ความคิดเห็นที่ 1 ---ประเด็นแรก ที่ผมจะพูดถึง คือเรื่องว่า J20 เป็นเครื่องบินแบบไหน หลายคนบอกว่ามันใหญ่เกินกว่าจะเป็นเครื่องบินขับไล่ หลายคนคิดว่าเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดไปเลย หลายคนคิดว่าเป็นFighter-Bomber อย่าง JH7A หรือเป็น Multirole Fighter Aircraftอย่างJ10A/B,J11A/B/BS หรือเป็นSuperiority Fighter Aircraft อย่างSu-27SK/UBK เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนตัวผมคิดว่า-เครื่องบินทิ้งระเบิด ตัดไปได้เลย -Fighter-Bomber ล่ะ เป็นไปได้ไหม มาลองดูกัน ถ้าPLAAF and PLAN ใช้ Fighter-Bomber อย่าง JH7A   สำหรับภารกิจขับไล่โจมตี J20 ถ้าจะเป็นเครื่องบินประเภทเดียวกัน ก็คงต้องใช้อาวุธ หรือ PLAAF and PLAN   ก็ต้องพัฒนาอาวุธชนิดใหม่ๆ มาใช้กับ J20 โดยเฉพาะ ซึ่งมาลองดูกันต่อว่า J20 จะใช้อาวุธในภารกิจ Fighter-Bomber โดยการเปรียบเทียบกับช่องเก็บ(weapons bay ) ของ J20 จะเห็นว่า มี 3 ช่อง 2ช่อง เป็นช่องเก็บขนาดเล็กอยู่ด้านข้าง   ซึ่งดูจากมิติขนาด น่ะจะใช้เก็บshort range air-to-air missiles   ส่วนช่องใหญ่ตรงกลาง น่าจะใช้เก็บlarger AAMs ซึ่งเป็น BVR Medium Range Missile โดยปรับปรุงจาก PL12 ให้ครีบท้ายเล็กกว่าเดิมเรียกว่า  PL-12C ตามรูปที 1และ  PL12D ซึ่งใช้เครื่องยนต์ramjet เพื่อให้พิสัยไกลขึ้นโดยทั้ง2ตัวพัฒนาโดยChina Leihua Electronic Technology Research Institute (LETRI) เพื่อแข่งขันกับ PL 21 ULTRA-LONG-RANGE AAM เปรียบเทียบpl12 รุ่นมาตรฐาน ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ AIM120c โดย pl12 รุ่นมาตรฐาน มีทั้งactive and passive double guided mode http://wareye.com/china-j-20-fighter-maybe-equip-pl-21d-long-range-air-to-air-missiles เกี่ยวกับ pl-1x และ PL 21 http://www.defence.pk/forums/china-defence/118659-chinese-version-aim-120d-amraam.htmlเกี่ยวกับ pl-1x และ PL 21 http://www.youtube.com/watch?v=G-fE8pJMoB4&feature=player_embedded เปิด weapons bay air-to-air missiles ที่อยู่ระหว่างพัฒนายังมีอีกรุ่น ใช้รหัสเรียกว่า pl-1x โดยให้มีสมรรถนะเทียบได้กับAIM-120D    โดยปรับปรุ ง guidance system ประกอบด้วยduplex datalink and new active/passive dual mode seeker with enhanced ECCM capability พิสัยไกล 100km++ และอาจมีคุณสมบัติ anti-radiation AGM คล้ายกับHARM ซึ่งปรากฎตัวครั้งแรกทดสอบกับ J11B ตามรูปที่2 ซึ่งโดยส่วนตัว pl-1x ก็น่าจะเป็น PL12c หรือไม่ PL12d ต่อเรื่องอาวุธโจมตี มาลองพิจารณากันว่า J20 ใช้อาวุธที่ Fighter-Bomber อย่างJH7a ใช้ ว่าใช้ได้ไหม โดยพิจารณาติดตั้งใน weapons bay หลักตรงกลาง เพียงอย่างเดียว -LeiTing-2 Laser Guided Bomb ยาว 3.5m เส้นผ่าศูนย์กลางเกือบ 400 mm ซึ่งลองพิจารณาความยาว weapons bay จากคลิป เมื่อเทียบกับคน ก็น่าจะยาว 3-3.5 m แต่ความลึกประมาณไม่ได้ ส่วนความกว้างอาจะประมาณ 1.5 m ถ้าพิจาณาแบบนี้ LeiTing-2 ก็น่าจะใช้ได้ -LeiShi-6 Precision Guided Glide Bomb หรือระเบิดร่อน เจ้านี่น่าจะใช้ได้ -YingJi-8x ไม่ว่า 82/83 ก็ตาม พิจารณาดูแล้วไม่น่าติดตั้งภายในได้ -YJ-91 พิจารณาดูแล้วไม่น่าติดตั้งภายในได้ ถ้าพิจารณาเบื้องต้น ดูแล้ว J20 ท่าจะเป็น Fighter-Bomber ที่ไม่ดีนัก อาวุธนำวิถี อากาศสู่พื้นต้องออกแบบใหม่หมด จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:07:35

