ความคิดเห็นที่ 1 พลังงานหมุนเวียน มีพอหรือไม่ พลังงานหมุนเวียนหมายถึงพลังงานที่เราสามารถนำใช้ได้เรื่อยๆเสมือนไม่มีวันหมด นั่นคือพลังงานที่มีแหล่งต้นมาจากดวงอาทิตย์ ซึ่งอาจนำใช้ได้โดยตรง เช่นกรณีของพลังงานแสงอาทิตย์ หรือใช้ผลทางอ้อมอย่างพลังงานลมหรือพลังงานคลื่น และยังมีการนำใช้ทางอ้อมอีกรูปแบบหนึ่งคือการใช้ชีวมวลที่ได้จากการที่พืชจับพลังงานจากดวงอาทิตย์ด้วยกระบวนการสังเคราะห์แสงและเก็บไว้ในรูปของเซลลูโลส ในการตอบคำถามนี้ ผมอ้างข้อมูลพื้นฐานจากบทความเรื่องภาวะโลกร้อนภาคทฤษฏี[5] พลังงานจากดวงอาทิตย์ที่ตกถึงพื้นโลกมีความเข้มของพลังงานที่ 1,323 W/m2 ที่ค่าสูงสุดของวัน และค่าเฉลี่ยตลอด 24 ชั่วโมงจะอยู่ที่ 248 W/m2 คิดเป็นพลังงานคือ 0.0214 กิกะจูลต่อวันต่อ ตารางเมตร การใช้พลังงานของประเทศไทยอยู่ที่ 12 ล้านกิกะจูลต่อวัน ในปี 2010 และต่อให้ขยายการใช้เป็น 2 เท่านั้นคือ 24 ล้านกิกะจูลต่อวัน **ซึ่งนั่นก็คือเราต้องการพื้นที่เพียง 570 ล้านตารางเมตร หรือแค่ 3 แสนกว่าไร่เท่านั้น จากพื้นที่ 300 ล้านไร่ของประเทศไทย เรื่องพื้นที่ เรามีเหลือเฟือในแง่จะจัดมาใช้งานในส่วนนี้ และถึงแม้ ในกรณีที่เราคิดประสิทธิภาพการเก็บพลังงานนี้อาจต่ำเพียง 10% นั่นก็คือพื้นที่เพิ่มจาก 3 แสนไร่เป็น 3 ล้านไร่** ดังนั้นในแง่ของพื้นที่ประเทศกับกำลังการใช้ เรามีพื้นที่พอ และพื้นที่ไม่ใช่ข้อจำกัดของพลังงานหมุนเวียน ============================================ **แก้ไขตามคุณ Sb*star** เมื่อ   248 W/m2 คิดเป็นพลังงานคือ 0.0214 GJ/day/m2 12 ล้านกิกะจูลต่อวัน   เทียบเท่าความต้องการกำลัง   140000  MW ต้องใช้พื้นที่ ในการรับแสงแดด  561 ล้านตารางเมตร หรือ เท่ากับ 350000 ไร่ ถ้า 24 ล้านกิกะจูลต่อวัน     ก็ต้องใช้พื้นที่  700000 ไร่ ถ้า ประสิทธิภาพการเก็บพลังงานนี้อาจต่ำเพียง 10%   ต้องใช้  7  ล้านไร่ ============================================ รูปที่ 2: แสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงยังโลก แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 54 09:06:35 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:53:58

ความคิดเห็นที่ 3 เศรษฐศาสตร์ของโซล่าเซลล์ แม้จะมีคนพูดถึงการพัฒนาประสิทธิภาพของโซล่าเซลล์ ในอนาคต แต่ถ้าดูจากกราฟ[6] เราจะพบว่า อย่างดี เราก็อาจต้องรออีกประมาณ 10 ปี ราคาของมันจึงจะประมาณเท่าราคาไฟฟ้าของวันนี้ (โดยที่เราพูดถึงการใช้งานแบบ On-Grid เท่านั้น) ถ้าเราจะพูดถึงการเก็บประจุไว้ใช้ด้วย เราอาจต้องรอจนกว่าเทคโนโลยีตัวเก็บประจุทำได้ถูกมากๆ หรือค่าพลังงานแพงมากๆ ซึ่งกรณีของประเทศไทยที่รัฐบาลเรามีนโยบายรักษาฐานเสียงก่อน อนาคตชาติทีหลัง (ซึ่งก็เป็นอย่างนี้มาตลอด) ผมเชื่อว่ากว่ารัฐบาลจะขึ้นค่าไฟฟ้าก็คงต้องรอเงินกองทุนน้ำมันหมดก่อน ซึ่ง มันก็สายเกินไป รูปที่ 4: ราคาต่อ kWh ของ ระบบการผลิตไฟฟ้าด้วยโซล่าเซลล์ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:56:13

ความคิดเห็นที่ 4 การเก็บพลังงานที่ได้จาก โซล่าเซลล์ เราจะไม่พูดถึงระบบโซล่าเซลล์แบบ On-grid ไว้ตรงนี้ เพราะเหตุผลคือเราจะถกกันเรื่องการใช้พลังงานทดแทนที่ 100% ดังนั้นการสะสมพลังงานไว้จำเป็นต้องมี การสะสมพลังงานไว้ในแบตเตอรี่เป็นสิ่งที่จะทำให้ราคาไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มีราคาสูงมากๆ แต่ทั้งนี้แม้การเก็บพลังงานโดยประจุในแบตเตอรี่จะไม่คุ้มค่า สำหรับการผลิตไฟฟ้าด้วยระบบโซล่าเซลล์ การเก็บสะสมพลังงานไว้ใช้ที่น่าสนใจได้แก่การใช้โซล่าเซลล์ในการปั๊มน้ำขึ้นเชื่อนเก็บไว้ในลักษณะพลังงานศักย์ เรียกว่าใช้งานร่วมกับระบบ Pump Storage [7] และเมื่อจะใช้งานก็ปล่อยน้ำลงมาแปลงเป็นพลังงานกลผลิตกระแสไฟฟ้า ระบบตรงนี้ทำให้การเก็บพลังงานด้วยระบบโซล่าเซลล์มีราคาถูกกว่าการใช้แบตเตอรี่มาก แต่โดยปริมาตรแล้ว น้ำปริมาตร 3.7 ลบม ที่เก็บที่สูง 100 เมตร จึงจะมีพลังงานศักย์เพียงพอใช้ผลิตไฟฟ้าได้ 1 kWh จะสำรองไฟให้บ้านใช้ 1 หลังเป็นเวลา 1 เดือน (ประมาณ 300 kWh) ก็ต้องใช้น้ำปริมาตรประมาณ 1 ล้านลบม เก็บที่สูง 100 เมตรเลยทีเดียว รูปที่ 5: ระบบ Pump Storage ของ Raccoon City เอ๊ย Raccoon Mountain[8] จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:56:42

ความคิดเห็นที่ 5 พลังงานแสงอาทิตย์แบบ Solar Thermal Solar Thermal นั้นเป็นการนำความร้อนสัมผัสของแสงแดดไปใช้งาน ทั้งในรูปทางตรงและทางอ้อม เช่นใช้ต้มน้ำปั่น Turbine ผลิตกระแสไฟฟ้า ตัว Solar Thermal นั้น เทคโนโลยีที่ต้องใช้ต่ำกว่า Photo Voltaic มาก โดยข้อจำกัดของ Solar Thermal จะเป็น Economy of scale การลงทุน Solar Thermal จำเป็นต้องมีระบบที่ใหญ่ รูปแบบของ Solar Thermal ที่ใช้ในปัจจุบันได้มีแบบระบบ Parabolic ที่รวมศูนย์ความร้อนไปให้ความร้อนกับน้ำมันเพื่อใช้ต้มไอน้ำ ระบบแบบ Tower ที่รวมศูนย์ความร้อนไว้ที่หอความร้อน ระบบ Dish ที่พัฒนาขึ้นมาเล็กลง และยังสร้างความร้อนได้สูง ซึ่งก็จะให้ประสิทธิภาพเชิงพลังงานที่สูงกว่า[9] รูปที่ 6: ระบบ Solar Thermal แบบ Parabolic ในหนังเรื่อง Gattaca จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:58:18

ความคิดเห็นที่ 6 อันนี้ ฉากจากในหนัง Gattaca จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:58:55

ความคิดเห็นที่ 7 เศรษฐศาสตร์ของ Solar Thermal ส่วนประกอบของ Solar Thermal นั้นแพงเพราะราคา Utility ที่ใช้ประกอบ สำหรับโรงไฟฟ้า Solar Thermal ขนาด 200 MW จะมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 10 C/kWh แต่อาจถูกกว่า 6 C/kWh ได้ถ้าขนาดของ Power Plant เกิน 10,000 MWh [10] โดยตรงนี้เราพูดแค่ในเทคโนโลยีปัจจุบัน ซึ่งแสดงว่าเราสามารถทำได้ถูกกว่าการผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซธรรมชาติแล้ว ติดอยู่แค่เรื่องขนาดของโครงการเท่านั้นเอง รูปที่ 7: Economy of Sclae ของระบบ Solar Thermal สำหรับกรณีที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับปรกติ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 11:59:51

ความคิดเห็นที่ 8 การเก็บพลังงานที่ได้จาก Solar Thermal การเก็บพลังงานความร้อนจาก Solar Thermal เราไม่จำเป็นต้องแปลงไปเก็บในรูปแบบไฟฟ้า แต่เราสามารถจัดเก็บได้ในรูปความร้อนโดยใช้ Heat of Fusion ของเกลือหลอมเหลว ซึ่งสามารถออกแบบให้ปั๊มไปเก็บได้ในห้องฉนวนใต้ดินของโรงไฟฟ้าแบบ Solar Thermal [11] ทำให้ โรงไฟฟ้าแบบ Solar Thermal สามารถสำรองความร้อนไว้ผลิตไฟฟ้าในช่วงกลางคืน และทำให้มันมีความเสถียรที่จะใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิสได้ดีพอสมควร แต่ทั้งนี้ ตัว Solar Thermal ก็ยังเก็บความร้อนไว้คุ้มได้แค่ประมาณ 1 – 2 วัน ซึ่งในประเทศเราที่มีวันครึ้มฟ้าครึ้มฝนได้หลายวัน ตัว Solar Thermal ก็คงนำใช้ได้ แต่ก็ต้องมีพลังงานหลักที่จะสำรองเผื่อไว้อยู่ดี รูปที่ 8: แบบ Molten Salt Storage ของโรงไฟฟ้า Solar Thermal ของ California [12] จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 12:00:41

ความคิดเห็นที่ 9 พลังงานจากลม พลังงานลมเป็นพลังงานที่ทำให้คุ้มได้มาหลายสิบปีแล้ว และอาจเรียกว่าเป็นพลังงานจากแสงอาทิตย์รูปแบบแรกๆที่มนุษย์ชาตินำมาใช้งาน พลังงานลมมีรากฐานมาจากอุณหภูมิสัมผัสจากแสดงอาทิตย์บนพื้นที่ๆแตกต่างก่อความแตกต่างของความกดอากาศเป็นกระแสลม  มันก็คือการใช้พลังงานแสงอาทิตย์โดยทางอ้อมอย่างหนึ่ง และปริมาณพลังงานลมที่มีนำใช้ได้ก็จะจำกัดโดยพลังงานแสงอาทิตย์เช่นกัน แต่จะมีแง่มุมของสภาพภูมิประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย รูปที่ 9: Wind farm จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 12:01:21

