ความคิดเห็นที่ 1 ไอเดีย กรม ประมงทำไว้นานละครับ ออกช่อง ไทย pbs (ก่อนเรื่องที่จะให้ท่วม นา สี่จังหวัดแล้ว สื่อบอก โดนด่าตรึม) ไอเดีย นี้น่าสนใจมากครับ ผมนั่งฟัง คือ เขื่อน แทนที่ จะเก็บ น้ำ จน รับไม่ไหว แล้วค่อยปล่อยท่วม เขื่อน ต้องเก็บน้ำให้ น้อยกว่าปกติครับ เช่น เก็บไว้เพียง 65% หรือน้อยกว่า พอน้ำมา ก็ปล่อยท่วมเลยครับ ให้ ลงหมู่บ้านไปเลย มันจะท่วมแค่ตาตุ่ม ไ่ม่มาก แต่ ถ้า ใช้วิธีปัจจุบัน คือ ต้องรอให้เต็ม เอี๊ยดๆ แล้วค่อยปล่อย(เพราะเก็บมากกว่านี้ ไม่ได้แล้ว)    แบบนี้ จะน่ากลัว คือท่วม หนักครับ ถึงหลังคาเลยก็มี  สู้ปล่อยให้ น้ำลง มาเรื่อยๆ ตามธรรมชาติ น้ำมันก็ซึมลงดินไปเอง ลดความเสียหายได้ส่วนหนึ่ง เท่าที่ผมฟังงมา แต่ไอเดียนี้ ไม่มีใครยอมครับ บอก เดี้ยวน้ำไม่พอใช้ทำนาบ้างละ ไม่ก็ ในเมื่อเก็บได้ ทำไไม่เก็บก่อน ไม่ไหวค่อยปล่อย(ไทยใช้วิธีนี้อยู่ ท่วมทีอนาจเลย) จากคุณ : lazarn เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 09:26:20

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าหยุดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหินไม่ได้ก็อย่าหวังเลย อยากสบายก็ต้องทนหนักขึ้น จากคุณ : me ae-man เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 09:30:14

ความคิดเห็นที่ 3 พวก คลอง คู ที่ตื้น เขิน  ขุดลอกให้หมด และ กว้างขึ้น ไม่ถึงกับ ไม่ท่วม แต่ จะลดลงมาก ที่ว่าน้ำท่วม เพราะ น้ำ ไม่มีที่ลง ครับ ถ้า มีคู คลอง อย่างน้อย แทนที่น้ำ จะท่วม 2 เมตร อาจจะลดลง แค่ 1 เมตร จากคุณ : เทพพิสดาร เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 09:38:41