ความคิดเห็นที่ 2 ประเด็น เรื่องmaneuverability ก่อนที่จะมาพิจารณาเรื่ง maneuverability หรือความคล่องตัว/คล่องแคล้วนั้น ผมอยากปูพื้นซะหนิดว่าอะไร และปัจจัยอะไรทำให้เครื่องบินคล่องตัว ต้องเรียกอีกอย่างว่า อะไรทำให้เครื่องบังคับทิศทาง ทั้งในแนวแกน pitch Roll และ yaw ดูรูปที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Flight_dynamics_%28aircraft%29 ผมไม่ขอพูดถึงEquations of motion ของเครื่องบิน จะพูดและอธิบายง่ายๆ ว่า เครื่องบิน เคลื่อนที่ในแนวแกน pitch Roll และ yaw ยังไง แต่ที่จะพูดถึงการบังคับ เราควรมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Friction & Pressure Drag coefficientและLift coefficient ซึ่งถ้าใครเคยอ่านเกี่ยวกับเครื่องบิน หรือดูสเปครถยนต์ ก็คงได้ยินค่า 2 ค่าข้างต้น ลองดูรูปที่3 เป็นAirfoil หรือภาคหน้าตัดของปีกเครื่องบิน เมื่อเครื่องบินเคลื่อนที่ กระแสอากาศ จะวิ่งไปด้านล่าง และด้านบนของAirfoil ทำให้เกิดแรงดันที่แตกต่าง ซึ่งแรงดันที่แตกต่างนั้น ได้สร้างแรกยกขึ้น(lift force) แต่กระแสอากาศ ไม่ได้สร้างแรงยกอย่างเดียว เมื่ออากาศ หรือของไหล เคลื่อนที่ผ่านของแข็ง อย่าง Airfoil สิ่งที่เกิดคือ แรงต้านจากแรงดัน(Pressure Drag) และแรงเสียดทานที่พื้นผิวปีก (Friction Drag ) ซึ่งผมขอเรียกว่า Drag force แบบนี้คุณคนอ่านอาจสงสัย ผมพิมเป็น Drag force / lift force แต่ข้างบนกลับใช้คำว่า coefficient     ต้องเข้าใจอย่าง ในการแก้ปัญหาทาง fluid mechanic วิศวกร มักจะอธิบาย และใช้ค่า coefficient ในการคำนวน และสื่อสารกับคนอื่น เพราะ ในการหาค่า Drag force / lift force ที่ทุกสภาวะกระทำได้ยากมาก โดยเหตนี้ วิศวกร จึงใช้การทดลองกับ Airfoil และได้ผลมาเป็นพื้นฐานของการคำนวนด้วยcom (CAE) เพื่อจำลองหาค่า Drag force / lift force ในสภาวะการใช้งานจริงทุกสภาวะ มาต่อ ด้วยหลักการข้างต้น เครื่องบินจะเคลื่อนที่ในแนวแกน pitch Roll และ yaw ได้ ยกตัวอย่าง เครื่องบินต้องการบินท่า pitch -ยกหัวขึ้น-ยกหัวลง ถ้าเป็นเครื่องบินทั่วไป ของยกตัวอย่างเป็น F18 และJf17 เครื่องบินก็จะปรับ flaps ที่ปีกหลัก และบิดแพนหางดิ่ง แล้วทำแบบนี้ได้อะไร การปรับflaps นั้นก่อให้เกิด2อย่าง     1.lift detroying device 2.Pressure Drag ซึ่งการบิดแพนหางระดับก็ได้ผล 2 ค่าเช่นเดียวกัน แต่จะแตกต่างกัน ซึ่งทั้ง   2ค่านั้นก่อให้ผล 2อย่างคือ เพิ่มแรงกด (เหมือนติดspoiler ที่รถแข่ง) และสร้างlift force (อย่าพึ่งสงสัยผมพึ่งเขียนว่ามันทำให้เกิดPressure Drag แล้วไมมาสร้างlift forceยังไง)           ซึ่งเครื่องบินรบส่วนใหญ่ lift detroying device จะไม่มีทุกลำ หรือใช้น้อยมาก หรือใช้บางท่าทางการบิน ลองคิดดู   เมื่อปีกสร้างแรงยกแบบฉับพลันหรือชั่วคราวขึ้น(ที่ใช้ว่าชั่วคราวเพราะปีกสร้างlift forceอยู่แล้ว แม้flaps ไม่ทำงาน) และ แพนหางระดับก็สร้าง แรงยก ขึ้นเหมือนกัน และค่า แรงยกที่เกิดขึ้น2ค่านี้แตกต่างกัน อาจจะเป็นได้ทั้งค่าบวก และลบ จะทำให้เครื่องบิน ยกหัวขึ้น และกดหัวลง ซึ่งการเคลื่อนที่ในแนวแกน Roll และ yaw ก็ใช้หลักการเดียวกัน พิมมาซะยืดยาว ก็จะเอาค่าDrag force / lift force มาใช้อธิบายว่า J20 คล่องตัวไหม ตามทฤษฎี (อ้างอิงจากการทดลองในอุโมงลม)  จะเห็นว่า เครื่องบินที่คล่องตัวนั้นต้องสามารถ เคลื่อนที่ใน แนวแกน pitch Roll และ yaw ได้อย่างรวดเร็ว(ทันที่ทันใด) พูดง่ายๆ flaps ของปีก และแพนหางระดับ ต้องสร้าง lift detroying device และPressure Drag ได้มากและฉับพลัน ซึ่งทั้ง2ค่าก่อให้เกิดแรงกด และแรงยก . จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:08:55

ความคิดเห็นที่ 3 รูป 4 จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:10:14

ความคิดเห็นที่ 4 ตัวอย่าง ในกรณี เคลื่อนที่ใน แนวแกน pitch เท่านั้น(สมมุติ) ถ้าคุณเห็นจากรูปที่4 J20 จะใช้ 3ส่วนหลัก 6ชิ้นคือ ปีกเล็กหน้า2 ชิ้นflaps 2ชิ้น และแพนหางดิ่ง2ชิ้น (อาจสงสัยการเคลื่อนที่แบบpitch แพนหางดิ่งเกี่ยวอะไร อย่าลืม คุณต้องดูว่า J20 มีแพนหางดิ่งแบบเอียง และหมุนได้   ซึ่งมันจะสร้างแรงยก และกด   เช่นเดียวกับ flapsที่ปีก และ flapsที่แพนหางดิ่งของเครื่องบินทั่วไป ถ้าใครเรียนกลศาสตร์ก็จะเข้าใจการแตกแรง)             สิ่งที่ J20 แตกต่างกับเครื่องบินรบทั่วไปคือ J20 มี 6พื้นที่ ที่สร้างแรงยกและกด และเมื่อรวมกันแล้ว ประมาณการว่า มีพื้นที่รวมสำหรับ แนวแกน pitch อย่างเดียวมากกว่าเครื่องบินอื่น   แล้วแบบนี้มันดียังไง ผมขอยกสมการหา Drag force ของ imcompressible viscous flow พื้นฐาน ย้ำเลยว่า วิศวกรที่ออกแบบจริง เข้าใช้ ผลการทดลองจากอุโมงลม แล้วมาสร้าง Differential equation ที่ซับซ้อนมากๆ จนต้องใช้ super com มาแก้ แต่สมการที่ยกมาต้องการจะทำให้คุณผู้อ่านได้เห็นและเข้าใจ หลักการ Drag force =CdxAx0.5xp1xV2 Cd Friction & Pressure Drag coefficient A พื้นที่ p1 ความหนาแน่นอากาศที่ ความสูง และอุณหภูมินั้น V ความเร็ว ซึ่งจากสมการก็จะเห็นได้ว่า พื้นที่ยิ่งมาก Drag force ก็มาก และ Drag forceที่เกิดอย่างชั่วคราวของ การปรับมุมปีกเล็กหน้า flaps และการปรับมุมของแพนหางดิ่ง ของ J20 นั้น สามารถสร้าง แรงหันเลี้ยวได้สูงมากๆ แต่ก็มีปัญหาอีก โดยปกติการหันเลี้ยว (YAW)หรือการกดหัวลง และยกหัวขึ้น(pitch) อย่างฉับพลันและทันที ทันใดนั้นได้สร้างความเร่งเชิงมุมมหาศาล ซึ่งความเร่งเชิงมุมนี้ก่อให้เกิดแรง หรือ Pressure Drag ที่กระทำต่อพื้นที่ปีก และผิวต่างของเครื่องบิน ซึ่งอาจจะฉีกปีกเครื่องบินให้หลุดเป็นชิ้นๆได้ และยังไม่รวมนักบินจะทนได้แค่ไหนด้วย แต่มีข้อมูลมากว่า J20 ใช้วัสดุ magnesiam alalloy ที่มีคุณสมบัติแข็ง และเบา ซึ่งช่วยป้องกันความเค้นมหาศาลที่เกิดจากการบินได้ โดยเหตดังกล่าว โดยส่วนตัวและข้อมูลประกอบเชื่อว่า J20 เป็นเครื่องบินที่คล่องตัวมากแน่ ถึงแม้มีขนาดใหญ่ http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=2M40pGgKky8#! เปรียบJ20 J10 Jf17 http://www.youtube.com/watch?v=7x5VWqvDAtU&feature=related maneuverability http://www.sinodefenceforum.com/air-force/j-20-new-generation-fighter-iii-82-5600.html maneuverability -ดูภาพเคลื่อนไหว ดูรูปที่ 5 ,6, 7ประกอบ ถ้าดูข้อมูลจากข้างต้น ก็สอดคล้อง กับที่ผมยกทฤษฏีมาอ้างอิง คือ J20 มีคล่องตัวสูงมาก สูงเทียบเคียง Su-27SK/UBK และJ10 ดังนั้น ด้วยข้อมูลต่างๆ โดยส่วนตัว เชื่อได้ว่า J20 Superiority Fighter Aircraft มากที่สุด นอกเสียจาก ใครมีข้อมูลอื่นมาหักล้าง จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:13:35

