 |
อืม ถ้าสร้างเขื่อนก็ 12,000 ล้านบาท
- ถ้าจะทำอุโมงค์ผันน้ำ ก็หลัก 100,000 ล้านบาทขึ้นไป แต่ก็ไม่แน่จะแก้น้ำท่วมได้ไหมเหมือนกัน เพราะถ้าน้ำมาเยอะๆ ก็ไม่แน่ว่าจะระบายทันเหมือนกัน และการสร้างอุโมงค์ก็ต้องขุดที่ดินยังกะรูตุ่น ฝังอุโมงค์ขนาดใหญ่ และต้องขุดลอกอ่างเก็บน้ำเพิ่มเก็บน้ำเป็นจุดๆ ต้องขุดลอกแม่น้ำ ยากมาก เพราะบางช่วงก็กว้างมากๆ แถมขุดได้ไม่กี่ปีก็ตื้นเขินอีก เพราะดินที่มาจากเขาก็จะลงมาทับถมอีก ซ้ำการขุดลอกคลองหรือแม่น้ำอาจต้องสูญเสียต้นไม้ข้างๆคลองซึ่งป้องกันตลิ่งพังอีก กระทบวงกว้างเช่นเดียวกัน ถ้าคิดตามประสบการณ์ที่น้อยๆของผม ผมว่าการขุดลอกคลองและการทำอุโมงค์ผันน้ำนี่กระทบวงกว้างกว่าแน่ๆ และต้องใช้เวลาเป็นสิบปี และบริหารจัดการยากกว่า งบผูกพันก็เยอะกว่า ถ้าคนยังไม่พร้อมไม่น่าทำแน่ๆ เพราะผมเชื่อว่าจะเสียมากกว่าได้ ถ้าจะทำจริง ก็ต้องลองทำจากลุ่มน้ำเล็กๆ ดูก่อน แล้วค่อยขยายผล ถ้าทำใหญ่เลยเกรงว่าไทยจะมีอนุสาวรีณ์เพิ่มขึ้น
- การทำอุโมงค์ผันน้ำนั้นดีแต่จัดการยากมากๆๆๆๆ เพราะน้ำที่ไหลเข้าอุโมงค์จะต้องคำนวณความเร็วให้ดีๆ ถ้าช้าไปน้ำฤดูน้ำหลากจะมีตะกอน มีท่อนซุง มีความสกปรกมาก โอกาสตกตะกอนและตันก็จะมากตาม แล้วจะลอกยังไงเพราะมันฝังอยู่ใต้ดิน ถ้าความเร็วมาก ก็ต้องระวังความเสียหายของอุโมงค์ ถ้าอุโมงค์พังก็จะได้อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นแน่ๆ อย่าลืมนะครับ นี่คือน้ำธรรมชาติ ทั้งตะกอนทั้งทรายทั้งท่อนซุง ต้องดักออกก่อนไม่งั้นระบบเสียหายหมด แล้วถ้าใครเคยซ่อมท่อใต้ดินจะรู้ซึ้งเลยว่ามันซ่อมยากแค่ไหน
- ขุดลอกคูคลอง ลำน้ำต่างๆ ก็ต้องคำนวณว่าจะต้องขยายเท่าไหร่จึงจะระบายน้ำได้ทันและสมดุล และถ้าขุดลอกเมื่อไหร่หน้าแล้งจะไม่มีน้ำใช้เพราะมันจะระบายได้คล่องปร๋อ ต้องทำฝายดักเป็นช่วงๆ ถ้ากั้นไม่ดีก็เอ่อท่วมอีก การขุดลอกคลองและลำน้ำจะทำให้น้ำไหลได้สะดวกฃึ้นและเร็วขึ้นด้วย จะต้องทำแนวกันตลิ่งพังด้วย ทำอาคารสลายพลังงานน้ำเพื่อคุมความเร็วน้ำ ทำประตูกั้นน้ำเปิดปิดกันเป็นช่วงๆ และต้องเปิดปิดกันให้สัมพันธ์กันด้วย ไม่งั้นก็ท่วมอีก
ผมนี่มันช่างคิดมากจริงๆ มองไปวิธีไหนก็เจอแต่ปัญหา
"การแก้ปัญหาหนึ่งมักนำเราไปสู่อีกปัญหาเสมอ"
จากที่ผมวิเคราะห์ดูคร่าวๆข้างต้น ผมว่าเขื่อนเหมาะสมที่สุด ทั้งเรื่องงบประมาณก่อสร้าง งบผูกพัน การดูแลรักษา การใช้งาน และประโยชน์ที่จะได้รับ และผลกระทบก็ไม่ได้มากกว่าการทำอุโมงค์ผันน้ำและการขุดลอกคูคลองเลย และอาจจะกระทบน้อยกว่าด้วยซ้ำไป
เขื่อนไม่ได้ดีที่สุดแต่ผมว่าเขื่อนเหมาะสมที่สุด กับโจทย์ข้อนี้
สำหรับผมแล้ว ไม่จำเป็นต้องดีที่สุด แต่ขอให้เหมาะสมที่สุดเเป็นพอ
เหมาะสม???????????
1.งบประมาณเงินลงทุนของประเทศ
2.สภาพพื้นที่ภูมิประเทศของปัญหาและพื้นที่หัวงาน
3.การจัดการทั้งก่อสร้างขณะสร้างและหลังจากสร้างเสร็จ
4.การใช้งานง่ายและเป็นมิตร
5.ซ่อมดูแลรักษาได้ง่ายและไม่แพง
6.มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง
7.มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย
8.มีความคุ้มค่าการลงทุนมากที่สุด
9.ประชาชนในพื้นที่ที่รับประโยชน์สามารถมีส่วนร่วมในการจัดการได้ง่าย
ท่านๆที่อ่านข้อความผม ลองให้คะแนนใน 9 ข้อนี้ดู ว่า 3 วิธีนี้ ท่านให้คะแนนวิธีไหนมากที่สุด ถ้าเต็ม 10 คะแนน ผมให้
1. เขื่อน ผมให้ 8
2. อุโมงค์ผันน้ำ ผมให้ 5
3.ขุดลองคูคลอง แม่น้ำต่างๆ ผมให้ 6.5
4. ใช้ทั้ง 3 วิธี ร่วมกัน ผมให้ 9.5
ถ้าเลือกได้ผมขอเลือกเอาทุกๆวิธี มาใช้ร่วมกัน เสริมข้อดีและลบข้อด้อยของแต่ละวิธี เพราะถ้าทำได้จะแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน (ผมคิดว่างั้นนะ) เกษตรกรจะได้มีน้ำใช้เพื่อการเกษตรอย่างทั่วถึงพึ่งหาตนเองได้ ลดปัญหาการว่างงาน บรรเทาปัญหาน้ำท่วมภาคเหนือและน้ำเหนือจะไม่ได้ไหลมาท่วมภาคกลาง จะเกิดการประสานการทำงานของทุกภาคส่วน (ฮ่าๆๆๆๆ ฝันเฟื่องจริงๆ เลยเรา)
แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 54 01:02:24
แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 54 00:46:04
แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 54 00:42:43
| จากคุณ |
:
ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) 
|
| เขียนเมื่อ |
:
19 ส.ค. 54 00:15:33
|
|
|
|
|
เกี่ยวกับแก่งเสือเต้น ชาวหว้ากอ เลือกแนวทางไหน
ความคิดเห็นที่ 1
