ความคิดเห็นที่ 1 ไช้เวลาทุกนาทีให้คุ้มค่าครับ... จากคุณ : Bracanium เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 20:44:11 A:58.11.99.112 X: TicketID:303916

ความคิดเห็นที่ 2 เก่งอย่าเดียวไม่พอ ต้อง.......ด้วย ปล. ขยันด้วย จากคุณ : ขย้ำปฐพี เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 20:49:35

ความคิดเห็นที่ 3 มุ่งมั่น ไม่ไหวเอนไปตามอารมณ์หรือความรู้สึก จากคุณ : Axiom of Choice เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 20:51:03

ความคิดเห็นที่ 4 ระดับความรู้พื้นฐานแน่น อ่านหนังสือแบบทำความเข้าใจ ไม่ใช่อ่านแบบท่องจำ ว่างก็ทบทวน  เทคนิคทำให้ตัวเองเก่งมีมากมายครับ และวิธีที่ทำให้ตัวเองโง่ก็มี(และอาจชอบทำด้วย) มากมายหลายอย่างครับที่จะทำให้ได้รับเกียตินิยม ไม่อัฉจริยะตั้งแต่เด็กก็ทำได้ จากคุณ : Mr.Sagittarius เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 20:52:18

ความคิดเห็นที่ 5 พวกนี้เก่งมาตั้งแต่มัธยมครับ จากคุณ : นอกวงการ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 20:54:39

ความคิดเห็นที่ 6 ในห้อง เอาให้ชัดครับ อันไหนไม่รู้ต้องถาม ทำการบ้านส่งให้ครบ เข้าเรียนตลอด จะได้สบายไม่ต้องหาอ่านเอง คิดตามที่อาจารย์พูดเสมอ ไม่ใช่ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา นอกห้องจะสบาย แทบไม่ต้องอ่านหนังสืออีกเลย อ่านอีกทีก็ทบทวนก่อนสอบวันสองวัน เพื่อนดีๆคบไว้เยอะๆ พวกเนิร์ดๆ เวลามีปัญหา ถาม'จารย์ไม่ได้ ช่วงติวก่อนสอบ นัดมันมารวมๆกัน มีไรสงสัย ถามกันในวงนั้นให้เคลียร์ อันไหนสุดจริงๆ ก็ช่วยกันหาคำตอบ แค่เกียรตินิยม มันไม่ต้องระดับจีเนียสหรอกครับ อยู่ที่คุณพยายาม และตั้งใจแค่ไหน คนสองคน อ่านหนังสือเล่มเดียวกัน ยังได้ไม่เหมือนกันเลย คนหนึ่งพยายามทำความเข้าใจทุกตัวเม็ด อีกคนอ่านให้ได้อ่าน ขอแค่ให้เข้าใจภาพรวม คุณว่า ตอนสอบ ใครจะตอบคำถามได้ละเอียดกว่าละครับ?? แก้ไข ： พิมพ์ตกครับ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 54 21:18:41 จากคุณ : กาลครั้งหนึ่งบนดวงดาวสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 21:18:04

ความคิดเห็นที่ 7 หลายอย่าง ครับ ที่สำคัญ บางคน ทำข้อสอบเก่ง ครับ ไม่ต้องรู้มาก แต่ เก็ง และ ทำข้อสอบเก่งมาก จากคุณ : เทพพิสดาร เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 21:31:28

ความคิดเห็นที่ 8 ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป แต่ว่าเรียนในสิ่งที่สนใจ (ผมนะ) เลยทำได้ดี ไม่เคยเก็งข้อสอบ ทำความเข้าใจทุกเรื่องที่เรียนให้มากที่สุด ไม่คิดว่าสอบแล้วจบกัน เรื่องที่เรียนต้องติดตัวไปตลอดชีวิต จากคุณ : มีดแรกไม่พลาดเป้า เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 21:37:15

ความคิดเห็นที่ 9 เริ่มจากในห้องเรียนครับ จะไปหลับๆตื่นๆ ก็ไม่ว่า ขออย่างเดียว ฟัง และทำความเข้าใจตาม ถ้ามีหนังสือ ก็ขีดไปเลยครับ เอาสำคัญๆ เน้นๆ ตรงไหน อ.พูดเพิ่มก็จดไว้ พอ อ.โม้ ก็งีบต่อครับ เลิกเรียนก็ไปนั่งกินข้าวกับแฟน ทำกิจกรรม เล่นเกมส์ นอนเช้า สะลึมสะลือไปเรียน แต่ไม่เคยไปสาย เรียนเสร็จกลับหอไปนอน บ่ายๆตื่นมาเรียนต่อ ชีวิตวนอย่างนี้ไปเรื่อยๆได้ครับ จนสักสองอาทิตย์ก่อนสอบ เอาไอที่จดในหนังสือ มาเขียนเป็น Short Note ในภาษาของตัวเอง (และลืมหนังสือเล่มหนาๆไปได้เลย) ท่องแผ่นเดียวนั่นแหละครับ ท่องๆๆๆๆๆๆๆๆ (ทำความเข้าใจด้วย) เบื่อก็ไปเล่นเกมส์ แล้วก็แวะมาท่องๆๆๆๆๆๆๆ นั่นคือแค่ 1 วิชา แต่เราไม่ได้เรียน 1 วิชาต่อเทอม เพราะฉะนั้น ชีวิตเราออกแแบบได้ ว่า เทอมนี้จะเก็บเกรดเท่าไร เช่นเทอมแรก ควรเก็บเยอะกว่าเทอมปลาย เพราะเวลามีเยอะกว่า (เทอมสอง มีงานวันกีฬา ต้องทำกิจกรรม อะไรเยอะมากกกกก ไหนจะหน้าหนาวควรพาแฟนไปลอยกระทง เดินเล่นงานวันฤดูหนาว ดูดอกไม้ราชพฤกษ์ ดูพระอาทิตย์ขึ้นห้วยน้ำดัง ดูพระอาทิตย์ตกดอยปุย เหนื่อย!!!) พอรู้เกรดที่จะเก็บแต่ละเทอม ก็มาจัดวิชา ให้มีวิชา ท่้อง และ คิด(คำนวณ) คละกัน มีวิชาเมเจอร์(ที่ต้องเก็บสูงๆ) และตัวบังคับ(ที่ข้อสอบออกเหมือนกันแทบทุกเทอม ไอเอาชีทพี่รหัสมาอ่านได้) มีวิชาที่ไม่ชอบ(เช่น สถิติ 555) และวิชาที่ชอบ (เช่น วิชาเลือกเสรี!!!-มิวสิค แอพพิชิเอท) มีหลายๆอันคละกันไป แล้วก็เขียนเกรดที่อยากได้ในแต่ละวิชา เช่น วิชาเมเจอร์ อยากได้ บีบวก วิชาไมเนอร์ จะเก็บ เอ (555 PR101 เรียนกับน้องๆ จะกวาดให้หมด) วิชาสถิติ เอาแค่ ซีบวก (กุมะรุเรื่อง - -") วิชาเลือกเสรี ต้องเก็บ เอ สถานเดียว (มะรึงจะลงให้เป็นตัวถ่วงทำไม) เท่านี้เกรดเทอมนี้ก็จะได้ 3.5 แล้ว 5555 เกรียตินิยมอันดับหนึ่งด้วย!!! ิอ่อ สมดุลวิชาที่ต้องทำงาน ทำโปรเจค ทำรายงาน ทำแผน    กับวิชาที่ สอบอย่างเดียว ไม่ต้องทำด้วย เพราะก่อนปลายภาคจะได้ไม่วุ่นกับการทำงานให้เสร็จทัน จนเกินไป ป.ล.เทคนิคของแต่ละคน แต่ละสาย ก็อาจแตกต่างกันออกไปครับผม^^ ป.ล.2 สำหรับผม ผมไม่หวงความรู้ เพื่อนถาม หรือสงสัยก็อธิบายให้         บางคนทำงานแล้วยัง FB มาถามกันอยู่ เราไม่เสียหายครับ         เราแข่งกับตัวเราเอง แถมยังได้มิตรภาพกันมาอีก จากคุณ : หอยทากตัวน้อย เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 21:55:26

