 |
เอ่าอ่านดู แพ้เพราะไม่มีไม้กั้น ไม่ได้ไปฟังใครพูดหรอก คดีไม่ถึงฏีกาเพราะรถไฟไม่สู้ต่อมีเยอะ ถ้าอยู่ในที่ชุมชน หรือมีคนสัญจรไปมาเยอะ มันจะแปลกไปไหมถ้าไม่มีเครื่องป้องกัน
ศาลบุรีรัมย์สั่งการรถไฟฯ จ่ายค่าเสียหาย 14 ล้าน คดีรถไฟชนรถนักเรียน จนมีเด็กเสียชีวิต 8 ศพ และคนขับอีก 1 ศพ หลังผู้ปกครองเด็ก 12 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย 54 ล้าน ศาลวินิจฉัยชี้จำเลยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ทั้งที่จุดดังกล่าวมีประชาชนสัญจรพลุกพล่านตลอดเวลา แต่กลับไม่มีการติดเครื่องกั้น และไม่มีพนักงานควบคุมดูแล โดยให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์รวม 14 ล้านบาท ด้านผู้ปกครองเผยแม้จะชนะคดี แต่ยังคงโศกเศร้ากับการสูญเสีย อยากให้การรถไฟฯ รับผิดชอบมากกว่านี้
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 กรกฎาคม ศาลจังหวัดบุรีรัมย์อ่านคำพิพากษา คดีที่นายทองจันทร์ ศรัทธาธรรม กับพวกรวม 12 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องการรถไฟแห่งประเทศไทย จำเลย ในข้อหาละเมิด เรียกค่าเสียหายเป็นคดีแพ่ง หมายเลขดำที่ 373/2552 เป็นเงิน 54.5 ล้านบาท คดีนี้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552
ทั้งนี้ ศาลจังหวัดบุรีรัมย์สั่งการรถไฟแห่งประเทศไทย รับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ให้กับโจทก์ทั้ง 12 คน กรณีที่ขบวนรถไฟได้พุ่งชนรถรับส่งนักเรียน ที่แยกหนองแสง ในเขตเทศบาลตำบลลำปลายมาศ อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา ทำให้เด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลบำรุงวิทยา โรงเรียนธารทองวิทยา และคนขับรถ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย เป็นเด็กนักเรียน 8 ราย และคนขับรถ 1 ราย อีกทั้งยังมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก
ศาลได้วินิจฉัยว่า จุดที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางข้ามรถไฟอยู่ในเขตเทศบาล มีประชาชนสัญจรไปมาพลุกพล่านตลอดเวลา แต่กลับไม่ติดตั้งเครื่องกั้น ทั้งที่จำเลยมีหน้าที่ดูแลกิจการด้านรถไฟของประเทศไทย ทั้งด้านการจัดระเบียบเกี่ยวกับความปลอดภัย การให้บริการ และความสะดวกต่างๆ ของกิจการรถไฟ แต่กลับปล่อยปละละเลย และไม่มีพนักงานควบคุมดูแลประจำ การรถไฟแห่งประเทศไทยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ไม่ติดตั้งเครื่องกั้นรถไฟ จนก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว
จึงมีคำสั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทย จำเลย รับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับโจทก์ โดยให้ชดเชยชำระเงินให้แก่โจทก์ที่ 1 และ 2 จำนวน 1,298,300 บาท โจทก์ที่ 3 และ 4 จำนวน 2,104,450 บาท โจทก์ที่ 5 จำนวน 1,939,000 บาท โจทก์ที่ 6 จำนวน 1,684,700 บาท โจทก์ที่ 7 จำนวน 1,800,400 บาท โจทก์ที่ 8 และ 9 จำนวน 1,781,775 บาท โจทก์ที่ 10 จำนวน 1,860,000 บาท และโจทก์ที่ 11 จำนวน 1,918,900 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 14,387,525 บาท
นางสนอง นาคินชาติ อายุ 42 ปี ผู้ปกครองเด็กนักเรียนที่ถูกรถไฟชนเสียชีวิต กล่าวว่า แม้ศาลชั้นต้นจะตัดสินให้ชนะในคดีนี้ แต่ความโศกเศร้าและความทรงจำที่สูญเสียหลานชายไปยังไม่เลือนหาย อยากให้ทางการรถไฟฯ ออกมารับผิดชอบและยุติคดีเพียงเท่านี้ เพราะผู้ปกครองทั้งหมดที่เป็นโจทก์ฟ้อง ล้วนแล้วแต่เป็นผู้สูญเสีย เพราะเงินจำนวนนี้จะสามารถเยียวยาครอบครัวได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น จนถึงขณะนี้บริเวณทางข้ามรถไฟที่เกิดเหตุ การรถไฟฯ ยังไม่มีการดูแลเพิ่มระบบความปลอดภัยแต่อย่างใด มีเพียงเทศบาลเมืองบุรีรัมย์เข้าไปทำแผงกั้นเพื่อป้องกันอันตราย ให้กับผู้สัญจรไปมาเท่านั้น
ด้านนายวุฒิกาญจน์ กุลสุวรรณ ทนายความ และกรรมการสภาทนายความบุรีรัมย์ กล่าวว่า คดีนี้ทางทนายความได้ฟ้องเป็นคดีอนาถา โดยยื่นคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล เนื่องจากผู้ปกครองล้วนแต่เป็นผู้ยากจน โดยยื่นฟ้องมาตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมา จนในที่สุดวันนี้ศาลได้อ่านคำพิพากษาตัดสินแล้ว และการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ทราบเรื่องแล้ว แต่ไม่ได้ใช้สิทธิ์ยื่นคำให้การต่อสู้คดี
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 54 17:04:11
| จากคุณ |
:
Ninjax  
|
| เขียนเมื่อ |
:
6 ก.ย. 54 16:59:32
|
|
|
|
|
สื่อสิงคโปร์เผย รถไฟฟ้าสิงคโปร์ โต้ "น้องธันย์" อ้างว่าประมาทเอง พร้อมปัดไม่จ่ายค่าเสียหาย
