้บางคน คุยๆสักพัก วกเข้าการเมือง เรื่องความชอบ ความเชื่อ ซะนิ จากคุณ : durasail เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 18:46:50 A:58.11.14.68 X: TicketID:308748

ความคิดเห็นที่ 80 #69 ผมกลับเบื่อพวกฟูมฟาย Romanticist เอามากๆ คิดอะไรไม่ค่อยเป็นเหตุเป็นผล ถามหาเหตุผลไม่ค่อยได้ตอบไปว่าเป็นเรื่องของใจซะงั้น (สงสัยเพราะหาเหตุผลไม่ออก) ได้แต่หวังว่าจะได้เห็นยุค Enlighten ในประเทศไทยบ้าง เอาให้ไม่แพ้ยุโรปเลย จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 19:04:28

ความคิดเห็นที่ 81 ที่วุ่นวายกันเกือบทุกเรื่องก็เพราะ sensitive กับ romantic กันไม่เข้าท่านั่นแหละ จริงๆ ผมอยากให้ที่นี่ใช้เหตุผลค้นหาความจริงกันมากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ก็ันั่นแหละ บางที ความรู้สึกกับอารมณ์ขันมันก็จำเป็นกับการวิเคราะห์แบบวิทยาศาสตร์เหมือนกัน จากคุณ : สันป่าตอง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 19:22:17

ความคิดเห็นที่ 82 พุ่งไป 80 กว่าความเห็นแล้วโหวตเลยดีกว่า จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 19:29:46

ความคิดเห็นที่ 83 ความคิดเห็นที่ 60 นั่นสิครับผมเลยยังไม่เชื่อไง ว่าแต่บอกผมทำไมเหรอ จากคุณ : Mdiic~* เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 19:34:31

ความคิดเห็นที่ 84 กระบวนการณ์ทางวิทยาศาสตร์ต้องตัดความรู้สึก ความคิดเห็นส่วนตัวออกไปให้ได้มากที่สุดครับ  เพราะถ้าเราใส่ความรู้สึกลงไปในงานมากอาจจะทำให้เราอ่านผลการวิจัยแบบเข้าข้างตัวเองทำให้ข้อมูลที่ออกมาไม่เป็นจริงได้ครับ แบบที่ 69 อธิบายนั่นละครับ วิธีคิดตามวิทย์ก็ตามนั้น  แต่เรื่องความรู้สึกเป็นอีกเรื่องครับ มันคนละอย่างกัน จากคุณ : pvman65 เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 19:38:29

ความคิดเห็นที่ 85 มาม่าถ้วยนี้อร่อยดีแฮะ... จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 19:38:41

ความคิดเห็นที่ 86 คห.80 ถ้าว่าด้วยหลักเหตุผล มันก็ตรงกันข้ามกับหัวใจอยู่แล้วครับ แต่โลกที่ไร้ใจ มันน่าอยู่จริงๆ หรือ? โลกที่ต้องแย่งชิง ผู้ชนะเท่านั้นที่มีสิทธิ์อยู่รอดน่ะ? จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 19:40:25

ความคิดเห็นที่ 87 ไม่จริงครับ ผมชอบชาเย็น แต่ไม่เย็นชา จากคุณ : Tarogril เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 19:45:32

ความคิดเห็นที่ 88 ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ที่เหลือเป็นเรื่องของถูกใจหรือไม่ถูกใจ คนบางคนเลือกปฏิเสธความจริงเพียงเพราะความจริงนั้นไม่ถูกใจ แล้วปัญหาก็จะเริ่มก่อตัวจากจุดนั้น... จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 19:50:24

ความคิดเห็นที่ 89 "พวกโลกสวย" ... ผมไม่ชอบคำพูดนี้เท่าไหร่ครับ ดูจะประชดประชันกันเกินไป ... แต่อย่างว่า คนเราต้องอดทนครับ จากคุณ : Staphylococcus aureus เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 19:51:58