ความคิดเห็นที่ 4 ที่น้ำปาดเป็นอุธาหรณ์อย่างดี ... ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียทุกท่าน ชื่อตำบล "น้ำไผ่" อำเภอ "น้ำปาด" ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าน้ำแรง คนก็ดันไปสร้างบ้านอยู่กันมากมาย ขวางทางน้ำ ขวางทางอย่างไร สังเกตดูสิ ก้อนหินมนๆแบบนั้น เป็นก้อนหินแบบที่อยู่ใต้น้ำเป็นพันๆปี แต่คนดันไปสร้างบ้านอยู่บนนั้น น้ำมาทีนึง จะไปเหลืออะไร สะพานสั้นๆเตี้ยๆแบบสะพานตจว.ทั่วๆไป พอมีกิ่งไม้มาติด กิ่งไม้ก็ไปไหนไม่ได้ สะสมมากเข้ามากเข้า เหนือสะพานก็กลายเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ จนสะพานพัง ก็เหมือนเขื่อนพัง ยิ่งหลายสะพานยิ่งอันตราย เพราะสะพานพังต่อกันเป็นลูกโซ่ บ้านคนจึงวินาศสันตะโรแบบนี้ไง ต้องแก้แบบสะพาน แก้ภาพรวม ก็ต้องขุดคลองลัดตรงจากสุโขทัยลงทะเล ขออนุญาตลอกของเก่า ... ขุดคลองตรง จากสุโขทัย ออกทะเล ต้นทางเล็ก ปลายทางใหญ่ มีปั๊มเร่งน้ำเป็นระยะๆ เพื่อเร่งระบายน้ำในฤดูน้ำหลาก มีประตูน้ำเป็นระยะๆ เพื่อกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ไหนๆ ทำทั้งทีแล้ว ควรทำให้ครบ ทำถนนทางด่วน ที่ฝั่งคลองด้านหนึ่ง ทำทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่ฝั่งคลองอีกด้าน ฝากช่วยเสนอรมต.คมนาคมให้ที ทำตามนี้ได้คะแนนเสียงดีกว่าถมทะเลมาก ... เคยดูสารคดี ระบบป้องกันน้ำท่วม , น้ำทะ้เลหนุนของอ่าวน้ำจืดในสิงคโปร์ เค้าใช้ปั๊มน้ำ ขนาดใบพัดเส้นผ่าศก. ๕-๖ เมตร สิบกว่าตัว ปั๊มน้ำออกนอกแนวเขื่อน ปริมาณน้ำไหลมหาศาลนัก มาทำที่เมืองไทยก็ดัดแปลงไปสิ ไม่จำเป็นต้องออกทะเลทางเดียว แตกแขนงออกไปหลายๆแนว ทุกแนวมีปั๊มส่งน้ำออกทะเล เรื่องแบบนี้มันต้องลงลึกลงไปอีกมาก ที่เราบอกเป็นแนวทางเท่านั้น จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 09:48:33

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ตัดไม้ทำลายป่า ทำให้คลองกว้างและลึกขึ้น เพิ่มปริมาณอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง และเล็ก จากคุณ : ฮูยัน เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 10:13:26

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ตัดไม้ทำลายป่าก็ช่วยได้เยอะแล้วครับ ทั้งน้ำป่าทั้งดินถล่มเกิดจากการที่ไปตัดไม้กันเยอะทำให้ไม่มีอะไรไปอุ้มหน้าดิน+ลดทอนความเร็วของกระแสน้ำ พอฝนตกหนักๆเข้าก็ไหลมาทั้งน้ำทั้งดินทั้งต้นไม้(ที่เหลือน้อยจนไม่พอจะอุ้มชั้นดินและน้ำไว้) จากคุณ : Getter_ROBO เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 10:33:08

ความคิดเห็นที่ 7 สังคมไทยในอดีต ก็อยู่กับน้ำท่วมทุกๆ ปี ทำไมบรรพบุรุษเราอยู่ได้ ผมว่าเราลืมความจริงอะไรไปบางอย่างหรือเปล่า? จากคุณ : นายสาระแน เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 11:11:11

ความคิดเห็นที่ 8 ต้องขุดเป็นอุโมงค์ครับเส้นผ่านศูนย์กลางและขนาดความยาวอุโมงค์แล้วแต่คำนวณตามปริมาณน้ำที่ต้องการเก็บไว้ ยามน้ำหลากก็ผันมาลงอุโมงค์นี้ไว้ ยามแล้งก็ปล่อยน้ำไปลงแม่น้ำเพื่อให้ทุกภาคส่วนมีน้ำใช้ โดยการส่งน้ำออกจากอุโมงค์ก็ให้เป็นไปตามแรงโน้มถ่วง วิธีนี้คิดว่าอาจใช้งบประมาณมากแต่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝนและแก้ภัยแล้งในฤดุร้อนได้ในระยะยาว ถ้าทำได้ในทุก ๆ ลุ่มน้ำผมคิดว่าแทนที่เราจะปล่อยให้น้ำฝนไหลลงทะเลไปก็นำมาใช้ในยามแล้งได้อีกและไม่เสียพื้นที่ป่าไม้มาทำเขื่อนด้วย จากคุณ : alien1200 เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 11:17:24

