อนาคตหนึ่งแสนปี
ในที่สุดเชื้อสายของเราก็มาถึงจุดที่บริสุทธิ์อย่างที่สุด ยีนที่ชอบแหกกฎถูกกำจัดออกไปจนหมดสิ้น
เราดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างเป็นระเบียบ ภารกิจอันยาวนานได้สิ้นสุดลงแล้ว น้อยคนนักที่จะได้ล่วงรู้
ว่าเรามาอยู่ ณ จุดนี้ได้อย่างไร ข้อมูลที่ไม่ค่อยจะสง่างามเท่าไรนักในอดีต จำเป็นจะต้องถูกปกปิด ถูกฝังทิ้งไปตลอดกาล
ทุกสิ่งทุกอย่างสงบสุขเรียบร้อยดี ราบรื่น สวยงาม วิถีชีวิตดำเนินไปตามความปรารถนา อย่างมีความสุข
สงสัยแล้วใช่ไหมละ ว่าหน้าตามันเป็นเช่นไร มันดูเหมือนจะอิสระ เป็นอมตะ ไร้ซึ่งสิ่งพันธนาการใดๆ ทั้งปวง
ตราบเท่าที่ทุกคนยังคงสงบเสงี่ยมอยู่บนกฎพื้นฐานง่ายๆ ซึ่งแทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ เลย
เพราะมันฝังอยู่ในสายเลือดของเราแล้วทุกคน แม้ว่าความช่างสงสัย ที่อยู่คู่กับเรามานมนานเช่นกัน
จะก่อให้เกิดคำถามขึ้นมาบ้างว่า ทำไม? จะเกิดอะไรขึ้น หากเราคนใดคนหนึ่งแหกกฎขึ้นมา ทำไมเราจึงรู้สึกภาคภูมิใจอย่างเหลือล้น
เมื่อได้อยู่ในกฎ ระเบียบ แน่นอน เราทุกคนหมกมุ่นกับความคิดนี้ได้ไม่นานเท่าไรนัก เพราะกฎ ภาระหน้าที่ที่มีอยู่
มันคอยจะย้ำเตือน และเรียกร้องเวลาจากเราไปอยู่ตลอดเวลา มันบอกว่าอย่าเสียเวลากับเรื่องนั้นอยู่เลย
จงไปทำหน้าที่ของตัวเองซะ ดูสิว่าพวกเราอิสระกันแค่ไหน ไม่ต้องสับสนๆ มันก็แค่การแลกบางสิ่งไป เพื่อให้ได้บางสิ่งกลับมา
มันคุ้มค่ามากในช่วงเวลานั้น แต่เมื่อช่วงเวลาที่สำคัญนั้นผ่านไปแล้ว เราก็แก้ไขอะไรไม่ได้ สายเลือดที่ขาดหายไป
เรากลับต้องช่วยกันสร้างมันขึ้นมาใหม่ ความท้าทาย ความท้าทายในสายเลือดที่หายไป เราต้องช่วยกันสร้างมันขึ้นมาอีกครั้ง
เพื่อเผชิญกับช่วงเวลาที่สำคัญครั้งใหม่ เพื่อเผชิญกับผู้ที่กำลังจะมาเยือน ผู้ที่วิวัฒนาการตัวเองขึ้นมาได้อย่างประหลาด
ด้วยการแข่งขัน ช่วงชิงความได้เปรียบ เหยียบย่ำพวกเดียวกันเอง ด้วยเล่ห์ด้วยกลอุบายต่างๆนาๆ
เพื่อพัฒนาไปให้ถึงจุดที่สูงสุด มนุษย์โลกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความโลภอย่างน่ากลัว.. กำลังจะมา
เราจะผสมผสานกัน ทำลายกัน หรือต่างคนต่างอยู่? “มนุษย์มีอะไรน่ากลัวหรือ? “ เทคโนโลยีของเรา
ไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือได้หรืออย่างไร “ความท้าทายในสายเลือดสำคัญอย่างไร? จะช่วยเราได้อย่างไร”
มนุษย์นั้นซับซ้อนเหลือคณนา ไม่เคยอยู่ร่วมกับเผ่าพันธุ์ใดอย่างสงบได้ มนุษย์ไม่เคยยอมที่จะหยุด
ต้องการที่จะพิสูจน์อยู่ตลอดเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างต้องอยู่ในความควบคุม สั่งได้ บงการได้ ณ เวลานี้พวกเราอ่อนแออย่างไร?
