ความคิดเห็นที่ 1 จากแผนที่ด้านล่างจะเห็นทะเลสาบ(lakes)มากมาย.(.บางเรื่องราวเกี่ยวกับแอนตาร์คติกาผมก็เคยโพสต์ไปบ้างแล้ว ใครที่พลาดลองตามไปดูกระทู้เก่าครับ http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2011/03/X10389080/X10389080.html จากแผนที่ด้านล่างจะเห็นทะเลสาบมากมายในแอนตาร์คติกา แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 08:50:04 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 08:43:32

ความคิดเห็นที่ 2 ***ทะเลสาบ ดอน ฮวน( Don Juan Lake) หรือบางทีเรียก บึงน้ำดอนฮวน     ( Don Juan Pond  ) เนื่องจากมีขนาดเล็ก   แต่ทะเลสาบ ดอน ฮวนได้ชื่อว่า เป็นแหล่งน้ำที่น้ำมีความเค็มมากที่สุดในโลก( The Saltiest Body of Water on Earth )  มีความเค็มมากกว่าน้ำทะเลทั่วไปถึง 18 เท่าและเค็มกว่าทะเลสาบเดดซี(Dead Sea) ที่คนรุ้จักกันทั่วโลก ถึง 8 เท่า (หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าทะเลสาบเดดซีเค็มที่สุดในโลกจริงๆแล้วไม่ใช่) จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 08:53:35

ความคิดเห็นที่ 3 ทักทายครับคุณ jayaus จากคุณ : อยากรู้เจิ๊น เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 08:54:54

ความคิดเห็นที่ 4 อรุณสวัสดิ์ตามเวลาประเทศไทยครับ คุณ jayaus จากคุณ : คุณพ่อแก้ว เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 09:03:50

ความคิดเห็นที่ 5 ชอบจังเลยครับกระทู้ที่เอาความรู้มาเผยแพร่ ในหว้ากอตอนนี้หายากมากครับ ส่วนใหญ่จะเป็นการตั้งคำถาม ซะมากกว่า หลังจากที่ Mr.Terran หายหน้าหายตาไป กระทู้แบบนี้หายากแล้วครับให้กำลังใจ จขทก ครับ จากคุณ : vars เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 09:06:56

ความคิดเห็นที่ 6 ตามมาดูค่า จากคุณ : cool_girlgang เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 09:12:18

ความคิดเห็นที่ 7 ทะเลสาบดอนฮวน ตั้งอยู่ในเขตหุบเขาอันแห้งแล้ง ที่เรียกว่า the Dry Valleys ของแอนตาร์คติกา  เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ดูแล้วไม่น่าจะมีอยู่บนโลกมนุษย์ (one of the most unearthly places on the planet.) และได้ชื่อเป็นสถานที่น่าทึ่งและมหัศจรรย์ทีสุดแห่งหนึ่งของของโลกถึงอุณหภูมิของน้ำในทะเลสาบ จะต่ำกว่า  −30 °C (−22 °F) แต่น้ำในทะเลสาบดอนฮวนไม่เคยแข็งตัวยังอยู่ในสถานะของเหลวเสมอ ( liquid state)แตกต่างไปจากพื้นที่อื่นของแอนตาร์คติกา จากภาพถ่ายมุมสูงจะเห้นว่าน้ำในทะเลสาบดอนฮวนมีสถานะ เป็นของเหลวอยู่ตลอดเวลา จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 09:12:40

ความคิดเห็นที่ 8 วันนี้มาทัน ขอปาดนิดนึงครับ จากคุณ : xevi เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 09:21:17

ความคิดเห็นที่ 9 อรุณสวัสดิ์ครับ จากคุณ : ผมเป็นภูมิคุ้มกันอาหมวยบกพร่อง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 09:27:46

ความคิดเห็นที่ 10 ทะเลสาบดอนฮวนถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 1961พบโดยนักบินสำรวจ แอนตาร์คติกา ร้อยโท ดอน โร, Lt Don Roe และร้อยโทจอห์น ฮิคกี้ Lt John Hickey  และชื่อของทะเลสาบดอนฮวนคาดว่าน่าจะมาจากการนำชื่อของผู้ค้นพบทั้งสองมารวมกัน หุบเขา Dry Valleys ที่เป็นที่ตั้งของทะเลสาบดอนฮวนนั้น  เป็นพื้นที่ คิดเป็น0.03% ของแอนตาร์คติก เ ป็นพื้นดินแห่งเดียวเท่านั้นที่ไม่มีหิมะปกคลุม ทั้งที่ ซึ่งแอนตาร์คติก มีพื้นที่ 14ล้านตารางก.ม  และมีหิมะสามารถปกคลุมหนาได้ถึง 1500 ม.- 2000 เมตร Dry valleys ถูกเปรียบเทียบว่าเป็นเขตโอเอซิสของแอนตาร์คติกา 'oasis' Antarctica  เพราะไม่มีหิมะปกคลุม เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะธารน้ำแข็งไม่สามารถไหลผ่านภูเขาหินทีอยู่รอบๆลงมาได้  ยกเว้นแต่ช่วงหน้าร้อนที่น้ำแข็งมีการละลายไหลงมาปกคลุมเป็นแผ่นบางๆ นักวิทยาศาสตร์ขณะเดินลงไปสำรวจทะเลสาบดอนฮวน ในแอนตาร์คติกา จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 09:34:51

