PANTIP.COM : X10952983 เชื้อแลคโตบาซิลัสและแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในโยเกิร์ต มันกลายพันธุ์ได้หรือไม่? [วิทยาศาสตร์]

ความคิดเห็นที่ 2

1. คุณภาพโยเกิร์ต หรือแบคทีเรียเทพที่หมักครั้งท้ายๆ มันจะกลายพันธุ์เป็น
แบคทีเรียมารหรือเปล่า
หัวเชื้อที่นำมาต่อจากโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ตัวเชื้อมันโดนกำหนดไว้แล้วครับ ว่าเจริญเติบโตได้แค่ไม่กี่รุ่น (รายละเอียดเป็นเรื่องระดับ DNA ความรู้ผมก็โยนลงหม้อไปหมดแล้วครับ T-T)
การต่อเชื้อจาก 1 ไป 2 จาก 2 ไป 3 รสชาติมันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่การทานมันก็ไม่น่าจะมีผลต่อสุขภาพเท่าไหร่ มีแค่ความรู้สึกการทานที่เปลี่ยนไปแค่นั้น

2. หรือว่าแลคโตบาซิลัสเวลาอยู่ในนมมันจะฆ่าแบคทีเรียมารที่เราไม่ต้องการได้?
นมที่จะนำมาทำโยเกิร์ต ต้องทำการต้มฆ่าเชื้อก่อนอยู่แล้วครับ เป็นการเคลียร์เชื้ออื่นออกไปให้มากที่สุด ปูทางให้เชื้อที่เราจะใส่ลงไปโตได้เต็มที่ไม่โดนเชื้ออื่นเบียด เมื่อเชื้อนี่เจริญเติบโตกรดแลคติกที่มันผลิตออกมาก็ทำให้เชื้ออื่นโตไม่ทันมัน

3. ถ้าเราไม่มีเครื่องมือตรวจสอบเชื้อแลคโตฯ เราจะสังเกตจากกลิ่นและ
รสชาติอย่างเดียวได้ไหม? คือถ้าชิมแล้วมันเหมือนโยเกิร์ตก็ถือว่าใ้ช้ได้?
ได้ครับ เป็นวิธีที่สะดวก และรวดเร็วในการตรวจสอบ

4. มีใครบอกว่าการทำโยเกิร์ตไม่ต้องสนใจเรื่องต้องใช้นมไร้ไขมัน หรือพร่องไขมัน
ใช้นมธรรมดาไขมันปกตินี่แหละ เพราะเชื้อแลคโตมันจะย่อยหรือสลายไขมัน
ได้อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องคอเลสเตอรอลหรืออันตรายจากไขมันสัตว์ ถูกต้องหรือไม่?
เชื้อแลคโตฯ เท่าที่ผมทราบมันไม่ย่อยไขมันนะครับ น้ำตาลแลคโตสคืออาหารของมัน
แต่ทำโยเกิร์ตใช้นมอะไรก็ได้ จืดก็ได้ หวานก็ได้ แต่รสชาติและกลิ่นที่ออกมาก็จะต่างกันด้วย แล้วแต่คนชอบ (สตรอเบอร์รี่ ช็อคโกแลต ยังไม่เคยลอง ฮ่าๆ)
แต่ที่ขายๆ กันใช้นมพร่องมันเนยเพราะว่า
- นมเปรี้ยวที่ออกมารสชาติคล้ายๆ กับแบบนมสด แต่จะหอมกรดแลคติกมากกว่า แต่ความมันจะน้อยกว่า แถมการแยกไขมันออกจากนมทำไม่ยากเลย
- ไขมันนมเอาไปทำผลิตภัณฑ์อื่นได้อีกสารพัด นมพร่องมันเนยเอามาทำนมเปรี้ยว โยเกิร์ต อัพราคาได้อีก
- เรื่องไขมันต่ำ เอาไปเป็นจุดขายสำหรับคนรักสุขภาพได้ด้วย

จากคุณ : MoonGlade

เขียนเมื่อ : วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 54 21:31:42