ความคิดเห็นที่ 5 รูป 6 จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:15:26

ความคิดเห็นที่ 6 รูป 7 จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:16:02

ความคิดเห็นที่ 7 ประเด็นที่2 มีเรื่องหนึ่งที่มีนักวิเคราะต่างชาติ กล่าวว่า J20 ไม่ใช่เครื่องบินล่องหน มันแค่ดูเหมือนเครื่องบินล่องหนเท่านั้น ซึ่งโดยส่วนตัว คิดว่าเป็นเรื่องตลก เพราะอะไร เรามาลองพิจารณาร่วมกันเรื่อง ความล่องหน เราจะรู้ได้อย่างไร ในฐานะคนวงนอก ว่าเครื่องบินที่ล่องหนต้องมีคุณสมบัติใด ซึ่งผมไม่รู้หรอก แต่ถ้าเราเอาJ20 ไปเปรียบเทียบกับเครื่องบินล่องหนที่เข้าประจำแล้วอย่าง F22 และ B2 โดยเฉพาะ F22 ดูจะเหมาะสมกว่า ดังนั้นในการวิเคราะว่า J20 ล่องหนหรือไม่ คงต้องเอา F22 /B2 มาเทียบเคียง พร้อมหาทฤษฎี และข้อมูลมาประกอบการพิจารณา ซึ่งผมขอค้างใว้ก่อน ถ้าว่างจะมาเพิ่มข้อมูล J20 VS F22/F35 และ J20 VS T50 ซึ่งเป็นประเด็นร้อนใน forum ต่างประเทศ และเรื่อง J20 ล่องหนจริงไหม ท่านไหนสงสัย เห็นต่างโต้แย้ง หรือเพิ่มข้อมูลได้น่ะครับ จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:16:58

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าจะมาพิจารณาถึงเครื่องยนต์ที่ใช้กับ J20 คงต้องปูพื้น และพูดถึงเครื่องยนต์ยุคใหม่ที่ออกแบบ/ผลิตในจีนก่อน นั้นคือเครื่องยนต์ตระกูล Ws10 -Ws10a ถูกพัฒนาโดยShenyang Aeroengine Research Institute ในปี1987 ในWS10   รุ่นแรกนั้นมีปัญหาเรื่องคุณภาพ ถึงขนาดผู้บริหาร Mr. Lin Zuoming (林左鸣), the top head of ACIC (Aviation Industry Corporation of China) ออกมายอมรับว่ามีปัญหาจริง จนกระทั่ง ปี2002 WS10a ก็ถูกทดสอบโดย J11   ผลการทดสอบเป็นที่น่าพอใจ ประสิทธิภาพเหนือกว่า  Saturn/Alyuka AL-31 มีรายงานว่า WS10  (ไม่ระบุรุ่นแน่ชัด อาจเป็นb)   มีแรงขับสูงกว่า AL31F (ใช้ในJ10) กว่า 700 Kgf หรือ6.8 KN ปัจจุบันคาดว่า มีWS10 อยู่4 รุ่น WS10 ถูกยกเลิก -WS10a มีแรงขับเปิด afterburner 130KN -WS10b มีThrust vectoring มีแรงขับเปิด afterburner 135-140KN -WS10G มีThrust vectoring, stealthy nozzles แบบ jagged edges(ฟันปลาดู ช่องเก็บอาวุธ J20ประกอบ) และสารเคลือบ มีแรงขับเปิด afterburner 155KN รูปที่8 Al-31F ติดกับ Su27 รูปที่9 & 10 ws10a ติดกับ j11b สังเกตความยาวของnozzles WS10a สั้นกว่า รูปที่11 โมเดลWS10a มีThrust vectoring หรือเรียกว่า WS10b รูปที่12 WS10b กับ Al-31N จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:19:07

ความคิดเห็นที่ 9 รูป 9 10 จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:22:21

ความคิดเห็นที่ 10 รูป 11 จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:22:49

ความคิดเห็นที่ 11 รูป 12 เครื่องยนต์ WS10b กับ Al-31N จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:23:48

ความคิดเห็นที่ 12 เครื่องยนต์ตระกูล Ws15 มีชื่อเล่นว่าFabri (แปลจากภาษาจีน) ออกแบบโดยMr Jiang Hefu ที่ China Research Institute ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ gas turbine manufacturer Xian machinery company และMr Li Yang ที่ Guizhou aviation engine company WS15 ออกแบบด้วยมาตรฐานmilitary standard GJB241-87 โดยมีหลายรุ่น แต่รุ่นที่พูดถึงคือ WS15x http://military.china.com/05/11078235/20110601/16573467.html โดยออกแบบเพื่อ J20 และเป็นคู่แข่งกับ WS10G ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง J20 ลำแรกติดตั้งเครื่อง WS10G(ต้นแบบ) และอีกลำ WS15x WS15x(ใช้ว่า X หมายถึงยังไม่ทราบรุ่นแน่นอน) มีแรงขับเปิด afterburner 161.86KN และที่เหมือนกับตระกูลWS10 คือมีระบบfull authority digital electronic control (FADEC) จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:25:06

ความคิดเห็นที่ 13 รูปที่13 น่าจะเป็น WS15x **http://www.sinodefenceforum.com/air-force/j-20-new-generation-fighter-iii-95-5600.html ข่าวว่า AVIC engine company กำลังพัฒนา เครื่องยนต์แบบAxisymmetric Vectoring โดยมี - deflection direction: 360 degrees; -vector angle: 17 degrees to 20 degrees; -deflection rate: Wx = 120 degrees to 180 degrees / sec, Wy = Wz = 45 ° -60 ° / sec; หลายระเอียดอื่นลองไปอ่านเอง จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:28:07

ความคิดเห็นที่ 14 รูปที่14 การพัฒนา2-d flat-nozzled คาดว่ารูปนี้น่าจะประมาณปี2005 ซึ่งเทคโนโลยีเครื่องยนต์(อาจจะเฉพาะแค่ nozzled) ดังกล่าวสามารถล่องหนได้เฉพาะช่วงคลื่นแคบๆ หรืออาจจะแค่ 2 คลื่นความที่ X and Ku เท่านั้น ซึงคาดว่าการวิจัยพัฒนานี้ จีนน่าจะยกเลิกไปแล้ว แล้วหันมาเน้นที่ Axisymmetric Vectoring แทน เพราะล่องหนครอบคลุมย่านความถี่กว้างกว่า จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:28:58

