ความคิดเห็นที่ 1 อำนาจการทำลายล้างสูงของปืน ๘๘ เกราะที่หนา ทำให้ยากต่อการถูกทำลาย(ในช่วงแรกๆ) จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 08:45:58

ความคิดเห็นที่ 2 นึกภาพ รถถังที่คุณยิงเท่าไหร่ๆ มันก็ไม่สะทกสะท้าน พอมันยิงมาโครมเดียวรถถังคุณก็ระเบิดเป็นจุลเลย มันน่ากลัวไหมละครับ ปล. รถถังรุ่นนี้ทำให้ทหารพันธมิตรจำนวนมากเกิดอาการที่เรียกว่า Tiger phobia(โรคกลัวรถถังไทเกอร์) จากคุณ : jedsada เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 09:20:49 A:203.131.208.194 X: TicketID:198675

ความคิดเห็นที่ 3 และมีชื่อเสียงอีกอย่างคือ มีเทคโนโลยีที่ซับซ้อนมากในสมัยนั้น ซ่อมยาก ใช้เวลาในการซ่อมนาน ผลิตออกมาได้น้อย เพราะต้องใช้เวลานานในการผลิต มีน้ำหนักที่มาก ไม่คล่องตัว ติดโคลนหล่ม ที่ฝรั่งเศสก็เยอะ ----เลยถูกรถถังเชอร์แมน ของอเมริการุมกินโต๊ะ บ่อยๆ ----นึกถึง T34 ของรัสเซีย งานผลิตออกมาได้หยาบมาก แต่เน้นปริมาณ ซ่อมง่าย คล่องตัว แถมมีเกราะลาดเอียงสุดล้ำในสมัยนั้น เลยไห้ T34 ไป 10 กระโหลก ฮิฮิ จากคุณ : ----เมาค้าง---- เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 09:30:35 A:58.8.130.175 X: TicketID:277990

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่เฉพาะรถถัง Tiger นะ รถถังรุ่นใหม่ๆของเยอรมัน อย่าง Leopard2 ประสิทธิภาพก็ยังยอดเยี่ยมอยู่ จากคุณ : ปีศาจร้ายในตัวผม เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 09:49:40

ความคิดเห็นที่ 5 ^ สีสัน ล่อเป้ามากๆ จากคุณ : เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการโผ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 09:53:01

ความคิดเห็นที่ 6 ***    ถ้าพูดกันเฉพาะเรื่องของประสิทธิภาพและเทคโนโลยีแล้วล่ะก็  ต้องยอมรับว่า "ไทเกอร์" และ "คิงส์ไทเกอร์"(ไทเกอร์-2) ถือเป็นรถถังหนักที่ทันสมัยและทรงอานุภาพที่สุดในโลกระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่2เลยครับ   ยิ่งถ้ามาเทียบกับรถถังฝ่ายสัมพันธมิตรในระดับคันต่อคันแล้วยังไงๆรถถังของเยอรมันก็ชนะขาดลอยครับโดยเฉพาะ "คิงส์ไทเกอร์" ที่เป็นรถถังเจ้าพลังถึงขนาดที่ว่ารถถังฝ่ายพันธมิตรยังไม่กล้าดวลเดี่ยวซึ่งหน้ากับมันเลยทีเดียว    ทั้งนี้เพราะเกราะที่หนาปึ๊กถึง7นิ้วและเครื่องยนต์ "V-12" อันทรงพลังบวกกับปืนใหญ่ขนาด "88 มม." อันน่าเกรงขามและการติดตั้งมือพิฆาตรถถัง(กระสุนทังสเตน)  ทำให้ทหารราบติด "บาซูก้า" หรือรถถังของฝ่ายสัมพันธมิตรแทบจะัไม่มีโอกาสเอาชนะมันได้เลยถ้าต้องมาดวลกันเดี่ยวๆซึ่งหน้าโดยไม่มีตัวช่วย (คิดดูว่าเอา "บาซูก้า" ยิงใส่ซึ่งหน้ายังกระดอนออกมาเลยครับ)  แต่ทว่าในความเป็นจริงของสงครามแล้วผลสำเร็จของยุทโธปกรณ์นั้นมันไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายไหนมีของดีอย่างเดียว  แต่ยังต้องวัดกันที่ความสามารถของผู้ใช้งานและจำนวนของยุทโธปกรณ์นั้นๆรวมถีงยุทธปัจจัยสนับสนุนด้วย      ซึ่งแม้เยอรมันนาซีในห้วงเวลานั้นจะขึ้นชื่อเรื่องของการมีทหารรถถังที่เก่งกาจบวกกับประจำการรถถังที่มีเทคโนโลยีสูงเป็นที่สุดในโลก(ตอนนั้น)  แต่เพราะทางกองทัพเยอรมันในช่วงปลายของสงครามได้เกิดภาวะขาดแคลนยุทธปัจจัยที่สำคัญนั่นคือ "กระสุน" และ "เชื้อเพลิง"  ดังนั้นแม้รถถัง "คิงส์ไทเกอร์" ของเยอรมันนาซีจะทรงอานุภาพแค่ไหนแต่ก็ต้องมาหยุดวิ่งเอาดื้อๆเพราะเหตุผลที่สุดแสนจะปวดร้าวกระดองใจนั่นก็คือไม่มี "น้ำมัน" จะมาเติมนั่นเอง   (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 10:13:42

