ความคิดเห็นที่ 1 ผมที่ผมต้องการลงข้อมูลให้ครบถ้วนกระบวนความและไม่ได้รีบเร่งอะไร ข้อมูลไปเรื่อยๆ ปรับพื้นให้เป็นอันเข้าใจกันจากกระทู้ที่แตกประเด็นมาในความเห็นบางส่วนของผม การศึกษาประวัติศาสตร์นั้นเราต้องทราบพื้นฐานทางกายภาพของภูมิประเทศก่อนเป็นสำคัญเพราะเกี่ยวเนื่องในการขยายอิทธิพลอาณาเขตแต่ละอาณาจักรเมื่อเราทราบถึงลักษณะของภูมิภาคแล้วเราจำเป็นต้องลำดับโครงสร้างสังคมจนกลายเป็นอาณาจักรหรือมหาอาณาจักรนั่นเอง ถ้าเราไล่ลำดับการก่อเกิดอาณาจักรในการที่จะศึกษาจะไล่ลำดับขั้นดังนี้ ๐.สังคมมนุษย์เริ่มต้นที่ราบลุ่มแม่น้ำ  (คือบริเวณแม่น้ำที่มีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ แตกต่างจาก แม่น้ำทั่วไป ) ๑.หมู่บ้านเกิดจากการรวมกันของคนในสังคมจนเป็นกลุ่มขึ้นมาโดยเลือกผู้ดูแลภายในสังคมจากบุคคลภายในกลุ่ม ไม่ว่าจะด้วยความสมัครใจหรือบังคับก็ตาม ๒.ราชธานีเกิดจากการที่ได้มีการควบรวมหมู่บ้านหลายๆหมุ่บ้าน จนก่อตั้งเป็นราชธานีโดย กฏระเบียบ หลักเกณท์ทางสังคมตราตั้งเป็นหลักการจากจุดนี้ริ่มจากจุดนี้ ๓.อาณาจักรเกิดจากการที่จ้าวผู้ครองราชธานีควบรวมราชธานีภายในอาณาจักรจนเป็นปึกแผ่นเฉก เช่น กรีก ๔.มหาอาณาจักร หรือ จักรวรรดิ คือ การที่ผู้ปกครองอาณาจักขยายขอบเขตอิทธิพลของตนเองเหนือเขตอิทธิพลอื่น จะด้วยกำลังหรือ การบังคับส่งเครื่องบรรณาการก็ตาม คำศัพท์ผิดเพี้ยนที่จะทำให้ประวัติศาสตร์เพี้ยน ประวัติศาสตร์เขียนไว้ เครื่องราชบรรณาการ และ เครื่องบรรณาการ ต่างกันอย่างไร เครื่องราชบรรณาการที่เราส่งไปให้ทางกลุ่มอำนาจทางจีน หรือมองโกลนั้น ในยุคสุโขทัยนั้น เป็นลักษณะการแลกให้สถานะแสดงความยินดีกับอาณาจักรเพื่อนบ้านที่ควบราชธานี(แคว้นต่าง)จนเป็นอาณาจักร ได้เบ็ดเสร็จในยุคนั้น ส่วนหนึ่งที่อยากจะกล่าว เนื่อจากความเข้าใจผิดทางภาษาของพวกเธอเองอยากจะบอกดังนี้ คำว่า"เครื่องราชบรรณาการ" ศัพท์นี้จะใช้ในกรณีส่งเครื่องสัญลักษณ์ เพื่อแสดงถึงความเป็นผู้เป็นผู้ควบคุมอำนาจ เพื่อแสดงให้ประจักษ์ในความเสมอภาคของผู้คุมอำนาจ (ก็ประมาณว่านี่คือสิ่งแสดงว่า เฮ้ย ข้่าเป็นพวกชนชั้นอำนาจเดียวกับพวกลื้อนะว้อย) โดยเครื่องราชบรรณาการมักจะเป็น สัญลักษณ์แสดงอำนาจของราชธานี(เครื่องราชย์กษัตริย์ หรืออาวุธของกษัตริย์ที่ยึดได้มา)ในละแวกนั้นที่เราได้ไปทำการยึดในสถานะผู้ชนะ เป็นการแสดงให้เห็นถึงอำนาจของราชธานี ว่าอย่ามายุ่งในกลุ่มเขตอาณาจักรของเราระหว่างที่อยู่ในยุคต้นของการควบรวมอำนาจใหม่อีกครั้งหลังจาก ศูนย์กลางอำนาจเก่า(นครวัต-นครธม)ล่มสลายไป เจ้าผู้ปกครองหัวเมือง(เลือดเดียวกันตามเหตุผลที่ยกมาในข้อด้านบน)ต่างแก่งแย่งเพื่อจะเป็นผู้นำอาณาจักรแตกหน่อเป็น ละโว้ สุโขทัย พุกาม และพนม "เครื่องบรรณาการ"  จะใช้สำหรับราชธานี ที่ถูกปกครอง จำเป็นต้องส่งเครื่องบรรณาการ ถวายแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีของราชธานีที่อยู่ภายใต้การปกครอง จะเห็นชัดเจนว่า พวกเราเข้าใจผิดกันในเรื่องง่ายๆของ สองรูปประโยคนี้ และคิดว่าเป็นความหมายเดียวกัน แต่ต่างกันที่ เป็นทางการ กัยไม่เป็นทางการ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดโดยสิ้นเชิง จากความไม่รู้(โง่) อวดฉลาด(บ้า) เชื่อต่อๆกันมา เพียงแค่ว้าคนนั้นเป็นด็อก ที่เข้าใจผิดและนำมาสอน ซึ่งในตราตำราประวัติศาสตร์แยกแยะการใช้สองคำนี้อย่างชัดเจน   (มีพวกขยันเกินเอาเรื่องเก่ามาเรียงใหม่ทำกำไรและคิดว่าตนเองแน่นอน เออ ถ้าเอามาร่วมชำระใหม่จากหลักฐานเพิ่มเติมทางโบราณคดี) อ่านๆ อ่านไปก็เรื่องเดิมที่เสริม Story ให้สนุกตามปัญญาผู้เขียนเติมเต็มในส่วนส่วนที่ผู้อ่านต้องการในส่วนที่ขาดหาย(มันไม่ใช่แล้วล่ะ) เพิ่มความตื่นเต้น วางขายเป็นตำรายุคใหม่ในชั้นหนังสือทั่วไป ที่เลือกเอาประวัติศาสตร์ส่วนที่หายไปของเราเติมเต็มด้วยประวัติศาสตร์ทางเขา(ซึ่งเรานิยมนำของเจ๊กมาเติมเต็ม)เลยดั่งกลายเป็นว่าอาณาจักรนี้ บ้านนี้เมืองนี้ มันไม่มีคุณค่าอะไรเลย ซึ่งปัญญาอ่อนกันเกินไปพวกที่ทำตำรา อย่างน้อยควรจะเขียนว่าอ้าอิงจากจดหมายเหตุประเทศใดก็ว่ากล่าวกันไป พอเห็นกลไกการค้าทำลายประวัติศาสตร์ไหม จะบอกว่าไม่ใช่เพิ่งมี จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 13:17:33