ความคิดเห็นที่ 10 เศรษฐศาสตร์ของ Wind Farm พลังงานลมสามารถใช้งานคุ้มได้ในหลายพื้นที่ของโลกที่มีความเร็วลมที่สูงในระดับที่สม่ำเสมอ เหตุเพราะว่า ประสิทธิภาพการผลิตกระแสไฟฟ้าจากลม ต้องการความเร็วลมขั้นต่ำอยู่ที่เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 4 เมตรต่อวินาที ซึ่งจากกราฟข้างล่าง จะเห็นว่าถ้าความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 4 เมตรต่อวินาทีขึ้นไป ด้วยราคาไฟฟ้า ณ ปัจจุบัน พลังงานไฟฟ้าที่จะได้ + กำไรก็ยังคุ้มค่าต่อการนำมาใช้ รูปที่ 10: ราคาต่อหน่วยไฟฟ้าที่ความเร็วลมเฉลี่ยต่างๆ อ้างอิงจากราคาและประสิทธิภาพกังหันลมที่มีอยู่ในมือ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 12:02:15

ความคิดเห็นที่ 11 เศรษฐศาสตร์ของ Wind Farm ในประเทศไทย ประเทศไทยเรามีพื้นที่เล็กๆแค่ไม่กี่ที่ บริเวณที่เป็นหุบเขาที่จะมีลมพอจะปั่นไฟฟ้าได้ พลังงานลมแบบ Grid ขนาดใหญ่ ไม่เหมาะสำหรับประเทสไทย สำหรับกังหันลมที่ Speed ต่ำเช่นผลิตไฟฟ้าได้ที่ 3m/s ต้องระวังให้ดี การเปลี่ยนของทิศทางลมมันก็จะเสียโมเมนตัมไป ท้ายสุดก็ผลิตไฟฟ้าไม่ได้ ถ้าเป็นกังหันแบบแนวตั้ง ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนทิศทางลม แต่ราคา มันก็จะกระโดดไปมากกว่า 2 เท่าของกังหันแบบแนวนอน รูปที่ 11: แผนที่ศักยภาพพลังงานลม[13] นำมาเทียบกับประสิทธิภาพของกังหันลมขนาด 500 Watt ที่มีอยู่ในมือ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 12:02:47

ความคิดเห็นที่ 12 พลังงานจากชีวมวล สิ่งมีชีวิตบนโลกใช้ประโยชน์จากพืชเป็นแหล่งพลังงาน ซึ่งพืชสามารถกักเก็บพลังงานจากดวงอาทิตย์ได้ด้วยกลไกทางชีวภาพโดยเราแทบไม่ต้องใช้เทคโนโลยีอะไรเข้ามาเกี่ยวข้องเลย พลังงานจากชีวมวลเป็นพลังงานที่สามารถนำใช้ได้อย่างคุ้มค่าที่สุดด้วยกลไกที่ธรรมชาติให้ไว้ในสิ่งมีชีวิต แต่มันก็มักเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามมากที่สุด ทั้งๆที่เทคโนโลยีที่จะใช้เปลี่ยนชีวมวลเป็นพลังงานมันก็คือ Boiler ธรรมดาๆที่ใช้กับเชื้อเพลิงฟอสซิสเท่านั้นเอง รูปที่ 12: หารูปที่เกี่ยวกับพลังงานชีวมวลที่ถูกใจไม่ได้ งั้นเอา Steam engine มาแปะแทนก็แล้วกัน :P จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 12:04:32

ความคิดเห็นที่ 13 เศรษฐศาสตร์ของ พลังงานชีวมวล ในปัจจุบันเรามีการใช้พลังงานจากชีวมวลทั้งในระดับครัวเรือนเช่นการใช้ถ่านไม้ หรือในภาคขนส่งเช่นการใช้ Gasohol หรือ น้ำมันไบโอดีเซล ซึ่งเป็นการแปรรูปชีวมวลให้เข้ากับระบบเครื่องจักร ณ ปัจจุบัน แถมผลิตผลเกษตรเหล่านี้ มีมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์ในฐานะอาหารด้วย ราคาของมันจึงดูแพงกว่าที่ควรจะเป็น (ถ้าหากเรามาเริ่มต้นสร้างโครงสร้างทางเศรษฐกิจกันใหม่มันสามารถทำให้ถูกกว่านี้ได้ตามหลัก Economy of Scale) ในที่นี้ พลังงานชีวมวลที่ถูกที่สุดที่สามารถทำในระดับ Mass Production ก็คือการใช้พลังงานจากไม้ และการแปรรูปไม้ให้เป็นน้ำมัน ซึ่ง มันคุ้มค่าอยู่แล้วในปัจจุบัน รูปที่ 13: เปรียบเทียบความคุ้มค่าเชิงพลังงานของเชื้อเพลิงชีวมวล (ไม้ และ Pyrolysis Oil) อ่านต่อได้ที่ใน Blog ของผมครับ [14] จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 12:05:35

ความคิดเห็นที่ 14 ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมของ ชีวมวล ชีวมวลสามารถเก็บได้ด้วยการกองเก็บ หรือถ้าเป็น Pyrolysis Oil ก็เก็บเหมือนน้ำมันเตาซึ่งมีความสะดวกเหมือนเชื้อเพลิงฟอสซิล แม้แต่ปัญหาของการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลก็ยังเหมือนเชื้อเพลิงฟอสซิล คือมันต้องมีระบบบำบัดที่ดี โรงไฟฟ้าที่ใช้ชีวมวลได้ก็ย่อมจะใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลได้ ดูได้จาก Spec ใน ref [15] เพราะเชื้อเพลิงชีวมวลอย่าง Wood Chip ก็จะมีสมบัติใกล้เคียง (หรือเลวกว่า) ลิกไนต์ซึ่งเป็นถ่านหินชั้นเลว ปัญหาของโรงไฟฟ้าแม่เมาะก็เป็นปัญหามาจากการล้มเหลวของระบบบำบัด ร่วมกับปัญหาการทำ EIA ไม่ได้ศึกษาไปถึงสภาพภูมิประเทศที่ทำให้เกิดสภาพอากาศปิดได้ง่าย [16]  และตราบที่ยังไม่อาจมีความมั่นใจในหน่วยงานของรัฐ (หรือเอกชน) ที่ดำเนินการโรงไฟฟ้าชีวมวล ไม่มีการจัดพื้นที่ Zoning การเกษตรอื่นๆและชุมชนอื่นๆออกจากพื้นที่โรงไฟฟ้าชีวมวล มันก็จะมีความเสี่ยงในการเกิดปัญหามลพิษ และปัญหาทางสุขภาวะของคนในพื้นที่ได้อยู่นั่นเอง รูปที่ 14: โรงไฟฟ้าแบบ Coal fire ซึ่งก็เป็นรูปแบบเดียวกับโรงไฟฟ้าชีวมวล จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 12:06:02

ความคิดเห็นที่ 15 โดยสรุป จากที่ได้จัดทำ Review เทคโนโลยีพลังงานทดแทนออกมา น่าจะให้ความกระจ่างได้ว่า ในอนาคต เมื่อเชื้อเพลิงฟอสซิลหมดไป เรายังสามารถใช้พลังงานทดแทนได้ โดยเฉพาะในส่วนของพลังงานชีวมวล เราไม่ได้มีข้อจำกัดว่าจะต้องใช้แต่ Solar Cell หรือ ทำ Wind Farm และสามารถทำได้ในราคาที่ถูกพอและปริมาณที่มากพอจะทดแทนการใช้งานได้ทั้งประเทศ แต่ทั้งนี้ ปัญหาจริงๆของพลังงานทดแทนจะอยู่ที่เงื่อนไขเวลาที่ใช้ในการพัฒนา จากเริ่มแรก เราควรต้องรู้แล้วว่า โซล่าเซลล์ และพลังงานลม ไม่ใช่พลังงานแห่งอนาคตของไทย พลังงานลมจะพอใช้ได้ก็จำกัด (คล้ายกับเงื่อนไขพลังงานน้ำเช่นกัน) การทำ Solar Thermal power plant ก็จะต้องใช้พื้นที่มาก และแม้จะสามารถกักเก็บพลังงานไว้ใช้ภายหลังได้ มันก็ยังไม่เสถียรพอจะใช้เป็นพลังงานหลักเหมือนชีวมวล มันอาจนำใช้ในลักษณะพลังงานเสริม การจะจัดให้มีพลังงานชีวมวลที่เพียงพอ ยังต้องมีการจัดการทำ Zoning มีการจัดสร้างโรงไฟฟ้าและมีการพัฒนากระบวนการ Oleochemical [17] เพื่อจะมาทดแทน Petrochemical ที่เราคุ้นเคย มันคงไม่ใช่ระยะเวลาแค่ ปีหรือสองปี แต่มันอาจใช้เวลานับสิบปี ถ้าเริ่มจากปัจจุบัน การทำความเข้าใจกับชาวบ้าน การจัดทำ Zoning พื้นที่ ให้เร็วที่สุดก็ไม่ควรเร็วไปกว่า 5 ปี มิฉะนั้นถ้ามันเจอกับกรณีความผิดพลาดอย่างโรงไฟฟ้าแม่เมาะ มันก็จะแท้งไปอีกยาว การรวบรวมจัดทำงบประมาณเพื่อปลูกป่าเศรษฐกิจโดยมีผลกระทบกับป่าถาวรให้น้อยที่สุดก็ต้องใช้เวลา การจัดเตรียมแหล่งน้ำก็ต้องใช้เวลา มันไม่ใช่ระบบที่สามารถทำเสร็จ Compact ในตัวเองเหมือนพลังงานนิวเคลียร์ ผมเอง อยากจะเชื่อว่า ถ้าประเทศเราเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน ไปสู่จุดหมายของป่าเศรษฐกิจสำหรับเชื้อเพลิงชีวมวล เราอาจไม่ต้องพึ่งพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ในระหว่างที่เรากำลังค่อยๆปรับสร้างพลังงานทดแทนขึ้นมา แต่ ตามข้อเท็จจริง มันไม่ใช่อะไรที่ง่าย และเร็วขนาดนั้น สุดท้ายนี้ สิ่งที่ผมหวังเป็นอย่างยิ่ง ผมอยากให้ทุกท่านที่กลัวพลังงานนิวเคลียร์ แทนที่จะต้าน เรามาช่วยกันสนับสนุนพลังงานทดแทนให้มันเกิดขึ้นจะดีกว่า การต้านพลังงานนิวเคลียร์ไม่ใช่การทำให้พลังงานทดแทนเกิดขึ้นได้ มีแต่การช่วยกันคิด ช่วยกันสร้าง ช่วยกันผลักดันไปยังพลังงานทดแทนเท่านั้น ที่จะทำให้ท้ายสุด เราสามารถก้าวช้ามช่องว่างที่แสนห่างไกลโดยไม่ต้องพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ อ้างอิง [1] http://www.iaea.org/Publications/Booklets/GreenhouseGas/greenhousegas.pdf [2] http://www.eppo.go.th/power/powerplant/4-ng.html [3] http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009/08/X8186084/X8186084.html [4] http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2011/03/X10313452/X10313452.html [5] http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2010/04/X9132979/X9132979.html [6] http://iqsoft.co.in/wordpress/?p=1074 [7] http://en.wikipedia.org/wiki/Pumped-storage_hydroelectricity [8] http://en.wikipedia.org/wiki/Raccoon_Mountain_Pumped-Storage_Plant [9] http://en.wikipedia.org/wiki/Solar_thermal_energy [10] http://www.solarpaces.org/Library/docs/STPP%20Final%20Report2.pdf [11] http://en.wikipedia.org/wiki/Thermal_energy_storage#Molten_salt_technology [12] http://www.gizmag.com/california-first-molten-salt-solar-power-plant/17298/ [13] http://www.dede.go.th/dede/images/stories/windmap53/531112%20Windmap_Thailand_90%20m.pdf [14] http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=whatsoevermization&month=31-08-2011&group=4&gblog=7 [15] http://www.energyproducts.com/fluidized_bed_boilers.htm [16] http://std.kku.ac.th/4730411076/maemoh/envor.html [17] http://en.wikipedia.org/wiki/Oleochemical พลังงานหมุนเวียนนั้นจริงๆก็ยังมีตัวเลือกมากกว่าตัวอย่างที่นำมาพิจารณาในกระทู้นี้ เช่นกรณีของ Geothermal พลังงานน้ำจากเชื่อน หรือพลังงานคลื่น ซึ่งก็จะมีข้อจำกัดต่างออกไปอีก แต่ขืนเขียนกันให้ครบ มันก็คงจะต้องเขียนกันอีกหลายเดือน และตาดาร์ธ ไม่ไหวแล้ว เขียนแค่นี้ก็เหงื่อตกกีบ เบียดบังเวลาทำงานไปหลายอยู่ ก็ขอปิดโครงการ Review แค่นี้ละกันละครับ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 12:07:04