ความคิดเห็นที่ 9 งดส่งเสริม ชดเชย รับประกันราคา ข้าวโพดครับ เพราะการปลูกข้าวโพดเป็นต้นตอของการแผ้วถางป่า บุกรุกป่าเพื่อปลูกข้าวโพด อีกทั้งข้าวโพดยังทำให้อากาศแห้งเป็นสาเหตุของไฟป่า ไม่เชื่อลองไปดูที่จังหวัดน่านเป็นตัวอย่าง ขึ้นไปยอดดอยเห็นภูเขาหัวโล้นสุดลูกหูลูกตาปลูกข้าวโพดกัน ไม่ว่าจะชันขนาดไหนก็ถางทำไร่ข้าวโพดกันหมด จากคุณ : Mr.Sagittarius เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 11:43:23

ความคิดเห็นที่ 10 ตรงไหนที่ต่ำก็ ทำทางรถไฟ หรือ ถนน  ขนาบ แม่น้ำไปเลย ก็ ได้ เขื่อนกันน้ำไปในตัว จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 11:49:53

ความคิดเห็นที่ 11 ผมไม่เชื่อแนวคิดโรแมนติกประเภทธรรมชาติสมบูรณ์ภัยพิบัติจะไม่มี เมื่อสองสามพันปีก่อน ธรรมชาติยังสมบูรณ์อยู่ก็มีบันทึกเรื่องภัยพิบัติต่างๆ แล้วว่าเป็นเรื่องของเทพของผีถ้าบัดดีพลีถูกจะไม่พบภัยพิบัติ จากคุณ : ป้อมบ้านโป่ง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 11:50:46

ความคิดเห็นที่ 12 โครงการ1จังหวัด1บึง  หาที่ขุดอ่างเก็บน้ำจังหวัดละ1ที่ กว้าง1กม ยาว1กม ลึก300เมตร จุน้ำได้300ล้านคิว  แต่ละบึงมีคลองส่งน้ำเชื่อมไปยังบึงในจังหวัดใกล้เคียงแบบเป็นเนตเวอร์ค มีระบบคอมพิวเตอร์สั่งการเพื่อทรานเฟอร์น้ำให้เหมาะสม จากคุณ : ลิงจุ่น เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 11:52:39

ความคิดเห็นที่ 13 สร้างเมืองไว้ใต้ดินครับ ข้างบนให้น้ำอาศัยอยู่ คนอยู่ข้างล่างแทน จากคุณ : อุราฮาร่า เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 12:05:11

ความคิดเห็นที่ 14 แนนคิดแก้น้ำท้วมจากการถมทะเลทำถนนจากหัวหินไปสัตหีบมีประตูน้ำยักสามสี่แห่งเพื่อควบคุมระดับน้ำในอ่าวตัวก ผมก็ว่าน่าสนใจอยู่เหมือนกัน เพราะน้ำขึ้นน้ำลงทีระดับน้ำในทะเลจะเปลี่ยนแปลงที่เป็นเมตร และใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ด้วย จากคุณ : ป้อมบ้านโป่ง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 12:11:48

ความคิดเห็นที่ 15 ทำที่กักเก็บน้ำเยอะๆ โดยเฉพาะ ตามลุ่มแม่น้ำต่างๆ คล้ายๆ คห 12 แต่ไม่ต้องลึกถึง 300 เมตร เพราะต้องใช้เป็นโครงสร้างคอนกรีต เปลืองงบเกินไป เอาแค่ลึกซัก 20-30 เมตรก็เหลือเฟือแล้วใช้เป็นคันดินแบบมี slope หรือใช้คันหินก้อนใหญ่ที่ระเบิดภูเขามาถมทำ Slope ก็ได้ แต่ทำขนาดใหญ่หน่อย ซัก 5-10 ตร.กม. ให้มีทุกจังหวัดที่แม่น้ำไหลผ่าน และจังหวัดนึงมี ซัก 10-20 ทะเลสาบไปเลย -ขายหน้าเอาไปดินถมที่ได้ด้วย เอามาเป็นค่าใช้ง่ายในการสร้างบึง หรือ ทะเลสาบเหล่านี้  ทำประตูเปิดปิด สามารถผันน้ำได้เข้าออกได้ เวลาหน้าน้ำหลาก ก็ผันเก็บไว้ใช้หน้าแล้ง   -สามารถทำการเกษตร ประมง รอบๆบริเวณทะเลสาบเหล่านี้ -ทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่พักตากอากาศได้สบาย -ป้องกันน้ำขาดแคลนช่วงหน้าแล้ง แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 54 13:29:49 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 54 13:28:59 จากคุณ : PTom เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 13:27:12