ความคิดเห็นที่ 15 รูปที่15&16 เผยการทดลอง 2D TVC และ3DTVC ตามลำดับซึ่งคาดว่าถ่ายช่วงปี 2005-2007 และอาจเป็นฐานข้อมูล ให้กับการวิจัยพัฒนา Axisymmetric Vectoring จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:29:43

ความคิดเห็นที่ 16 รูป 16 จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:30:29

ความคิดเห็นที่ 17 รูปที่17&18 เผยการทดลองของPratt & Whitney F135 และWS10a ตามลำดับ สังเกต blue flame /ไอพ่นสีฟ้าเหมือนกัน และลองไปสังเกตคลิป http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=2M40pGgKky8 เปรียบเทียบ จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:32:28

ความคิดเห็นที่ 18 รูป 18 สรุป เท่าที่ได้ข้อมูลจาก THREAD ทั้งหมด J20 ใช้เครื่องยนต์จีนแน่นอน และเครื่องต้นแบบที่เราเห็นนี่ใช้WS15xเป็นหลัก หรืออาจเป็น WS10Bแต่ อนาคตน่าจะเปลี่ยนเครื่องยนต์ อาจจะเป็นWS10G แบบ jagged edges และสารเคลือบ ถ้าพัฒนาทัน หรืออาจ ใช้WS15x ไปก่อน เพื่อรอเครื่องยนต์แบบAxisymmetric Vectoring ที่กำลังพัฒนาอยู่ คงต้องตามกันต่อไป จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:33:14

ความคิดเห็นที่ 19 ขอมีประเด็นแทรก ก่อนเรื่องล่องหน ถึงระยะปฎิบัติการของ J20 จากบทวิเคราะ ของDr Carlo Kopp, SMAIAA, SMIEEE, Peng, และPeter Goon, BE (Mech), FTE (USNTPS) แห่ง Air Power Australia ได้เทียบเคียง ข้อมูลของ J20 กับ FB111A โดยทั้งสองท่าน   ไม่ได้มองว่ามันเป็นเครื่องประเภทเดียวกับ FB111A     แต่คาดว่ามันมีคุณสมบัติโจมตี (เป็นอุปกรณ์เสริม หรือต้องใช้การปรับปรุงเพิ่ม) หรือMultirole Fighter Aircraft  โดยทั้ง 2 ท่านได้มองว่า J20 สามารถใช้ ระเบิดชี้เป้าด้วยlaser/gps    อย่างLuoyang/CASC LT-3 Laser / Satellite และSatellite Aided Inertially Guided Bombs อย่าง    FT-1, FT-2, FT-3, FT-4, FT-5 and LS-6 series และสุดท้าย เมื่องานZhuhai in 2010 CASC   ได้เปิดตัว compact 250 lb(100Kg) variants of the LS-6 ในรูปที่19 ซึ่งมีคุณสมบัติและขนาดใกล้กับ US GBU-39/B รูป 19 จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:36:29

ความคิดเห็นที่ 20 รูปที่ 20 LT-3 precision guided bomb system จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:37:06

ความคิดเห็นที่ 21 รูปที่ 21 LT-2 LGB จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:38:00

ความคิดเห็นที่ 22 --LT-3 ยาว3.58 m diameter 0.38m ปีกกาง 0.95m หนัก 564kg พิสัย สูงถึง24 Km เจอะผนังคอนกรีตเสริมเหล็ก ได้ 1.5m นำวิถี แบบผสม ระหว่าง satellite/inertial guidance โดยมีคุณสมบัติเทียบได้กับUS enhanced EGBU-24 หรือ GBU-54/55/56(V)/B Laser JDAM (LJDAM) --LT-2 LGB Specifications Length 3580mm Diameter 380mm Tail fin span 950mm Weight 570kg Ground designating mode accuracy ..CEP≤5m A/C designating mode accuracy ...CEP≤6.5m Launching speed ≥230m/s Launching mode level, dive, toss Wind speed ≤10m/s Damage Capability Equivalent to 500kg low-drag aero bombs เป็นระเบิดนำวิถีรุ่นแรกๆ เทียบได้กับ GNPP KAB-500L. ถูกใช้ในcombat aircraft, including the JH-7 , Q-5 , FC-1, J-8B และ J-10 จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:39:10

ความคิดเห็นที่ 23 รูปที่ 22 Luoyang/CASC LS-6 รุ่น500 kg ตอนกางปีก จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:42:14

ความคิดเห็นที่ 24 รูปที่ 23 Luoyang/CASC LS-6 รุ่น50 kg จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:43:29

ความคิดเห็นที่ 25 **Luoyang/CASC LS-6 รุ่น 100 และ50Kg น่าจะถูกพัฒนามาเพื่อ J20 สังเกตที่ส่วนหัวมี electro-optical seekers ซึ่งคาดว่านำวิถีด้วยการเปรียบเทียบภาพ(image processing) ดูรูปที่ 24 & 25 ประกอบ หรืออาจเป็น semi-active homing laser seeker คุณสมบัติ 1.Launched outside mid/short range air defense firepower 2.All-weather, day & night attack capability 3.Low cost but highly effective 4.Fire and forget capability 5.Excellent anti-interference capability 6.Modular guidance and control unit 7.Single target or multiple targets attack capability Technical data a) Kill Area：   For normal target：5,000 - 10,000 m2   For armored targe：100 - 500 m2 b) Operational Altitude and Speed：   Launch altitude：4,000 - 11,000 m   Launch speed：600 - 1,000 km/h c) Maximum Launch Range：No less than 60 kilometers with a launch altitude of 11,000 meters and an initial speed of 900 km/h. Guidance Mode：Combined GPS/INS guidance. e) Guidance Accuracy： ≤15 meters CEP จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:44:24

ความคิดเห็นที่ 26 รูป 25 จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:45:06