ความคิดเห็นที่ 90 คห.89 ผมไม่รู้ว่าคุณประชดประชันใครนะครับ แต่ที่คนเราอยู่กันได้ จริงๆ แล้วเหตุผลไม่ใช่ปัจจัยหลักเลยครับ ความเชื่อต่างหากที่เป็นปัจจัยหลัก - เชื่อว่ารักแท้มีจริง ( ถ้าเอาเหตุผลมาจับ มันจะกลายเป็นว่าความรักไม่มีจริง มีแต่การสมประโยชน์ระหว่างกันเท่านั้น ไม่ว่าจะด้านความพอใจในกามรส ฐานะ เงินทอง ฯลฯ บลาๆ ) - เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ( ถ้าเอาเหตุผลมาจับ จะพบว่าไม่แน่เสมอไป ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยต่างๆ อีกมากมาย เช่นกาลเทศะ ชุมชน บุคคล ฯลฯ ) แค่ 2 เรื่องนี้ก็แตกกระจายไ้ด้อีกนับไม่ถ้วนแล้วครับ เรื่องบางเรื่องแม้ไม่ใช่ความจริงบริสุทธิ์ ( หมายถึงจริงบ้างเท็จบ้าง ) แต่สิ่งเหล่านี้ก็เป็นความหวัง เหมือนบ่อน้ำในโอเอซิสกลางทะเลทราย ที่หล่อเลี้ยงให้นักเดินทางบนทะเลทรายโลกจริงที่โหดร้าย ดำรงชีวิตอยู่้ได้ครับ จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 19:58:29

ความคิดเห็นที่ 91 ว่าหละสิ จีบสาวคณะทางสายวิทย์ ยากกว่า จีบสาวทางด้านศิลป์ จากคุณ : hydro_switch เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:02:21

ความคิดเห็นที่ 92 ตอบ 86 ไม่ถึงกับไร้หัวใจหรอกครับ แค่ตัดความสัมพันธ์ความรู้สึกส่วนตัวออกเพื่อไม่ให้เป็นตัวแปรจนได้ข้อมูลอันเป็นเท็จมา เหมือนกับเราขายของนั่นละครับ มัวไปสงสารลูกค้าเพราะขายแพงเราจึงใส่อาหารมากขึ้น จนทำให้ร้านเจ๊งได้เพราะลืมคำนวนรายจ่ายส่วนอื่นมากกว่าแค่ค่าอาหาร 1 จาน แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 54 20:22:45 จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:06:11

ความคิดเห็นที่ 93 คนเราต้อง Sensitive ครับ ผมเชื่ออย่างนั้น ผมยังนึกถึงสังคมที่สมาชิกหยิบเหตุผลอย่างเดียวมาถกกันไม่ออกเหมือนกัน มีอารมณ์เจือบ้าง ไม่มากก็น้อย การที่ไม่นำอารมณ์มาร่วมในการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นย่อมดีแน่ เกิดประสิทธิภาพดี ไม่มีการทะเลาะกันแน่ ... แต่ถ้าทำอย่างนั้น ก็ดูเหมือนว่ายิ่งจะห่างจากคำว่ามนุษย์ยิ่งขึ้นครับ ... และคำว่า"โลกสวย"ที่ผมกล่าว ก็คือคำที่คนกระแนะกระแหนคน Sensitive ไม่ใช่หรือ? นั่นคือเหตุผล ที่ผมไม่ชอบคำคำนี้อย่างไรละครับ :) จากคุณ : Staphylococcus aureus เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:09:13

ความคิดเห็นที่ 94 แน่ใจหรือว่าสังคมที่ไม่ Sensitive จะเป็นสังคมที่ห่างจากความเป็นมนุษย์? คุณเคยอยู่ในสังคมอย่างนั้นหรือเปล่า? คุณเคยเจอสังคมอย่างนั้นหรือเปล่า? หรือมันเป็นเพียงแค่จินตนาการที่เกิดจากความกลัวสิ่งที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น? จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:16:29

ความคิดเห็นที่ 95 คนห้องนี้เหรอเย็นชา  ไม่มีชีวิตชีวา    เห็นกรี๊ดกลัวหนอน   กลัวแมงมุม  กลัวแมลงสาบกันเยอะแยะไป  แล้วก็ใจบุญไม่ต่างจากคนห้องอื่น    ก็เป็นคนปกติเหมือนห้องอื่นๆนี่นา จากคุณ : ศศิวิมล เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:17:01

ความคิดเห็นที่ 96 คห.94 ไม่ต้องเจอ แค่จินตนาการก็พอจะมองออกถึงภาพรวมแล้วครับ ถ้าว่าด้วยเหตุและผลล้วนๆ ผมถามว่าเราจะปกป้องคนที่ด้อยกว่าไปทำไมครับ? จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:19:02