ความคิดเห็นที่ 11 เย่ๆ วันนี้มาทันด้วย ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับกระทู้นะครับ (ชิดขวารอชม) จากคุณ : monopod เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 09:41:33

ความคิดเห็นที่ 12 แล้วในดาวเคราะห์อื่นๆ มีบึงน้ำเค็มแบบที่แอนตาร์คติกาบนหรือเปล่า? จากการสำรวจโดยทีมงาน วิจัยของนักเคมี ธรณีชีววิทยา( biogeochemists )จากมหาวิทยาลัยจอร์เจีย( the University of Georgia) ได้พบว่าบางส่วนของสารเคมี  ที่เคยถูกค้นพบมาก่อนที่ทะเลสาบดอนฮวน  เป็นตัวก่อให้เกิดไนตรัสออกไซด์ nitrous oxide, และไนตรัสออกไซด์ nitrous oxideเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้ภาวะก๊าชเรือนกระจกได้ (greenhouse gas ) และที่สำคัญกว่านั้นจากการค้นพบนี้สามารถช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับอวกาศ (space scientists)  สามารถนำไปเป็นตัวอย่าง กรณีศึกษาและทำความเข้าใจบึงน้ำเค็ม( brine pools )บนดาวอังคาร Mars ที่มีลักษณะทางระบบนิเวศวิทยาใกล้เคียงกับบึงน้ำเค็มดอนฮวนของแอนตาร์คติกามากที่สุด งานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ได้มีการตีพิมพ์เผยแพร่สู่สาธารณะเมื่อ 25 เม.ย 2010 ในวารสาร Nature geoscience แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 09:47:42 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 09:46:10

ความคิดเห็นที่ 13 เย่ มาทันถ่ายทอดสด จากคุณ : L96A1 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 09:59:32

ความคิดเห็นที่ 14 แผนที่หุบเขาแห้งแล้งDry Valleys ที่ตั้งของทะเลสาบดอนฮวน( Don Juan Lake) ซึ่งแถบนี้จะที่มีทะลสาบมากมาย.ในแอนตาร์คติกา แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 10:03:31 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 10:02:42

ความคิดเห็นที่ 15 ++++ทะเลสาบ ออร์แคนนิค(Organic Lake) ตั้งอยู่บริเวณ เนินเขาเวสท์โฟลด์( Vestfold Hills, )เขตทางภาคตะวันออกของแอนตาร์คติกา (East  Antarctica) จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 10:13:09

ความคิดเห็นที่ 16 ทะเลสาบ ออร์แคนนิค(Organic Lake)เกิดขึ้นเมื่อ 6000ปีที่แล้วซึ่งช่วงเวลานั้นระดับน้ำทะเลมีความสูง  ชื่อว่า Organic Lake (ทะเลสาบสารอินทรีย์) ตั้งขึ้นมาจากการที่มีสิ่งมีชีวิตพืชทะเลจำพวกเห็ดรา สาหร่าย (algae )ทีมีอยู่จำนวนมากมายในทะเลสาบอยู่ที่มีความลึก 7.5 ม.  และสาหร่าย(algae )นี้จะผลิตไดเมธอล ซัลไฟด์ Dimethyl Sulfided (DMS) เป็นก๊าซมีกลิ่นเหม็น (เป็น เกลือกำมะถัน(Sulfided)ทีมีส่วนประกอบด้วย Dimethyl  ), Dimethyl Sulfided เป็นไฮโดรคาบอนด์ชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ)   และเมื่อเร็วๆนี้ในปี 2011 นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดสอบน้ำในทะเลสาบ Organic Lake พบ กินไวรัสขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อเรียกว่า  virophage หรือ ตัวกินไวรัส “virus-eater” หรือนักฆ่าไวรัส “virus-killerr” เหตุที่ได้ชื่อว่าตัวกินไวรัส “virus-eater”  เพราะสิ่งมีชิวตชนิดนี้จะกินหรือ ทำลายไวรัสชนิดอื่นๆ  virophage เป็นตัวกินไวรัสขนาดใหญ่ที่เป็นสาเหตุให้พืชทะเลจำพวกเห็ดรา สาหร่าย (algae )ในทะเลสาบออร์แคนนิคเกิดการติดเชื้อ และจากการศึกษาเกี่ยวกับตัวกินไวรัสนี้ จะสามารถช่วยให้ผู้เชี่ยวชายทางด้านการแพทย์นำไปผลิตยาต่อต้านไวรัสชนิดใหม่และช่วยในการรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสในมนุษย์ ภาพขยาย virophage หรือ ตัวกินไวรัส “virus-eater”ที่ค้นพบที่ทะเลสาบออร์แคนนิค(Organic Lake)ใน แอนตาร์คติกา แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 54 18:50:38 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 54 18:43:18 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 12:24:37 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 10:35:56 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 10:31:54

ความคิดเห็นที่ 17 มาทันถ่ายทอดสด .... ชอบๆ จากคุณ : อุษาคเนย์ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 10:38:29

