ความคิดเห็นที่ 1 มีแต่กรณีที่เป็นโรคนี้แล้วจะไม่เป็นโรคนั้นได้ไหมครับ พวก Hemoglobinopathies (โรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของฮีโมโกลบิน) เช่นพวกธาลัสซีเมีย ซิกเกิลเซลล์แอนีเมีย เมื่อเป็นแล้วจะมีความทนทานต่อเชื้อมาเลเรีย พวก G6-PD เมื่อเป็นแล้วก็จะทนทานต่อเชื้อมาเลเรีย จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 14:56:41

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเป็นพวกพิษต่างๆ เช่น บริโภคเมทานอลเข้าไปในปริมาณมาก วิธีแก้คือต้องบริโภคเอทานอลเข้าไปในปริมาณมากกว่า เพราะเอนไซม์ที่เป็นตัวที่ทำให้เมทานอลเป็นพิษนั้นเป็นเอนไซม์ตัวเดียวกับที่ใช้ย่อยเอทานอล แต่มันจะชอบเอทานอลมากกว่า จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 14:59:16

ความคิดเห็นที่ 3 ท้องเสีย ต้องเอา ท้องผูกมาแก้ ความดันต่ำ ต้องเอา ความดันสูงมาแก้ จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 15:21:54

ความคิดเห็นที่ 4 #3 ท้องเสีย ผมปล่อยให้ออกเลยครับ (ปล่อยในห้องน้ำนะ) ดื่มน้ำเกลือแร่ชดเชยเอาถ้าเป็นหนักๆ อั้นไว้ไม่ดี จากคุณ : MoonGlade เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 15:32:49

ความคิดเห็นที่ 5 นึกออกในโรคง่ายๆ เช่นโรคขี้หูอุดตัน ซึ่งถ้าเป็นนานๆ อาจทำให้เป็นหนองรุนแรงถึงตายได้ ไม่มีทางหายเองได้ และปวดมากๆด้วย ดังนัั้้น เด็กๆ จึงต้องมีโรคหูน้ำหนวกมาช่วย เพียงวันเดียวเอนไซม์จากหนองในหูน้ำหนวกสามารถละุำลาย ขี้หูได้หมดจด ในขณะที่โรคหูน้ำหนวกก็ปวดและอันตรายแต่ไม่มากเท่้า และหายเองได้ เรื่องท้องผูก-ท้องเสียก็เห็นด้วย แต่ผมคิดว่ากลับกันเหมือนเรื่องหู ท้องผูก ถ้าไม่ถ่ายเลยน่าจะตาย 100 เปอร์เซนต์ แต่ท้องเสียโอกาสตายไม่เยอะ จากคุณ : polpris เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 15:36:26

ความคิดเห็นที่ 6 นึกออกอีกโรคคือ ulcerative colitis เป็นลำไส้ใหญ่อักเสบ เคยอ่านพบใน scientific american ว่ารักษาได้ โดยซื้อไข่พยาธิปากขอไปกิน (ยังไม่ใช่ standard) โดยไข่พยาธิซื้อหรือขอจากเมืองไทยนี่แหละ ผมก็เพิ่งรู้ว่ามีไข่พยาธิขายด้วย In the new study, Loke—who is now with New York University—analyzed the man's medical records prior to 2007 and personally tracked the man's health from 2007 onwards. In 2004 the man swallowed a vial of salty liquid brimming with 500 human whipworm eggs, which he obtained from a parasitologist in Thailand http://www.scientificamerican.com/article.cfm?id=helminthic-therapy-mucus จากคุณ : polpris เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 15:41:22

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นโรคหนึ่งแล้วเอาอีกโรคหนึ่งมาแก้  ไม่มีครับ จากคุณ : ย้ง (suanplu) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 16:04:02