ความคิดเห็นที่ 2 การศึกษาประวัติศาสตร์นั้นเราต้องทราบพื้นฐานทางกายภาพของภูมิประเทศก่อนเป็นสำคัญ ที่นี้เรามาดูภูมิศาสตร์ของแถบเอเชียเฉียงใต้กันบ้างว่ามีโครงลักษณะใดผมจึงกล่าวว่าอาณาจักรนี้เมืองนี้ยิ่งใหญ่ไม่น้อยหน้าจีนแน่นอน (ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในกระทุ้ที่แล้ว) พอดูโครงสร้างพื้นที่เราจะเห็นป้อมปราการธรรมชาติ จัดแนวป้องกันอาณาจักรนี้เรียกได้ว่าเกือบเป็นสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าเป็นท้องที่อู่ข้าวอู่น้ำได้ มีทางออกทะเล และแนวของภูเขา กั้นห่างออกจากเขตอิทธิพลของจ้าวอาณาจักรแถบอื่น แน่นอน! บางท่านยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ที่มองโกลในสมัย มองโกล ครองครึ่งโลก ยุคกุบไลข่าน ไม่คิดเข้ามาตีเราเป็นเมืองขึ้น ทั้งที่เป็นเขตสำคัญของอาหาร ทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยเหตุผลห่วยๆจากการที่เราไปเอาจดหมายเหตุจากทางจีนมาเติมเต็มในส่วนข้อมูลที่ขาดหาย บอกกับคนไทยกันเองว่า เพราะเรา ส่งส่วย เออ ออ ต้าอ่วยไป เวรกรรม ! ทราบดีว่าความยิ่งใหญ่อะไรที่ผมต้องการสื่อนี้ (และผมบอกในกระทู้ที่แล้วจนเข้าใจกันดีและเลือกที่จะรับฟังข้อมูล จึงอยากให้ผู้ที่มาใหม่กลับไปอ่านให้เข้าใจ ไม่ใช่แค่เร่งอ่านให้จบ เพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหาในทุกกรณี) ปล.ที่ต้องทำแบบนี้ให้เมื่อยเพียงเพราะเห็นคนสมัยนี้ดูถูกเรื่องราวประเทศตนเองด้วยความโง่ของตัวเอง แล้วเอาไปบอกต่อๆกัน  พวกนั้นก็หลงเชื่อจนกลายเป็นว่า พื้นที่ดินแดนแห่งนี้ พวกต้นบรรพบุรุษเรา เป็นคนเร่ร่อนเสียงั้น (เป็นไงตำราเจ๊กยกมองโกลชนเผ่าเร่ร่อนตนเองในลักษณะแบบทำเป็นไม่พูดถึง แต่เน้นดึงกรเขียนประวัติศาสตร์ของเรา) รูปภาพผูกโยงเชิงลักษณะเป็นศูนย์กลางและปราศจากภัยธรรมชาติร้ายแรง จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 13:33:23

ความคิดเห็นที่ 3 เข้ามาติดตามชมครับ จากคุณ : EvaNe เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 13:50:04

ความคิดเห็นที่ 4 ภาพอัพขึ้นไม่ได้ ! จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:02:33

ความคิดเห็นที่ 5 ขนาดใหญ่เกินหรือเปล่าครับ ?? จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:06:21

ความคิดเห็นที่ 6 ลงข้อมูลเรื่อย ๆ ถ้าว่าง ก็ลงไปครับ แต่คนอ่านควรพิจารณาด้วยว่าเป็นข้อมูลจากมุมมองด้านหนึ่งเท่านั้นครับ ศึกษาประวัติศาสตร์ควรละอัตตา หยุด Bias ในใจให้ได้ก่อนแล้วค่อย ๆ พิจารณาดูครับ จากคุณ : tuinui98 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:06:35

ความคิดเห็นที่ 7 ... ผมว่าเรื่องนี้....จบไปตั้งแต่ คคห.4 ของคุณ zodiac28...แล้วล่ะ ยิ่งเห็นภาพชัดเจน....ใน คคห.9 ของคุณ moojiw พอมาถึง คคห.16 ของคุณ ปลาทูออนไลน์....ผมก็หมดความสนใจ ...ไปสนใจ Berryz Koubou แทน   จากคุณ : First In, Last Out เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:07:03

ความคิดเห็นที่ 8 ขนาดใหญ่เกินหรือเปล่าครับ ?? จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:07:11

ความคิดเห็นที่ 9 ทีนี้ดูภาพแนวเส้นเขา (ผมทำไม่สวยนะครับทำไลน์เส้นที่ส้มไว้ ถ้าใครอ่านแผนที่ทางทหารเป็นจะมองได้ไม่ยากเย็นนัก ถึงจะไม่ถูกต้องตามรูปแบบที่ได้เรียนมาก็ตาม) คุณมองเห็นอะไรในแผนทีภูมิศาสตร์ทางกายภาพของอาณาบริเวณนี้ ปล.ในโซนที่เราอยู่นี้ รวมถึง อินเดียปัจจุบัน เป็นพื้นที่สูงกว่าครึ่งบนของโลกถ้านับระนาบจากล่างขึ้นบน โดยมีจีนอยุ่แนวก้นกะทะเล็ก เราจะเห็นว่า จีนแทบไม่มีอะไรพร้อมเลยทางกายภาพในการสร้างจักรวรรดิ (เราไม่ได้หมายถึงการไม่มีอยุ่จริงของประวัติศาสตร์จีน เรากำลังพูดถึงการ Fake ข้อมูลอันแสนจะยิ่งใหญ่ทางจีน ทั้งทางการทหารและหลายๆเรื่อง รวมถึง สามก๊กมันคือนิทานจากตำนานโครงเรื่องจริง ประมาณ ๕ เปอร์เซนต์ แต่ทำเป็นไม่พูดถึงให้คนเข้าใจว่าเป้นตำนานที่โครงเรื่องส่วนใหญ่มาจากเรื่องจริงเกิน ๘๐ เพื่อนำมาปรับฐานความพร้อมที่จะก้าวสู่ ๑ ในประเทศมหาอำนาจ จึงจำเป็นต้องมี Story ที่ดี ) จะขยายความที่ต้องการสื่อจากรูปภาพนี้ในกระทุ้ถัดไป จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:09:32

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ^ รูปไม่ขึ้น ระหว่างนี้พิมพ์ข้อความก่อนนะครับ ครับเจตนาในการที่สื่อนี้มีในส่วนของคำตอบ จขกท. ที่ได้แตกประเด็น ในการอธิบายความนั้นมีเรื่องที่เป็นประเด็นออกไปอีกยิบย่อย ส่วนข้อมุลที่จะนำเสนอเชื่อว่าถ้าไม่ทำให้ครบ มันจะเป้นสิ่งที่ถ่ายทอดไม่จบและพับเก็บไป (มีเหตุผลบางอย่างในฐานข้อมุลที่ผมศึกษา จึงใช้คำว่า จะบอกกล่าว) และคาดว่าถ้าได้อ่านกระทุ้ของผมจนจบในกระทุ้ที่แล้วจะเห็นชัดเจนว่าผมไม่ใช่ต้องการสื่อแค่เรื่องมองโกลแน่ล่ะ ปล.กำลังหาวิธีอัพรุปภาพ จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:17:35

ความคิดเห็นที่ 11 ทีนี้ดูภาพแนวเส้นเขา (ผมทำไม่สวยนะครับทำไลน์เส้นที่ส้มไว้ ถ้าใครอ่านแผนที่ทางทหารเป็นจะมองได้ไม่ยากเย็นนัก ถึงจะไม่ถูกต้องตามรูปแบบที่ได้เรียนมาก็ตาม) คุณมองเห็นอะไรในแผนทีภูมิศาสตร์ทางกายภาพของอาณาบริเวณนี้ ปล.ในโซนที่เราอยู่นี้ รวมถึง อินเดียปัจจุบัน เป็นพื้นที่สูงกว่าครึ่งบนของโลกถ้านับระนาบจากล่างขึ้นบน โดยมีจีนอยุ่แนวก้นกะทะเล็ก เราจะเห็นว่า จีนแทบไม่มีอะไรพร้อมเลยทางกายภาพในการสร้างจักรวรรดิ (เราไม่ได้หมายถึงการไม่มีอยุ่จริงของประวัติศาสตร์จีน เรากำลังพูดถึงการ Fake ข้อมูลอันแสนจะยิ่งใหญ่ทางจีน ทั้งทางการทหารและหลายๆเรื่อง รวมถึง สามก๊กมันคือนิทานจากตำนานโครงเรื่องจริง ประมาณ ๕ เปอร์เซนต์ แต่ทำเป็นไม่พูดถึงให้คนเข้าใจว่าเป้นตำนานที่โครงเรื่องส่วนใหญ่มาจากเรื่องจริงเกิน ๘๐ เพื่อนำมาปรับฐานความพร้อมที่จะก้าวสู่ ๑ ในประเทศมหาอำนาจ จึงจำเป็นต้องมี Story ที่ดี ) จะขยายความที่ต้องการสื่อจากรูปภาพนี้ในกระทุ้ถัดไป จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:24:46