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณค่ะ   แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 54 13:53:50 จากคุณ : gift is a present เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 13:08:15

ความคิดเห็นที่ 17 เท่าที่อ่านดูแล้ว ผมว่า น่าใช้พลังงาน solar thermal ในวันที่ฟ้าโปร่ง และเผาผลาญชีวมวลเสริม ในวันที่เมฆมาก แล้วทำตัวสะท้อน/หักเหแสง แบบลอยฟ้าได้ไหมครับ ให้มันลอยสูงเหนือเมฆ รวมแสงความเข้มข้นสูงแล้วสะท้อน/หักเห มาที่ฐานบนพื้นอีกที เมฆที่โดนแสงความเข้มสูง มันจะระเหยไปจนเป็นรูให้แสงลงมาได้ไหม จากคุณ : ผลึกความคิด เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 13:21:59

ความคิดเห็นที่ 18 พลังงานใต้พิภพหล่ะครับ sustainable พอมั้ย จากคุณ : bakasama เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 13:44:04

ความคิดเห็นที่ 19 สงสัยกิ้ฟจะหมดไวเกินไปล่ะ มีแต่กระทู้คุณภาพสัปดาห์นี้ จากคุณ : ค้างคาวเฒ่า เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 14:08:55

ความคิดเห็นที่ 20 : ) จากคุณ : nasaseria เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 15:08:24

ความคิดเห็นที่ 21 พอพูดถึงพลังงานทดแทน เห็นมีแต่พูดกันว่า ไม่คุ้มๆๆๆๆๆๆๆ ... เฮ้อ แล้วมันจะเกิดได้ยังไง นั่งรอแต่พลังงานนิวเคลียร์ อย่างน้อยผมก็ขอตากผ้าด้วยพลังงานแสงแดดแทนเครื่องอบผ้า จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 15:46:08

ความคิดเห็นที่ 22 Somewhere in Thailand. Renewable energy. :) จากคุณ : ฟ้ายังมีหม่น ฝนยังมีวันแล้ง (ตุ้มเม้ง เชียงใหม่) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 16:28:03

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่ใช่ไม่อยากทำ การไฟฟ้าไทยอยากทำมากแต่ชาวบ้านไม่เอา กังหันเหรอไม่เอาเสียงดัง ยิ่งตัวใหญ่ยิ่งกลัวไปใหญ่(แต่จริงๆมันไม่ได้ดังอย่างที่คิด) หลังงานแสงอาทิตย์เหรอ ไม่เอา ต้องตัดไม้จำนวนมากเพื่อทำเป็นลานโล่ง เดี๋ยวพื้นที่จะแห้งแล้ง รวมเข้ากับตอนนี้ยังหาจุดคุ้มทุนยากอยู่ด้วย(เพราะมันแพง) พลังงานน้ำ ไม่เอาเขื่อน!!! พลังงานนิวเคลียร์ ไม่เอานิวเคลียร์!! พอส่งเรื่องไปที่รัฐ รัฐถามชาวบ้านแล้วไม่เอา รัฐก็ต้องไม่ทำ แล้วเราก็ซื้อไฟใช้ต่อไปสบายใจ จากคุณ : ออกกำลัง เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 16:55:08

ความคิดเห็นที่ 24  ผมเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพราะมองไม่เห็นทางอื่นๆในตอนนี้ แต่หากการนำพลังงานทดแทนมีแผนการพัฒนาและนำมาใช้ได้จริง ผมก็พร้อมที่จะสนับสนุนพลังงานทดแทนมากกว่าพลังงานนิวเคลียร์  จากคุณ : เกิดในที่สว่าง เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 16:56:46

ความคิดเห็นที่ 25 สำหรับ NGO ต้องถ่านหินกับเผาขยะครับถึงจะพอใจ จากคุณ : Spa-zi-ba เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 17:30:08

ความคิดเห็นที่ 26 ตามคุณดาทมาตอบในนี้นะครับ ที่คุณดาทบอกว่า Geothermalเหมือนการดึงพลังชีวิตของโลกมาใช้นั้น ผมอยากให้เรามองไปในทางConverมากกว่าConser ยังไงๆเราก็ไม่มีทางกักเก็บพลังงานความร้อนใต้พิภพได้อยู่แล้วมันต้องถูกปลดปล่อยออกมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่งทั้งน้ำพุร้อนและอื่นๆเราควรนำมันมาใช้อย่างคุ้มค่ามากกว่า ประเทศไทยมีแนวน้ำพุร้อนตั้งแต่เชียงไล่ลงมาถึงกาณจนบุรีเราสามารถสร้าง GeothermalPPได้จำนวนมากและทดแทนโรงไฟฟ้าได้อีกหลายโรง ถึงพลังงานไฟฟ้าที่ได้ออกมาแต่ละโรงจะไม่มากแต่ลงทุนต่ำ(กังหันลม1MW 50ล้าน GeothermalPP 1MW 15ล้าน) และราคาลงทุนที่ถุกทำให้เราสามารถสร้างได้ในจำนวนมากทดแทนโรงไฟฟ้าที่ทำให้เกิดมลพิษได้อีกมากด้วย ส่วนคนที่ห่วงเรื่องสิ่งแวดล้อมนั้นจะบอกว่าน้ำร้อนในประเทศไทยเอื้ออำนวยให้สร้างGeothermalPPแบบHot-dry rock(แบบที่ฝาง)เท่านั้น คือการต่อท่อนำน้ำร้อนขึ้นมาโดยตรงและมาแลกเปลี่ยนความร้อนกับสารเคมีและนำสารเคมีที่กลายเป็นไอไปปั่นกังหัน ส่วนน้ำร้อนที่แลกเปลี่ยนความร้อนแล้ว(ไม่ได้สัมผัสกับสารเคมี)จะมีอุณหภูมิที่ลดลงแต่ไม่มากสามารถปั๊มกลับลงไปใต้ดินได้เลย หรือจะสร้างสปาข้างๆโรงไฟฟ้านำน้ำแร่จากโรงไฟฟ้าไปใช้ในสปาก่อนปั๊มกลับลงไปก็ยังได้(ฝรั่งก็ทำแบบนี้ที่ไอซ์แลน)จะเห็นว่า Geothermal เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก ส่วนโอเชียนิคหรือพลังงานจากมหาสมุทรนั้นไม่ได้มีแค่พลังงานจากคลื่นอย่างเดียวที่นำมาผลิตไฟฟ้าได้ยังมีพลังงานจากผลต่างอุณหภูมิในแต่ละระดับความลึกของมหาสมุทร แต่ยังติดที่การจัดเก็บและนำมาใช้ของพลังงานไฟฟ้าที่ได้และความคุ้มทุนของตัวมันเองและสถาณที่และพลังงานจากน้ำขึ้นน้ำลงในทะเลและปากแม่น้ำก็ยังน่าสนใจเหมือนกัน ผมมองว่าถึงทุกวันนี้เทคโนโลยีของโอเชียนนิคทั้งหมดยังไม่มีการพัฒนาที่ดีพอแต่ผมก็ว่ามันยังคุ้มค่ากว่า Solar PV ที่แจกกันตามบ้านทั่วไปที่ทุกวันนี้กลายเป็นที่ตากปลาเค็มไปแล้ว ผมอยากให้ทุกคนมองว่าเราควรนำพลังงานมาใช้ยังไงให้เกิดประโยชน์สูงสุดมากกว่าที่จะประหยัดยังไงเพราะยังไงก็ไม่สามารถลดการผลิตไฟฟ้าลงได้อยู่แล้ว ใช่ว่าเราปิดไฟคนละดวงวันนี้เราจะช่วยชาติประหยัดได้ เพราะต่อให้เราปิดไฟคนละดวงยังไง โรงไฟฟ้าก็ยังคงเดินที่Base loadอยู่ดี(ยังไงปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้จากbase loadก็ต้องเหลือทิ้ง) การที่โรงไฟฟ้าจะตัดสินใจลดBase loadลงไม่ได้ตัดสินใจแค่ปีสองปีอย่างต่ำก็สี่ห้าปีนั่นหมายความว่าเราต้องปิดไฟคนละดวงอย่างต่ำสี่ห้าปีถึงเป็นการช่วยชาติของจริง สุดท้ายนี้ผมขอย้ำคำที่ผมเคยพูดไว้ว่า โรงไฟฟ้าไม่ใช่ตัวสร้างปัญหาคนต่างหากที่เป็นตัวสร้างปัญหา ยกตั้วอย่างที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะต่อให้กรองยังไงมันก็ต้องมีมลพิษหลุดรอดออกมาอยู่แล้ว เค้าเลยไปสร้างโรงไฟฟ้าไว้ในป่า(อ่านไม่ผิดหรอกครับ)แต่สิ่งที่เคลื่อนเข้าไปหาโรงไฟฟ้าคือตัวชุมชนหรือมนุษย์นั่นเอง อย่างโรงไฟฟ้าวังน้อยที่ทุกวันนี้รอบข้างเป็นทุ่งนา ผมเชื่อว่าอีกไม่เกิน5ปีแถวนั้นได้กลายเป็นเขตชุมชนแน่ๆ จากคุณ : ไฟข้างทาง (ไฟข้างทาง) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 17:47:53