ความคิดเห็นที่ 10 สนับสนุน #6 ครับ ผมก็ทำแบบนี้แหละ ตอนเรียนก็นั่งฟังอาจารย์พูดไป แล้วก็คิดในมุมอื่นๆ ไปด้วย ออกนอกห้องเรียนแทบไม่ต้องอ่านหนังสือเลยครับ ก่อนสอบยังนั่งเล่นเกมชิวๆ อยู่เลย (จริงๆ ก็อ่านทบทวนบ้าง แต่ไม่ถึงกับอ่านข้ามคืนเอาเป็นเอาตาย) อันที่จริง คืนก่อนสอบ ต้องพักผ่อนให้พอครับ ผมเห็นหลายคนมาก อ่านกันข้ามคืน รุ่งเช้างวยเงียไปสอบ แล้วมันจะมีแรงสมองเหลือไปคิดทำข้อสอบมั้ยล่ะนั่น - -'' จากคุณ : oppertunity เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 22:25:09

ความคิดเห็นที่ 11 อันดับแรกคือต้องเรียนในห้องให้รู้เรื่องครับ วันไหนง่วง เรียนไม่ไหว ไปหาเครื่องบันทึกเสียง+ขอสไลด์จาก อ. แล้วหาเวลาว่างเปิดฟังกับดูสไลด์ตาม แล้วจดๆ ที่สำคัญๆ มันจะซึมเข้าสมองไปเองถ้าเข้าใจ ไฟล์เสียงเก็บไว้ฟังอีกรอบตอนใกล้สอบ ทบทวน ถ้าเราเรียนเข้าใจได้เร็ว จะได้เปรียบ เพราะจะมีเพื่อนๆ มาขอให้เราติวให้ อย่าปฏิเสธ เพราะเวลาเราติวให้เพื่อน เราก็จะได้ทบทวนตัวเองไปในตัว เราได้ประโยชน์ เพื่อนก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน win-win ทั้งสองฝ่าย เป็นไปได้ อย่ามัวแต่ไปเก็งข้อสอบ มันจะจำได้ไม่นาน ดูตอนเย็น เช้าก็ลืมแล้ว เรียนเก่งไม่จำเป็นต้องเนิร์ดครับ อยู่ที่ความเข้าใจเราตอนเรียน ผมทั้งสำมะเลเทเมา เที่ยวบ่อย ตอนใกล้สอบผมไม่เคยอ่านหนังสือโต้รุ่งนะ แค่ไปติวให้เพื่อน กลับมาทวนอีกนิดหน่อย แล้วก็พักผ่อนให้เต็มที่ สมองจะได้โล่งๆ จบมาด้วยเกรด 3.xx ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับคุณภาพข้อสอบด้วยครับ บางวิชามันข้อสอบเดาใจอาจารย์จริงๆ อันนี้ยอม - -" บางวิชาเป็นวิชาท่องจำล้วนๆ (พวก anatomy อะไรพวกนี้) ต้องท่องแต่เนิ่นๆ ให้มันฝังหัว มาท่องก่อนสอบ 1-2 วัน จำไม่ได้แน่นอนครับ จากคุณ : MoonGlade เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 22:35:34

ความคิดเห็นที่ 12 พวกนี้เค้าเก่งมาต้ังแต่ชั้นประถมแล้วค่ะ   ชีวิตของเค้าก็อยู่กันหนังสือ  เวลาทุกวินาทีมีคุณค่า   อ่านวิชาละ3รอบ   อัดเทปมาฟังอีกรอบ  ชายหนุ่มมาจีบก็ไม่สนใจ  ไม่มีอะไรมาทำให้เสียสมาธิ   นี่เป็นชวิตของคนใกล้ชิดคนหนึ่ง   เธอจบมัธยมปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดม  ต่อที่คณะแพทย์ศาสตร์จุฬา  จบมาได้เกียตินิยมอันดับ1  ทำงานได้รับเงินเดือน6หลัก   คุ้มสุดคุ้ม จากคุณ : เสื้อเชิ้ต เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 23:03:43

ความคิดเห็นที่ 13 #12 ไม่เสมอหรอก ครับ เพื่อนผมมันนั่งเล่นเกมไปวันๆ เรียนก็เข้าสาย บ่ายก็หนีอาศัยซุ่มนัดติวก่อนสอบ หัวคนเราไม่เท่ากันจริงๆ จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 23:06:03

ความคิดเห็นที่ 14 ผมก็เรียนๆ หลับๆ ครับ แต่จะอาศัยเข้าใจจากตัวอย่าง เวลาใกล้สอบก็จะมีเพื่อนมาให้ช่วยอธิบายโจทย์ มันก็ทำให้เข้าใจได้มากขึ้นครับ ประกอบกับผมทำข้อสอบเก่งด้วยมั้งครับ ข้อไหนที่ไม่ได้จริงๆ ก็จะพยายามทำเท่าที่ทำได้ครับ แต่ถ้าเป็นข้อสอบที่เน้นความจำ ก็ตัวใครตัวมันครับ จากคุณ : น้ำแข็งสีเงิน เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 23:25:11

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่าถ้าแบ่งเวลาดีๆไม่ได้ยากอะไร ไม่เข้าใจในห้องก็อ่านเอง อ่านเองไม่ได้ก็ถามเพื่อน เพื่อนไม่รู้ก็ตั้งกระทู้ บลาๆๆ(คนเก่งๆส่วนใหญ่ชอบอ่านเองมากกว่ามีคนสอน ยกเว้นอาจารย์เก่ง สอนดี เข้าใจเด็กจริงๆ) จากคุณ : THANODOM (THANODOM) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 23:35:00

