ระบบชลประทานโดยใช้ท่อในการส่งน้ำนั้นมีมาตั้งแต่สมัยสมัยสุโขทัย ซึ่งสมัยนั้นได้มีการใช้ท่อดินเผาในการส่งน้ำไปยังพื้นที่ที่ต้องการ ช่วยให้มีน้ำไว้ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคได้เป็นอย่างดี แต่แม้ระยะเวลาผ่านมาหลายร้อยปีแล้วก็ตาม การชลประทานระบบท่อยังคงมีใช้อยู่อย่างจำกัดในประเทศไทย
เดิมทีการพัฒนาระบบชลประทานในประเทศไทย เรามักจะพบเห็นการส่ง้ำระบบคลองเปิดเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีข้อดีที่สำคัญ ราคาถูก ก่อสร้างได้ง่าย และบำรุงรักษาง่าย ตราบจนปัจจุบันระบบชลประทานแบบคลองเปิดนี้ก็ยังมีบทบาทสำคัญในการเกษตรของเมืองไทยอย่างขาดไม่ได้
ในยุคปัจจุบัน ที่โลกกำลังเผชิญปัญหาสภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนัก น้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการเพาะปลูกพืช เป็นทรัพยากรที่มีค่ายิ่ง และเป็นทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด ปัจจุบันโลกนี้มีน้ำจืดเพียง ๓ % ส่วนหนึ่งอยู่ในรูปของน้ำแข็ง ดังนั้นการเพาะปลูกในปัจจุบันจึงมีความจำเป็นที่จะต้องบริหารจัดการน้ำต้นทุนให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นหลักประกันที่สำคัญในการปลูกพืชให้ได้ผลผลิตที่ดี
การชลประทานระบบท่อนั้น มีมานานในประเทศไทย ในอดีตกรมพลังงานทดแทนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาด้านนี้โดยตรง และก็ทำประสบผลสำเร็จมาแล้วหลายโครงการ การชลประทานระบบท่อนั้นมีข้อดีที่สำคัญมากมาย ทั้งเรื่องลดการสูญเสียน้ำจากการระเหยและการรั่วซึม สามารถส่งน้ำได้ในพื้นที่ที่มีความลาดชัน เป็นลูกคลื่น สามารถส่งน้ำไปได้กระจายมากกว่าระบบคลองเปิด เกษตรกรไม่เสียพื้นที่ในการติดตั้งท่อส่งน้ำ ลอข้อพิพาทระหว่างรัฐและเจ้าของพื้นที่ สะดวกในการใช้น้ำ สามารถติดตั้งมิเตอร์วัดน้ำได้ เป็นต้น ซึ่งทำให้การชลประทานระบบท่อได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน
จากคุณ |
:
ผมเอง (ฟ้าสีหมอก)
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ก.ย. 54 23:33:19
|
|
|
|