ความคิดเห็นที่ 1 น่าสนใจ ... จากคุณ : เศียรนาคา ... เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 23:20:37 A:125.24.19.205 X: TicketID:255126

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าแหล่งกำเนิดมาจากภายนอก ต้องสามารถวัดค่าได้ด้วยเครื่องมือบางอย่างมั่งล่ะครับ แต่เรื่องผีส่วนใหญ่ เป็นแหล่งกำเนิดภายใน คือจินตนาการในสมองของแต่ละคนนั่นเอง เราถึงพิสูจน์ด้วยเครื่องมือต่างๆไม่ได้ไงครับ จากคุณ : omega. เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 23:28:50

ความคิดเห็นที่ 3 สรุป ผีก็แค่จินตนาการไร้สาระเท่านั้นเอง จากคุณ : Fatdiary เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 23:28:58

ความคิดเห็นที่ 4 การรับรู้สัมผัสตรงเข้าสมอง โดยไม่ผ่านจุดสัมผัส = ฝัน การเห็นผี = ประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านเข้ามาทางสัมผัส โดยเฉพาะ ตา กับ หู ได้เห็นสิ่งผิดปกติ ได้ฟังเรื่องผี ดูหนังเรื่องผี  สื่อต่างๆ นำเสนอเรื่องผี แล้วสมอง จะประมวลผล บวกกับความเชื่อส่วนตัว จึงทำให้บางคนเห็นผี และคิดว่าผีมีจริง จากคุณ : AbsolutelyTop เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 23:31:38

ความคิดเห็นที่ 5 ความเห็นส่วนตัว ผมว่าเรื่องการเห็นผีมันเกี่ยวกับสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเรา ที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยที่เรายังเป็นสัตว์ที่ยังไม่ฉลาดเท่าตอนนี้มากกว่า   จากสภาพแวดล้อมที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในอันตรายตลอดเวลาจึงทำให้บรรพบุรุษของเรา ต้องอาสัยสัญชาติญาณเพื่อเอาตัวรอดจากสัตว์ร้ายหรืออันตรายต่างๆ ซึ่งทำให้บรรพบุรุษของเรา ปรับตัวให้ต้องตื่นตัวกับสภาพแวดล้อมรอบๆตัวอยู่ตลอดเวลา คอยสังเกตุสิ่งแปลกปลอม ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆหรือ ภาพที่เห็นแว๊ป ๆ โดยระแวงสงสัยว่าสิ่งเหล่านั้นว่าเป็นอันตรายไว้ก่อน และตอบสนองต่อสิ่งเหล่านั้นด้วยความกลัวและการหลีกหนีอย่างทันทีทันใด แล้วสืบทอดสัญชาติญาณนี้มาถึงพวกเราในปัจจุบัน   แต่เมื่อสมองของมนุษย์พัฒนาขึ้น มีข้อมูลมากขึ้นคิดวิเคราะห์ได้มากขึ้น เมื่อเจอเหตุการณ์ในแบบเดียวกันกับบรรพบุรุษของเรา ทำให้ต้องใช้เวลามากขึ้นในการตอบสนองต่อสิ่งเร้า เนื่องจากต้องทำการวิเคราะห์ข้อมูลสิ่งเร้าที่ได้มากับสิ่งที่เคยเรียนรู้ ทำให้ตอบสนองต่อสิ่งเร้านั้นๆช้าลงจนอาจทำให้เกิดการสุญเสีย สมองของมนุษย์เลยพัฒนาความเชื่อเรื่องผีสางนางไม้ขึ้นมา โดยให้เป็นตัวแทนของอันตรายต่างๆ เพื่อลดกระบวนการความคิดลง จะได้มีเวลาในการหลีกหนีจากสิ่งนั้นมากขึ้น  โดยปรุงแต่งหลอมรวมระหว่าง สัญชาตญาณกับความรู้ต่างๆเข้าด้วยกัน จากคุณ : -=นามไร้ชื่อ=- เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 23:40:11