ความคิดเห็นที่ 16 จากประสบการณ์ ถ้าไม่คิดถึงความเก่งนะ แต่ผมลองวิเคราะห์ดูจากที่ผ่านช่วงมหาลัยมา 1. ตั้งใจเรียนในห้องเอาให้เข้าใจตั้งแต่ใน class ถึงไม่จดเลคเชอร์ ก็นั่งฟังก็ยังดี เพราะ เนื้อหาในมหาลัย ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อหาใหม่ๆ ไม่เหมือนช่วง มัธยม พวกเลข ฟิสิกส์ มันใช้การต่อยอด ไปทีละนิด ถ้าไม่เข้าใจก็จบ แล้วข้อสอบระดับมหาลัย ก็คนละระดับกับมัธยมเลย 2. พวกที่แบ่งเวลาอ่าน ต่อให้ทำกิจกรรม ยังไงก็มีเวลาอยุ่แล้วครับ อยุ่ที่ว่าจะอ่านรึป่าว ถ้าขีเกียจๆ ว่างปุ๊บเล่นเกม แบบผม ว่างแค่ไหนก็ไม่อ่านอยุ่ดี อิอิ 3. การเก็งข้อสอบ อันนี้ถือว่าสำคัญเหมือนกันถ้าคิดจะเอา เกรด อย่างผมตอน มปลาย เกรดเฉลี่ย คณิต 1.6 แต่ตอนอยุ่ มหาลัย แคล1 ผมได้ท็อป ผมเดาแนวข้อสอบได้ ผมก็อ่านที่คิดว่าออกสอบ+พื้นฐานที่มี ก็ทำได้ แต่กับพวกที่เก่งๆ คืออ่านแบบไม่รู้แนว ก็ยังได้เยอะ แต่ก็ยังน้อยกว่าผม จากคุณ : มิกุ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 00:03:59 A:101.109.218.215 X: TicketID:234751

ความคิดเห็นที่ 17 ก็ใช้ชีวิตปกติครับ ผมใช้เวลากับกิจกรรมซะเยอะมากด้วย ออกค่ายบ้าง กิจกรรมชมรมบ้าง เวลาเรียนหลับในห้องบ่อยๆ เที่ยวเล่น กินเหล้า พอควรประมาณเกือบทุกสุดสัปดาห์ เวลาปกติหนังสือไม่ได้อ่านทบทวนเลย แต่บางวิชาที่สนใจเปิดผ่านๆก่อนเข้าเรียนพอรู้คอนเส็ป จะเข้าใจง่ายขึ้น แล้วเอาที่อ่านแล้วสงสัยมาถกหรือถามอาจารย์ในห้องเรียน ที่สำคัญคือในห้องเรียนต้องเก็บเกี่ยวความรู้ให้มากที่สุด ทางทีดีอย่าให้มีอะไรที่ยังสงสัย (เพราะข้างนอกขี้เกียจ) ก่อนสอบก็ทำสรุปที่เรียนทั้งหมดออกมาเป็นโพยซักหน้าสองหน้า ถ้าเป้นวิชาคำนวนก็ทำออกมา โดยการลองทำโจทย์ แล้วสรุปออกมาสั่นๆ หลังๆค่อยไปท่องเอาในโน๊ตนั่นแหละ ผมไม่เคยอ่านหนังสือก่อนสอบเกิน 1 อาทิตย์เลย เรื่องติวเป็นกลุ่มก็ไม่ค่อยทำเท่าไหร่ อาศัยเพื่อนอีกสองคนที่อยู่หอเดียวกัน ไปสุมหัวติวกันก่อน(ผมเล่นเกมส์ เล่นเน็ตดูหนัง พลางๆ)  แล้วสงสัยตรงไหนก็มาถาม ก็อาศัยที่เพื่อนมาถามนั่น ได้รู้ว่าควรเน้นตรงไหน ยากตรงไหน ส่วนอันที่ไม่เข้าใจจริงๆ มีเพื่อนระดับเทพในวิชานั้นๆให้ไปถกกันได้อยู่แล้ว ส่วนเวลาอื่นๆ นอกจากให้กิจกรรมชมรม 2 ชมรมแล้ว ก็เล่นเน็ต ดูหนัง ทำเครื่องเสียง หนุกหนานกับเพื่อนตามปกติครับ ไม่ใช้พวกเนิร์ด หรือแปลกประหลาดผิดผู้คนแต่อย่างใด เป็นคนฮาๆ ดูภายนอกไม่ใช่เด็กเรียนซักนิด -__-"  ชีวิตทุกวินาทีไม่ได้อยู่กับหนังสือหรือเรื่องเรียน เพราะผมว่าทำแบบนั้นชีวิตจะตื้นเขินเกินไป เวลาในมหาลัยมีไม่มากนัก ข้างนอกมีอะไรอีกเยอะที่น่าสนใจไม่แพ้เรื่องเรียน ***ผมได้เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทองของ อส.บ. เป็นเกรียรตินิยมอันดับ 1 คนเดียวของคณะวิศวะฯในรุ่นนั้นด้วย ^^ จากคุณ : หวาก เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 00:07:27

ความคิดเห็นที่ 18 ของผมตอนประถม ถึงมัธยมต้น ก็เรียนได้ที่กลางๆๆนะ แต่จุดเปลี่ยนอยู่ตอนมัธยมปลายอาจารย์ตั้งใจสอนเรามากๆ แล้วคาดหวังว่าเราจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน (พอดีมาจากโรงเรียนที่คนเอนฯติดไม่เยอะ) เรารับรู้ได้ถึงความหวังดีของอาจารย์ เลยตั้งใจเรียนให้มากขึ้นจนได้อันดับต้นๆๆ ตอนเข้ามหาวิทยาลัยก็พยายามคิดว่าเรามาจากโรงเรียนไม่ดัง รู้น้อยกว่าคนอื่นต้องตั้งใจเรียนมากกว่าคนอื่น วิธีเรียนก็ง่ายๆ คือ 1.ตอนเรียนก็พยายามจับ key word ที่อาจารย์พูด แล้วเขียนลงในหนังสือ 2.กลับบ้าน ก็ไปอ่านที่อาจารย์สอนวันนี้ พยายามเข้าใจทุกคำทุกหน้า 3.ถ้าไม่เข้าใจ วันรุ่งขึ้นก็เข้าไปถามอาจารย์ ทำแบบนี้ข้อดีคือ ไม่ต้องมาอ่านหนังสือทั้งหมดตอนใกล้สอบทีเดียว เพราะเข้าใจเนื้อหามาตลอดอยู่แล้ว ตอนใกล้สอบเลยไม่เครียด ระหว่างเรียน ก็ไม่เครียด เพราะหลังเลิกเรียนทบทวนแค่วันล่ะ 1 ชม มีเวลาว่างออกไปเล่น นะครับ จบมาก็ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เป็นที่ 1 ของ major ที่ 3 ของคณะนะครับ จากคุณ : khun_jon เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 00:09:04