ความคิดเห็นที่ 7 ***    ซ้ำร้ายจำนวนของรถถังเจ้าพลังอย่าง "ไทเกอร์" หรือ "คิงส์ไทเกอร์" ที่ผลิตออกมาในช่วงปลายสงครามนั้นช่างน้อยนิดเพียงเท่าขี้เล็บแลผงธุลีเมื่อนำมาเทียบกับรถถังของอเมริกาและโซเวียต  ที่แม้รถถังของ2เจ้านั้นจะอ่อนด้อยในเรื่องของประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับเยอรมันแต่เขาอาศัยใช้ปริมาณที่เหนือกว่าเข้าต่อกรครับ      นั่นคือแม้รถถัง "ไทเกอร์" 1คันอาจจะสามารถสยบ "เชอร์แมน" หรือ "T-34" ได้5-6คันก็จริงอยู่  แต่ไม่นานฝ่ายสัมพันธมิตรก็สามารถสร้างรถถังรุ่นที่พังออกมาได้เหมือนเดิมในจำนวนที่มากกว่าเก่าด้วยซ้ำพร้อมทั้งกระสุนและเชื้อเพลิงอย่างไม่อั้น      แต่กลับกันทางฝ่ายเยอรมันนาซีนั้นถ้ารถถัง "ไทเกอร์" ซึ่งปรกติก็แทบจะง่อยกระรอกอยู่แล้วเพราะมีกระสุนและน้ำมันจำกัดดันโดนทำลายไปซัก1คัน  โอกาสและเวลาที่พวกเยอรมันจะใช้สร้างมันขึ้นมาใหม่เพื่อทดแทนจำนวนที่สูญเสียไปในการรบนั้นช่างน้อยนิดกว่าฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างเทียบกันไม่ได้เลยครับ      เพราะในช่วงปลายสงครามนอกจากการขาดแคลนกระสุนและเชื่อเพลิงแล้วยังเกิดภาวะขาดแคลนวัตถุดิบต่างๆที่จำเป็นต่อการสงครามมากมายทั้งดินระเบิด เหล็กกล้า ถ่านหิน อาหาร ฯลฯ  จึงเป็นเรื่องยากที่เยอรมันจะสร้างรถถังมาทดแทนในจำนวนที่เสียไปได้ในเวลาอันสั้น  ทำให้สุดท้ายแล้วแม้จะมีเทคโนโลยีดีกว่าแค่ไหนแต่รถถังของเยอรมันก็ต้องมาพ่ายแพ้ต่อฝ่ายสัมพันธมิตรเพราะเหตุผลที่ผมกล่าวไปข้างต้นนั่นเองครับ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 10:15:00