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนนี้ผมว่า... ให้เขื่อนพร่องน้ำไปรอรับน้ำใหม่ ช่วงฝนตกหนักงดปล่อยน้ำ ขุดลอกคูคลองที่ตื้นให้ดีขึ้น... คราวนี้มาดูตัวอย่างที่บ้านผมนะ... ต.ท่าขนอน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ อยู่ท้ายเขื่อนรัชประภา ปีนี้ำน้ำท่วมตอนหน้าแล้งไปแล้ว เมื่อปลายสิงหาน้ำเกือบท่วม เมื่อสองวันที่ผ่านมาน้ำก็เกือบท่วมอีก... ถามว่าทำไม.... ผมก็ไม่เข้าใจเขื่อนนะ ว่ารู้แล้วน้ำจากคลองสกที่เป็นน้ำป่าลงมาแล้ว แต่เขื่อนยังปล่อยน้าำออกมาอีก.... ลองดูปริมาณน้ำในเขื่อน และการปล่อยน้ำในวันที่ 9-12 นะครับ จาก ิิลิงค์นี้.... http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/egat_dam.php ดูแบบกราฟก็ได้ครับ โดยคลิ๊กที่ชื่อเขื่อนแล้วก็จะเลือกได้ว่าอยากรู้อะไร จะเห็นว่าช่วงนั้นฝนตกหนักมีน้ำป่าจากคลองสก ลงมาแม่น้ำพุมดวงเยอะมาก แต่ทำไมเขื่อนยังปล่อยน้ำออกมาอีก ยังสงสัย บ้านผมเลยเจอปัญหานี้... http:ager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000116223 http://news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=447418&ch=lc1 เจอแบบนี้แล้วเซ็งครับ ปล...จะบอกว่าเก็บน้ำใว้หน้าแล้งเพราะหน้าแล้งไม่มีน้ำ แต่ก็เห็นว่าหน้าแล้งก็ยังมีน้ำ70-80 ตลอด... หรือว่าได้เวลาต้องขุดลอกแม่น้ำุพุมดวงใหม่ เพื่อให้น้ำใหลได้เร็วขึ้น.... หรือว่าผมเข้าใจอะไรผิดรบกวนอธิบายด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 54 13:29:35 จากคุณ : seto16 เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 13:27:38