ความคิดเห็นที่ 19 อีกอย่างที่สำคัญ "เข้าใจ" หมายถึงเข้าใจถึงพื้นฐาน ไม่ใช่แค่เข้าใจวิธีทำหรือโจทย์ เพราะถ้าเข้าใจถึงพื้นฐานแล้ว ไม่ว่าจะพลิกแพลงขนาดไหน มันก็แค่เอาพื้นฐานหลายๆข้อมาบวกกันแค่นั้นเอง จากคุณ : หวาก เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 00:11:51

ความคิดเห็นที่ 20 ในห้องก็ตั้งใจครับ เรียนทีเดียว จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งฟังที่อัดเสียงอีก ถ้าต้องอ่านหนังสือเพิ่ม 1. วิชาคำนวณ ผมจะดูตัวอย่างครับ ว่าเค้าเริ่มยังไง ทำไมต้องทำแบบนี้ มองไปหลายๆ ข้อหน่อย ก็จะเห็นแนวทาง 2. วิชาที่เน้นความเข้าใจ ก็อ่านให้หมดก่อน แล้วสร้างเรื่องราวในความคิด แล้วค่อยเปิดทวนเพื่อเอาส่วนรายละเอียด 3. วิชาที่เน้นจำ ก็ต้องจำ แต่พยายามจำเป็นภาพ อย่างตอนสอบ anatomy ผมก็เพ่งภาพสเก็ตทั้งภาพไปเลย รายละเอียดว่าหน้าที่อะไร ยังไง ก็เปิดหนังสืออ่าน แสดงท่าทางตามไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมอ่านหนังสือไม่กี่รอบนะครับ พยายามอ่านครั้งเดียวให้มีคุณค่า คุณภาพมากที่สุดเพราะเราลงทุนเวลาไปแล้ว ยังมีการ์ตูนอีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน จากคุณ : มอนตะทาโร่ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 00:13:12

ความคิดเห็นที่ 21 เกียรตินิยม ผมว่าธรรมดา ต้องถามว่า เกียรตินิยม เหรีญยทอง วันๆทำอะไรบ้างมากกว่า จากคุณ : evillcore เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 01:22:00

ความคิดเห็นที่ 22 ท่องข้อสอบเก่าคับ ปล.ทำแบบนี้ได้ d ตล๊อด 5555+ จากคุณ : hoheno3 เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 01:37:07

ความคิดเห็นที่ 23 เข้าใจวิชาที่เรียน เข้าใจอาจารย์ที่สอน เข้าใจตัวเอง เข้าใจข้อสอบ จากคุณ : เด็กกล่อง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 01:55:59

ความคิดเห็นที่ 24 #21 ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเน็ต เล่นเกมส์ อ่านการ์ตูน นอนห้องกิจกรรม สุดสัปดาห์กินเหล้าครับ จากคุณ : หวาก เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 02:06:44

ความคิดเห็นที่ 25 ช่วงที่สำคัญที่สุด คือช่วงที่ฟังอาจารย์ในห้อง แล้วคิดตาม พร้อมกับสร้างรูปแบบ ภาพและองค์รวมของหัวข้อวิชานั้นๆไว้ในหัวสมองครับ ซึ่งเป็นช่วงที่ จะทำให้เราจำได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ พยายามอย่าโดดครับ และสิ่งที่จะช่วยให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น สร้างรูปแบบได้ง่ายขึ้น นั่นคือต้องมีการร่างโครงมาก่อน ..... ก็คือ การเตรียมตัวล่วงหน้ามาก่อนว่าจะต้องเจออะไรบ้าง ซึ่งก็แนะนำว่า ควรจะอ่านแบบผ่านๆมาก่อนเข้าเรียนครับ หลังจากนั้นเราก็จะเข้าใจ และจำได้ ก่อนสอบแทบไม่ต้องอ่านซักตัว ยกเว้นอันที่ต้องท่องบบเป้ะๆ นิดหน่อย ส่วนเวลาที่เหลือนอกจากนั้น ก็ใช้ชีวิตปกติ หยำเป สรวญเส ตามสไตล์ครับ จากคุณ : น้ำนอง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 02:12:38

ความคิดเห็นที่ 26 คนฉลาด ไม่สู้ คนขยัน จากคุณ : ด.ช.แม่น เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 03:46:26

ความคิดเห็นที่ 27 เราไม่ถึงกับpercentile90นะคะ แต่คะแนนก็ดีพอสมควร ก็มีวิธีเรียนที่เคยแนะนำรุ่นน้องหลายๆคน ตอนเด็กๆเราเรียนกลางๆค่อนไปทางกือบดี คือไม่ถึงกับสอบได้ลำดับที่เลขตัวเดียว จะเกินmeanมาหน่อยนึง ตอนป.4-5 เคยมีปัญหาไม่ชอบโรงเรียนถึงขนาดแม่ต้องพาไปหานักจิตวิทยา แล้วก็ไม่ชอบโรงเรียนมาตลอดจนจบม.ต้น แต่เป็นคนชอบอ่านหนังสือมากมาแต่เด็ก คือจำความได้4-5ขวบก็อ่านหนังสือแทบทุกประเภท หนังสือเรียนอะไรก็ชอบ ทีนี้ เนื่องจากชอบ พออ่านก็จะจำได้เอง สนุก บางทีไม่อ่านหนังสือเรียนก็ได้คะแนนค่อนข้างดีจากความรู้รอบตัว เราเป็นคนไม่ชอบให้ใครสอน ชอบอ่านเอง หาวิธีเรียนที่เหมาะกับตัวเอง วิธีที่ได้ก็มาจากหนังสือหรือนิตยสารต่างๆที่เราอ่านไปหมดทุกคอลัมน์มาแต่เด็ก ตอนเตรียมเอนท์ก็อ่านหนังสือทั้งวัน ไม่รู้สึกทุกข์เพราะชอบอ่าน ก็อ่านแล้วทำmind mapในแบบของตัวเองที่ไม่ตามหนังสือเล่มไหน ไม่เรียนพิเศษ ตอนเอนท์ออกมาคะแนนดีกว่าเพื่อนส่วนใหญ่ที่เรียนพิเศษ พอเข้ามหาลัยเราเป็นเด็กกิจกรรมคนนึง ค้างคณะบ่อยๆ แต่ตอนกลางคืนพวกเด็กกิจกรรมคณะเราก็มานั่งทำการบ้านด้วยกันนะ ไม่ได้เล่นไพ่หรือเมาทั้งคืน (ถึงจะมีบ้างแต่ทุกคนงานเสร็จน่ะ) เราสังเกตว่าช่วงที่เราทำกิจกรรม สมองเราปลอดโปร่งกว่าตอนที่ไม่ได้ทำกิจกรรม เหมือนสมองส่วนต่างๆได้สลับหน้าที่กันทำงาน พวกเด็กกิจกรรมส่วนใหญ่คะแนนดีไม่แพ้คนที่ไม่ทำกิจกรรม ถ้าจะสรุปก็คือ ๑. ต้องเป็นคนใฝ่รู้ ช่างสงสัย ชอบหาคำตอบ ๒. หาวิธีเรียนหรือทำงานที่เหมาะกับตัวเอง สูตรสำเร็จ100%ไม่มี ต้องสนุกกับการเรียนรู้ี่จะเรียน (Learning to learn) ๓. อย่าไปเชื่อผู้รู้หรือครูไปซะทุกอย่าง ไม่มีใครถูก100% กล้าคิดอะไรแตกต่าง (แต่อย่าพูดทุกอย่าง) ๔. อย่าเรียนอย่างเดียว มีกิจกรรมอย่างอื่นที่ต่างออกไปมากๆก็ช่วยทำให้สมองปลอดโปร่งดี ๕. รักการอ่าน จากคุณ : Akrat เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 05:54:49

