ความคิดเห็นที่ 1 งั้นขอเสนอ  การคำนวณมุมเงยของหน้าคนแอบดูกางเกงในผู้หญิงที่อยู่ขั้นบันไดที่สูงกว่าครับ มีตัวแปรเป็นความยาวกระโปรง+ความสูงของขั้นบันได+ความสูงคนมอง ทำเป็นสูตรสมการเดียว เพื่อหามุมเงยของหน้าคนมองครับ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 54 18:45:29 จากคุณ : หัวโตนะ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 18:44:49

ความคิดเห็นที่ 2 วงล้อของอริสโตเติ้ล วงล้อที่มีวงกลม2วงเป็นจุดศูนย์กลางร่วมกัน ถ้าเริ่มต้นวงล้ออยู่ที่จุดA แล้วกลิ้งโดยไม่ไถลไปทางขวาจนครบ1รอบพอดีที่จุดB เราสามารถกล่าวได้ว่าระยะห่างระหว่างจุดAกับจุดBคือความยาวเส้นรอบวงของวงกลมวงใหญ่ แต่ลองมองดูวงกลมวงเล็กบ้าง  ทันทีที่วงกลมวงใหญ่กลิ้งครบ1รอบ  วงกลมวงเล็กก็กลิ้งครบ1รอบพอดีเช่นเดียวกัน (เพราะตอนวงใหญ่กลิ้งวงเล็กก็กลิ้งไปพร้อมๆกัน) แล้วทำไมเราถึงไม่สามารถกล่าวได้ว่าระยะห่างระหว่างจุดAกับจุดBคือความยาวเส้นรอบวงของวงกลมวงเล็ก ???? แบบนี้พอได้ไหมครับ จากคุณ : อิอิคุง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 19:07:17

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่รู้จะน่าทึ่งพอหรือเปล่านะครับ จานดาวเทียม ต้องออกแบบให้ผิวจานมีลักษณะเป็นพาราโบลอยด์วงกลม (circular paraboloid) เพื่อให้คลื่นที่สะท้อนจากจานไปรวมกันที่ตำแหน่งโฟกัส ซึ่งจะตั้งตัวรับสัญญาณเอาไว้ ทำให้สัญญาณที่ได้รับชัดที่สุด http://en.wikipedia.org/wiki/Parabolic_reflector จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 19:21:32

ความคิดเห็นที่ 4 อิอิคุง.....ผมอยากรู้จังเลยครับ ว่าทำไม ? จากคุณ : Axiom of Choice เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 19:25:50

ความคิดเห็นที่ 5 ระยะแค่ไม่กี่ cm แต่เรากลับเลียข้อศอกไม่ถึง จากคุณ : psybuster เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 19:31:18

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ตัดแขนออกมาเลย  ทีนี้จะเลียยังไงก็ตามสบาย 55 จากคุณ : หัวโตนะ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 19:33:02

ความคิดเห็นที่ 7 นั่งคิดเรื่องวงกลมอยู่ กับดักน่าจะอยู่ที่ประโยคนี้อ่ะครับ "เพราะตอนวงใหญ่กลิ้งวงเล็กก็กลิ้งไปพร้อมๆกัน" มันไม่ได้กลิ้งไปพร้อมกัน แต่มันถึอว่าเป็นชิ้นเดียวกัน ดังนั้นเวลาหมุนจำนวนรอบต้องเท่ากัน แต่ระยะการเคลื่อนที่ก็วัดจากวงที่สัมผัสกับพื้น จากคุณ : psybuster เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 19:36:49

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ถ้ามันถือว่าเป็นชิ้นเดียวกัน  ก็ยิ่งต้อง"กลิ้งไปพร้อมๆกัน"เข้าไปใหญ่สิครับ เวลาที่วงล้อนี้กลิ้ง ถ้าสมมติว่าวงกลมวงใหญ่มันล่องหนได้ ภาพที่เราจะเห็นก็คือวงกลมวงเล็กกลิ้งไป1รอบพอดีไม่ขาดไม่เกิน แต่ระยะทางที่มันกลิ้งกลับมากกว่าเส้นรอบวงของมัน   น่าแปลกไหมครับ! แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 54 19:55:30 จากคุณ : อิอิคุง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 19:51:52