ความคิดเห็นที่ 17 ที่ราบน้ำท่วนถึง สองฝั่งแม่น้ำ ยังไงน้ำก็ท่วม ภาษาธรณีเรียกว่า Flood plain ท่วมมาเป็น ล้านๆปีแล้ว ตัวอย่างชัดๆ ก็ ภาคกลางตั้งแต่ตอนบน จนถึง สมุทร ทั้งหลาย เป็นที่ราบน้ำท่วนถึง ของแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะน้ำท่วมนี้แหละ ดินแถวนี้ถึงอุดมสมบูรณ์ เพราะน้ำท่วมพาเอาตะกอนมตกทับถม คนสมัยก่อนรู้ดีว่าอยากปลูกข้าวให้งามต้อง มาปลูกแถวนี้ แต่ต้องแลกด้วยอะไร เค้าก็เลยสร้างบ้านแบบที่มันจะอยู่ได้ไม่เดือดร้อนเมื่อน้ำมา การศึกสงครามยังใช่ประโยชน์จากหน้าน้ำหลาก เพราะเค้ารู้ดีว่า ยังไงก็ท่วม พูดถึงวิธีการบรรเทา ก็หน้าจะขุดลอกคูคลองแม่น้ำลำธาร เขือนค่อยๆปล่อยน้ำอย่าให้มันมากๆ แล้วปล่อยมาที่เดียวหน้าจะผ่อนหนักให้เป็นเบาแต่ยังไงก็ท่วมน้ำมันมากมายมหาศาล ถ้าจะให้ดีหันกลับมาปลูกบ้านทรงไทยจะดีที่สุดแล้วเมื่อถึงหน้าน้ำหลากก็หยุดเพาะปลูกก่อนถ้าไม่แน่ใจว่าจะเก็บเกี่ยวทันก่อนน้ำจะมาก็พักไว้ก่อนน้ำไปค่อยปลูก จากคุณ : Fiarrytan เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 15:15:08

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าส่วนที่แก้ปัญหา ก็แก้กันไป ส่วนที่ต้องทำเพิ่มก็คือในพื้นที่ลุ่มต่ำไม่ว่าจะเป็น บางระกำ พิดโลก บางส่วนของพิจิตร นครสวรรค์ ไล่ลงมาจนถึงอ่างทอง อยุธยา ที่น้ำท่วมซ้ำซากทุกๆปี ต้องจัดโครงการปรับวิถีชีวิตต่างๆของชาวบ้านที่นั่นให้คุ้น เคยกับภาวะน้ำท่วมและเรียนรู้ที่จะอยู่กับน้ำให้ได้ (ที่จริงคนสมัยก่อนเขาคุ้นชิน และปรับวิถีชีวิตให้อยู่ร่วมกันได้) แต่คนสมัยเราพยายามจะเอาชนะธรรมชาติแต่ ผลสุดท้ายไปไม่รอด   เพราะถึงอย่างไรประชาชนในพื้นที่เหล่านี้ก็หลีกเลี่ยง ไม่พ้นเรื่องน้ำท่วมในทุกฤดูฝนอยุ่แล้ว      เปลี่ยนมุมมองของเรื่องน้ำท่วมของคนไทยจากที่มองว่าเป็นภัยภิบัติ มาเป็นเรื่อง ปกติเรื่องธรรมชาติของคนที่อาศัยอยู่ในที่ราบลุ่มต้องเจอ  เปลี่ยนแนวการนำเสนอข่าว โดยเฉพาะสื่อทีวีที่มีผลต่อการรับรุ้ของผู้คน ทุกวันนี้สื่อทีวีเน้นเหลือเกิน สัมภาษณ์คน ถูกน้ำท่วมก็พยายามโคลสที่ดวงตา เหมือนจะให้เห็นน้ำตาไหลให้ได้ (เลิกเถอะแบบนี้) เพื่อสร้างกระแสหวังความสงสารจากผู้ชม และกระแสเงินบริจาค หรือเปล่า ??????    อาจจะมองสื่อในแง่ลบไปบ้าง แต่ก็อย่าลืมว่าในอดีต กรุงศรีอยุธยารอดพ้น จากทหารพม่าได้ ส่วนหนึ่งก็มาจากน้ำเหนือที่หลากท่วมทุ่งภาคกลางนี่แหละ ความอุดมสมบูรณ์ของที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ก็เกิดขึ้นจากการพัดพาตะกอนดิน และฮิวมัสที่มากับน้ำเหนือหลากอีกนั่นแหละ จากคุณ : สันปันน้ำ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 16:21:48