ความคิดเห็นที่ 27 เรื่องความกลัวต่อ Geothermal นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของผมล้วนๆละครับ เพราะความรู้เรื่องผลกระทบต่อตัว Geosphere ของผมมีจำกัด สำหรับการสูญเสียความร้อนของโลก จะอยู่แค่ 0.4 W/m2 เทียบกับแสงอาทืตย์ที่ส่องเข้ามาเฉลี่ยที่ 248 W/m2 และการดึงพลังงานตรงนี้ออกมาให้เพียงพอกับประเทศไทย เราจะต้องดึงพลังงานออกมาประมาณ 0.1% ของความร้อนที่สูญเสียผ่านพื้นผิวประเทศไทยตามปรกติ ที่ Thermal efficiency 100% แต่เอาเข้าจริง อย่างเก่งมันน่าจะอยู่ที่ประมาณ 20% และเราต้องดึงความร้อนออกจากโลกที่ 0.5% ของความร้อนปรกติที่สูญเสียผ่านประเทศไทย ในพื้นที่จำกัดมากๆ แต่มันก็อาจไม่มีปัญหาอะไรเลยก็ได้ ทั้งนี้ ผมจะพอใจกับพลังงานที่เข้ามาจากอวกาศ หรือดวงอาทิตย์มากกว่าจะเอาพลังงานออกจากข้างในโลกมาใช้อย่างเป็นล่ำเป็นสัน (แต่แน่นอน แม้จะมีความเสี่ยงในการลงทุนที่ 20% แต่มันก็เป็นอะไรที่คุ้มอยู่ในปัจจุบัน) การประเมินศักยภาพว่าจะนำใช้ได้เท่าไร เป็นเรื่องสำคัญมาก ส่วนเรื่องการเก็บกักพลังงานไว้ใช้ ตรงนี้ถ้าเป็น Geothermal ไม่มีปัญหา เพราะแหล่งพลังงานมีคงที่ตลอด 24 ชั่วโมง แค่จะเติมน้ำร้อนลงไปหรือไม่ก็เท่านั้นเอง แน่นอนว่า มันไม่มีอะไรที่ไร้ผลกระทบโดยสิ้นเชิง เวลาเราพูดถึงการลงทุนด้านพลังงาน เราย่อมต้อนพูดถึงผลได้ผลเสียแทนที่จะว่าเอาแต่ได้ ปลอดภัย 100% จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 18:35:36

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ..กำลังอยากได้ไปเพิ่มเติมใน final thesis สัปดาห์หน้าพอดี ^^ จากคุณ : ต้นฝ้ายริมระเบียง เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 19:31:34

ความคิดเห็นที่ 29 เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากมหาสมุทร ปัจจุบันเริ่มสร้างและทดลองใช้จริงแล้วนะครับ เป็นพลังงานหมุนเวียนที่น่าสนใจอีกชนิดนึงเลย จากคุณ : Yugo เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 21:23:11

ความคิดเห็นที่ 30 .. พลังงานจากชีวมวล  ที่ผมเห็นว่า จะเป็นรูปเป็นร่างมากที่สุด มีวงจรชีวิตยาวนานที่สุดนั่นก็คือ พลังงาน จาก "น้ำยางพารา" ถ้าเหลือใช้จากการแปรรูปอย่างอื่น  ก็เอามาเป็นเชื้อเพลิง เหลือใช้จากเชื้อเพลิง  ก็เอาไปแปรรูปอย่างอื่น .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 22:04:52

ความคิดเห็นที่ 31 คห 30 คงหมายรวมถึงการใช้ชีวมวลทางการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพด้วยกระมัง ภาคการเกษตรของเราได้รับการปล่อยปละอีลุ่ยฉุ่ยแฉกมาตลอด และป่านนี้ก็ยังไม่มีใครมาทำ Zoning กัน มันมีศักยภาพ ถ้ามันอยู่รวมศูนย์ แต่บังเอิญมันอยู่อีลุ่ยฉุ่ยแฉกมาก เกินกว่าจะนำมาใช้ประโยชน์เป็นรูปธรรม ลองดูตัวอย่างได้ที่ http://doc-eppo.eppo.go.th/PMQA/2553/IT5(11)_ExampleGIS.doc จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 22:24:17

ความคิดเห็นที่ 32 ชีวมวลไทยอะเหลือเฟือเลย ฟางข้าว เศษไม้ใบหญ้า ขยะอินทรีย์เยอะแยะไปหมด ถ้ากลัวจะมีก๊าซมลพิษก็ใช้ gasification ก็ได้นะ ทำ biomass IGCC หรือจะให้สนุกก็เป็น IGFC ไปเลย จากคุณ : [k]atalan เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 22:26:23

ความคิดเห็นที่ 33 .. ผมหมายความ ตรงๆ ตัวเลยครับ น้ำยางพารา แปรรูปได้ ยางแผ่น ยางแผ่น  มีคุณสมบัติ เป็นเชื้อเพลิงได้  (ไม่เชื่อก็ลองเผาดูครับ) ดังนี้แล้ว แปรรูปอีกหน่อย  ให้มีคุณสมบัติเป็น น้ำ(มัน)ยาง เราก็ไม่ต้องนำเข้าน้ำมันดิบอีกต่อไป หรือถ้าจะเผาตรงๆ  เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้า ก็ทำได้ ปัญหามีแค่เพียงว่า ถ้าทำตอนนี้  ยางพารามีราคาสูง  เอาไปขายเป็นยางแผ่นดีกว่า แต่ถ้าปลูกกันเยอะมาก  ราคายางก็ตก ทำไง ไม่ให้ราคาตกเกินไป ก็เอามา (เผา) เสียให้รู้แล้วรู้รอด เผา เพื่อได้พลังงาน  ประหยัดน้ำมัน ประหยัดเงินไหลออก พอถูกเผาไปมากๆ  ราคายางก็กลับมาแพงเหมือนเดิม  มีแต่ได้กับได้ครับ .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 23:22:46

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องน่าสนใจมากๆ และน่าที่จะพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและคุ้มทุน สายลม แสงแดด แบบว่ามีมากพอที่จะให้เราใช้ประโยชน์ แต่เราก็ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์กับมันอย่างเต็มที่ (นอกจากใช้ตากผ้า ตากปลาเค็มอ่ะนะ) ^^ จากคุณ : Khamjoy เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 23:24:17

ความคิดเห็นที่ 35 คห 33 นั่นก็จะเป็นข้อจำกัดที่ทำไม่ได้นั่นละครับ เพราะเรา Design โครงสร้างการเกษตรใหม่ เราก็จะได้รับการต่อต้านอย่างรุนแรง ถ้าจินตนาการเราไปอยู่ในฐานะของรัฐบาล ผมมั่นใจว่าจะโดนม๊อบปิดเทกระจาดอยู่ไม่ไหวแหงๆ วิธีที่รอมชอมในระดับที่เป็นไปได้ก็คือไปหาพืชเกษตรตัวใหม่นั่นละครับ มันถึงมีโครงการอย่างเม็ดสบู่ดำ หรือกรณีไม้โตเร็วที่จะใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวมวล ถ้าไปยุ่งกับต้นกระดาษก็จะโดนถล่มยับ ก็ต้องหนีไปพวกไม้กระถินยักษ์เป็นต้น แต่ตรงนี้ก็ช่วยๆกันมองแหละครับ สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าข้อจำกัดก็คือการยืดถือความเชื่อโดยไม่สังเกตถึงข้อจำกัดของมัน เราเอาสิ่งที่เราคิดได้มาลองดูกัน ลองหาข้อจำกัดในทางปฏิบัติของมัน แล้วก็ลองมาคิดดูว่าเราจะอ้อมหลีกข้อจำกัดไปให้ถึงฝั่งกันได้อย่างไรดี จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 23:35:38

ความคิดเห็นที่ 36 .. พวกแสงแดด ประชาชน ไม่ได้ประโยชน์ เพราะคนที่จะผลิตได้  ก็เป็นนายทุนเท่านั้น แต่สิ่งที่ทำเงินเข้ากระเป๋าชาวบ้านได้ (ตลอดไป) คือ น้ำยาง จากต้นยางพาราครับ จะได้มากได้น้อย  ก็ได้ทุกวัน (ยกเว้น พ้นฤดูกรีดยาง) ต้นไม้ ก็ยังยืนต้นได้อีก 20-30 ปี ดูดคาร์บอนไดออกไซด์ ลดโลกร้อน หมดอายุของต้นไม้  ก็ได้เนื้อไม้ มาสร้างบ้านเรือน หรือแม้แต่เอามาเผาทำเชื้อเพลิงอีกก็ยังได้ ถ้าน้ำยาง ล้นตลาดขึ้นมาจริงๆ จะมีใครสักคน ทำให้มันเอามาเติมรถยนต์ให้วิ่งได้ ไม่แพ้น้ำมันเลย เมื่อยางราคาตก รัฐบาลประกาศออกข่าวตูมเดียว ว่าจะใช้ยางพาราครึ่งหนึ่งของที่มี เผาเป็นเชื้อเพลิง พวกต่างประเทศ ก็รีบออกมากว้านซื้อตุนไว้เพียบ  กลัวราคายางจะแพงเกิน ถ้าไม่มีใครซื้อจริงๆ ก็เผาเป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมันกันจริงๆ ไม่ต้องพึ่งชาติอาหรับเลยแม้สักหยดเดียว (ตอนนี้ ทั้งโลกติดปัญหา ใหญ่ที่สุด คือ แหล่งธาตุไฮโดรคาร์บอน ถ้ามีไฮโดรคาร์บอนไม่จำกัด เค้าสามารถเอามันมาผลิตไฟฟ้าได้หลายวิธีมาก ตั้งแต่เผาตรงๆ ไปจน ทำเป็น fuel cell ได้ไฟฟ้าออกมาเลย) .. สิ่งที่ผมพูดไป ไม่ใช่ฝัน แต่มันเป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นครับ เทคโนโลยี ที่จะเปลี่ยนจากน้ำยาง ไปเป็นพลังงานเชื้อเพลิง (เมื่อ ราคายาง มันตกลงจนถึงจุดที่ต้องนำมาใช้) จะช่วยพยุงราคายางพารา ไม่ให้ตกต่ำจนเกษตรกรอยู่ไม่ได้ เพราะมันมีทางเลือกในการนำไปใช้ประโยชน์ แต่ถ้ามันมีแค่เพียงทางเลือกเดียว คือ เอาไปทำยางรถยนต์ (และ ผลิตภัณฑ์อื่นที่คล้ายกัน) เพียงเท่านั้น จะทำให้เกษตรกร  เป็นผู้เสียเปรียบ  จากผู้กำหนดราคา แต่ถ้ามันมีทางเลือก แม้เพียงช่องทางหนึ่ง มันจะเป็นการลด supply   โดยอัตโนมัติ ชาวบ้านอาจจะไม่รวย  แต่ชาวบ้านจะไม่จนครับ ไม่เหมือนทุกวันนี้  ปตท. รวย  แต่ชาวบ้านจน  เพราะทนเติมน้ำมันแพงๆ ฝ่ายเดียว จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 23:48:57

ความคิดเห็นที่ 37 .. ในกรณีที่ว่า  โดนชาวบ้านประท้วง ผมไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นครับ เพราะ สิ่งที่ทำนั้น  เพื่อพวกเขาโดยตรง ยกตัวอย่าง มันสำปะหลัง ที่เอามาทำแก๊สโซฮอล์ มันทำให้ราคามันสำปะหลัง พุ่งขึ้นได้ เพราะมันมีทางเลือกให้ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าเดิมครับ ใครล่ะครับ จะมาประท้วงเพื่อให้ราคามันสำปะหลังตกลงไป เหมือน ผมปลูกมะม่วง เดิมอาจจะขายกินสดๆ แต่พอมีพ่อค้า  เอามะม่วงมาแปรรูป  ทำเป็นมะม่วงแช่อิ่ม ในฐานะที่ผมเป็นคนปลูกมะม่วง ผมจะไปประท้วงโรงงานแปรรูปไหม ก็ในเมื่อเขาช่วยสร้างตลาดให้ผม ดีเสียอีก ที่ผมจะสามารถมีทางเลือกที่จะขายได้หลายทาง ซึ่งนั่นเอง  เป็นสิ่งที่จะทำให้ supply ลดลง และราคาจะเพิ่มขึ้นได้ หรือแม้แต่ราคาไม่เพิ่ม แต่ผมสามารถผลิตได้มากขึ้น เพราะตลาดมีช่องทางให้ระบายสินค้าได้ ผมก็ย่อมจะมีรายได้มากขึ้น ตามผลผลิตที่มีนั่นเอง .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 00:00:14