ความคิดเห็นที่ 9 คห. 1 เอ่อ มันมีจริงๆ นะคับ ผมเคยเห็นแว้บๆ เป็นหนังสือญี่ปุ่นด้วย เป๊ะเชียวแหละ มีการแทนค่าให้เสร็จสรรพเป็นตารางเลยด้วยว่าต้องเงยเท่าไหร่ อิอิ คห. 2 Hint: ขนาดของ "เซตอนันต์" คืออะไร? จากคุณ : ชโรนนท์ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 19:58:13

ความคิดเห็นที่ 10 ลืมตอบคำถามของน้อง ผมว่า Proof without word ก็น่าจะเวิรก์นะคับ พวกที่ว่าใช้แค่รูปๆ เดียวพิสูจน์สมการได้เลย อย่างอันนี้พิสูจน์ว่าผลบวกของเลขคี่เรียงกันเป็นกำลังสองสมบูรณ์เสมอคับ จากคุณ : ชโรนนท์ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 20:11:59

ความคิดเห็นที่ 11 ความลับของดอกเบี้ยทบต้น.... สมมุติว่า คุณฝากเงิน 1.00 บาท ธนาคารให้ดอกเบี้ย 100 เปอร์เซ็นต์ต่อปี พอสิ้นปีคุณจะได้เงินมากถึงสองเท่า แต่ถ้าเกิดธนาคารคิดดอกเบี้ยให้ทุกๆ 6 เดือน ก็ยิ่งดีใหญ่ เพราะ 6 เดือนแรกจะได้เงินมา 50 % ของเงินลงทุน ซึ่งเงินนี้จะนำไปรวมกับเงินต้นเพื่อคิดดอกเบี้ยตอนสิ้นปี และพอสิ้นปีเงินรวมที่ได้ก็จะเป็น 2.25 บาท แต่ถ้าคิดดอกเบี้ยให้ ปีละ 3 ครั้งหละ คุณก็จะได้เงินรวม 2.44 บาท  ถ้าดอกเบี้ยทบต้นคำนวณปีละ 8 ครั้ง เราก็จะได้เงินรวม 2.57 บาท ในกรณีอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าธนาคารใจดีเกินเหตุ ให้ดอกเบี้ยทบต้น 100 เปอร์เซ็นต์ และคิดดอกเบี้ยให้ทุกวัน หรือตลอกเวลา ...5555+ " คุณก็จะรวยไม่สิ้นสุด " เมื่อสิ้นปี ..... หรือเปล่า ? คำตอบคือ ไม่ใช่เลย ไม่ว่าธนาคารจะคิดดอกเบี้ยให้กี่ครั้ง คุณจะได้เงินสะสมทั้งปีไม่เกิน e บาท หรือ e = 2.71828183... บาท ไม่มากไปกว่านี้ จากคุณ : Axiom of Choice เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 20:20:11

ความคิดเห็นที่ 12 โอ้ว ขอบคุณทุกคนนะคะ กำลังจูนสมองตัวเองอยู่สำหรับโพสของ อิอิคุง ค่ะ ชักสนุกขึ้นมาซะแล้ว ! :) จากคุณ : มนุษย์ต้นไม้ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 20:21:33