ความคิดเห็นที่ 97 คนเย็นชามันก็เหมาะกะห้องเย็นชาๆๆ อย่างนี้แหละ ชิ ..... (อย่าถามเหตุผล อารมณ์ชะนี...เคป่ะ) จากคุณ : อินเตอร์นะคะน่ะ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:28:38

ความคิดเห็นที่ 98 มันขึ้นอยู่กับคุณตอบกระทู้เกี่ยวกับอะไร คนในนี้ก็คนครับ มี รัก โลภ โกรธ หลง และ เกรียน จากคุณ : น้ำเต้าหู้นมสด เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:29:44

ความคิดเห็นที่ 99 ก็ห้องวิทย์ นี่ครับ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:30:20

ความคิดเห็นที่ 100 ^ ^ เหตุผลเยอะแยะ ผมจำได้ว่าเคยตอบคำถามนี้ไปทีนึงแล้วนะที่ห้องสมุด ลองไปค้นๆมาดูแล้วกัน เหตุผลด้าน Optimization ของสังคมมีหลายเหตุผล ถ้าจะให้ตอบสั้นๆคือเพื่อเสถียรภาพของสังคมโดยรวม ป.ล. แล้วจะเชื่อได้ยังไงว่าจินตนาการจะกลายเป็นความจริง ถ้าอย่างนั้นผมก็จินตนาการได้ว่าสังคมที่พูดคุยกันด้วยเหตุผลก็คือสังคมของปราชญ์ ที่คนเราต่างพูดในสิ่งที่คิด รับฟังในสิ่งที่คนอื่นพูด ไม่ถือฐิถิมานะ ตัดสินปัญหาด้วยเหตุและผลไม่ใช่อารมณ์ไม่ฟูมฟาย ลองนึกดูถ้าการประชุมสภาผู้แทนราษฎรคุยกันด้วยเหตุผลประเทศไทยจะไปไกลขนาดไหน? อะไรที่ดีฝ่ายค้านก็เห็นด้วย อะไรที่ไม่เหมาะสมฝ่ายรัฐบาลก็ท้วงติง ออกจะเป็นสังคมในอุดมคติมากกว่าสังคมอุดมเส้นสาย (ที่บอกว่าใช้ใจไง) มักง่าย ไม่เคารพกฎหมาย หละหลวม คุกมีไว้ขังคนจนกับหมา อะไรประมาณนี้เสียอีก จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:33:06

ความคิดเห็นที่ 101 ผมรักสัตว์นะ แต่ถ้าบางครั้งมันเยอะเกินเช่น โครงการช่วยหมาโดนรถชน ที่เห็นเป็น event ของ pantip (วันก่อนเพียบเลย) แบบนี้ก็ไม่ไหว หมามันโดนชนทุกวันแหละ เอาเงินไปช่วยคนด้วยกันดีกว่าไหม ?? จากคุณ : AIScript เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:41:03

ความคิดเห็นที่ 102 #96 อนุรักษ์เอาไว้ครับ คงความหลากหลายเท่าที่สามารถทำได้ ไม่ให้ลักษณะบางอย่างสูญพันธุ์ไป จากคุณ : โลกที่แล้วต่อโลกนี้และโลกหน้า เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:41:56 A:124.120.66.185 X: TicketID:322411

ความคิดเห็นที่ 103 หากไม่มี Empathy เลย สังคมมนุษย์ก็จะล่มสลาย เป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะอยู่อย่างโดดเดี่ยวเห็นแก่ตัว ทำทุกสิ่งที่ตนปรารถนา โดยเหยียบย่ำเอาเปรียบผู้อื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิงในทฤษฎีเกม เราช่วยเหลือผู้อื่นเพื่อความเสถียรภาพของสังคม ซึ่งสุดท้ายเป็นผลดีต่อตัวเราเอง ในฐานะที่เป็นสิ่งมีชีวิตอ่อนแออย่างมนุษย์ เราจะมีชีวิตรอดอยู่ได้สักกี่น้ำหากอยู่ตัวคนเดียวไม่ช่วยเหลือผู้อื่น และหากเราเลือกปฏิบัติดีต่อผู้ที่เหนือกว่าหรือเท่าเทียมเท่านั้น เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าผู้ที่เหนือกว่าไม่คิดแบบเดียวกับเรา ซึ่งสุดท้ายเราก็จะได้ประโยชน์น้อยมาก ดังนั้น หนทางที่ดีกว่าคือแบ่งปันทรัพยากรให้ผู้อื่นในสังคมอย่างไม่เกี่ยงงอน (You scratch my back and I'll scratch yours) เชื่อว่า หว้ากอไม่ได้ถกเถียงกันอย่างไร้หัวใจ แต่เราอธิบายเรื่องที่ดูเหมือนใช้หัวใจด้วยเหตุผล จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 20:49:42