ความคิดเห็นที่ 12 พอเราดูเนื้อที่กา ยภาพทางภูมิศาสตร์แล้ว เราจะเห็นได้ชัดเจนในเรื่องของ ความสมบูรณืของภูมิประเทศ ซึ่งการก่อตั้งอาณาจักรมันจะมีจากหลายปัจจัยเป้นองก์ประกอบร่วม จะโดยตั้งใจหรือไม่ก้ตามที พอเราเข้าใจพื้นฐานของพื้นที่ มันจะทำให้เราสามารถไล่เหตุผล จากหลักฐานทางโบราณคดีที่มี (และที่จับต้องได้ กอปรกับจดหมายเหตุในแต่ละชาติที่เข้าร่วมองกืประกอบเหตุการณ์สำคัญ) ทีนี้ ประเทศจีนนั้นเราจะเห็นได้หลายๆเรื่อง เช่น ความเก่า หรือตำนานเก่าแก่ เป็น ครึ่งแสนปีที่แล้ว โดยไม่มีหลักฐานใดๆเลยที่นำมาให้เราจับต้องได้ทุกกรณี ทีนี้สิ่งที่สังคมยอมรับกันทั้งทางการตรวจทางวิทยาศาสตร์ ที่แน่นอนที่สุดทั้งการตรวจคาร์บอนจะอยุ่ช่วงราว ๓๕๐๐ ปี ยังคงเป็นอารยะธรรมเก่าที่สุดที่เป็นเพียงแค่ล่าสุดไปแล้ว คืออะไร ในข้อถัดไป สิ่งที่น่าค้นหามันตรงนี้แหละ วันหนึ่ง จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:43:51

ความคิดเห็นที่ 13 นั่นคืออารยะธรรมบ้านเชียง มีอายุเก่าแก่ถึง กว่า ๔๐๐๐ ปี และล่าสุด แหล่งโบราณคดี“โนนสูง”4,500 ปีเป็นมรดกโลก เนื้อข่าวบางส่วน ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯโคราชสวนกระแส จวก “ยูเนสโก”ผลักดัน“แหล่งโบราณคดีลุ่มแม่น้ำมูลตอนต้น โนนสูง นครราชสีมา” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เผยเป็นอู่อารยะธรรมแหล่งประวัติศาสตร์โบราณคดีขนาดใหญ่ ขุดค้นพบโบราณวัตถุและโครงกระดูกมนุษย์โบราณจำนวนมากอายุกว่า 4,500 ปี เทียบเคียงกับบ้านเชียง จ.อุดรธานี เห็นความตื่นเต้นของคนสมัยที่ค้นพบความมีอารยะของขอบเขตอาณาจักรเราหรือยัง และได้ตื่นเต้นอีกครั้งเมื่อสิ่งที่บ่งบอกความมีอารยะธรรมได้เกิดขึ้นอีกครั้ง มันบอกอะไรไหม ! เขาดูแคลนว่าเราและยกย่องตัวเขาและหาว่าเราคือชนเผ่าเร่รอนสมัยละโว้หรือไม่ก็อพยพมาจากทางนั้นบ้าง ทางนี้บาง ไม่กี่ร้อยทฤษฎีทางวิชาการที่ยังขาดการสนับสนุนข้อมูลหลักฐานทางโบราณคดี จนทำให้คนไทยทุกวันนี้ เชื่อว่าชาวไทยไม่ได้เคยมีอารยะธรรมสูงและก่อนหน้าประวัติศาสตรืใดๆโดยจดหมายเหตุทางจีนยัดปากไว้แล้วเอามาเติมเต็มด้วยความเขลาของภาคเอกชนบางส่วนที่มีส่วนผลักดัน ทั้งที่ยังไม่มีการยอมรับแหล่งที่กล่าวอ้างจากทางจีน เพียงแค่เพราะการเก็บข้อมูลของทางเราเป็นแบบอินทรียสาร ในส่วนที่ขาดหายไป มีอีกเยอะ เล่าสั้นๆมันจึงไม่จบเลยต้องไล่ความรู้ปรับบานการเข้าใจกันก่อนในสิ่งที่ผมจะนำเสนอเรื่อยๆ รูปภาพ อารยะธรรมลุ่มน้ำมูล จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:57:27

ความคิดเห็นที่ 14 ว้าว! คือคำอุทานของฝรั่ง ณ.วันนั้น วันที่ได้ค้นพบอารยะธรรมบ้านเชียง ซี่ง จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีพบว่า    บริเวณพื้นที่ที่เป็นจังหวัดอุดรธานีในปัจจุบัน   เคยเป็นถิ่นที่อยู่ของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ประมาณ ๕๐๐๐ ถึง ๗๐๐๐ ปี  จากหลักฐานการค้นพบที่บ้านเชียงอำเภอหนองหานและภาพเขียนสีบนผนังถ้ำที่อำเภอบ้านผือ    เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นเป็นอย่างดีจนเป็นที่ยอมรับนับถือในวงการศึกษาประวัติศาสตร์ และโบราณคดีระหว่างประเทศว่าชุมชนที่เป็นถิ่นที่อยู่ของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ที่จังหวัดอุดรธานี    มีอารยะธรรมความเจริญในระดับสูงและอาจถ่ายทอดความเจริญนี้ไปสู่ประเทศจีนก็อาจเป็นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องปั้นดินเผาสีลายเส้นที่บ้านเชียงนั้นสันนิฐานว่าเป็นเครื่องปั้นดินเผาสีลายที่เก่าที่สุดของโลก ปรับพื้นการเป็นเจ้าของอารยะธรรมเก่าแก่ล่าสุด จะทำอย่างไรได้นอกจากจำนนกันด้วยหลักฐานและโครงสร้างการตรวจพิสูจนื (ใชตรวจสอบทุกอารยธรรม ที่ใกล้เคียงที่สุด นั่นคือ การตรวจคาร์บอน) ที่ผมต้องการให้อ่านเรื่องราวที่ผมสื่อในกระท๔้ที่แตกประเด็นมาเพียงเพราะอยากให้เข้าใจกันจริงๆ มันมีอะไรดีกว่าที่คุณคิด  ที่นี่ ที่เรายืนอยู่ตรงนี้ มีเขียนทั้งในจดหมายเหตุทางยุโรป ทางอเล็กซานเดอร์ และอีกมากมาย ผมจะไล่เป็นลำดับ จนถึงทุกยุคสมัยของเรา ในทฤษฎีที่ บางคนจำใจเชื่อ แต่งเชื่อ เพราะจำนนหลักฐาน จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 15:09:29

ความคิดเห็นที่ 15 สรุปว่าที่ยกมาข้างต้นทั้งหมดทาโบราณคดี ของพื่อปรับทัศคติของคนไทยที่ไม่นิยมไทย(เพียงในบางเรื่อง และเป็นเรื่องที่เลือกที่จะเชื่อกันว่ามันใช่ เพราะเขาคือเจ๊ก) ปรับพื้นเข้าใจตรงกันแล้วนะครับในความมีอารยะธรรมมานานแสนนาน ก็จะขอเริ่มเรื่องอาณาจักรในข้อต่อไป จะบอกว่าตัดคำว่า อารยะธรรมเขมร อารยะธรรมเวียดนาม ออกไปไกลๆเลย ผมถือในสิ่งที่นักโบราณคดีเชื่อถือกันเป็นสากลว่า "อะไรที่เกิดทีหลังย่อมไม่เคยมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน" ความงดงามในหัวใจ ยังมีอยุ่ใช่ไหมคนไทย  สายเลือดเดียวกัน ที่ยังคงตั้งมั่นย รักษาอารยธรรมอันดีงาม จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 15:20:32

