ความคิดเห็นที่ 1 ช้างแมมมอธ เป็นช้างที่อาศัยอยู่ในยุคน้ำแข็งเมื่อ 20,000 ปีก่อน แต่สูญพันธุ์ไปเพราะถูกมนุษย์ยุคหินล่า มีขนยาวปกคลุมเพื่อป้องกันความหนาวเย็น มีงายาว และโค้ง การค้นพบซากแมมมอธ สามารถนำมาศึกษาวิจัยเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก เพราะแมมมอธเคยผ่านช่วงเวลานั้นมา พ.ศ. 2550 ได้มีการพบซากลูกช้างสูง 130 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ใกล้กับแม่น้ำยูริเบ ในเขตปกครองตนเอง ยามาล - เนเน็ต ทางตะวันตกเฉียงเหนือของไซบีเรีย โดย ยูริ คูดี จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:13:13

ความคิดเห็นที่ 2 "เซเบอร์ทูธไทเกอร์ (Smilodon fatalis)" หรือ "เสือเขี้ยวดาบ" สูญพันธุ์ไปจากโลกเมื่อ 10,000 ปีก่อน สัตว์ที่อุ้มบุญและให้ไข่ได้น่าจะเป็น "แอฟริกันไลอ้อน" จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:14:40

ความคิดเห็นที่ 3 สือ เขี้ยวดาบ เป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ อาศัยอยู่ในทวีปยุโรป แอฟริกา เอเชียและอเมริกาเหนือ ในเขตทุ่งหญ้าสเตปส์ ทุ่งหญ้าสะวันนา ทุ่งหญ้าแพร์รี่ ป่าไม้ผลัดใบและป่าดงดิบ เมื่อราว 10,000 ปีก่อน รูปร่างและขนาด ขาหน้ายาวกว่าขาหลัง หางสั้น ฟันเขี้ยวบนยาวแบนและโค้งแบบมีดดาบ ขึ้นชื่อว่าจู่โจมดุเดือด และฉีกกระชากเหยื่อด้วยฟันที่แหลมคมได้ฉับไว นักวิจัยใช้คอมพิวเตอร์จำลองแบบฟันกราม กล้ามเนื้อ และกะโหลกของเสือเขี้ยวดาบ เปรียบเทียบกับสิงโตสมัยใหม่ พบว่า เสือเขี้ยวดาบไม่ได้มีกรามที่แข็งแรงอะไรนักหนา โดยมันจะเข้าตะครุบเหยื่อ และใช้ฟันเขี้ยวงับเข้าที่หลอดลมของเหยื่อเท่านั้นเอง ไม่ต่างจากเสือ และสิงโตสมัยใหม่ (เป็นสัตว์ที่เท่ชิบๆ จขกท โครตชอบ= =) จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:15:16

ความคิดเห็นที่ 4 มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล (Homo neanderthalensis)" -มนุษย์ นีแอนเดอร์ทัล (Neanderthal man) แต่ไม่ใช่ในความหมายเปลี่ยนไม่ได้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2-3 แสนปีมาแล้วที่ปรากฏมนุษย์ที่คล้ายกับมนุษย์ใหม่ ชนิดแรกที่เป็นชนิดมนุษย์แบบเดียวกับเราก็คือมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล  ไม่ว่ามนุษย์นีแอนเดอร์ทัลได้เป็น สปีชี่ย่อย (subspecies) ของ Homo sapiens (Homo neanderthalensis) หรือ เป็นสปีซีที่แยกออกไปต่างหาก (Homo neanderthalensis) เป็นเรื่องที่ยังถกเถียงกันอยู่บ้าง สิ่งที่ชัดเจนก็คือเมื่อประมาณแสนปีมาแล้ว ยุโรปและเอเซียมีผลเมืองในรูปของชนเผ่าคล้ายคลึงกับพวกเรามา จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:16:21

ความคิดเห็นที่ 5 มี ส่วนที่เข้าใจมโนทัศน์ผิดกันทั่วไปเกี่ยวกับมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล ที่ติดตัวเป็นภาพของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล เช่นการเดินไม่มั่นคง ร่างใหญ่น้ำหนักมาก ผิวร่องรอยตะปุ่มตะป่ำ มีปัญญาน้อย  ที่จริงแล้วมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลมีสมองใหญ่กว่า homo sapiens สมัยใหม่เสียอีก อาการเดินที่ไม่มั่นคงดังอธิบายนั่นอาจมาจากการวิเคราะห์โครงกระดูกที่ค้นพบ เป็นโครงกระดูกเป็นของชายที่เจ็บป่วยจากการเป็นโรคไขข้อที่รุนแรง และต่อมาทำให้หลังโคงงอ  การรื้อฟื้นเกี่ยวกับมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลนั้นถ้ามีจริงอาจจะเป็นบางคนที่ เดินปะปนอยู่ตามที่ต่างๆ ที่ไม่สามารถสังเกตความแตกต่างได้ นอกจากนี้มนุษย์นีแอนเดอร์ทัลมี ความก้าวหน้าที่มีการนับถือศาสนา ซึ่งพวกเขาได้ฝังผู้ตาย และตลอดช่วงการมีชีวิต ได้มีการทำเครื่องหอม และเครื่องไม้เครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับอารยธรรมของมนุษย์ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:16:49

ความคิดเห็นที่ 6 "ชอร์ตเฟซแบร์ (Arctodus simus)" หรือ "หมีหน้าสั้น" - สูญพันธุ์เมื่อประมาณ 11,000 ปี มันสูงกว่าหมีขั้วโลกเมื่อยืนเทียบกันถึง 1 ใน 3 น้ำหนักราว 1,000 กิโลกรัม จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:17:30