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณครับ บางท่านบอกว่าเกียรตินิยมเป็นเรื่องธรรมดา สงสัยผมจะเป็นประชากร Below Average เสียแล้วครับ :) จากคุณ : Staphylococcus aureus เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 06:41:02

ความคิดเห็นที่ 29 ตั้งใจเรียนในห้อง แล้วกลับไปทบทวนที่บ้าน เวลาไม่เข้าใจอะไรให้ถามอ. ทันที นำความรู้ทุกๆ วิชามาผสมผสานกัน ต่อยอดสมองไปเรื่อยๆ เมื่อว่างก็หาหนังสือหลายแนวมาอ่านเพิ่ม จากคุณ : Candy Shop เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 06:53:12

ความคิดเห็นที่ 30 รู้วิธีเรียนที่เหมาะกับตัวเองครับ บางคนขยันมาก... แต่ทำสอบได้ไม่ดีก็มี บางคนเที่ยวเล่นเฮฮา... แต่สอบได้ดี บางคนต้องอ่านหนังสือมากมาย... เพื่อเข้าใจ บางคนอ่านผ่านทีเดียว... ก็เข้าใจ บางคนเก่ง... ด้วยพรสวรรค์ บางคนเก่ง... ด้วยพรแสวง ของอย่างนี้ต้องรู้จักตัวเองแล้วเรียนในแบบที่ตัวเองถนัดและตัวเองเป็นครับ อย่างผมเองพรสวรรค์น้อยก็ต้องขยันเยอะหน่อย ขณะที่เพื่อนอ่านหน่อยเดียวสอบออกมามันยังได้คะแนนดีกว่าเลยครับ จากคุณ : เพื่อนอาร์ต เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 07:21:06

ความคิดเห็นที่ 31 สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผมคือ เพื่อน ครับ ได้เกียรตินิยม (แต่แค่อันดับ 2 นะ) มาก็เพราะนั่งติวกับเพื่อนๆนี่ล่ะ เพราะอาจารย์ไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลาเหมือนเพื่อน เพราะผมเป็นพวกขี้เกียจครับ เข้าเรียนสาย (ตอนปี 4 นี่เกินครึ่งคาบแทบทุกวิชา) เข้าไปก็นั่งหลับ วิชาไหนไม่เช็คชื่อก็โดดซะ นั่งเล่นเกมอยู่ห้อง แต่ถ้าวิชาไหนชอบหรืออาจารย์สอนดีก็เข้าเต็ม + ตั้งใจฟังเต็มที่ หนังสืออ่านแค่ตอนก่อนสอบ ไม่เรียกว่าอ่านด้วยซ้ำ เรียกว่าติว + ศึกษามากกว่า เทคนิคติวหนังสือก่อนสอบของผมคือ ศึกษาให้เข้าใจหลักสำคัญๆของมัน แล้วจะเอาไปประยุกต์ หรือเดา ในห้องสอบได้เอง ไม่อ่านแบบเก็บทุกเม็ด มันเสียเวลา + เปลืองสมอง เวลาติวก็กับเพื่อนๆ นี่ล่ะ แจ่ม ไม่เข้าใจก็ช่วยกันคิดหาคำตอบ (แทบไม่เคยอ่านอยู่บ้านคนเดียวเลย นอกจากพวกวิชาที่ต้องท่องจำจริงๆ -*-) จากคุณ : - เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 08:52:59 A:180.222.148.101 X: TicketID:317721

ความคิดเห็นที่ 32 หัวคนเราไม่เท่ากัน ความมุ่งมั่นคนเราก็ไม่เท่ากัน เก่ง มุ่งมั่น ไปโลด เก่งไม่มุ่งมั่น ไม่รู้อนาคต ไม่เก่งแต่มุ่งมั่น ไปได้ดี ไม่เก่งไม่มุ่งมั่น อนาคตมืดมนแน่ เพื่อนผมนี่เหรียญทองครับ เธอบอกว่าเรียนให้รู้เรื่องในห้อง กลับไปบ้านทบทวนนิดหน่อย จากนั้นไปทำอย่างอื่น lecture note เธอนี่ไม่ต้องยืมไปลอกครับ อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องทั้งๆที่ลายมือก็อ่านง่าย แต่เธอไม่ได้จดอะไรมาก แบบว่าถ้าไม่เก่งจริง สมาธิดีจริงทำแบบนี้ไม่ได้ครับ จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 08:57:36

ความคิดเห็นที่ 33 อีกอย่างที่สำคัญคือ คืนก่อนต้องพักผ่อนให้พอครับ เคยทีนึง ติวกันจนสว่าง เพราะต้องทำโน้ตเข้าห้องสอบด้วย (เค้าให้เอาโน้ตเข้าได้ 1 แผ่น) ปรากฎว่าเข้าไป 15 นาที หลับครับ!!! ไม่ไหวจริงๆ ตั้งปลุกไว้ อีก 1 ชั่วโมงค่อยตื่นมาทำต่อ (ปิดเสียงไม่ได้ด้วย ดังลั่นห้องเลย) สมองแล่นปรู้ดปร้าด ดีที่เข้าใจหลายจุดอยู่ เลยพอไปได้ แต่วิชานั้นก็ได้คะแนนไม่เยอะ จากคุณ : - เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 08:58:08 A:180.222.148.101 X: TicketID:317721

ความคิดเห็นที่ 34 ผมว่าสิ่งที่สำคัญก็คือ ระบบในการจัดเก็บความรู้ จากคุณ : Tempkor (temp_ver2) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 09:16:50

ความคิดเห็นที่ 35 แต่ละคนมีความสามารถในการเรียนรู้ไม่เหมือนกันครับ บางคนฟังอาจารย์ในห้องอย่างเดียวเข้าใจได้ บางคนอ่านหนังสือเองเข้าใจได้ บางคนต้องหลายอย่างรวมกัน แต่ละวิชาก็ต่างกันครับ เพราะฉะนั้นใช้ชีวิตให้เหมาะสมกับตัวเอง กับสิ่งที่ตัวเองจะเรียนรู้ครับ จากคุณ : วิศวกร ความรู้น้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 09:35:17 A:168.120.4.125 X: TicketID:191297