ความคิดเห็นที่ 38 ล่าสุด... เสาไฟฟ้าแรงสูง ไม่เอา!! ผู้ว่าฯถึงกับเอ๋อเลย โรงงานผลิตไฟฟ้า ก็ไม่ให้สร้างซักอย่าง จะซื้อจากลาวก็ไม่อยากให้สร้างเสาไฟฟ้าอีก ไอ้โน่นก็ไม่เอา ไอ้นี่ก็ไม่เอา ผมว่า อนาคตประเทศไทย น่าเป็นห่วงนะครับ รัฐบาลไหนๆก็ไม่กล้าที่จะพัฒนาประเทศจริงๆจังๆซักที เพราะชาวบ้านบอกไม่เอา จากคุณ : หมาข้างถนนคนบ้าการ์ตูน เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 01:31:00

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่เอาก็เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องลงไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านล่ะครับ บางทีก็เกิดจากความไม่รู้ ไม่เข้าใจ ของชาวบ้านจริงๆ เพราะบางครั้งเวลาภาครัฐลงไปทำอะไรมักจะไม่ค่อยบอกข้อมูล หรือบอกก็ไม่บอกทั้งหมด มันเลยเกิดความไม่ไว้วางใจขึ้นมานี่ล่ะครับ จากคุณ : papos เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 08:58:32

ความคิดเห็นที่ 40 คห 37 กรณีคนปลูกมะม่วงไม่ประท้วงดันมีคนปลูกอย่างอื่นมาประท้วงนี่มี แต่ผมว่าคิดแบบคุณนี่ก็มาถูกทาง คือเริ่มแตะเรื่องการบริหาร Demand Supply และการบริหารประโยชน์ร่วม ทั้งนี้ในแง่ข้อจำกัดด้วยราคาของน้ำยางดิบ มันไม่อาจคุ้มได้ มันห่างจากราคาพลังงานเกินไป http://www.rubber.co.th/menu5.php แต่ทั้งนี้ถ้าไปจับเอาตรงน้ำมันปาล์ม มันก็พอเป็นไปได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมปัญหาเรื่องราคาไบโอดีเซลแพงจากกลไกการเรียกร้องจากฝั่งเกษตรกร การปรับสัดส่วน Economy of Scale น่าจะทำได้ แต่ภาคปฏิบัติ มันก็มีปัญหาอย่างที่เห็น ผมคืิดว่าระยะยาวมันก็ทำได้ละ แต่ จะทำได้เมื่อไรเนี่ยสิ นี่เป็นจุดหลักของปัญหา และมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้มีผู้สนับสนุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งๆที่มันมีความเสี่ยงเรื่องอันตราย การทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องพลังงานหมุนเวียนถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะต้องเอาผลประโยชน์ ข้อดีข้อเสียต่างๆขึ้นมาคุยอย่างเปิดอก ทำให้เกิดความเข้าใจให้จงได้ จะงุบงิบๆว่าเป็นพลังงานหมุนเวียนแล้วจะไม่เกิดมลพิษ จะไม่มีผลกระทบต่อกลไกการตลาด ฯลฯ มันก็คือการโกหกดีๆนี่เอง พลังงานหมุนเวียนเองแม้เราจะรู้ว่ามันมี ในปริมาณที่เพียงพอแน่ๆ เอาเข้าจริงมันก็มีประเด็นที่ผลักดันกันยากอยู่ไม่ใช่น้อยครับ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 09:17:19

ความคิดเห็นที่ 41 โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งหนึ่ง วางแผนจะใช้ทางปาล์มเป็นเชื้อเพลิง เตรียมการตั้งในพื้นที่ที่มีปาล์มเยอะ ทางปาล์มเยอะอยู่แล้ว ปกติชาวสวนปาล์มก็ปล่อยทิ้งให้มันเน่าอยู่ในสวน เอาไปใช้อะไรไม่ได้ พอลงพื้นที่ ทำ Public Participation Meeting โดนกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าในพื้นที่ข้างเคียงเข้ามาป่วน... โดยที่กลุ่มคัดค้านนั้น ประเด็นเดิมของเขาคือคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน เอริ่ม..... ต่อ ในคห. 1 พูดถึงพลังงานจากดวงอาทิตย์ที่ตกลงบนพื้นโลก... ดูเหมือนจะพอให้ใช้.. แต่ผมว่าขาดอะไรไปบางอย่าง... คือ ตัวเลขประสิทธิภาพของ Solar Cell ว่าเอาพลังงานที่ตกกระทบ แปลงออกมาเป็นไฟฟ้าได้กี่เปอร์เซ็นต์ แน่นอนว่าไม่ใช่ 100% ซึ่งตรงนี้ คือตัวแปรที่จะทำให้ 3 แสนไร่ที่ว่า กลายเป็นเท่าไรก็ไม่รู้ นอกจากนี้ 3 แสนไร่ ที่ว่า จะไปใช้ที่ "ของใคร" ครับ.. เกือบอำเภอ หรือเกือบทั้งจังหวัดเลยนะนั่น จากคุณ : Wobbegong เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 10:45:35

ความคิดเห็นที่ 42 เรื่องประสิทธิภาพของโซล่าเซลล์นี่นะครับ ประสิทธิภาพสูงราคาสูงตาม ประสิทธิภาพต่ำราคาก็ต่ำตาม ถ้าไม่เอาราคาพื้นที่มาคิดมันก็แทบจะเท่าๆกันทั้งหมดครับ ตัวเลขที่ผมใช้คือ 10% ซึ่งอยู่ในช่วงของโซล่าเซลล์ที่อยู่ในท้องตลาด และใกล้เคียงกับช่วงประสิทธิภาพการ Photosynthesis ของพืช ซึ่งขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ด้วย ตรงนี้ก็สังเกตแล้วนะครับ พื้นที่ 3 แสน หรือ 3 ล้านไร่ แค่ 0.1 หรือ 1% ของพื้นที่ในประเทศไทย แต่พอจะจัดขึ้นมาจริงๆมันก็ต้องถามอีกว่าพื้นที่ใคร ผมถึงประเมินว่ากว่าจะทำขึ้นมาได้ ถ้าไม่มีพลังงานนิวเคลียร์มาคั่นไว้มันไม่น่าจะก้าวข้ามจากเชื้อเพลิงฟอสซิสไปถึงพลังงานทดแทนไหว จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 11:38:57

ความคิดเห็นที่ 43 ชีวิตของคนกรุงกับคนต่างจังหวัดมันแตกต่างกันอย่างมากครับ คนกรุงต้องการพลังงานไปเลี้ยงตึกทั้งหลังเรื่องแสงสว่าง ความเย็น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ใช้ไฟฟ้าทั้งนั้นจึงอยากได้โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ คนต่างจังหวัดตอนกลางวันไปทำงานที่ไร่สวนแทบไม่ได้ใช้ไฟฟ้าเลยใช้ตอนกลางคืน ก็มีแสงสว่างพัดลมแล้วก็นอน ก็มองภาพไม่ออกว่าทำไมต้องมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แถมต้องมาใช้เนื้อที่ของชาวต่างจังหวัดอีกโดยคนกรุงบอกว่าต้องเสียสละเลยงงกันไปใหญ่ เพราะปัจจุบันคนต่างจังหวัดก็เจอน้ำท่วมไม่มีไฟฟ้าใช้ครับ พอเห็นภาพไหมครับว่าประเทศไทยมักมองว่าเป็นกรุงเทพเสมอ แล้วพอมีอะไรก็โยนให้คนต่างจังหวัดเสียสละ จริงๆ แล้วถ้าพัฒนาให้ต่างจังหวัดเจริญบ้างเขาคงจะรู้ว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์สำคัญ อย่างไร ใครล่ะไม่ได้รับผลประโยชน์บ้าง จากคุณ : มองอีกมุม เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 14:06:43 A:202.151.7.23 X: TicketID:280855

ความคิดเห็นที่ 44 #43 อันนี้แหละปัญหาที่ผมสงสัยมาตลอด เรื่องการเวนคืนที่เนี่ยค่าตอบแทนมันไม่พอหรืออย่างไร เพราะแน่นอนว่าใช้เนื้อที่มันไม่ได้ใช้ฟรีและไม่ได้ทำแบบอยู่ดีๆ อยากทำก็ทำ มันก็ต้องมีการชดเชยให้แก่ผู้เสียผลประโยชน์ ซึ่งผมงงมาตลอดว่าเมืองไทยเราชดเชยไม่พอ หรือว่าชดเชยมากเกินพอแล้วแต่ยังโดนปลุกระดมกันแน่ อย่างผมถ้ามีคนมาเวนคืนที่สร้างโรงไฟฟ้าแล้วให้ราคาสูงกว่าราคาประเมิน 20% ผมรีบยกบ้านให้เลยครับ ย้ายได้พรุ่งนี้เลย แต่ถ้าอยู่ดีๆ มายึดผมก็ไม่ยอมครับ ได้แต่สงสัยครับ ไม่เคยได้รับคำตอบ จากคุณ : Mariel เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 15:27:33

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้ากั้นทะเล แล้วใช้พลังงานจาก น้ำขึ้น น้ำลงได้ น่าจะดี จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 15:29:14

ความคิดเห็นที่ 46 เรื่องพลังงานหมุนเวียนนี่น่่าสนใจมาก ขอบคุณค่ะที่อุตส่าห์หาข้อมูลและพิมพ์ให้อ่านกัน จากคุณ : groundtruth เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 15:55:03

ความคิดเห็นที่ 47 คือที่ชาวบ้านประท้วงกันเนี่ยมันไม่ใช่เพราะเค้าไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสร้าง แต่มีคนไปปั่นหัวเค้าว่ามันไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ จะทำให้เกิดไอ้นั่นไอ้นี่ ยกตัวอย่างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ภาคใต้  กลุ่มคนที่ประท้วงชูโรงด้วยเรื่องมลพิษมีคนไปสัมภาษณ์เด็กๆในหมู่บ้านเด็กๆตอบได้หมดกระบวนการมันเป็นไงให้มลพิษออกมาอะไรบ้าง ออกมาอย่างละเท่าไหร่ คนเรียนวิศวไฟฟ้าโดยตรงยังอายเด็กอายุไม่ถึง15 รู้ขนาดนี้เพราะเค้าศึกษาแล้วคิดว่ามันไม่ดีจริงๆหรือมีคนไปปั่นหัวไปให้ข้อมูลผิดๆกันแน่ แล้วที่บอกว่าถ้าไม่มีไฟฟ้าใช้คนต่างจังหวัดไม่เดือดร้อนนี่คิดว่าจริงเหรอ ถ้าพลังงานไฟฟ้าสำรองในประเทศต่ำกว่าเกณฑ์ บริษัทต่างๆจะไม่ลงทุนเพราะไม่มีความมั่นคงทางพลังงาน และถ้าพลังงานไฟฟ้าต่ำมากๆจนเกิดเหตุไฟดับไอ้ที่มีอยู่ก็ถอนการผลิตไปประเทศอื่น(เพราะไฟดับไปหนึ่งชั่วโมงเสียหายหลายร้อยล้านเค้าไม่มาเสี่ยงหรอก)ทีนี้ที่จะตามมาคือคนตกงาน ปัญหาความยากจน และอีกหลายๆอย่าง   และถ้าเกิดเหตุไฟดับทั้งประเทศเหมือนสมัยก่อนที่ปริมาณไฟฟ้าไม่พอใช้ไฟดับซักสามสี่ชั่วโมงก็เกิดจราจลแล้วครับไม่ต้องถึงวันหรอกปล้นสะดม จราจลต่างๆเพียบ ลองคิดดูว่าผลเสียจากการขาดแคลนพลังงานเยอะขนาดไหน ถึงที่บ้านไม่ใช้ไฟฟ้ามีอาชีพจับปลามาขายถ้าต่างชาติไม่เข้ามาลงทุนเศรษกิจทรุดปัญหาว่างงาน คนไม่มีเงินแล้วคิดว่าจะขายปลาให้ใครได้ นี่แค่ยกตัวอย่างเพราะฉนั้นอย่าลอยตัวเหนือปัญหาเพราะถ้าเกิดขึ้นมาจริงๆไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบหมด จากคุณ : ไฟข้างทาง เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 16:16:58