ความคิดเห็นที่ 6 ทั้งหมดที่ กล่าวมา โต้แย้ง ด้วย เหตการณ์ ทำนองนี้ ครับ คนที่ไม่รู้ประวัติสถานที่ แต่พบเจอเหตการณ์ และ หลายๆคนมีการพบเห็น โดยต่างคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ซึ่งเป็นการพบเห็น แบบเดียวกันในสถานที่เดียวกัน และต่างเวลากัน เพื่อตัด คำว่าหลอกตัวเอง หลอนตัวเอง จำเป็นต้องศึกษาเหตการณ์ที่มีการเกิดแบบร่วมกัน ในลักษณะนี้ด้วยครับ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 23:51:41

ความคิดเห็นที่ 7 ในที่นี้ ต้องแยก ผี กับ วิญญาณ หรือกลุ่มพลังงาน ออกจากกัน ก่อนนะ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 54 23:54:20

ความคิดเห็นที่ 8 ผี หลายๆ ครั้ง จิตเรามันหลอดตัวเองนะครับ ไม่เชื่อ ให้เข้าป่าช้าไปมืดๆ คนเดียว จริงๆ แล้วมันก็ไม่มีอะไร แต่จิตเรานี่แหละครับตัวดี จากคุณ : RouteRaideR เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 00:05:57

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องผีวิญญาณผมคิดว่าผู้ที่ได้เจอมานั้น  " ที่เขาเห็น เขาเห็นจริงๆ แต่สิ่งที่เห็นนั้น ไม่จริง" มันก็เกิดจากกระบวนการมองเห็นของเรานั้น ตารับแสงเข้ามาแปลสัญญาณเฉยๆแล้วส่งไปที่สมอง เป็นสมองที่ทำการตีความหมายของสัญญาณนั้นเข้ากับสิ่งที่เราบันทึกไว้อยู่แล้วในความทรงจำในสมอง แล้วจึงตีความออกมาเป็นความหมายว่า ที่เราเห็นนั้นคืออะไร บางครั้งดวงตาเห็นเพียงแต่เงาตะคุ่มๆ หรือแสงเงาเพียงเล็กน้อย แต่สมองก็ตีความเป็นสิ่งที่คิดไว้แล้วลึกๆว่าจะเจอ ดังนั้น การเห็นผีของผู้คนที่ต่างๆในโลก จึงมีความแตกต่างกันในเรื่องรายละเอียด ตามแต่ความเชื่อของผู้ที่พบเห็น รวมถึงยุคสมัยก็มีผลต่อประสบการณ์การเห็นผีด้วยเช่นกัน ขึ้นอยู่กับสิ่งที่สมองของผู้คนในแถบนั้นหรือยุคนั้นฝังใจ จากคุณ : Nosfaratu Zord เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 00:32:01

ความคิดเห็นที่ 10 ป่าช้า เป็นที่ ฝังคนตาย ครับ แต่ วิญญาณ นั้น ส่วนมากจะอยู่กับบริเณที่เค้าตาย หรือวิญญาณออกจากร่าง ไป ป่าช้า ก็ใช่ แนวทางที่จะเจอผีเสมอไป จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 00:39:19

ความคิดเห็นที่ 11 เท่าที่ฟังมา เป็นการพบเห็นบริเวณที่มีการตายเกิดขึ้นมากกว่าป่าช้าครับ และส่วนมากคนเหล่านั้นไม่รู้มาก่อนว่า ตรงนั้นมีอะไร มารู้หลังจากเจออะไรผิดปกติแล้ว จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 00:41:09

ความคิดเห็นที่ 12 มาฟังคุณทิ้ง จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 00:58:50

ความคิดเห็นที่ 13 อธิบายยากครับ มันซับซ้อนเกินกว่า ความคิดของทุกคน จะคิดเหมือนกันหมด มันกระจัดกระจายครับ ไม่เป็นทางเดียวกัน คนเชื่อก็เชื่อ คนไม่เชื่อก็เถียงหัวชนฝา ไม่มี ไม่จริง เพราะไม่เป็นวิทยาศาตร์.. ตรรกะ มั่วไปหมด อธิบายยากจริงๆ.. จากคุณ : Whalephant เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 01:06:14