ความคิดเห็นที่ 104 มองตามความเป็นจริงจะได้เข้าใจ และแก้ปัญหาได้ตรงจุดครับ ชอบกระทู้นี้ครับ ตั้งคำถามได้ดีเพราะผมรู้ว่าจะได้เห็นคำตอบตรงไปตรงมาแบบวิทยาศาสตร์ จากคุณ : anti-capitalism (knopsod) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 21:01:56

ความคิดเห็นที่ 105 . . ตอนผ่าหนูทดลอง (เคยต้องควงควงทุบเองด้วย) ก็สงสารนะคะ แต่ก็ต้องทำไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายกรีดกรายอะไร... พอเดินออกมานอกห้องเจอน้องหมาน้องแมวใต้คณะก็ให้อาหารกิน แบบนี้เรียกมีหัวใจหรือเปล่าคะ จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 21:04:02

ความคิดเห็นที่ 106 ผมชอบห้องนี้นะครับ หลายครั้งก็ดูว่าเหมือนไม่เข้าท่า แต่โดยร่วมแล้วก็ใช้ได้ หลักๆที่ชอบคือการใช้เหตุผลของห้องนี้ หลายคนก็ถือคติว่า "น้ำเชี่ยวอย่างขวางเรือ" แปลว่า กระแสแรงก็ต้องตามน้ำ ซึ่งผมไม่เห็นด้วย ผมนั้นถือคติว่า "ปลาตายเท่านั้นที่ลอยตามน้ำ" ในบางกระทู้ แค่เห็นหัวเรื่อง ห้องอื่นนั้นพร้อมจะเออออ และเห็นดีเห็นงามไปซะหมด ขณะที่ถ้ามาโพสหว้ากอ จะมีคำว่า "จริงหรือเปล่า", "ขอดูหลักฐาน" ตั้งแต่ความเห็นแรกๆเลยด้วยซ้ำ (กระทู้โลกร้อนเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรื่องนี้) ซึ่งเป็นข้อดี ทำให้เรารู้จักคิดเสียก่อนที่จะปักใจเชื่อ ห้องสมุดก็เป็นอีกห้องที่ผมชอบ เนื่องจากมีผู้รู้จริงอยู่มากมาย กระทู้ที่ตั้ง โดยอาศัยความรู้อันผิวเผิน ขาดการใช้เหตุผล แต่อาศัยโหนกระแสเข้าว่า มักจะต้องยอมแพ้ต่อผู้รู้ในห้องหว้ากอ และห้องสมุดอยู่เสมอ และกระทู้สุดโปรดในห้องนี้ ก็คือ กระทู้"ตรรกะวิบัติ" เป็นกระทู้ที่แสดงให้เห็นว่า เรามีวิธีการที่จะหลบหนีจากความเป็นจริงได้อย่างไรบ้าง แสดงให้เห็นว่า เราช่างมีเล่ห์กลในการปฏิเสธความจริง กระทู้นี้ ควรแก่การเสียเวลานั่งอ่านเป็นอย่างยิ่ง ใครว่างๆขอแนะนำลองหามาอ่านนะครับ จากคุณ : ธัมมนันทิ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 21:07:31

ความคิดเห็นที่ 107 ......จะ sensitive กับพวกใช้เรื่อง"ศรัทธา" กับ"ความรู้สึก"ของมนุษย์ หาผลประโยชน์เข้าดัว (เล่นกับความรู้สึกความศรัทธาคนอื่น นี้........จริงๆ  ผลประโยชน์มหาศาล) จากคุณ : takatin เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 21:15:02