ความคิดเห็นที่ 8 ***    โดยในสมัยนั้นพวกรถถังสัมพันธมิตรมักจะหลีกเลี่ยงที่จะประจัญหน้ากับไทเกอร์ครับถ้าไม่จำเป็น  แต่เขาจะอาศัยจำนวนที่มีมากกว่าเข้าตีโอบจากด้านข้างและเล่นระดมยิงทางด้านหลังซึ่งเป็นจุดที่ไทเกอร์ติดเกราะบางที่สุด  หรือมิฉะนั้นก็จะอาศัยการที่ฝ่ายสัมพันธมิตรครองน่านฟ้าได้แล้วเรียกกำลังทางอากาศมาสนับสนุน      ซึ่งเรื่องการถูกโจมตีทางอากาศนี้นับเป็นข้อเสียเปรียบสุดๆของกองทัพเยอรมันในช่วงปลายสงครามเลยครับ  เพราะทัพอากาศเยอรมันส่วนใหญ่แทบจะพินาศไปกว่า70เปอร์เซ็นต์แล้ว  ทำให้ไม่สามารถทุ่มกำลังยานเกราะหนักจำนวนมากในพื้นที่เปิดโล่งได้เพราะพวกสัมพันธมิตรคุมน่านฟ้าอยู่      ส่วนพวกทหารราบนั้นถ้าจะเล่นงานไทเกอร์ก็จะใช้วิธีวางกับระเบิดรถถังจำพวกทุ่นระเบิดจาน  ใช้เครื่องพ่นไฟเพื่อย่างสดทหารด้านในรถถัง  หรือไม่ก็ใช้ "ระเบิดแม่เหล็ก" และระเบิดแสวงเครื่องเพื่อทำลายสายพานและเกราะของตัวรถถังครับ      แต่กรณีของการรับมือกับ "ระเบิดแม่เหล็ก" นั้นในช่วงปลายสงครามกองทัพเยอรมันได้คิดค้นเทคโนโลยี "Zimmerit" หรือการออกแบบผิวรถถังให้มีสภาพเป็นลายขรุขระเพื่อป้องกันทหารข้าศึกเอาระเบิดแม่เหล็กมาแปะที่ตัวรถได้  โดยผิวที่ขรุขระนี้จะทำให้ระเบิดแม่เหล็กของทหารราบไม่สามารถยึดติดกับตัวรถถังได้ครับ **รูปภาพรถถังของ "เยอรมันนาซี" ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่2  ซึ่งใช้เทคโนโลยี "Zimmerit" บนแผ่นเกราะส่วนต่างๆเพื่อป้องกัน "ระเบิดแม่เหล็ก" ของบรรดาทหารราบครับ** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 10:16:37

ความคิดเห็นที่ 9 ว่ากันว่าถ้าเยอมันเน้นไปผลิตรถถัง Panther แทนรถถัง Tiger ล่ะก็ผลการรบภาคพื้น ดินคงไม่วายวอดและสิ้นเปลืองทรัพยากรขนาดนี้  แต่ก็คงเอางบไปวิจัยอาวุธแปลกๆ หมดอยู่ดี อันนี้เป็นราคารถถังของเยอรมันไม่รวมอาวุธจะเห็นได้ว่า Panther แพงกว่า Panzer 4 ไม่เท่าไรแต่ประสิทธิภาพดีกว่ามาก ถ้าปรับปรุงเครื่องยนต์กับช่วงล่างก็น่าจะเป็นรถถังที่ดีกว่า Tiger อีก Panther tank 117,100 Reichmarks StuG III  82,500 Reichmarks Panzer III  96,163 Reichmarks Panzer IV  103,462 Reichmarks Tiger I  250,800 Reichmarks รูปรถถัง Panther แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 54 11:26:41 จากคุณ : aonesung เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 11:25:30