ความคิดเห็นที่ 48 ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ ไม่ใช่ไม่เอาเพราะเข้าใจว่าไม่ดี แต่เป็นไม่เอาเพราะคนอื่นบอกว่าไม่ดี ป่วยย จากคุณ : erkDaZe เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 07:58:40

ความคิดเห็นที่ 49 หึหึ โฆษณาปตท.บอกให้พอเพียงแล้วจะพบความสุข แต่บริษัทท่านกำไรเป็นหมื่นๆล้าน ราคาน้ำมันก็ยังจะขึ้นเอาๆ ทำไมไม่พอเพียงเอากำไรแค่ปีละไหลักพันล้านบ้าง แล้วลดราคาน้ำมันช่วยประชาชนหน่อย ขออภัยที่นอกเรื่อง แต่ดูโฆษณานี้ทีไรแล้วรู้สึกแปลกๆทุกที จากคุณ : deemakak เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 10:01:34

ความคิดเห็นที่ 50 48 อย่าเหมาดีกว่า ท่านที่ไม่เอา ส่วนมากไม่เอาแล้วไม่พูดเยอะกว่าที่ท่านระลึก ฉันว่า เราผ่านยุคน้ำมันมา กว่าจะผ่านมา สร้างมลพิษ ที่จำเป็นต้องยอมรับ(หรือไม่อาจไม่ยอมรับ) ตั้งเท่าไร ด้วยบริบทของสังคม นิวเคลียร์ก็เข้าอีหรอบเดิม ทดแทนความมักง่าย ด้วยคำว่าจำเป็น ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ความมั่นคงพลังงาน ... เสียงค้านยกขึ้น แต่โดนแขวะ เพราะคิดไม่เหมือน หาว่าไม่สร้างประโยชน์ ขวางความเจริญ ถามว่าประโยชน์ระยะสั้น...ท่านครับพิจารณาให้ดี.. ฉันว่าลองสลับสถาณการณ์กลับกัน ให้นโยบายกลายเป็นมุ่งพลังงานทดแทน.. แล้วมีผู้สนับสนุนโรงไฟฟ้าเป็นพวกต่อต้าน ไม่เอาพลังงานทดแทนแต่จะเอาโรงงานนิวเคลียร์... จะมีแนวร่วมสักเท่าไร ท่านเลิกถกเถิดว่าเทคโนโลยีนิวเคลียร์ดีกว่า.. เหตุผลข้อเดียวที่ว่าจำเป็นที่ต้องมาตีฆ้องร้องกระเชิวคือ คำว่าจำเป็นต้องใช้ไฟ ถ้าจะเอาก็ชี้ให้ชัดว่าจำเป็นเพื่อใคร... จากคุณ : แอมแบด เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 10:52:13 A:203.185.69.121 X: TicketID:191178

ความคิดเห็นที่ 51 เรื่องโครงสร้างราคาน้ำมัน แนะนำให้ไปอ่านกระทู้ห้องรัชดาครับ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V11059753/V11059753.html สำหรับสถานการณ์พลังงานที่ผมเคย Review ไว้เมื่อต้นปี http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2011/03/X10313452/X10313452.html จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 11:01:54

ความคิดเห็นที่ 52 ความคิดเห็นที่ 9 มันเป็นพลังงานไฟฟ้าไม่ใช่เหลอครับ อ้าวไม่ใช่เหลอ :) จากคุณ : freeseeman เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 11:25:52

ความคิดเห็นที่ 53 ความเห็นที่50 ขนาดโรงไฟฟ้าจากขยะ ที่จะสร้างที่ปทุมธานีผมก็เห็นออกมาต่อต้านกัน เลยส่งสัยว่าแล้วประเทศของเราจะเอาไฟฟ้ามาจากที่ใหน ถ้าปริมาณการใช้มีแต่เพิ่มมากขึ้นทุกๆวัน เขื่อนไม่เอา ถ่านหินไม่เอา นิวเคลียร์ไม่เอา ถ้าจากแก๊สก็จะหมดประเทศอยู่แล้ว แล้วเรากำลังต้องการอะไร ในเมื่อมีแต่ความต้องการแล้วสิ่งที่เราต้องการกำลังจะขาดแคลน ใคร่ที่ค้านก็ลองช่วยทำการบ้านแทนรัฐบาลที่ว่าสุดท้ายแล้วอะไรคือสิ่งที่ท่านเหล่านั้นต้องการ จากคุณ : Mr.Seal Man เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 12:46:40

ความคิดเห็นที่ 54 เขื่อน ไม่เอา โรงไฟฟ้า ถ่านหิน นิวเคลียร์  ขยะ แกลบ  ไม่เอา และ สุดท้าย   สายส่ง  ไม่เอา จากคุณ : น้องเอี้ยง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 14:43:07

ความคิดเห็นที่ 55 พลังงานทดแทนมีได้แต่ไม่สามารถมาเป็นพลังงานหลักของประเทศได้หรอก พลังงานแสงอาทิตย์ตอนนี้ มีราคาแพงถ้าไม่ได้ adder จากรัฐก็คงไม่มีใครมาทำ พลังงานไฟฟ้าชีวะมวลนี่มันก็มาจากการเผาไหม้เหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ มันไม่ได้ก่อให้เกิดมลภาวะเหมือนกันเหรอ ถ้าพูดถึงเรื่องซัลเฟอร์ เดียวนี้พวกโรงไฟฟ้าเค้าก็มีระบบจัดเก็บทำให้ไม่มีซัลเฟอร์ออกไปภายนอก แล้วตอนนี้พวก biomas ที่เอามาเผาไหม้ให้เกิดพลังงานนี่มันมีจำนวนน้อยและราคาแพงกว่าถ่านหิน จากคุณ : blue hawaii_paradise เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 20:00:58

ความคิดเห็นที่ 56 #55 Biomass ราคาไม่ได้แพงกว่าถ่านหินครับ มันคือของเหลือใช้ คิดราคาซากเป็น 0 ยังได้ แต่ปัญหาอยู่ที่การรวบรวมครับ ผมอธิบายเรื่องพื้นที่ต่อความต้องการไปแล้วนะครับ มันมีได้พอครับ ถ้าเห็นว่าไม่ใช่อย่างไรก็รบกวนอธิบายสมมุติฐานมาดูด้วยกันสิครับ จะได้มีประเด็นไปกันต่อ ส่วนมลภาวะ มันมีและมีได้มากกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินแถมเป็นมลภาวะประเภทเดียวกันด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 20:12:22 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 20:09:08

ความคิดเห็นที่ 57 พลังงานจากดวงอาทิตย์ที่ตกถึงพื้นโลกมีความเข้มของพลังงานที่ 1,323 W/m2 ที่ค่าสูงสุดของวัน และค่าเฉลี่ยตลอด 24 ชั่วโมงจะอยู่ที่ 248 W/m2 คิดเป็นพลังงานคือ 0.0214 กิกะจูลต่อวันต่อ ตารางเมตร การใช้พลังงานของประเทศไทยอยู่ที่ 12 ล้านกิกะจูลต่อวัน ในปี 2010 และต่อให้ขยายการใช้เป็น 2 เท่านั้นคือ 24 ล้านกิกะจูลต่อวัน ซึ่งนั่นก็คือเราต้องการพื้นที่เพียง 570 ล้านตารางเมตร หรือแค่ 3 แสนกว่าไร่เท่านั้น จากพื้นที่ 300 ล้านไร่ของประเทศไทย เรื่องพื้นที่ เรามีเหลือเฟือในแง่จะจัดมาใช้งานในส่วนนี้ และถึงแม้ ในกรณีที่เราคิดประสิทธิภาพการเก็บพลังงานนี้อาจต่ำเพียง 10% นั่นก็คือพื้นที่เพิ่มจาก 3 แสนไร่เป็น 3 ล้านไร่ ดังนั้นในแง่ของพื้นที่ประเทศกับกำลังการใช้ เรามีพื้นที่พอ และพื้นที่ไม่ใช่ข้อจำกัดของพลังงานหมุนเวียน __________________________________________ ลองคำนวณตามดูแล้ว เมื่อ   248 W/m2 คิดเป็นพลังงานคือ 0.0214 GJ/day/m2 12 ล้านกิกะจูลต่อวัน   เทียบเท่าความต้องการกำลัง   140000  MW ต้องใช้พื้นที่ ในการรับแสงแดด  561 ล้านตารางเมตร หรือ เท่ากับ 350000 ไร่ ถ้า 24 ล้านกิกะจูลต่อวัน     ก็ต้องใช้พื้นที่  700000 ไร่ ถ้า ประสิทธิภาพการเก็บพลังงานนี้อาจต่ำเพียง 10%   ต้องใช้  7  ล้านไร่ หมายเหต  ปัจจุบัน  ประเทศไทยมีพื้นที่ป่า  ประมาณ 80 ล้านไร่               จะแบ่งไปทำเขื่อนแก่งเสือเต้นประมาณ 40000 ไร่  ยังแสนยาก จากคุณ : sb*star เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 01:13:13

ความคิดเห็นที่ 58 เวรกรรม ดันลืมคูณไปซะงั้น ขอบคุณที่นำแก้ครับ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 08:47:28

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านๆอยู่ เจอภาพประกอบ WindFarm ...อัก!! ----- อยากรู้ ประสิทธิภาพ ของ พืชพลังงาน กับ พลังงานคลื่น(ทะเล) มาเทียบด้วยครับผ๊ม จากคุณ : Hoo เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 10:03:04

ความคิดเห็นที่ 60 Biomass ที่จขกท. บอกว่าเ็ป็นของเหลือใช้ ราคาซากเป็น 0 หมายความว่าอย่างไรคะ แกลบ ชานอ้อย ซังข้าวโพด ทุกอย่างมีต้นทุนนะคะ ถึงแม้โรงสีจะใช้ในการผลิตไฟฟ้าเอง ก็ต้องคิดเป็นต้นทุนเชื้อเพลิง เพราะแกลบขายได้ บัจจุบันตันละเป็นพัน  และเมื่อเทียบค่าความร้อนกับถ่านหิน ถือว่าแพงมาก จากคุณ : น้องเอี้ยง เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 12:57:35

ความคิดเห็นที่ 61 NGO อ่านตามตัวได้ว่า  โ-ง-่ จากคุณ : mrpoporo เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 15:25:16

