 |
ก่อนนักชกจะชกมวยต้องไหว้ครู ก่อนลิเกแสดงต้องไหว้พ่อแก่
ดังนั้นก่อนผมจะเริ่มอะไรขอกล่าวถึงกำเนิดของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ก่อนครับ
จริงๆ แล้ววิทยาศาสตร์มันก็มีมานานนม สมัยจีนคิดดินปืน เข็มทิศ กระดาษ หรือจักรวรรดิมุสลิมรวบรวมพัฒนาองค์ความรู้ต่างๆ เช่น เคมี (ใครที่เรียนเคมีคงรู้ว่า Alkaline Alcohol แม้แต่มารดาของวิชาเคมีเอง คือการเล่นแร่แปรธาตุ หรือฝรั่งเรียกว่า Alchemy ล้วนเป็นภาษาอาหรับทั้งสิ้น)
วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ที่มีการรวบรวมองค์ความรู้ มีการจัดการให้วิทยาศาสตร์แข็งแรง จนไม่โดนอิทธิพลอื่นๆ ครอบงำอีก กำเนิดในช่วงปลายเรเนซอง หรือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ บางคนเรียกช่วงเวลานี้ว่าเป็น การปฏิวัติวิทยาศาสตร์ด้วยซ้ำ บุคคลสำคัญ เ่ช่น โคเปอร์นิคัส นิวตัน กาลิเลโอ
ผมขอยกกาลิเลโอเป็นตัวอย่างแล้วกันว่าโลก ก่อนและหลังการปฏิวัติวิทยาศาสตร์เป็นอย่างไร (ส่วนตัวนะผมคิดว่ากาลิเลโอเจ๋งกว่าไอน์สไตน์อีก ไอน์สไตน์อาจจะเป็นอัจฉริยะที่ขยายกรอบความคิดของมนุษยชาิติใหม่ แต่เขาก็เกิดในยุคที่ทุกคนยอมรับทฤษฎีใหม่ๆ ไ้้ด้ หากมีเหตุผลและหลักฐานเพียงพอ ส่วนกาลิเลโอ สิ่งที่ค้นพบแค่ง่ายๆ แต่คนสมัยนั้นแทบไม่มีใครเปิดรับ)
ในสมัยก่อน "สัจธรรม" ในยุโรป และน่าจะแทบทุกที่ในโลก ถูกผูกขาดโดยศาสนา หากศาสนาตีตรารับรองแนวคิดใดๆ มันจะข้ามขั้นไม่ต้องเป็นสมมติฐาน ไม่ต้องเป็นทฤษฎี แต่กลายเป็นข้อเท็จจริงทันที ในยุคของกาลิเลโอศาสนจักรตีตรารับรองแนวคิดของอริสโตเติลว่า "โลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล" ดังนั้น ใครคิดต่างผิด อาจจะถูกเผาได้ด้วย หลักฐานอะไรแม้จะขนมาทั้งจักรวาล ข้อเท็จจริงก็คือ "โลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล" จบ ไม่ต้องพูดอะไรกันอีก นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมโคเปอร์นิคัส ถึงไม่กล้าออกมาแถลงการค้นพบของตัวเอง ต้องรอจนจะตายแล้วถึงตีพิมพ์ผลการสังเกตว่าโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์
กาลิเลโอซวย ตรงที่เขาพิมพ์ผลงานขณะยังมีชีวิต จนเกือบจะโดนศาสนจักรลงทัณฑ์ แม้เขาจะมีหลักฐานมากมายที่สนับสนุนทฤษฎีของเขาว่าโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ เขาต้องบอกว่าศาสนจักรถูกเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง
ในหนังสือเล่มหนึ่งของกาลิเลโอชื่อ Il Saggiatore มีข้อความที่จะเป็นรากฐานของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่นั่นคือ
Philosophy [i.e. physics] is written in this grand book I mean the universe which stands continually open to our gaze, but it cannot be understood unless one first learns to comprehend the language and interpret the characters in which it is written. It is written in the language of mathematics, and its characters are triangles, circles, and other geometrical figures, without which it is humanly impossible to understand a single word of it; without these, one is wandering around in a dark labyrinth.
แปลคร่าวๆ ว่า เราจะเข้าใจฟิสิกส์ของจักรวาลได้ด้วยคณิตศาสตร์เท่านั้น
กาลิเลโอได้ปลดแอกแนวความคิดที่ว่า "สัจธรรมถูกผูกขาดโดยศาสนจักร" กลายเป็นใครก็ได้ที่สังเกตธรรมชาติ คิดคำนวณหาความเกี่ยวเนื่อง ก็สามารถเข้าใจธรรมชาติได้เอง
วิธีการคิดแบบนี้ได้ถูกกลั่นกรอง และพัฒนาจนกลายเป็นกระบวนการวิทยาศาสตร์คือ
1) ระบุปัญหาจากข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เราสังเกตเห็น หรือรับรู้มาก่อนแล้ว 2) ตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับปัญหานั้นๆ 3) พยากรณ์ผล 4) ทดลองเำพื่อตรวจสอบสมมติฐาน
อ่านเพิ่มเติม http://en.wikipedia.org/wiki/Scientific_revolution
จากคุณ |
:
Geneticist
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ก.ย. 54 14:11:12
|
|
|
|
 |