ความคิดเห็นที่ 7 เสือทัสมาเนีย (Thylacinus cynocephalus)" -  สูญ พันธุ์ไปเมื่อค.ศ. 1936 หรือประมาณ 70 ปีก่อน ตัวสุดท้ายของโลกที่ตายชื่อ "เบนจามิน" อยู่ที่สวนสัตว์เมืองโฮบาร์ต บนเกาะทัสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:18:04

ความคิดเห็นที่ 8 สือ ทัสมาเนีย (Tasmanian Tiger) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หมาป่าทัสมาเนีย หรือ (Tasmanian Wolf) ส่วนอีกชื่อหนึ่งนั้น ตามชื่อวิทยาศาสตร์เรียกว่า Thylacine เสือตัวที่ว่านี้ทำให้โลกหันมาสนใจ เพราะเป็นสัตว์กินเนื้อที่หายากจนนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ ลงความเห็นว่าสูญพันธุ์หมดไปจากโลกนี้แล้ว แต่ก็มีข่าวคราวว่าพบเสือทัสมาเนียนี้กันบ่อยครั้ง ก็ไม่ทราบว่าจริงหรือเท็จ เพราะไม่มีภาพถ่ายที่ยืนยันการพบปะกับเสือที่ว่านี้ได้ (ใครจะไปคิดว่าจะเจอหรือพกกล้องติดตัวไปด้วยตลอดเวลา) แต่ก็มีหลักฐานมากมายว่ามีการพบเสือที่ว่านี้บ่อยครั้งขึ้น หลายคนภาวนาให้เป็นอย่างนั้น เมื่อ พ.ศ.2538 มีเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ของทัสมาเนียผู้หนึ่งพบร่องรอยของเสือชนิดนี้ ทางตะวันออกของทัสมาเนีย นับเป็นการค้นพบครั้งสำคัญก็ว่าได้ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:18:36

ความคิดเห็นที่ 9 เสือ ตัวที่ว่านี้มีลักษณะคล้ายๆกับสุนัขในบ้านเรา แต่มีฟันหน้าที่แหลมคม นอกจากนั้นลำตัวและหางของเสือประเภทนี้มีลักษณะคล้ายๆกับจิงโจ้ บางครั้งมันยืนด้วยสองขาหลังเหมือนจิงโจ้ด้วย เสือทัสมาเนียที่ชาวออสเตเลียเคยเห็นเป็นขนปุยลายทางสีน้ำตาลอ่อน มีสีดำสลับที่สันหลังค่อนไปทางก้น เล่ากันว่าเสือประเภทนี้โดยนิสัย ไม่ค่อยวิ่ง เนื่องจากไม่ใช่สัตว์ประเภทวิ่งเร็วเหมือนกับสัตว์กินเนื้ออื่นๆ การจับเหยื่อของมันเป็นอาหาร ก็ไม่ต้องวิ่งไล่ล่าเหยื่อเหมือนเสืออื่นๆ แต่มันจะค่อยๆทำให้เหยื่อเหนื่อยหรืออ่อนล้า โดยการตามไปเรื่อยๆ ก่อนจะจับกินเป็นอาหาร โดยเสือทัสมาเนียอย่างที่ว่านี้จะชอบกินอวัยวะของเหยื่อสัตว์ต่างๆ ตั้งแต่สัตว์ใหญ่อย่าง วอลลาบี จิงโจ้ ไปจนถึงแบนดีคู้ต หนู และนก ของโปรดจากอวัยวะของสัตว์เหล่านั้นได้แก่ คอ จมูก ตัว และไต หลายคนสงสัยว่าเสือที่ว่าเห่าหอนอะไรบ้างหรือเปล่า นักสัตวศาสตร์ก็บอกว่ามันไม่ค่อยเห่าหอนเท่าไหร่นัก แต่ก็มีบ้างในบางครั้ง แต่ก็นานๆทีว่างั้นเหอะ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:19:04

ความคิดเห็นที่ 10 กลิปโทดอน (Doedicurus clavicaudatus)" - เป็นตัวอมาดิลโลที่มีขนาดพอๆ กับรถโฟล์กเต่า สูญพันธุ์ไปจากโลกราว 11,000 ปี ครั้งหนึ่งเคยอาศัยอยู่แถบอเมริกาใต้ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:19:43

ความคิดเห็นที่ 11 สังเกตที่ช่วงหางจะเป็นอาวุธสามารถใช้โจมตีศัตรูได้ สัตว์ประเภทนี้มักจะอาศัยอยู่กันเป็นกลุ่มเป็นฝูง จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:20:11

ความคิดเห็นที่ 12 "วูลลี่ ไรโนเซอรัส (Coelodonta antiquitatis)" หรือ "แรดขน" - สูญพันธุ์ไปราว 10,000 ปี ลำตัวยาวประมาณ 3.7 เมตร นอยาว 1 เมตร เคยอยู่แถวยุโรปเหนือและไซบีเรีย จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:20:55

ความคิดเห็นที่ 13 แรด ขน ตัวยาว 5 เมตร เคยมีชีวิตอยู่เมื่อ 6,000 - 9,000 ปีมาแล้ว เป็นสัตว์ดุร้าย กินหญ้าเป็นอาหาร แรดชนิดนี้คนสมัยโบราณเคยวาดไว้ตามผนังถ้ำ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:21:18