ความคิดเห็นที่ 16 เพิ่มเติมเนื้อข่าวเชิงอรรถรส วันนี้ ( 7 มี.ค.) นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าจังหวัดนครราชสีมามีแหล่งโบราณสถานและโบราณคดีอยู่หลายแห่งและอีก 1 แห่ง ที่ยังไม่ค่อยเป็นรู้จักของประชาชนนักท่องเที่ยวแต่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง คือ อู่อารยะธรรมลุ่มแม่น้ำมูลตอนต้น หรือ โนนสูงนครราชสีมา ซึ่งทางจังหวัดนครราชสีมาจะผลักดันสู่การเป็นมรดกโลก ทั้งนี้ จ.นครราชสีมาเป็นส่วนหนึ่งของแอ่งโคราช บริเวณลุ่มแม่น้ำมูลหรือแหล่งประวัติศาสตร์ และแหล่งโบราณคดีอีสานตอนล่าง ซึ่งเดิมเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์มาหลายยุคหลายสมัย จากการศึกษาของนักโบราณคดี พบร่องรอยกิจกรรมมนุษย์สมัยโบราณไม่น้อยกว่า 4 พันปี และโบราณวัตถุจำนวนมากในยุคหิน ยุคสำริด และยุคเหล็ก โดยเฉพาะบริเวณ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เทียบเคียงกับ บ้านเชียง จ.อุดรธานี ขณะนี้สำนักศิลปะและวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ศึกษาพัฒนา ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ในพื้นที่ โดยร่วมมือกับ นักวิจัยชาวไทย และ ผู้เชี่ยวชาญโบราณคดีจากต่างประเทศ คือ Prof. Charles Higham มหาวิทยาลัยโอทาโก ประเทศนิวซีแลนด์ ทำการศึกษาค้นคว้า มาอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 10 ปี และประชาชนในพื้นที่ได้มีการบริจาคพื้นที่ รวมทั้ง องค์การบริการส่วนตำบล (อบต.) สนับสนุนงบประมาณก่อสร้าง 6 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารศูนย์เรียนรู้ ดังนั้น เพื่อให้บริเวณที่มีการขุดค้น พบวัตถุโบราณต่างๆ มีการบริหารจัดการ และให้มีการพัฒนาเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ควบคู่กับมรดกโลกบ้านเชียง ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน จ.นครราชสีมาจึงมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อศึกษาและดำเนินการ ภายใต้ชื่อคณะกรรมการพัฒนาแหล่งโบราณคดีลุ่มแม่น้ำมูลตอนต้น ( โนนสูง นครราชสีมา ) เป้าหมายเพื่อผลักดันขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก กับองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก สำหรับแหล่งโบราณคดี ดังกล่าว ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.โนนสูง 5 จุด คือ จุดที่ 1 บ้านหลุมข้าว ต.หลุมข้าว , จุดที่ 2 บ้านปราสาท ต.ธารปราสาท , จุดที่ 3 โนนเมืองเก่า บ้านดงพลอง ต.หลุมข้าว , จุดที่ 4 เนินอุโลก บ้านหนองนาตูม ต.พลสงคราม ซึ่งทั้ง 4 จุดนี้ ได้มีการขุดพบโบราณวัตถุก่อนประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ อายุกว่า 2,500 - 3,000 ปี และจุดที่ 5 คือ จุดบ้านโนนวัด ต.พลสงคราม เป็นจุดที่ค้นพบ โบราณวัตถุ และโครงกระดูก มนุษย์โบราณอายุกว่า 4,500 ปี ที่แขน 2 ข้างของโครงกระดูกใส่กำไลเปลือกหอยทะเลเต็มทั้ง 2 แขน ซึ่งนักโบราณคดียืนยันว่า หากมีการขยายหลุมขุดค้นต่อไป ก็จะพบวัตถุโบราณ และโครงกระดูก เพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ เพราะบริเวณนี้ถือเป็นอู่อารยะธรรมที่ใหญ่มาก ซึ่งเป็นคนละกลุ่มกันกับบ้านเชียง “การดำเนินการล่าสุด ทางจังหวัดนครราชสีมา โดย นายสุชาติ นพวรรณ รองผู้ว่าฯ นครราชสีมา ได้เป็นประธานประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการหารือเกี่ยวกับเรื่องการจัดหาที่ดิน เพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์ ร้านค้าของที่ระลึก และส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อการผลักดันสู่การเป็นมรดกโลกดังกล่าว ” นายระพี กล่าว ปล.อยากบอกว่าในพันทิปมีพวกที่สมัครหลายไอดีคอย เออ ออ ต้าอ่วยกันเยอะ ไม่เกี่ยวกับใคร คิด จึงพูดขึ้นมา จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 15:30:51

ความคิดเห็นที่ 17 อีกหนึ่งข้อความเชิงอรรถะรส (ไม่เคยมีอคดติกับประเทจีนนะครับเป็นเพียงสำนวนการใช้ไวยากรณ์ของผม ผมก็คือคนหนึ่งที่ถือว่าเป็นลุกศิษตำรายุทธวิธีสามก๊กเช่นกัน อ่านมันทุกคนตีความ จนรู้ความดง่เง่าเต่าตุนของบางคน แล้วรั้นมาเขียนหนังสือขาย) "เห็นช่วงนี้ประเทศจีนเร่งรีบเต้าข่าวนำเสนอ เจอหลุมโจโฉมั่ง มีอารยะทำมัมมี่บ้าง แต่ไม่ยอมให้องกรสากลตรวจสอบ อุเหม่ มันน่าสลดใจ" จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 15:36:26

ความคิดเห็นที่ 18 จากที่กล่าวไปว่า พอเรามองขอบเขตพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวยต่อการเป็นอาณาจักร และเราคือจ้าวผู้ปกครองละแวกพื้นที่ทางภาคตะวันออกของเอเชียเฉียงใต้ โดยเราเห็นเส้นแบ่งชัดเจนของขั้วทางพุกาม และดูเหมือนตกลงกันในเชิงแง่มุมการขยายขอบเขตอำนาจราชธานีคนล่ะฝั่ง จะผิดไหมถ้าจะพูดกล่าวว่าทฤษฏีที่ในวงการผู้ชำระประวัติศาสตร์มองว่าในเขตอาณาจักรเอเชียเฉียงใต้นี่คือกลุ่มสายเลือดเดียวกัน ปัญหาหลักๆของทฏฎีนี้คือการเก็บบันทึกประวัติศาตร์ของเราสูญหายจากการเผา และสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ พอหมดยุคสุโขทัย ละโว้ ขแมร์ การบันทึกทางเราหายไม่จากประวัติศาสตร์เนื่องจากในแถบนี้นิยมเก็บบันทึกไว้ในรูปแบบของใบลาน หรือวัสดุธรรมชาติ ที่ไม่ได้ผ่านการปรับแต่ง หรือวิวัฒน์ให้อยู่ในรูปที่คงทนกว่าเฉกเช่นทางยุโรปเก็บบันทึกจารไว้บนแผ่นหนังสัตว์ ทางจีนเก็บบันทึกลัษณะนิยมในรูปแบบม้วนไม้ไผ่ และคงรักษาไว้เป็นอย่างดี ถึงจะขาดบางช่วงบางตอนก็ตาม แต่ก็มีบันทึกถึงเราเช่นกัน หลักการของการชำระประวัติศาสตร์ไทยจึงต้องเริ่มต้นจากความช่วยเหลือข้อมูลจากจดหมายเหตุของทางยุโรป และจีน เติมในส่วนที่ขาดหายไป แน่นอนว่า ความน่าตื่นเต้นมันมีแน่นอนในการค้นหาตำนานของอาณาจักรบริเวณนี้ จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 16:27:14