ความคิดเห็นที่ 18 ++++ทะเลสาบ ราดอค Radok Lake เป็นทะเลสาบชนิด meltwater lake คือน้ำในทะเลสาบมาจากการละลายของหิมะและธารน้ำแข็ง เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในทวีปแอนตาร์คติกามีความลึก  362 ม. เป็นทะเลสาบน้ำจืด ที่มีขนาดความยาวประมาณ4ไมล์ ตั้งอยูตีนเขา อรามีส( Aramis Range), ซึ่งส่วนหนึ่งของเทือกเขาปรินซ์ ชาร์ลส (Prince Charles Mountains) มีการสำรวจพบและถ่ายรูปทะเลสาบได้เป็นครั้งแรกจากทางอากาศ โดยสถาบันทดลองและวิจัยแอนตาร์คติก แห่งชาติออสเตรเลีย Australian National Antarctic Research Expeditions (ANARE)  เมื่อปี 1956และต่อมาปี1957 ก็ได้ส่งทีมงานเข้าไปสำรวจ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 10:48:46

ความคิดเห็นที่ 19 แผนที่ ทีตั้งทะเลสาบราดอค Radok Lake ในแอนตาร์ค ติกา จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 10:53:30

ความคิดเห็นที่ 20 ไวรัสกินไวรัส *o* จากคุณ : HotSmile เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 11:00:28

ความคิดเห็นที่ 21 ทะเลสาบวิด้า Vida, ตั้งอยู่ในเขตหุบเขาวิกตอเรีย(Victoria Valley)  ส่วนหนึ่งของพื้นที่ เทือกเขาแม็คเมอร์โด(Mcmurdo) อันแห้งแล้ง .ในเขต ตะวันออกของทวีปแอนตาร์กติกาเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ เดิมทีเป็นทะเลสาบก้อนน้ำแข็ง (an ice block lake) ที่มีการแช่แข็งมาเป็นเวลานาน – แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 11:12:24 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 11:09:53

ความคิดเห็นที่ 22 ทันถ่ายทอดสดด้วย จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 11:13:02

ความคิดเห็นที่ 23 ชอบกระทู้ของ จขกท ครับ ออกแนววิทยาศาสตร์ มากกว่า ต้นเองครับ และ พ.ท. นี้ ขนาดเท่าไร จากคุณ : piyabhut เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 11:23:38

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีคุณพ่อลูกอ่อนครับ^^ ขอบคุณสำหระกระทู้ดีๆน่าอ่านเช่นเคย จากคุณ : หงส์ปลายปืน เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 11:33:22

ความคิดเห็นที่ 25 – ต่อมาในปี 1995ได้มีการสำรวจด้วยคลื่นเรดาร์( radar surveys) เจาะลงไปข้างล่างในแกนน้ำแข็ง(Ice core)ของทะเลสาบวิด้า ที่ความลึก 20 เมตร (66 ฟุต) พบชั้นของเหลวที่มีรสเค็มมาก (น้ำเกลือ)เค็มกว่าน้ำทะเลถึง 7เท่า อุณหภูมิของน้ำต่ำกว่า −10°C.   เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของทะเลสาบวิด้า( Vida )ซึ่งมีการก่อตัวเป็นรูปทะเลสาบที่ไม่เหมือนทะเลสาบทั่วไป และนักวิทยาศาสตร์ ได้ศึกษาถึงความสามารถของสิ่งมีชีวิ ตและวิธีการที่จะมีชีวิตอยู่ในน้ำเกลือ ภาพถ่ายสแกนที่เรียกว่า Computed tomography (CT)  เป็นการสแกนลงไปในแกนน้ำแข็งของทะเลสาบวิด้า แสดงให้เห็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่เรียกว่าจุลินทรีย์(microbe) และการตกตะกอนที่อยู่ลึกลงไปในทะเลสาบวิด้า พวกวัตถุสิ่งมีชีวิตเล็ก(organic material  reference )จะปรากฎให้เห็นเป็นสีน้ำเงิน-ม่วง ( bluish-purple) ส่วนการตกตะกอน(sediment reference ) ในทะเลสาบจะปรากฎให้เห็นเป็นสีส้ม-แดง  (orange-red) และยังพบฟองอากาศ (Gas buble)ในแกนน้ำแข้งของ ทะเลสาบวิด้าอีกด้วย ภาพนี้มาจากการสำรวจของกลุ่ม Priscu Research Group, มหาวิทยาลัย มอนตาน่า (Montana State University at Bozeman) แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 15:41:45 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 11:39:42 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 11:36:37 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 11:33:59

ความคิดเห็นที่ 26 ทะเลสาบ Vida มีน้ำแข็ง ครอบคลุมด้านบนตลอดทั้งปี ทำให้น้ำที่อยุ่ด้านล่างถูกกักขังอยุ่ใต้แผ่นน้ำแข็งหนาตลอดเวลา และระบบนิเวศน์ของน้ำด้านล่าง แยกตัวอย่างสมบูรณ์ จากสภาพแวดล้อมอื่น ๆ เมื่อฤดูร้อนมาถึงน้ำใหม่ที่ละลายมาจากลำธารธารน้ำแข็งไม่สามารถทะลุลงไปใต้แผ่นน้ำแข็งได้จึงตกค้างอยู่ด้านบน และเมื่อเกิดการละลายก็จะไหลไปที่อื่น จากภาพเฮลิคอปเตอร์(Helicopter)ให้การสนับสนุน การสำรวจทะเลสาบวิด้าของกลุ่มสำรวจ the Priscu Research Group จากมหาวิทยาลัยมอนตาน่า(Montana State University )  ขณะนั้น อุณหภูมิ -40'C จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 11:50:01