ความคิดเห็นที่ 14 โดโด้ (Raphus cucullatus)" - เป็น ญาติของนกพิราบและนกนางนวล สูญพันธุ์ไปเมื่อ ค.ศ. 1690 สูงประมาณ 1 เมตร น้ำหนัก 20 กิโลกรัม เคยอยู่แถบมอริเชียสหรือมหาสมุทรอินเดีย จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:21:52

ความคิดเห็นที่ 15 โดโด้ (dodo) เป็นนกท้องถิ่นที่พบได้เฉพาะบนหมู่เกาะมอริเซียสในมหาสมุทรอินเดียมันเป็นนก ที่บินไม่ได้อยู่ในตระกูลเดียวกับนกพิราบ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Raphus cucullatus (ใครที่เล่น แร็คฯอ่ะ จะเห็นตัวนี้บ่อย ก็ ไอตัวที่ ไนท์ ขี่ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:22:53

ความคิดเห็นที่ 16 ไจแอนต์กราวด์สล็อธ (Megatherium americanum)" หรือ "หมีสล็อธดินยักษ์" - สูญพันธุ์ไปราว 8,000 ปี ระดับดีเอ็นเอที่รักษาไว้ได้คือ 2/5 "หมีสล็อธดินยักษ์" เมื่อยืนแล้วจะสูงประมาณ 6 เมตร น้ำหนัก 4 ตัน จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:23:46

ความคิดเห็นที่ 17 เทียบลักษณะโครงกระดูกของ Megatherium americanum (ไอบ้านี่ตัวใหญ่ชิบๆ = =) จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:24:42

ความคิดเห็นที่ 18 โมอา (Dinornis robustus)" - เป็น นกมีลักษณะคล้ายกับนกกระจอกเทศ พบดีเอ็นเอมากในนิวซีแลนด์ ถ้ายืนมันจะสูงประมาณ 3.6 เมตร สูญพันธุ์ไปเมื่อราว ค.ศ. 1500 คาดว่าถูกล่าโดยชาวเมารี จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:25:28

ความคิดเห็นที่ 19 โครง กระดูกของนกโมอาที่พบ แสดงให้โลกเห็นวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของมันว่า มันได้วิ่งมาตกอยู่ในหล่มโคลน และถูกนกอินทรีจิกกัดจนตาย เพราะกระดูกส่วนหัวและคอของมันได้หายไป จากนั้นซากศพของมันก็ถูกโคลนดูด จนจมลึกลงไปในดิน นักชีววิทยาทุกวันนี้สนใจศึกษาสาเหตุที่ทำให้นกโมอาสูญพันธุ์มาก เพราะการรู้สาเหตุที่แท้จริงของการสูญพันธุ์จะทำให้งาน อนุรักษ์สัตว์อื่นๆ ที่กำลังจะสูญพันธุ์สามารถดำเนินไปได้อย่างถูกต้องและราบรื่นด้วย จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:25:57

ความคิดเห็นที่ 20 ไอริชเอลก์ (Megaloceros giganteus)" -  มีลักษณะคล้ายกวาง สูญพันธุ์ไปเมื่อ 7,700 ปี จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:26:34

ความคิดเห็นที่ 21 โครงกระดูกของ ไอริชเอลก์  ที่ถูกเก็บรักษาไว้ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:26:58

ความคิดเห็นที่ 22 .. แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 54 20:27:45 จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:27:33

ความคิดเห็นที่ 23 วัวทะเลพันธุ์สเตลเลอร์ - ตัวยาว 10 เมตร ซึ่งค้นพบในปี ค.ศ.1741 และถูกมนุษย์ล้างผลาญเป็นอาหารหมดสิ้นในปี ค.ศ.1768 (ใครที่เคยดู วันพีช จะ เคยเห็น ซันจิโดดเตะไอตัวนี้อยู่ = =) จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:28:09

ความคิดเห็นที่ 24 กระทิงขนยาว - ถิ่นกำเนิด : อยู่ในที่ราบของอเมริกา เมื่อ11,000ปีมาแล้ว ซึ่งอยู่ในช่วง*ยุคมิคสัญญี* ลักษณะ : ตัวสูง1.5ถึง2.5เมตร นิสัยดุร้ายกว่ากระทิงยุคปัจจุบันมาก มีโหนกตรงส่วนหลัง เขายาวถึง2เมตร สาเหตุ ของการสูญพันธ์ : เนื่องจากมนุษย์ต้องการขนของมันมาเป็นเครื่องนุ่งห่มและเขาของมันยังเป็น เครื่องประดับชั้นยอด ผนวกกับการสิ้นสุดของยุคน้ำแข็งจึงทำให้!ชนิดนี้สูญพันธ์ไปโดยไร้ร่องรอย จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:28:48

ความคิดเห็นที่ 25 สัตว์พันธุ์ครึ่งม้าลายครึ่งลา - ซึ่งเคยมีในประเทศอาฟริกาใต้ เมื่อทศวรรษ 1860 ถูกตามล่ากวาดล้างให้สิ้นซากเพื่อขายทอดตลาดด จนสูญพันธุ์แค่กลางปี 1880 เท่านั้น จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:29:26

ความคิดเห็นที่ 26 อสูรกายทะเลใหญ่ยักษ์สุดๆ - ยาวได้ถึง 15 เมตร เฉพาะครีบก็ยาวถึง 3 เมตร ใช้ขากรรไกรขบรถเก๋งให้ขาดครึ่งได้สบาย ระบุสัตว์ดึกดำบรรพ์ยุคจูราสสิคนี้เป็นสัตว์เลื้อยคลานทางทะเลใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:30:06

