แบ่งเป็น 2 กรณีนะครับ ผมเชื่อว่า การซ่อม ซ่อมแล้วมีปัญหาน่าจะจริงครับ
เพราะ ยังไงก็คนซ่อมน่าจะซ่อมเป็นลักษณะของทำแฮนด์เมดและซ่อม
แบบทำงานแบบห้องแลบ และคนซ่อมคงไม่มีโนฮาวพอจะรู้ได้ว่า ใช้ไป
แล้วจะเป็นยังไง เจอฝุ่น เจอความร้อน วิ่งในสภาพจริงมันเป็นยังไง
โดนแดด 8 ชั่วโมงจะรอดหรือไม่
ซึ่งผมเชื่อว่าของคนไทยทำก็คงไม่ได้ประสิทธิภาพจริงๆ แต่
กองทัพบกคิดจะซื้อเขาทั้งปีทั้งชาติหรือเปล่าละครับ
การซ่อมมีข้อดีคือ ทำให้เรามีโนฮาวของเราเองและเวลาเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆ
เราสามารถพึ่งตนเองได้แต่เรื่องนี้ต้องการทั้งการผลักดันและความเข้าใจจาก
ทุกฝ่ายช่วยกัน
การซื้อก็มีข้อดีคือ เราได้ของที่ใช้งานได้จริง แต่ก็จะทำให้เราไม่สามารถพึ่งพา
ตนเองได้ ต้องซื้อเขาตลอด
ผมว่าทางเลือกที่ดีที่สุดคือ ให้บริษัทที่ซ่อม กลับมาซ่อมจนกว่ามันจะใช้งานได้
ผมเชื่อว่า บริษัทที่ซ่อม เขายินดีจะซ่อมให้จนกว่ามันจะใช้งานได้ และควรให้
ฝ่ายสรรพวุธ เขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สรรพวุธเรียนรู้ Knowhow
จากบริษัทเอกชนด้วย ถ้าจะซื้อก็ควรเป็นกรณีซื้อเพื่อใช้งานจริงๆ อาจเพราะ
ความจำเป็นเร่งด่วนแต่ถ้าไม่รีบร้อนอะไร ก็ซ่อมไปเรื่อยๆ แหละครับเรียนรู้
ไปเรื่อยๆ เขาก็คงทำให้ใช้งานได้จริงๆในที่สุด แต่ก็ควรมีความต่อเนื่องด้วยนะครับ
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบบายกองทัพละครับ ว่าจะเอายังไง แต่ถ้าต้องใช้อย่างเร่งด่วน
จะซื้อมาใช้ก่อนก็ไม่ว่ากันเพราะไม่คิดว่ามีความจำเป็นจะต้องใช้อย่างเร่งด่วนนะครับ
แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 54 19:41:58
แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 54 19:39:26
แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 54 19:38:51
แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 54 19:36:35
ทบ.เต้นพิษ"ใบปลิว"ว่อน! แฉคำสั่งยกเลิกโครงการซ่อมระบบยิงรถถังไม่คุ้มค่า ให้จัดซื้อใหม่เครื่องละ10ล.