ความคิดเห็นที่ 27 สิ่งมีชีวิตเล็กๆ(microorganism)ในทะเลสาบน้ำแข็งไวด้า Lake Vida  แอนตาร์คติกา จากภาพเลเซอร์ถ่ายขยายแบบใช้จุดรวมแสง (Laser confocal photomicrograph ) แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 15:15:18 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 11:58:21

ความคิดเห็นที่ 28 เศษเล็กๆ(Small segment) ของแกนน้ำแข็ง( ice core )จากทะเลสาบวิด้าแสดงให้เห็น สิ่งมีชีวิตเล็กๆพวกจุลินทรีย์(microbes )ตกตะกอนติดอยู่ ภาพ การสำรวจทะเลสาบวิด้าของกลุ่มสำรวจ the Priscu Research Group จากมหาวิทยาลัยมอนตาน่า(Montana State University ) จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 12:04:43

ความคิดเห็นที่ 29 ปัจจุบันนี้ องค์กรนาซ่า ได้ติดตั้งสถานีอุตุนิยมวิทยา(Meteorological Station) ไว้ บนชายฝั่งของทะเลสาบ Vida เพื่อบันทึกความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในแถบนั้น ในภาพ ลักษณะทะเลสาบไวด้าจะมีน้ำโคลนขุ่นๆ ซึ่งเป็นน้ำเค็มมีความเข้มข้นของเกลือสูงมาก( hypersaline brine) น้ำส่วนที่เห็น ลึก 1เมตร แต่ด้านล่างลงไปเป็นน้ำแข็งหนา 19 เมตร จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 12:18:02

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าจำไม่ผิด Nostoc นี่มันพวกสาหร่ายเซลล์เดียวนี่นา... จากคุณ : นาย X-MAN เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 12:18:31

ความคิดเห็นที่ 31 ค.ห 30 ขอบคุณ ครับที่มาช่วยเพิ่มเติมความรู้ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 12:29:34

ความคิดเห็นที่ 32 จากคุณ : ^__^ (เซ็งอูฐ) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 12:30:17

ความคิดเห็นที่ 33 รูปแบบจำลองของทะเลสาบวิด้า ในแอนตาร์คติกา จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 12:34:12

ความคิดเห็นที่ 34 ผมมาทันปาดด้วย! นี่ครั้งแรกเลยนะ จากคุณ : sommass เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 12:35:48

ความคิดเห็นที่ 35 ยาวไป ไม่มีโฆษณา จากคุณ : SuperTee (itCrazy) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 12:41:13

ความคิดเห็นที่ 36 ++++ทะเลสาบ บอนนี่ย์ Lake Bonney เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ตั้งอยู่ในเขตหุบเขาแม็คเมอร์โดอันแห้งแล้งDry Mcmurdo Valleys(พื้นที่นี้มีทะเลสาบมากมาย) ทะเลสาบบอนนี่ย์ มีความยาว 7 ก.ม กว้าง 900 เมตร เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติ์แก่ ศาสตราจารย์สาขาวิชาธรณีวิทยา   ศ.จ โทมัส  จอร์จ  บอนนี่ย์  (Thomas George Bonney )แห่ง มหาวิทยาลัย University College London, แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 15:33:48 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 12:42:30

ความคิดเห็นที่ 37 อีกมุมของทะเลสาบบอนนี่ย์ Lake Bonney จะมี ธารน้ำแข็ง ที่เรียกว่าน้ำตกเลือดสีแดง( blood-red waterfall) ที่ละลายไหลอย่างช้าๆลงมาจากธารน้ำแข็งเทย์เลอร์(the Taylor Glacier ) ลงสู่ทะเลสาบบอนนี่ย์ Lake Bonney.  ในเขตหุบเขาแห้งแล้งแม๊คเมอร์โด ( McMurdo Dry Valleys) แอนตาร์คติกา. เมื่อนักธรณีวิทยาค้นพบน้ำตกที่แช่แข็งครั้งแรกในปี 1911 พวกเขาคิดว่าสีแดงมาจากสิ่งมีชีวิตพวกสาหร่าย (algae )แต่ธรรมชาติที่แท้จริงของมันแล้ว มีที่มาที่ไปมากกว่านั้น จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 12:57:58

ความคิดเห็นที่ 38 ประมาณ 2 ล้านปีที่ผ่านมา ธารน้ำแข็งเทย์เลอร์( Taylor Glacier )ได้แข็งตัว  ทำให้สิ่งมีชีวิตเล็กๆที่เรียกว่าจุลินทรีย์ microbes. ตกค้างอยู่กับชั้นหนาของธารน้ำแข็ง   ธารน้ำแข็งมีความเค็มสูงมาก(very high salinity) และอุดมไปด้วยเหล็ก(iron)เลยทำให้เกิดเป็น สีแดงซึ่งเป็น ลักษณะระบบนิเวศน์โบราณ ancient ecosystem สิ่งมีชีวิตอยู่ได้โดยการเปลี่ยนสารประกอบกำมะถัน sulfur และเหล็ก iron เพื่อใช้สำหรับการเจริญเติบโต  ลักษณะของการแช่แข็งที่เกิดขึ้น คล้ายกันกับสภาพแวดล้อมในดาวอังคาร (Mars)  และดวงจันทร์ยูโรปาซึ่งเป็นบริวาร-ของดาวพฤหัส( Jupiter’s moon Europa ) แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 13:55:29 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 13:06:51 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 13:03:42