ความคิดเห็นที่ 27 รูปที่ 26 เป็นการประเมินcombat radius performance for a Hi-Hi-Hi profile แบบไม่เติมเชื้อเพลิง และไม่ติดถังภายนอก โดยเทียบกับ FB111A คาดว่ามีระยะทำการที่1,000 and 1,500 nautical miles (1852-2778 km) จากข้อมูลของDr Carlo Kopp และเมื่อเทียบกับข้อมูลที่ผมวิเคราะ จึงพอสรุปได้ว่า 1.จากการวิเคราะของ Dr Carlo Kopp ไม่ได้เจอะจงลงว่า J20 เป็นเครื่องบินแบบไหน แต่พอสรุปได้ว่า J20 มีคุณสมบัติในการโจมตี ด้วยระเบิดนำวิถี แบบต่างๆ ซึ่งก็คล้ายกับ F22A ใช้ GBU-39/B SDB I ได้ 2.ถ้าเป็นอย่างข้างบนว่า J20 ก็เป็นSuperiority Fighter Aircraft ที่มีคุณสมบัติโจมตีภาคพื้นดินได้ อย่าง F22A 3.จากที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนว่า J20 เป็นเครื่องบินโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินนั้น ก็ดูจะยังไม่เหตผลรองรับ คือ ยังไม่มีขีปนาวุธร่อนรุ่นไหน  ที่ใช้กับJ20 ได้ ถ้าจะติดก็ติดภายนอก ซึ่งดูจากรูปแล้วไม่มีจุดให้ติดด้วยซ้ำ นอกเสียจาก มีการพัฒนาขีปนาวุธร่อนรุ่นใหม่ ที่สามารถใส่ในช่องเก็บได้ ค่อยมาว่ากันอีกที เพราะตอนนี้ยังไม่มีข่าว มาต่อ ประเด็นที่Dr Carlo Kopp ได้วิเคราะต่อ ถ้าพิจารณาจากกขนาด และรูปร่าง J20 ถูกออกแบบมาให้เป็น เครื่องสกัดกั้นระยะไกล (long range interceptor) โดยใช้ฐานปฎิบัติการในประเทศจีน ดูรูปที่26 ประกอบ J20 มีคุณสมบัติ ล่องหน , supercruising และ long range interceptor ซึ่งเป็นไปได้ที่ PLA-AF ใช้J20 เพื่อเจอะทะลุทะลวง ฝ่าแนวป้องกันของ Integrated Air Defence System (IDS) ของUSA เพื่อทำลายเครื่องบินอย่าง E-3 AWACS และRC-135V/W หรือทำลาย Intelligence, Surveillance & Reconnaissance (ISR) Systems ของUS ซึ่งถือเป็นการโจมตีละรอกแรก ถ้าไม่มี อะไรนอกเรื่องอีก คราวหน้าจะพูดถึง ประเด็นล่องหนซักทีครับ จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:49:51

ความคิดเห็นที่ 28 J-20 stealth fighter กับคำถามที่ได้ถามก่อนหน้านี้ ไม่ว่า //1.มีนักวิเคราะห์จากตะวันบางคน คงยังไม่หายตกใจ บอกว่า J20 นำเทคโนมาจาก F117a เมื่อถูกเซอเบีย ยิงตกเมื่อกว่า สิบกว่าปีก่อน ซึ่งผมบอกได้เลยว่าไม่จริง เพราะอะไรโปรดติดตามข้างล่าง 2.มีนักวิเคราะห์บางคน ที่ยังมึนอยู่ จากการปรากฎตัวของมัน ว่าจีนเอาแบบและเทคโน จาก mig1.44 มา ซึ่งผมก็ตอบได้เลยว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะอะไร โปรดติดตาม// และล่าสุด มีนักวิเคราะห์จากตะวันบางคนอีก บอกว่า J20 ไม่ใช่ stealth fighter แต่บอกว่า J20 ดูเหมือน stealth fighter เท่านั้น หรือให้ผมแปล ก็คงบอกว่า J20 เป็นเครื่องบินธรรมดา ที่จงใจทำให้ดูเหมือน stealth fighter เท่านั้น .เอ่อ งงจริง ไม่รู้คิดได้ไง ใครเขาจะทำแบบนี้ เพื่ออะไร ?? แต่ไม่แน่น่ะ ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ คงได้ฮาน่าดู ---จากข้อมูลที่พิมมา ต้องมากข้างบน พอตอบคำถาม ข้อสงสัยของเหล่านักวิเคราะทั้งหลาย แต่ยังมีอยู่เรื่อง ที่นักวิเคราะ สงสัยไม่ได้อ่าน หรือไม่ให้ราคาหรือไม่ทราบ เลยวิเคราะกัยไปแบบนั้น ลองมาทำความเข้าใจร่วมกัน จากคำถามที่ว่า J20 เป็น stealth fighter จริงๆ หรือไม่ หรือดูเหมือน ใครๆเขาก็สงสัย เพราะChengdu เองก็ไม่เคยออก มา บอกอะไร ให้ข้อมูลอะไร และคนอคติก็มีมาก โดยเหตดังกล่าว Dr Carlo Kopp, Dr Michael J Pelosi , SMAIAA, SMIEEE และ Pengแห่ง Air Power Australia เจ้าเดิม ต้องหาคำตอบให้กับชาวโลก (ว่าไปนั้น) หรือว่า พันธมิตรของus มากกว่า โดย ประเมินผล Specular Radar Cross Section Performance ของJ20 โดยวิธีทางlap โดยสร้างโมเดลของ J20 ขึ้นมา (แหล่งข่าวไม่ได้บอก ได้modelมายังไง) และทดสอบวัดค่า dBSM (deciBels with reference to a square metre)(deciBels with reference to a square metre; a logarithmic measure of RCS computed by multiplying the logarithm to the base of ten of the RCS in square metres by ten) ด้วยวิธี Physical Optics simulation algorithm ที่ความถี่ 150 MHz, 600 MHz, 1.2 GHz, 3.0 GHz, 6.0 GHz, 8.0 GHz, 12.0 GHz, 16.0 GHz and 28 GHz สำหรับลำตัวJ20 กรณี ไม่มี absorbent coating (สารดูดกลืนเรดาห์) และความถี่ 1.2 GHz, 3.0 GHz, 6.0 GHz, 8.0 GHz, 12.0 GHz, 16.0 GHz สำหรับลำตัวJ20 กรณี มี absorbent coating โดยครอบคลุมทุกท่าทางบิน (มุมบินต่างๆ) โดยใช้ข้อมูลที่หาได้ (ไม่บอกแหล่ง) ของabsorbent coating ของจีน โดยวิเคราะทั้งกรณีใช้เครื่องยนต์ เดิม ดังรูปที่ 13 และเครื่องยนต์ใหม่ที่ติดAxisymmetric Vectoring ที่ได้ให้ข้อมูลข้างบน //คงรู้แล้วว่าทำไมผมต้องกล่าวถึงเครื่องยนต์ก่อน// โดยนำผลที่ได้มาวิเคราะด้วยคอมพิวเตอรและได้ผลดังนี้ จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:52:08

ความคิดเห็นที่ 29 ****ก่อนมาดูผลวิเคราะ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับประสิทธิภาพการล่องหน เรามักได้ยินค่า RCS ของเครื่องบินว่าต้องมีเท่าไร และอาจสงสัย ค่าที่วัดกลับเป็น dBSM แล้วมันสำพันธ์กับ rcs ยังไง มาลองดูกัน dBSM                 30       20    10   0   -10   -20   -30       -40         -50 rcs (ตารางเมตร) 1,000  100   10   1   0.1   0.01   0.001   0.0001   0.00001 โดยจัดแบ่งเครื่องบินดังนี้ 1.แบบทั่วไป มีค่า dBSM 30 จนถึง -3 2.LO มีค่า dBSM -10 จนถึง -30 3.VLO มีค่า dBSM น้อยกว่า -31 Lo : Early literature: any stealth aircraft; recent literature: a stealth aircraft with limited signature reduction, usually with an RCS between -10 and -30 dBSM. VLO : a stealth aircraft with very good signature reduction, usually with an RCS smaller than -30 dBSM. รูปที่ 27 PCSR Format (PCSR): PolyChromatic Spherical Representation (PCSR) is such a representation in which a translucent sphere is rendered around a two-dimensional rendering of the aircraft, where the surface of the sphere is divided into tiles by aspect angle pair {θ, Φ}. The colour of each tile represents the RCS from the angular direction determined by the path between the tile and the centroid of the aircraft. สีแสดงถึงค่า dBSM จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:57:18