ความคิดเห็นที่ 10 อันนี้กระสุนรถถังแบบต่าง ๆ ของเยอรมัน (ซ้าย) เทียบกับอังกฤษ (ขวา) แค่กระสุนขนาด 75 mm  (7.5 Cm) ของเยอรมันก็สอยรถถังได้แทบจะทุกรุ่นในยุคนั้นแล้ว ยิ่งขนาด 88 mm ยิ่งแล้วใหญ่ ปืนใหญ่ของ Tiger สามารถหยุดรถถังฝ่ายตรงข้ามได้ที่ระยะ 4 km เลยทีเดียว จากคุณ : aonesung เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 11:33:07

ความคิดเห็นที่ 11 ... อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Tiger Tank มีชื่อเสียงและมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น เพราะมันถูกออกแบบ และสรรสร้างขึ้นมาโดย...Ferdinand Porsche ...คนเดียวกับที่ออกแบบ Volkswagen Beetle จากคุณ : First In, Last Out เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 12:39:21

ความคิดเห็นที่ 12 แบบนี้ต้อง company of hero กันซักยก จากคุณ : EvaNe เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 13:04:32

ความคิดเห็นที่ 13 มันถึกครับ และปืน 88 ของมันในสมัยนั้นโคตรน่ากลัว จากคุณ : ปลาวัวตัวอวบอัด เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 14:03:12

ความคิดเห็นที่ 14 #11 ผมเข้าใจว่าตัวถังของ Tiger ที่ผลิตมาใช้เป็นของ Henschel นะครับ ของ Porsche แพ้การแข่งขัน ส่วน ป้อมปืนผลิตโดย Krupp เหตุผลที่ Henschel ได้รับคัดเลือก เป็นเพราะการเดินทางในพื้นที่วิบากทำได้ดีกว่า แต่ข้อเสียคือ เครื่องยนต์ที่ร้อนจัด Porsche นั้นทำความเร็วได้ดี แต่เลี้ยวช้า ถ้ามีเวลาพัฒนาต่ออีกหน่อยใช้เครื่องยนต์ ที่ไว้ใจได้กว่านี้น่าจะเป็นรถถังที่ดีกว่าเดิมมาก --------------------------------------------------------------------------------------- #12 Company of Heroes ผมก็เล่นครับ เป็น Blitzkrieg Mod 3.1 เอามา Mod เพิ่ม ด้วย Corsix ผลที่ได้ก็เล่นมันส์ขึ้นโขเลยครับ แก้ทุกฝ่ายไม่มีใครได้เปรียบ แต่ผมชอบเล่นเยอรมันเพราะชอบรถถังนี่แหละ แต่กว่าจะสร้างออกมาได้แพ้ก่อน เกือบทุกตา เพราะอเมริกา กับ อังกฤษสร้างได้เร็วและเยอะกว่า นี่ภาพตัวอย่าง รถถัง Tiger ที่ผม Mod ใหม่ครับ เปลี่ยนระบบกระสุน และเพิ่มสกิลอื่นๆ และ สร้างได้ไม่จำกัดจำนวนตราบเท่าที่มีทรัพยากร แต่อย่างว่า มันแพงก็เป็นการ จำกัดไปในตัว ใช้เวลาแก้อยู่ร่วมเดือน กว่าจะครบทุกฝ่าย    -*- จากคุณ : GOLFGTC เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 14:18:45

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ มานั่งทบทวนดู....ถูกต้องคามที่คุณ GOLFGTC บอกทุกประการเลยครับ ดู History channel ตอนนี้อยู่เหมือนกัน...แต่เผอิญจำรายละเอียดไม่ได้ ...ขอบคุณมากครับ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 54 16:53:20 จากคุณ : First In, Last Out เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 16:51:07

ความคิดเห็นที่ 16 #6    ถึงว่าทำว่าทำไมฮิตเลอร์ถึงต้องยืมตังค์ทักษิณ...กองทัพของฮิตเลอร์นำมันหมดนี่เอง   http://www.youtube.com/watch?v=qGpRWuUdrzg   แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 54 12:29:21 จากคุณ : ฟ้าไม่ค่อยใส เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 12:28:04