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่าก็น่าจะประมาณทฤษฎีนี้ได้นะครับ เพราะว่าภาพจากตาที่เรามองเห็น อาจถูกบดบังด้วยความทรงจำ (คล้ายปรากฏการณ์เดจาวูครับ) กล่าวคือ เรารับภาพจากตาและส่งไปสมองส่วนรับรู้ด้วยเส้นประสาทตา แต่จะมีเส้นประสาทที่ส่งกระแสจากสมองส่วนความจำไปยังสมองส่วนรับรู้ด้วย และการจะรับรู้วัตถุใดวัตถุหนึ่งจะต้องอาศัยสมองส่วนความจำในการจำแนกวัตถุนั้นๆ การที่เรามองเห็นผี อาจเกิดจากการที่มองเห็นวัตถุที่เลือนลางหรือไม่ชัดเจน ที่ตาไม่สามารถแยกแยะได้ว่ามันคืออะไร และเมื่อผนวกกับความทรงจำ สภาพแวดล้อม ทำให้เกิดจินตนาการในการรับรู้ภาพที่ไม่ชัดเจนเหล่านั้น หลักฐาน: 1. คนเรามักมองเห็นผีในระยะไกล หรือเห็นแบบเลือนลาง ไม่เคยได้ยินว่า มีคนมองเห็นผีแบบระยะประชิดหน้า 2. คนเรามักจะเห็นผีช่วงกลางคืน หรือย่ำค่ำ และมักเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย หรือเคยรู้เรื่องลึกลับของสถานที่มาก่อน 3. ในกรณีที่เป็นเด็กหรือคนที่ไม่เคยมีความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องผี จะไม่เคยเห็นคนที่มีลักษณะเหมือนผี (หน้าเละ,ลอยมา,มีครึ่งซีก ฯลฯ) ตามที่คนทั่วไปบอกเล่ากัน และกรณีนี้ใช้วิเคราะห์การรับรู้ทางกลิ่น เสียง สัมผัส ได้ด้วยครับ มันก็เป็นทฤษฎีคล้ายๆกับที่ จขกท บอกครับ ว่าเราไม่จำเป็นต้องรับรู้ทางสัมผัสอย่างเดียว การรับรู้จากจินตนาการและความทรงจำก็ทำได้ จากคุณ : dokmaikaew เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 01:06:17

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าตอบแบบคนห้องเฉลิมไทยจะบอกว่า "คุณเคยหรือมีส่วนกับการทำแท้งมาใช่ไหมครับ" อิอิ จากคุณ : Don't try this at home. เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 01:09:30

ความคิดเห็นที่ 16 หากศึกษาพุทธศาสนามาอย่างถูกต้อง จะรู้ว่าผีไม่ไช่วิญญาณคนตายออกจากร่าง นั่นเป็นความเชื่อผิดๆของพราห์ม ผีจัดอยู่ในพวก "อมนุษย์" ซึ่งหมายถึง สิ่งมีชีวิตที่คล้ายมนุษย์ ได้แก่พวกอสูร ยักษ์ เทวดา มาร การเห็นผีของจริงก็คือเห็นอมนุษย์เหล่านี้นั่นเอง แต่การเห็นวิญญาณคนตายนั้น ส่วนใหญ่มั่วหรือไม่ก็หลอนไปเอง จากคุณ : นกแคปหมู เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 02:52:30

ความคิดเห็นที่ 17 อืม........สรุปว่าจิตเราปรุงแต่งไปเอง จากคุณ : ใหญ่_พระนครเหนือ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 04:58:48

ความคิดเห็นที่ 18 ก็คิดไปเองทั้งนั้นละครับ กระทู้นี้ถ้าไปอยู่เหลิมไทยจะมีแฟนๆพี่ริวเข้ามาตัดพ้อมากมายเลยทีเดียว จากคุณ : นายข่วย เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 05:51:51

ความคิดเห็นที่ 19 ผีเกิดจากความกลัวที่เรามองอะไรไม่เห็นในที่มืด พอเห็นอะไรไม่ชัด ก็เกิดจินตนาการออกมาเป็นผี จากคุณ : นายขนมหวาน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 06:31:59