ความคิดเห็นที่ 36 เอาจริง ๆ นะ คนเขาหัวดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ขยันอีกหน่อยก็ไปไกลแล้ว อารมณ์เหมือนคนบางคนไม่ต้องออกกำลังกาย กินธรรมดา ๆ ก็ไม่อ้วน บางคนออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ก็ลดน้ำหนักได้ไม่กี่กิโลกรัม แบบเดียวกัน แต่ตอนทำงานมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งแหล่ะ เพราะปัจจัยเริ่มเยอะขึ้น ก็เหมือนกับ คนหุ่นดีและสวยน่ะแหล่ะบางทีไม่ได้แต่งงาน แต่คนอ้วนอาจจะได้แต่งงานไปก่อน จากคุณ : Top เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 10:34:02 A:210.86.128.35 X: TicketID:091427

ความคิดเห็นที่ 37 เพื่อนคนหนึ่ง ที่บ้านเป็นเศรษฐี จบเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ แต่ผันตัวไปทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านซูชิในนิวยอร์ค เป็นเวลาสิบเอ็ดปีแล้ว ประมาณว่าเบื่อชีวิตคุณหนูที่เมืองไทย จากคุณ : ธรรมดาโลก เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 10:46:12 A:101.108.235.86 X: TicketID:299625

ความคิดเห็นที่ 38 พื้นฐานของเรื่องนั้นๆแน่นพอ ขี้สงสัย อะไรไม่เข้าใจ คิด ถาม หาคำตอบไม่ปล่อยผ่าน ในห้องเรียน ไหนๆต้องไปนั่งเรียนแล้ว ก็จัดเต็ม ตั้งใจให้มาก กลับบ้าน อาจหาเวลาสักแค่ชั่วโมงหรือครึ่งชั่วโมงทบทวนวิชาที่ชอบที่สุดก่อน ถ้าชัวร์แล้วค่อยไล่ไปวิชาอื่น ทีละตัวๆ คำว่าหัวดี ผมไม่เคยเห็นว่าจะมีจริงนะ เท่าที่เจอมา คนเก่งจะช่างคิด ช่างสงสัย หาคำตอบตลอดเวลาจนเกิดความเข้าใจในเรือ่งนั้นๆไป คนที่ช่างคิด ช่างหาคำตอบ กับคนที่ไม่ค่อยสงสัย ไม่ค่อยขวนขวาย    .... เรียนรู้วันเดียวเท่ากัน ได้ผลลัพพ์ต่างกันไม่มาก แต่ผ่านไปปีหนึ่ง ... สิ่ิงที่ได้มันต่างกัน ผ่านไปสิบปี ... อีกอย่าง ความรู้รอบตัว ทำให้วิสัยทัศน์กว้างไกลครับ มองอะไรจะรอบคอบรอบด้าน ประยุกต์เก่ง เข้าใจอะไรง่ายขึ้น ดังนั้นหาหนังสือความรู้รอบตัวอ่านก่อนนอนวันละนิดหน่อยก็ดีครับ จากคุณ : GreenEyes เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 11:02:48

ความคิดเห็นที่ 39 เมเนเจอร์แผนกข้างๆผมจบบางมดเกียรตินิยมอันดับ 1 เพื่อนแกเล่าว่าตอนเรียนนี่กินเหล้าแทบทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละ 2-3 วัน -*- และคนแบบนี้ผมก็เจอบ่อยมาก เรียนๆเล่นๆเหล้าๆ แต่มันจบเกียรตินิยม บางทีคงต้องยอมรับว่ามันเป็นพรสวรรค์ด้านการเรียนของเขานะ จากคุณ : jubchay เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 11:27:01

ความคิดเห็นที่ 40 ในการคิดเกรดแบบอิงกลุ่ม ความเก่งที่วัดได้เป็นความเก่งสัมพัทธ์ จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 12:08:11

ความคิดเห็นที่ 41 รุ่นน้อง หรือรุ่นพี่ หรือเพื่อนผมที่กำลังจะจบได้เกียรตินิยมเท่าที่สัมผัสและคุยกับเค้า ก็เหมือนเราๆปกติทั่วไปแหละครับ ใช้ชีวิตเฮฮาปาร์ตี้โดดเรียนบ้างเข้าเรียนบ้าง (แต่ไม่บ่อยเท่าผม) กินเหล้าสังสรรค์หรือทำกิจกรรมเข้าชมรมตามปกติเหมือนเรา แต่เวลาสอบเวลาเรียนเวลาอ่านเขาอาศัยความเข้าใจและความเก่ง อีกอย่างเขามีพรสวรรค์และเก่งมาจากมัธยมอยู่แล้วครับ สำคัญเลยคือความขยันครับ จากคุณ : เดอะหลอน เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 12:30:05

ความคิดเห็นที่ 42 เกียรตินิยมบ่งบอกว่าคนๆนั้นขยันนะครับ แต่ไม่ได้บ่งบอกว่าคนๆนั้นเก่ง ไอ้เรื่องพรสวรรค์หรือหัวดีเนี่ยมันเป็นเรื่องที่ทุกๆคนรู้ว่ามันมีแต่ไม่อยากยอมรับกัน สมมติให้ทุกคนเริ่มจากศูนย์เหมือนกัน ขยันเท่ากัน สภาพแวดล้อมเหมือนกัน มันก็ถึงเส้นชัยไม่พร้อมกัน... มันถึงได้คำว่า อัจฉริยะ กับโง่ ไงครับ... ฟังดูโหดร้ายแต่ความจริงมันก็โหดร้ายแบบนี้ล่ะ... หากคุณเคยมีประสบการณ์ที่พยายามแทบตาย แต่อีกคนตามทันได้ง่ายๆโดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากมายคุณก็จะเข้าใจ... จากคุณ : FACT เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 12:37:49 A:110.164.197.186 X: TicketID:202234

ความคิดเห็นที่ 43 เพื่อนเรา เกียรตินิยมพระนครเหนือ มาเรียนบ้างไม่มาบ้าง แต่ตอนสอบมันฟิตอ่านหนังสือนะ เป็นคนฉลาดอยู่แล้วด้วย ฉลาดที่จะเลือกโดดเรียน คือคาบที่มันโดด ไม่เคยมีเช็คชื่อเลย ตกเย็น กินเหล้า สูบบุหรี่ สังสรรค์ เข้าหาเพื่อนฝูง ลงอ่างบ้างเป็นครั้งคราว เรื่องหญิงไม่เคยขาด แต่สอบทีไร เห็นมันได้คะแนนดีทุกที คงเป็นเพราะว่าเข้าใจอะไรได้เร็ว เป็นนักกิจกรรมด้วย เป็นประธานโครงการตลอด ครบเครื่องเลยเพื่อนตรู จากคุณ : สดใสซาบซ่า เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 13:07:27