ความคิดเห็นที่ 27 ตัวนี้เป็นจระเข้ประหลาด น้ำทะเล นามก๊อตซิลล่า - มีการค้นซากโบราณของจระเข้ขนาดใหญ่ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “ก๊อดซิลลา”ครับ จระเข้ โบราณนี้มีลักษณะและขนาดที่ต่างไปจากจระเข้ในยุคปัจจุบัน แต่มีลักษณะคล้ายไดโนเสาร์ คือ มีส่วนโครงสร้างด้านหน้าบริเวณจมูกและปาก ในลักษณะที่ยื่นออกมา และมีฟันเป็นหยักๆ คล้ายฟันเลื่อย ซากนี้พบในบริเวณที่ราบสูง พาทาโกเนีย จระเข้ดังกล่าวเคยครองมหาสมุทรของโลกเมื่อประมาณ 140 ล้านปีมาแล้ว จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:30:55

ความคิดเห็นที่ 28 ปลาซีลาคานท์ - ผู้ที่สนใจในเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์ดึกดำบรรพ์ สัตว์ปริศนา คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เกี่ยวกับเจ้าปลาตัวนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ติดตามหรือสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์ดึกดำบรรพ์ สักเท่าไรก็คงจะพอคุ้นหูกันอยู่ถ้าได้ยินชื่อปลาตัวนี้ นั่นคือ ปลาซีลาคานท์ สำหรับปลาซีลาคานท์นั้น ก่อนที่มีจะรายงานการค้นพบอย่างเป็นทางการ ก็ถูกจัดให้เป็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปพร้อมๆกับสัตว์ยักษ์ใหญ่ ไดโนเสา จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:32:25

ความคิดเห็นที่ 29 ปลาซีลาคานท์เป็นสัตว์เพียงไม่กี่ชนิด ที่รูปร่างของมันแทบจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยในระยะเวลานับหลายร้อยล้านปี รูปร่างของมันทุกวันนี้เหมือนกับเมื่อ 140 ล้านปีก่อนทุกประการ ความคุ้นเคยกับฟอสซิลของมันที่ สมิธพบในเหมืองที่ประเทศเยอรมนีตอนใต้ ทำให้สามารถบอกได้ทันทีว่านั่นคือปลาซีลาคานท์ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:32:59

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณข้อมูลจาก http://board.postjung.com/m/531207.html   จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:33:54

ความคิดเห็นที่ 31 Dinotherium สัตว์ตระกูลช้าง แต่ต่างจากช้างปัจจุบันและแมมมอธตรงที่มีงางอกลงจากขากรรไกล่าง จากคุณ : กาลามะชน เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:48:58

ความคิดเห็นที่ 32 น่ารักทุกตัวเลย ชอบอยากเลี้ยง เห็น คห.14 แล้วนึกถึงตัวนี้ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:52:21

ความคิดเห็นที่ 33 วัวทะเลพันธุ์สเตลเลอร์ - ตัวยาว 10 เมตร ซึ่งค้นพบในปี ค.ศ.1741 และถูกมนุษย์ล้างผลาญเป็นอาหารหมดสิ้นในปี ค.ศ.1768 . . . ใช้เวลาบริโภครวดเร็วจริง   แค่27ปีเท่านั้น      สงสัยจะอร่อยมาก จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 20:59:46

ความคิดเห็นที่ 34 Arsinoitherium สมัยก่อนเรียกว่าว่า แรดอาร์สินอย เพราะมีนอคล้ายแรด แต่จริงๆแล้วเป็นสัตว์อีกตระกูล ซึ่งใกล้เคียงกับช้าง จากคุณ : กาลามะชน เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 21:05:42

ความคิดเห็นที่ 35 Brontotherium ตัวนี้จึงเป็นแรดนอคู่ขนานแท้ จากคุณ : กาลามะชน เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 21:09:20

ความคิดเห็นที่ 36 เสือเขี้ยวดาบสูญพันธุ์ได้ไงอ่ะ ทั้งๆที่เป็นนักล่า จากคุณ : ขย้ำปฐพี เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 21:12:57

ความคิดเห็นที่ 37 น่าร๊อกกกกกกกกกกกกกกอ่ะ ชอบโดโ้ด้จัง~ จากคุณ : NorsDavincy เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 21:13:22

ความคิดเห็นที่ 38 สมัน Cervus schomburgki สมันหรือเนื้อสมัน ชื่อสามัน : Schomburgk’s Deer ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cervus schomburgki ลักษณะ : เนื้อสมันเป็นกวางชนิดหนึ่งที่เขาสวยงามที่สุดในประเทศไทย เมื่อโตเต็มวัยจะมีความสูงที่ไหล่ประมาณ 1 เมตร สีขนบนลำตัวมีสีน้ำตาลเข้มและเรียบเป็นมัน หางค่อนข้างสั้นและมีสีขางทางตอนล่างสมันมีเขาเฉพาะตัวผู้ลักษณะเขาของสมันมีขนาดใหญ่และแตกกิ่งก้านออกหลายแขนง ดูคล้ายสุ่มหรือตะกร้า สมันจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า กวางเขาสุ่ม อุปนิสัย : ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงเล็กๆโดยเฉพาะในฤดูผสมพันธุ์ หลังจากหมดฤดูผสมพันธุ์และตัวผู้จะแยกตัวออกมาอยู่โดดเดี่ยว สมันชอบกินหญ้าโดยเฉพาะหญ้าอ่อนผลไม้ ยอดไม้ และใบไม้หลายชนิด อยู่อาศัย : สมันจะอาศัยเฉพาะในทุ่งโล่ง ไม่อยู่ตามป่ารกทึบ เนื่องจากเขามีกิ่งก้านสาขามากจะเกี่ยวพันพันกับเถาวัลย์ได้ง่าย เขตแพร่กระจาย : สมันเป็นสัตว์ชนิดที่มีเขตแพร่กระจายจำกัดอยู่ในบริเวณที่ราบ ภาคกลางของประเทศเท่านั้น สมัยก่อนมีชุกชุมมากในที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดรอบกรุงเทพฯ เช่น นครนายก ปทุมธานี และปราจีนบุรี และแม้แต่บริเวณพื้นที่รอบนอกของกรุงเทพฯ เช่น บริเวณพญาไท บางเขน รังสิต ฯลฯ สถานภาพ : สมันตัวสุดท้ายถูกยิงตายเมื่อ พ.ศ. 2475 หรือ ได้สูญพันธุ์ไปจากโลกและจากประเทศไทยเมื่อเกือบ 74 ปีที่แล้ว และตัวที่นำมาเลี้ยงไว้ที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอมหาชัย จ.สมุทรสาครเป็นเพศผู้ ซึงก็ได้ตายลงในปี พ.ศ. 2481 หลังจากนั้นไม่มีรายงานการพบสมันอีกเลย สมันยังจัดเป็นป่าสงวนชนิดหนึ่งใน 15 (ห้ามค้าขายเขาหรือส่วนใดๆของสมัน) แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 54 21:14:45 จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 21:13:53