ความคิดเห็นที่ 19 หัวกระทู้ที่แตกประเด็น คือการถามว่าทำไม มองโกลจึงไม่ยึดพื้นที่แถบแหลมทองนี้ทั้งๆที่ ก้าวมาอีกสามก้าว ก็สามารถยึดจุดที่สมบูรณ์ที่สุด แต่โบราณจวบจนปัจจุบัน  ถึงแม้ในเขตขอบ power map military ของการบันทึก ที่ทางการได้ยื่นไว้ มิได้ควบรวม ละโว้ สุโขทัย และส่วนที่เราเรียกว่าอารยธรรมขอม ตั้งอยู่ โดยในคำตอบของการกล่าวถึงเหตุผลของผม ตอบได้สามประเด็น (ซึ่งตอบไปแล้วคงต้องย้อนกลับไปดู)   โดยข้อมูลในวิกิพีเดียที่เพื่อนสมาชิกได้นำข้อมูลมาลงไส้ได้กล่าวทำนองส่า ทางสุโขทัยได้จัดส่วเครื่องราชบรรณาการ ให้จึงยึดแค่บางส่วนนของพื้นที่ power ของพุกาม (ส่วนเหตุผลยิบย่อยอื่น เป็นลักษณะน้ำ ผมจะใช้ว่า Story ละกัน ) ถ้าเปรียบน้ำมันวันนี้คือแหล่งทรัพยากรที่เป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนโลกมากที่สุด วันนั้นเรามีสิ่งืี่หลักนิยมคนยุคนั้นต้องมี ต้อง ล่า ต้องหา เป็นครอบครอง ทรัพยากรเอย เมืองปากแม่น้ำเอย จุดศูนย์กลางจองการติดต่อจากทางยุโรป และออสติน มันมีค่าแค่เพียงเครื่องราชบรรณาการ  (นั่นคือเครื่องทรงของเจ้าราชธานีขแมร์หาข้อมูลไม่ยาก) เท่านี้เองหรือ คือเขาบอกว่าเราอยู่ในเขตอิทธิพลของเขาเราถึงต้องส่งส่วย เพราะเราอยุ่ในเขตอิทธิพล แต่ทำไมล่ะ powermap ที่ทางเขายืนยัน กลัยไม่ควบรวมราชธานีในแถวละแวกนี้ มีเพียง พกาม ส่วนเล็กๆนิดหน่อยเท่านั้นเอง ข้อมูลเขาขัดแย้งกันเอง จากบันทึกของเขาเอง และภูมิศาสตร์เอง มันแทบเป็นศูนย์ทันทีถ้าใช้คำทำนองว่า "มนุษย์ทุกคนวิ่งเข้าหาแหล่งทะเลทรายและที่ทุรกันดาร  เพื่อค้นหาต้นกะบองเพชร มาผสมกัยเห็ดหลินจือ รับประทานแล้ว อิ่มท้องได้ สามชั่วคน " จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 16:43:36

ความคิดเห็นที่ 20 ท่านที่อ่านมาจากกระทู้ก่อนหน้าแล้ว จะวนลูปเล็กน้อย เพราะผมเลยใช้โอกาสอันนี้ที่แตกประเด็นนี้สรุปความเข้าใจสั้นๆ ในแนวการสื่อพร้อมภาพประกอบ รูปภาพ power military ยุคมองโกลพีคที่สุด จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 16:46:02

ความคิดเห็นที่ 21 เรามาไล่ยุคกันก่อน พอเห็นเป็น พ.ศ. มันก็ไม่สับสน ^ ^ จักรวรรดิเปอร์เซีย (จักรวรรดิเปอร์เชียอคีเมนียะห์)    ก่อน พ.ศ. ๑๕๐ ปี ถึง พ.ศ. ๒๑๓ จักรวรรดิโรมัน                                                 พ.ศ. ๕๑๗–พ.ศ. ๑๐๑๙ จักรวรรดิโรมันตะวันออก(ไบเซนไทน์)                  พ.ศ. ๘๗๓–๑๙๙๖ อเล็กซานเดอร์มหาราชตั้งแต่เกิดจนถึงจุดพีค        พ.ศ. ๑๘๗ - ๒๒๐ ยุคจักรวรรดิอินเดีย (พระเจ้าอโศกมหาราช)          พ.ศ.๒๑๔-๕๑๓ จิ๋นซี ฮ่องเต้                                                   พ.ศ. ๓๒๓— กันยายน พ.ศ. ๓๓๓ ขอมรุ่งเรือง                                                    พ.ศ.   ๘๘๙-๑๔๓๑ เส้นทางสายไหมราวปี                                         พ.ศ. ๑๗๒๔-๑๗๕๒ สุโขทัย                                                            พ.ศ. ๑๗๘๒-๑๗๘๐ จักรวรรดิรัสเซีย                                                  พ.ศ.๒๒๖๔-๒๔๖๐ ดูรูปที่แนบก่อนนะครับเดี๋ยวผมมาเพิ่มข้อมูลต่อนะครับ ดูความสัมพันธ์ของเส้นทางสายไหม ถ้าเรามองขอบเขตอาณาจักรเชิงชายแดนนิเวศน์ แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 18:30:21 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 18:25:21 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 18:13:47 จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 17:37:46

ความคิดเห็นที่ 22 รูปไม่ขึ้น จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 18:04:06

ความคิดเห็นที่ 23 จากเส้นยุครุ่งเรืองของแต่ละอาณาจักร เรามาไล่ยุคกันก่อน พอเห็นเป็น พ.ศ. มันก็ไม่สับสน ^ ^ จักรวรรดิเปอร์เซีย (จักรวรรดิเปอร์เชียอคีเมนียะห์)    ก่อน พ.ศ. ๑๕๐ ปี ถึง พ.ศ. ๒๑๓ จักรวรรดิโรมัน                                                 พ.ศ. ๕๑๗–พ.ศ. ๑๐๑๙ อเล็กซานเดอร์มหาราชตั้งแต่เกิดจนถึงจุดพีค        พ.ศ. ๑๘๗ - ๒๒๐ ยุคจักรวรรดิอินเดีย (พระเจ้าอโศกมหาราช)          พ.ศ.๒๑๔-๕๑๓ จิ๋นซี ฮ่องเต้                                                   พ.ศ. ๓๒๓— กันยายน พ.ศ. ๓๓๓ จักรวรรดิโรมันตะวันออก(ไบเซนไทน์)                  พ.ศ. ๘๗๓–๑๙๙๖ ขอมรุ่งเรือง                                                    พ.ศ.   ๘๘๙-๑๔๓๑ เส้นทางสายไหมราวปี                                         พ.ศ. ๑๗๒๔-๑๗๕๒ สุโขทัย                                                            พ.ศ. ๑๗๘๒-๑๗๘๐ จักรวรรดิรัสเซีย                                                  พ.ศ.๒๒๖๔-๒๔๖๐ เรามาเริ่มกันที่จักรวรรดิเปอเซีย กันเลย จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 18:33:26

ความคิดเห็นที่ 24 จักรวรรดิเปอร์เซีย (จักรวรรดิเปอร์เชียอคีเมนียะห์)    ก่อน พ.ศ. ๑๕๐ ปี ถึง พ.ศ. ๒๑๓ จักรวรรดิเปอเซีย (อคีเมดียะห์)ถ้าเรานับจากยุคที่ รุ่งเรืองที่สุดจะเป็นช่วงยุคพระเจ้า ดาไรอัส พี่แกเล่นครอบคลุมอาณาเขตพื้นที่มหาศาลทั้งทางยุโรปและเอเชีย ที่รวมทั้งดินแดนในอัฟกานิสถาน และ ปากีสถาน, บางส่วนของเอเชียกลาง, อานาโตเลีย, เธรซ, บริเวณริมฝั่งทะเลดำส่วนใหญ่, อิรัก, ตอนเหนือของซาอุดีอาระเบีย, จอร์แดน, ปาเลสไตน์, เลบานอน, ซีเรีย และอียิปต์ไปจนถึงลิเบียจากรูปที่แนบ เอ! จักรวรรดิ์เปอเซียเขาไปติดอะไรที่แถวๆช่วงริมแม่น้ำสินธุกันนะ จจุดที่มากสีดำดาวกระจายไว้เป็นขอบสุดของแต่ละทิศที่ได้ขยายอาณาบริเวณอาณาจักรดิ์เปอเซีย แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 18:44:16 จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 18:42:36