ความคิดเห็นที่ 108 ผมไม่เคยเจอจริงๆ และผมก็จินตนาการไปอย่างนั้นจริงๆครับ จากคุณ : Staphylococcus aureus เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 21:15:41

ความคิดเห็นที่ 109 #90 ไอ้ความเชื่อสองเรื่องที่คุณว่ามานั่น...ไม่มี ผมก็อยู่ได้นะ(สงสัยผมจะไม่ใช่คน) ผมไม่เคยเชื่อว่ารักแท้มีจริง อาการ"ปิ๊ง"ก็คือความกระสันอยากร่วมเพศกับผู้ที่หน่วยพันธุกรรมเหมาะสมที่จะสร้างลูกหลานที่มีโอกาสจะรอดชีวิตสูงกว่าเรา ก็แค่นั้น (ถ้าถามว่าคนแต่งงานมาอยู่บ้านเดียวกัน ใช้ชีวิตร่วมกันทำไม ก็คือจะได้ร่วมเพศกันได้สะดวก เพิ่มจำนวนครั้งให้มาก เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์) ส่วนทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่เคยเชื่ออยู่แล้ว ผลต่างๆมีปัจจัยมากมายมาเกี่ยวข้องเยอะเกินไปจนเรียกว่าเป็นrandomได้ มากกว่าจะเป็นกฏตายตัว ความเชื่อน่ะ อย่างไรก็มีในมนุษย์ครับ เพียงแต่คนที่คิดแบบวิทยาศาสตร์จะไม่ได้มีความเชื่อหรือค่านิยมที่ตรงหรือคล้ายคนอื่นที่ไม่ได้คิดแบบวิทยาศาสตร์เท่านั้นเอง จะเรียกว่าไร้หัวใจก็ได้ ผมเองก็ไม่ได้เห็นว่าการมีหัวใจจะทำให้ชีวิตใครดีขึ้น อย่างไรเสีย มนุษย์ย่อมเชื่อในสิ่งที่ตัวเองอยากเชื่อ แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ตาม จากคุณ : Zeichnung เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 21:22:50

ความคิดเห็นที่ 110 เอ่อ..... เราว่าถ้าคนเราใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล อารมณ์มันไม่แน่นอนมันไม่มีความสุขหรอกค่ะ ถ้าเราเคารพเหตุและผลแต่มันช่วยรักษาความสงบสุขและแก้ไขปัญหาของสังคมได้เยอะกว่าอารมณ์นะ จากคุณ : Pride เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 21:23:03

ความคิดเห็นที่ 111 ห้องนี้ก็มีหัวใจนะคร๊าบบบบบ อ่อนไหวเหมือนทิวลิป อ่อนโยนเหมือนฮิปโปตัวแม่ แต่เราแสดงให้เห็นเฉพาะสิ่งที่เปนจริง และพิสูจน์ได้นะขอรับ จากคุณ : โอ๊ะเอ๊ะ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 21:29:09

ความคิดเห็นที่ 112 เชิญกลับห้องครับ จากคุณ : ดอกไม้เล่าเรื่อง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 21:37:28

ความคิดเห็นที่ 113 คห.111 รูปใน คห.ของท่านเป็นไปเพื่อความกระสันตาม คห.109 ครับ หาใช่หัวใจหรือรักแท้ไม่? จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 21:40:02

ความคิดเห็นที่ 114 การมองโลกตามความเป็นจริง มันช่างเย็นชาและไร้หัวใจ ทั้งๆที่หลายครั้งที่ผมเข้ามา pantip เพื่อมาหาความรู้และข้อมูลในเรื่องบางเรื่องที่ผมจำเป็นต้องรู้จริง หรือมันเกี่ยวข้องกับชีวิตของผม แต่ทุกๆครั้งที่ผมเข้ามาตั้งคำถาม จะต้องแวะเข้ามาอ่านกระัทู้ใน หว้ากอนี่ทุกที่ ทั้งๆที่กระทู้ที่ผมเข้าไปอ่าน ไม่มีเรื่องที่ผมจำเป็นต้องรู้ แต่ก็ทำให้ผมอยากรู้ และหลายๆกระทู้ที่ผมเข้าไปอ่าน ไม่ใช่เรื่องที่ผมอยากรู้ แต่ผมกลับเข้าไปอ่านเพราะอยากได้ข้อมูลและแง่คิดในมุมมองของชุมชนหว้ากอ บอกตรงๆที่ผมเข้ามาใน หว้ากอไม่ได้ชื่นชอบวิทยาศาสตร์แต่เพียงอย่างเดียว แต่ผมติดใจในรสภาษาของชาวหว้ากอ คำตอบหรือแม้กระทั่งคำถาม ของชุมชน หว้ากอแห่งนี้ไม่เหมือนใครจริงๆ จากคุณ : npn เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 21:57:51