ความคิดเห็นที่ 8 คห.6 Whipworm คือพยาธิแซ่ม้าครับ (Trichuris trichiura) พยาธิปากขอต้อง hookworm มีสองตัวหลักๆ คือ Necator americanus กับ Ancylostoma duodenale ส่วนเรื่องท้องผูกกับท้องเสีย ในฐานะที่ผมเป็นโรคท้องผูกเรื้อรังเนื่องจากเป็นลำไส้อุดตันมาแต่กำเนิดบอกได้เลยครับว่าท้องเสียดีกว่าท้องผูกครับ ท้องเสียถ้าได้รับการแมเนจดีๆ ให้น้ำและอิเลกโทรไลท์ชดเชยยังไงก็ไม่ตายครับ ท้องผูกนี่ทำให้ลำไส้แตกได้เลยนะครับอันตรายกว่ามากครับ ผมยอมเป็นแขกตี้ดีกว่าให้มันตื้ออยู่ในท้องครับ แขกตี้หาส้วมให้ได้ก็พอ ถ้ามันตื้อก็จะปวดขี้ไปทั้งวันแต่ขี้ไม่ออก เข้าห้องน้ำถี่กว่าแขกตี้อีกครับ แถมลำไส้มันจะโป่งดันให้เราปวดหลังได้ด้วย แล้วมันก็จะดันอวัยวะในช่องท้องอื่นๆด้วย แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 54 16:15:19 จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 16:06:09

ความคิดเห็นที่ 9 Whipworm จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 16:12:20

ความคิดเห็นที่ 10 หลักๆก็ สูงแก้ต่ำ หรือ แย่งจับเอนไซม์ / รีเซปเตอร์กัน หรือโรคที่มี Space ทำให้การบวม ไม่ severe มาก หรืออาการแย่ลงช้า เช่นอาการสมองบวมในคนแก่ อาจมีอาการช้ากว่าหนุ่มสาว เพราะคนแก่สมองฝ่อลง เหี่ยวลงอยู่แล้ว ปล. ท้องผูกสลับเสีย น่ากลัวกว่า จากคุณ : Mdiic~* เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 16:13:48

ความคิดเห็นที่ 11 พอ คห.10 พูดออกมาผมนึกออกเลย พวก Receptor ต่างๆในร่างกายเรากับพวกเอนไซม์ต่างๆนี่แหละ ตัวอย่างง่ายๆ เช่นการรับเคมีบำบัดเพื่อรักษามะเร็ง เซลล์ที่เจริฐได้รวดเร็วก็จะถูกทำลายเพราะยามันออกฤทธิ์ต่อการแบ่งตัวของเซลล์หรือออกฤทธิ์ที่ receptor หรือเอนไซม์ที่เกี่ยวกับการแบ่งเซลล์ ผลก็คือเซลล์ที่มันมี turnover สูง แต่ไม่ใช่มะเร็ง เช่น เซลล์ผิวหนัง เซลล์เยื่อบุลำไส้และเซลล์เม็ดเลือดขาว ก็พาลโดนฆ่าไปด้วย แต่เซลล์ที่เจริญช้าหรือไม่เจริญแล้วในชีวิตนี้แทบจะไม่มีผล ----- หรือว่าในคนที่เป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน ก็จะได้รับยาละลายลิ่มเลื่อดมา ผลข้างเคียงของคนพวกนี้คือเลือดจะออกง่ายกว่าคนปกติ เวลาก่อนผ่าตัดจะต้องให้เลิกยาก่อน ซึ่งคนไข้ที่โดนให้งดยาก็จะกระวนกระวายกับหมอมากเพราะว่ากลัวว่าผ่าเสร็จแล้วหลอดเลือดจะอุดตัน (จากประสบการณ์การนอน รพ. สามสัปดาห์ในห้องรวม) มีอีกเพียบเลยครับ ไม่หวานไหว เหอะๆ ต้องมีคนจุดประกายแฮะ จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 16:19:38

ความคิดเห็นที่ 12 ปลูกฝี จากคุณ : Autster เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 18:25:27

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนนี้มีการศึกษาอยู่ค่ะ เรื่องกินพยาธิ เพื่อรักษาภูมิแพ้ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/20425508 แล้วก็เคยมีผู้ป่วยที่เป็นทั้งโรคเอดส์ และมะเร็งเม็ดเลือด เค้าก็รักษามะเร็งโดยปลูกถ่ายไขสันหลัง ปรากฏว่าไขสันหลังที่เค้าได้รับ ผลิตเม็ดเลือดขาวที่ไม่มี CCR5 (ไม่แน่ใจชื่อ แต่ว่าเป็น chemokine receptor ที่เชื้อเอดส์ใช้จับเวลาจะเข้าเซลล์) กลายเป็นว่า หายมะเร็ง แถมหายเอดส์ด้วย จากคุณ : กวางดาวรักสันโดษ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 23:36:48