ความคิดเห็นที่ 20 ทฤษฎี"คิดไปเอง" ตกไปแล้วครับดังที่ความเห็นที่ 6 อธิบายไว้ แต่แปลกชอบยกกรณีความมืดๆตะคุ่มๆคิดไปเอง ขึ้นมาเหลือเกิน เงาตะคุ่มๆอะไรนี่อาจเป็นไปได้ว่า คิดไปเองเช่นเจอเงาใบกล้วยอะไรเช่นนี้ ดังนั้นผมมักจะไม่ยกกรณีเหล่านี้ขึ้นมา แต่ยกกรณีเห็นกลางวันแสกๆเจอกนหลายๆคนนี่แหละ แต่แปลก คนที่ค้านมักจะยกเรื่องความมืด กับเงาขึ้นมา เหมือนกับพยายามจะไม่คุยหรือวิเคราะห์ กรณีที่เจอวิญญาณพร้อมกัน หรือไม่เจอพร้อมกัน แต่เมื่อมีการบอกรูปพรรณสัณฐานกลับออกมาตรงกัน พฤติกรรมส่อความคิด สรุปได้ว่า ความเห็นส่วนใหญ่นี้ 1.ไม่อยากให้ผีมีจริง 2.เมื่อไม่อยากให้มันมีจริง จึงมีการด่วนสรุป เพื่อให้ผลออกมาว่า ผีไม่มีจริง การยกเหตุผลต่างๆก็ไม่สมเหตุสมผล เหมือนตำรวจสืบสวนที่พยายาม จะสืบสวนเพื่อไม่ให้น้องชายที่ฆ่าคนตายนั้นติดคุก จึงสืบสวนอย่างไม่เป็นกลาง เหตุผลที่ยกก็ไม่เป็นกลาง เพื่อให้น้องชายพ้นผิด เหมือนเห็นอนาคต เมื่อมีกรณีกระทู้เรื่องการเห็นผีเกิดขึ้นมาอีก ด้วยการจนปัญญาจะหาเหตุผล มาหักล้างในกรณีอื่น พวกเขาเหล่านั้น "จะ" ยกแต่กรณีที่เจอผีในความมืด หรือกรณีเห็นแว้บๆ เท่านั้น เพื่อให้ตนเองสบายใจว่า"ผีไม่มีจริง" เขาจะไม่พยายามหาความจริงอย่างที่ #6 ได้อธิบายเอาไว้ เพราะกลัวต่อความจริง ฟันธง! จากคุณ : imanust_261204 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 07:26:15

ความคิดเห็นที่ 21 มีคนเคยเห็นผีด้วยเรอะคะ รึว่า คิดไปเองว่านั่นคือผี จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 07:49:55

ความคิดเห็นที่ 22 http://www.youtube.com/watch?v=jcCLiMAxE9o แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 54 09:29:32 จากคุณ : tuchy (tuchy) เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 07:50:20

ความคิดเห็นที่ 23 #21 ใช่ครับคิดไปเอง คุณน่ะคิดไปเองว่าคนอื่นคิดไปเอง งงมะ จากคุณ : imanust_261204 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 07:56:58

ความคิดเห็นที่ 24 เหมือนกับคนที่เสพสิ่งเสพติดไงครับ พวกเค้าสามารถจินตนาการไปได้ทุกอย่าง จากคุณ : Obram เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 08:26:56

ความคิดเห็นที่ 25 . . ส่วนตัวคิดว่าเรื่องผีนี่มีจริงหรือไม่มีจริงอยู่ที่ความเชื่อนะคะ...เชื่อก็มีจริง ไม่เชื่อก็ไม่มีจริง.. จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 08:34:04

ความคิดเห็นที่ 26 ด่วนสรุปโดยไม่มีการพิสูจน์ ทดลอง ศึกษา ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ครับ (แน่นอนว่ากรณีเรื่องนี้มันยาก แต่ควรเปิดใจหน่อยนะครับ) จากคุณ : TimeTricker เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 09:21:24

ความคิดเห็นที่ 27 นักวิทยาศาตร์ไม่ ควรละเว้นข้อโต้แย้งโดยการด่วนสรุป ตามที่ใจตัวเองคาดคิด หากคิดว่า เป็นการหลอนตัวเอง ลองศึกษา กรณีโต้แย้งก่อนสิครับ ว่ามันจริงไม่จริงอย่างไร จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 09:24:27

ความคิดเห็นที่ 28 คห 24 คนที่พบ เห็นผีทุกคนไม่ได้ ติดสิ่งเสพย์ติดทั้งหมดครับ และกรณีเหตการณ์ ร่วม ต่างกรรม ต่างวาระ นั้นแหละที่จะต้องหาคำอธิอบาย จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 09:25:54