ความคิดเห็นที่ 62 ที่Biomass มีต้นทุนเป็น0 เพราะใช้ของเหลือใช้มาเผาไฟครับเช่น ทลายปาล์มน้ำมัน ที่เค้าปล่อยทิ้งเน่าคาสวน กากมันสำปะหลังที่เค้าปบ่อยเน่าคาลานมัน และทุกๆอย่างที่ไม่มีคนเอาและติดไฟได้สามารถเอามาทำBiomassได้ทั้งหมด ตอนนี้ไม่ได้มองว่าโรงไฟฟ้าแบบไหนจะให้มลพิษได้เท่าไหร่เพราะมันมีระบบกรองและป้องกันที่ดีอยู่แล้ว แต่เราจะมองกันว่าเราจะหาพลังงานจากทางเลือกไหนมาให้ประเทศมากกว่า ผมไม่ได้บอกว่าเราจะเอาพลังงานหมุนเวียนพวกนี้มาทดแทนเป็นพลังงานหลักของประเทศ แต่พลังงานหมุนเวียนพวกนี้จะเป็นพลังงานสำรองให้กับประเทศเราควรมองหาพลังงานใหม่ๆได้แล้วไม่ใช่พึ่งแต่พลังงานจากก๊าซธรรมชาติ สำหรับตัวผมมองว่าตอนนี้เรื่องพลังงานของไทยเข้าขั้นวิกฤติเรื่องพลังงานแล้วนะครับ จากคุณ : ไฟข้างทาง เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 17:16:49

ความคิดเห็นที่ 63 ยังคิดอยู่ว่า ถ้าไฟฟ้าบ้านเราขาดแคลนมาก ให้บ้านเราดับไฟเป็นพื้นทีๆ ไปครับ สลับหมุนเวียนกันไป ถ้าลองลำบากสักนิด เราจะเห็นคุณค่าของมัน คนสมัยนี้ แค่ไม่มีเน็ทเล่น ก็จะแย่แล้วครับ จากคุณ : นะนะ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 17:25:32

ความคิดเห็นที่ 64 ราคาแกลบ ตันละพันก็คือ กิโลกรัมละบาทครับ คำนวณดูดีๆ  เทียบกันดูครับ แกลบ 1800 บาทต่อตัน ถ่านหิน 3000 บาทต่อตัน ราคาแกลบแพงเป็นความผิดปรกติ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 54 19:18:19 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 19:12:54

ความคิดเห็นที่ 65 ที่พูดมาคือหลักการทางทฤษฏีเท่านั้นครับ จากคุณ : ไนพ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 21:15:01

ความคิดเห็นที่ 66 การพิจารณาต้นทุนด้านพลังงาน ไม่ใช่พิจารณาแต่ว่ามีอย่างเดียว ต้องรู้ด้วยครับว่าคุ้มหรือไม่ เอาแค่ง่าย ๆ แกลบที่บอกว่าเป็น 0 แล้วเทียบกับถ่านหิน ต้องลองพิจรณาเทคโนโลยี ต้นทุน ค่าความร้อนต่าง ๆ ด้วย ไม่งั้นจะมองเพียงด้านเดียวครับ จากคุณ : ไนพ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 21:18:22

ความคิดเห็นที่ 67 ตอนนี้ปัญหาด้านพลังงานทดแทนของบ้านเรามีประมาณนี้นะครับ 1. ด้านพลังลม มีศักยภาพต่ำพอควร เทคโนโลยีต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งต่างประเทศเป็นลมสูง สุดท้ายก็ไม่สามารถใช้ในประเทศได้(โดยไม่ดัดแปลง) ซึ่งตอนนี้กังหันลมขนาดใหญ่ในประเทศไทยทังที่ หัวไทร เกาะล้าน ที่เชียงใหม่  พังหมดแล้วครับ  ที่หมุน ๆ ก็เป็นที่ลำตะคอง แต่อย่างว่า ตัวเมกกว่า ๆ แต่ออกแบบเมกกว่า ๆ นั้นจะได้พลังงานเต็มที่ต้องได้ลมที่ 11 เมตรต่อวินาที  แต่ลมที่นั้นมากสุดก็ 5 เมตรต่อวิเท่านั้น 2. แสงอาทิตย์ น่าจะส่งเสริมขนาดเล็ก มากกว่าขนาดใหญ่ครับ  สมมุติเมฆก้อนนึงมาบัง โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาด 5 เมก ไฟตกทันที คิดสภาพนะครับว่าโรงไฟฟ้าหายไปทันที จะเป็นอย่างไร  สมมุติสนับสนุนขนาดเล็ก แต่ตอนนี้ติดปัญหา ติดตั้งมากกว่า 5 kW ต้องเป็นโรงงาน ผังเมืองบอกว่าห้ามตั้งโรงงานในชุมชน  งั้นจบตั้งไม่ได้ (ตอนนี้ กำลังแก้กฎหมายให้ละเว้นด้านพลังงานหมุนเวัยนอยู่) แต่แสงอาทิตย์ปัจจุบัน ปิดรับซื้อไปแล้ว  (กำลังขยายการรับซื้อ) แต่ที่แน่ แน่ ใบอนุญาต ที่จะสามารถก่อสร้างได้ โดน ผู้มีอานาจทางการเมือง ครอบครองเป็นเจ้าของแล้ว จากคุณ : ไนพ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 21:31:40

ความคิดเห็นที่ 68 คุณไนพ ชีวมวลไม่ได้มีแค่แกลบ มีเหง้ามัน มีทะลายปาล์มที่หีบน้ำมันแล้ว มีเศษวัสดุอีกมาก มันมีเคสต้นทุน 0 อยู่ถ้ามีการบริหารครับ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 21:43:37

ความคิดเห็นที่ 69 3 น้ำ   เขื่อนขนาดใหญ่ ไม่มีแล้ว ต้องเขื่อนขนาดเล็ก หากจะพัฒนาต้องไปทางโรงไฟฟ้าท้ายเขื่อน หรือขนาดชุมชน 4 ชีวมวล หากรวบรวม หญ้า ฟางข้าวมาใช้ได้คงได้เพิ่มอีกเยอะครับ เพราะแกลบ ชาญอ้อย ได้ถูกนำไปใช้หมดแล้ว  ต้องหาชีวมวลชนิดใหม่ ๆ มาใช้ครับ 5 ขยะ ขยะในบ้านเรานี้ ทุกถังมีเจ้าของนะครับ  ไม่สามารถเอามาใช้ได้เลย  เอาแค่ง่าย ๆ กระทรวงพลังงานสนับสนุนให้แปรรูปเป็นพลังงาน  แต่กระทรวงสิ่งแวดล้อม ให้อบตกำจัดขยะโดยผังกลบ หากผลิตเป็นพลังงานจะไม่ได้การสนับสนุนงบประมาณ หรืออีกอย่าง ขยะเป็นของภาครัฐเอกชนไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หากต้องการลงทุนซึ่งระบบนี้ต้องมีขนาดใหญ่ ลงทุนสูงหากสูงถึง 1000 ล้าน ต้องเข้าพรบ ร่วมทุน ดำเนินการอีก 3 ปี 5 ปี ก็ไม่จบ (เอกชนจึงเลี่ยง ทำหลาย ๆ โครงการ) จากคุณ : ไนพ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 21:43:53

ความคิดเห็นที่ 70 เอทานอล ไบโอดีเซล ขนาดรัฐบาล บอกว่าส่งเสริม พลังงานหมุนเวียน แต่ลดราคา ดีเซล เบนซิน เอทานอลกับ ไบโอดีเซลจบครับ ก๊าซชีวภาพ ไม่น่ามีปัญหารอะไร เพราะช่วยสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษ กฎหมายให้โรงงานต้องบำบัด เป็นผลพลอยได้ทั้งนั้น แค่ขาดเทคโนโลยีกำกัด ซัลเฟอร์ ที่ราคาถูกเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 54 21:51:13 จากคุณ : ไนพ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 21:47:33

ความคิดเห็นที่ 71 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 21:55:14

ความคิดเห็นที่ 72 สุดท้าย ปัญหาจริง ๆ คือขาดเจ้าภาพที่เป็น"มืออาชีพ" อย่างแท้จริง  ที่จะสามารถบูรณาการให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพัฒนาเป็นวาระแห่งชาติอย่างแท้จริง ลองไปดูหน่วยงานที่รับผิดชอบดูนะครับว่าทำอะไรบ้าง จ้างแต่คนอื่นทำทั้งนั้น 5555 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 54 22:16:27 จากคุณ : ไนพ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 21:58:28

ความคิดเห็นที่ 73 คุณ Darth Prin คห 68 ขอแย้งที่ว่าต้นทุนเป็น 0 ครับ ถึงจะกล่าวว่าเป็นต้นทุนด้านเชื่อเพลิง แต่ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ ครับต้องมีค่ารวบรวม จัดเก็บ ขนส่ง แปรสภาพ ค่าเสียโอกาส โอ้ย อีกเยอะแยะครับ  ยังไงก็ต้องคิดต้นทุนทั้งนั้นครับ นี้ขนาดไม่คิดต้นทุนด้านโรงไฟฟ้าและค่าผ่านทางต่าง ๆ เลยนะครับ หากมีค่าเป็นศูนย์จริง คนที่ซื้อแกลบคงไม่พกปืนไปซื้อแกลบเพื่อป้อนโรงไฟฟ้าหรอกครับ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 54 22:50:08 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 54 22:32:03 จากคุณ : ไนพ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 22:31:18

ความคิดเห็นที่ 74 เรื่องสายส่ง สายส่งผ่านที่ท่าน มันจะมีกฏหมายรอนสิทธิ์ ของการไฟฟ้า ท่านไม่สามารถปลูกบ้าน(สิ่งก่อสร้าง)ได้ ปลูกพืชได้สูงไม่เกิน สามเมตร อ้อยปลูกไม่ได้ กลัวเผาอ้อย ค่าชดเชย หรือค่าผ่านทางก็น้อยมาก ใครไม่โดนไม่รู้ บ้านผมผ่านกลางทีดินเลย คนใช้ไฟบอกต้องเสียสละ โดนเองแล้วจะรู้ ประเด็นเรื่องมลพิษ ไปดูมาบตาพุดก่อนมั้ย คุมกันไม่อยู่ ประเด็นคือรัฐอ่อนแอ ทำไม่ได้ตามกฏหมาย แล้วจะให้ชาวบ้านเชื่อได้ไงว่า ถ้ามีโรงไฟฟ้ามาอยู่หลังบ้านแล้วจะไม่เป็นอย่างมาบตาพุด ถ้าเป็นบ้านผมผมก็ไม่เอา ไม่ได้กลัวว่าเทคโนโลยีมันกำจัดมลพิษไม่ได้ แต่กลัวทุจริตแล้วปล่อยมลพิษได้ สรุปคือ ภาครัฐนั่นแหละตัวปัญหา จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 00:26:32