ความคิดเห็นที่ 39 คห.25 ดูแล้วนึกถึงโอกาปิ แต่คงไม่ใช่หรอกเพราะลายต่างกัน จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 21:16:33

ความคิดเห็นที่ 40 ส่วนใหญ่ไม่ใ่ช่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมนะครับ และมีบางชนิดก็วิวัฒนาการไปเป็นชนิดพันธุ์ใหม่ จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 21:18:25

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นบอกว่าโดโด้ที่สูญพันธุ์เพราะมันไม่มีสัญาชาติญาณการหนีนักล่าใช่มั้ยครับ แบบเจอคนแล้ววิ่งใส่เลย มารุมๆมองคนว่าตัวไรอ้ะๆอะไรแบบนี้ จากคุณ : เมื่อกี้ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 21:32:51

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่มี megalodon หรือครับ จากคุณ : SymphonyNo5 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 21:36:02

ความคิดเห็นที่ 43 Paraceratherium สัตว์บกที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่รู้จัก เป็นสัตว์ในตระกูลใกล้เคียงกับแรด ที่ไม่มีเขา จากคุณ : กาลามะชน เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 21:38:12

ความคิดเห็นที่ 44 เทียบขนาดให้ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 21:46:42

ความคิดเห็นที่ 45 เนื้อหาน่าสนใจมากครับ แต่ผมอ่านไปงงไป จับใจความไม่ได้เลย T_T ใช้โปรแกรมแปลภาษารึเปล่าครับ จากคุณ : มือมาร เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 22:22:19

ความคิดเห็นที่ 46 เสือทัสมาเนียนโดนล่าจนสูญพันธุ์ เพราะชาวบ้านคิดว่าไปกินแกะ แต่งานวิจัยใหม่เมื่อเดือนสิงหาปีนี้ พบว่าขากรรไกรของเสือทัสมาเนียนอ่อนแอเกินกว่าจะฆ่าแกะได้ ฉะนั้นเสือทัสมาเนียนจึงพ้นข้อกล่าวหาขโมยแกะ แต่ว่าดันถูกฆ่าตายไปหมดแล้วตั้งแต่เมื่อ 75 ปีก่อน งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ก่อนวันครบรอบการตายของ เบนจามิน เสือทัสมาเนียนตัวสุดท้าย  (7 กันยายน) ประมาณ 2 สัปดาห์ http://www.vcharkarn.com/varticle/43286 แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 54 22:23:15 จากคุณ : Entitas เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 22:22:40

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณมากครับ รู้จักอยู่ไม่กี่ตัว จากคุณ : เจ๊ปอ เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 22:31:21

ความคิดเห็นที่ 48 ปลาซีลาคานท์ เลี้ยงลูกด้วยนม? จากคุณ : craftman เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 22:55:35

ความคิดเห็นที่ 49 #45 แต่เราอ่านก็เข้าใจนะคะ (หรือเพราะเราอ่านผ่านๆตาหว่า) จากคุณ : Piccalo_koz เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 22:57:10

ความคิดเห็นที่ 50 เพราะคนเราแท้ๆ จากคุณ : Casanovy_mustdie เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 23:17:06

ความคิดเห็นที่ 51 ปลาซีลาคานท์ ยังมีพบตัวเป็นๆอยู่นะครับ จากคุณ : ฤ เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 23:22:15

ความคิดเห็นที่ 52 ตกลงเลี้ยงลูกด้วยนมหมดมั้ย ทำไมมีนกโดโด้ด้วย จากคุณ : bakasama เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 23:33:01

ความคิดเห็นที่ 53 สมันตัวสุดท้ายในโลกนี้ ที่ถูกเลี้ยงไว้ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาครถูกขี้เมาตีตาย T_T ข้อมูลจากเว็บนี้นะคะ http://www.verdantplanet.org/animalfiles/สมัน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เศร้ามากๆ เลยค่ะ จากคุณ : มรกตนาคสวาท เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 23:49:57

ความคิดเห็นที่ 54 ตามมาให้กีบเม้นท์ 31 + กรี๊ดไดโนเทเรี่ยม >< อ่านเพชรพระอุมามาตั้งนาน เพิ่งจะได้เคยเห็นหน้า จากคุณ : Amore_AK* เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 00:01:43