เรามีกฎที่ค้ำคอพวกเราอยู่ “รู้อยู่แล้วว่าสักวัน วันนี้จะต้องมาถึง ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ แต่ก็ยังพอจะมีเวลา
พวกเราจะดำเนินการรับมือให้ทัน “วิถีของพวกเรา ดำเนินมาอย่างถูกต้องแล้วใช่ไหมน่ะหรือ?”
ความจริงแล้วเราก็ไม่ได้ต่างไปจากมนุษย์มากมายสักเท่าไหร่เลย เราต่างไปเพียงแค่ข้อเท็จจริงบางอย่าง ถูกเลือกให้ดำเนินไปกันคนละทาง
ปัจจุบัน ค.ศ.9981 ณ ดาวโลก
ในที่สุดมนุษย์ก็ได้คนพบดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิตที่มีอารยธรรมสูง ค้นพบวิธีที่จะเข้าไปสำรวจ วิธีเดินทางไปด้วยเวลาที่ไม่นานมากนัก
แต่ทางด่วนนั้น กลับต้องใช้เวลาสร้างอันยาวนานเสียก่อน มนุษย์จึงจะสามารถใช้งาน เดินทางไปได้อย่างปลอดภัย
ระหว่างนั้นมนุษย์จึงทำได้แต่เฝ้ารวบรวมข้อมูลด้วยอุปกรณ์สำรวจไปเรื่อยๆก่อน โดยไม่สามารถนำสิ่งมีชีวิตใดๆติดไปด้วยได้เลย
มนุษย์พบว่าอารยธรรมบนดวงดาวแห่งนั้นก็กำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เกิดพฤติกรรมแปลกๆ
เกิดปรากฎการณ์การการลงโทษชาวต่างดาวด้วยกันเองเป็นจำนวนมาก ประหารบ้าง
ด้วยการแบ่งแยกให้ออกไปจากอาณานิคมและปล่อยให้ค่อยๆตายไปเองบ้าง ความผิดนั้นไม่สามารถบอกได้ชัดเจนนัก
แต่ก็เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ยิ่งมนุษย์ส่งอุปกรณ์เข้าไปสำรวจ ก็ยิ่งเกิดมีผู้กระความทำผิดอะไรสักอย่างและการลงโทษก็เกิดขึ้น
เป็นจำนวนมาก ดูหมือนจะยิ่งรุนแรง มากขึ้นๆทุกทีๆ และแล้วมนุษย์ค้นพบสาเหตุที่ทำให้เป็นเช่นนั้น
การส่งอุปกรณ์สำรวจของมนุษย์ ทำให้เกิดร่องรอยที่ส่งผลให้อารยธรรมต่างดาวอีกดวงหนึ่งที่
ลึกลับและมีวิทยาการที่สูงกว่ามากค้นพบดาวดวงนั้น เกิดการติดต่อกันขึ้น เริ่มมีการกดขี่ การแสดงอำนาจ
เกิดความต้องการที่จะครอบครองของอารยธรรมลึกลับที่สูงกว่า อารยธรรมในดาวดวงที่ด้อยกำลังถูกรุกราน
หลังจากนั้นจึงเกิดพฤติกรรมอันแปลกประหลาดอยู่หลายปี และแล้ววิทยาการและเทคโนโลยีของดาวดวงที่ด้อย
ก็เริ่มเจริญ ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร มันเริ่มสามารถต้านทานอำนาจจากดาวที่มารุกรานได้
แต่ก็ยังคงต้องต่อสู้กันต่อไปอีกเป็นเวลายาวนาน พวกนั้นรู้ดีถึงการเฝ้ามองอยู่ห่างๆ ของมนุษย์โลก
แต่ก็ไม่เคยพยายามติดต่อ สื่อสารกลับมาเลย มนุษย์โลกก็ยังคงเพียรพยายามสร้างเครื่องมือเดินทางของพวกเขาอยู่ต่อไป
แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 54 09:18:30
แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 54 09:16:30
แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 54 00:36:06
แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 54 00:34:04