ความคิดเห็นที่ 39 สำรวจโลกกับjayaus ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Kormicsamashoon เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 13:19:37

ความคิดเห็นที่ 40 เจอเมกะตรอน ไหมครับ จากคุณ : deletenumlock เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 13:20:46

ความคิดเห็นที่ 41 ตั้งแต่ ปี2007 เป็นต้นมาทางองค์กรนาซ่า (์NASA) ได้ส่งหุ่นยนต์DEPTHX (Deep Phreatic Thermal Explorer)มาปฏิบัติการสำรวจในโครงการที่มีชื่อว่า “Endurance” มาเพื่อสำรวจปริมาณน้ำและศึกษาระบบนิเวศวิทยาของน้ำในทะเลสาบบอนนี่ย์( Lake Bonney) และโครงการนี้ถือว่า เป็นไปตามแผนการฝึกทดลองภาคปฎิบัติ และเป็นขั้นตอน ในการพัฒนาหุ่นยนต์ ก่อนที่จะมีภารกิจ ไปสำรวจมหาสมุทรใต้พื้นผิวของดวงจันทร์ยูโรปาEuropa บริวารของดาวพฤหัส(Jupiter's moon ) ในอนาคต ในภาพหุ่นยนต์สำรวจใต้น้ำลึก DEPTHX(Deep Phreatic Thermal Explorer)  ขณะฝึกซ้อมก่อนส่งไปปฎิบัติงานภาคสนาม จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 13:25:03

ความคิดเห็นที่ 42 โครงสร้างภายในของหุ่นยนต์สำรวจใต้น้ำลึกพลังความร้อน  DEPTHX (Deep Phreatic Thermal Explorer) ที่องค์กรนาซ่า ส่งไปสำรวจทะเลสาบบอนนี่ย์ ในแอนตาร์คติกา แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 13:31:39 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 13:29:49

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณ คุณjaysus ครับ #40  เจอแต่มะเขือเทศเขตร้อน ที่ทำมุมอะซิมุทกับครีบฉลามขาวที่ว่ายทวนกระแสน้ำเย็นครับ ^.^ จากคุณ : ชื่อคุณยังไม่ได้ลงทะเบียน เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 13:45:59

ความคิดเห็นที่ 44 เวลาสำรวจก็เจาะช่องทะเลสาบน้ำแข็งให้เป็นรู เเล้วหย่อนหุ่นยนต์สำรวจลงไป ในภาพการทดสอบก่อนส่งไปฎิบัติงานจริง จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 13:50:22

ความคิดเห็นที่ 45 ^ ^ มาเก็บความรู้ เอิ้กๆ จากคุณ : Khamjoy เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 13:53:25

ความคิดเห็นที่ 46 ดูท่าจะหนาวนะครับเนี่ย จากคุณ : จำง่าย ลืมยาก คิดมาก คิดไปเอง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 14:04:09

ความคิดเห็นที่ 47 +++  ทะเลสาบอุนเทอร์เซ  ( Lake Untersee) ทะเลสาบอุนเทอร์เซ ถูกค้นพบโดยคณะสำรวจแอนตาร์คติกชาวเยอรมัน ระหว่างปี 1938-1939 (the German Antarctic Expedition of 1938–39) และได้ทำการ โยน ธงนาซี ลงไปจำนวนนับโหลเพื่อแสดงเครื่องหมายว่าเป็นผู้ค้นพบ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 54 05:53:29 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 14:11:25

ความคิดเห็นที่ 48 เห็นสาหร่าย nostoc แล้วคิดถึงตอนเรียนจัง อิอิ คีร์ตั้งนาน จากคุณ : Heimdall เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 14:15:02

ความคิดเห็นที่ 49 สุดยอดห้องแห่งความรู้จริง.....ยกนิ้วให้หมดเลยครับ จากคุณ : plaphol21 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 14:15:14

ความคิดเห็นที่ 50 ทะเลสาบอุนเทอร์เซ (Lake Untersee) เป็นทะเลสาบที่มีน้ำแข็งปกคลุมอย่างถาวร กว้าง 4ไมล์ (6.5 km)ยาว 1.6 ไมล์ (2.5 km)มีความลึก 169 เมตร ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขา กรูเบอร์ (Gruber Mountains ) ในเขตแอนตาร์คติกาตะวันออก( East Antarctica) แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 54 05:52:21 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 14:15:25