ความคิดเห็นที่ 55 ต่อให้รุมหมดนี่ เทพฮิปโปของผมก็ชนะ ปล. ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆครับ จากคุณ : Tuey_re เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 00:02:57

ความคิดเห็นที่ 56 เกือบทั้งหมดมีในการ์ตูนเรื่อง Cage Of Eden ครับ ใครชอบสัตว์โบราณลองหามาอ่านดู จากคุณ : Sylphs เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 00:03:25

ความคิดเห็นที่ 57 มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล!!! ผะ ผะ ผมเจอพี่ชายที่หายไปแล้ว จากคุณ : Don't try this at home. เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 00:31:44

ความคิดเห็นที่ 58 #45  เราอ่านเข้าใจนะคะ   ไม่งงค่ะ จากคุณ : salamis เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 00:37:18

ความคิดเห็นที่ 59 #56 ผจญภัยเกาะฮาเร็มล้านปี อ่ะนะครับ จากคุณ : กาลครั้งหนึ่งบนดวงดาวสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 00:55:57

ความคิดเห็นที่ 60 อ่านแล้วก็เศร้า เสียดายครับ ช่วยกันรักษาดูแลที่เหลือใว้นะ จากคุณ : โอพ่อพระ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 01:20:39

ความคิดเห็นที่ 61 แรดขนที่ #12 กับไจแอนท์กราวสล็อธ อ่ะ สุดทีนแล้ว เท่มาก ถ้าวิ่งเข้าใส่ผมนี่ ผมคนตกใจช๊อคตายก่อนมันจะวิ่งชนผมตายอีก 555+ จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 02:11:31

ความคิดเห็นที่ 62 เหยด !!!! สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสมัยก่อน ทำไมมันแปลกจังฟระ มีทั้ง นก กิ้งก่า จรเข้  ปลา  ยังงี้    -_-" สู้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสมัยปัจจุบันก็ไม่ได้ อ่ะเอาตัวอย่าง ไพรเมต ไปดู จากคุณ : ZXR เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 02:14:57

ความคิดเห็นที่ 63 เห็นบางตัวนึกถึงการ์ตูน Ice age  อ่ะ เอ่ออ นกโดโด้ เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมด้วยหราเนี่ยย จากคุณ : Khamjoy เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 02:18:46

ความคิดเห็นที่ 64 ก็รู้อยู่นะว่ามนุษย์เป็นตัวการให้สัตว์หลายชนิดสูญพันธุ์ไป แต่เพิ่งรู้ว่าบางชนิดใช้เวลาไม่ถึง 30 ปี สมเป็นสิ่งมีชีิวิตนักทำลายจริงๆ... จากคุณ : ECOS (thelegendofm) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 02:20:20

ความคิดเห็นที่ 65 ซีลาแคนท์ยังมีอยู่จริงๆนะครับ National Geographic เอามาทำเป็นสกู๊ปเลย ผมมีหนังสืออยู่ http://ngm.nationalgeographic.com/2011/03/fossil-fish/ballesta-photography จากคุณ : Kadaj17 เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 02:29:08

ความคิดเห็นที่ 66 หลายตัว ทีเดียว ที่อยู่ใน  เพชรพระอุมา นิยายสุดเลิฟของผม - Neanderthal man   วายา - Dinotherium           ส่างปา เกือบตาย - Arsinoitherium       ไชยันต์ มือฉีก  ว่าแต่ หัวข้อกระทู้ ผิดครับ หลายๆตัว ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แล้วก็น่าจะมี กูปรี ด้วย จากคุณ : juti เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 02:35:49

ความคิดเห็นที่ 67 the comment #62.... i have one of those at home....still alive... oops! จากคุณ : Peter เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 04:04:24 A:66.80.82.30 X: TicketID:326890

ความคิดเห็นที่ 68 #53 ยังมี "สมันน้อยเบอร์ 14" อยู่นะครับ   จากคุณ : ผมแอบชอบคุณ!! เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 05:05:06

ความคิดเห็นที่ 69 ฮาแต่ละคำตอบมากกว่า 555 ส่วนใหญ่ที่สูญพันธ์จะตัวใหญ่ๆ กินอาหารเยอะทั้งนั้นเลยนะเจ้า สูญพันธ์เพราะอาหารไม่พอเกินครึ่งละมั้งเนี่ย -_-' จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 06:15:28

ความคิดเห็นที่ 70 ใบหน้าของมนุษย์นีอัล ฯ  ไม่เห็นเหมือนคนเกาหลีเลยนิฮะ ก็ในเมื่อเค้าบอกอารยธรรมเริ่มต้นที่เค้า   แล้วเดินกระจายไปทั่ว อิอิอิ จากคุณ : apollo14 เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 07:47:08

ความคิดเห็นที่ 71 วิวัฒนาการย้อนกลับ "จากบกลงสู่น้ำ" Ambulocetus natans บรรพบุรุษของ "วาฬ" “Ambulocetus” = walking whale “natans” = that swims http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3296.msg76769#msg76769 จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 07:54:50

ความคิดเห็นที่ 72 ชอบครับชอบๆ จากคุณ : prg047 เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 08:16:21

ความคิดเห็นที่ 73 นกอีก๋อย ? จากคุณ : Arccyber2004 เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 08:23:37

ความคิดเห็นที่ 74 เท่ๆๆ สวยๆๆตัวใหญ่ๆๆทั้งนั้นเลย จากคุณ : nuanapa เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 08:40:19