ความคิดเห็นที่ 25 พระเจ้าดาไรอัส หรือ ดาริอุสมหาราช  ทรงเป็น มหาราชองค์ที่ 2 ต่อจาก พระเจ้าไซรัสมหาราช เป็นพระโอรสของเจ้าชายองค์หนึ่งใน ราชวงศ์อคีเมนียะห์ เสียชีวิตเมื่ออายุเพียง ๒๗ ปีเท่านั้น จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 18:49:51

ความคิดเห็นที่ 26 ต่อมาในยุคของจักรวรรดิโรมัน                         พ.ศ. ๕๑๗–พ.ศ. ๑๐๑๙ ช่วงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวรรดินี้ช่วงราวต้นปี พ.ศ.๖๐๐ ซึ่งจากยุคจักรดิวรรดิโรมันล่มสลาย จ้าวผู้ปกครองอาณาจักรไบเซนไทน์ก็ขึ้นมามีอำนาจเหนือภูมิภาคนี้ จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 18:57:56

ความคิดเห็นที่ 27 คิดว่าผมพักก่อนครับล่ะครับ ดูแล้วผมคงเจออาการ Human Error เหมือนกับว่าสมองทำงานช้า ผิดปกติ ร่ำรวยสุขภาพครับ แล้วเจอกัน จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 19:22:01

ความคิดเห็นที่ 28 ..... แหล่งอารยธรรมโบราณในจีนเก่ากว่าบ้านเชียงเยอะ อย่าง Majiayao เนี่ยยุคเดียวกับบ้านเชียงยุคแรกๆ (Bronze) แต่เขาเก่ากว่าตั้งร่วม 1000 ปีเลยนะ http://en.wikipedia.org/wiki/Majiayao_culture ป.ล. จากผลการทำ Radiocarbon Dating ล่าสุดบ้านเชียง'ใหม่' กว่าเดิมจาก เดิมที่ให้ไว้ที่ 3400 - 4200 BCE เหลือประมาณ 2000 BCE ร่วมรุ่นกับอารยธรรมยุคเดียวกัน ตัวเลขเก่าที่บอกว่าแก่ที่สุดมันเป็นตัวเลขที่ไม่เที่ยงตรง เพิ่ม Ref http://ejournal.anu.edu.au/index.php/bippa/article/viewFile/380/369 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 54 12:24:12 จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 54 12:20:21

ความคิดเห็นที่ 29 ยังรอคำตอบเรื่อง Generation A B C D อยู่นะครับว่าคืออะไร ใช้การแบ่งแบบไหน เห็นไป post ไว้หลายกระทู้ไม่เห็นอธิบายสักที เพราะผมเคยได้ยินแต่ Generation X Y Z จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 54 20:16:33

ความคิดเห็นที่ 30 เจอสอง คห บน จขกท งานเข้า   ผมก็ยังคอยติดตามอยุ่นะครับ เป็นกำลังใจให้คุณ sagonlapat นะครับ   ...... จากคุณ : อยากกินตับ เขียนเมื่อ : วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 54 20:22:18

ความคิดเห็นที่ 31 เป็นกำลังใจให้ จขกท  ถ้าจะเพิ่มเติม อาณาจักร พนม ด้วยจะขอบคุณมากครับ (ผมก็อยากรู้ว่าที่มีที่ไปของผมเป็นเชลยที่เวียงจันทร์ต้อนมาจากสระบุรี หรือว่าเป็นคนสระบุรีที่ถูกต้อนมาจากเวียงจันทร์  งงที่มาที่ไปตัวเอง  = =' จากคุณ : เมฆพัตร เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 14:16:16

ความคิดเห็นที่ 32 ส่วนเรื่องบ้านเชียง  ใครใคร่จะเชื่ออย่างไร ดุลพินิจ ก็ว่ากัน เพราะผมทราบว่านำความจริงมาเล่าสู่ ไม่เก่ง นำ HTML มาประกอบ และคงไม่ว่างมากพอจะถ่ายรูป ลงทุนอะไรมากเกินไปมาลง เพื่อแค่ให้คนดื้อบางคนเข้าใจ (ก็บอกแล้วไงเล่าสู่ แล้วแต่จะคิดกัน ตรองกันดู) สัมผัสด้วยตาไม่ดีกว่าหรือ ^ ^ คนเราถ้ามีพาวเวอร์ แห่งปัญญา ก็จะนำพาไปสู่ สาขาอาชีพที่ดี มีโอกาส เขาไปอยู่ในแวดวงโบราณคดีสากลดูบ้าง ถ้ายังมีโอกาสไม่ดูถูกกันมากไปนะ วันนี้บอกตรงๆหลังจากพักผ่อนเต็มที่ อารมณ์ดีผิดปกติ อารมณ์ดีจึงเลยแปลกใจว่าทำไมบางคนเครียดจัง พวกเรารู้จักกันด้วยเหรอ คุ้มไหมพิมพ์เครียดๆกับผม  แล้วเดี๋ยวก็คงเถียงกระมังว่าไม่ได้เครียด อะไรที่มันมากไปก็ไม่ดีนะ ^ ^ ขนกันมาให้เต็มเหนี่ยว จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 16:57:54

ความคิดเห็นที่ 33 หาเวลาตั้งแต่เช้า จนถึง 5 โมงเย็นให้ว่างให้ได้ (ถ้ายังหาโลกกว้างไม่ได้ ก็จงเก่งแค่หน้าที่ของคุณ แล้วใช้เวลาท่องเที่ยวให้ทั่ว บางอย่างที่เห็นมันไมจำเป็นที่ต้อง โพนทะนานมาก ถ้ายังหาเวลาแบบนี้ไม่ได้ โลกไม่ได้มี เพียงแค่นี้หรอก หลุดจากวังวนเดิมๆบ้างกับความรู้ที่มีน้อยนิด  พออายุเยอะๆเวลาจะมีมากขึ้น หาเวลาไปเปิดหูตา ทำตัวให้สะอาด เก็บเงินเดินทาง ไปในที่ที่อยากไป จะจับหิมะ จะจับหมีขาว อยากล่าสัตว์   ผมยังทราบเลยว่าโลกมันกว้าง มากมาย จึงเลือกที่จะรับฟังให้มากๆ แล้วค่อยเอาไปไตร่ตรอง เราจึงจะได้ปัญญา หรือลาออกจากงาน หนีจากกระดาษ หนีจากจอภาพ   เชื่อว่าทุกคนอยากพักผ่อน และผมเองก็อยากพักผ่อน และจะรีบเล่าให้จบ ok นะ  ผมมันคนประหลาด  จริงแล้ว ทำเป็นมองไม่เห็น คนที่ตีวัวกระทบคราดผมมา นี่กลัวว่าพวกคุณไร้ค่านะเนี่ย จึงเขียน ถ้าจะไม่พูดถึงเลย  เดี๋ยวพวกคุณจะไม่มีที่ให้คุณเหยียบ ตะโกนบอกว่่า ข้าเก่ง ข้าฉลาด ๕๕๕ เรื่องคนแบบคุณพวกนี้ผมเจอมาตอนพวกคุณเป็นหนึ่งในอนุพันธ์ของ วิตามินCและD แล้วไหนสักแห่งของโลกนี้ล่ะ และผมก็อยู่ ไม่แน่หรอกพวกคุณอาจจะเรียนจากตำราผม  อีก สามสิบปีค่อยมาเถียงกัน(ไม่ได้ว่าเพราะพวกคุณคิดต่าง) วิ่งมาให้เสมอผมก่อนแล้วค่อยเก่ง ตอนนี้ก็เก่งได้แต่พวกเพื่อนคุณนั่นแหละ ไม่ใข่ว่าพวกคุณบางคนไม่เก่งกว่าผม แต่อย่าเพิ่งหาญกล้ามาชน เพราะชีวิตจะพังตั้งแต่ยังไม่ได้มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน (ไม่ใช่เพราะผม เพราะตัวเองนะ ไม่คุ้มค่าหรอก) "อ่านให้"เป็นกลอน" ระวัง ให้จงมั่น เจ้าบอกว่าตนมีพลัง จะไปนั่ง ขอทาน เพราะมัวแต่ระราน บอกกันโพนทะนาน ว่าข้าเก่ง   เอ้าะ แหม ข้าก็ว่าเอ็งก็เจ๋ง ชีวิตข้าลำเค็ญ กว่าเจ้าที่เพิ่งมา ข้าว่าเจ้า นั้น ก็ ดี หนักหนา เพียงแต่ ... เจ้าช่างไร้ค่า เพราะไม่ประมาณตน เด็กน้อย ^ ^ ประชดกระทบคราดบ้าง แรงนะจ๊ะ   จบละ^ ^ จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 17:31:10