ความคิดเห็นที่ 51 นักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซ่า ได้อธิบายเกี่ยวกับทะเลสาบอุนเทอร์เซ  ไว้ว่าเป็นทะเลสาบที่มีความเป็นด่างสูง(Highly alkaline),และเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ไม่เหมือนทะเลสาบทั่วๆไปบนพื้นโลก(one of the most unusual lakes on earth),จากการสำรวจพบว่าเป็นทะเลสาบที่มีตะกอนที่ทำให้เกิดก๊าชมีเธน Methane (CH4) สูงกว่าทะเลสาบอื่นใดในโลกและสูงอยู่ในระดับเดียวกับก๊าซมีเธนที่อยุ่ในดาวเคราะห์ อื่นเช่นดาวอังคาร     สิ่งมีชีวิตเล็กๆจำพวกจุลินทรีย์ (Microbial )สามารถอยู่รอดมาได้ที่ระดับลึกลงไปจากผิวหน้าของทะเลสาบ 2–6 ม. (6.6–20 ft) เป็นเวลานานกว่า 100,000 ปี จากรายงานความเปลี่ยนแปลงของอากาศที่มีสาเหตุมาจากภาวะโลกร้อนในปัจจุบันทำให้นักวิทยาศาสตร์พากันวิตกกังวลว่าจุลินทรีย์เหล่านี้อาจจะสามารถแพร่กระจายมากขึ้นในช่วงหลายทศวรรษที่จะมาถึง นักวิทยาศาสตร์เจาะน้ำแข็งดำสำรวจทะเลสาบอุนเทอร์เซ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 54 05:54:34 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 14:47:25 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 14:22:10

ความคิดเห็นที่ 52 เจ๋งอ่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ ปล.ลูกชายเป็นไงบ้างคะ จากคุณ : มะเดี่ยวสีเขียวอ่อน เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 14:26:49

ความคิดเห็นที่ 53 สวัสดีครับ คุณพ่อลูกอ่อน ^^ จากคุณ : กระป๋องด๋อย เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 14:47:17

ความคิดเห็นที่ 54 จากสภาพความเปลี่ยนแปลงของอากาศ ที่มีสาเหตุมาจากภาวะโลกร้อนในปัจจุบันทำให้นักวิทยาศาสตร์พากันวิตกกังวลว่าเมื่อไหร่ที่น้ำแข็งจากแอนตาร์ติคละลายมากขึ้น จุลินทรีย์ (Microbial )ในทะเลสาบอุนเทอร์เซ  เหล่านี้อาจจะสามารถแพร่กระจายมากขึ้นในช่วงหลายทศวรรษ ที่จะมาถึงในอนาคต ลักษณะภูมิประเทศ ที่ปรากฎให้เห็นขณะนักสำรวจ ดำลงไปใต้แผ่นน้ำแข็งทะเลสาบอุนเทอร์เซ  พบสิ่งมีชีวิตเล็กๆจำพวกจุลินทรีย์ (Microbial )สามารถอยู่รอดมาได้ที่ระดับลึกลงไปจากผิวหน้าของทะเลสาบ 2–6 ม. (6.6–20 ft) เป็นเวลานานกว่า 100,000 ปี แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 54 05:55:42 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 15:03:10 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 14:56:07

ความคิดเห็นที่ 55 เป็นอาหารสมองที่ดีมากครับ จากคุณ : นายเบียร์ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 14:56:36

ความคิดเห็นที่ 56 น่าไปชะมัดเลย จากคุณ : jubchay เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 15:10:48

ความคิดเห็นที่ 57 ต้องขออภัย ที่โพสต์ช้ามาก เนื่องจากต้องช่วยภรรยาเลี้ยงลูกไปด้วยและขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม และถามถึงลูกชาย รู้ซึ้งแล้วครับการเลี้ยงลูกไม่ง่ายเลย ตอนนี้ลูกชายน้องโบดี้ Bodhi อายุได้ 11 วันแล้ว ส่วนอาการเด็กตัวเหลืองหายแล้วครับ ที่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากผ่าคลอดก่อนกำหนดสองอาทิตย์ ตับเลยยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่  แต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้วครับ ส่วนใครอยากอ่านกระทู้เกี่ยวกับน้องโบดี้ ตามไปกระทู้นี้ครับ ที่ห้องไกลบ้าน http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H11074470/H11074470.html แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 54 05:59:21 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 15:36:23 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 15:14:27 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 15:11:07

ความคิดเห็นที่ 59 น้องโบดี้ น่าร้ากกกอ่ะ จากคุณ : อาแปะขายกล้วย เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 15:26:57

ความคิดเห็นที่ 60 รูปใน คห.57 ค้นพบที่ แอนตาร์คติกา ด้วยรึเปล่าครับ? ^____^ น่ารักมั๊กๆ จมูกโด่งมากกกกก จากคุณ : อุษาคเนย์ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 16:21:24

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆค่ะ ปล.หนูน้อยตัวเหลืองเหรอคะ ขอให้แข็งแรง เลี้ยงง่ายๆนะ ^^ จากคุณ : เขียนบนน้องพีซีแก่ๆ (CPR360J) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 16:23:33

ความคิดเห็นที่ 62 ส่วนภาพนี้เหมือนภาพต่อจิ๊กซอว์ ขนาดยักษ์(A giant jigsaw puzzle )ของหินและดินที่ถูกอากาศหนาวกัด  เกิดขึ้นที่ หุบเขาบีกอน ( Beacon Valley) ของแอนตาร์ติกา นักธรณีวิทยา เดวิด มาร์เช่นท์ (Dave Marchant) ผู้ชอบเสาะหาร่องรอยในอดีตของโลก  กล่าวถึงร่องรอยเหล่านี้เอาไว้ว่า มันแค่หลบซ่อนอยู่นั่นเอง 'They're just hidden.'" แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 17:35:31 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 16:58:49