ความคิดเห็นที่ 13 มีเมืองอยู่ 4 เมืองคือ เมือง A B C และD อยู่บนพื้นราบในลักษณะสี่เหลี่ยมจตุรัส โดยที่: เมือง A อยู่ทางตะวันตกของเมือง B และห่างจากเมือง B 100 กิโลเมตร เมือง B อยู่อยู่ทางเหนือของเมือง D ห่างจากเมือง D 100 กิโลเมตร เมือง C อยู่อยู่ทางใต้ของเมือง A ห่างจากเมือง A 100 กิโลเมตร เมือง D อยู่ทางตะวันออกของเมือง C และห่างจากเมือง C 100 กิโลเมตร ถ้าต้องการสร้างถนนที่ทำให้คนในเมืองทั้ง4สามารถเดินทางไปมาหาสู่กับเมืองอื่นๆได้ทุกเมือง โดยไม่สนใจว่า การเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองจะต้องผ่านเมืองอื่นๆ หรือไม่ ขอแค่มีถนนไปได้ทุกเมืองเป็นพอ แต่ว่า ค่าใช้จ่ายในการทำถนนนั้นคิดตามระยะทาง   ฉะนั้น ถ้าสร้างถนนจากเมือง A ไปเมือง B , เมือง B ไปเมือง D และเมือง D ไปเมือง C ถนนจะมีระยะทาง 100 + 100 + 100 = 300 กิโลเมตร ซึ่งคิดเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงอยู่ คำถามคือ จะสร้างถนนยังไง ให้เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด (ระยะทางสั้นที่สุด) และระยะทางของถนนที่ได้เป็นเท่าไร? เชื่อไหมครับว่าคำตอบนั้นมีค่าน้อยกว่า 282กิโลเมตร จากคุณ : อิอิคุง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 20:22:48

ความคิดเห็นที่ 14 #2   วงล้อใหญ่ และ วงล้อเล็ก มีความเร็วเชิงมุมเท่ากัน = w rad/sec แต่วงล้อเล็ก มีรัศมีน้อยกว่า (r1<r2) ดังนั้น วงล้อเล้กจะมีความเร็วเชิงเส้นน้อยกว่า v1<v2, v=w*r m/s จาก s=v*t,  จะได้ว่า ระยะทางล้อเล็ก จะ น้อยกว่าล้อใหญ่ จากคุณ : yariv_80 เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 20:34:10

ความคิดเห็นที่ 15 ...ทำไม ? จาก คห 2 (สำหรับคนที่รู้คำตอบแล้ว) และ คห 14 ....ทำให้ได้ข้อสรุปว่า ....ไม่ว่าจะคณิตศาสตร์หรือฟิสิกส์ ทำไมเราถึงเชื่อสามัญสำนึกปกติของเราไม่ได้ ทำไม เราต้องใช้สัญลักษณ์และสมการในการทำความเข้าใจสรรพสิ่ง ? จากคุณ : Axiom of Choice เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 20:46:28

ความคิดเห็นที่ 16 #14  จากการคิดคำนวณ ไม่ว่าในแง่มุมไหนก็ย่อมได้ข้อสรุปว่า " ระยะทางล้อเล็ก จะ น้อยกว่าล้อใหญ่ " อยู่แล้วครับ การคำนวณในแง่อัตราเร็วเชิงมุมที่คุณแสดงมาก็เช่นเดียวกัน คุณได้ข้อสรุปว่า " ระยะทางล้อเล็ก จะ น้อยกว่าล้อใหญ่ " นั่นสิครับคุณได้ว่า  " ระยะทางล้อเล็ก จะ น้อยกว่าล้อใหญ่ "   แต่ทำไมภาพที่เราเห็นกลับกลายเป็นว่าระยะทางทั้งสองมันถึงเท่ากันไปได้ล่ะ??? สิ่งที่ทำให้ปัญหาข้อนี้น่าสงสัยไม่ใช่ระยะทางของล้อเล็กที่ได้จากการคำนวณ แต่เป็น ความขัดแย้งกันระหว่างสิ่งที่คำนวณได้ กับสิ่งที่เรามองเห็น ต่างหาก  @_@ จากคุณ : อิอิคุง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 20:54:17