ความคิดเห็นที่ 19 น้ำมันท่วมเพราะ 1 ปริมาณน้ำมาก แน่นอนน้ำไม่มากมันก็ท่วมเราไม่ได้ 2 พื้นที่เป็นที่ราบ เมื่อเทน้ำจำนวนมากลงไปยังไงมันก็ท่วมเพราะน้ำต้องการที่อยู่ วิธีแก้ สร้างบ้านเรือนแพครับ ใต้ถุนสูงพ้นน้ำหรือลอยขึ้นตามระดับน้ำได้ แล้วก็พกเรือยางไว้ใช้สอยตามบ้านเรือนทั่วไป หรืออีกทางเราสร้างบ้านไว้บนที่ดอนสูง แต่จะทำพื้นที่สูงหมดเลยไม่ได้ เพราะต้องมีพื้นที่ให้น้ำไหลด้วย ดังนั้นเราต้องวางผังว่าตรงไหนจะให้เป็นที่สูง เราก็ถมซะแล้วให้เป็นพื้นที่บ้านเรือน ตรงไหนจะให้เป็นที่น้ำไหลผ่านเราก็ปล่อยไว้เหมือนเดิมหรือขุดให้ต่ำเสมอกันให้เป็นฟลัดเวย์หรือทางน้ำผ่าน จะทำถนนเราก็ต้องวางแผนให้สูงกว่าระดับน้ำ ให้มีคลอง มีสะพานจุดที่น้ำจะใหลลอดถนนสัมพันธุ์กับพื้นที่ฟลัดเวย์ที่เราวางไว้ เวลาน้ำท่วมเราก็อาศัยในบ้านได้ บริเวณบ้านกลายสภาพเป็นเหมือนเกาะ เดินทางสัญจรได้เหมือนทางเชื่อมระหว่างเกาะ ลงไปทำประมงก็ได้ถ้ามีเครื่องมือประมง น้ำลดเราค่อยลงไปทำเกษตรปลูกพืชกันต่อไป การสร้างเขื่อนก็ช่วยได้ครับ ตรงกันน้ำเหนือเขื่อนไว้ไม่ให้ลงมาสมทบกันได้ปริมาณหนึ่ง ในปีที่น้ำไม่มากก็ช่วยเราได้ แต่ปีไหนน้ำมากจริงๆเขื่อนก็ช่วยไม่ได้ น้ำเต็มเขื่อนแล้วยังไงก็ต้องปล่อยน้ำ ก็ต้องปล่อยให้ท่วมบริเวณที่เป็นทางน้ำท่วมซึ่งตรงทางน้ำท่วมนี้ถ้าเราสร้างเป็นฝายน้ำล้นขนาดเล็ก จำนวนมากเก็บน้ำเอาไว้อาจจะสามารถช่วยให้พื้นที่ปลายน้ำรอดจากน้ำท่วมได้โดยกักน้ำเอาไว้ช่วงเวลาหนึ่ง แล้วค่อยปล่อยไปเมื่อจะทำนา จากคุณ : สไปเดอร์แมน เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 16:49:11 A:115.87.104.224 X: TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 20 เขื่อน  ถนน  และชุมชน   ไปสร้าขวางทางน้ำไหลตามธรรมชาติเอง   แล้วคุณคิดว่าจะทำอย่างไร ? จากคุณ : Sakuder เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 18:31:53

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยกับคุณ สไปเดอร์แมน ครับ จากคุณ : ป้อมบ้านโป่ง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 18:35:54

ความคิดเห็นที่ 22 แก้ปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนผู้คนได้อย่างง่ายๆ ด้วยการ ย้ายบ้านเรือนผู้คนให้ออกไปพ้นทางน้ำ จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 18:38:02

ความคิดเห็นที่ 23 โอว เป็นความคิดที่ซู๊ดยอดม๊ากมาก บ้าน นู๋แตง น่าจะขวางทางเหมือนกันนะ ลองย้ายให้ผ่อกำ เด้อ จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 21:05:31