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบบางส่วนจาก กูเกิล วิกิพีเดีย และจขกท.แปลสรุปรวบรวม มาจากเวปต่างๆด้านล่าง http://www.pbase.com/antarctic_suze/don_juan_pond http://www.nature.com/news/2011/110328/full/news.2011.188.html http://en.wikipedia.org/wiki/Radok_Lake http://en.wikipedia.org/wiki/Lake_Vida http://news.bbc.co.uk/2/hi/science/nature/2581485.stm http://en.wikipedia.org/wiki/Lake_Bonney_(Antarctica) http://www.spacedaily.com/reports/Antarctic_Lake_Robot_Probe_Sets_Sights_On_Outer_Space_999.html http://www.sciencenews.org/view/generic/id/72748/title/Antarctic_lake_hides_bizarre_ecosystem http://geology.com/press-release/don-juan-pond/ http://webecoist.com/2011/07/19/cold-comfort-7-amazing-antarctic-lakes/#respond แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 17:34:31 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 17:33:47 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 17:32:19

ความคิดเห็นที่ 65 เป็นความรู้ใหม่ที่เพิ่งรู้เลยครับขอบคุณมากครับ จากคุณ : หล่อไม่สุด เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 17:37:17

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆ ครับ ^^ จากคุณ : Ford Malmsteen เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 17:40:08

ความคิดเห็นที่ 67 ได้ความรู้มากค่ะ จากคุณ : ข้าวตังหมูหยอง เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 17:43:40

ความคิดเห็นที่ 68 แล้ว อันนี้เหมือนๆ กับ ข่าว เรื่องทะเลสาบใต้น้ำแข็ง ที่ นักวิทย์ ส่วนใหญ่ บอกว่าไำม่อยาก ลงไปสำรวจเพราะกลัวจะรบกวนระบบนิเวศ รึเปล่าครับ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 18:21:43

ความคิดเห็นที่ 69 ค.ห 68 ถูกต้องครับ ..ที่การสำรวจทะเลสาบ แอนตาร์คติกา ยังไม่คืบหน้าไปไกลเท่าที่ควร เพราะยังมี บางฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย  และการไปสำรวจ มักจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องสิ่งแวดล้อมของโลกประท้วงอยู่บ่อย....เพราะที่ผ่านมามนุษย์ไปที่ไหน ที่นั่นจะมีปัญหาเรื่องการสูญเสียความสมดุลย์ของระบบนิเวศน์ตามมา จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 18:29:40

ความคิดเห็นที่ 70 เย้ คุณเจกลับมาพร้อมกับภาระเลี้ยงลูก... ซะงั้นน่ะ ^^ จากคุณ : fingers-crossed เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 18:39:58

ความคิดเห็นที่ 71 ชอบมากเลย ขอบคุณครับ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 19:39:34

ความคิดเห็นที่ 72 ยินดีกับจ่ายอด คุณพ่อมือใหม่ด้วยครับ ขอให้น้องสุขภาพแข็งแรงนะครับ ติดตามผลงานตลอดครับ จากคุณ : พิณแคนแดนอิสาน เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 19:44:36

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆ ที่นำมาให้เสมอๆนะคะ ลูกคุณ จขกท. น่ารักมากๆ เลยค่ะ ^^ จากคุณ : Kaoru_LH เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 19:57:39

ความคิดเห็นที่ 74 ดีใจด้วยครับ ^^ จากคุณ : tclound เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 20:29:29

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆมากเลยครับคุณเจ จากคุณ : MichaelWasu เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 21:28:51

ความคิดเห็นที่ 76 ลูกชายหล่อเชียวคับ....ดีใจด้วยคับคุณพ่อคนใหม่^-^ จากคุณ : วันที่อ่อนไหว... เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 21:38:30

ความคิดเห็นที่ 77 ^/\^ จากคุณ : nasaseria เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 00:47:44

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับผม ลูกชายน่ารัก... อีกหน่อยก็หนีเที่ยวกับคุณพ่อแน่เลย อิอิอิ... จากคุณ : ton_na_999 เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 00:57:33

ความคิดเห็นที่ 79 อยากไปถ่ายรูปจังงงงงง ท่าทางอากาศจะดี ลมคงพัดเย็น ^^ จากคุณ : HR หน้ามึน เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 01:04:04 A:110.171.11.175 X: TicketID:228595

ความคิดเห็นที่ 80 สวัสดีพ่อน้องโบดี้  คุณปู่คุณย่าทางนี้คงเรียกน้อง ใบโพธิ์ หรือเปล่า จากคุณ : ฉันคนเกาหลีชื่อจนจังกู เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 04:42:44

ความคิดเห็นที่ 81 น่ากลัวว่าการเจาะน้ำแข็งที่ปกคลุมทะเลสาปเหล่านี้อยู่ โดยเฉพาะที่โดนปกคุลมตลอดเวลา เพื่อสำรวจ จะเป็นการทำลายระบบนิเวศ หรืออะก็ตามที่อยู่ภายใต้ การปกคลุมของน้ำแข็ง มาเป็นเวลานาน นับ แสนๆ ล้านๆ ปี ไปอย่างสิ้นเชิง ความอยากรู้อยากเห็นมันน่ากลัวเหมือนกัน ปล. ถ้าผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ ผมก็คงทำเหมือนกัน จากคุณ : Fiarrytan เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 07:56:50