ความคิดเห็นที่ 30 รูปที่ 28 J-20 Specular RCS Model Results PEC ที่150 MHz จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 19:58:11

ความคิดเห็นที่ 31 รูปที่ 29 J-20 Specular RCS Model Results PEC ที่1.2 GHz จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 20:01:25

ความคิดเห็นที่ 32 รูปที่ 30 J-20 Specular RCS Model Results PEC ที่28 GHz -Perfect Electrical Conductor (PEC): A material with a characteristic impedance of zero for all wavelengths of interest; an idealised conductive metal. -ต้นแบบ J20 ถูกออกแบบเป็นไปตามกฎของที่สอดคล้องกับ เครื่องบิน แบบ VLO ของUS ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เป็นไปตามทฤษฎี และการปฎิบัติที่ถูกพัฒนาโดย ห้องวิจัยของus ในระหว่างปี 1975-2000 -stealth shaping โดยรวมของ ต้นแบบ J-20 นั้น ดีกว่า(ล่องหน) ต้นแบบ Russian T-50 PAK-FA และอาจจะเหนือกว่า F35 -จากที่เห็น ต้นแบบ J-20 ออกแบบ stealth shaping ในลักษณะเดียวกับ F22A -ข้อมูล absorbent coating ของจีน http://military.china.com/zh_cn/important/11052771/20110120/16352774_9.html จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 20:02:42

ความคิดเห็นที่ 33 บทวิเคราะเพิ่มเติม 1.ส่วนจมูก และcanopy (ฝาครอบห้องนักบิน) มีคุณลักษณะเดียวกับ F22 (ไม่มีโครงโลหะ) ซึ่งให้ผลจากการทดลองเช่นเดียวกับF22 และมี RCS performance ใกล้เคียงกัน 2.J20 มีส่วนtrapezoidal edge aligned (เส้นขอบแนวเป็นสีเหลี่ยมคางหมู) ที่ส่วนท่อลมเข้า (engine inlets ) ซึ่งใกล้เคียงกับ F22 แต่มี ท่อแบบDSI ขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มคุณลักษณะของเครื่องยนต์ และความล่องหน 3.ส่วนปีกของ J20 ออกแบบได้เป็นตามคุณลักษณะล่องหน เทียบได้ กับ F22 ซึ่งเหนือกว่าทั้ง T50 และF35 รูปที่ 31 Elevated head on view of J-20 prototype showing the trapezoidal edge aligned inlet geometry, combining features of the F-22A Raptor and F-35 JSF inlet. Both aircraft share shallow wing/fuselage join angles and a flat lower fuselage จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 20:05:43

ความคิดเห็นที่ 34 รูปที่ 32 Head on view of F-22A Raptor showing the trapezoidal edge aligned inlet geometry จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 20:06:21

ความคิดเห็นที่ 35 รูปที่ 33 The shaping features of the inlet area and unique lower fuselage are prominent on this image of F-35A SDD prototype AA-1 จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 20:06:49

ความคิดเห็นที่ 36 รูปที่ 34 This J-20 view shows the chine geometry, and generous use of X-band serrations on the undercarriage doors จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 20:08:58

ความคิดเห็นที่ 37 รูปที่ 35 Ventral view of J-20 prototype showing the flat lower fuselage, flat facet fuselage sides, and shallow join angle between the wings, canards and fuselage sides. The aft ventral strakes are undesirable from an RCS perspective จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 20:09:33

ความคิดเห็นที่ 38 จากรูป axi-symmetric nozzles ที่เห็นและใช้ในต้นแบบขณะนี้ ถ้าดูจากการวิเคราะเรื่องเครื่องยนต์ข้างบน โดยส่วนตัว สงสัยเหมือนกันว่า Axisymmetric Vectoring ที่อยู่ระหว่างการพัฒนากับ axi-symmetric nozzles เป็นตัวเดียวกันไหม ซึ่งเท่ากับว่าที่เข้าใจว่าเครื่องยนต์ที่เห็น รูปที่13 เป็น WS10B ก็อาจผิด หรือว่าจีนพัฒนา Axisymmetric Vectoring สำเร็จแล้ว หรือในรูปเป็นเพียง WS10B สำหรับต้นแบบ เพื่อรอ ให้ Axisymmetric Vectoring สำเร็จเชื่อว่า ในรูปเป็น WS10B มากกว่า จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 20:12:10

ความคิดเห็นที่ 39 แสดงการปรับมุมของเครื่องยนต์แบบ Axisymmetric Vectoring เมื่อเทียบกับRCS ซึ่งจะเห็นว่าถ้าปรับมุมเบี่ยงเบนไปจากแนวแกน เท่าไร RCS ก็จะมีค่าน้อยมากเท่านั้น จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 20:13:42

ความคิดเห็นที่ 40 J-20มีขนาดพอๆF-22 ดังนั้นไม่น่าStealthไปมากกว่าF-35นะ โดยหลักการแล้วF-35ลำเล็กกว่า น่าจะStealthได้ดีกว่าF-22 แต่F-22มีเรด้าห์AESAที่แรงกว่าF-35 เนื่องจากขนาดใหญ่กว่า จึงติดเรด้าห์ได้ใหญ่กว่า J-20 Stealthเต็มที่น่าพอๆกับF-22 ขนาดมันพอๆกัน แต่นั่นก็ไม่ทำให้เสียเปรียบF-35 เนื่องจากติดเรด้าห์AESAขนาดใหญ่ได้เหมือนกัน ส่วนรูปร่างของเครื่องแต่ล่ะแบบจะเป็นอย่างไรนั้น คงไม่มีผลต่อStealthมาก เพราะมันคงไม่ทิ้งกันมากในแต่ล่ะรุ่น ขนาดของเครื่องจะเป็นผลมากกว่า ส่วนใครStealthมากกว่าใครนั้น ต้องไปที่สารเคลือบดูดซับเรด้าห์ว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน และขนาดของเครื่องจะเป็นตัวตัดสิน จากคุณ : สมุดจด เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 20:37:51

ความคิดเห็นที่ 41 รูปทรงเครื่องบินขับไล่ให้เป็น Stealth ใครๆก็ทำได้ แต่สิ่งที่หลายคนลืมจุดสำคัญไปคือวัสดุเคลือบผิวเพื่อใช้ดูดซับเคลื่อนเรดาห์ เทคโนโลยีจุดนี้แน่ใจเหรอว่าตามทัน จากคุณ : Big Worm. เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 21:20:39

ความคิดเห็นที่ 42 ข้อมูลแน่นมากกกกกกกกกกก จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 22:59:54