ความคิดเห็นที่ 24 ที่บางระกำ เค้าปลูกข้าวพันธุ์เบาเก็บเกี่ยวเร็ว อยู่แล้วครับ เพราะเจอะน้ำท่วมบ่อยๆ บังเอิญปีนี้ น้ำท่วมไวไปหน่อย แต่ถ้าถามผมนะ ผมจะขุดคลองระบายน้ำ หรือจะ ขุดแม่น้ำเพิ่มครับ หน้าน้ำ ระบายลงทะเลได้เร็วขึ้นมากขึ้น แล้วยังได้พื้นที่ชลประทานเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก เราขุดทางน้ำใหม่ไปถึงไหน ระบบชลประทานก็ไปถึงนั่น ดูซิ เพิ่มช่องทางระบายน้ำลงทะเลขนาดนั้นแล้ว มันยังจะท่วมขัง หรือว่าคาทุ่งต่างๆอยู่อีกมั้ย จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 22:54:49

ความคิดเห็นที่ 25 ทำไมไม่ลองดูที่ต้นเหตุละครับ "โลกร้อน" จากคุณ : เป่า จือ หลิน (เป่า จือ หลิน) เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 12:20:45

ความคิดเห็นที่ 26 ที่น้ำท่วมเพราะน้ำไหลไม่ทันต่างหาก. ย้ำว่าเพราะน้ำไหลไม่ทัน. ขออนุญาตยกโครงการของในหลวงมาอธิบาย. โครงการแก้มลิงคือการที่มีน้ำปริมาณมากไหลมารวมกันพร้อมกัน. น้ำก็ไหลไม่ทัน. ทำให้น้ำท่วมโครงการแก้มลิงคือ. เมื่อน้ำมาเยอะๆก็ระบายไปตามพื้นที่จัดเตรียมไวรองรับ. แล้วรอให้ค่อยๆระบาย. น้ำก็จะลด. ถ้าผมพูดภาษาลิงได้. ผมจะบอกลิงว่า. คุณช่วยกลืนน้ำให้เร็วหน่อย. ก็ไม่ต้องไปอมไว้ในปาก. เกิดน้ำมากไปแก้มอาจจะปริได้. ความหมายที่ว่ากลืนน้ำให้เร็วขึ้นก็คือ. ทำให้น้ำไหลเร็วขึ้นน้ำท่วมที่นครสวรรค์. น้ำที่ท่วมจะลดได้ก็คือรอมันไหลเองออกไปสู่ทะเลที่อ่าวไทย. แล้วรอมันไหลเองเมื่อไหล่น้ำจะลดล่ะ. เราทำไมไม่หาวิธีน้ำให้น้ำออกทะเลเร็ว. ถ้าทำได้น้ำลดแน่. หรือมีคนเถียง. แล้ววิธีอะไรล่ะที่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน. ก็เรือของชาวบ้านไง. ที่คลองลัดโพธิ์. ปลายน้ำ. คุณก็ยัดเรือเข้าไปในคลองสัก. 100. ลำสิ. ไม่ใช 5. ลำ หรือ 10 ลำ. มันช่วยไม่ได้. เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ. แต่เรือเป็นร้อยเป็นพันลำมันไม่ใช่ละลายแม่น้ำแน่. ลองนึกภาพดูในใจว่าเรือสัก 100 ลำอยู่ในคลองลัดโพธิ์. ถูกยึดไว้ให้อยู่กับที่แล้วเร่งเครื่องพร้อมกันไม่ใช่ชั่วโมงหรือสองชั่วโมงแต่เป็น3-5วันต่างหาก. แล้วหลัการนี้ใช้กับทั้งแม่น้ำที่ตรงไหนสามารถทำได้. ก็ทำเหมือนกับโครงลัดโพธิ์. ทำสัก20-30จุดในแม่น้ำ1สาย. จะถามผู้อ่านถ้าลงมือทำ. น้ำจะลดไหม. อย่าตอบว่าทำไม่ได้เพราะยังไม่ลงมือทำ. จากคุณ : SD. 18 (SD 1838) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 09:28:38