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบคุณสำหรับเรื่องตามคำขอ  และแสดงความยินดีกับคุณพ่อด้วยครับ ผมเคยส่ง mail ให้ลูกค้า  แต่กดปุ่ม . ค้างไว้หลายร้อยตัวเลยครับ  หลับคาคีย์บอร์ด เพราะตื่นทุก 2 ชั่วโมงตามเจ้าตัวเล็กน่ะครับ จากคุณ : MagicWrap เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 11:13:38

ความคิดเห็นที่ 83 ยินดีด้วยครับคุณจ่าที่เป็นพ่อคนแล้ว เลี้ยงเด็กแรกเกิดไม่ง่ายเลย ถ้ายุ่งๆอยู่ ไม่ต้องเข้าพันทิปบ่อยๆก็ได้ครับ พักไปก่อนก็ได้ แต่ว่า แวะมาชานเรือนบ้างนะครับ จากคุณ : Freedom and Justice เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 11:33:40

ความคิดเห็นที่ 84 นาซ่าไปสำรวจ น้ำแข็งละลายเร็วขึ้นมากกว่าเดิม (20 sep 11) แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 54 13:29:28 จากคุณ : กว้างขวาง เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 13:28:08

ความคิดเห็นที่ 85 "virus-eater" น่าจะแปลเป็นไทย ให้เข้าใจง่ายๆ ว่า "ตัวกินไวรัส" นะครับ จากคุณ : Triple X เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 13:30:31 A:223.206.109.144 X: TicketID:197958

ความคิดเห็นที่ 86 น่าสนใจมากค่ะ สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบ ต้องนำไปพัฒนาจนสามารถช่วยมนุษย์ได้แน่ๆ อย่าง virus-eater เนี่ย ขอบคุณคุณจ่ายอดมากๆค่ะ เลี้ยงลูกไปด้วยนี่น่าจะเหนื่อยไม่ใช่เล่น จากคุณ : windzephyr เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 14:13:21

ความคิดเห็นที่ 87 กระทู้นี้รูปที่น่ารักสุดคือรูปในความเห็น 57 นี่เอง จากคุณ : [Radio Edit] เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 17:19:36

ความคิดเห็นที่ 88 ขอบคุณ ค.ห 85 ที่ช่วยดู   เห็นด้วยครับ...ผมขึ้นไปแก้ไขแล้วแปลว่า  ตัวกินไวรัส virus-eater  เข้าใจความหมายง่ายกว่า  ตามที่คุณแนะนำครับ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 54 18:35:27 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 54 18:34:07 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 18:32:23

ความคิดเห็นที่ 89 ขอบคุณค่ะ โชคดีจังที่วันนี้แวะมาเร็ว จากคุณ : kaws เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 54 18:48:47

ความคิดเห็นที่ 90 #47 น่าจะอ่านว่า อุนเทอร์เซ หรือ under sea เป็นภาษาเยอรมัน แปลว่าทะเลที่อยู่ข้างใต้ครับ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 54 00:04:57 จากคุณ : allclover เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 00:04:12

ความคิดเห็นที่ 91 คคห 84 นั่นมันอาร์คติคครับ อันนี้เขาพูดถึงแอนตาร์คติค อยู่ห่างกันคนละขั้วโลกกันเลยครับ จากคุณ : vandalism เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 02:40:35

ความคิดเห็นที่ 92 ค.ห 90 ขอบคุณนะครับที่ช่วยดู..เป็นภาษาเยอรมัน ออกเสียง อุนเตอร์เซ จริงๆครับ..แก้ไขตามนั้นครับ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 05:50:46

ความคิดเห็นที่ 93 เย้ๆ มาแล้ว รอมาหลายวัน ที่สำคัญ นึกว่าจะไม่ยอมโพสท์รูปเจ้าตัวเล็กให้ดูซะแล้ว     แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 54 08:49:02 จากคุณ : fuji_fancy เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 08:45:01

ความคิดเห็นที่ 94 เข้ามาอ่านครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Good will hunting เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 18:31:10

ความคิดเห็นที่ 95 น้องแย่งซีนจริงๆ น่ารักมากๆ จากคุณ : พี่เลี้ยงจำเป็น เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 20:07:12

ความคิดเห็นที่ 96 ตอนแรกว่าจะแวะเข้ามาอ่านเฉยๆ พอเห็นรูปลูกชายนี่ เอากีบไปเลยครับน่ารักๆ ฮ่ะๆๆ อยากมีลูกบ้างงง จากคุณ : periodic เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 07:58:36

ความคิดเห็นที่ 97 น้องน่ารักจังเลยค่ะ <3 จขกท ก็น่ารัก ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ จากคุณ : กินเกาเหลาไม่จ่ายตัง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 20:32:36

ความคิดเห็นที่ 98 ผมอยากทราบว่าต้องมีเงินซักเท่าไหร่ถึงจะไปเที่ยวขั้วโลกสวยๆได้ครับ อยากรู้จริงๆ จากคุณ : Casanovy_mustdie เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 00:01:57

ความคิดเห็นที่ 99 ขอบคุณที่นำความรู้มาแ่บ่งปันให้กันค่ะ จากคุณ : ปลอบขวัญ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 01:10:04