ความคิดเห็นที่ 43 โอ้ว ผมไม่เคยเห็นเครื่องบินรุ่นไหน หักเลี้ยวแบบนี้ได้มาก่อน แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 54 14:23:01 จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 23:05:35

ความคิดเห็นที่ 44 เป็นเครื่องบินที่ น่าจะมีอะไรพิเศษอีกมากในเรื่องการทำท่าทางการบิน เรื่องความคล่องตัว ขอยันตาม จขกท มัน คือ Fighter จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 23:09:04

ความคิดเห็นที่ 45 ไม่ต้องเดา เดี๋ยว ตอนม้นออกมาจริง ก็รู้เอง ส่วนพวกที่ดูถูกไว้ ก็จำเอาไว้ รอเวลามา ตัดสินครับ จากคุณ : กก เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 00:08:21 A:124.122.221.132 X: TicketID:323663

ความคิดเห็นที่ 46 กระทู้นี้ บอกได้คำเดียว "แน่น" จากคุณ : ปืนเถื่อน เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 00:08:27

ความคิดเห็นที่ 47 ขอชม จขกท จากใจจริง ทฤษฎีแน่นจริงๆครับ ปล. ผมอ่านเข้าใจแค่ตรงสรุป(ไม่ใช่วิศวกร ไม่ได้เรียนมาทางนี้) จากคุณ : jedsada เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 00:42:02 A:101.108.49.251 X: TicketID:198675

ความคิดเห็นที่ 48 ... ฝากบอก คุณ red c ด้วยละกัน... รูปลักษณ์ของ J-20 นี่....คงได้รับ "แรงบันดาลใจ" จากเครื่อง F-22 ของสหรัฐไม่น้อยเชียว ... จากคุณ : First In, Last Out เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 01:24:06

ความคิดเห็นที่ 49 ชอบมากครับ ขอบคุณครับ :D จากคุณ : LogiEng เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 08:11:48

ความคิดเห็นที่ 50 ฮ่าๆ ไม่ใช่ผมคร้าบ ความรู้ผมแค่งูๆ ปลาๆ ความรู้เทคนิคอะไรไม่ค่อยรู้หรอกฮะ ผมไปเอาจากคุณเร้ด ซี มาเผยแพร่อีกทีนึงครับ ตอนตั้งกระทู้ลืมแปะลิงค์ที่มาครับ http://www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=14951&topic=J-20 Thread&PHPSESSID=874be48080566229d3fd3871f09a5883 จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 09:09:08

ความคิดเห็นที่ 51 อ่านๆดูมันเป็นเครื่องบินเทพเลยนะครับเนี่ย อะไรๆก็ดีไปหมด จากคุณ : มนุษย์ถ้ำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 15:54:29

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณ จขกท ที่ช่วยเผยแพร่ เผื่อมีประโยชน์ กับใครหลายคน ผมช่วย ตอบข้อสงสัยในหลายๆ ท่าน ความคิดเห็นที่ 41 ตามข้อมูล ที่อ้างอิงใว้ เข้าไปอ่านได้ จีนพัฒนา วัสดุดูดซับ มา30ปีแล้วครับ และเป็นไปตามที่ Dr Carlo Kopp, Dr Michael J Pelosi , SMAIAA, SMIEEE และ Pengแห่ง Air Power Australia ได้วิเคราะใว้ ลองไปอ่านเพิ่มเติมครับ ความคิดเห็นที่ 43 ท่านี้เขาเรียกว่า บินวน1รอบแบบรัด(มุมเลี้ยวแคบมาก) อยากให้ดู Pressure Drag ที่เกิดจากความเร่งเชิงมุม ในการบินท่านี้ ต้องสูงมากๆ โดยเฉพาะที่กระทำต่อ ปีกเล็กหน้า ถ้าวัสดุไม่ดีจริง ปีกหลุดให้เห็นแน่ นี่ยังไม่พูดถึง ระบบควบคุมการบินที่ก้าวหน้ามากๆด้วยครับ และเชื่อว่า คงได้เห็นท่าบินแปลก ของ J20 อีกแน่ เมื่อเครื่องยนต์ Axisymmetric Vectoring สำเร็จ **แต่ส่วนตัว วันไหนระบบควบคุมการบินมีปัญหา นักบินคงทำได้อย่างเดียวคือ ดีดตัว หรือเปล่าไม่แน่ ความคิดเห็นที่ 48 อิอิ แรงบันดาลใจอีกแล้ว..ก็เป็นไปได้ จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 16:04:30 A:183.89.249.188 X: TicketID:255467

ความคิดเห็นที่ 53 ของมันพัฒนามาทีหลังก็เป็นไปได้ที่จะออกมาดีกว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เหมือนโทรศัพท์เทพของสามปีที่แล้วยังเทียบกับรุ่นกลางๆของปีนี้ไม่ได้ ประมาณนั้น ดังนั้นการที่ J20 น่าจะดีกว่า F22 ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 16:16:03

ความคิดเห็นที่ 54 J-20 ไม่ได้ดีกว่า F22 เพราะรูปแบบ canard หน้า ทำให้มันสะท้อนเรด้าห์มากกว่า conventional นี่ยังไม่นับรวม ระบบเรด้าห์ AESA ซึ่ง อเมริกาล้ำหน้าหว่าจีนไปไกล AESA ล่าสุดของจีน ดูแนวโน้มคล้ายกับของ NIIP รัสเซีย คือหมุนรอบแกน เผลอๆอาจคิดร่วมกัน ยังแพ้ของพี่กัน จากคุณ : x เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 20:28:45 A:61.90.92.100 X: TicketID:052378

ความคิดเห็นที่ 55 F22ล่องหนดีกว่า  F35ครับ แม้จะขนาดใหญ่กว่าก็ตาม F15 เองก็ล่องหนดีกว่าF16 เคยดูตารางเปรียบเทียบในหว้ากอนี่แหล่ะครับ แต่หาไม่เจอแล้ว จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 05:54:56

ความคิดเห็นที่ 56 ความคิดเห็นที่ 55 ต้องบอกด้วยว่า F-35 ไอกันล่องหนได้ดีกว่า F-35 ส่งออกด้วยครับ จากคุณ : เฮ้อ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 13:07:10 A:58.8.112.113 X: TicketID:306636

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณครับ อ่านมันมาก ขอบอก จากคุณ : ยังมีหวัง เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 18:47:33

ความคิดเห็นที่ 58 ใส่ได้กี่ซิมครับ จากคุณ : ด.ช.แม่น เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 15:50:56

ความคิดเห็นที่ 59 เป็นใงล่ะ F22 ก็โดนจีนก๊อป ได้ ไม่มีอะไรที่พี่จีนก๊อปไม่ได้ +.+ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 54 17:02:29 จากคุณ : Neopom เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 17:02:00

ความคิดเห็นที่ 60 ความคิดเห็นที่ 59 เห้อ แบบนี้ ยังมีอยู่อีก ก๊อปยังไง ช่วย แสดง คคห. บ้างก็ดีน่ะ จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 18:11:18 A:183.89.249.188 X: TicketID:255467