ความคิดเห็นที่ 17 #2 วงกลมทั้งสองกลิ้งไปครบหนึ่งรอบใช้เวลาเท่ากัน แต่ความเร็วในการหมุนไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น นาย ก วิ่ง 100 เมตร นาย ข วิ่ง 200 เมตร หากทั้งสองเริ่มวิ่งพร้อมกัน และต้องให้ถึงปลายทางพร้อมกัน นาย ข ต้องวิ่งให้เร็วกว่านาย ก 2 เท่า จากคุณ : หนุ่ม (Noum NaMon) เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 20:54:21

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ต้องแก้ เป็นความเร็วเชิงเส้นตาม # 14 จากคุณ : หนุ่ม (Noum NaMon) เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 21:00:00

ความคิดเห็นที่ 19 ปัญหาของ คห 13 ....น่าสนใจนะครับ เป็นปัญหาที่ที่สามารถอธิบายคำตอบ ได้หลายรูปแบบ และสามารถแทรกความรู้ได้หลากหลาย ทั้งทฤษฎีกราฟ ทฤษฎีปิทากอรัส เรขาคณิตเรื่องอื่นๆ(ความรู้ไม่เกิน ม ปลาย ) หรือแม้แต่ความรู้ด้านฟิสิกส์ พวกแรงตึงผิว รูปทรง และอื่นๆมากมาย จากคุณ : Axiom of Choice เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 21:17:05

ความคิดเห็นที่ 20 #2 ใครยังงงให้ลองคิดอย่างนี้ครับ ลองคิดให้วงใหญ่เป็นยางรถ วงเล็กเป็นเหรียญบาท ยางรถกลิ้งบนพื้นหนึ่งรอบได้ระยะทาง สมมุติว่า 1 เมตร เท่ากับเส้นรอบวงยางรถ แต่เหรียญกลิ้งหนึ่งรอบได้ระยะทาง สมมุติว่า 5 ซม. เท่ากับเส้นรอบวงเหรียญ ทีนี้เอาเหรียญมาแปะบนยางแล้วกลิ้งหนึ่งรอบได้ระยะ 1 เมตรเท่าเดิม (แน่สิยางเดิม) สรุปว่าเส้นรอบวงยางรถคือ 1 เมตร แล้วทำไมเหรียญก็กลิ้ง 1 รอบเท่ากันนี่นา ทำไมสรุปไม่ได้ว่า เส้นรอบวง 1 เมตร เหมือนกัน . . . เหลือสิ่งที่เป็นไปได้อย่างเดียวคือเหรียญไถลอยู่นั่นเอง มันกลิ้งหนึ่งรอบ แต่กลิ้งแบบไถลไปด้วย คือถ้ามีพื้นอีกระดับนึงให้เหรียญวางได้พอดี เมื่อล้อกลิ้ง เหรียญก็กลิ้งด้วยแต่จะกลิ้งแบบครืด ๆ ฝืน ๆ พอครบหนึ่งรอบล้อรถ เหรียญก็จะเป็นรอยถลอกไปหมด จากคุณ : hellmoon เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 21:59:32

ความคิดเห็นที่ 21 คห 13 ระยะทางสั้นสุดก็คือ ต้องพยายามทำให้มีถนนร่วมกันมากที่สุด แต่เมื่อรวมแล้วไม่ยาวกว่าเส้นทแยงมุม ดังรูป A             B  *         *    *    *       *  x เมตร       *       *     *   *   *         * C              D ถ้าสมมติให้เส้นทางที่ใช้ร่วมกันตรงกลาง ยาว x เมตร และถนนทั้งหมดยาวรวม y เมตร จะได้ y = 4sqrt(50^2 + (50-x/2)^2) + x จากนั้นก็คงต้องใช้แคลคูลัสคำนวณเอาว่า x ต้องเท่าใด จึงได้ y น้อยที่สุด แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 54 22:30:18 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 22:26:05