ความคิดเห็นที่ 29 คห 25 เชื่อว่ามี แต่ไม่ใช่ว่าจะเห็นนะครับ มันไม่ใช่จินตนาการเอาเอง ว่าต้องพบ อะไรหากไม่รู้ ว่าสถานที่นั้นเคยมีคนตายมาก่อนหรือไม่ .. จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 09:27:32

ความคิดเห็นที่ 30 เราเชื่อว่า มีกรณี ศึกษา ที่น่าจะหักล้างเรื่อง ข้อโต้แย้ง การหลอน ตัวเอง หรือ แค่ ความเชื่อ ส่วนตัวของตัวเองได้ นี่คือ สมมุติฐานที่ ตั้งไว้ เพื่อรอคำ อธิบาย และการพิสูจน์ ถึงความเกี่ยวโยงเชิงเหตการณ์ กับ สถานที่ๆ เคยมีคนตายครับ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 09:28:59

ความคิดเห็นที่ 31 เรื่องผีที่เกิดตอนกลางวัน หรือคนหลายคนเจอเหตุการณ์เดียวกันแบบไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน... เคยฟังแต่เป็นเรื่องเล่าต่อปากกันมาทั้งนั้นครับ ถ้ายกตัวอย่างแบบให้รายละเอียดก็จะรู้ได้ทันทีว่าเป็นอุปทานหมู่ผสมจินตนาการครับ ผีมีจริงหรือไม่ ต้องพิสูจน์ให้ประจักษ์จึงตัดสินใจ แต่ที่เห็นส่วนใหญ่อาศัยอุปทานหมู่และจินตนาการแล้วก็รีบตัดสินใจว่าเป็นผี จากคุณ : omega. เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 09:30:41

ความคิดเห็นที่ 32 มนุษย์อยากเห็นสิ่งที่ตัวเองอยากเห็นครับ เคยดูรายได้ในช่อง X-zyte เขาไปที่ทะเลสาบ แห่งหนึ่ง พร้อมทั้งปล่อยฝรั่งมุง(หน้าม้า)มากมายไปปล่อยข่าวในระแวกนั้นว่ามีสัตว์ประหลาดในทะเลสาบ โดยมีการปล่อยขอนไม้ใว้กลางทะเลสาบด้วย หลังจากนั้นก็ไปสัมภาษณ์ผู้คนทั่วไปเดินมาบริเวณทะเลสาบ(ที่ได้รับสารหลอกว่ามีสัตว์ประหลาดในทะเลสาบ) ซึ่งผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเกือนครึ่งที่ให้สัมภาษณ์ ให้สัมภาษณ์ว่าตนเห็นสัตว์ประหลาด(ทั้งที่ความจริงมันก็แค่ขอนไม้) ขนาดฝรั่งมันยังเห็นกันเลย แล้วคนไทยหัวอ่อนโดนกล่อมอะไรก็เชื่อ(ผมดูจากพวกม๊อบ)จะไปเหลืออะไร แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 54 10:00:36 จากคุณ : Fatdiary เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 09:57:14

ความคิดเห็นที่ 33 ตาม 31 ครับไม่ต้องสรุปมีหรือไม่มี จนกว่าพิสูจน์ได้มากกว่านี้ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 10:09:50

ความคิดเห็นที่ 34 32 เค้าเรียก การชี้นำจิตนาการครับ ไม่ต่างอะไรกับการบอกประวัติว่าที่นี่มีผีก่อนให้คนไปลองของ จิตนาการมันจะทำงานทันทีครับ หากแต่การไม่รู้ประวัติของสถานที่นั้น หรือคนที่ไม่เชื่อเรื่องผีมาก่อน แต่กลับต้องเปลี่ยนความเชื่อ เพราะเหตการณ์ ที่พบกับการมาทราบความจริงทีหลังของสถานที่ ตะหากที่น่าสนใจ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 54 12:11:33 จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 10:11:50