ความคิดเห็นที่ 75 ได้เห็นสัตว์แปลกๆเยอะดีค่ะ ไม่คิดว่าจะมีในโลก ตัวใหญ่จริงๆ จากคุณ : dcapar เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 09:03:05

ความคิดเห็นที่ 76 Paraceratherium นี่ ตอนไปเจอหุ่นจำลองที่ Nature of Museum of Canada นี่ ตัวโคตรใหญ่  เรายังสูงแค่เลยเข่ามันเท่านั้น (=A=") จากคุณ : Noah_1_of_4lnw เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 10:33:11

ความคิดเห็นที่ 77 Gigantopithecus (ไจกันโทพิเธคคัส) เป็น Ape ที่ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปในทวีปเอเซียได้อย่างดี เมื่อราว ๆ 9 ล้านปีมาแล้ว และได้สูญพันธุ์ไปเมื่อประมาณ 1 ล้านปีที่ผ่านมา มีปรากฎหลักฐานครั้งสุดท้ายในประเทศจีน ค้นพบโดย  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Jack Rink อาจารย์ด้านภูมิศาสตร์และธรณีวิทยา ของมหาวิทยาลัยแม็คมาสเตอร์ (McMaster University ,Hamilton ,Ontario) มีขนาดความสูงเมื่อยืนตัวตรง ประมาณ 3 เมตร น้ำหนักประมาณ  540 กิโลกรัม http://www.vcharkarn.com/vblog/52015/2 จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 11:14:53

ความคิดเห็นที่ 78 เสียดายสัตว์ตัวใหญ่ๆ อะ ถ้าปัจจุบันยังมีอยู่ มันคงจะอลังการงานสร้าง(จากธรรมชาติ)มาก จากคุณ : กระป๋องด๋อย เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 11:25:18

ความคิดเห็นที่ 79 Andrewsarchus (แอนดรูว์ซาร์คอัส) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเท้ากีบที่มีหน้าตาคล้ายสุนัขป่าตัวใหญ่มากมีชีวิตอยู่ในยุคอีโอซีนหรือเมื่อประมาณ 45-36 ล้านปีก่อน ที่ผ่านมามีการขุดพบฟอสซิล ซึ่งสามารถหาชมได้อยู่ เช่นที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของสหรัฐเมริกาในนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นส่วนกะโหลกศีรษะพร้อมขากรรไกรบนและฟันหน้าที่ไว้สำหรับแทงทะลุเนื้อ หนังมังสาของเหยื่อที่เคราะห์ร้าย ค้นพบในปี 1923 โดยคัน ชุน เปา ในเขตทะเลทรายโกบีของมองโกเลีย ระหว่างการสำรวจที่ทางพิพิธภัณฑ์เป็นผู้สนับสนุนเอง สัตว์ชนิดนี้มีลำตัวมีขนยาวสีน้ำตาลปนเหลือง พร้อมขนกลางลำตัวตั้งแต่ส่วนหัวลงไปถึงหาง นอกจากนี้ยังมีเขี้ยวออกมาด้านนอกให้เห็นชัดเจน ส่วนกะโหลกศีรษะของมันใหญ่มาก ยาวประมาณ 83 เซนติเมตรและกว้างราว 56 เซนติเมตร ซึ่งจะคล้ายๆ กับตัว Mesonychid สัตว์นักล่าอีกชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กกว่า จากตรงนี้เองทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถคาดเดารูปลักษณ์ของมันได้ว่า มีร่างกายคล้ายสุนัขป่า เพียงแต่ตัวใหญ่กว่ามาก และมันอาจเป็นนักล่าเหยื่อบนบกใหญ่ที่สุดที่เคยรู้จักกันมาก็เป็นได้ เพราะตัวของมันวัดจากจมูกไปถึงโคนหางยาวประมาณ 12 ฟุต (3.7เมตร) ขณะที่ส่วนสูงวัดจากพื้นถึงไหล่หรือกลางหลังสูงประมาณ 6 ฟุต (1.8 เมตร) ตัวใหญ่มากๆ จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 11:28:52

ความคิดเห็นที่ 80 วัวทะเลพันธุ์สเตลเลอร์ อาจจะยังไม่สูญพันธุ์ก็ได้มั้งแค่เข้า Stealth Mode /me เผ่น จากคุณ : Thadias เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 11:35:11

ความคิดเห็นที่ 81 มนุษย์นี้ เกิดมาเพื่อล้างผลาญ โดยแท้ --" จากคุณ : เป็นเมียเราต้องอดทน เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 11:35:53

ความคิดเห็นที่ 82 #62 อันนั้นมันเลี้ยงหนุ่มด้วยนมแล้วครับ แฮ่ๆ จากคุณ : tumsd923 เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 13:38:06

ความคิดเห็นที่ 83 เพิ่งเคยเห็นหน้าตาจริงๆ ของแทสมาเนีย จากคุณ : iT_messenger เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 13:41:06

ความคิดเห็นที่ 84 โดโด้น่ารักมากก 555 ชอบ จากคุณ : kornaka เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 14:14:00

ความคิดเห็นที่ 85 แรงไปไหมหว่า!!!! จากคุณ : speedline เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 14:26:47

ความคิดเห็นที่ 86 หลังจาก เสือทัสมาเนียน สูญพันธุ์  มันก็ได้ไปเกิดใหม่ เป็นสัตว์ที่ดุร้ายกว่าเดิม ปีศาจทัสมาเนีย  (Tasmanian devil) จากคุณ : คนตรัง..ยังโสด เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 14:40:38