ความคิดเห็นที่ 22 คิดดอกเบี้ยปีละ 1 ครั้ง ได้เงินรวม = 1*2 บ. = 2 บ. คิดดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้ง ได้เงินรวม = 1*1.5*1.5 = 2.25 บ. คิดดอกเบี้ยปีละ 3 ครั้ง ได้เงินรวม = 1*1.33*1.33*1.33 = 2.3526 บ. คิดดอกเบี้ยปีละ 4 ครั้ง ได้เงินรวม = 1*1.25*1.25*1.25*1.25 = 2.4414 บ. คิดดอกเบี้ยปีละ 5 ครั้ง ได้เงินรวม = 1*1.2*1.2*1.2*1.2*1.2 = 2.4883 บ. คิดดอกเบี้ยปีละ 6 ครั้ง ได้เงินรวม = 1*1.167*1.167*1.167*1.167*1.167*1.167 = 2.526 บ. คิดดอกเบี้ยปีละ 8 ครั้ง ได้เงินรวม = 1*1.125*1.125*1.125*1.125*1.125*1.125*1.125*1.125 = 2.5658 บ. จะได้ว่า เงินรวมของการคิดดอกเบี้ยปีละ n ครั้ง; a(n)=(1+1/n)^n เมื่อ  n--->infinity  จะได้ว่า a(n) = e จากคุณ : yariv_80 เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 23:22:43

ความคิดเห็นที่ 23 ว้า มีคนตัดหน้าไปซะและ คิดเหมือนคุณ Hell Moon เลยครับ ว่าล้อเล็กมันไม่ได้แค่กลิ้ง แต่มันมีไถลเพิ่มเข้าไปด้วย จากคุณ : สมองเล็ก เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 54 14:43:33 A:58.8.39.8 X: TicketID:329856

ความคิดเห็นที่ 24 #13 50(รูท2)π + 200 - 100(รูท2) = 280.72xxxx ไม่แน่ใจว่า มันต่ำกว่านี้ได้อีกไหมครับ ปล ใส่ พวก เครื่องหมาย math ยังไงกันเหรอครับ  ผมมือใหม่ -..- ส่วนล้อ วงเล็กใหญ่นั้น มันไถลแบบเนียนๆ ครับ จากคุณ : อัศวินเขียว เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 54 15:55:35

ความคิดเห็นที่ 25 ลองสานต่อ idea ของ ท่าน เกียรตินำ จากรูป ได้ความยาวของถนนรวมกัน ประมาณ 273 km ครับ จากคุณ : TIYHz เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 54 16:09:16

ความคิดเห็นที่ 26 ช่วย คุณ TIYHz อีกแรงหนึ่งครับ ได้ระยะทางสั้นที่สุด 100 + 100sqrt(3) ~ 273.2051 กม. ครับ จากคุณ : Tiggy-ข้าวหอม เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 54 16:36:50

ความคิดเห็นที่ 27 โอย มึน -..- แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 54 16:39:43 จากคุณ : อัศวินเขียว เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 54 16:36:53

ความคิดเห็นที่ 28 .... แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 54 17:09:43 จากคุณ : j_thun เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 54 17:07:10

ความคิดเห็นที่ 29 . แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 54 17:22:04 จากคุณ : j_thun เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 54 17:10:41

ความคิดเห็นที่ 30 หนูขอเสนออันนี้นะเจ้าคะ ทรงกลมรูปกรวยวิ่งขึ้นที่สูงได้เอง จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 54 17:45:08

ความคิดเห็นที่ 31 จากความเห็น 25,26 เราจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าสั้นที่สุดครับ จากคุณ : Axiom of Choice เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 54 17:48:37

ความคิดเห็นที่ 32 รูปไม่ชัด เอาใหม่ๆ แผ่นไม้ราบขึ้นที่สูงนั้น ปลายด้านหลังต้องถ่างออกจากกันเล็กน้อย เพื่อให้ความสูงเฉลี่ยของความสูงตามแนวกึ่งกลางทรงกลมกรวยตันนั้นลดลง มันจึงแลดูเหมือนวิ่งขึ้นที่สูงได้ (แต่จริงๆมันกำลังวิ่งลงที่ต่ำตามปกติต่างหาก) จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 54 17:54:00