ความคิดเห็นที่ 44 ที่แน่ๆ คนนอนข้างๆผมก็เกียรตินิยม จุฟา  ก็เป็นคนไฮเปอร์ ตามปกติ  แบบว่า หยุดเฉยไม่ได้ ต้องมีกิจกรรมทำตลอด  เช่นเรียนถ่ายรูป ขี่ม้า  ไปเรื่อย จากคุณ : Night_Angel เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 13:36:53

ความคิดเห็นที่ 45 ของผมวิศวะ ถ้าก่อนเลือกภาคได้ที่ 6 ของคณะ เข้าภาคแล้วอยู่ที่ 5 ของภาค แต่ประมาณที่ 10 ต้นๆของคณะ (ในภาคมีเกียรตินิยมอันดับ 1 อยู่ 5 คน แล้วก็อันดับสองอีก 2 คน) เรื่องเรียน ผมว่าแทบจะตรงกันข้ามกับหลายๆคนเลยแฮะ - -" ปีหนึ่ง...รู้สึกว่าแทบไม่ต่างกับเรียนม.ปลาย เข้าเรียนทุกคาบครับเพราะจารย์เช็คชื่อ แต่วิชาไหนไม่เช็คก็เข้าอยู่ดี แต่ถ้ารู้สึกว่ามันง่าย น่าเบื่อก็นั่งหลับ ไม่ก็อ่านการ์ตูนสอดไส้ หรือนั่งทำงาน อ่านหนังสือวิชาอื่นไป ส่วนปีสูง...หลังจากเข้าภาคมาแล้ว โอกาสได้ A มันริบหรี่มาก อีกอย่างขี้เกียจไปแข่งกับเพื่อนด้วย เลยเอาตัวเองชิวๆ เรียนๆเรื่อยๆ สบายๆดีกว่า ถ้าคาบไหนเป็นอาจารย์ในภาคสอน ไม่ค่อยมีหลับอะไรเท่าไร เพราะว่าแต่ละท่านสอนดีมากๆ แต่ถ้าเป็นอาจารย์ที่มาจากต่างมหาลัยมาสอน หรือต่างคณะมาสอน ถ้าเรียนไม่รู้เรื่อง หรืออาจารย์สอนไม่ได้เรื่อง ผมก็หลับนั่งสัปหงก เรียนจบแล้วกลับไปอ่านเอง ถ้าเลวร้ายสุดๆ ก็โดดไม่เข้าเลคเชอร์ เรื่องการบ้าน จากสมัยก่อนเป็นต้นฉบับตอนปีหนึ่ง... หลังๆชักกลายเป็นคนลอก (ก็มันทำไม่ได้อะ - -") ส่วนเวลาว่างหลังเลิกเรียนก็ไปเข้าชมรม ทำกิจกรรม เล่นกีฬา ไปเดินห้างเล่น ดูหนัง หาหนังสืออ่านเล่นมานั่งอ่าน หรือไม่ก็เล่นเกม หาอะไรทำเรื่อยเปื่อยไปตามอารมณ์ครับ ตอนค่ำๆเกือบทุกวันจะมานั่งอ่านหนังสือเก็บอีกทีนึง โดยเฉพาะวิชาหลักๆ สำคัญๆ ถ้าโดดคาบไหนก็จะไปขอยืมของเพื่อนที่จดดีๆ มาอ่านอีกทีครับ แต่ส่วนมากจะชอบจดเองเองมากกว่าครับ เพราะว่าเราจะรุ้ว่าตรงไหนสำคัญไม่สำคัญอะไรยังไง จริงๆจะว่าไปก็ใช้ชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นนั่นแหละครับ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างเลยครับ ขนาดเพื่อนที่หนึ่งในภาคที่ได้เหรียญทอง เค้าก็ยังเฮฮาปาร์ตี้ ไม่ได้เนิร์ดอะไรเลย จากคุณ : เฉาก๊วยกะบ๊วยเค็ม - -" เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 14:26:56

ความคิดเห็นที่ 46 จากประสบการณ์ตรงๆเลยนะครับ (คุณนายผมเอง) ตอนเรียนเรียกได้ว่าไม่ได้ขยันเว่อร์อะไรเลย ออกจะติดขี้เกียจซะด้วยซ้ำ ไม่ใกล้วันสอบไม่อ่าน ต้องถูกกระตุ้นให้อ่านหนังสือตลอด ถึงขนาดยายต้องตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อที่จะตื่นมาปลุกหลานให้อ่านหนังสือสอบกันเลยทีเดียว แอบเที่ยวก็บ่อย แต่จบมาด้วยเกรียตินิยมซะงั้น แต่เธอเป็นคนไหวพริบดีมากๆครับ เข้าใจอะไรได้เร็วกว่าคนอื่น เห็นได้ชัดตอนทำงานครับ สามารถเรียนรู้งานในสายงานอื่นได้เร็ว และทำได้จริงๆ แม้กระทั่งตอนนี้ งานที่คุณเธอทำอยู่ ก็ไม่มีอะไรตรงกับที่เรียนและจบมาเลย แต่เธอก็สามารถทำได้ในระดับที่เรียกว่า Specialist เลยทีเดียว เวลาผมจะโกหกอะไรต้องคิดดักไว้หลายๆทาง ไม่งั้นเสร็จ จับได้แน่นอน ข้อเสียก็มีนะครับ ด้วยความที่เป็นคนคิดอะไรมักจะนำหน้าคนอื่นอยู่เสมอ เลยทำให้ค่อนข้างจะมีอัตตาอยู่บ้าง บางครั้งเลยจะถูกมองว่าหยิ่ง มั่นใจตัวเองเกินไป ไม่ค่อยฟังใคร แต่ก็นะ ... ยังไงก็รักครับ จากคุณ : เด็กชายสมแต้ม เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 15:51:05

ความคิดเห็นที่ 47 ของเรา ใช้การทำความเข้าใจในห้องเรียนเอาค่ะ พอเข้าใจแล้วมันก็จะจำไปเอง(เรียนทางด้านอักษรศาสตร์) แล้วทีนี้พอตอนสอบ ก็อ่านทบทวนเอานิดหน่อยแค่พอให้จำได้เท่านั้น เวลาวันๆก็นั่งเล่นเกม กินข้าวดูหนัง เป็นคนขี้เกียจมากๆค่ะ แต่ในห้องก็ตั้งใจฟัง ตั้งใจหลับเต็มที่ ส่วนน้องชาย วิศวะที่หนึ่งภาค อ่านหนังสือทุกคืน กลับถึงบ้าน หลังจากเสร็จภารกิจประจำวัน ก็มีเล่นเกมบ้าง ดูหนังบ้าง เสร็จแล้วก็อ่านหนังสือ ฝึกทำโจทย์ ขยันผิดกับพี่มากๆ จากคุณ : windzephyr เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 16:09:49