ความคิดเห็นที่ 34 จขกท    คือ เค้านึกว่านายจะมาต่อเรื่องโบราณคณี อุตสาห์รออ่าน   ... .  เอาใหม่รอใหม่ จากคุณ : อยากกินตับ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 18:51:27

ความคิดเห็นที่ 35 รออยู่นะคะ จากคุณ : PlalaPlala เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 20:13:43 A:114.185.158.87 X: TicketID:327469

ความคิดเห็นที่ 36 อ้าว!!!  จบซะงั้น แล้วอาณาจักรพนมผมล่ะ   กำ =_=' จากคุณ : เมฆพัตร เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 21:10:39

ความคิดเห็นที่ 37 จบดื้อ ๆ ซะงั้น งั้นคงต้องไปหาอ่านอะไรที่มันจริง ๆ จัง ๆ กว่านี้ น่าจะดีกว่า จากคุณ : Taiyo เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 22:26:13 A:101.109.3.240 X: TicketID:319350

ความคิดเห็นที่ 38 ยังไม่จบ ^ ^ เปิดหนังสือจากชั้นหนังสือมาไล่เรียงข้อมูลใหม่ก่อนจะเรียบเรียงให้อ่านให้เข้าใจ จบก็คือจบ มันคือหน้าที่ที่ผมเริ่มเล่าและต้องทำให้จบ ปล.อยู่สวิสเลยคาบกันระหว่างช่วงเวลาครับ กระทู้นี้ยาวและอาจต่อเนื่องหล่ยกระทู้ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 23:53:48

ความคิดเห็นที่ 39 ทึ่จบคือ ผมจบแล้ว(ที่ใช้วาจากระทบผมก็จบได้แล้ว) จุดบอดภาษาเขียนมีมากมายที่ทำให้เถียงกันโดยไร้ค่า นี่ก็อีกหนึ่งตัวอย่่าง ของความดิบภาษาเขียนมันขาดภาษาความรู้สึก จึงตีตรงตามข้อมูลอักษรดิบๆ พอเห็นกลไกการทะเลาะกันในพันทิปชัดเจนแล้วใช่ไหม กับเรื่องบางเรื่อง (หมายถึงกระทู้อื่นๆที่เถียงกันด้วยภาษาเขียน) รับรองว่าได้สาระมากกว่าที่คาดคิดแน่ ที่ผมต้องการทำให้จบคือการถ่ายทอดความเข้าใจของผม ให้พวกคุณ ที่ต้องการรับข้อมูลอีกแง่มุมหนึ่งไว้ใช้ไตร่ตรอง จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:03:32

ความคิดเห็นที่ 40 จะไปใช้ความเชื่อทำไม ใช้หลักฐานสิ ถ้าหลักฐานผิดค่อยว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง ความเชื่อมันสู้หลักฐานไม่ได้หรอกนะ จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:11:42

ความคิดเห็นที่ 41 ต่อนะครับ จากสองสามอานาณาจักรที่ได้เอ่ยขึ้นมา (เส้นแบ่งอาณาตักรบางครั้งต้องยอมรับตามประเทศที่สร้างประวัติศาสตร์ตนเอง) และชุด ตัวอย่างแรก จะเห็นเส้นคาบเกี่ยวชัดเจนกับช่วงเวลาแต่ละยุคสมัย (ตามบทศึกษาที่มีอยู่ในปัจจุบัน) เราจะเห็นว่าการขยายขอบอาณาเขตของคำว่าอาณาจักรจะมีการยืดหยุ่นตลอดเวลา เป็นการยืดหยุ่นตามกลไกโครงสร้างอิทธิพลสังคมมนุษย์ และสร้างรูปแบบการปกครองที่เคร่งครัด โดยแบ่งอำนาจการปกครอง แยกกลุ่มปกขอว ตั้วอย่างเช่น กรีก-โรมัน นักศึกษาประวัติศาสตร์จะทราบดีว่า กรีก-โรม-ไบเซนไทน์(โรมันตะวันออก) ไม่สามารถแยกออกจากกันได้เลย แต่เขาก็ยังใช้คำแยกจากกันในลักษณะของการอ้างอิงจากประเทศที่ต้องการอ้างอิงว่าชาติของตนเป็นตัวแปร จึงใช้เรียกแทนประวัติศาสตร์ตนให้เป็น อาณาจักร   อาณาจักรกรีก อาณาจักรโรม และอาณาจักรโรมันไบเซนไทน์ ถ้าเราจะมองเป็นราชธานีล่ะ (ขออนุญาตใช้คำไทยอาขยานให้ตรงครบถ้วนกระบวนความ)  หรือเป็นหนึ่งในส่วนของโครงสร้าง (แน่ล่ะเห็นยังว่านาซ่าก็เป็นส่วนหนึ่งในองการอวกาศสากลและยังต้องอยู่ในการควบคุมของกลาโหมสหรัฐที่มีคนวางรากนโยบายโดยประธานาธิบดี ที่ได้รับเลือกตั้วมาจาก พลเมือง(ซิตี้เซ้น) ซึ่งเป็นส่วนล่างสุดของโครงสร้าง (วนเป็นวงล้อ) มองให้เป็นแคปปิตอล Capital.   ต่อข้อความถัดไป ขอรับทานอาหารให้เรียบร้อยก่อนครับ จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 00:56:06

ความคิดเห็นที่ 42 เอ้า พ่อคนเก่ง  ไหนโชว์หลักฐานการใส่ กางเกงในของคุณตอนนี้ให้ดูหน่อย งั้นผมจะบอกว่าผมเลือกที่จะเชื่อว่าคุณใส่กระโปรง  พิสูจน์ด้วยหลักฐาน ในบอร์ดนี้ ให้ผมดูหน่อย เก่งครับเก่ง  พ่อคนเก่งผมยอมแล้วนะ หลักฐานกางเกงในคุณให้ตายคุณก็ทำให้คนในที่นี่เชื่อไม่ได้หรอก หรือสิ่งที่คุณถามคือสิ่งที่หาเจอง่ายๆในกูเกิล แล้วผมจะเอามาให้ชมทำไมในเมื่อมันหาง่าย อ่านไป จับใจคีย์เวิร์ดแล้วไปหา มันไม่ง่ายกว่าเหรอ จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 01:08:46