ความคิดเห็นที่ 115 รักตัวเองให้เป็นก่อนทีจะคิดไปรักคนอื่นเหอะ ความจริงที่ต้องยอมรับในการอยู่บนโลกใบนี้คือ "โลกมันเป็นสีเทา" ความขาว / ตำ ชอบ / ไม่ชอบ ที่เราเห็นเป็นเพียงแค่ปริมาณสัมพัทธ์ (เกิดจากการเปรียบเทียบ) เช่น.. ขาวกว่า ดำกว่า.. อะไรอย่างนี้ โลกนี้ไม่มีอะไรแบบ "ขาว / ดำ / ดี / เลว ที่สุดในสามโลก" อย่างที่เค้าพูดกันหรอก เรื่องเวลาก็เช่นกัน.. เช่นบอกว่า "ตอนนี้สิบโมงเช้า" ก็ต้องระบุว่า.. เวลาที่ไหน ไทย จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น อียิปต์ ฯลฯ เรื่อง "ความสุดโต่ง" เพลาๆ บ้างก็ได้ เอาเวลาไปทำมาหากิน หรือ พัฒนาศึกยภาพของตัวเองจะดีกว่า ไม่งั้นก็ไปอยู่ในโลกที่จินตนาการเอาละกัน ชีวิตจะได้มีแต่ความสุข เห็นสิ่งที่อยากเห็น เป็นสิ่งที่อยากเป็น ว่าแต่..​"รักแท้" คืออะไร ? จงนิยาม !!! จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 21:58:52

ความคิดเห็นที่ 116 ชอบห้องนี้ นางกวักสวยทุกวัน จากคุณ : Serial_Nuber เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 22:05:00

ความคิดเห็นที่ 117 คห.115 ผมไม่มีเหตุผลที่จะรักตัวเองเลยครับ ( พูดจริง ไม่ได้ประชด ) จะว่าไป ผมไม่เห็นมีความรู้สึกอยากแข่งกับใครเลย ในทางตรงข้ามถ้าใครมีปัญหามาบ่นกับผม แม้ว่าผมช่วยอะไรไม่ได้ก็นั่งฟังมันบ่นไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยกล้าทิ้งไปกลางคัน เออ มันไร้เหตุผลนะ นอนดึกๆ ดื่นๆ เช้าโดดซ้อม บางทีไปทำงานในสภาพเบลอๆ ต้องอัดกาแฟ + M150 บ่อยๆ อีก ( หลังๆ นี่เพลาไปเยอะ ) โดนด่า โดนดูถูกจนชิน ก็ไม่เห็นอยากแข่งกับใคร ( แต่ไม่ใช่ว่าจะหยุดพัฒนาตัวเอง ) ผมแค่มองเห็นปัญหาของการใช้เหตุผล 100% ถ้าใช้แต่เหตุผล คนแบบผมก็ดี หรือที่แย่กว่าผมก็ดี ควรจะได้รับสิทธิ์ที่จะไม่ถูกเหยียดหยามหรือเปล่า? หรือสมควรจะถูกกดให้จมดิน เพราะเป็นพวกไร้คุณภาพในสายตาของพวกทุนนิยมจ๋า ( หรือแม้แต่จะถูกมองว่า " เลี้ยงมันไว้ดูเล่น " แบบที่บัตรผ่านใน คห.102 ว่ามา ) คนเราสามารถเป็นผู้ชนะได้ทุกคนหรือเปล่า? ถ้าไม่ใช่ แล้วเราจะทำไงกับคนแพ้์? ผมถึงไม่ชอบทุนนิยม ซึ่งไม่ว่าเจ้าของลัทธิจะมีเจตนายังไงก็ตาม แต่ผลที่ได้คือมันทำให้คนเหยียบหัวกันมากกว่าเดิมครับ จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 54 22:09:59