ความคิดเห็นที่ 33 อยากเห็นเป็นคลิปจังเลยครับ จินตนการไม่ค่อยเก่ง จากคุณ : นิว ชะลาล่า เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 00:12:16

ความคิดเห็นที่ 34 คห 33 ... ลองดูคลิปนี้ก็แล้วกันครับ จากคุณ : Tiggy-ข้าวหอม เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 01:10:35

ความคิดเห็นที่ 35 ค่า pi 3.14159 26535 89793 23846 26433 83279 50288 41971 69399 37510 . . . . . -สมัยนี้มีเครื่องคิดเลขใช้คำนวณ แต่สมัยก่อนไม่มี(หรือมีก็ไม่ดีนัก) ถ้าวิศวกรจะใช้ค่า pi คำนวณในการก่อสร้างเขาจะใช้ค่าอะไรแทน ถ้าไม่ใช้ 3.14159 26535 897 . . (ทศนิยมตามหลังสัก 20-30 ตำแหน่ง)  ใช้ 22/7 เหรอ?? -มีเศษส่วนที่ที่ดีกว่า 22/7  เป็นเลขจำนวนไม่มากนัก และไม่ยากเกินคำนวณ ทำไมไม่เอามาใช้กัน (ใช้ในบทเรียนก็ได้)   คงต้องเล่าจากหลังมาหน้า 22/7 = 3.142857142857. . . . .     ส่วนเลขที่ดีกว่าคือ  355/113 = 3.14159292  (ทศนิยมตรงกันถึง 6 หลัก) ** 335/113 ผมนั่งคิดขึ้นมาราว 3-4 ปี แล้ว เมื่อกี๊ดูข้อมูลพบว่ามีคนคิดและยอมรับเลขนี้กันตั้งนานแล้วเหมือนกัน ** แป่ว!! (ค.ศ. 480 จูฉงจือได้คำนวณค่าประมาณของ Pi เท่ากับ 355/113 อยู่ระหว่าง 3.1415926 กับ 3.1415927 ซึ่งเป็นค่าที่ใกล้เคียงกับค่าพายอย่างมาก (ถูกต้องจนถึงทศนิยมที่ 6) กว่าที่จะมีผู้สามารถคำนวณได้ละเอียดกว่านี้ก็ต้องรอจนถึง ค.ศ. 1400) ข้อแรก เอา 22/7  กับ  355/113  มาเทียบในการคำนวณ เช่น สร้างสนามกีฬาเป็นวงกลม รัศมี 100 เมตร  เส้นรอบวงจะเท่ากับ 2 x 22/7 x 100        = 628.57143 เมตร โดยประมาณ   2 x 355/113 x 100   = 628.31858 เมตร โดยประมาณ แค่รัศมี 100 เมตร ยังมีระยะที่ต่างกันราว 26 เซนติเมตร น้องม๋าลอดเข้าไปวิ่งเล่นในสนามกีฬาได้สบายๆ ถ้าสิ่งก่อสร้างมีขนาดใหญ่กว่านี้จะมีความคลาดเคลื่อนแค่ไหน ในแง่ของการก่อสร้างขนาดที่เปลี่ยนไป หมายถึงค่าวัสดุที่เพิ่มขึ้น แต่ 22/7 มันได้ค่ามากกว่าความเป็นจริง ของไม่พอดีมีวัสดุเหลือ คิดตังค์กับคนจ้างแล้ว อุ อุ เพิ่มๆ ผมว่า 355/113 ไม่ยากเกินเด็ก ม.ต้น คำนวณนะ น่าจะเอามาใช้แทน 22/7 ได้แล้ว แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 54 01:41:09 จากคุณ : DARKSNIPER เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 01:39:39