ความคิดเห็นที่ 35 ทฤษฎีอุปาทานหมู่นี่เลอะเทอะนะครับ การที่คนหลายๆคนเห็นสิ่งเดียวกันรูปพรรณตรงกัน แล้วมาบอกว่าเป็นอุปาทานหมู่นี่ บ่งบอกว่ามันจะเอาให้ผี ไม่มีจริงให้ได้ โดยไม่สนข้อเท็จจริงและความเป็นไปได้ ขาดความเป็นกลางอย่างสิ้นเชิง อย่างไรถึงบอกว่าไม่เป็นกลาง อย่างแรกถ้าบอกว่าอาจเป็นอุปาทานหมู่ ก็ต้องบอกอีกอย่างอาจเป็นของจริง แต่การที่อ้างอุปาทานหมู่ โดยไม่ยกอีกทางว่าอาจเป็นของจริง บ่งบอกว่าเขาต้องการให้ผีไม่มีจริงแต่แรกอยู่แล้ว การวิเคราะห์จึงออกมาว่าเป็นอุปาทานหมู่ แทนที่จะวิเคราะห์ออกมาเป็นสองทาง แล้วทฤษฎีอุปาทานหมู่นั้นจริงๆแล้วมันเป็นไปได้ในทางปฏิบติหรือไม่ ก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว แต่กลับยกขึ้นมาเพื่อปกป้อง"ความอยากให้เป็น"ของตน จากคุณ : imanust_261204 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 10:36:43

ความคิดเห็นที่ 36 วิทยาศาสตร์ไม่ใช่การ ยืนกรานว่าคนผิดทั้งหมดครับ ต้องรัดกุมและรอบคอบจริงๆ ไม่งั้นจะเป็นการละเลยปรากฏการณ์ที่อาจมีอยู่จริงได้... ที่คุณบอกว่าเป้นเพราะ คนมันผิดเอง ก็เป็นสมมุติฐานข้อนึงเท่านั้นไม่ใช่ ข้อสรุปหากยังไม่ได้ทดสอบซ้ำๆ และที่เรา พยายามบอกเรื่องกรณีตัวอย่างก็เพื่อ ยังคงให้มีการศึกษากันต่อไปได้ ไม่ใช่ การปิดทางคิดทุกอย่างให้จบลงแค่ คนคิดไปเองไม่ต้องไปสนใจอะไร จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 11:24:12

ความคิดเห็นที่ 37 ......บางคนที่นี่ชอบด่วนสรุปว่าการเห็นผีเป็นอุปทานหมู่ จากคุณ : นกแคปหมู เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 13:42:33

ความคิดเห็นที่ 38 นึกถึงสารคดีที่ดูช่อง เนชั่นแนล จีโอกราฟิก เมื่อวันก่อนเลย เป็นรายการที่ไปสำรวจคุกที่ว่ามีผี เห็นมีทฤษฎีนึงที่ว่า การเห็นผี ทั้งจากคนที่เชื่อและไม่เชื่อ ที่ไปสำรวจ แล้วรู้สึกบรรยากาศหนักๆ คล้ายๆ กัน เกิดจากคลื่นสั่นสะเทือนพิเศษที่มีผลกับหู (ไม่แน่ใจว่าชั้นไหนแฮะ) แล้วส่งผลไปที่สมองต่อ (จำรายละเอียดไม่ได้ครับ เพราะดูตอนจะจบ) ว่าจะรอกลับมารีรันแล้วค่อยดูใหม่ จากคุณ : Alpha13th เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 15:49:57

ความคิดเห็นที่ 39 ดีครับ เอามาแบ่งปันกันครับ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 15:58:54

ความคิดเห็นที่ 40 เรื่อง วิญญาณ อาจจะเป็นจากสาเหตภายนอกไมใช่เรื่อง จิตนาการภายในอย่างเดียวก็ได้ ครับ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 54 15:59:36 จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 15:59:29

ความคิดเห็นที่ 41 หากคนเรารับรู้ ทุกอย่าง จากประสาทสัมผัสทางกาย พลังงาน บางอย่าง อาจส่งผ่านการรับรู้โดยตรงถึงสมอง ในรูปแบบคลื่นไฟฟ้าที่ทำให้สมองเรา แปลความหมายออกมาได้ เหมือนอย่างที่เราได้สัมผัสจากประสาทสัมผัสทางกายของเราโดยตรง ก็ได้ครับ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 54 16:02:01