ความคิดเห็นที่ 48 การเรียนก็เหมือนการเล่นกีฬาหรือเล่นดนตรี ถ้าคุณอยากจะทำมันให้ได้ดี....คุณก็ต้องทุ่มเทให้กับมัน ....ซ้อม...ซ้อม....ซ้อม....แล้วก็ซ้อม...... วิธีผม... 1) ตั้งเป้าหมายว่าเทอมนี้จะเอาเท่าไร...3.5...หรือ 4.0...(ทำได้จริงจะน้อยก่านิดๆ) 2) อ่านหนังสือให้ได้อย่างน้อยวันล่ะ 5 ชม. (ผมเริ่ม 2 ทุ่ม ถึง ตี 1) 3) ก่อนสอบ 1 เดือนอัดเต็มที่...เน้นการทำข้อสอบ 4) อ่านหนังสือแต่ล่ะวิชาให้ได้...อย่างน้อย 3 รอบ 5) แต่ล่ะวิชาพยายามสรุป....ย่อ...ลงมาเพื่อรอบที่ 2 และ 3 จะได้อ่านจำนวนน้อยๆ 6) ถ้าเป็นไปได้...อ่านไปก่อนเข้าเรียนจะดีมากๆ สิ่งสำคัญที่สุด...ต้องตั้งใจอย่างมาก... จากคุณ : เราก็ศิษย์มีอาจารย์หนึ่งบ้าง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 18:24:08

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณทุกความเห็นครับ ฟังเรื่องของเกียรตินิยมกันมาแล้ว ... แล้วเด็กเนิร์ดไปอยู่ตรงไหนของประชากรครับ? จากคุณ : Staphylococcus aureus เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 18:27:13

ความคิดเห็นที่ 50 ผม จบ อันดับ2 นะครับ ช่วงเรียนอาศัยทำวิชาที่ตัวเองถนัดให้ดีๆ เข้าไว้ เอาให้ดีที่สุด ส่วนที่ไม่ถนัด ก็ขอแค่เอากลางๆ พอ สัก C ถ้าได้สัก C+ ก็ ok หน่อย ก่อนสอบนี่ลุยหนักมากครับผม อย่างน้อยต้องเอาการบ้านทุกข้อ ที่ลอกเพื่อนมา มาทำเองให้ได้ ให้หมด ด้วยตัวเอง ส่วนระหว่างนั้นก็ทำตัวปกติครับ เข้าเรียนหลับ ก็มีครับผม จากคุณ : ปังปอนด์ป่วน เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 23:10:06

ความคิดเห็นที่ 51 ตั้งใจเรียนตลอด  คิดตามที่อาจาย์บรรยาย  มีข้อสงสัยตรงไหนรีบหาคำตอบรีบทำความเข้าใจ อย่าปล่อยไว้นานเดี๋ยวจะลืม กลับหอพักรีบอ่านทบทวน เหมือนกับเป็นการย้ำให้ข้อมูลผ่านเข้าสู่สมอง แต่ไม่เคย Short Note เพราะขี้เกียจเขียน ชอบอ่านมากกว่า ที่สำคัญต้องเข้าใจ ไม่ใช่ท่องจำ และเห็นด้วยกับ # 6 ที่ว่า "แค่เกียรตินิยม มันไม่ต้องระดับจีเนียสหรอก อยู่ที่คุณพยายาม และตั้งใจแค่ไหน" จากคุณ : รับผิดชอบการกระทำของตัวเองเสมอ เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 54 10:39:14

ความคิดเห็นที่ 52 #45 เมพขริง ขอชาบูวว แอบกระซิบได้ไหมว่าอยู่ภาคอะไร ฮ่าๆๆ ผมเห็นอันดับต้นๆ ตั้งใจเรียนในห้องกันตลอดนะครับ อ่านหนังสือทุกวัน แต่กิจกรรม งานคณะ กีฬา อะไรก็เล่น แต่ความตั้งใจเนี่ยสูงส่งจริงๆ จากคุณ : int.anti เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 54 11:03:34

ความคิดเห็นที่ 53 คนทุกคนหนีไม่พ้น กิน ... ... นอน จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 54 12:20:03

ความคิดเห็นที่ 54 เวลาเรียน ตอนทำการบ้านนี่แหละที่ถือเป็นการทบทวนความเข้าใจ และอ่านหนังสือไปในตัว พอมาเรียนมหาวิทยาลัย ก็พยายามทำความเข้าใจอ่ะนะ ถ้าเข้าใจแล้วเราจะไม่ค่อยลืม เราแพ้ห้องสมุด อ่านหนังสือในห้องสมุดทีไรหลับทุกที นัดติวกับเพื่อน เราก็หลับ แพ้ทางจริงๆ แต่ตอนกลางคืนเราก็อ่านนะ หลังเรียนทุกวันอ่านทบทวนที่เรียนมาในวันนั้นๆ วันสอบก็พลิกๆดูหัวข้อหลักๆก่อนสอบ1-2ชั่วโมง กิจกรรมก็ทำนะ ไปออกค่ายพัฒนาอะไรทำนองนี้ ไปงานฟุตบอล ไปช่วยเค้าทำเชียร์ ทำโน้นทำนี่ตามประสา แต่แปลกอยู่อย่างคือ เราไม่เคยโดดเรียนเลยนะ เรียนเรื่อยๆอ่ะ ไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย ชาตินี้ไม่เคยได้ที่ 1 กะเค้าหรอก แต่ก็เอาเกียรตินิยมมาได้ก็โอเคแล้ว จริงๆเราว่าถ้ารู้เทคนิคก็ทำได้นะเกียรตินิยมเนี้ย จากคุณ : Lanina เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 54 17:19:48

ความคิดเห็นที่ 55 ผมเป็นคนนึงที่ ไม่ได้ชอบอ่านหนังสือตลอดคับ (ค่อนข้างขี้เกียจ) แต่ผมมีเทคนิคคือ เวลาเรียนเสร็จแล้ว เราจะต้องมานั่งทำสรุปเพื่อทำความเข้าใจ ว่า เราเรียนอะไรไปบ้าง ผมทำทุกวิชาคับ แล้วตอนจะสอบ ก็เอาไอ้สรุปที่เราทำนั่น แหละครับมาอ่าน มีแต่เนื้อๆ ฉะนั้น ข้อสอบจะออกไม่ไกลจากเนื้อหาหรอกครับ ส่วน วิชาออกแบบ หรือคำนวณไรงี้ ส่วนมาก จะเป็น open book อันนี้ต้องอาศัย ความเข้าใจครับ เพราะว่าโจทย์สามารถ ประยุกต์ ได้หลายรูปแบบ ^^ จากคุณ : BlueHouse~ เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 54 23:41:12