ความคิดเห็นที่ 87 ตัวหลังๆนี่มันชักจะยังไงๆไม่รู้แฮะ มีก๊อดซิลล่าด้วยเครดิตก็โพสจัง มันแปลกๆนะ จากคุณ : นักสืบจิ๋ว เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 14:43:53

ความคิดเห็นที่ 88 National Geographic เคยทำสกู๊ปเรื่องสัตว์ยักษ์ที่เพิ่งสูญพันธุ์ไปในไม่กี่หมื่นปีมานี้ แต่ละตัวบิ๊ก ๆ ทั้งนั้นเลยครับ จากคุณ : macenjoy เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 14:57:20

ความคิดเห็นที่ 89 ความคิดเห็นที่ 85 ช่วยหาบข้ามถนน ม้างง จากคุณ : pan2551 เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 15:08:31

ความคิดเห็นที่ 90 แนะนำลองหา Walking with Beasts มาดู http://en.wikipedia.org/wiki/Walking_with_Beasts ป.ล. Smilodon ใช้ Saber-toothed Cat http://en.wikipedia.org/wiki/Smilodon บ้านเราพบฟอสซิลเขี้ยวของพวก Saber-toothed Cat ที่จังหวัดกระบี่ด้วยครับ จากคุณ : KL เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 16:19:32

ความคิดเห็นที่ 91 #43-44 เหอ หย่ายยยยยมากกกก0___0' จากคุณ : บ่ซ้ำแล้วเน้อ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 16:28:36

ความคิดเห็นที่ 92 เอ่อ ...... ผมยังไม่สูญพันธุ์นะครับ T_T จากคุณ : สมันน้อย เบอร์ 14 เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 16:31:08

ความคิดเห็นที่ 93 จะว่าไปที่สูญพันธุ์ ไปก็ตัวใหญ่ ๆ ทั้งนั้นเลยแฮะ สงสัย จะหาอาหารกินยาก จากคุณ : sam7 (sambayman) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 16:53:24

ความคิดเห็นที่ 94 จากคุณ : ^__^ (เซ็งอูฐ) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 18:24:11

ความคิดเห็นที่ 95 ทำไมเราเห็นรูป สมันแล้วเราหดหู่อะเพื่อนๆ ยิ่งอ่าน ที่บอกว่า สมันตัวสุดท้ายถูกยิงตาย เห้ย มันหดหู่จริงๆ ก่อนหน้าที่สมันจะสูญพันธุ์ มีความพยายามจากจากชาวต่างชาติในการจับมาเพาะเลี้ยง แต่ก็ล้มเหลวเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ของไทยไม่ให้ความร่วมมือและไม่ให้ความสำคัญ เราตามไปอ่านในลิงค์ที่เพื่อนสมาชิกเม้นไว้  อนาจใจมาก เรารู้สึกเลยว่า มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ แต่บางครั้งการกระทำ บางอย่าง ไร้ซึ่งสามัญสำนึกมากกว่าสัตว์ เดรัจฉานอีก                  ห่อเหี่ยใจจริงๆ ปล โดโด้ น่ารักจางง อยากเอามาดอกซักที แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 54 20:43:11 จากคุณ : mytangmoe (punro937) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 20:39:18

ความคิดเห็นที่ 96 มีตัวที่ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมหลายตัวเ้หมือนกัน แต่ซัลาคานธ์นี่ เดี๋ยวนี้สรุปได้ว่าไม่สูญพันธุ์แล้วนิ เพียงแต่หายากมาก อยู่ในสภาวะล่อแหลม หลายๆ ตัว น่าเสียดายมากๆ ไม่น่าเลย (และถ้าคนยังเห็นแก่ได้อยู่แบบนี้ คงได้สูญพันธุ์กันอีกหลายตัวในไม่ช้านี้แหละ) จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 20:39:23

ความคิดเห็นที่ 97 #95 นอกจากสมันในธรรมชาติตัวสุดท้ายจะถูกยิงตายแล้ว สมันในที่เลี้ยงตัวสุดท้ายที่วัดเอามาเลี้ยง ยังโดนคนเมาตีตายด้วยครับ ** มาเพิ่มเติมอีกว่า สมันตัวสุดท้ายในธรรมชาติที่ถูกยิงตายนั้น จากวิกิบอกว่าถูกยิงตายโดยตำรวจครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 54 22:58:14 จากคุณ : Cold milk เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 22:13:37

ความคิดเห็นที่ 98 ขอบคุณนะ แต่อ่านไม่รู้เรื่องหว่ะ จากคุณ : dans Juillet เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 02:35:25

ความคิดเห็นที่ 99 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆคะ คห. 32 นกอีก๋อย 5555+ เราก็อยากได้คะ สีสวยมาก จากคุณ : อุดมไปด้วยความสุข เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 09:58:54

ความคิดเห็นที่ 100 #77 นึกถึง วูกกี้ ใน Starwar จากคุณ : Hoo เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 10:05:49

ความคิดเห็นที่ 101 555 ชอบนกอีก๋อย...แปะๆๆๆ จากคุณ : tus_sks เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 11:07:45

ความคิดเห็นที่ 102 ขอนอนยันอีกเสียงค่ะว่าปลาซีลาคานท์  ยังเหลืออยู่ค่ะ..หลังจากที่เข้าใจว่าสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว แต่เพิ่งมีการพบเมื่อไม่นานค่ะ จากคุณ : pass&Forward เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 11:49:47

ความคิดเห็นที่ 103 ไม่เก็ท คห.85 ใครก็ได้ช่วยไขปริศนาทีครับ จากคุณ : knine2five เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 12:03:39