ความคิดเห็นที่ 61 ของจากจีนชักน่าสนใจนะครับผมว่า จากคุณ : jubchay เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 21:01:30

ความคิดเห็นที่ 62 ... #60...ลืมแล้วหรือ... ข้อเท็จจริง (Fact)...ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ภาพลักษณ์ (Image) และการรับรู้ของสาธารณะ (Public Awareness) .... สำคัญกว่า ... จากคุณ : First In, Last Out เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 23:17:49

ความคิดเห็นที่ 63 อืม ถ้าบอกว่าก๊อป มันควรจะเหมือนกันอย่างกับแกะ มองผิวเผินแยกไม่ออก อย่างกระเป๋าแบรนด์เนมก๊อป (ต่างแค่วัสดุที่ใช้) แต่ถ้าเอาสองรุ่นนี้มาเทียบ คนที่รู้จักเครื่องบินรบดี มองปุ๊บจะรู้ว่าอันไหน F-22 อันไหน  J-20 นอกเสียจากอคติส่วนตัว คือรู้ว่ามาจากจีนคิดไว้ก่อน หาเหตุผลมาหักล้างว่าก๊อปแน่ แต่ถ้าการรับรู้แบบนี้ เช่นมีบางส่วนที่คล้ายกัน จะมองว่าก็อปหมด ถ้างั้น โทรทัศน์แอลซีดี คอมพิวเตอร์โน้ตบุค โทรศัพท์จอสัมผัส(แบบไอโฟน ซึ่งทุกยี่ห้อหน้าตาแบบเดียวกันหมด) ก็ถือว่าก๊อปกันล่ะสิ จากรูป ซ้าย J-20 ขวา  F-22 เหมือนกันอย่างกับก๊อปจิงหรอ จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 08:30:32

ความคิดเห็นที่ 64 ล่องหนกันจริงรึเปล่า ไม่รู้ แต่การช่วงชิงความได้เปรียบเรื่องภาพลักษณ์ใน Gen.5 ของ บ.ขับไล่ น่าสนุกขื้นมาก เพราะ รัสเซีย กับ จีน โดดมาเล่นด้วยเต็มตัว จากแต่ก่อน อเมริกา ออกข่าวอยู่ฝ่ายเดียว จากคุณ : buddybulldog เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 09:51:19

ความคิดเห็นที่ 65 "โทรศัพท์จอสัมผัส(แบบไอโฟน ซึ่งทุกยี่ห้อหน้าตาแบบเดียวกันหมด) ก็ถือว่าก๊อปกันล่ะสิ" ใช่ครับ ตอนนี้แอปเปิ้ลไล่ฟ้องละเมิดสิทธิบัตรอยู่ครับ จากคุณ : นักล่าภาพ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 13:29:15

ความคิดเห็นที่ 66 ถ้ามองจากรูปลักษณ์ภายนอกในรูป63 ไม่ copy นะครับเป็นการประยุกต์ซะมากกว่า ว่าแต่ไอ้ J-20. นี่ราคามันต่างกับ T-50. F-22. เยอะไหม ถ้ามันใช้อาวุธ NATO ได้และใช้ระบบเลดาห์ ร่วมกับที่เรามีอยู่ได้ก็น่าสนใจเหมือนกัน ดีกว่าใช้เครื่อง รัสเซียนิดนึง (ไม่ใช่ประสิทธิภาพดีกว่านะเพราะไม่ทราบเรื่องนี้) แต่ในแง่ยุทธวิธีคิดว่า รอบๆบ้านที่มีโอกาสจะมีการปะทะกับเราเขาใช้เครื่องรัสเซียมานานแล้ว รู้จุดแข็งจุดด้อยรู้อะไรทางเทคนิคมากกว่า จากคุณ : O (Jakkadem1) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 14:02:29

ความคิดเห็นที่ 67 ความคิดเห็นที่ 62 //ข้อเท็จจริง (Fact)...ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ภาพลักษณ์ (Image) และการรับรู้ของสาธารณะ (Public Awareness) .... สำคัญกว่า// . . . มันเหมาะคนที่ไม่มีความรู้ และไม่คิดฝักใฝ่หาความรู้ครับ (ไม่รู้ไม่แปลก แต่พวกที่ไม่ใฝ่หาความรู้นี่ไม่ไหว) แต่สำหรับ ผู้มีปัญญา ข้อเท็จจริง (Fact) สำคัญเสมอ นอกเสียจาก อคติจนตามืดบอดครับ **ขอแค่นี้ และไม่เถียงเรื่องพวกนี้อีกครับ ไม่มีประโยชน์ *** **และประเด็นเรื่อง ก๊อป ถ้าใครอ่าน ต้นฉบับของ Thread ผมแล้ว ผมคิดว่า ถ้าคุณไม่อคติบังตาจริงๆ คง พบคำตอบได้ครับ นอกเสียจากเป็นคนที่คอยแต่รอรับ ที่เขาป้อนอย่าง //ภาพลักษณ์ (Image) และการรับรู้ของสาธารณะ (Public Awareness)// ต่อไป โดยไม่สงสัยข้อเท็จริงเลย เราก็เป็นแค่ ผู้ใช้ ผู้ซื้อ อย่างเดียว แต่ถ้าคุณ เป็นคนที่กล้าที่จะรับรู้ ข้อมูลใหม่ ที่มีข้อมูล เทคนิคสนับสนุน เอาแนวทางของเขา มาเรียนรู้ ถ้าเป็นอย่างนี้ ผมก็ก็ยินดีที่เอาข้อมูลมาเผยแพร่*** จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 14:05:55 A:183.89.249.188 X: TicketID:255467

ความคิดเห็นที่ 68 ขออีกหนิด ถ้าใครว่าเขาก๊อป ช่วยไปอ่าน ต้นฉบับของ Thread ของผม อ่านน่ะครับ ไม่ใช่ดูแต่รูป อย่างเดียว ช่วยอ่าน และคิดตาม และเข้าไปดู link ประกอบ การอ่านเยอะ ทำให้เรารู้ และเข้าใจโลกครับ... แล้วค่อยมาออกความเห็น (หลายคห. รู้เลยว่าไม่ได้อ่าน) ถ้าทำอย่างนี้ Forum นี้ก็น่าสนใจมากครับ จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 14:10:09 A:183.89.249.188 X: TicketID:255467

ความคิดเห็นที่ 70 ... คนในประเทศนี้มีราวๆ 70 ล้านคน คนที่สนใจเรื่องเครื่องบินขับไล่ Gen 5...จะมีซักกี่คนกันพ่อคู๊นนนน ...เอาเวลาไปทำมาหากิน...เกิดประโยชน์กว่าแยะเชียว...จริงๆนะ ... จากคุณ : First In, Last Out เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 21:03:33

ความคิดเห็นที่ 71 มันก็งานอดิเรกครับ ไม่ทำมาหารับประทาน ก็ลำบากแย่ ใครใคร่สนใจ ก็ตาม ถนัดครับ จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 14:17:35 A:183.89.249.188 X: TicketID:255467