ความคิดเห็นที่ 75 เอ่อเรื่องsolar thermal ไม่ใช่ว่าพอเมฆมาบังโรงไฟฟ้าปุปแล้วไฟจะตกปับนะครับ มันมีน้ำร้อนสำร้องไว้ใช้ได้ตั้งหลายวัน   ส่งเสริมพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดเล้กที่ว่าใช่ SolarPV หรือไม่ถ้าใช่มันกลายเป้นที่ตากปลาเค็มตามบ้านเรือนไปแล้ว หรือที่ใหญ่มาหน่อยก็ SolarPV fram มันก้ยังไม่ค่อยคุ้มสำหรับการลงทุนอยู่ดีครับ และต้นทุนพลังงานบางอย่างถ้ามีคนรับเอาไปเค้าก็ยินดีจะขนให้ด้วยซ้ำเพราะเค้าไม่รู้จะเอาไปทิ้งไหน ถึงแม้จะต้องขนเองแต่โรงไฟฟ้าพวกนี้ก้ต้องตั้งอยู่ในแหล่งใกล้วัตถุดิบอยู่แล้วการขนส่งไม่น่าใช่ปัญหาอาจจะบวกเข้ามาแต่ไม่มาก โรงไฟฟ้าขยะไม่ใช่ว่าเราหาขยะมาเผาไม่ได้นะครับ แต่ปัญหาคือสร้างมาแล้วชาวบ้านประท้วงไม่ให้เดินเครื่องมากกว่า จากคุณ : ไฟข้างทาง เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 01:10:08

ความคิดเห็นที่ 76 เข้ามาอ่าน จากคุณ : starjoke20 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 09:14:36

ความคิดเห็นที่ 77 เหง้ามัน  ทลายปาลม์ ต้องมีค่าใช้จ่ายในการล้างดินที่ติดเหง้่าออก  จากนั้นก็ต้องสับให้เล็ก   ตาก  ก่อนป้อนเข้าเตา นี่คือต้นทุน   ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแรง ค่าน้ำมัน  สำหรับปั้ม ค่าไฟฟ้าเครื่องสับย่อย ไม่มีทางเป็น 0  แน่นอน จากคุณ : น้องเอี้ยง เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 09:15:02

ความคิดเห็นที่ 78 #74 ผมอยากรู้มากเลยว่าค่าผ่านทางชดเชยมีเท่าไหร่ครับ ผมสงสัยนานมาก ขอรายละเอียดได้มั้ยครับ จากคุณ : Mariel เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 11:26:19

ความคิดเห็นที่ 79 ผมเคยเสนอ เรื่อง สร้างหอสูง ติดตั้งเครื่องยนต์สเตอริ่งกลางเมือง แล้วทะยอยปรับหลังคาเป็นแผ่นสะท้องแสง (กระจกเงาที่ไม่ใช่แผ่นแก้ว) เพื่อปรับมุมสะท้อนไปยังหอ กลางคืนเดินเครื่องด้วยเชื้อเพลิง กลางวันเดินเครื่องด้วยเชื้อเพลิง+ แสงอาทิตย์ กระจกเงาช่วยลดอุณภูมิของอาคาร ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศได้ส่วนหนึ่ง และพลังงานแสงที่รวมได้ที่หอยังเป็นพลังงานที่เพิ่มมาฟรี อีกส่วนหนึ่ง เท่ากับ ลด การใช้เชื้อเพลิงได้ 2 ต่อ จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 16:49:26

ความคิดเห็นที่ 80 กะลังอ่านเพลินๆทำไมถึงไปเถียงกันเรื่องต้นทุน0ไปซะได้ ไม่0ก็ไม่0แต่ถูกกว่าถ่านหินและหามาป้อนโรงไฟฟ้าได้เรื่อยๆ และมีมลพิษเหมือนถ่านหิน รวมถึงมีวิธีควบคุมมลพิษในรูปแบบเดียวกันแค่นั้นก็น่าจะพอแล้วนะครับ เฮียPrinก็ยอมๆต้นทุน1ไปเถอะครับ ^^" จบๆข้ามๆไปประเด็นสำคัญอื่นๆกันต่อกันเต๊อะ ว่าแล้วก็แว่บออกมารอทัศนากระทู้ต่อละครับ จากคุณ : Nothing at all (zeralf) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 18:28:40

ความคิดเห็นที่ 81 ก็ว่างั้นละ - -! เดี๋ยวหลงทางไปอีก เอาเป็นว่าต้นทุนทรัพยาการเกือบเป็น 0 แต่ไม่ใช่ 0 ดีไหม กรณีนี้มันก็จะไปลงที่ Economy of scale ค่าขนส่ง ยิ่งใกล้ ปริมาณมาก ยิ่งเข้าใกล้ 0 แต่ไม่ใช่ 0 ทว่าทำให้ถูกมากๆได้ถ้าเราจัดระบบกัน เข้าใจไหมเนี่ย แล้วก็ มันไม่ได้มีแค่แกลบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โอเคนะครับ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 54 20:10:12 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 20:08:54

ความคิดเห็นที่ 82 ต้นทุน 0 ไม่ใช่สาระสำคัญอะไรหรอกครับ แต่อยากให้พูดแต่ข้อเท็จจริงอะครับ เดี๋ยวบางคนจะจำไปผิด ๆ ครับ   ซึ่งปัญหาการพัฒนาพลังงานทดแทนของไทย อีกข้อที่ยังไม่ได้กล่าวถึง คือการขาดความรู้ความเข้าใจที่แท้จริงของประชาชนครับ จากคุณ : ไนพ เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 21:03:19

ความคิดเห็นที่ 83 เห็นด้วยกับ จขกท. เรื่อง ชีวมวลเป็นพลังงานทดแทนที่เปนไปได้มากที่สุดของไทย แต่อยากจะบอกว่าอย่างไรเราก็ต้องพึ่งพา fossil fuel ในอัตราที่สูงมากอยู่ดี เพราะเป็นพลังงานที่ต้นทุนถูกที่สุดในปัจจุบัน และในอีก 20 ข้างหน้า การพึ่งพาเชื้อเพลิงชนิดต่างๆ ในอนาคตของโลก หาอ่านได้ในรายงานของ IEA ได้ครับ มีการทำ projection ว่าอย่างไรการผลิตไฟฟ้าในโลก fossil fuel ก็จะเป็นสัดส่วนรวม เกือบ 70 ที่เหลือ เป็น hydro กับ nuclear อย่างละสิบกว่าเปอร์เซนต์ เหลือเป็น renewable ไม่ถึง 4% นั่นก็พราะต้นทุนนั่นเอง ที่อยากจะท้วงเพราะกลัวสังคมจะเข้าใจผิดแล้วคิดว่าพลังงานทดแทนจะเป็นทางเลือกของโรงไฟฟ้าใหม่ๆ จนปฎิเสธทางเลือกที่เป็น fossil จนไม่สามารถสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ๆ ได้ ในแผนประเทศไทย แม้จะมีการ subsidy พลังงานทดแทนปีละ 4 หมื่นล้าน ก็ยังได้พลังงานทดแทนในการผลิตไฟฟ้าได้ไม่ถึง 5% โดยกระทบกับค่า Ft ประมาณ 19 สต/หน่วย ขนาดนี้ผู้ใช้ไฟฟ้ายังบ่นเรื่องไฟฟ้าแพง ถ้าต้องทดแทนกันเป็น 10-50% แม้จะทำให้ต้นทุนพลังงานทดแทนลดลงมาบ้าง แต่ก็ไม่เพียงพอแน่นอน พลังงานทดแทนที่ทดแทน fossil fuel ได้จริงๆ โดยไม่ต้อง subsidy มากจะขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศเป็นหลัก เช่น ในบางเขตของออสเตรเลียที่มีลมพัดตลอดปี ต้นทุนไฟฟ้าจากกังหันลม เกือบจะเท่ากับ fossil fuel ได้เลย ส่วนในประเทศไทย ชีวมวลก็พอจะเป็นความหวังได้ แต่จะทำให้ทดแทน fossil fuel ได้ เป็น สิบๆ เปอร์เซนต์ น่าจะยากมาก เพราะระดับนี้ จะต้องเป็น commercial ที่เลี้ยงตัวเองได้ คือ sustainable นั่นเอง ปัจจุบันชีวมวลที่มาทำไฟฟ้าได้ ก็เป็นเศษเหลือจากการเกษตร หรือ by product ซึ่งปริมาณไม่เพียงพอ ถ้าจะให้พอก็จะต้องปลูกพืชพลังงานใช้ผลิตไฟฟ้า คราวนี้ก็ต้องไปแข่งกับพืชเศรษฐกิจตัวอื่น เช่น อ้อย มัน ยางพารา ซึ่งสภาพค่าไฟฟ้าปัจจุบัน กับ มูลค่าสินค้าเกษตร ในปัจจุบัน บอกได้ว่า พืชพลังงานไม่สามารถแข่งขันได้ ครับ สรุปคืออยากให้ประชาชนยอมรับความจริงที่ว่าไฟฟ้าเรายังต้องพึ่ง fossil fuel และนำเข้าจากต่างประเทศอีกมาก แต่ก็ต้องเปิดช่องให้มีการพัฒนาพลังงานทดแทนโดยเฉพาะชีวมวล ควบคู่ไปด้วย เรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ กับ ลม สำหรับประเทศไทย ผมเชื่อว่าไม่ใช่ทางออกของเราในระยะ 15 ปีนี้แน่ๆ เอาไว้มีเวลาจะมาถกกันว่าทำไมผมถึงคิดเช่นนี้ จากคุณ : Cyberaddict (Cyber Addict) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 00:39:45

ความคิดเห็นที่ 84 คห. 83   ถูกต้องเลยคะ และเป็นข้อเท็จจริง  ที่อยากให้ทุกคนที่พูดถึงพลังงานทดแทนเข้าใจอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่เห็นว่าบางวันแดดร้อนมาก   ทำไมถึงไม่ทำ Solar หรือแค่เห็นว่า มีแกลบ ทำไมไม่คิดทำโรงไฟฟ้าแกลบ อ้อ เดี๋ยวนี้ ตันละ 1800 แล้วนะคะ ไม่ใช่ 1000 หรือเห็นตอฟาง ซังข้าวโพด เหลือ ก็อยากให้สร้างโรงไฟฟ้า พลังงานชีวมวล เห็นด้วยว่าต้องสนันสนุน  ซึ่งก็ทำอยู่ ถ้ามันถูกจริง อย่างที่เข้าใจกัน คงไม่ต้องมี adder หรอกมั๊ง แล้วไม่ได้หลงประเด็นหรอก แต่มั่นใจว่ามันไม่ 0  เพราะอาจทำให้คนทีไม่รู้ ก็จะเข้าใจคลาดเคลื่อน จากคุณ : น้องเอี้ยง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 13:14:29

ความคิดเห็นที่ 85 จริงๆ น่าจะมีเครื่องปั่นไฟจากน้ำตกด้วยนะ เพราะน้ำตกมันตกตลอดปีตลอดชาติ จากคุณ : +Carbocat+ เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 03:07:12

ความคิดเห็นที่ 86 อยากให้ลูกหลานศึกษาเรื่องพวกนี้ไว้ เพราะต่อไปนวัตกรรมพวกนี้คงมีความสำคัญมาก ในกลียุคที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จากคุณ : tennirva เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 17:45:15

ความคิดเห็นที่ 87 พลังงานชีวมวล เคยคิดเล่นๆว่า เอาสุนัขจรจัดไม่มีประโยชน์จำนวนมาก มาขึ้นสายพานปั่นไฟขาย แลกกับค่าอาหาร เป็นอาชีพพึ่งตนเองของน้องหมา อิอิ ปล./ พลังงานหมุนเวียนยังอยู่ในความสนใจของมนุษย์เสมอมา ส่วนจะเพียงพอหรือไม่นั้น เป็นความหวังที่ต้องรอการพัฒนาต่อไป.... จากคุณ : ฝันชั้นดี เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 21:36:25