ความคิดเห็นที่ 43 ผมเชื่อว่าคุณ Nexus ใส่กระโปรงสีเขียว ^ ^ ทานข้าวดีกว่าคนแบบคุณคือคนที่ยังไม่ทำตามคำแนะนำผม คือ อ่านที่ผมบอกให้จบ ตั้งแต่กระทู้ที่แตกมา ผมว่าผมเรียนอย่างเป็นกลางเสมอ ^ ^ ไม่เสียเวลาละ ทานข้าวแล้วครับ จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 01:10:35

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่รู้จะเข้าใจที่สื่อไหมนะ เวทีนี่มันไม่ใช่เวทีที่เป็นทางการ บางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องเหนื่อยมานั่งถ่ายวีดีโอ ถ่ายรูปกับทุกเรื่องหรอก คุณ Nexus ความคิดอ่านคุณยังน้อย  ถ้าคุณคือกลุ่มคนที่มีหน้าที่แชร์ข้อมูลเอามาหักล้างโดยตรง ถึงคู่ควร  แต่ไอ้บางอย่าง ไมน์แม้บ ไลน์เทรน  พวกนี้ ขีดเขียนเอาตามประสา ผมทำได้ทีาผมจะทำ ใครบังคับผมไม่ได้ และผมบังคับให้เชื่อผมไม่ได้ แต่สามารถโต้แย้งแบบมีเหตุผลได้ ถ้าสิ่งที่คุณทำสามารถอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าผม fake ขึ้นมา รับรองได้ว่าผมคงได้ไปสอนคุณวิชาสังคมศึกษาให้คุณเร็วๆนี้แน่ จะบอกว่าไปนอนเสีย ลืมไปพรุ่งนี้วันอะไร ว่าไง พนักงานน้อย อย่านะ ตราบถ้ายังใช่ความเขลาของคุณ^ ^ จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 01:26:07

ความคิดเห็นที่ 45 ในนิยามของคำว่า กรีก-โรมันที่ผมลงไว้ตั้งแต่กระทู้ที่ผ่านมามีความหมายเช่นไร (แน่นอนว่ามันไม่ใช่วาอาณาจักรกรีก กับอาณาจักรโรมันแน่) มันคือ"อาณาจักรกรีกโรมัน โดยมีต้นกำเนิดอารยธรรมแห่งนี้เริ่มต้นอาณาเขตที่เรียกว่ากรีก   และย้ายเขตจุดศูนย์กลางของอาณาจักรไปตามแหล่งทรัพยากร หรือ วิ่งเข้าหาแหล่งน้ำในแหล่งที่ราบลุ่ม อุดมด้วยทรัพยากร หัวข้อถัดไปจะพูถึงโครงสร้างกรีก จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 02:03:37

ความคิดเห็นที่ 46 เชิงอรรถรส โครงสร้างกรีก-โรมัน ที่ผิดเพี้ยนส่วนหนึ่งจากตำราการเรียนสอนที่สื่อเสนอผิดพลาด (รวมถึงชาวต่างชาติก็ใช่ว่าต่างกันกับเราในความเขลา) ในวิกิแยกการเรียกอาณาจักรกรีก อาณาจักรโรมัน  ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ผิดไม่ถูก  เป็นการขยาย(ที่เป็นน้ำ)ไม่ถูกหลักการ จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 02:11:23

ความคิดเห็นที่ 47 ขอยาวๆแบบกระทุ้ที่แล้วหน่อยดิ นี่สันไปอะ     อยุ่สวิสซื้อชอกโกแลตมาฝากด้วยนะครับ ............... จากคุณ : อยากกินตับ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 12:22:29

ความคิดเห็นที่ 48 เฮ้อ อย่าตอบแบบห้องสมุึดสิครับ ที่นี่ห้องหว้ากอที่โต้แย้งกันด้วยตรรกะเหตุผล ไม่ใช่ประกาศหัวโขนขู่คู่สนทนาไปปาวๆนะครับ แล้ว Gen C D นี่เห็นคนถามหลายครั้งแล้ว คุณก็ยังแถไปเรื่อย และยังมาหลุดใช้อีกหลายครั้งเช่นกัน จะบอกว่าจำผิดก็บอกมาสิครับ หรือจะอ้างว่าเป็นการจัดแบ่งทางวิชาการแบบใหม่ ก็อธิบายเปิดโลกทัศน์ให้คนอื่นหน่อยก็ได้ ว่าเป็นยังไง แบ่งแบบไหน มีที่มาอย่างไร ไม่ใช่มาข่มขู่คู่สนทนา หรืออวดอ้างว่าฉันอาวุโส ฉันเก่ง ห้ามสงสัยฉัน แหมมีไล่ให้ไปรออ่านตำราในอนาคตอีก ทำไมต้องรอล่ะครับ ตอบตรงๆตอนนี้ไม่ได้หรือว่าที่คุณพูดออกไปเมื่อไม่กี่คคห.ก่อนหน้า นั้นมีหลักการที่มาอย่างไร? ไม่งั้นแล้วปัญญามันจะเกิดได้อย่างไร? ถ้าอยาก"เล่า" โดยห้ามคนอื่นแย้ง ห้ามถาม ห้ามสงสัย ผมว่ากลับไปห้องสมุดดีกว่ามั๊งครับ จะตรงประเด็นและเนื้อหาหลักของห้องมากกว่า จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 54 23:56:34

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณที่เล่าครับ ขอบคุณที่แย้งครับ ยังไงผมก็เซฟเก็บอ่านอยู่ดี ^^ จากคุณ : GG เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 54 06:24:41 A:58.8.179.71 X: TicketID:312375

ความคิดเห็นที่ 50 ต่อให้เป็นที่ห้องสมุด แต่ถ้าพูดเรื่องประวัติศาสตร์ก็ต้องมีหลักฐานอ้างอิง ถ้าพูดลอยๆผมก็พูดได้ว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนไทย พระไตรปิฎกเกิดที่สยาม กรีกกับโรมันจุดกำเนิดก็แตกต่างกันแล้ว  - -' จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 02:45:40

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นว่าเหตุผลในการโต้แย้ง ของ คุณ....4จุด / Nexus ดีกว่า ------------------อันนี้ก็ไม่ตอบ แถม แถสดซะอีก ความคิดเห็นที่ 28     ..... แหล่งอารยธรรมโบราณในจีนเก่ากว่าบ้านเชียงเยอะ อย่าง Majiayao เนี่ยยุคเดียวกับบ้านเชียงยุคแรกๆ (Bronze) แต่เขาเก่ากว่าตั้งร่วม 1000 ปีเลยนะ http://en.wikipedia.org/wiki/Majiayao_culture ป.ล. จากผลการทำ Radiocarbon Dating ล่าสุดบ้านเชียง'ใหม่' กว่าเดิมจาก เดิมที่ให้ไว้ที่ 3400 - 4200 BCE เหลือประมาณ 2000 BCE ร่วมรุ่นกับอารยธรรมยุคเดียวกัน ตัวเลขเก่าที่บอกว่าแก่ที่สุดมันเป็นตัวเลขที่ไม่เที่ยงตรง เพิ่ม Ref http://ejournal.anu.edu.au/index.php/bippa/article/viewFile/380/369 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 54 12:24:12 จากคุณ : Nexus   --------------------------------------------- ส่วนที่ผักบุ้งโหรงเหรง แถไปเรื่อยๆไม่ควรพิมพ์ เพราะมันไร้สาระ จากคุณ : tanakeme เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 14:01:40

ความคิดเห็นที่ 52 หายต่อม ไปไหนแล้วเนี่ย จากคุณ : tanakeme เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 54 12:20:52

ความคิดเห็นที่ 53 ผมเป็นคนนึงที่ยังอยากทราบข้อมูลต่อไป การที่จะเชื่อไม่เชื่อมันก็อยู่ที่วิจารณญาณ ของแต่ละคนครับ จากคุณ : lexkrub (lexkrub) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 01:10:38